ใครที่เสพติดการฟังเพลงตลอดเวลา ตื่นมา อาบน้ำ โกนหนวด โหนรถเมล์ เป็นต้องเปิดเพลย์ลิสต์โปรดหรือที่เหมาะกับมู้ดตอนนั้นไม่ให้หูว่าง แต่เพลงเจ้ากรรมก็ดันมีแต่เพลงเดิม ๆ ช่วงแรกมันก็เพราะซะจนฟังวนได้อยู่หรอก แต่นานไปมันก็เบื่อบ้าง กด skip ไปมา เอ้า! หมดเพลย์ลิสต์ซะแล้ว วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาหาทางออกสำหรับเพลย์ลิสต์ตัน ๆ ที่ฟังวนมาเดือนนึงแล้ว ยังไม่รู้จะหาเพลงใหม่ยังไงดี Daily Mix จาก Spotify ฟังก์ชั่นดี ๆ จากแอปฯ MUSIC STREAMING ยอดฮิตของคนรักการฟังเพลง โดยเจ้าฟังก์ชั่น Daily Mix มาในทุก ๆ วันจันทร์ มันจะประมวลผลจากเพลงที่เราจัดเพลย์ลิสต์ส่วนตัวไว้ หาศิลปินในแนวเพลงที่ใกล้เคียงกัน เพลงที่เรากดฟังเองบ่อย ๆ ฟังจนจบ แล้วจัดประเภทออกมาให้เราเสร็จสรรพ โดยเพลงจากศิลปินที่อยู่ในประเภทเดียวกันก็จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งมันจะแยกกับเพลย์ลิสต์ส่วนตัวของเรา ฟังไม่ฟังก็ได้ ถึงเราไม่กดฟังมันไม่ได้หายไปไหน อย่างเพลง Rock เรามี Oasis, Kings of Leon, Asking Alexandria
แม้จะไม่ใช่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่หลังจากทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยหลายคนเลือกมักจะเลือกพักผ่อนอยู่บ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกเบียดเสียดกับคนอื่น โดยขอใช้เวลาส่วนตัวอันน้อยนิดไปกับการฟังเพลงแล้วนอนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันใหม่ ทว่าเพลงที่ฟังอยู่อาจจะเดิม ๆ และน่าเบื่อไปเสียแล้ว ดังนั้นถ้าเกิดมีเพลย์ลิสต์ใหม่ชิล ๆ มาเปิดคลอในบ้านคงจะดีไม่น้อย ทีมงาน UNLOCKMEN เลยไปหา 10 เพลงสุดชิลสไตล์ EDM จากเพลย์ลิสต์ของ Billboard ไว้เปิดฟังชิล ๆ ก่อนนอน Shallou – Begin (Feat. Wales) ATTLAS – I Need You More Amtrac – Piano Boy Chet Porter – Stay (Feat. Chelsea Cutler) Autograf – Dream Klingande – Jubel Lost Frequencies – Reality (Feat. Janieck
การฟังเพลงยังคงเป็นงานอดิเรกอันดับต้น ๆ ของมวลมนุษยชาติ แต่ละช่วงอายุก็จะมีความแตกต่างกันไปทั้งแนวเพลงที่ฟังและนวัตกรรมที่ใช้ในการเสพดนตรี ไล่กันมาตั้งแต่ยุคแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ต แผ่นซีดี จนมาถึง MUSIC STREAMING ที่กำลังฮิตในปัจจุบัน นอกเหนือจากความหลงใหลในผลงานของศิลปินผ่านเสียงเพลงแล้ว ความหลงใหลเสียงดนตรีในฐานะของสะสมก็ยังคงทำให้เทคโนโลยีจากวันวานอย่างแผ่นเสียง ยังคงมียอดผลิตและจำหน่ายไม่แพ้ยอดดาวน์โหลดจาก MUSIC STREAMING หรือใครยังไม่เก็ทว่าของเหล่านี้ยังคงอยู่และกลายมาเป็นของสะสมได้ยังไงสามารถอ่านคอนเทนต์เก่า