พวกเราน่าจะอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการรถยนต์จากเครื่องยนต์เผาไหม้ไปสู่พลังงานไฟฟ้า เพราะตอนนี้เรียกว่าเกือบทุกค่ายต่างนำเสนอโมเดล Full Electric Vehicle ประเดิมชัยกันใหญ่โต และล่าสุดก็มาถึงคิวของ Mini กันบ้าง หลังจากชักเข้าชักออกอยู่พักใหญ่ ก็ได้ฤกษ์อวยชัยเผยวันเปิดตัว All-Electric Mini คันแรกในเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้แน่นอน ในขณะที่หลายค่ายนำเสนอรถ EV ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป แต่สำหรับ Mini การคงไว้ซึ่งคาแรคเตอร์ของตัวเองเป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้พลังงานขับเคลื่อน เราจึงจะไม่ได้เห็นหน้าตาภายนอกที่มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก Mini Cooper MY ปัจจุบันแต่อย่างใด นอกจากจะเป็นการเก็บรักษาความ Classic ของรูปโฉมเอาไว้ ต้องยอมรับว่ารูปโฉมของ Mini ก็มีความ Modern ล้ำสมัยมากพอโดยไม่ต้องเปลี่ยนลวดลาย ไฟหน้า หรือล้อขนาดใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ จะมีก็เพียงแค่ขุมพลังที่ถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งไม่ได้เน้นแรงบ้าระห่ำอย่างที่ใครเค้าแข่งขันกัน แต่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า Mini Electric จะมากับแบตเตอรี่ไฟฟ้าและมอเตอร์พลังงาน 135Kw หรือราว 181 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด
ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เก่าแก่ระดับโลกที่เหล่าบรรดาผู้หลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งเรือนเวลารู้จักกันดี กับแบรนด์ Longines (ลองจินส์)อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนวัตกรรมเวลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยืนหยัดมายาวนานกว่า 187 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ริเริ่มผลิตนาฬิกาในปี 1832 ที่เมือง Saint-Imier ก่อนที่จะใช้ชื่อ Longines ซึ่งเป็นการนำเอาชื่อบริเวณที่ตั้งโรงงานมาใช้เป็นชื่อแบรนด์อย่างเป็นทางการ จากวันนั้นถึงวันนี้ชื่อเสียงของ Longines และโลโก้นาฬิกาทรายติดปีกกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก ในเรื่องของความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบหรู ผสานเข้ากับเทคโนโลยีการบอกเวลาทรงประสิทธิภาพ จนได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมาย รวมถึงเป็นพันธมิตรกับสมาพันธ์กีฬานานาชาติ ทำให้ชื่อของ Longines เป็นส่วนหนึ่งของโลกกีฬามาโดยตลอด และคุณสมบัติเด่นเหล่านั้นได้รับการถ่ายทอดมาสู่เรือนเวลาคอลเลคชัน Longines Sport ซึ่งมี Longines HydroConquest ยืนหนึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม ด้วยรูปลักษณ์ และฟังก์ชั่นตอบโจทย์โดนใจผู้ที่หลงใหลการออกผจญภัยในกีฬาทางน้ำ แต่ขณะเดียวกันภายใต้ดีไซน์สปอร์ตนั้นก็ยังคงความเรียบหรูสง่างามอันเป็นหัวใจของแบรนด์ไว้ได้เป็นอย่างดี THE NEW HYDROCONQUEST หลังจากที่ Longines เปิดตัวนาฬิกาขอบตัวเรือนเซรามิกสีต่าง ๆ ในคอลเลกชัน HydroConquest ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดยังได้มีการเติมความสมบูรณ์แบบให้กับคอลเลกชัน HydroConquest อีกครั้ง ด้วยเรือนเวลาโฉมใหม่ขยี้ใจคนชอบของดำด้วย All-black ceramic version ผลิตจากเซรามิกสีดำทั้งตัวเรือน ที่ยังคงสะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากโลกกีฬาทางน้ำ ผสมผสานเข้ากับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีการผลิต และความเท่แบบหรู ๆ ดูมีระดับตามสไตล์ Longines เอาไว้อย่างชัดเจน สำหรับวัสดุที่ใช้นั้นขอบอกว่าไม่ใช่เซรามิกแบบไก่กา แต่ Longines HydroConquest โฉม All-black มาพร้อมตัวเรือนที่ผลิตขึ้นจาก