Balenciaga เปิดตัวแคปซูลคอลเลคชั่นเพื่อสนับสนุนบริการช่วยเหลือสัตว์ที่มีชื่อว่า I Love Pets ประกอบด้วยเสื้อยืด เสื้อฮู้ด กระเป๋า และเครื่องประดับ โดยรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้า I Love Pets ในครั้งนี้จะนำไปบริจาคให้กับ La SPA องค์กรการกุศลด้านการคุ้มครองสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส จี้ประดับ ตุ้มหู กระเป๋าผ้า และเสื้อผ้าบางส่วนของ I Love Pets มีการพิมพ์ภาพถ่ายที่ใกล้ชิดของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการช่วยเหลือโดยพนักงาน Balenciaga เป็นเจ้าของ และวลีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น I Love Cats, I Love Dogs, Meow และ Woof Woof นอกจากนี้ยังมีหมายเลขโทรศัพท์ที่จะนำผู้โทรไปยังสายด่วน Balenciaga ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับสัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิง และเว็บไซต์ซึ่งพิมพ์อยู่บนสินค้าที่จะนำไปสู่หน้าแรกของเว็บในสไตล์ย้อนยุคที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความตระหนักถึงชะตากรรมของสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและตัวเลือกสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีความหวัง เสื้อผ้าและกระเป๋ามีหลากหลายสีและหลากหลายไซส์ สำหรับผู้ชายและผู้หญิง แหวนโลหะสีทองและสีเงิน สร้อยคอ และจี้ประดับที่รูปกระดูก มีประทับโลโก้ Balenciaga ไว้ด้วย
Balenciaga กับ Football culture สองความ Hype ที่เข้าใกล้กันมาตั้งแต่ยุคของ Creative Director ‘Demna Gvasalia’ เราได้เห็นการนำ Football jerseys และรองเท้าสตั๊ดถูกนำมาใช้นอกสนามแข่ง กลายเป็น Street Fashion สุดเท่ที่ได้รับความนิยมมากในยุโรป และใน collection FW20 เราก็ได้พบกับ “Soccer” sneaker อีกครั้งในโทนสี “Fluo Yellow” Balenciaga “Soccer” sneaker สี Fluo Yellow ผลิตจากวัสดุโพลียูรีเทน น้ำหนักเบาเพียงข้างละ 220 กรัม รูปทรงทุกอย่างถอดจากรองเท้าสตั๊ดที่กระชับเข้าเท้า และ outsole ที่มีปุ่มยึดเกาะมากถึงข้างละ 13 จุด ลิ้นรองเท้าทำจากหนังพิมพ์โลโก้ Balaenciaga ให้เห็นว่านี่คือของดี และบริเวณส้นเท้าโค้งกระชับ พร้อมปักสัญลักษณ์ BB สีดำ ตัดกับรองเท้าสีเหลืองได้อย่างลงตัว มีการโชว์ตะเข็บด้ายที่เย็บเป็นลวดลายทั่วรองเท้า เสริมอารมณ์สปอร์ตให้ Balenciaga
เข้าสู่ช่วงเวลาของปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงมีแผนพาตัวเองออกจากบ้านไปต้อนรับมวลความเย็นที่เข้ามาทักทาย ซึ่งอากาศที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เราหันมาใส่ใจในเรื่องเครื่องแต่งกายกันมากขึ้น และรองเท้าคือหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ควรมองข้าม นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานของรองเท้าที่ต้องสวมใส่สบาย ตอบสนองการเคลื่อนไหวได้ดี อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือดีไซน์สวยงาม สามารถหยิบมาจับคู่กับเสื้อผ้าสไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว เพราะต่อให้มีท่อนบนที่ดูดีแค่ไหน ถ้ารองเท้าไม่แมตช์ก็ทำให้ทั้งลุคเสียความมั่นใจไปได้เลย ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากแนะนำให้ชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้รู้จักกับรองเท้าในเฉดสีเอิร์ธโทน