ในวันที่เมืองใหญ่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยคนหลากหลายรุ่น หลายหลากวัย แต่ดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะกลายเป็นขุมพลังงานสำคัญในการขับเคลื่อนสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะพลังความคิดสร้างสรรค์ที่คนรุ่นใหม่เปรียบได้กับตัวแทนแห่งการกล้าคิด กล้าแตกต่าง และกล้าที่จะเป็นตัวเอง การได้เป็นตัวของตัวเองในสายตาคนรุ่นใหม่จึงไม่ต่างจากการปลดล็อกจากกรอบความคิดเดิม ๆ พื้นที่อยู่อาศัยที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่จึงเป็นที่อยู่อาศัยที่คนรุ่นใหม่ต่างฝันถึง บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จึงเตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อยกระดับแบรนด์ ASPIRE คอนโดระดับพรีเมียมที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น ผ่านแคมเปญออนไลน์ ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ร่วมกับ 6 YouTubers ตัวแทนคนรุ่นใหม่เพื่อทำให้เห็นว่าทุกคนสามารถใส่ความเป็นตัวเองลงไปในพื้นที่อยู่อาศัยอย่าง Aspire คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 6 ทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ ได้ ที่สำคัญพื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบของคนรุ่นใหม่ได้ นับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่พิถีพิถัน และเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตได้ครบจบในที่เดียว ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ภายใต้นิยามของคำว่า A.S.P.I.R.E. ซึ่งถูกแตกแนวคิดผ่าน 6 คอนเซ็ปต์ ได้แก่ Active, Social, Perspective, Inspire, Reliability และ Enjoying จึงเป็นตัวแทนพื้นที่อยู่อาศัยของตัวตนคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ACTIVE : Aspire
Noble เดินหน้ารุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูง ปั้นแบรนด์ลักชัวรี่ใหม่ “Noble STATE 39” บนทำเลสุขุมวิท 39 ใกล้ The Em District เพียง 450 เมตร จาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ การเปิดตัวคอนโดฯใหม่ในครั้งนี้ มาพร้อมกับการออกแบบ Smart Living Design เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และคุณภาพของการอยู่อาศัยระยะยาว ในราคาเริ่มต้นเพียง 255,000 บ./ตร.ม.* จากความสำเร็จที่ผ่านมาในการเปิดตัวโครงการของโนเบิลฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทางบริษัทฯ จึงได้พัฒนาโครงการ “ Noble STATE 39 ” (โนเบิล สเตท 39) คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดใจกลางสุขุมวิท 39 ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท ภายใต้คอนเซปต์ “ รื้อชีวิตแพทเทิร์นเดิม เริ่มใหม่ที่สุขุมวิท 39” โดยสิ่งที่โนเบิลฯ ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือการเลือกพัฒนาโครงการบนทำเลศักยภาพ และสุขุมวิท 39 ก็ถือว่าเป็นซอยที่มีศักยภาพที่สุดซอยหนึ่งในสุขุมวิท
สมัครยิมมันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สุขภาพดี หนุ่มเมืองอย่างเรารู้ดี เพราะความเป็นจริงเราใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีต่อวันภายในพื้นที่จำกัดก็สามารถออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพได้ถ้าทำได้อย่างถูกหลักการ เช่นเดียวกับหลายบทความที่ UNLOCKMEN นำเสนอให้ทุกคนได้ทดลองทำกัน อีกหนึ่งหลักฐานที่ออกมายืนยันข้อมูลเรื่องนี้คือข้อมูลจาก BLUE ZONE