ๆ จากเราได้ที่ “ยอดขายเทปซีดีล้านตลับ” สื่อกลางดนตรีจากนวัตกรรมยุครุ่งเรือง สู่ของสะสมหายากมากมูลค่าในปัจจุบัน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาเราย้อนวันวานไปสำรวจร้านแผ่นเสียงที่ยังคงตั้งตระหง่านเหมือนภูเขาอันหนักแน่น ท่ามกลางกระแส MUSIC STREAMING รอบกรุงเทพฯ และบทสัมภาษณ์จากเจ้าของร้านว่าทำไมแผ่นเสียงจึงยังคงเดินทางข้ามกาลเวลามาได้และไม่เคยจะหายไปแม้ในวันที่เราสามารถฟังเพลงจากโทรศัพท์ได้ทุกที่ทุกเวลาแล้วก็ตาม RECORDS HUNTER เริ่มต้นกันด้วยร้านแผ่นเสียงในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านอยู่เสมอ อย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่เปิดมาแล้วเกือบสิบปี การเดินทางก็แสนง่าย ลง BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินไปตามสกายวอล์คแล้วเข้าไปในตึกวิคตอรี่ คอร์นเนอร์ ชั้นหนึ่ง เดินวนดูยังไงก็หาเจอ แม้ร้านขนาดไม่กว้างนัก แต่เต็มไปด้วยแผ่นเสียงมือสองคุณภาพจากต่างประเทศ อัดแน่นอยู่เต็มร้าน มีหลายหลายแนวให้ได้เลือก และใครที่เป็นคอเพลงร็อก เมทัล พลาดไม่ได้กับแผ่นลิมิเต็ด หายาก โดยราคาก็เริ่มตั้งแต่หลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงหลักพัน แม้จะไม่เจอแผ่นถูกใจก็สามารถแวะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น สนทนาภาษาดนตรีกับเจ้าของร้านได้ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล “คุณ อนุสรณ์
Music Festival เป็นแหล่งรวมหนุ่มสาวผู้รักการฟังเพลงแบบจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่ขนกันมาเมามายไปกับเสียงเพลงและแอลกอฮอล์แบบมัน ๆ ถึงเช้า หรือจะเป็นคู่รักที่ถือโอกาสมาฮันนีมูนท่ามกลางดนตรีสดที่ขับกล่อมให้ความรักหวานฟุ้งขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล เมื่อหนุ่มสาวมารวมตัวกันกินนอน ใช้ชีวิต บวกกับเสียงเพลง มีหรือที่จะข้ามเรื่องอโคจรอย่างของมึนเมาและ SEX ไปได้ วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาดูผลสำรวจกันเล่น ๆ ว่า Music Festival งานไหนที่ผู้คนนิยมมี SEX กันมากที่สุด เผื่องานหน้าใครกระเป๋าหนักอยากไปฟังเพลงแถมได้สาวมากุ๊กกิ๊กแบบ One Night Stand สักคนก็ถือว่า Not Bad ดนตรีคงทำให้เราอยู่ใน Mood ที่ล่องลอยไปกับมันได้มากพอ ๆ กับการดื่มน้ำเมา ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือคนที่เพิ่งสบตากันในงาน ก็คงไม่พ้น Mood นี้เช่นกัน ดนตรีดี ๆ บรรยากาศดี ๆ การหันไปแล้วเจอใครสักคนที่ถูกใจ คงจะดีไม่น้อยถ้าได้พากันไปประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะท่ามกลางบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมอย่าง Music Festival ที่ได้เสพดนตรีที่ตัวเองชื่นชอบไปด้วย แม้ฟังดูอาจไม่น่าเชื่อ แต่จากผลสำรวจพบว่าเพลงหนัก ๆ ถึงใจชาวร็อกอย่าง Red Hot Chili Peppers ทำให้หนุ่มสาวอยู่ใน Mood