สีที่กำลังได้รับความนิยม และเป็นสีที่วงการแฟชั่นทั่วโลกต่างยกให้เป็นสีที่เข้ากับช่วง Winter มากที่สุด พร้อม Style Guide แนะนำข้อมูลและวิธีเลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่รับลมหนาวที่กำลังมาเยือน ปิดท้ายด้วยการชี้เป้า “Earthy Transitions” คอลเลกชันใหม่ล่าสุดจากแบรนด์รองเท้า Camper (แคมเปอร์) ที่ต้องบอกเลยว่าสีสัน ดีไซน์ วัสดุและคุณภาพนั้นเหมาะสำหรับแต่งหล่อเดินสบายในสไตล์ Winter Look อย่างแน่นอน เอิร์ธโทน (Earth Tone) หมายถึงโทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ประกอบไปด้วยโทนสีหลักคือสีน้ำตาล, สีเขียว, สีเทาอ่อน และสีฟ้า ที่เราสามารถพบเห็นได้จากท้องฟ้า ก้อนหิน พื้นดิน โดยมีการแบ่งออกเป็นเฉดสีที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นสีน้ำตาล ซึ่งมีทั้งสีน้ำตาล Burnt Umber, สีน้ำตาล
เข้าสู่ช่วงสิ้นปีที่ลมหนาวเข้ามาทักทายแบบนี้ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับหนุ่ม ๆ ผู้ชื่นชอบการแต่งตัวทุกคน โดยเฉพาะคนนี้กำลังวางแผนไปเดินทางไปต้อนรับลมหนาวถึงที่ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นที่ไหน แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ เครื่องแต่งกายที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของสไตล์และฟังก์ชันการใช้งาน และสำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหาเสื้อตัวใหม่มาสวมใส่ในช่วงเวลานี้ Flannel Shirt คือเสื้ออีกชนิดที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนหยิบออกจากตู้มาสวมใส่กันอีกครั้งหนึ่ง แต่จะเป็นเพราะเหตุผลอะไรและมีเทคนิคการสวมใส่ยังไงบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ ทำความรู้จัก Flannel Shirt Flannel Shirt คือเสื้อเชิ้ตผ้าสักหลาดที่ถักทอมาจากขนสัตว์ (Wool) ฝ้าย (Cotton) รวมถึงผ้าใยสังเคราะห์ (Synthetic Fabric) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเวลส์ในศตวรรษที่ 17 พร้อมคุณสมบัติเฉพาะตัวของการเป็นผ้าที่มีเนื้อเบาสบายที่สามารถรักษาความอบอุ่นได้ดี โดยนอกจากจะเหมาะสมกับการนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ว ผ้า Flannel ยังถูกนำมาใช้ตัดเย็บเป็นผ้าห่มและผ้าปูที่นอนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามักมีคนที่เข้าใจผิดและคิดว่า Flannel Shirt คือเสื้อเชิ้ตลายสก็อตซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะเสื้อลายสก็อตเป็นเพียงชนิดย่อยของ Flannel Shirt ที่ถูกเรียกว่า Flannel Plaid หรือ Plaid เท่านั้น โดยความหมายถูกต้องของ Flannel Shirt
ในที่สุดหนุ่ม ๆ ชาวไทยก็ได้สัมผัสกับอากาศเย็นกันเสียที หลังจากเก็บเสื้อผ้าหนา ๆ ไว้ในตู้ตลอดทั้งปี เพื่อรอคว้ามาใส่รับลมหนาวช่วงสั้น ๆ โดยอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับอุณหภูมิแบบนี้ก็คือ แจ็คเก็ต (Jacket) สวย ๆ มาเพิ่มสไตล์สักตัว แจ็คเก็ต ถือเป็นเครื่องแต่งกายอีกชิ้นที่สำคัญต่อผู้ชายอย่างเรา เพราะประโยชน์ของไอเทมชิ้นนี้นอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายจากอากาศเย็นแล้ว ในฤดูกาลอื่นก็สามารถหยิบมาสวมใส่กันแดดหรือลมได้ ที่สำคัญคือแจ็คเก็ตเป็นไอเทมที่มีดีไซน์สารพัดรูปแบบ ช่วยให้คนที่หยิบจับมาสวมใส่สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ตามต้องการ แม้แจ็ตเก็ตจะมีหลากหลายสไตล์ แต่วันนี้ STYLE GUIDE อยากมาแนะนำเสื้อแจ็คเก็ต 5 สไตล์ที่ผู้ชายอย่างเราควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้ เพราะสามารถหยิบมาใช้งานและเปลี่ยนสไตล์ให้ตัวเองได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าวันอากาศหนาวหรือร้อน แบบครอบคลุมทุกวันสบาย ๆ และวันสำคัญ Coach Jacket หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ารูปแบบแจ็คเก็ตชนิดนี้ที่ถูกต้องที่สุดเป็นอย่างไร? แต่คำจำกัดความง่าย ๆ ของ Coach Jacket คือ “มีคอปก กระดุมแบบติดด้านหน้า พร้อมกับกระเป๋าตรงสะโพกทั้งสองด้าน” กระแสแฟชั่นในปัจจุบันก็ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ พัฒนารูปแบบดั้งเดิมของแจ็ตแก็ตที่ใส่โดยโค้ชกีฬาตัวนี้ให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุไนลอนหรือลวดลาย How to Wear: Coach Jacket มีข้อดีคือเป็นแจ็คเก็ตหนักเบาและส่วนใหญ่มักจะกันน้ำ โดยสามารถเข้าคู่กับกางเกงหลายรูปแบบ
การเที่ยวกลางคืน ถือเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ผู้ชายหลายคนคงเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คืนวันศุกร์จะมาถึง จะได้ไปเที่ยวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อนฝูงให้หายเครียดสักที ซึ่งการไปเที่ยวกลางคืน เราอาจต้องให้ความสำคัญกัยบการแต่งตัวของเราด้วย เพราะการแต่งตัวดีจะช่วยให้เราสามารถเอนจอยกับงานรื่นเริงในยามค่ำคืนได้มากขึ้น เข้าหาคนได้ง่ายขึ้น และมีความโดดเด่นมากขึ้นด้วย เมื่อการแต่งตัวไปเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญอย่างที่บอกไปแล้ว UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำเทคนิคในการแต่งตัว ‘สีขาวดำ’ หรือ monochrome style ซึ่งเป็นสไตล์ยอดฮิตในหมู่คนไปเที่ยวกลางคืน เสื้อตัวนอก การใส่เสื้อตัวนอกไปเที่ยวกลางคืนด้วยจะช่วยเพิ่มความสมาร์ทและความเนียบให้กับเรามากขึ้น เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนใส่เสื้อ 2 ชั้นเวลาไปเที่ยวกลางคืน ถ้าอากาศไม่ร้อนเกินไป จะช่วยให้เราดูดีในสายตาสาว ๆ มากขึ้น ซึ่งเทคนิคในการเลือกเสื้อนอก เราอยากแนะนำว่า ให้ลองไอเท็มคลาสสิกอย่าง เสื้อแจ็คเก็ตหนัง จะช่วยให้เราดูเท่แบบสายลุย แค่ถ้าอยากได้ลุคที่มีความจริงจังและความเนียบมากขึ้น ให้ลองเปลี่ยนจากเสื้อหนัง เป็น เบลเซอร์ และที่สำคัญ เวลาไปเที่ยวกลางคืน เราควรใส่เสื้อนอกสีเข้ม เช่น สีดำ เพราะเวลาเราอยู่ในพื้นที่อับแสง เสื้อสีอ่อน เช่น สีขาว มักจะไม่โดดเด่น และถูกกลืนไปในความมืดได้ง่าย เสื้อผ้าสีดำจึงมีความโดดเด่นมากกว่า เสื้อตัวใน เราจะขอพูดถึงทั้งเวลาใส่เสื้อตัวเดียว หรือ ใส่เสื้อ 2 ชั้น
หนังที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็น START-UP ซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพที่กำลังฉายอยู่บน Netflix ในขณะนี้ หลายคนที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็คงได้ประกาศตัวเข้า #ทีมหัวหน้าฮัน หรือ #ทีมนัมโดซาน ซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความยากในการเริ่มทำธุรกิจแล้ว ยังทำให้เราเห็นถึงความเท่ของแฟชั่นเกาหลียุคใหม่ด้วย ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปดูว่าการแต่งตัวของตัวละครในเรื่องนี้มีความเท่อย่างไรบ้าง