หรือสถานที่ที่คนอายุยืนที่สุดในโลกโดยนับช่วงอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไปและสามารถเฉลิมฉลองอายุครบ 100 ปี เขาอยู่กันและคนชราเหล่านั้นล้วนเป็นคนฟิต สุขภาพดี แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวาด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้ง 9 เรื่องนี้ ซึ่งไม่มีเรื่องไหนเป็นการโหมออกกำลังกายสักนิด แต่หลายข้อในนี้มันก็เป็นแนวเดียวกับที่เราชาว UNLOCKMEN ใช้ปลดล็อกเป็นไลฟ์สไตล์อยู่แล้ว Move Naturally : เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ ไม่ต้องวิ่งมาราธอน ไม่ต้องใช้เทรนเนอร์หรือเข้ายิม แค่ลุกไปทำโน่นทำนี่ด้วย 2 เท้ากันแบบดิบ ๆ ใช้แรงชายอย่างเราขยับกายไปทำโน่นทำนี่ก็พอ โดยเฉพาะกิจกรรมเข้าจังหวะถ้าเอาไปบวกในหัวข้อนี้ด้วย เราก็ว่าไม่ผิดความหมายอะไร Know your purpose: ตั้งเป้าหมายของทุกวันที่ลืมตา ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ผู้ชายเราเองถ้าอยากถึงเป้าหมายก็ต้องไปให้สุด Down Shift : คลายเครียดเพื่อสร้างสุขให้ตัวเองเป็นประจำ อะไรที่ตึงต้องผ่อนจะทำให้สุขภาพดีขึ้น แน่นอนว่าผู้ชายเราเองก็มีทางออกหลายทาง แต่คนที่อยู่ในบลูโซนอย่างชาวโอกินาวาเขาใช้วิธีระลึกถึงบรรพบุรุษของพวกเขา ชาว Ikarian ใช้การนอนกลางวัน หรือชาว
หนุ่ม ๆ เคยสังเกตกันมั้ยว่าทำไมแฟนหรือคู่รักของเรามักจะใช้เวลาในการนอนหลับพักผ่อนมากกว่าเรา จากที่นอนคุยกันอยู่ดี ๆ รู้ตัวอีกทีพวกเธอก็หนีเข้าห้วงนิทราไปเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่เรายังตาแป๋วไม่มีความง่วงมาเยือนเลยแม้แต่น้อย วันนี้เราจึงอยากมาบอกหนุ่ม ๆ ทุกคนให้เข้าใจว่าที่เธอเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอขี้เซาหรือขี้เกียจ แต่มันเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่มีคำอธิบายชัดเจน สมองต้องการพักผ่อน ศาสตราจารย์ Jim Horne ผู้อำนวยการแห่งสถาบัน The Sleep Research Centre at Loughborough University และผู้เขียนหนังสือ Sleepfaring: A Journey Through The Science of Sleep ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดที่มนุษย์จำเป็นต้องนอนหลับคือในระหว่างวันสมองของเราจะทำงานอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาเดียวที่สมองจะได้รับการฟื้นฟูและซ่อมแซมคือช่วงนอนหลับพักผ่อน สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ, ภาษา, และพฤติกรรมจะเข้าสู่โหมดฟื้นฟูเมื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา” “นั่นหมายความว่า ในช่วงระหว่างวันยิ่งใช้งานสมองไปมากเท่าไร สมองยิ่งต้องการพักผ่อนมากเท่านั้น ซึ่งด้วยความจริงข้อนี้จึงทำให้ผู้หญิงต้องการการนอนหลับมากกว่า เนื่องจากสมองของผู้หญิงมักจะทำงานหลายส่วนพร้อมกัน มีความยืดหยุ่นมากกว่าของผู้ชายอย่างชัดเจน ถึงแม้จะเป็นผู้ชายที่ทำงานเกี่ยวกับการคิดคำนวณหรืองานที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจสำคัญ ๆ ซึ่งใช้งานสมองค่อนข้างหนัก แต่นั่นก็ยังไม่เท่าการใช้งานสมองของผู้หญิงอยู่ดี” ด้วยความซับซ้อนของสมองที่มากกว่า ผู้หญิงจึงต้องการการนอนหลับพักผ่อนที่มากกว่าผู้ชายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20 นาที อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับลักษณะสมองของแต่ละบุคคล คุณภาพการนอนและสุขภาพ มีอีกหนึ่งงานวิจัยที่ยิ่งตอกย้ำปัญหาการนอนหลับของผู้หญิงเข้าไปอีก
