Fender จับมือกับ Bruno Mars รังสรรค์ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition ที่ถือเป็นโมเดล Signature ตัวแรกของศิลปินหนุ่มเจ้าของ 15 รางวัล Grammy Awards คนนี้ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition มีพื้นฐานจากรุ่น American Ultra ตัว Body ใช้วัสดุเป็นไม้ Ash ทำสีด้วยกระบวนการ Nitrocellulose lacquer finish โดดเด่นด้วยโทนสีพิเศษที่ไม่เคยใช้ในกีตาร์ Fender รุ่นอื่นมาก่อน กับสีที่ถูกตั้งชื่อว่า Mars Mocha Heirloom ละมุนตาด้วยเฉดสีน้ำตาลทองสุดคลาสสิก ที่แน่นอนว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Retro Style ซึ่งสะท้อนตัวตน และผลงานอันโดดเด่นของ Bruno Mars นั่นเอง สำหรับเรื่องของสุ้มเสียง
เอาจริง ๆ บทความนี้เหมือนว่าไม่ต้องมี intro เลยก็ได้นะ ทุกคนที่เข้ามาอ่านน่าจะเห็นชื่อบทความกันแล้ว กับคำว่า Three Man Down ที่หมายถึงวงดนตรีของเด็กหนุ่ม 4 คน กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ (ร้องนำ) / ตูน-พีรพล เอี่ยมจำรัส (กีตาร์) / เต-เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค (กลอง) / เส็ง-วิศรุต ปฐมศิริไพศาล (คีย์บอร์ด) ไม่ต้องการคำอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะไม่มีใครไม่รู้จักเพลงอย่าง ถ้าเธอรักฉันจริง / ฝนตกไหม / ฝันถึงแฟนเก่า / น้อง / ข้างกัน / ไม่อยากให้เธอไม่สบาย และอีกหลาย ๆ เพลงทั้งจากอัลบั้มแรก This City Won’t Be Lonely Anymore ปี 2021 และอัลบั้ม 28 ปี
ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับศิลปินเพลง pop สัญชาติอเมริกันชื่อ JVKE นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ bedroom studio เจ้าของเพลง “Golden Hour” เพลงที่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำให้เขาได้ขึ้นไปอยู่อันดับ 11 ใน Billboard Chart เลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะเป็น JVKE ผู้สร้างช่วงเวลาต้องมนตร์สีทองอย่างทุกวันนี้ เบื้องหลังชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้เต็มไปด้วยการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสนใจ ที่พิเศษไม่แพ้กับผลงานของเขาเลย UNLOCKMEN ขอพาทุกคนเข้าสู่ช่วงเวลานั้นไปด้วยกัน การเดินทางของนักร้องหนุ่ม JVKE เกิดวันที่ 3 มีนาคม ปี ค.ศ 2001 เกิดและโตมากับครอบครัวนักดนตรี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีหัวด้านความสร้างสรรค์อย่างมาก คุณแม่ของเขาเป็นครูสอนดนตรี ส่วนคุณพ่อเป็น “ศิษยาภิบาล” หรือ “อธิการโบสถ์” ทำให้เขาได้เรียนทั้งเปียโนสำหรับบรรเลงเพลง การแต่งเพลง รวมไปถึงร้องเพลงที่โบสถ์ประจำของเขาอีกด้วย ต่อมาเขาก็ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนคาทอลิก และช่วงมัธยมปลายก็เรียนโรงเรียนประจำรัฐในเมืองที่อาศัยอยู่ จากนั้นก็ได้มาลงทะเบียนเรียนที่วิทยาลัยชุมชน ประมาณ 1 ปีครึ่งก่อนที่จะดรอปออกมาเพื่อที่จะมาเป็นศิลปิน จุดเริ่มต้นของ JVKE ความสร้างสรรค์ผ่านความผูกพันธ์ เส้นทางการมีชื่อเสียงของเขามันช่างเรียบง่าย ไม่มากมายนัก เขาเริ่มต้นมาจากการอัปโหลดคลิป
aespa (เอสป้า) วงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปจากค่าย SM Entertainment เดบิวต์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 แนวเพลงเป็น เคป็อป ฮิปฮอป อีดีเอ็ม แทร็ป และไฮเปอร์ป็อป ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์แปลกใหม่ ที่ทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจอย่างมาก พร้อมกับเพลงท้อปฮิตติดชาร์ตอีกหลากหลายเพลง โดยชื่อวง aespa มีที่มาจาก Avatar (อวตาร) X Experience (ประสบการณ์) รวมกับคำว่า aspect (แง่มุม) ที่มีความหมายว่า “การสัมผัสกับประสบการณ์โลกใบใหม่ด้วยเหล่าอวตารที่เป็นตัวตนในอีกด้านหนึ่งของพวกเธอ” โดยมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน คือ KARINA (คาริน่า) / GISELLE (จีเซล) / WINTER (วินเทอร์) และ NINGNING (หนิงหนิง) ซึ่งแต่ละคนก็จะมีอวตารของตัวเองด้วย (และเหตุผลที่ตัวอวตารเหมือนพวกเธอมาก เพราะการอัปโหลดข้อมูลต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียทำให้อวตารสามารถศึกษาข้อมูลของพวกเธอได้) ได้แก่ æ-karina/æ-giselle/æ-winter/æ-ningning และมีตัวละครลับในวงอย่าง Nævis
เปิดปี 2023 กับวงที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักตั้งแต่ปี 2022 แต่ปลายปีของชาวออฟฟิศก็วุ่นวายกันนิดหน่อย เราเลยขอยกยอดวงนี้มาเป็นศิลปินเบอร์แรกเปิดซีรีย์ Next Cover, Same Mood ของปีเลยละกัน กับ Lemony จาก Sanamluang Music แนะนำประวัติวงคร่าว ๆ กันเล็กน้อย เนื่องจากว่าเป็นวง New Blood ที่น่าสนใจมาก เพราะเอาจริง ๆ พวกเขาก็ไม่ใช่วงหน้าใหม่ของวงการเสียทีเดียว ก่อนหน้าที่จะเป็นวง Lemony พวกเขาทั้ง 4 คนเคยใช้ชื่อว่า Kordyim (อ่านว่า ‘โคตรยิ้ม’) แต่ด้วยที่ต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางของดนตรี + ทิศทางของวงใหม่ จึงจัดการรีเซ็ทใหม่หมด กว่าจะออกมาเป็น Lemony กับอัลบั้มแรกให้ทุกคนได้รู้จักในวันนี้ ก็ใช้เวลากว่า 10 ปีเลยทีเดียว ! ถ้าคุณเคยรู้จัก Lemony ในร่างที่แล้วมาก่อน จะเข้าใจเลยว่า Why Don’t I …..? เป็นอัลบั้มที่ย้ำคาแรคเตอร์ของวง Lemony
วันนี้ครบรอบ 1 อาทิตย์ที่เจ้าพวกแก๊งนมผงสุดเก่ง NewJeans ปล่อยเอ็มวีเพลง Ditto ออกมาพอดี จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนจะยังคงฮัมทำนอง Hoo-ooh, ooh-ooh กันอย่างไม่มีหยุดพัก และกระแสความดีงามยังทะลุกราฟอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวาน (26/12/2022) เจ้าพวกเด็ก ๆ สามารถพาเพลงนี้ทำ Perfect All-Kill ขึ้นที่ 1 ของทุกชาร์ตเพลงในเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อย ! ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2022 ดูเหมือนว่าชื่อของ NewJeans ก็เป็น Hype Girls ที่ไม่มีแผ่วเลยในวงการเพลง ก็ต้องบอกว่า 4 เพลงแรกจาก 1st EP. ของวง (Attention, Hype Boy, Cookie, Hurt) นั้นคิดมาแม่นมาก-ทั้งในเรื่องของการวางคอนเซปต์สำรวจความเป็นเด็กสาว และหน้าตาของดนตรีที่จะมาหักล้างขนบความเป็น K-POP ของเกิร์ลกรุ๊ปแบบเดิมที่เคยมีมา ยิ่งพอมาถึงซิงเกิ้ลที่ 5 ชื่อ Ditto ก็ยิ่งตบคอนเซปต์นั้นอย่างแข็งแรงเข้าไปอีก เราจะยังไม่ขอเรียกตัวเองว่าเป็น Bunnies (เพราะยังไม่ได้รู้จักน้อง
ระหว่างที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Milli (ดนุภา คณาธีรกุล) ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สตรีผู้เป็นแรงบันดาลใจและทรงอิทธิพลจากทั่วโลก ประจำปี 2022 จากสำนักข่าว BBC โอ้มายก็อดส์! ความรู้สึกเดียวที่เรามีให้เลยคือ ‘ยินดีด้วย’ เพราะตลอดการเดินทางของแร็ปเปอร์คนนี้ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค จะเป็นการแสดงสดที่เทศกาลดนตรี Cochella หรือการได้ร่วมงานกับค่าย 88 Rising ผงาดพลัง Asia Power สู่เวทีโลก ล้วนสะท้อนภาพความพยายามอย่างหนักทั้งนั้น และอัลบั้มแรกในชีวิตของเธอ ‘BABB BUM BUM (แบบเบิ้มเบิ้ม)’ ภายใต้สังกัด Yupp ก็เป็นอีกผลงานที่เต็มเปี่ยมด้วยความพยายาม ภายใต้อัลบั้มที่มีพาร์ทดนตรีสุดปั่น และไรห์มสุดยียวน นี่คืออัลบั้มที่ศิลปินผู้รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี และรู้ว่าเพลงของตัวเองสามารถเป็นอะไรได้บ้างโดยไม่ทำให้เสียเอกลักษณ์ตัวตนแม้แต่น้อย และมันไม่ใช่เพราะว่า Genre ของ Hip-Hop ที่อนุญาตให้ดนตรีหลากหลายด้วยนะ แต่ Milli ทำให้เพลงทั้ง 10 อัลบั้มเป็นเรื่องราวของตัวเองจริง ๆ สำหรับเราในวันนี้ Milli ได้กลายเป็นตัวละครเอกของมังงะชีวิตที่ตัวเองเขียนไปแล้ว เป็นตัวละครที่บ้าพลัง มุทะลุชนทุกกำแพง และแม้จะย่อท้อก็สามารถลุกขึ้นมาร้องเพลงใหม่ได้เสมอ
Next Cover, Same Mood ตอนที่ 4 นี้เราขอเปลี่ยนอารมณ์กันเล็กน้อย จาก ‘หนังสือ’ สู่ ‘ภาพยนตร์’ หลังจากที่ทำไป 3 ตอนแรกแล้วพบว่า เพลงบางเพลงจะมีภาพยนตร์อันเป็นตัวแทนอารมณ์ที่เหมาะกว่าหนังสืออยู่บ้างเสมอ ๆ และเพราะวง Dept เอง ก็มีจุดกำเนิดชื่อวงมาจาก Johnny Depp ที่มีความเกี่ยวข้องกับหนังอยู่ด้วย (พยายามหาเหตุผลสุด 555) แต่เชื่อใจเราได้เลย ว่าหนังเองก็สามารถต่ออารมณ์อันไม่ยอม Move On จากเพลงที่รักได้ดีไม่ต่างกันอย่างแน่นอน ถ้าให้พูดถึงหน้าตาของ Sound of Smallroom ใน gen 3 เราสามารถยกเอาวง Dept ขึ้นมาอยู่หัวแถวได้เลย ในความหมายที่ว่า เป็นประตูสู่ซุ่มเสียงเพลง POP ยุคใหม่ของค่ายห้องเล็ก และเป็นเพลงตัวแทนของหลากความรู้สึกของวัยรุ่นไทย Gen y และ Gen z ด้วย .. อัลบั้ม Ceramics Runway
