ส่งสัญญาณให้หนุ่มสายสตรีทไว้ตั้งแต่ปลายปีสำหรับงาน Collaboration ชุดล่าสุดจากสองแบรนด์สตรีตสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง BAPE และ NEIGHBORHOOD ที่ร่วมมือกันปล่อยคอลเลกชันให้เราเตรียมเสียเงินตั้งแต่ต้นปี แต่นอกจากจะมีเครื่องแต่งกายและของสะสมรวมเอาไว้มากมายแล้ว ยังมีรองเท้าคู่พิเศษจาก Adidas Original เพิ่มมาเอาใจคอรองเท้าอีกด้วย คอลเลกชัน BAPE x NEIGHBORHOOD ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 10 ปีของ HOODS Hongkong รีเทลสายสตรีทซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ NEIGHBORHOOD ในฮ่องกงและประเทศจีน แถมยังเลือกใช้แร็ปเปอร์อย่าง Rea Sremmurd มาเป็นแบบให้อีกด้วย และตอนนี้ Full-Look ของไอเทมทุกชิ้นก็ถูกปล่อยออกมาครบแล้วไม่ว่าจะเป็น T-Shirt, Crewnecks, Jacket, Sweatpant, Shark Hoodie และ Denim Jacket โดยเฉพาะสองชิ้นหลังที่ถูก Shinsuke Takizawa หัวเรือใหญ่แห่งอาณาจักร NBHD เนรมิตให้ออกมาในรูปแบบสีทูโทนซึ่งแปลกตาแต่น่าสนใจมากทีเดียว โดยแต่ละชิ้นจะถูกใจชาวสตรีทในบ้านเราแค่ไหนไปชมกันได้เลย นอกจากเสื้อผ้าแล้ว บรรดาเครื่องประดับและของสะสมทั้งหลายก็น่าครอบครองไม่แพ้กัน เพราะมีตั้งแต่เข็มกลัดและกระถางธูปสุดครีเอทที่สร้างขึ้นมาเป็นผู้ชายใส่ Shark Hoodie แบบเต็มใบ โดยแขนด้านซ้ายจะสกรีนว่า BAPE ส่วนด้านขวาจะเป็น NBHD
วงการแฟชั่นเป็นวงการที่มีการฟ้องกันไปมาไม่น้อยกว่าวงการไหนในโลก ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นลวดลายการดีไซน์ที่คล้ายกันมากในแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ กระเป๋า และเสื้อผ้า ด้วยกระแสเสื้อวงที่กำลังฮิตไปทั่วโลก ทำให้บรรดา Fast Fashion Brand ต่างรีบหยิบยืมลายกราฟฟิคหรือ Iconic ต่าง ๆ จากวงดนตรีชื่อดังมาดัดแปลงกันเต็มไปหมด ซึ่งบางครั้งการก็รอดตัวไป แต่บางทีถ้าทำโฉ่งฉ่างเกินไปก็อาจโดนฟ้องได้ เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดที่ Nirvana เป็นฝ่ายยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ Marc Jacobs แบรนด์แฟชั่นหรูที่นำโลโก้หน้ายิ้มของวงไปใช้แบบเต็ม ๆ แฟนเพลงของ Nirvana ต้องคุ้นตากับลวดลาย Smiley Face สีเหลืองกันดี ซึ่งกราฟฟิคที่ว่าไม่ใช่แค่ลวดลายธรรมดา แต่ถือเป็น Logo ที่ออกแบบโดย Kurt Cobain และ Nirvana ได้ทำการจดลิขสิทธิ์ไว้ตั้งแต่ปี 1992 แต่ทาง Marc Jacobs กลับนำไปใช้ใน ‘Bootleg Grunge T-Shirt’ collection ล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจจากดนตรี Grunge ซึ่งดูจากเจตนาก็ชัดเจนว่า Marc Jacobs
ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันแล้ว สำหรับกรณีที่แบรนด์สเก็ตบอร์ดรุ่นเก๋าอย่าง Vans กำลังเดินหน้ายื่นเรื่องฟ้องค่ายรีเทลชื่อดัง ซึ่งถูกพวกเขากล่าวหาว่ามีรองเท้าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกปล่อยออกมา ได้ลอกเลียนแบบลวดลายของ Side-stripe อันโด่งดังของรองเท้าในโมเดล Old Skool รองเท้าโมเดลในตำนานซึ่งพวกเราทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Style36 OLD SKOOL ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1977 ในฐานะรองเท้าสเก็ตบอร์ดคู่แรกที่มีการใช้วัตถุดิบหนังในการผลิต เพื่อเพิ่มประโยชน์ในด้านความแข็งแรงทนทานของรองเท้า พร้อมกับลวดลายข้างรองเท้าที่ออกแบบโดย Paul Van Doren ซึ่งเดิมทีถูกเรียกด้วยชื่อ Jazz Stripe ก่อนเวลาต่อมามันจะได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้ Side-stripe ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของ Vans ไปโดยปริยาย ซึ่งถ้าจะปล่อยให้ใครใช้เอาไปใช้หากินง่าย ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะล่าสุด Vans ตัดสินใจยื่นเรื่องฟ้องแบรนด์รีเทลยักษ์ที่ชื่อ Target โดยบอกว่ารองเท้าในรุ่น Target Camella Lace-Up ซึ่งถูกวางขายในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการลอกเลียนแบบลวดลาย Side-stripe อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพวกเขา พร้อมระบุเหตุผลว่า “ Tatget เลือกที่จะเลียนแบบสัญลักษณ์ของพวกเราอย่างจงใจ ซึ่งอาจสร้างความสับสนในกลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้” นอกจากนี้ยังมีข้อความจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้อรองเท้าในรุ่นดังกล่าว ได้มาเขียนรีวิวสุดกวนไว้บนเว็บไซต์ของทางรีเทลชื่อดัง ยกตัวอย่างเช่น “VANS ปลอมคู่นี้ก็ดูเท่ดีนะ” โดยทั้งหมดเป็นการแสดงออกจากกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าพวกเขาเองก็เข้าใจว่ารองเท้ารุ่นดังกล่าวเป็นของที่ทำลอกเลียนแบบขึ้นมา โดยอาศัยการดัดแปลงลวดลาย Side-Stripe ถูกดัดแปลงให้ต่างออกไป แต่สุดก็ไม่พ้นสายของ VANS อยู่ดี
ถึงเราชาว UNLOCKMEN จะจดจ่อตั้งใจนำเสนอเนื้อหาทางออนไลน์มากแค่ไหน แต่เราก็ไม่ได้ละความสนใจไปจากการสัมผัสหนังสือเล่มและยังชื่นชอบการพลิกอ่านตัวอักษรเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ยามว่างเสมอ หยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ หากคุณมือว่างยังไม่รู้จะทำอะไรและเบื่อการสไลด์จอเต็มทน ลองมาเริ่มต้นกับหนังสือที่พวกเราชื่นชอบประจำปีนี้ดู ไม่แน่ว่าอาจว่ามันอาจเป็นเล่มที่คุณกำลังตามหาอยู่ก็ได้ B Side. The Untold Story of BNK48 ผู้แต่ง: พีรพิชญ์ ฉั่วสมบูรณ์ และธัญวัฒน์ อิพภูดม สำนักพิมพ์: Salmon Book ไอดอลคือสิ่งที่หลายคนสัมผัส แต่ไม่ได้มีโอกาสเข้าถึงเรื่องราวมากนัก B Side. The Untold Story of BNK48 เล่มนี้จึงเปรียบเสมือนหนังสือคลี่ใจของคนอ่านทุกคนไม่ว่าคุณจะได้รู้จัก