ปัจจุบันเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากวงการแฟชั่นในแต่ละปีมีมูลค่ามากมายมหาศาล ผลที่ตามมาคือการแข่งขันทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะทุกแบรนด์ล้วนแต่ต้องการส่วนแบ่งอันหอมหวลด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่วันนี้เราจะเห็นแคมเปญโฆษณาเจ๋ง ๆ ถูกผลิตออกมาเต็มไปหมด รวมถึงการย้อนกลับมาพึ่งพารูปแบบดั้งเดิมอย่างการโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายกำลังตามกระแสดังกล่าวกันเป็นแถว ล่าสุดกับหน้าแรกของหนังสือพิมพ์อย่าง New York Post ก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของ Kanye West เพื่อใช้เปิดตัวการกลับมาของรองเท้ายอดนิยม YEEZY BOOST 350 V2 “Triple White” โดยเขาได้ซื้อพื้นที่ทั้งหมดในหน้าหนึ่ง (Front Page Cover Wrap) เพื่อใส่วลีสำหรับแคมเปญรองเท้าอย่าง “We Love” ทั้งหมด 11 ภาษาวางเรียงกันก่อนจะปิดท้ายด้วยรูปใบปิดจาก Lookbook ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ฉบับเดียวเพราะทาง Kanye West ได้เหมาลงโฆษณาแบบเดียวกันลงในหนังสือพิมพ์อีกหลายหัว ไม่ว่าจะเป็น The San Francisco Chronicle , Chicago Tribune , Los Angeles Times รวมถึงหัวต่างประเทศอย่าง Metro ก็โดนไปกับเขาด้วย สำหรับใครที่คุ้นเคยกับวงการ Media ดี
สำหรับหนุ่มสายแฟชั่นญี่ปุ่นคงไม่มีทางไม่รู้จัก BEAMS แบรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายลำลองสำหรับผู้ชายและไลฟ์สไตล์ครีเอเตอร์แบรนด์ดัง สไตล์ญี่ปุ่นแนวคิด BASIC (เรียบง่าย) และ EXCITING (น่าตื่นเต้น) สำหรับคอลเลคชั่นฤดูกาล AW 18/19 นี้นั้นได้นำเสนอในธีม ‘NORTH IDENTITY’ หรือเอกลักษณ์ของชาวเหนือ โดยได้แรงบันดาลใจจากสไตล์สตรีทที่เกิดขึ้นในชนชั้นคนทำงานที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ อย่างเมืองแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูลช่วงปี 1990 ถึงปี 2000 ในคอลเลกชั่นนี้จะได้พบกับไอเท็มที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษ อย่างเสื้อโอเวอร์โค้ท หมวกแก๊ปล่าสัตว์ ผ้าลายตาราง tartan และผ้าลายตาราง glen check จับคู่กับชุดกีฬาอย่างยูนิฟอร์มฟุตบอล และผสมผสานกับชุดทำงาน โดย BEAMS ได้เลือก 4 แนวคิดหลักที่มีกลิ่นอายความเป็นอังกฤษ ได้แก่ ชุดแบบดั้งเดิม ชุดกีฬา ชุดทำงาน และชุดทหาร พร้อมกับใส่ความสนุกสนานและการใช้งานได้จริงแบบ BEAMS ลงไป ออกมาเป็นคอลเลคชั่นที่เป็นสไตล์แปลกใหม่ BEAMS PLUS ‘All you need is IVY’ BEAMS
กลับมาอีกครั้งสำหรับการร่วมมือกันระหว่างโคตรแบรนด์สตรีทอย่าง Supreme และเจ้าพ่อแบรนด์กีฬาอย่าง NIKE หลังทั้งสองได้ปล่อย Collaboration ชุดล่าสุดออกมาให้เราได้ยลโฉมกันในชุด SUPREME x NIKE FW2018 Collection ซึ่งคงจะถูกใจเหล่าแฟนเดนตายที่หลงใหลใน Vintage Sportswear ไม่มากก็น้อย เพราะผลงานชุดล่าสุดนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเสื้อผ้ายุค 90’s ที่อัดแน่นเอาไว้เต็มเปี่ยม Retro 90’s Styles จุดเด่นของคอลเลกชันคือการดึงเอาเสน่ห์ของเสื้อผ้า Vintage Sportswear ย้อนยุคให้กลับมาโลดแล่นอยู่บนรันเวย์แฟชั่นยุคปัจจุบันอีกครั้งตามกระแสนิยม ไม่ว่าจะเป็น Jacket, Vest, Hooded Sweatshirt, Crewneck, Jacquard Polo ไม่เพียงแค่นั้น Nike ยังหยิบเอา Retro Swoosh ดั้งเดิมของแบรนด์ที่เคยใช้มาตั้งแต่ปี 1978 กลับมาอีกครั้ง เมื่อทั้งสองอย่างมารวมกันทำให้เสื้อผ้า Collection นี้ทวีคูณความคลาสสิกขึ้นเป็นเท่าตัว ถ่ายทอดผ่าน 4 โทนสีหลักได้แก่ Maroon, Yellow, Navy และ Black ซึ่งแต่ละชุดจะออกมาถูกใจผู้ชายอย่างเราแค่ไหนไปดูกัน Work Jacket