Silly Fools ชื่อนี้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่เสมอสำหรับวงการดนตรีเพลงร็อกในบ้านเรา โดยเฉพาะในยุคที่ “โต” ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำ ซึ่งก็ได้สร้างเพลงฮิตเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น “คิดถึง”, “ไหนว่าจะไม่หลอกกัน”, “ขี้หึง”, “วัดใจ”, “น้ำลาย” เป็นต้น เพลงเหล่านี้เปิดที่ไหนรับรองว่าร้องตามกันได้อย่างแน่นอน ผลงานในยุคดังกล่าวมีการปรับซาวด์จูนเข้าหาตลาดมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทิ้งตัวตนของวง Silly Fools ออกไปแต่อย่างใด แต่ถ้าจะให้พูดถึงผลงานที่พวกเขาปล่อยของออกมามากที่สุด และประทับใจหมู่นักฟังเพลงมากที่สุด ผลงานนั้นกลับไม่ได้อยู่ในยุคของโต แต่มันอยู่ในยุคของ “เบนจามิน จุง ทัฟเนล (Benjamin Jung Tuffnell)” นักร้องนำชาวอเมริกัน เชื้อสายเกาหลี กับผลงานอัลบั้ม “The One” ที่หลายคนลงความเห็นตรงกันว่า “ซาวด์โคตรอินเตอร์แบบสุด ๆ!” “The One” เป็นผลงานที่ต่อยอดมาจาก EP.Mini วางจำหน่ายเมื่อปี 2007 บรรจุเอาไว้ทั้งหมด 4 เพลงด้วยกัน ได้แก่ “Stay Away”, “One Generation”, “I’ve Gone Blind” และ
ปัจจุบันดนตรีร็อกและเมทัลในบ้านเราเติบโตขึ้นมามาก เราได้เห็นวงมากหน้าหลายตาที่ได้โอกาสก้าวข้ามพรมแดนไปเล่นยังต่างประเทศมาแล้วมากมาย เช่นวง Annalynn, Whispers, Retrospect, Sweet Mullet, Defying Decay เป็นต้น กล่าวมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ใช่คุ้นชื่อหลาย ๆ วง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นวงนอกกระแส หรือที่เรียกกันว่า ‘วงการอันเดอร์กราวน์’ นั่นเอง วงการที่อุดมไปด้วยเพลงอันหนักหน่วง รุนแรง และทุกคนต่างต้องต่อสู้บนเส้นทางที่รายรับติดลบ รายจ่ายตีบวก เรียกได้ว่าใช้แพชชั่นขับเคลื่อนล้วน ๆ และ ‘วงการอันเดอร์กราวน์’ บ้านเราจริง ๆ แล้วเริ่มมีรากฐานมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80’s แล้ว ว่ากันว่าอัลบั้ม “ฆาตกัญชา” ของวง Flesh And Skin (เนื้อกับหนัง) ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 1984 คือผลงานบุกเบิกวงการอันเดอร์กราวน์โดยแท้จริง ผลงานของพวกเขานำเสนอแนวทางเฮฟวี่เมทัลอันเข้มข้น แหวกแนวกว่าวงในยุคนั้นทั้งหมดทั้งปวง หลังจากนั้นดูเหมือนว่าวงการเฮฟวี่เมทัลในบ้านเราก็คึกคักขึ้นมา เมื่อค่ายเมนสตรีม หรือค่ายระดับรองต่างหันมาจับจ้องปลุกปั้นแนวนี้กัน ทำให้เราได้เห็นผลงานของวงหิน เหล็ก ไฟ, The Olarn Project,