ตั้งแต่ “ไกลแค่ไหนคือใกล้” จนมาถึง “คนไม่จำเป็น” นับเป็นการสร้างปรากฎการณ์ GETSUNOVA FEVER ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องได้ยินเพลงของพวกเขาอยู่เสมอ จากวันนั้นถึงวันนี้เพลงฮิตของพวกเขาทั้ง 4 คนในชื่อ “GETSUNOVA” ได้ไปแตะหลักร้อยล้านวิวเรียบร้อย ซึ่งนั่นอาจทำให้คนฟังส่วนใหญ่ติดภาพจำที่ว่า “GETSUNOVA” จะมีแต่เพลงรัก เพลงซึ้ง แต่การกลับมาของเขาครั้งนี้จะทำให้เราลืมภาพเดิม ๆ ของพวกเขาไปเลยกับเพลงใหม่ที่ชื่อว่า “รู้ดีว่าไม่ดี” ที่ได้แร็ปเปอร์กำลังมาแรงในขณะนี้อย่าง YOUNGOHM มา Featuring กับเพลงสไตล์ใหม่ของวง ที่แปลกตากันตั้งแต่รูปโปสเตอร์ไปจนถึง MV เอง วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาพูดคุยถึงการ UNLOCK สไตล์ใหม่กับหนุ่ม ๆ “GETSUNOVA” กัน ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรกันมาบ้าง? เล่าถึงการกลับมาของตัวเองครั้งนี้หน่อย ? นต : จริงๆมันผ่านช่วงที่เราปล่อยเพลงมาสักระยะหนึ่ง เราเองก็ปล่อยเพลงล่าสุดชื่อว่า “พัง” ไปประมาณปีที่แล้ว หลังจากนั้นเราเองก็อยากทำอะไรที่ตื่นเต้นมากขึ้น ตอนเราปล่อยเพลง “พัง” ไปเรารู้สึกว่ามัน Success แล้วก็มีคนฟังเยอะ แต่ว่ามันยังเป็นเพลงเก็ตสึโนว่าที่ทุกคนเดาออก มันก็คือเพลงช้า เพลงเพราะ เพลงซึ้ง ทุกคนเดาได้หมดเลย เราเลยรู้สึกว่ามันขาดอะไรบางอย่างที่มันยังไม่สนุกเท่าไหร่
“ลูกผู้ชาย แม้วายชนม์ แต่ผู้คนยังจารึก” หนึ่งในความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการดนตรียุค ‘90 ก็คือจากไปของ Kurt Cobain ชายผู้แผ่ขยายอิทธิพลของดนตรี Grunge ให้มันส์กันถึงระดับโลก น่าเศร้าที่ฟร้อนต์แมนวง Nirvana จบชีวิตตัวเองด้วยอาวุธปืนเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1994 ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น แม้การตายของเขาจะทำให้ความนิยมดนตรี Grunge ค่อย ๆ จางลง แต่ทุกวันนี้ผู้คนยังอินกับผลงานของ Nirvana อยู่ เพลงเด่น ๆ อย่าง Smells Like Teen Spirit, Heart-Shaped Box, Lithium, Come as You are และ In Bloom มียอดวิวบน YouTube รวมกันมากกว่า 1,300 ล้านวิว หลายเพลงของยอดวงจากเมือง Aberdeen ในสหรัฐฯ ก็ถูกนำไปเล่นคัฟเวอร์กันมันส์ตั้งแต่ในวงเหล้ายันคอนเสิร์ตใหญ่ และไม่มีใครสงสัยในความอมตะของอัลบัม Bleach