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชายแบบเราได้กลายเป็นเหยื่อของคำวิพากษ์วิจารณ์และทัศนคติแง่ลบบนโซเชียลมีเดีย เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เราโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ถ้ามันดันไปไม่ถูกใจใครเข้าก็พร้อมมีคนคอยพุ่งเป้าวิจารณ์อยู่เสมอและเมื่อถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากความไม่พอใจหรือความเกลียดชัง ตัวผู้ถูกวิจารณ์ส่วนมากก็มักจะหลบหนีออกจากตรงนั้นทั้งที่จริง ๆ แล้วอาจลืมไปว่าการซ่อนตัวจากความรู้สึกแย่ ๆ ไม่ได้ช่วยให้เรื่องราวดีขึ้นมาจากเดิมเลย แต่ถ้ามองกลับกันยิ่งถ้าเราแสดงออกว่าไม่ได้ใส่ใจต่อความเกลียดชังและคำวิจารณ์ในแง่ลบพวกนั้น พลังด้านลบของมันก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้และจุดนี่เองที่กลายมาเป็นเหตุผลของการเปิดตัวคอลเลคชัน Haute Couture ของ Diesel ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดทอนบทบาทของความเกลียดชังจากคำวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมสู่ตัวบุคคล จุดเริ่มต้นของไอเดียนี้จะเป็นอะไรไปได้นอกจากสิ่งที่หลายคนต้องพบเจออยู่ทุกวัน การหยิบจับเอาความไม่ชอบและคำวิจารณ์ที่แบรนด์ Diesel ได้รับมาเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นคำว่า “แบรนด์ Diesel น่ะ ตายไปแล้ว” หรือว่า “Diesel ไม่เห็นจะเจ๋ง ไม่ได้ดูเท่เหมือนเดิมแล้ว” พวกเขาจึงตัดสินใจนำคำเหล่านั้นมาออกแบบเสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้ ให้เจ้าของคำพูดได้เห็นด้วยการยืดอกภูมิใจโดยเปลี่ยนคำวิจารณ์ทั้งหลายให้เป็นชิ้นงานดีไซน์อันมีเอกลักษณ์โดดเด่นและสวมใส่อย่างมั่นใจ แต่หากมองดูดี ๆ แล้วเราจะเห็นกลุ่มคนที่มักจะต้องเจอกับผลกระทบจากคำวิพากษ์วิจารณ์ ความไม่ชอบไม่ถูกใจหรือแม้แต่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมในกรณีที่ทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจใครเข้า ซึ่งกลุ่มคนผู้ต้องพบเจอเรื่องแย่ ๆ พวกนั้นบ่อยที่สุดคงจะหนีไม่พ้นบรรดาเหล่าเซเลบริตี้และบุคคลมีชื่อเสียงที่มีผู้ติดตามทางโซเซียลมีเดียหลายล้านคน Diesel’s จึงเริ่มแคมเปญ Haute Couture ขึ้นมาร่วมกับใช้แรงบันดาลใจจากเซเลบริตี้ระดับโลก อย่าง นิกกี้ มินาจ (Nicki Minaj), กุชชี่ เมน (Gucci Mane), เบลล่า ธอร์น (Bella Thorne), บรีอา วิไนที (Bria
ผู้ชายอย่างเราร้อยทั้งร้อยถ้ามีรถส่วนตัวใช้มักต้องทำหน้าที่สารถีมาจนเคยชิน ว่ากันตามตรงต่อให้รถสมรรถนะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่การอยู่หลังพวงมาลัยนาน ๆ ก็ทำให้เพลียได้เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อมีข่าวว่าอีกมุมโลกประดิษฐ์รถอัจฉริยะที่สามารถขับขี่เองได้สำเร็จและอยู่ระหว่างการทดลอง เราเลยรู้สึกโล่งอกที่ปัญหานี้จะหมดไป ทว่าไม่ใช่แค่ความสะดวกสบายเท่านั้นที่เข้ามา เพราะอีกมุมเจ้ารถไร้คนขับมันส่งผลกระทบด้านการทำธุรกิจด้วย ลองนึกภาพเล่น ๆ ว่าถ้ารถยนต์แบบนี้เข้ามาในบ้านเรามันจะมีผลกระทบกับอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน UNLOCKMEN นำข้อมูลนี้มาฝากจาก CBINSIGHT บอกได้เลยว่าหลายอุตสาหกรรมเป็นประเภทธุรกิจที่เราเองก็คาดไม่ถึง พร้อมแล้วอย่ารอช้า เก็บคำตอบที่คิดไว้ในใจ แล้วไปชมอุตสาหกรรมทั้ง 10 ธุรกิจ ที่ต้องเตรียมรับความสั่นสะเทือนระดับ 10 ริกเตอร์จากรถไร้คนขับได้เลย 1. ประกันภัย ด้วยความที่การขับขี่แบบไร้คนขับมันต้องได้รับการออกแบบมาให้มีวิจารณญาณในการขับขี่มากขึ้น จึงมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขอุบัติเหตุจะลดจำนวนลง ทำให้คนประหยัดค่าประกันมากขึ้น รูปแบบการทำประกันภัยในยุคของรถอัจฉริยะเหล่านี้จึงอาจเปลี่ยนเป็นนโยบายประกันการใช้งาน (UBIs) ซึ่งจะเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคตามระยะทางที่พวกเขาขับรถ 2. ธุรกิจซ่อมรถ เรื่องซ่อมรถก็มีผลกระทบตามมา ช่างที่เคยทำเงินจากการซ่อมรถจากนี้งานนี้จะไม่ง่ายเหมือนที่เคย เพราะเมื่อคนขับไม่ได้ขับ ปัจจัยความประมาทไม่เกิด การซ่อมก็น้อยลงตาม ที่สำคัญความไฮเทคยังกลบเรื่อง Human error ที่เราเจอทุกวันนี้ได้ด้วย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า อนาคตเราจะมีสตาร์ทอัพที่คิดระบบการตรวจสอบสภาพรถ เวลามีปัญหาเรื่องระยะทาง ความเสื่อมล้อ ลมยาง ฯลฯ เจ้า AI ที่ติดตั้งจะเตือนเราล่วงหน้า จากเดิมที่กว่าจะรู้เครื่องก็พังต้องเสียเงินก้อนใหญ่กลายเป็นจ่ายแค่ก้อนเล็ก
อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของ Prophere ด้วยการปล่อยซีรี่ย์ภาพที่แสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยว ความมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเองของเหล่าครีเอเตอร์ การปล่อยรองเท้ารุ่นล่าสุดนี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า Prophere เป็นรองเท้าสำหรับคนที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้นำของคนที่มีความคิดนอกกรอบ นักร้องแร็ปดาวรุ่งจากฝั่งตะวันตก SOB x RBE เป็นที่รู้จักในด้านการร้องที่ไม่ยึดตามแบบฉบับสากล โดดเด่นด้วยจังหวะเฉพาะตัว และความเป็นตัวของตัวเอง นั้นได้ถูกถ่ายทอดตัวตนผ่านซีรี่ย์ภาพที่ห่อหุ้มความคิดของบุคคลภายนอกออกมาเป็นรากฐานของรูปแบบ Prophere ภาพถ่ายนั้นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จากสนามหญ้าที่บ้านของพวกเขาในเมือง Vallejo, California เพื่อส่งมอบมุมมองและตัวตนที่แท้จริง “จากภายใน” ของพวกเขา การใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ คนใกล้ชิดที่มีทัศนคติ บุคลิก และพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกัน ในบรรยากาศที่คุ้นชิน หล่อหลอมให้เรากลมกลืนไปกับเหล่าพวกพ้องของตนเอง การแร็ปของแร็ปเปอร์ทั้งสี่ที่มีความมั่นใจผสานด้วยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดรองเท้าโฉมใหม่สำหรับฤดูใบไม้ร่วง 2018 นี้ ที่เผยทั้งความกล้าหาญและความโดดเด่นกับ 2 เฉดสี โดยรองเท้านั้นประกอบด้วยแถบสีดำที่ส่วนด้านบนและส่วนกลาง