กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ เน้น ถ้าเท่ด้วยได้ก็จะดีมาก หลังจากแง้มไปแง้มมาอยู่หลายหน การจับมือกันของแบรนด์ Skater style จากฝั่ง London ‘Palace’ และแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่สายเลือก Germany ‘adidas Originals’ ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวออกมาให้ได้ชมกันสักที แม้กระแสจะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนตอน Supreme x กับ high fashion แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ดีไซน์โดยรวมของ adidas by Palace ใน Summer Collection นี้ ได้แรงบันดาลใจจากธงชาติจาก 3 ประเทศหลักฝั่งยุโรป Germany, Italy และ France โดยมีการใช้สีจาก 3 ธงชาติมาปรับใช้ในการออกแบบทั้งเสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้าแตะ เช่น โทนดำ แดง เหลือง จากเยอรมัน โทนเขียว ขาว แดง จากอิตาลี
ถือว่าเป็นการกลับมาคืนชีพอย่างแท้จริงสำหรับ Converse หลังจากปีนี้ได้เลือกเน้นโปรโมตรองเท้ารุ่น One Star พร้อมปล่อยแคมเปญสุดจี๊ด RATED ONE STAR โดยเป็นการรวมตัวของสไตล์ไอคอนชื่อดังและประสบความสำเร็จเรียกความนิยมกลับมาจนกลายเป็นรองเท้าสนีกเกอร์ที่เหล่านักสะสมต่างต้องการ หากย้อนเรื่องราวของรองเท้า One Star นั้นมีจุดเริ่มต้นในปี 1974 ที่กำเนิดจากการพัฒนารองเท้าบาสเกตบอลในรูปแบบ low-top ซึ่งเวลานั้นวัสดุที่ Converse เลือกใช้คือหนังกลับและชุดพื้นโฟม ทว่าน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะมันถูกวางขายเพียงปีเดียวเท่านั้นก่อนจะถูกยกเลิกไลน์การผลิตไป อย่างไรก็ตาม One Star ไม่เคยหายไปจากหน้าวงการรองเท้าเลย โดยมันถูกใช้เป็นตัวแทนของดนตรีกรันจ์ใน Seattle ซึ่งภาพที่ทุกคนคงน่าจะจำได้เป็นอย่างดีคือ Kurt Cobain สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ จับคู่กับรองเท้า Converse One Star สุดคูล นอกเหนือจากนี้แล้วนักสเก็ตบอร์ดหลาย ๆ คนยังชื่นชอบที่จะนำมาใช้เวลาเล่นสเก็ตจนเป็นที่มาของคำว่า Anti-Fashion แต่ถ้าจะพูดถึงเหตุการณ์สำคัญของ Converse One Star ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีกลายต้องยกให้กับการร่วมงานกันระหว่าง Tyler The Creator แร็ปเปอร์มาดกวนเจ้าของแบรนด์ GOLFWANG และเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลทางวงการแฟชั่นต่างประเทศได้กระโดดย้ายค่ายจากพันธมิตรเก่าสุดแน่นแฟ้นอย่าง Vans มาพบรักใหม่กับ
สำหรับคนที่ยังใช่แฟนพันธ์แท้ Vans ตัวจริงมากนัก แต่เริ่มจะสนใจ หรืออยากจะมี Vans ไว้สวมใส่เสริมสไตล์ Street Culture ให้แน่นขึ้น นอกจากโมเดลลวดลายปกติที่หลายคนคุ้นตากันแล้ว เราอยากแนะนำรองเท้าลายตารางหมากรุกของ Vans ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในช่วงปลายของยุค 70 บนรองเท้ารุ่น Style#48 หลังจากที่ Steve Van Doren บุตรชายของหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Vans ได้สังเกตเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังวาดลวดลายตารางหมากรุกลงบนขอบรองเท้าด้านข้าง ทาง Van Doren จึงได้ปรึกษากับทางดีไซน์เนอร์เพื่อนำลวดลายดังกล่าวมาออกแบบบนชิ้นส่วนหน้าผ้าซึ่งใช้ผ้าใบในการออกแบบ โดยที่ลวดลายดังกล่าวถูกนำมาวางจำหน่ายในช่วงสิบปีให้หลังบนรองเท้า Slip-On รุ่น Checkerboard ซึ่งรองเท้ารุ่นดังกล่าวได้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านการสวมใส่โดยตัวละครที่มีชื่อว่า Jeff Spicoli ซึ่งนำแสดงโดย ณอน เพนน์ ในภาพยนตร์เรื่อง Fast Times at Ridgemont High จนทำให้เกิดเป็นกระแสที่คนทั่วโลกให้ความสนใจกับรองเท้ารุ่นนี้ ทางดีไซน์เนอร์จึงได้คิดค้นการออกแบบลวดลายตารางหมากรุกให้มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก บนชิ้นส่วนต่างๆของรองเท้าเพื่อนำไปใช้กับรองเท้ารุ่นต่างๆ สำหรับรองเท้ารุ่น Authentic ใช้ลวดลายตารางหมากรุกที่มีขนาดต่างกันถึงสามขนาด มาออกแบบลงบนชิ้นส่วนต่างๆของตัวรองเท้า โดยการใช้ลวดลายตารางหมากรุกขนาดเล็กเป็นส่วนประกอบในบริเวณขอบด้านบนโดยรอบ ในขณะที่รุ่น Sk8-Hi และ
ทุกวันนี้เกิดกระแสของสะสมขึ้นมากมายหลากหลายรูปแบบจริงๆ ทั้งสะสมทั่วไปและสะสมเพื่อเก็งกำไร แต่สังเกตเห็นได้ชัดเลยว่ามีของสะสมอยู่แขนงนึงที่น่าสนใจไม่น้อยเลย มีการเติบโตทั้งจำนวนผู้สะสม มีความหลากหลายของตัวตน และที่สำคัญคือมีการเติบโตของราคาที่สูงทีเดียว ด้วยวัฒนธรรมของเราในอดีตอาจจะมองว่าสิ่งนี้เป็นของใช้งานไม่ได้มีคุณค่าหรือราคาอะไร แต่ในปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว โดยเฉพาะกับคนยุคใหม่นั่นคือรองเท้าผ้าใบ หรือ Sneaker เมื่อไม่นานมานี้น่าจะพอได้ยินข่าวคราวเรื่อง Sneaker จากค่ายยักษ์ใหญ่รุ่นนึงที่เกิดการผลิตผิดพลาดโดยมีการปักตัวอักษรผิดและเกิดหลุดออกมาสู่ตลาด ด้วยโชคหรืออะไรก็ไม่ทราบดันมีลูกค้าชาวไทยคนนึงซื้อไปด้วยความบังเอิญ ซึ่งโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดแบบนี้มีน้อยมาก ๆ ถ้าเป็นสมัยก่อนรองเท้าคู่นี้คงไม่มีค่าหรือราคาอะไรมากนัก ผู้ซื้อคงเสียใจและเสียอารมณ์อย่างแน่นอนหรือเลวร้ายที่สุดอาจจะเกิดการฟ้องร้องกับทางผู้ผลิตเพื่อเรียกร้องความเสียหายได้เลย แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นหน่ะสิครับ รองเท้าคู่นี้ถูกรับซื้อต่อในระยะเวลาอันรวดเร็วจากคนไทยด้วยกันที่จำนวนเงินถึงหนึ่งล้านบาท ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก”หนึ่งล้านบาท” และจากข้อมูลที่ทราบมาว่าในตลาดโลกราคาของรองเท้าคู่นี้สามารถมีราคาขึ้นไปสูงถึงสองล้านบาทเลยทีเดียว มันเป็นไปได้ยังไงกันรองเท้าคู่เดียวมีราคาเทียบเท่ารถยุโรปคุณภาพดีคันนึงเลย ที่มันเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะโอกาสที่โรงงานจะผลิตชิ้นงานผิดพลาดและหลุดรอดการตรวจสอบจนถูกนำมาวางขายในตลาดนั้นต่ำมากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ฉะนั้นรองเท้าคู่นี้อาจจะมีเพียงคู่เดียวในโลกก็เป็นได้และปัจจัยหลักต่อมาคือกำลังซื้อครับ ตลาด Sneaker และ Street Fashion มีกำลังซื้อและเงินหมุนเวียนที่สูงมาก ต้องอย่าลืมนะครับว่าสิ่งของเหล่านี้มักจะถูกซื้อด้วยความชอบและอารมณ์ เรื่องเหตุและผลเป็นเรื่องรองหรือไม่มีเลยจึงทำให้ซื้อง่ายจ่ายไวจ่ายหนักนั่นเอง และแน่นอนครับผมต้องมีข้อมูลติดไม้ติดมือมาให้ผู้อ่านเพื่อเป็นแนวแทง เอ้ยแนวทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Sneaker โดยวันนี้จะพูดถึง Sneaker 5 รุ่นที่น่าจับตามองกันครับ Adidas Yeezy Boost 350 V2 Beluga 2.0 ราคา 16,000 – 18,000 บาท :