BNK48 ไอดอลแห่งยุคสมัยที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ตอนนี้หรือไม่ แต่บันทึกเรื่องราวเล่มนี้ของพวกเธอจะพาคุณไปรู้จักเด็กสาวในฐานะคนธรรมดาที่มีความรู้สึก จิตใจ และจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำจนก้าวมาสู่ความสำเร็จ UNLOCKMEN’S OPINION: จริง ๆ เราก็อยากจะยกหนังสือเล่มอื่นขึ้นมา เพราะดูเราจะหมกมุ่นกับไอดอลวงนี้มากเกินไปแล้ว (ในคอนเทนต์ UNLOCKMEN Pick Movie เราก็ยกให้ Girls Don’t Cry เป็นหนังที่เราชอบที่สุดในปีนี้) แต่เราก็โกหกตัวเองไม่ได้และก็ไม่อยากโกหกผู้อ่านด้วย เพราะสำหรับเรา 2018 คือปีแห่ง
สิ่งนึงที่ Keanu Reeves, Tom Cruise, Brad Pitt มีเหมือนกันคืออะไรรู้มั้ยครับ? นอกจากความสามารถในการแสดง ทั้ง 3 คนล้วนมีอายุในช่วง 54 – 57 ปีทั้งนั้น หลายคนรู้อายุแล้วอาจจะตกใจ เพราะหน้าตาของพระเอกทั้ง 3 คนแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเค้าเลย ลองนึกภาพ Top Gun ที่ Tom Cruise แสดง เข้าฉายตั้งแต่ปี 1986 มาจนถึงวันนี้ หน้าตาแทบจะไม่มีรอยเหี่ยวย่นที่แสดงอาการแก่ก่อนวัยเลยแม้แต่นิดเดียว หรือ Keanu Reeves วันนี้เทียบกับการปรากฎตัวบน The Matrix ภาคแรกก็ย้อนไปไกลถึงปี 1999 มีเพียงความภูมิฐานที่เพิ่มขึ้นตามวัยและประสบการณ์ชีวิต ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่สุดของผู้ชายก็ไม่ผิดนัก ส่วนผิวหน้านั้นเหมือนถูก Freeze เอาไว้ชนิดลืมอายุกันไปเลย ผู้ชายหลายคนอาจจะเข้าใจผิดหรือแยกไม่ออก ระหว่างการมีผิวหน้าที่ภูมิฐานสมวัย กับการมีริ้วรอยสภาพผิวโทรมจนดูแก่ก่อนวัย ซึ่งผิวหน้าที่ภูมิฐานนั้นคือความเปลี่ยนแปลงที่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ชีวิตและความสำเร็จที่ผ่านมา มักจะมาพร้อมความมั่นใจสะท้อนผ่านบุคลิกภาพที่น่าเคารพนับถือ ใครเคยถูกทักว่าหน้าเด็กกว่าอายุจริงน่าจะจินตนาการความรู้สึกภาคภูมิใจนั้นได้ ในขณะที่สภาพผิวหน้ามีริ้วรอยแก่ก่อนวัยนั้น แม้หลายคนจะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต แต่เมื่อไหร่ที่โดนสะกิดแผลในใจแรง ๆ เช่น
ผู้ชายเรารู้ดีว่าเกมเป็นมากกว่าความบันเทิง หลายเกมในไทม์ไลน์ชีวิตของเราสอนให้เรารู้เรื่องที่ครูไม่สอน ใครกำปืนใน Counter Strike จะได้รู้รุ่นปืนจากในนั้น Final Fantasy ก็สอนเราเรื่องภาษาอังกฤษที่ไม่คุ้นเคย และอีกหลาย ๆ เกมที่ให้ทักษะความคิดและการตัดสินใจ เมื่อเกมเป็นทุกอย่างให้เราและทำให้เราเติบโต UNLOCKMEN จึงรวม 3 เกมวัดใจ ปลดล็อกความคิดให้เสริมความเฉียบคมต่อไปนี้มาแนะนำกัน My Child Lebebsborn เกมแรกเน้นความเรียลเรื่องสตอรี่เกี่ยวกับซากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีพื้นหลังเรื่องราวเกี่ยวกับนาซี สร้างขึ้นโดย Elin Festøy