ความสุขในชีวิตคนเราตั้งแต่เกิดมาจนตายไปคืออะไร ? คำถามนี้สำหรับผู้ชายหลายคนอาจยังอยู่ในช่วงเดินทางตามหาคำตอบกันอยู่ แต่สำหรับ แทม หรือ พศิน อัธยาตมวิทยา เขาคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ค้นเจอคำตอบพวกนั้นด้วยตัวเองแล้ว แม้ช่วงอายุจะอยู่ในรุ่นราวเดียวกันกับใครหลายคนซึ่งยังเลือกใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้ความท้าทายภายใน Comfort Zone ของตัวเอง จากเด็กหนุ่มอายุ 20 ที่ลงมือเรียนรู้ด้วยตัวเอง จนสามารถเขียนหนังสือที่คนรักการถ่ายรูปหลายคนต้องรู้จักอย่าง Speed Of Light ต่อด้วยบทบาทผู้กำกับงานโฆษณาฝีมือโดดเด่น รวมไปถึงเรื่องราวความชื่นชอบในรถยนต์ที่มีมาตั้งแต่เด็ก สู่ชีวิตที่หลงใหลการอยู่หลังพวงมาลัยความเร็วสูง อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเขาจากเด็กหนุ่มหัวรั้นให้กลายเป็นผู้ชายที่มีคุณภาพทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน “ชื่อแทมนะครับ พศิน อัธยาตมวิทยา ตอนนี้เป็นผู้กำกับครับทำเกี่ยวกับหนังโฆษณาแต่ก่อนหน้านี้จริง ๆ คนอาจรู้จักผมในฐานะการเป็นช่างภาพครับเพราะผมเริ่มถ่ายรูปมาตั้งแต่ก่อนเรียนมหาวิทยาลัย ใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาณ 7 ปี ในฐานะช่างภาพที่มีความถนัดในเรื่องของ แสง เคยเปิดสอนเกี่ยวกับเรื่องแสงเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนและตอนอายุประมาณ 20 ปีก็มีหนังสือของตัวเองออกมาครับ” ศาสตร์แห่งแสง มีความสำคัญยังไง ? “สำหรับผมแล้วแสงมันค่อนข้างเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากเลยนะเพราะเราสามารถมองเห็นมันตลอด แต่เวลาที่มันลงมากระทบตัว มันก็แค่สะท้อนออกไปโดยที่เราไม่รู้สึกอะไร แถมสามารถนำมาปรับแต่งให้วิ่งสวนทางกันได้แบบต่างคนต่างไป นอกจากนี้ยังบอกเล่าถึงรูปทรงและลักษณะพื้นผิวในแบบต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายภาพรถยนต์ อีกเหตุผลหนึ่งคือถ้าเราเคยสังเกตดี ๆ จะมองเห็นว่าในที่เดียวกันแต่คนละเวลา ก็เป็นคนละแสง ในเวลาเดียวกันแต่อยู่คนละมุมโลกก็เป็นคนละแสง ทิศทางของมันเปลี่ยนไปอารมณ์ทุกอย่างก็เปลี่ยนหมด”
“เรื่องราวของวิญญาณดวงหนึ่ง ที่ผู้คุมบอกว่าเขาได้รับรางวัลจากสวรรค์ให้มาอยู่ในร่างโฮมสเตย์ของเด็กหนุ่มชื่อ มิน แลกกับต้องสืบหาเรื่องการตายของมินให้ได้ ภายใน 100 วัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้เกิดอีกเลย” Homestay คือภาพยนตร์ไทยโรแมนติกดราม่าธริลเลอร์ ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมญี่ปุ่น ‘Colorful’ ของ เอโตะ โมริ และได้ถูกสร้างเป็นแอนิเมชั่นญี่ปุ่น Colorful (2010) รวมถึงการแปลเป็นนิยายฉบับแปลไทยในชื่อ ‘เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม’ ถือเป็นงานเขียนที่สะท้อนมุมมองของคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิต อาการโรคซึมเศร้า และสะท้อนให้เห็นถึงเหตุผลที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ได้อย่างดีเยี่ยม ตัวหนังนำเสนอเรื่องราวของ ‘มิน’ เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ผ่านมุมมองของดวงวิญญาณที่ไม่เคยรู้จักกับเด็กคนนี้มาก่อน เพียงแค่มาอาศัยอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มชั่วคราว จึงจำต้องเริ่มทำความรู้จักตัวตนใหม่ที่เขาใช้เป็นโฮมสเตย์ เขาต้องสัมผัสกับปัญหาที่มินเจอโดยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เด็กผู้ชายคนนี้คิดอะไร รักอะไร หรือเกลียดอะไร และค้นหาว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้มินต้องตาย ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบเกี่ยวกับการมีชีวิตของมินคนใหม่นั้นแตกต่างจากมินคนก่อน เพราะแต่ละคนมองและจัดการกับปัญหาที่เจอไม่เหมือนกัน โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของหนังไม่ใช่การค้นหาว่าทำไมมินถึงตาย แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่ามุมมองความคิดที่ต่างไปจากเดิมนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้ตลอดกาล สักครั้งหนึ่งในชีวิตทุกคนต้องเคยเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก บางเรื่องที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูแย่ไปหมด ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน เผลอตัดพ้อชีวิตว่าแต่ละวันมันช่างหดหู่เฮงซวย เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งคิดไปถึงว่าถ้าตายเสียน่าจะยังดีกว่า ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักเกิดจากความผิดปกติทางเคมีในร่างกายที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ และสุดท้ายความตายที่คิดว่าเป็นทางออกที่ดีก็ไม่สามารถไขแก้ปัญหาอะไรได้เลย ซ้ำร้ายยังสร้างความเสียใจให้คนอื่นในครอบครัวและรอบข้างอีกด้วย เรื่องวุ่นวายทุกอย่างไม่ได้จบดังที่หวัง ซ้ำยังมีผลกระทบถึงคนรอบตัวมากมายกว่าที่คิด เพราะทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาเสมอ ดังนั้นขอจงอย่าเสียความเป็นตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ควรให้โอกาสตัวเองได้เห็นมุมมองของปัญหาจากผู้อื่นบ้าง และที่สุดแล้วความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือเราทุกคนล้วนมีหนึ่งชีวิตเท่านั้น การให้โอกาสกับตัวเองจึงไม่เคยเป็นเรื่องไร้ค่า เช่นเดียวกันว่า คำตอบของการใช้ชีวิตก็ไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียวเสมอไป
“IREZUMI” คือการสักแบบชาวญี่ปุ่นดั้งเดิมขนานแท้ที่มีมาตั้งแต่โบราณในช่วงยุค Jomon หรือ Paleolithic ซึ่งถ้านับแบบสากลก็คือ ช่วงยุคหินเก่า (10,000 BC) จนมาถึงช่วยสมัย EDO (1600-1868) รอยสักเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในกลุ่มคนชนชั้นต่าง ๆ โดยคนญี่ปุ่นเชื่อว่ารอยสักนั้น นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แล้ว มันยังเป็นสิ่งที่ส่งผลทางด้านจิตวิญญาณโดยตรงอีกด้วย จะว่าไปแล้ว จริง ๆ “IREZUMI” ก็มีความคล้ายคลึงกับการสักยันต์ของไทย ที่ครั้งโบราณทหารไทยก็ใช้การสักยันต์เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นการสร้างขวัญกำลังในการทำศึกสงครามเช่นกัน แต่การสักแบบญี่ปุ่นของจริง หรือที่เรียกว่า “IREZUMI” นั้น จะมีความเป็นเอกลักษณ์ และมีมนต์เสน่ห์แบบเฉพาะตัว ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปลวดลายของ สัตว์, ดอกไม้, เทพเจ้า และภาพเหตุการณ์จากเรื่องเล่าที่เป็นตำนาน หรือนิทานพื้นบ้าน ซึ่งโดยรวมแล้ว จะมีความหมายถึงความอดทน และความทะเยอทะยานของชีวิตเป็นหลัก เมื่อก่อนวิธีการสัก และหมึกสักที่ช่างสักชาวญี่ปุ่นใช้นั้น จะแตกต่างจากช่างสักในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะวิธีการสัก ที่ช่างจะใช้เข็มแซะเข้าไป ในลักษณะเหมือนใช้ สิ่ว สลักงานไม้ และหมึกส่วนใหญ่จะเป็นหมึกชนิดเดียวกับที่ใช้ในภาพพิมพ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nara Ink หรือ Nara Black ซึ่งเป็นหมึกที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