ABOUT START-UP START-UP เป็นซีรีส์เกาหลีที่มีเนื้อหาตามชื่อ คือ เล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวละครหลัก คือ ซอดัลมี (ซูจี) หญิงสาวผู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากทำงานพาร์ทไทม์มาอย่างโชกโชน และวันหนึ่งอยากเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง จึงได้เข้าร่วม Sandbox การแข่งขันสตาร์ทอัพสุดโหดหินที่เฟ้นหาธุรกิจสตาร์อัพที่น่าสนใจ และผู้ชนะจะได้รับเงินในการทำธุรกิจกว่า 100 ล้านวอน ระหว่างเข้าร่วม Sandbox ซอดัลมีได้ทำงานร่วมกับ 3 สหายจากธุรกิจเทคโนโลยี ‘Samsan Tech’ (นัมโดซาน (นัมจูฮยอก), คิมยงซาน (คิมโดวาน), อีชอลซาน (ยูซูบิน)) และจองซาฮา (สเตฟานี ลี) ดีไซนเนอร์สาว เพื่อพัฒนาสุดยอดธุรกิจที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้ ซึ่งได้ ฮันจีพยอง (คิมซอนโฮ) สุดยอดนักลงทุนจาก SH Venture
เเคมเปอร์ (Camper) เผยคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Earth Calling ชวนคุณจินตนาการถึงนอกโลกอันเวิ้งว้างและไกลโพ้น ทั้งสี, ดีไซน์, รูปทรง ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตต่างได้รับเเรงบันดาลใจจากพื้นผิวและสีสันในห้วงอวกาศ จนกลายเป็นคอลเล็กชั่นเหนือจินตนาการ หากพูดถึงเบื้องลึกของแคมเปอร์คอลเล็กชั่นล่าสุดนี้ เป็นการนำพวกเราเดินทางไปอวกาศผ่านงานเรื่องราวการออกแบบที่เกี่ยวกับโลกไปจนถึงดินแดนอันไกลโพ้นของจักรวาล ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นรองเท้าไอคอนิกรุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมและภาพลักษณ์อันล้ำสมัย จึงรังสรรค์รองเท้าแคมเปอร์รุ่นนี้ขึ้นเพื่อถ่ายทอดให้เห็นถึงการค้นหาที่ไม่สิ้นสุดของจักรภพนี้ สำหรับรุ่นที่ถือเป็นไฮไลท์ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 นี้ คงหนีไม่พ้นรองเท้าดีไซน์สวย และเหมาะกับการใช้งานอย่าง Brutus รองเท้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าแคมเปอร์รุ่นฮิตตลอดกาลอย่าง Peu ที่มีความโดดเด่นเรื่องส่วนเว้าโค้งไปตามรูปเท้า มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Basket Shoes และ Boots สำหรับหนุ่มสาวในเมืองสามารถแมทช์ลุคเท่ แต่ยังคงความทะมัดทะแมงไว้ได้อย่างน่าค้นหา มาต่อที่อีกรุ่นอย่าง Bark รองเท้าที่ออกแบบมาเอาใจสายสปอร์ต ที่ไม่ได้แค่เป็นสนีกเกอร์ แต่ยังสะท้อนถึงแฟชั่นในสไตล์เรโทร (Retro) ด้วยการแต่งแต้มสีแดง สีน้ำตาล และสีชมพู เพื่อเพิ่มความเก๋ยิ่งขึ้น และอีกความโดดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือ พื้นรองเท้าที่เป็นยางแบบขุรขระ เพื่อปกป้องและกระชับเท้าของผู้ใส่ให้สามารถออกผจญภัยได้อย่างไร้กังวล สำหรับรุ่น Circular ที่ครั้งนี้มาในแนวโลกอนาคต ด้วยดีไซน์สุดล้ำ ตั้งแต่ลวดลาย, โทนสี