เพิ่มสีสันด้วย 3 แถบเอกลักษณ์จากอาดิดาส ทั้งสีขาว และสีชมพู ซึ่งทำให้ Prophere นั้นเป็นตัวแทนของสายสตรีทที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกล้าคิดกล้าทำ ด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่าง แนวทางที่ชัดเจน Prophere ยังคงมุ่งมั่นสร้างบรรทัดฐานที่คุ้นเคยในการสร้างสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ และสิ่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร Prophere
ในโลกของวงการแฟชั่น สิ่งที่เป็นตัววัดคุณภาพของแต่ละแบรนด์ สามารถดูได้จาก Brand Heritage ที่มาพร้อมอายุเก่าแก่ของแบรนด์นั้น ๆ เพราะในโลกที่แฟชั่นเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์ที่สามารถดำรงอยู่มาได้ยาวนาน ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพได้ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยยังคงบาลานซ์ DNA ดั้งเดิมของแบรนด์เอาไว้ได้ครบถ้วน ไม่งั้นแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ ก็จะกลายเป็น Fast Fashion ที่ไม่มีเหตุผลและคุณค่าให้คนอยากสวมใส่ เช่นเดียวกับ Bally แบรนด์ High-Fashion ที่มีเสน่ห์ เป็นชื่อและโลโก้ที่สร้าง Perception ให้คนเข้าใจถึงคุณภาพและประวัติอันเก่าแก่ของแบรนด์ได้โดยอัตโนมัติ สำหรับเรา Bally เป็นแบรนด์ที่มีความน่าสนใจสำหรับผู้ชาย มีส่วนผสมของความหรูหราแต่ถ่อมตัว ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยลืมจิตวิญญาณของการเป็นนักผจญภัย อย่างที่ Carl Franz Bally ตั้งใจให้เป็นตั้งแต่วันก่อตั้งแบรนด์สาขาแรกในเมือง Schonenwerd ประเทศ Switzerland ปี 1851 ก่อนจะเริ่มส่งแบรนด์ Bally ขยายข้ามชายแดน Switzerland ได้ภายใน 6 ปีเท่านั้น ตั้งแต่วันแรก จุดเด่นทั้งด้าน Design และ Functionality อันเปรียบเสมือน 2
กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการแฟชั่นเมื่อแอคเคาท์ Instagram ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง COACH ได้ทำการโพสต์ต้อนรับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนอกจากตัวร้ายสุดคูลจาก The Black Panther อย่าง Michael B Jordan ในลุค Signature Hood สีเอกลักษณ์ของแบรนด์นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะมาพร้อมกับการผลักดันไลน์เสื้อผ้าผู้ชายระลอกใหม่ที่จริงจังยิ่งกว่าเดิมจากห้องเสื้อ COACH อีกด้วย Stuart Vever ผู้รับตำแหน่ง Creative Director ของแบรนด์เล่าผ่านงานแถลงข่าวถึงสาเหตุที่ COACH ตัดสินใจเลือก Michael B Jordan มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฟังว่า พวกเขารู้จัก Michael มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยถ้าเล่าจากมุมมองของแบรนด์ พระเอกมาดเข้มคนนี้มีความเยือกเย็นในตัว ซึ่งหลายครั้งก็ปรากฏตัวในเสื้อผ้าของ COACH ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติเสมอ และนั่นเองทำให้เขาคิดว่า Michael จะต้องเป็นผู้ชายที่เข้ากันกับ DNA ของแบรนด์ได้ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมงานกันและจะเริ่ม launch โปรเจกต์ต่าง ๆ กันในเร็ววันนี้ คาดกันว่าการเปิดตัวนักแสดงวัย 31