บางครั้งความบังเอิญก็นำเราไปพบกับสิ่งที่ดีเกินความคาดหมาย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากยามดึกคืนหนึ่ง เรานอนไถโทรศัพท์ก่อนนอนอยู่บนเตียงเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดมุ่งหมายใด ๆ แต่ก่อนเราจะตัดสินใจล็อกหน้าจอและข่มตานอน สายตาแว่บหนึ่งของเราดันไปสะดุดกับคลิป ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเราแชร์ลงใน Feed Facebook เป็นคลิปเกี่ยวกับคอนเทนต์ลึกลับที่มีคำโปรยและหน้าปกค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยความที่เราชอบคอนเทนต์แนวนี้เป็นทุนอยู่แล้ว จึงลองกดเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากคอนเทนต์แนวนี้ของไทยส่วนใหญ่ที่เราดูมักจะเป็นการมานั่งอ่านข้อมูลใน Wikipedia ให้ฟัง ดังนั้นสำหรับช่อง ‘The Common Thread’ นี้ที่ดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ยอด Subscribe ยอด View ก็น้อย จึงไม่แปลกที่เราจะไม่คาดหวัง แต่หลังจากที่ดูคลิปแรกจบ เราถึงกับอุทานในใจว่า ‘เหี้ย แม่งทำโคตรดีเลยว่ะ’ The Common Thread มีความแตกต่างจากช่องอื่น ๆ อย่างชัดเจน ด้วยการหาแหล่งข้อมูลนับสิบ ๆ แหล่ง ก่อนจะมานั่งเรียบเรียง ตัดอะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ออกไปทีละอย่างเพื่อมุ่งหาความจริงหรือสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เราสถาปนาตัวเองเป็นแฟนคลับช่องนี้ในทันที และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ลังเลที่จะชวน ‘ฟาโรห์-เตชภณ คำสีแก้ว’ แห่ง The Common Thread มาพูดคุยเจาะลึกกันทันที ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ ฟาโรห์มารอเราอยู่ก่อนแล้ว และด้วยความบังเอิญอีกอย่างคือการที่เรากับเขาเคยเรียนในคณะเดียวกัน การสร้างความคุ้นเคยก่อนการสัมภาษณ์จึงเป็นไปอย่างลื่นไหล
นั่งประชุม ๆ อยู่แล้วก็เหม่อลอย นั่งทำงานง่าย ๆ หรือใช้ชีวิตประจำวันแบบที่ทำทุกวันก็เหม่อลอย นี่อาจจะไม่ใช่แค่อาการของคนที่ชอบหนีโลกแห่งความเป็นจริง แต่อาจเป็นเพราะสมองคุณมีประสิทธิภาพเกินกว่าคนปกติที่พอได้ทำงานง่าย ๆ ชิล ๆ แล้วสมองต้องแบ่งไปคิดอะไรอย่างอื่นก็เป็นได้ งานวิจัยที่ทำการสังเกตสมองกว่า 100 รูปแบบผ่านการใช้เครื่อง MRI โดยกลุ่มตัวอย่างถูกขอให้จ้องจุด ๆ หนึ่งขณะที่อยู่ในเครื่อง MRI จากนั้นนักวิจัยก็จะตรวจสอบดูว่าสมองส่วนไหนของพวกเขาที่ทำงานในขณะที่พวกเขาไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ ไอเดียของการทดสอบครั้งนี้ก็คือนักวิจัยต้องการรู้ว่าสมองส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง (เมื่อกลุ่มตัวอย่างจ้องมองจุด) มีการทำงานอย่างไร ยังไม่จบเพียงเท่านั้นนักวิจัยยังทดสอบเรื่องความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากเครื่อง MRI นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างยังยังถูกถามคำถามเกี่ยวกับการเหม่อลอยด้วย ผลการทดสอบออกมาว่าคนที่ใช้โครงสร้างสมองอย่างหลากหลายที่สุด เป็นคนเดียวกับที่ได้คะแนนทดสอบเรื่องความคิดสร้างสรรค์สูง แถมเป็นคนที่ยอมรับว่าตัวเองเหม่อลอยมากที่สุดอีกด้วย “ผู้คนมักคิดว่าการปล่อยใจให้ล่องลอยไปเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะเมื่อคุณอยากมีสมาธิให้ความสนใจกับสิ่งตรงหน้า แต่คุณไม่อาจทำมันได้ จากข้อมูลของเราพบว่าความคิดแบบนั้นไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากคนบางคนมีสมองที่มีประสิทธิภาพมากกว่าผู้อื่น” Eric Schumacher หนึ่งในทีมวิจัยพูดถึงสมองของคนที่ชอบเหม่อลอย เขายังบอกอีกด้วยว่า “คนที่มีประสิทธิภาพของสมองสูง อาจมีความสามารถของสมองมากเกินไป จึงไม่สามารถหยุดนิ่งจากการปล่อยใจให้ล่องลอยออกไปได้” ผลงานวิจัยนี้อาจทำให้เราจินตนาการถึงศาสตราจารย์สติเฟื่องที่ฉลาดมากแต่ก็มีโลกส่วนตัวสูง หรือเด็ก ๆ หัวแหลมที่ใช้เวลาเรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ จนใช้เวลาที่เหลือนั่งเหม่อลอย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าสมองที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ก็มีแนวโน้มที่จะใจลอยมากกว่า เพราะระหว่างทำงานง่าย ๆ