รองเท้า คือหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ผู้ชายอย่างเราให้ความสำคัญ จึงไม่แปลกที่หนุ่ม ๆ แต่ละคนจะมีรองเท้าหลากรุ่นหลายสไตล์เก็บเอาไว้ในครอบครองสำหรับสวมใส่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่หรือรองเท้ารุ่นคลาสสิก ขณะเดียวกัน ทุกคนคงทราบดีว่ารองเท้ารุ่นคลาสสิกที่เราเห็นในปัจจุบันหลายรุ่น ต่างมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น “รองเท้ากีฬา” ไม่ว่าจะเป็น Converse Chuck Taylor Allstar ที่มีพื้นฐานจากการเป็นรองเท้าบาสเกตบอล หรือ Adidas Stan Smith ที่พัฒนามาจากรองเท้าเทนนิส ซึ่งต่อมารองเท้าทั้ง 2 รุ่นก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและกลายมาเป็นโมเดลรองเท้าที่อยู่เหนือกาลเวลาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากรองเท้าที่มีพื้นฐานมาจากกีฬาอย่างบาสเกตบอลหรือเทนนิสแล้ว ยังมีรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันในโลกความเร็วอย่าง Formula1 กับรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “Puma SpeedCat” และวันนี้เราจะพาทุกคนไปกับความรู้จักกับ Racing Shoe คู่นี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน ! กำเนิด Racing Shoes ก่อนจะพูดถึงรองเท้าสำหรับสวมใส่ขับรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับรองเท้าสำหรับแข่งรถ (Racing shoe) คู่แรกของโลกกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปในปี 1963 เมื่อ Gianni Mostile ช่างทำรองเท้าชาวอิตาลีได้ทำการจดสิทธิบัตรรองเท้าสำหรับแข่งรถที่ตัวเขาออกแบบขึ้นมาเองกับมือ งานดีไซน์ของรองเท้าคู่ดังกล่าว ถูกออกแบบให้ส่วน Outsole โอบรัดเท้าไปบรรจบกันด้านหลังตัวรองเท้าเพื่อป้องกันส้นเท้าผู้สวมใส่จากแรงกระแทกระหว่างขับรถ ขณะเดียวกันยังออกถอดพื้นด้านในออก
‘วินเทจ’ ‘ย้อนยุค’ ‘สไตล์ 90s’ คำเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมาสักพัก จนหลายคนอาจรู้สึกว่ามันคลีเช่แล้ว แต่สำหรับการแต่งตัวสไตล์วินเทจอาจไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อและซ้ำเดิมอย่างที่หลายคนคิดกัน เพราะเราสามารถนำไอเท็มสไตล์วินเทจมาผสมกับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น ๆ เพื่อสร้างลุคที่เท่อย่างมีเอกลักษณ์จนเราต้องแปลกใจได้อยู่เสมอ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการ mix&match ไอเท็มวินเทจ เพื่อสร้างลุคที่น่าประทับใจ เหมาะกับการไปเที่ยวกับเพื่อนในช่วงฤดูหนาวนี้ ไม่ว่าจะหนาวมาก หนาวน้อย หรือไม่หนาวอีกเลยก็ตาม Cuban Collar Shirts คนที่ชอบแต่งตัวสไตล์วินเทจน่าจะมีเสื้อเชิ้ตคอปกสไตล์คิวบาติดตู้เสื้อผ้ากันทุกคน เพราะมันคือไอเท็มที่สร้างอารมณ์วินเทจได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใส่เสื้อตัวนี้ตัวเดียว ก็เกิดลุคเท่ ๆ แบบย้อนยุคได้แล้ว สำหรับหน้าหนาวนี้ เราอยากแนะนำให้ทุกคนลองจับคู่เสื้อตัวนี้ กับกางเกงชิโน่หรือกางเกงยีนส์เดนิมสีเรียบ ๆ เช่น สีน้ำตาลดู จะเป็นคู่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว และเพิ่มเลเยอร์ในการแต่งตัวด้วยสูทสีเอิร์ธโทน หรือสีดำ จะช่วยให้เราดูเนี้ยบสมาร์ทและสร้างกลิ่นอายที่สนุกสนาน น่าสนใจมากยิ่งขึ้น Jeans กล่าวได้ว่า กางเกงยีนส์ เป็นไอเท็มติดตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น แม้กางเกงยีนส์จะอยู่กับเรามานานกว่าร้อยปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนเลยที่มันจะกลายเป็นของล้าสมัยหลุดเทรนด์ไป เพราะเราสามารถนำมันมา mix&match เพื่อสร้างลุคที่ดูเท่ทั้งแบบคลาสสิคและทันสมัยได้อยู่เสมอ อย่างเช่นลุค smart casual ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ในช่วงฤดูหนาวนี้ หากใครอยากใส่กางเกงยีนส์ให้ดูเท่สไตล์ย้อนยุค เราขอแนะนำให้เลือกกางเกงยีนส์เดนิม