ต้องยอมรับเลยว่าบรรดาเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ต่างเติบโตกันมาด้วยมุมมองที่หลากหลายมากกว่าเดิม สาเหตุก็มาจากการเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ง่ายเพียงปลายนิ้วผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน มันสะท้อนออกมาทั้งจากทางความคิด การแต่งตัว และการฟังเพลงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากเพลย์ลิสต์ที่ไม่ได้ยึดติดกับแนวใดแนวหนึ่งเป็นพิเศษ แต่มันจะคละไปด้วยเพลงดี ๆ ที่แนวทางแทบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราอาจจะได้ฟังทั้งเพลงป๊อป, เพลงร็อก หรือแม้กระทั่งเพลงสายอินดี้ จากเพลย์ลิสต์เดียวกัน แตกต่างจากคนยุคก่อนที่มักจะยึดการฟังเพลงจากแนวใดแนวหนึ่งที่ชื่นชอบเป็นหลัก สิ่งที่ได้กล่าวมามันก็ได้หล่อหลอมสร้างศิลปิน/นักดนตรี รุ่นใหม่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในยุคนี้คงต้องยกให้ Yungblud หนุ่มวัย 25 จากประเทศอังกฤษ หรือชื่อจริงคือ Dominic Richard Harrison ที่สร้างดนตรีจากซาวด์ที่เขาชื่นชอบและเติบโตขึ้นมา ทำให้เราจะได้ฟังสีสันอันหลากหลายจากผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็นป๊อปพังก์, โพสต์พังก์, ฮิปฮอป หรือแม้กระทั่งเมทัล ดังเช่นตัวอย่างเพลงต่อไปนี้ “PARENTS” ผลงานจากอัลบั้ม “Weird!” (Digital Edition) ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2020 เพลงนี้โดดเด่นด้วยการร้องแร็ปไปพร้อมกับบีตที่ใช้เป็นเมนหลักแทบทั้งเพลง แต่ก็มีการซ่อนซาวด์กีตาร์ในสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อกเข้ามาเพิ่มความน่าสนใจ และมันจะพุ่งออกมาให้เห็นได้ชัดในช่วงของท่อนฮุค “PSYCHOTIC KIDS” เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “21st Century Liability” (2018) ส่วนผสมของเพลงนี้มีความหลากหลายมาก ๆ
ในวงการดนตรีทุกวันนี้ มีแร็ปเปอร์เกิดใหม่ขึ้นมามากหน้าหลายตา แต่ละคนล้วนมีฝีปากในการพ่น Rhymes ได้ไม่เบาทั้งนั้น หลาย ๆ คนก็สามารถสร้างเพลงฮิตจนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือแม้กระทั่งพาเพลงไปติดชาร์ตบิลบอร์ดก็มีให้เห็นมาแล้ว ซึ่งเพลงที่ว่านั้นก็คือ “ทน” ผลงานของ Sprite และ Guygeegee สองแร็ปเปอร์ต่างวัยที่ใส่ความสนุกสนาน ผสมกับความกวนลงไปในบทเพลง จนชวนให้ทุกคนครื้นเครงกันในช่วงล็อกดาวน์ และก็เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่ทาง Unlockmen ได้มานั่งพูดคุยกับ Guygeegee แร็ปเปอร์มาดกวน ที่ดูภาพลักษณ์แอบทำให้เรานึกถึง Eminem ไม่น้อยทีเดียว เรื่องราวของผู้ชายคนนี้เดินทางมาพร้อมกับคำสบประมาทที่คอยบอกว่าให้ล้มเลิกความฝันไปซะ เขาจึงต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยคำสั้น ๆ ว่า “Prove Them Wrong” มาติดตามเรื่องราวไปพร้อม ๆ กันได้เลย ROCK BEFORE RAP! ก่อนจะก้าวมาเป็นแร็ปเปอร์ Guygeegee ก็มีชีวิตที่ผูกพันธ์กับดนตรีมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาเล่นได้ทั้งแซกโซโฟน และกีตาร์ อีกทั้งยังสอบวิชาดนตรีได้เกรด A มาโดยตลอด อีกทั้งเขายังเคยชื่นชอบเพลงร็อกก่อนเพลงฮิปฮอปซะอีก “ถ้าเป็นแต่ก่อนนะ ผมฟังแต่วงร็อกไทย ทั้ง Potato, Pancake,