จบสิ้นการรอคอยที่แสนยาวนาน วันนี้การร่วมมือกันของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านดีไซน์สวีเดน ‘Ikea’ กับ LA-based Streetwears Designer เจ้าของแบรนด์ STAMPD ‘Chris Stamp’ ก็ได้ฤกษ์ดี เปิดตัว ‘SPANST Limited Edition Collection’ ที่หมายมั่นปั้นมือออกมาสักที ซึ่งนี่ถือเป็นการก้าวข้าม comfort zone เดิมของ Ikea สู่เส้นทางสาย Street Lifestyle & Culture อย่างยอดเยี่ยม เพราะนอกจาก Furniture เท่ ๆ ที่ดูจะจับกลุ่มนัก Skateboard แล้ว ยังมีของแต่งบ้าน, Accessories และ Fashion Items สุดหล่อออกมาขายอย่างครบถ้วน ใครกำลังมีแผนจะแต่งบ้านใหม่ อยากได้อะไรที่เท่ ดิบ สะท้อนไลฟ์สไตล์ชาว Street ล่ะก็ ไม่ต้องคิดเยอะให้ปวดสมองอีกต่อไป เอาทุกชิ้นใน Collection นี้ไปวางได้เลย ยังไงก็ออกมาเท่แน่นอน Chris Stamp เป็น fashion designer ชื่อดัง
หากพูดถึงร้านสเก็ตบอร์ดที่เป็นตำนานในบ้านเรา ต้องมีชื่อ Preduce Skate Shop อยู่ในนั้นแน่นอน ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นรวมถึงแผ่นกระดานสเก็ตบอร์ด (deck) จุดหมายปลายทางของเหล่า sk8er boy ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเฟื่องฟูอย่างมากในยุคที่ Nike SB เป็นรองเท้าแรร์ไอเทม แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ร้านของพวกเขาอยู่ยงคงกระพัน เพราะความเจ๋งของ Preduce คือคาแรกเตอร์สุดชัดเจนที่ไม่เคยเอนเอียงไปตามกระแสโลก กระแสยี่ห้อไหนจะเด่นหรือดัง ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับสเก็ตบอร์ด ก็ไม่มีทางที่จะได้เห็นวางอยู่ในร้านอย่างแน่นอน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Preduce Skate Shop ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำ Selected เสื้อผ้าเจ๋ง ๆ ภายในร้าน Preduce ว่ามีไอเทมไหนเหมาะจะกลายเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ในตู้เสื้อผ้าของคุณ ซึ่งนับว่าโชคดีอย่างมากสำหรับการมาเยือนร้าน Preduce ในวันนี้ เนื่องจาก คุณ เต๋า กิจพูลลาภ โปรสเก็ตทีม Preduce แถมยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน Preduce ได้ให้เกียรติพาชมร้านด้วยตนเอง พร้อมเล่าถึงที่มาของร้านอย่างเป็นกันเอง จุดเริ่มต้นของ Preduce “ถ้าพูดถึงทีม Preduce เรารวมตัวกันมาร่วม 20 ปีแล้ว
ยังคงวนเวียนอยู่ในเรื่องของแฟชั่นที่มีกลิ่นอายมาจากสเก็ตบอร์ด เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด จนแยกแทบจะไม่ออกด้วยซ้ำว่าไอเท็มชิ้นไหนมีที่มาจากวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด แต่สำหรับคนที่เริ่มหลงใหลอาจเสพแฟชั่นการแต่งตัวให้ลึกแบบตัวจริง เราคงจะต้องศึกษาถึงแก่นโดยการไปส่องสไตล์สเก็ตเตอร์บอยจากเหล่าโปรมืออาชีพตัวจริงว่าใครมีลุคสุดเฉียบคูลจนชาว UNLOCKMEN ควรนำไปเป็นแบบอย่างตามบ้าง Riley Hawk ลูกชายของสุดยอดโปรสเก็ตบอร์ด Tony Hawk ที่มีวิญญาณความเป็นสเก็ตเตอร์อย่างเต็มตัว ซึ่งแม้ว่าเส้นทางของ Riley อาจจะไม่ได้สวยหรูและประสบความสำเร็จเฉกเช่น Tony ผู้เป็นพ่อ แต่สไตล์การแต่งตัวของเขารับรองว่ากินขาดแน่นอน โดยเขาจะมีความเซอร์ดิบ ๆ แบบอเมริกัน สเก็ตเตอร์ มักจะสวมเสื้อวินเทจหรือไม่ก็ลาย tartan จับคู่กับกางเกงยีนส์ง่าย ๆ แต่ดูคูลไม่ธรรมดาเลยทีเดียว Instagram : rileyhawk Curren Caples จัดว่าเป็น Style God ของชาวสเก็ตบอร์ด เพราะไม่ว่าชายคนนี้จะสวมเสื้ออะไรล้วนดูดีไปหมด ลุคที่เรามักจะได้เห็นหนุ่มผมสวยผิวแทนคือมินิมอลสเก็ตเตอร์ เขาไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้ากราฟฟิคลวดลายเยอะเหมือนคนอื่น ของแค่เสื้อเรียบ ๆ กับกางเกงยีนส์ และรองเท้า Vans สักคู่ก็ทำให้ Curren Caples เท่เหนือใครไม่ยากแล้ว Instagram : currencaples Lucien Clake
13 – 15 เมษายน วันสงกรานต์และปีใหม่ไทยที่รู้กันดีว่าโคตรชุ่มฉ่ำชื้นแฉะ มาพร้อมกับ Activity สนุก ๆ กับความเปียกของการเล่นน้ำดับร้อนหลายรูปแบบให้ออกไปลุย แน่นอนว่าผู้ชายคงหลายคนคงจะเลือกรองเท้าผ้าใบคู่ใจไปปะแป้งสาว ๆ เพราะมันช่วยให้เราเดินเฟี้ยวได้แบบเต็มที่มากกว่าคีบแตะไปเสี่ยงเตะขวดและโดนเหยียบเท้าเป็นไหน ๆ หรือแม้จะไม่ได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์ก็ตามด้วยสภาพพื้นถนนที่แสนจะสกปรกผลพวงจากการเล่นน้ำทำให้เป็นไปได้ว่ารองเท้าคู่เก่งของคุณอาจจะเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนจาก น้ำ โคลน และแป้ง ในสภาพแห้งกรอบยับจนจำสภาพเดิมไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ต่อไปนี้เราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ ทุกคนต้องเคยต้องประสบพบเจอคือการเข้าไปค้น Google หาวิธีดูแลรักษารองเท้าขาวที่ยับเยินเหมือนผ่านสงครามโลกมา พร้อมเจอสารพัดร้อยแปดวิธีโดยพอนำไปทำตามกลับพบว่าสภาพรองเท้ายิ่งเหลืองอ๋อยจนจำเค้าโครงแทบจะไม่ได้เลย ดังนั้นเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาให้ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะวันนี้ UNLOCKMEN ไปถามกูรูการดูแลวิธีรักษารองเท้าสีขาวที่ถูกต้องจากมืออาชีพอย่างร้าน SEEK Thailand ที่จะมาสอนการทำความสะอาดและป้องกันรองเท้าผ้าใบทั้ง 4 วัสดุหลักที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปจากรองเท้าผ้าใบมาฝาก ไม่ว่าจะเป็น Knit , Mesh , Canvas หรือ Leather ซึ่งพออ่านจบนี้รับรองว่ารองเท้าของคุณจะขาวสว่างตราบนานเท่านาน 1. Knit ( ผ้าถัก) Mesh ( ผ้าตาข่าย ) สาเหตุที่นำสองวัสดุนี้มาไว้ในหัวข้อเดียวกัน เพราะทั้งคู่มีวิธีทำความสะอาดเหมือนกัน
เรายังคงวนเวียนอยู่กับวัฒนธรรม skateboard ซึ่งในวันนี้เราจะมาถอดรหัสความเท่ ของชาว skater กันว่าพวกเขาแต่งตัวกันอย่างไร และหากอยากมีสไตล์เหมือนพวกเขา แต่ติดที่เล่นสเก็ตไม่เป็น แต่งแล้วจะมีใครว่าอะไรหรือเปล่า? ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าคนที่แต่งตัวแบบสเก็ตบอร์ด เดิมทีมาจากรากเหง้าของวัฒนธรรมดนตรี ดังนั้นมันจึงถูกผสมผสานด้วยกลิ่นอายของสไตล์หลายประเภทเข้าด้วยกัน แม้จะเริ่มจากการเป็นคนกลุ่มน้อย คนนอกคอกที่ออกแนวต่อต้านสังคม รักอิสระ การแต่งตัวตามความคิดของตัวเองจึงเป็นแกนไอเดียหลักสำหรับ Skateboarding Fashion ซึ่งมีความใจกว้างพอสมควร แต่ทว่าไป ๆ มา ๆ คนส่วนใหญ่กลับต้องการแต่งตัวเหมือนคนกลุ่มน้อยซะงั้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งแยกกีดกัน มึงมันมาทีหลัง มึงมันรุ่นเล็ก ไอ้นี่มันของปลอม