ปีนี้ถือเป็นปีทองของคอนเสิร์ตที่แท้จริง ตั้งแต่ต้นปีศิลปินฝั่งกระแสหลักไปจนถึงอินดี้ ต่างแห่แหนกันมาระเบิดความมันส์ที่ไทยแลนด์กันแบบไม่มีเว้นเดือน จนมาถึงปลายปีก็ยังไม่มีผ่อนแรง ยังคงมีตารางคอนเสิร์ตแน่น ๆ กันไปจนถึงต้นปีหน้า สำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นคอเดียวกันอาจไม่มีปัญหาสำหรับการไปตะลุยคอนเสิร์ต แต่คนที่มีเหตุให้ต้องฉายเดี่ยวนี่สิ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันช่างหงอยเหงากันตั้งแต่ซื้อบัตรใบเดียวแล้ว UNLOCKMEN ขอเป็นกำลังใจให้คนเหงาทุกคนได้ยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และในคอนเสิร์ตนี้ก็ด้วย เรามีเทคนิคเจ๋ง ๆ ของการเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตคนเดียวแบบพร้อมรบ แถมอาจจะได้เพื่อนเพิ่มไปคอนเสิร์ตหน้าด้วยกันได้อีกด้วย เช็กเวลา สถานที่ และเตรียมบัตรให้พร้อม หลายครั้งแล้วที่เป็นอันต้องแห้วคอนเสิร์ตเพราะไปผิดที่บ้าง ไปยืนเสียเวลาหน้างานเพราะดูเวลาผิดบ้าง ร้ายสุดคือไปผิดวัน! ไปก่อนวันจริงยังไม่เท่าไหร่ ถ้าไปหลังวันจริงนี่เงินปลิวหายไปกับสายลม ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกที่รู้สึกว่าใครมันจะไปลืมกันวะ เรายืนยันว่ามีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ อาจจะเพราะจำเดือนผิด จำวันผิด แต่เพื่อความชัวร์ เราแนะนำให้ตั้ง Reminder เตือนตัวเองก่อนถึงเวลาจริงหนึ่งสัปดาห์ เตือนวันก่อนจะไปหนึ่งวัน เตือนวันจริงอีกครั้งให้รู้ตัวอยู่ตลอด นอกจากเวลาแล้ว สถานที่ก็ต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน หาทางไปทางกลับวางแผนกันให้ดี การไปตายเอาดาบหน้าที่คอนเสิร์ตนั้น บอกเลยว่าโดนฟันราคาหัวแบะแน่นอน เตรียมวันเวลาซะพร้อม แต่ดันลืมบัตรไว้ที่บ้าน แบบนี้ได้ไปยืนหน้าแห้งอยู่หน้าคอนเสิร์ตแน่นอน ดอกจันไว้ที่ Reminder นั่นแหละว่าให้เตรียมบัตรให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นบัตรแข็ง บัตรอ่อน ติดไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอหรือบัตร QR Code ก็เตรียมเอาไว้ในโทรศัพท์อยู่เสมอ พร้อมบัตรประชาชนด้วยเช่นกัน
ก่อนจะพูดถึงเนื้อหาในคอนเทนต์ เราขออธิบายความตั้งใจของเราให้ชัดเจนก่อนว่าเราไม่มีเจตนาว่าร้ายเรื่องรูปร่างหน้าตา เราเพียงแค่นำผลวิจัยที่มีการรองรับชัดเจนมาอธิบายเท่านั้น ถึงจะมีประโยคสวยหรูมากมายว่าคนเราต้องดูกันที่เนื้อใน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อาจจะสำคัญมากกว่าเสียด้วยซ้ำตาม Norm แห่งสังคมปัจจุบันที่มักจะมีค่านิยมอะไรบางอย่างตีค่าไว้ว่าแบบนี้ดี แบบนี้ไม่ดี ดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือความไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเอง จากปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่ความไม่มั่นใจนี้สามารถนำไปสู่ความรุนแรงได้อย่างที่คาดไม่ถึง สถาบัน The Center for Disease Control ในเมือง Atlanta รัฐ Georgia ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำรวจผู้ชาย 600 คน ช่วงอายุ 18-50 ปี โดยแต่ละคนแตกต่างกันทั้งในแง่พฤติกรรม, ประวัติการใช้ความรุนแรง, ประวัติการใช้ยาเสพติด, และประวัติอาชญากรรม ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชายที่ไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาความเป็นชายของตัวเองมีแนวโน้มที่จะก่อพฤติกรรมรุนแรงหรืออาชญากรรมมากกว่า