นักสื่อสารมวลชนที่นำเสนอเรื่องสงครามมานานหลายปีและประสบกับเหตุการณ์จริงจึงเกิดแรงบันดาลใจ ริเริ่มระดมทุนใน kickstarter เพื่อสร้างเกมนี้ขึ้น เธอนำเรื่องราวที่ได้พบกับเด็กที่กำเนิดในโครงการ Lebensborn โครงการผลิตเด็กเชื้อสายอารยันเข้าสู่โลกผ่านการทำสงครามด้วยการให้ทหารไปมีสัมพันธ์กับคนท้องถิ่น ซึ่งเป็นแนวคิดการกระจายอำนาจหนึ่งของโครงการนาซีเยอรมันในยุคนั้นมาถ่ายทอด แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้คือเด็กที่เกิดจากโครงการนี้โดนละเลยกลายเป็นเด็กกำพร้าไปในปริยาย ส่วนเราเหล่าเกมเมอร์จะได้รับบทบาทเป็นผู้ปกครองจำเป็น จัดสรรทั้งเรื่องอาหาร การเรียน ตารางเวลา แต่มันจะไม่ได้เล่นง่ายขนาดนั้น เพราะบริบทของเรื่องจัดให้เราอยู่ในนอร์เวย์ดินแดนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเยอรมันยุคนั้น ระหว่างดำเนินเกมแต่ละช่วงหยอดความเรียลให้เราต้องเลือก เช่น ต้องหาเงินแต่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูกลูกจะขาดความอบอุ่น หรือลูกไปโรงเรียนแล้วต้องโดนเพื่อนบุลลี่ กลั่นแกล้ง เป็นต้น สุดท้ายการเปลี่ยนผ้าขาวสะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์เหล่านี้เราจะได้ซึมซับเรื่องราว และเข้าใจซากความพังของสงครามที่ไม่เพียงสร้างความเสียหายเป็นชีวิต แต่คนที่เหลืออยู่ก็ยังได้รับผลกระทบ งานนี้แม้ว่าจะไม่ใช่เกมแอคชั่นแต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะกำลังมาแรง กระแสซื้อล้มหลามทั้งใน Google Play และ
ต้นเหตุของความผิดหวังมีมากมายหลายสาเหตุเกินกว่าที่เราจะลิสต์ได้ แต่ถ้าลองนึกคร่าว ๆ ในหัว สาเหตุอันดับต้น ๆ ก็คงเป็น “การถูกปฏิเสธ” ที่ทิ่มแทงความรู้สึกเราได้ไม่น้อยเลย อาจจะด้วยเรื่องความรัก เรื่องงาน ครอบครัว หรืออะไรก็ตาม หากตั้งความหวังไว้แล้ว เกิดแป้กผิดหวังขึ้นมาก็คงหน้าแห้งไปตาม ๆ กัน ทีนี้ไอ้ความผิดหวังเนี่ย เจอกันทุกคนแหละ แต่วิธีการรับมือของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป หากวิธีเดิมมันไม่ได้ผล ลองมาดูเทคนิคจาก UNLOCKMEN ที่จะช่วยให้หนุ่ม ๆ ได้ตั้งรับความผิดหวังจากการถูกปฏิเสธได้แบบทันท่วงที ไม่เสียอาการกันในวันที่สายเกินแก้ กระจายความผิดหวัง ด้วยการเตรียมใจว่าจะเจ็บ หากเห็นแววมาแต่ไกลแล้วว่างานนี้แห้วแน่ ก็อย่าได้เข้าข้างตัวเองจนหวังเกินความจริงมากเกินไป กระจายความเจ็บปวดด้วยการทำใจแต่เนิ่น ๆ ในตอนนี้ แม้จะยังไม่ทันจบเกม ยังไม่อยากยอมแพ้ แต่หากเห็นท่าไม่ดี เราจะรออะไร อย่าหลอกตัวเองไปวัน ๆ ค่อย ๆ เจ็บตั้งแต่วันนี้ ซ้อมเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนถึงวันเจ็บจริง เราจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับการถูกปฏิเสธและความเจ็บปวดที่จะตามมาในภายหลัง ยิ่งเตรียมตัวเตรียมใจเร็วเท่าไหร่ ยิ่งยืดระยะการกระจายความผิดหวังได้กว้างขึ้น ร่างกายกับความคิดเชื่อมโยงกันเสมอ เมื่อใจเป็นนายกายเป็นบ่าว อาจไม่ได้ความว่าสิ่งไหนควบคุมอะไร แต่หมายถึงร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ได้ หากร่างกายอ่อนแรงอาจทำให้จิตใจเราหม่นหมองไปด้วย และถ้าหากจิตใจย่ำแย่ ร่างกายเราก็จะห่อเหี่ยวไปด้วย เพราะฉะนั้นในวันที่เราเผชิญกับความผิดหวัง จิตใจเราช่างเปราะบาง
ถ้าพูดถึงหนังซุปเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Arthur Curry หรือที่รู้จักกันในชื่อ Aquaman หนุ่มลูกครึ่งมนุษย์-แอตแลนติส ที่ทำให้เขามีความสามารถเหนือมนุษย์ ซึ่งรับบทโดยหนุ่มเซอร์กล้ามใหญ่อย่าง Jason Momoa ที่ในเรื่อง Aquaman เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นเจสันใส่เสื้อซักเท่าไหร่ แต่ในชีวิตจริงเค้าเป็นคนที่มีสไตล์ในแบบของตัวเองอย่างชัดเจน และเป็นสไตล์ที่เหมาะกับหนุ่มไทยพอสมควร UNLOCKMEN จึงจะพาไปส่องแฟชั่นของพระเอกหนุ่มเคราดกคนนี้ เป็นไอเดียการแต่งตัวที่ชิว ๆ เซอร์ ๆ เจสันคือผู้ชายที่มีสไตล์หลากหลาย ผมยาว เคราดก คิ้วบาก รอยสักที่แขนขวา และลุคเซอร์ ๆ คือเอกลักษณ์ของเจสัน โมมัว แต่ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีแค่ลุคเซอร์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะเจสันคือผู้ชายมากสไตล์ บางวันเป็นหนุ่มลุคสบาย ๆ ด้วยเสื้อสีพื้นอย่างขาว เทา ดำ พร้อมกับกางเกงขายาว กับรองเท้าบู๊ทแฟชั่นไอเท็มจากยุค 90s อย่าง Timberland ซึ่งถ้าไม่ใส่บู๊ทก็มักจะสวมรองเท้าแตะไปไหนมาไหน ในบางครั้งเจสันก็เป็นผู้ชายลุคสปอร์ต เพราะกีฬาโปรดของเขาคือการไปปีนเขา บางครั้งก็ดูดุดันแบบร็อคเกอร์ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ศิลปินเพลงร็อคคือคาแรคเตอร์ที่เขาต้องศึกษาและทำความเข้าใจ เพราะตัวละครอาเธอร์ในเรื่องอควาแมนจะต้องมีสไตล์แบบชาวร็อค นอกจากนี้เรายังเห็นเจสันในลุคหนุ่มคันทรี่ขี่ฮาร์เล่ย์ ซึ่งเจสันจะมีหมวกคาวบอยคู่ใจที่มักชอบสวมเวลาไปเที่ยวกับลูก ๆ หรือไปเดินเล่นกับภรรยา แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวสไตล์ไหนเจสันก็จะเน้นเรื่องของความสบายเอาไว้ก่อน
ช่วงสิ้นปีคือเวลาแห่งเทศกาลและการให้ของขวัญ รวมไปถึงให้รางวัลตัวเองที่ทำงานหนักมากตลอดทั้งปีด้วยการซื้อของให้ตัวเองซักชิ้นก็คงจะดีไม่น้อย แต่ไม่เหมือนสาว ๆ ที่มีร้านขายเสื้อผ้าดี ๆ อยู่ทั่วทุกมุมถนน ของดีของผู้ชายเป็นสิ่งหายากเหลือเกิน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร จะไปร้านไหนดี UNLOCKMEN ได้รวบรวม 5 ร้านสินค้าแฟชั่นผู้ชายหลากหลายประเภทมาให้ได้เลือก และตัดสินใจว่าแบบไหนจะเป็นสไตล์ที่ใช่มากที่สุด ARTISAN’S ROYAL CLUB The Artisans’ Royal Club คือคลับสำหรับสุภาพบุรุษแห่งแรกของไทยใจกลางกรุงเทพ ฯ ที่รวมตัวเหล่าช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาไว้ที่นี่ อาทิ ร้านตัดผมชายที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Truefitt & Hill หรือรองเท้าหนัง Mango Mojito มีความชำนาญในเรื่องของรองเท้าแบบสุภาพบุรุษ Selvedgework อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความชำนาญของการผลิตผ้ายีนส์มากว่า 30 ปี และ Notch ห้องเสื้อตัดสูทชายที่มีประวัติยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมดพร้อมสร้างลุคหรูดูดีอย่างสุภาพบุรุษได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะงานปาร์ตี้หรือดินเนอร์ช่วงสิ้นปีที่ไหนก็หมดห่วงเรื่องในเรื่องของเสื้อผ้าและสไตล์ที่ภูมิฐาน เข้าไปครบจบได้ในที่เดียวอย่างแท้จริง Website: ARTISAN’S ROYAL CLUB Location: เกษรวิลเลจ ชั้น 1 EVERYDAY KARMAKAMET ร้านกึ่งคาเฟ่ที่รวบรวมของฮิปสเตอร์เก๋ ๆ ลูกเล่นไม่ซ้ำใคร
เก่าไปใหม่มายังคงใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นกระแส ของที่เคยใหม่ในวันนั้นอาจจะกลายเป็นของสุดเชยในวันนี้ เราเลยจำเป็นต้องอัปเดต Trends ใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับปีนี้เทรนด์ดีไซน์ ต้องยกให้กับ Gradient ที่แทรกซึมเข้าไปในหลายแบรนด์ใหญ่ แล้วของปีหน้าจะเป็นอะไรบ้าง ไม่ต้องคอยเดาให้ปวดหัว เรารวบรวมมาให้แล้ว สำหรับเทรนด์ไหนที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรงในปีหน้า ให้หนุ่มสายดีไซน์ได้เตรียมตัวกันตั้งแต่ปลายปีนี้ Asymmetry Design by Vasjen Katro การจัดวางคอมโพสจะมาในรูปแบบที่ไร้ขอบเขต ไม่มีกรอบ ไม่ต้องสมมาตร ง่าย ๆ คือ Open compositions นั่นเอง การจัดวางแบบนี้ ฟังดูอาจรู้สึกว่ามันง่าย แต่จริง ๆ มันยากกว่าการมีกรอบมากำหนดไว้เสียอีก เพราะการจัดวางแบบไร้ขอบเขต ก็ต้องคำนึงถึงน้ำหนักของแต่ละฝั่ง ของแต่ละ Elements เพราะมันจะวางตรงไหนก็ได้ แต่ใช่ว่ามันจะสวยทั้งหมด ถือว่าเป็นเทรนด์ที่ท้าทายความสร้างสรรค์และความชาญฉลาดในการออกแบบของหนุ่มนักออกแบบอยู่ไม่น้อย Floating Elements Project by Nahel Moussi, Louis Ansa, Romain Avalle ต่อยอดจากข้อที่แล้ว นอกจากการวางแบบไร้ขอบเขตแล้ว วัตถุที่ดูเหมือนลอยเคว้งคว้างอยู่ก็มาแรงไม่แพ้กัน ทั้งสองแบบดูจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก แต่ความแตกต่างคือ Floating
ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลมาถึงแล้ว หากคุณกำลังมองหาเรือนเวลาสุดพิเศษเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่คนสำคัญ หรือรางวัลสักชิ้นสำหรับขอบคุณตัวเองที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี SWATCH (สวอท์ช) ได้คัดสรรเรือนเวลาแห่งมนต์เสน่ห์จาก 3 คอลเลคชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นาฬิกาสำหรับผู้ชายที่ชอบความเรียบง่ายแต่ยังคงความโดดเด่นมีสไตล์กับ SISTEM51 IRONY และ SKIN IRONY รวมถึง DEEP WONDER นาฬิกาซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่ชอบเสน่ห์อันเรียบง่ายแต่น่าหลงใหล การมอบนาฬิกาให้ในช่วงสำคัญ แฝงไปด้วยความหมายว่าเราอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา และจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณเสมอ เริ่มต้นด้วยคอลเลคชั่น SISTEM51 IRONY เหมาะเป็นของขวัญที่จะมอบให้คุณผู้ชาย เรือนเวลาแห่งนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการนาฬิกาออโตเมติก โดดเด่นด้วยการยึดกลไก 51 ชิ้นภายในตัวเรือนด้วยหมุดเพียงหนึ่งตัว นาฬิกาที่ดูคลาสสิก แต่มีงานศิลปะซ่อนไว้ภายในให้คุณประหลาดใจหน้าปัดด้านหน้าบอกเวลา ด้านหลังเป็นฝาโปร่งใสเห็นกลไกการทำงานอย่างชัดเจน สำรองพลังงานไว้ได้ถึง 90 ชั่วโมงและได้ความแม่นยำสูงตามมาตรฐานสวิส SISTEM ROSEE ราคา 7,800 บาท SISTEM ROSEE มากับตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ หน้าปัดสวยเด่นด้วยสีดำสง่า เพิ่มความเท่ด้วยสายหนังสีดำแบบเดียวกัน นาฬิกาที่คุณภาพเยี่ยมในราคาที่คุณจับต้องได้ พลิกตัวเรือนกลับด้านเพื่อดูศิลปะกลไกการทำงานภายใน การออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา เตะตาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนบนข้อมือของคุณด้วย superluminova SISTEM SILVERLINE
ตั้งแต่ได้ปรากฏโฉมให้เป็นที่รู้จัก เรือนเวลาหนุ่มลุคสปอร์ตอย่าง รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ (Royal Oak Offshore) ก็ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับโลกนาฬิกาชั้นสูงเรื่อยมา โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์นวัตกรรมด้วยหลากวัสดุชั้นเลิศ ที่ปัจจุบัน โอเดอมาร์ ปิเกต์ (Audemars Piguet) ยังคงรักษาขนบดังกล่าว ทั้งยังส่งต่อแนวคิดนอกกรอบอันแสนท้าทายไว้อย่างเหนียวแน่น เพื่อเตรียมพร้อมก่อนงาน SIHH 2019 ที่กำลังจะมาถึง UNLOCKMEN ขอพาคุณไปทำความรู้จักกับ 3 เรือนเวลาน้องใหม่ในตระกูล รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ กับ “รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ เซลฟ์ ไวนด์ดิ้ง โครโนกราฟ” ประจำปี 2019 (Royal Oak Offshore Selfwinding Chronographs) ที่ได้อัพเดทเวอร์ชั่นที่ต่อยอดแรงบันดาลใจมาจากเรือนเวลารุ่นก่อน ยังคงความโดดเด่นด้วยการตกแต่งดีเทลลายพรางทหาร ที่นอกจากจะเพิ่มความสนุกสนานเมื่อยามจับคู่สูทลุคสบาย ๆ หรือเสื้อผ้าสไตล์แคชชวลแล้ว ยังเป็นการปรับเปลี่ยนโทนสีอันคุ้นเคยให้ดูแปลกตา ยิ่งขึ้นเช่นกัน ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 3126/3840 พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