และอื่น ๆ อีกมากมาย ก็แน่ล่ะ การที่คนส่วนใหญ่หันมาแย่งชิงสิ่งที่คน Skater สร้างขึ้นมา ย่อมสร้างความไม่พอใจบ้างอยู่แล้ว แต่ถ้าเรามองไปที่จุดเริ่มต้น ความอิสระเสรีทางความคิด นั่นแปลว่าตัวสไตล์เองไม่ใช่คนใจแคบ แต่เป็นผู้คนต่างหากที่สร้างกรอบมันขึ้นมา ปัจจุบันเราก็ได้เห็น Skaterboard Brand ออกมาจับมือกับไลฟ์สไตล์แบรนด์ หรือแม้แต่ Luxury Brand ชนิดรายวัน แม้บรรดาตัวจริงรุ่นใหญ่จะไม่ค่อยพอใจ แต่เรากลับมองว่ามันคือต้นตอหลักที่สไตล์นี้ถือกำเนิดขึ้น ดังนั้นแม้เราจะไม่ได้เล่นสเก็ตบอร์ดจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปซีเรียส ขอแค่รู้สึกมั่นใจกับสไตล์ที่แต่งออกมาเท่านั้นเป็นพอ อย่าได้แคร์คนแซะคนแซว
สำหรับใครที่ยังไม่มีแผนจะเดินทางไปไหนในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ ทีมงาน UNLOCKMEN มีช่องทางลัดหาเงินด่วนมาแนะนำคือการไปแคมป์รองเท้าพร้อมรอกดออนไลน์ เนื่องจากในวันที่ 14 เมษายนนี้จะมีสนีกเกอร์รุ่นโหด ๆ ที่สายคอลเลคเตอร์ต้องตกตะลึงวางจำหน่ายพร้อมกันถึง 4 รุ่นด้วยกัน หรือถ้าคุณสายสะสมต้องบอกว่าห้ามพลาด เพราะแต่ละคู่ที่กำลังจะวางขายล้วนโหดจนจิ้มไม่ถูกอยากจะคว้ามาไว้เสียแทบทุกคู่ #1 โดยคู่แรกจะเป็นการเปิดตัวรองเท้ารุ่น Air Jordan III “Free Throw Line” ซึ่งถือเป็นการครบรอบ 30 ปีของแบรนด์ ที่สำคัญโมเดล III ยังจัดว่าเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับสายนักสะสม เพราะมันมีเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าเป็นรองเท้าคู่ที่ทำให้ราชาดังค์ Michael Jordan สามารถคว้าแชมป์ Slamdunk Contest สมัยแรกได้ สำหรับหน้าตาของรองเท้าคู่นี้ หลายคนที่เป็นแฟน Jordan อาจจะสงสัยว่าทำไมมันช่างคล้ายกับรุ่น White/Cement เสียเหลือเกิน ไม่ต้องตกใจไปเพราะมันคือรุ่นเดียวเพียงแต่แบรนด์ได้ทำการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย ๆ เพื่อสื่อถึงการเฉลิมฉลองการคว้าแชมป์ของ Michael Jordan ไม่ว่าจะเป็นบริเวณลิ้นรองเท้าที่ใส่ตัวเลข 147 หรือสกอร์รวมการดังค์สามครั้งของ MJ รวมไปถึงบริเวณส้นเท้าที่จะมีปริ้นเลข 3.51 หรือเวลาที่ Jordan กำลังค้างตัว air
ในวาระพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งในปีนี้ ทาง Mido นำเสนอความพิเศษโดดเด่นของเรือนเวลาผ่านทางนาฬิการุ่นที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์และผ่านการพิสูจน์ถึงความคลาสสิคมาแล้วผ่านทางระยะเวลาแห่งการทำตลาดที่ยาวนานมากกว่าครึ่งศตวรรษ และด้วยโดดเด่นที่มีความแตกต่างออกไป ทำให้ Commander Shade กลายเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างดีเมื่อมีการอวดโฉมด้วยหน้าปัดใหม่ ที่ถูกจัดวางอยู่บนตัวเรือนทรงดั้งเดิมที่เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี 1959 ตัวนาฬิกามาพร้อมกับตัวเรือนแบบชิ้นเดียว (Monocase) ทรงกลมพร้อมด้วยแนวทางการออกแบบที่ฉีกแนวและเปิดกว้างทางความคิด และด้วยการได้รับอิทธิพลโดยตรงกับรุ่นที่เปิดตัวในปี 1979 หน้าปัดสีรมควันถูกขัดซาตินเป็นลายซันเรย์ สามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ได้เป็นอย่างดี และจากการเลือกใช้การตกแต่งในแบบทูโทนด้วยโทนสีดำ-เงินในทุกรายละเอียด ทำให้ Commander Shade เป็นเรือนเวลาที่มีความโดดเด่นและชวนให้หลงใหล โดยตัวสายเป็นแบบสายเหล็กถัก Milanese พร้อมกับขัดแต่งด้วยลายซาติน ช่วยทำให้สวมใส่สบายและแนบไปกับข้อมือ และสำหรับการสดุดีต่อจิตวิญญาณของการออกแบบนาฬิกาในยุคทศวรรษที่ 1970 ตัว Commander Shade ถือเป็นอีกตำนานที่จะได้รับการตอบรับจากผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาที่มีรูปแบบโดดเด่นไม่เหมือนใคร และมีดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่แตกต่างจากหอไอเฟลที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส ตัวเรือนแบบทรงกลมและผลิตจากเหล็กคือเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่น Commander และเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็นึกถึงและทราบได้ทันทีแม้ว่าจะมองแบบผ่านๆ และด้วยโครงสร้างของตัวนาฬิกาที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร Commander ยืนหยัดและท้าทายกาลเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง โดยที่ยังคงสัมผัสและความรู้สึกถึงความเยาว์วัยและพลังแห่งวัยหนุ่ม-สาวได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้คือ การที่ Commander เป็นนาฬิกาเพียงคอลเล็กชั่นเดียวของ Mido ที่ยังมีการผลิตและทำตลาดอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1959 และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบๆ 6 ทศวรรษแล้ว
ด้วยความเชื่อ “แฟชั่นมีชีวิต ไม่มีวันหยุดนิ่ง ไม่มีที่สิ้นสุด และไร้รูปแบบ” เป็นแรงขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มาประดับวงการแฟชั่นโลก เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น การแข่งขันก็รุนแรงและรวดเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ หลายแบรนด์ถอดใจไปกลางทาง แต่หนึ่งแบรนด์สัญชาติไทย อย่าง “Jaspal“ (ยัสปาล) ยังคงฝ่าฟันจนสามารถยืนหยัดเคียงคู่ความสำเร็จยาวนานถึง 46 ปี ด้วยเพราะไม่เคยหยุดรีเฟรชตัวเองให้ทันเทรนด์โลกเสมอ จนปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นโลกอย่างน่าภูมิใจ โดยล่าสุดขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ร่วม Collaboration กับดีไซเนอร์ระดับโกลเบิล “Karl Lagerfeld” (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) สร้างสรรค์คอลเลกชั่นสุดพิเศษแห่งปี ภายใต้ชื่อ “Karl Lagerfeld for Jaspal” เอาใจแฟชั่นนิสต้าผสานกับความชิคสไตล์ใหม่ ตอบโจทย์เออร์เบิร์นไลฟ์สไตล์แบบตรงใจ หากย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของ บริษัท ยัสปาล จำกัด อายุยาวนานถึง 4 ชั่วอายุคน เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2490 โดย ยัสปาล ซิงค์ ชาวอินเดียเดินทางเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำมาหากินด้วยความมุ่งมั่นอดทนจนสามารถตั้งรกรากและสร้างครอบครัวเป็นปึกแผ่น และเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินไทย ด้วยความช่างสังเกตและหัวการค้าทำให้ติดต่อค้าขายผ้าขนหนูจากอเมริกามาในประเทศไทย นำเข้าแบรนด์ที่ชาวอเมริกันนิยมเข้ามาจำหน่าย ต่อมาขยายไปเป็นสินค้าเครื่องนอน จนมีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง ภายใต้แบรนด์