นอกจากนั้นผู้ชายกลุ่มนี้มักจะเกิดประเภทของความเครียดที่เรียกว่า ‘Male Discrepancy Stress’ ซึ่งก้อนอารมณ์นี้มีแนวโน้มจะขับความรุนแรงในตัวของคน ๆ นั้นออกมาในรูปแบบพฤติกรรมทางเพศผู้อื่นมากกว่ากลุ่มคนที่สูงหรือมั่นใจในส่วนสูงตัวเองถึง 3 เท่าด้วยกัน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้ Oxford University ก็เคยพูดถึงประเด็น ‘Short Man Syndrome’ มาแล้ว โดยในรายงานฉบับนี้เผยว่าถ้าเราลดความสูงของบุคคลใดก็ตามลง บุคคลนั้นจะมีอัตราความหวาดระแวงเพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งนี้เรียกว่า ‘Napoleon Complex’ อย่างไรก็ตามจักรพรรดิ ‘นโปเลียนที่ 1′ ผู้ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Napoleon Complex มีความสูงถึง
“ชีวิตที่ดีมีรูปร่างหน้าตาแบบไหนกันแน่ ? ” ผู้ชาย Work Hard Play Hard อย่างเรา ๆ คงเผลอตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ ในเมื่อเราก็ลุยงานอย่างเต็มเหนี่ยว ว่างจากงานเราก็พร้อมลุยปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง นี่ยังไม่นับรวมชีวิตด้านอื่น ๆ ที่พวกเราต่างก็ทุ่มเทให้เต็มที่ไม่มียิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่ถึงแม้จะใช้ชีวิตสุดทางทุกด้าน แต่ก็ยังอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่าชีวิตที่ดีคืออะไร? เราเชื่อว่าชีวิตที่ดีในฝันของผู้ชายจำนวนไม่น้อยคือชีวิตที่เราสามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างไร้ขีดจำกัด คือชีวิตที่เราสามารถออกแบบการพักผ่อนให้ตัวเองได้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งหมายความรวมถึงรูปแบบชีวิตที่ช่วยส่งเสริมเราให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งทั้งการงาน การใช้ชีวิตและการพักผ่อน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากเราใช้ชีวิตอย่างขาดเสน่ห์ และคงจะไม่ผิดนักที่เราจะบอกว่าชีวิตที่ดีในมุมมองของ UNLOCKMEN นั้น คือชีวิตที่ปราศจากข้อจำกัดและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์รอบด้าน ที่อยู่อาศัยที่ดี คือจุดเริ่มต้นแห่งมนต์เสน่ห์ของการใช้ชีวิต ชีวิตที่ดีแบบที่ผู้ชายในเมืองที่รักทั้งงาน รักทั้งการพักผ่อน รักทั้งการเล่นใฝ่ฝันจึงเริ่มต้นที่พื้นที่อยู่อาศัย เพราะพื้นที่อยู่อาศัยคือปัจจัยหลักที่จะช่วยเราเข้าถึงชีวิตที่ดีอย่างที่เราต้องการ พื้นที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวกช่วยให้เราเดินทางไปทำงานหรือไปใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ได้อย่างคล่อง พื้นที่อยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวจะช่วยให้เราผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน พื้นที่อยู่อาศัยที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจทำให้เรารู้สึกอบอุ่นสบายช่วยให้เราสามารถดื่มด่ำบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายได้อย่างเต็มอิ่ม การมีพื้นที่อยู่อาศัยที่ดีจึงเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตที่ดีและทำให้เราสัมผัสมนต์เสน่ห์ใหม่… แห่งการใช้ชีวิตได้อย่างไร้ข้อจำกัด พื้นที่อยู่อาศัยที่ดีแบบที่เราสามารถ LIVE THE ENCHANTING MOMENT ได้ไม่ใช่แค่ความฝันเท่านั้น เพราะที่ THE PRIVACY JATUJAK มีคุณสมบัติครบครันแห่งการเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ดี เชื่อได้เลยว่ามนต์เสน่ห์ใหม่แห่งการใช้ชีวิตทุก รูปแบบกำลังรอให้เราไปสัมผัสอยู่ที่นี่นี่เอง