คราวที่แล้ว UNLOCKMEN ชวนผู้ชายเล่นกีตาร์ไปแล้ว หากใครพลาดสามารถติดตามได้ที่ เล่นแบบเซียนเหมือนเรียนมา! 5 Youtube Channel สอนเล่นกีต้าร์ ให้เรียนแบบฟรี ๆ ต่อไปนี้สาวหลงแน่นอน วันนี้จะเป็นอีก Talent ที่มัดใจสาว ๆ เพิ่มความน่าหลงใหลได้อีกสกิล จะเป็นสกิลไหนไปไม่ได้นอกจาก “การร้องเพลง” แถมเป็นการเรียนร้องเพลงโดยไม่เสียเงินสักบาท เตรียมลูกคอให้พร้อม แล้วมาฝึกร้องไปพร้อมกัน James Academy อะไรจะดีไปกว่าการฝึกร้องเพลงกับนักร้องอย่าง “เจมส์ เรืองศักดิ์” เจ้าของเพลงฮิตติดหูยุคอาร์เอสเฟื่องฟูแบบปรอทแตก ไม่ว่าจะเป็น “ไม่อาจเปลี่ยนใจ” “ข้าวมันไก่” “ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ” โดยแนะนำกันตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคแบบละเอียดยิบ ตามแบบฉบับนักร้อง โดยแยกเพลย์ลิสต์เป็นหมวดหมู่ให้ได้ติดตามกันแบบง่าย ๆ อย่างนี้พลาดไม่ได้แล้วล่ะ KruKeaw Academy เปลี่ยนบรรยากาศมาฝึกเส้นเสียงกับสาวสวยกันบ้าง กับ “ครูแก้ว” สาวสวยเสียงดี ที่จะมาแนะนำเทคนิคต่าง ๆ แบบมืออาชีพให้เราได้ร้องตาม และยังมีตารางการฝึกร้องเพลงรายสัปดาห์ให้เราได้ฝึกตามสำหรับคนที่อยากเพิ่มวินัยในการฝึก เริ่มต้นร้องเพลงแบบจริงจัง โดยไม่ต้องไปเรียนร้องเพลงแบบเสียเงินกันสักบาทเดียว BlockATV True54.70 แชแนลนี้มีรายการเยอะและค่อนข้างวาไรตี้ ครอบคลุมทุกแนว รวมไปถึงเทคนิคการร้องเพลงแบบ
ศิลปินที่ชอบร้องเพลงในบรรยากาศที่ใช่ เป็นหนึ่งในหนทางปลดปล่อยตัวตนที่เราทุกคนรอคอย แต่ถ้าใกล้วันจัดคอนเสิร์ตหลังจากที่ซื้อตั๋ว Early bird หรือเข้าสมรภูมิแย่งตั๋วฟาดฟันกับคนอื่น ยื่นลางานพร้อมจองที่พักและนัดสาวไว้เสร็จสรรพ แต่กลับต้องไปเจอหน้าเพจคอนเสิร์ตเกิดประกาศว่า “ยกเลิก” เราเชื่อว่าจากมาตรวัดความสุขที่ล้นปรี่ ต้องตกฮวบย้ายไปที่อาการเฟลสุด ๆ ส่ออาการหัวร้อนแบบที่ต่อให้ออกมาคืนเงินก็ยังไม่หาย! แต่มองในฐานะคนซื้อตั๋วอย่างเดียวอาจจะไม่แฟร์ เพื่อให้เท่าเทียมเรามาดูเหตุผลของการโดนเทกันสักหน่อยว่าเบื้องหลังมันมาจากอะไรกันแน่ จาก 5 คอนเสิร์ตสุดเฟลพร้อมเบื้องหลังของเหตุผลเหล่านี้ 1. เสม็ด อินเลิฟ คอนเสิร์ต / Samed in Love เฟลยาวแบบไม่มีวันหวนกลับ สำหรับคนเคยอินเลิฟเสียงเพลงริมเกาะเสม็ดมันส์ กระโดดบนพื้นทรายนิ่ม ๆ ริมหาดต้นตำรับ “เกาะเด็ดเสร็จทุกราย” และติดตามมาข้ามน้ำข้ามทะเลไปครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 7 แต่พอครั้งที่ 8 ก็เจอตอ ทำให้ต้องปิดฉาก งดจัดไปถาวรท่ามกลางความเฟล สุดท้ายครั้งนี้ลงเอยด้วยการก็คืนตั๋วราคาเต็ม 100 % ใครที่ตกขบวนไปไม่ทัน หรือตกข่าวว่าเพราะอะไร