ดูเหมือนตลาดรถกระบะกำลังหาไอเดียแข่งขันใหม่ ๆ กันอยู่ หลายคนอาจจะเบื่อเรื่องสมรรถนะความแข็งแกร่งและสวยงามกันแล้ว เรื่องของการตกแต่งและฟังก์ชันการใช้งานภายในจึงเป็นอีกประเด็นที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกันมากขึ้น ล่าสุด Nissan ได้พัฒนารถกระบะรุ่นท็อปของค่ายอย่าง NISSAN TITAN 2019 และตามข่าวบอกว่าจะแปลงโฉมใหม่ทั้งหมดแถมยังเพิ่มชุดเครื่องเสียงพิเศษจาก Fender ไว้ในตัวรถเพื่อเพิ่มสุนทรียะด้านการฟังเพลงให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย NISSAN TITAN 2019 ถูกคาดหวังว่าจะเป็นการกลับมาสมบูรณ์แบบมากขึ้น จากเดิมที่ได้รับเสียงตอบรับไม่เลวอยู่แล้ว ด้านขุมกำลัง TITAN 2019 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.6 ลิตร ที่จะให้สมรรถนะกว่า 390 แรงม้า พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 7-Speed ซึ่งสามารถสั่งการได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อ รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่ต่างจากเดิมมาก มีการเปลี่ยนแปลงโดยตัดในจุดที่ไม่จำเป็นออกไป และเสริมส่วนใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาทดแทน ส่วนภายในตัวรถจะมาพร้อมเบาะโดยสารหุ้มด้วยหนังแท้ แต่ที่พีคสุดคือเครื่องเสียง จุดที่ค่ายผลิตรถกระบะส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจ จะทำการยกชุดใหม่โดยได้รับความร่วมมือจาก Panasonic และ Fender ในชื่อ FENDER PREMIUM AUDIO SYSTEMS เพื่อเอาใจผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเสียงเพลงเป็นพิเศษ Fender เป็นชื่อที่ผู้ชายหลายคนรู้จักกันดีโดยเฉพาะในแวดวงดนตรี ต่างรู้กันดีว่าพวกเขาคือมืออาชีพเรื่องการผลิตกีตาร์และเครื่องขยายเสียง ก่อนหน้านี้ Fender
ถ้าพูดชื่อ Harry Benson ขึ้นมา คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการถ่ายรูปคงขมวดคิ้วและถามกลับมาว่าเขาคือใคร แต่ถ้านำผลงานภาพถ่ายของ Harry มาให้ดูแล้วล่ะก็เชื่อว่าทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเขาคือเจ้าของภาพถ่ายประวัติศาสตร์มากมาย เป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการถ่ายภาพยุคบุกเบิก และเราเชื่อว่าผลงานของเขาเป็นอมตะทุกยุคสมัย ไม่หายไปตามกาลเวลา วันนี้เราจึงนำภาพถ่ายฝีมือ Harry Benson มาให้ชมพร้อมร่วมรำลึกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน 1964: The Beatles หนึ่งในภาพถ่ายอมตะของ The Beatles เกิดขึ้นในปี 1964 เวลาตี 3 หลังจากจบการแสดงคอนเสิร์ตในปารีส ผู้จัดการวงสี่เต่าทองเดินมาบอกทั้ง 4 หนุ่มว่าเพลง ‘I Want to Hold Your Hand’ ขึ้นอันดับ 1 Billboard ชาร์ตอเมริกา ทันใดนั้นทุกคนก็ดีใจกระโดดโลนเต้นพร้อมปาหมอนใส่กันทันที และแน่นอนว่า Harry ซึ่งอยู่ในเหตุการ์ณนั้นด้วยไม่พลาดที่จะเก็บภาพดังกล่าว 1964: The Beatles and Muhammad Ali อีกหนึ่งในภาพถ่าย Iconic ของวงสี่เต่าทองคือครั้งที่พวกเขาร่วมซีนกับ Muhammad Ali ยอดนักสู้บนผืนผ้าใบผู้ยิ่งใหญ่ เป็นการโคจรมาเจอกันของ