การร่วมมือกันของ 2 of the best จากสองโลก Hublo, Swiss luxury watchmaker ก่อตั้งในปี 1980 โดย Carlo Crocco และ Yohji Yamamoto ดีไซเนอร์ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นดีไซเนอร์จากญี่ปุ่น ร่วมกันสร้างสรรค์อีกหนึ่งสุดยอด Timepiece ที่มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร Hublot Big Bang Unico Camouflage หลังสร้างผลงานสุดเท่อย่าง ‘Blacked-Out’ Big Bang GMT All Black มาแล้วก่อนหน้านี้ Hublot Big Bang Unico Camouflage Yohji Yamamoto คือซีรีส์ที่สองในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตรและขอบบาเซิลผลิตจาก High-tech Ceramic สีดำด้าน (matt black) ซึ่ง Hublot เคลมว่าทนทานไร้รอยขีดข่วน เช่นเดียวกับตัวเลขและเม็ดมะยม
ถ้าพูดถึงเครื่องแต่งกายอย่างเสื้อฮู้ด (Hoodies) เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต้องเคยมีโอกาสสวมใส่เสื้อชนิดนี้มาบ้าง เพราะในยุคสมัยหนึ่งเสื้อฮู้ดเป็นไอเทมที่แทรกอยู่ในหลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอป สเก็ตบอร์ดและกีฬาหลากหลายประเทศ ในเวลาเดียวเมื่อยุคสมัยและเทรนด์แฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแปลง เสื้อฮู้ดก็ถูกพัฒนางานออกแบบให้มีความหลากหลายและตอบสนองการใช้งานเฉพาะด้านมากขึ้น จนกลายมาเป็นเสื้ออีกชนิดที่ผู้ชายหลายคนเลือกมีติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้เสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักไอเทมชิ้นนี้ดีพอ STYLE GUIDE วันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงที่มา รวมถึงวิธีเลือกและสวมใส่ที่เหมาะสม แต่จะมีเทคนิคยังไงบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันเลยครับ จุดเริ่มต้นของ Hoodies ก่อนจะพูดถึงชนิดและการวิธีการเลือก ขอพาย้อนกลับไปรู้จักกับต้นกำเนิดของเสื้อฮู้ดกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปไกลถึงปี 1930 เมื่อแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่าง Champion USA ได้คิดค้นเสื้อกันหนาวที่ผลิตขึ้นจากการนำเอาเสื้อสเวตเตอร์และหมวกผ้าเย็บติดเข้าด้วยกัน โดยเหตุผลหลักของพวกเขา คือการสร้างเสื้อให้กับเหล่าคนงานในนครนิวยอร์กที่ทำงานอยู่ภายในห้องเย็นและเสื้อต้องง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออกนั่นเอง หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องแต่งกายชิ้นที่ก็เริ่มขยายอิทธิพลและแทรกตัวเขาไปในวัฒนธรรมย่อยต่าง ๆ ทั้งฮิปฮอป สเก็ตและพังค์ รวมถึงทีมกีฬาชนิดหลากหลายในสหรัฐอเมริกาที่ทำเสื้อฮู้ดออกมาให้ทั้งผู้เล่นและกองเชียร์สวมใส่ จนกลายเป็น 1 ในไอเทมที่ทุกคนต้องมีในยุค 90’s ซึ่งเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดในยุคปัจจุบันควรจะมีองค์ประกอบในการเลือกซื้อบ้างตรงส่วนไหนบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย องค์ประกอบในการเลือก สี เสื้อฮู้ดส่วนมากถูกผลิตออกมาแบบมาในโทนสีล้วน อาจมีโลโก้วางไว้ตามจุดต่าง ๆ เช่นอกหรือแผ่นหลัง อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดสีดำ, สีกรมท่าและเทาเข้ม ยังคงเป็นสีพื้นฐานที่สามารถหยิบมาสวมใส่ได้อย่างเปิดกว้าง ขณะเดียวกันเสื้อฮู้ดสีสันสดใส เช่นสีเหลือง