เขามีจดหมายอธิบายไว้ให้ด้วย เหตุผลหยุดจัด: อันนี้ถือว่าน่าสงสารคนจัดเหมือนกันแต่เป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะมีเหตุผลจำยอมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากตอนแรกที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ดออกมาห้ามจัดเพราะอยู่ในช่วงงดรื่นเริงดอกแรกเพื่อถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไป ๆ มา ๆ โดนดอกที่สองเข้าไปเพิ่มเรื่องการจัดการ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งาน Facebook เยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หลายคนจึงเริ่มต้นสร้าง Facebook Page ขึ้นมาเพื่อรวบรวมแฟนเพจให้ได้เยอะที่สุด บางเพจสร้างขึ้นมาโดยตั้งใจแค่ให้มีคนติดตามเยอะ ๆ ไม่สนใจวิธีการ คุณภาพ หรือความถูกต้องอะไรทั้งนั้น ทำเอาคนส่วนใหญ่เอือมระอาไปตาม ๆ กัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำแบบนั้น เพราะมีเพจคุณภาพดีอีกมากมาย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเพจที่เราเข้าไปอ่านเป็นประจำก็คือ “โถชีวิตนักดนตรี” เพจอารมณ์ดีที่รวมนักดนตรีจากทั่วสารทิศ ให้เข้ามาแชร์ประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ฮา ๆ บางครั้งก็เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือเพื่อนนักดนตรีที่ประสบปัญหา เรียกว่าเป็นเพจอารมณ์ดี มีประโยชน์ของจริง คนที่เราต้องยกเครดิตให้ ในฐานะที่เป็นผู้สร้าง Community ชั้นดีแบบนี้ขึ้นมาได้ ก็คงต้องยกให้ฝีมือของ ‘พี่สึด’ นักดนตรีอารมณ์ดีเจ้าของเพจ เพราะเพจนั้นจะมีคาแรคเตอร์ยังไง ก็ต้องมาจากตัวตนของคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่ไม่ง่ายเลยที่เราจะหาทางพูดคุยกับเค้าได้ เพราะพี่สึดไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่ไหนมาก่อน จนกระทั่งวันนึงความพยายามเริ่มออกผล เราได้มีโอกาสเชิญพี่สึดมาที่ออฟฟิศของ UNLOCKMEN เพื่อนั่งคุยกันเกี่ยวกับเพจของเค้า แม้เราจะตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวจริงของพี่สึด แต่สิ่งที่เราได้เจอคือพี่สึดในหัวม้า เดินเข้ามาในออฟฟิศเราซะงั้น เอาไงเอากัน เราจึงตัดสินใจ Interview พี่สึดในร่างม้าอาชาศึกซะเลย ไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของพี่สึด