หล่อเนี้ยบ ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ชายสุขุมเรียบร้อยเสมอ ไม่ว่าเป็นผู้ชายสไตล์ไหน ๆ ก็สามารถหล่อเนี้ยบดูดีได้เช่นกัน ห้าง CENTRAL จึงรวมไอเท็มชิ้นเด็ดที่จะช่วยเติมลุคของหนุ่ม ในทุกสไตล์ให้หล่อเนี้ยบในแบบของคุณได้กับแคมเปญ “Central | ZEN Men With Style” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 กันยายน – 2 ตุลาคม 61 ณ แผนกบุรุษ ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และ ZEN พร้อมส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อซื้อสินค้าปกติ รู้อย่างนี้คงรอไม่ได้ รีบตามไปดูไอเท็มที่จะช่วยมิกซ์ลุคใหม่ของหนุ่ม ๆ ได้อีกหลายสไตล์ เบลเซอร์และแจ็กเก็ต ถ้าพูดถึงผู้ชายลุคเนี้ยบหลายคนต้องถึงสูท เบลเซอร์ หรือแจ็กเก็ตเป็นอันดับแรก เพราะเป็นไอเท็มที่ช่วยเสริมความหล่อเนี้ยบได้เป็นอย่างดี ซึ่งเดี๋ยวนี้สูทและเบลเซอร์ก็มีหลากหลายดีไซน์ให้ได้เลือกมิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับสไตล์ของตนเอง อย่าง หนุ่มมาดเข้มอาจเลือกสูทสีพื้น หนุ่มเซอร์อาจเลือกสูทสีเข้มลายตาราง หรือหนุ่มที่แต่งตัวจัดจ้านอาจจะเลือกแจ็กเก็ตสีสันสดใสมามิกซ์แอนด์แมตช์เพิ่มสไตล์ของคุณให้เนี้ยบมากยิ่งขึ้น เสื้อประเภทต่าง ๆ ใช่ว่าเสื้อเชิ้ตจะสร้างลุคเนี้ยบให้กับหนุ่ม ๆ อย่างเดียวเสมอไป เสื้อยืด หรือเสื้อโปโลสีพื้น อย่าง ขาว เทา ดำ
งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข อาจฟังดูง่ายๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันเป็นคำที่ค่อนข้างไกลตัวสำหรับผู้ชายหลายคน เพราะมีความเป็นไปได้น้อยมากหากชีวิตเราจะมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปด้วย หาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไปด้วยพร้อมกัน แต่สำหรับผู้ชายชื่อ สุทธิพงษ์ ธีติปริวัติร์ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า หมอโดม แห่ง Dogtor Garage คงเป็นข้อยกเว้น เพราะนับตั้งแต่เขาหันเหออกจากอาชีพสายสัตวแพทย์มาสู่การเป็นนักซ่อม ดัดแปลง และคืนชีพรถคลาสสิก นับแต่นั้นเขากลายเป็นคนที่ได้ทำอาชีพซึ่งมีพื้นฐานมาจากความหลงใหลส่วนตัวพร้อมกับเลี้ยงปากท้องไปพร้อมกัน ถือเป็นความสุขที่เป็นมากกว่าช่างซ่อมรถยนต์ทั่วไป แต่อะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจละทิ้งรูปแบบการใช้ชีวิตที่สังคมยอมรับว่าเป็นเส้นทางความมั่นคง สู่จุดหมายใหม่ที่ระหว่างทางมีความเสี่ยงมากกว่า วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนผู้ชายส่วนใหญ่ ความรักรถยนต์เกิดขึ้นตั้งแต่ยังเด็ก “จริงๆ ตั้งแต่จำความได้ เราก็รู้สึกชอบรถคลาสสิกมาตั้งนานแล้วครับ ส่วนหนึ่งเพราะเราใช้ชีวิตอยู่กับมันโดยที่เราไม่รู้ตัว เริ่มเล่นมาตั้งแต่รถจักรยานตั้งแต่สมัยเด็กแล้วมันก็ค่อยๆ ผ่านทุกมุมของคนเล่นรถเก่ามาเรื่อย ๆ เริ่มจากความชื่นชอบโดยที่ยังไม่ต้องลงทุนอะไร ขยับมาเป็น User และเปลี่ยนจาก User มาเป็นพ่อค้า กระทั่งวิวัฒนาการมาถึงการทำรถด้วยตัวเอง มาสู่การผลิตรายการ TV ที่เกี่ยวข้องกับรถคลาสสิกเหมือนอย่างในปัจจุบัน” เสน่ห์ของรถคลาสสิก ที่ส่งหมอโดมเข้ามาบนเส้นทางนี้ “สำหรับผมเสน่ห์ของมันคือความแตกต่าง รถคลาสสิกคือตัวแทนการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของยุคสมัยนั้น ๆ ซึ่งมีทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวรถ กระทั่งเรื่องราววัฒนธรรมสะท้อนสิ่งต่าง ๆ