ช่วงหลังมีศิลปินเจ๋ง ๆ บินมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ส่วนศิลปินไทยเองก็บรรเลงแบบไม่หยุดหย่อน มิวสิคเฟสติวัลดี ๆ ก็มีให้ไปเพียบ อารมณ์ที่ค้างอยู่จากคอนเสิร์ตที่ไปดูมายังไม่ทันหมด ก็ต้องออกไปโยกหัวกันอีกงานแล้ว แหม่ เล่นซะเงินในกระเป๋าเบาลงไปเยอะ แต่เพื่อแลกกับความมันส์กับวงที่ชอบก็ถือว่าคุ้ม แถมได้ประโยชน์แฝงที่เราไม่ได้โฟกัสถึงมันอย่างความฟิตของร่างกายอีกด้วย ทีมงาน UNLOCKMEN มีสถิติใหม่ที่แสดงให้เห็นว่ายิ่งเรามันส์เท่าไหร่ในการดูคอนเสิร์ตยิ่งทำให้เราฟิตขึ้นราวกับได้การ cardio จริง ๆ มาให้ดู โดยตัวเลขที่จะเล่าให้ฟังนี้คือค่าเฉลี่ยจำนวนก้าวขยับก้าวและอัตราการเต้นของหัวใจของคนที่กำลังเสพไลฟ์โชว์อย่างเมามันส์ในอังกฤษ ที่วัดโดยสายรัดข้อมือสุขภาพ Fitbit การวัดค่าดังกล่าวแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 5 กลุ่มที่ดูคอนเสิร์ตต่างแนว ประกอบด้วย grime, electronic, pop, R&B และ indie และผลที่ได้ออกมาดูเหมือนว่าแนว grime ที่ถือกำเนิดในอังกฤษ ซึ่งมีองค์ประกอบของแนว UK garage, dancehall, hip hop และ drum ’n’ bass จะทำให้เราฟิตกว่า genre อื่น โดยจำนวนการขยับก้าวเฉลี่ยของคนที่ดูคอนเสิร์ตแนวนี้อยู่ที่ 7,635 ก้าว มากกว่าค่าเฉลี่ยจำนวนก้าวต่อวันของผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรเกือบ 3 เท่า และพอ ๆ กับการวิ่งรอบสนามฟุตบอล 14 รอบ อ่าว
ดนตรีเป็นอีกเสน่ห์ที่ดึงดูดสาว ๆ ได้อย่างดี เพียงแค่หยิบกีต้าร์ขึ้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ ก็ตีบวกคะแนนพิศวาสไปได้แบบรัว ๆ หากไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงก็อย่าเพิ่งท้อใจกันไป แค่ไม่หยุดเรียนรู้ เราก็เจ๋งได้ แค่ลองเปิดใจ มาเรียนกีต้าร์กันแบบออนไลน์บนแชแนลยูทูป ที่สำคัญคือฟรี! วันนี้ UNLOCKMEN มาแนะนำ 5 แชแนลยูทูปสอนเล่นกีตาร์ เรียนกันแบบฟรี ๆ ไม่ว่าจะเล่นเพราะจีบสาวหรือเพราะ Passion ที่รักดนตรี ปลายทางก็คือการได้บรรเลงแต่ละตัวโน้ตด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรีเหมือนกัน GuitarJamz คลิก เริ่มต้นเรียนกีต้าร์แบบเบสิคสุด ๆ กับหนุ่มอารมณ์ดีที่มาพร้อมกับสำเนียงที่ฟังง่ายอย่าง Marty Schwartz, Bret Papa, Tim Pierce, John Konesky และอีกหลายคนที่จะมาแจมบ้างในบางคลิป สอนเรากันแบบตั้งแต่เบสิคเริ่มหัดกันเหมือนหยิบจับกีต้าร์ครั้งแรก สอนละเอียดแบบทุกดีเทล แม้ว่าจะไม่เคยเล่นมาก่อนก็สามารถเล่นเป็นได้ เพราะคลิปการสอนจะมีหลายเลเวลให้เราได้ขยับไปเรื่อย ๆ ตามความถนัดของเรา Let’sPlayGuitar! คลิก ใครมาแนว Fingerstyle ขอแนะนำแชแนลนี้เลย สอนแบบละเอียดแบบเจาะลึกเป็นเพลง ๆ ไปเลย โน้ตต่อโน้ต ให้ได้เล่นตามกันแบบง่าย ๆ ไม่ต้องกดสโลว์
ห้วงเวลาของความผิดหวังเป็นเวลาที่ทุกคนต้องเคยเผชิญกันมาแล้วอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นคนร่าเริงขนาดไหน แต่ความเศร้าที่เป็นเหมือนเมฆหมอกคอยบดบังแสงอาทิตย์ พาให้ความสดใสที่เคยมีหายไป เหลือแต่คนที่ห่อเหี่ยวเหมือนผักเหี่ยวค้างในตู้เย็น ไม่ว่าจะเศร้าเรื่องอะไรก็ตาม แต่ให้ตายเถอะ เปิดเพลงฟังทีไรก็ยังจะเลือกเพลงเศร้าไว้คอยตอกย้ำตัวเองอยู่ดี (ถ้ายังไม่มีไอเดียเพลงเศร้า เราขอเสนอ Drunk and Drown: Playlist คนเศร้า ขอเหล้าขม ๆ ให้จมน้ำตากันไปข้าง) UNLOCKMEN จะพามาหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงฟังเพลงเศร้าแม้ว่าเราจะเศร้าจะตายอยู่แล้วก็ตาม ทบทวนเหตุการณ์ เราไม่ได้อยากจะซ้ำเติมตัวเองกันนักหรอก แต่ในเมื่อเรื่องราวมันแย่ขนาดนี้ เราก็แค่อยากทบทวนตัวเองเท่านั้นเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วเราทำอะไรลงไปบ้าง การฟังเพลงก็เหมือนเป็นการรีรันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกเพลงที่เรื่องราวตรงกับเรื่องของตัวเองกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? เราก็จะได้ทบทวนเรื่องราวของตัวเองที่ซ่อนอยู่ในแต่ละโน้ตของเพลง เหมือนเราได้กลับมาทบทวนกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย ความเจ็บปวดบนความสวยงาม ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่า “ดนตรี” ยังคงเป็นอีกความสุนทรีย์ที่เรารื่นรมย์ไปกับมันได้เสมอ แม้ว่ามัน(และเราเอง)จะอยู่ในมู้ดแห่งความเศร้าก็ตาม อาจจะมีเนื้อเพลง มู้ดแอนด์โทนของเพลงที่เศร้าไปบ้าง แต่ดนตรีก็คือสิ่งที่เราดื่มด่ำกับหลายอย่างประกอบกัน คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ก็ยังคงแฝงตัวอยู่ในทุกตัวโน้ต เราจึงได้ฟีลเจ็บปวดบนความสวยงามของดนตรีนั่นเอง เหมือนมีใครสักคนรับรู้เรื่องราวของเรา อย่างที่บอกว่าหลายครั้งเรามักเลือกเพลงที่มีเรื่องราวตรงกับเรื่องของเรา เพราะว่านั่นหมายถึงเราไม่ได้พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เพียงคนเดียว อย่างน้อยก็ยังมีเพลงนี้ที่ยังเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ช่วยให้เรารีแลกซ์ขึ้นมาอีกนิดว่าเราไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงลำพังนั่นเอง แม้ว่าจะตรงนิดหน่อยแค่ท่อนสองท่อน แต่คนมันเฮิร์ทอะ แค่นั้นความรู้สึกก็อินจนรู้สึกว่าเพลงนี้แม่งตรงกับชีวิตเราซะเหลือเกิน (ทั้งที่จริงตรงอยู่สองท่อน) ใครที่มีเพื่อน ๆ พี่น้องคอยปลอบใจเป็นที่ระบายก็ดีไป แต่บางคนที่ไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้ก็คงต้องพึ่งเพลงที่มันตรงกับชีวิตแบบนี้แหละคอยเป็นเพื่อนที่ร่วมเหตุการณ์เดียวกัน ฟังเพลงเศร้ามันจะเศร้ามากขึ้นหรือจะรู้สึกดีขึ้นกันแน่? เรามาฟังคำตอบจากนักวิจัยอย่าง Taruffi