One Piece เป็นการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่อยู่คู่กับนิตยสาร Shonen Jump และผู้อ่านมาอย่างยาวนาน การ์ตูนที่ว่าด้วยโจรสลัดและการผจญภัยในท้องทะเลอันกว้างใหญ่โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา One Piece มีอายุครบ 21 ขวบเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ว่าจะผ่านวัยบรรลุนิติภาวะมาแล้วกว่า 1 ปี แต่ One Piece ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบง่าย ๆ แถมเนื้อเรื่องช่วงนี้ยังกลับมาเข้มข้นแบบสุด ๆ ชนิดที่ว่าพลาดไม่สักตอนเดียว อย่างไรก็ตามวันเกิดอายุ 21 ปีมาเยือนทั้งทีก็ต้องมีอะไรมาฝากแฟน ๆ หน่อย ซึ่ง อ.เออิจิโระ โอดะผู้เขียนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ล่าสุด อ.ได้เปิดเผยออกมาว่าในตอนนี้เนื้อเรื่องดำเนินมาแล้วกว่า 80% ดังนั้นตอนจบที่แฟน ๆ หลายคนรอคอย บางคนตั้งธงไว้ด้วยซ้ำว่าการได้อ่าน One Piece ตอนจบคือ Bucket List ที่ต้องทำให้สำเร็จคงใกล้มาถึงแล้ว (คาดการณ์กันว่าคงอีกประมาณ 7-10 ปี ถึงจะฟังดูไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเร็ว ๆ นี้ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่รู้เลยว่ามันจะจบเมื่อไร) วันนี้ผู้เขียนในฐานะที่เป็นโอตาคุคนหนึ่งและติดตาม One
‘แชร์ลูกโซ่’ คำ ๆ นี้อยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ถ้าพูดถึงจุดกำเนิดคงต้องย้อนไปเมื่อพ.ศ.2520 กับคดี ‘แชร์แม่ชม้อย’ ซึ่งกวาดเงินไปมากกว่า 4 พันล้านบาท ด้วยจำนวนเงินมหาศาลนี้เองทำให้แชร์ลูกโซ่ไม่เคยหายไปไหน อาจจะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนวิธีการ แต่ปลายทางสุดท้ายก็ไม่ต่างกัน และปัจจัยสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยในแชร์ลูกโซ่นั่นคือ ‘ความโลภ’ แน่นอนว่าความโลภเป็นสิ่งสากล ดังนั้นขบวนการแชร์ลูกโซ่จึงไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น และไม่ได้เกิดจากการหลอกคนจนเท่านั้น คนรวยเองก็ตกเป็นเหยื่อของความโลภไม่ต่างกัน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักกับ Billionaire Boys Club บริษัทแชร์ลูกโซ่ที่สามารถเสกเงินพันล้านขึ้นมาได้ในพริบตา อื้อฉาวจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันซึ่งกำลังเข้าโรงฉายอยู่ในตอนนี้ Joseph Henry Gamsky เรื่องราวการฉ้อฉลบันลือโลกนี้เริ่มต้นจากชายชื่อ Joseph Henry Gamsky หรือ Joe Hunt นักลงทุนชาวอเมริกันในยุค 80 เขาฉลาดเป็นกรด ทะเยอทะยาน และเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสูง เรียกว่าเขามีคุณสมบัติและลักษณะนิสัยที่คนจะประสบความสำเร็จควรมี (ผู้เขียนคิดว่า Joe Hunt และ Jordan Belfort หมาป่าแห่ง Wall Street ที่เรื่องราวของเขาเคยถูกนำมาทำหนังเป็นภาพยนตร์เช่นกันในชื่อ The Wolf
นาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ Supreme ยิ่งถ้าเป็นสาย Street Fashion แน่นอนว่าต้องมีชื่อ Supreme ติดเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับท็อปของสายนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังโลโก้ Supreme ที่ประกอบด้วยอักษรสีขาวบนพื้นแดงนี้มีแรงบันดาลใจมาจากที่ไหน ถ้าพวกคุณคือคนหนึ่งที่ใช้ไอเท็มของแบรนด์ Supreme ที่อยากเพิ่มความเท่มากกว่าการใส่ ลองมาเติมความลึกกันหน่อยกับศิลปินหญิงเบื้องหลังแรงบันดาลใจโลโก้ และชนวนดราม่าของการฟ้องร้องระหว่าง Supreme กับ Supreme Bitch เพราะทั้งหมดเกิดและจบด้วยเธอคนนี้ “บาร์บาร่า ครูเกอร์” (Barbara Kruger) Say Hello to Barbara Barbara Kruger คือศิลปินอเมริกันที่เติบโตจากเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เธอเกิดใน ค.ศ. 1945 เข้าเรียนที่สถาบัน Parson’s School of Design และได้เรียนกับช่างภาพระดับตำนานอย่าง Diane Arbus กับกราฟิกดีไซน์เนอร์ดัง Marvin Israel ซึ่งการเรียนเหล่านี้เองที่ทำหน้าที่เป็นโรงบ่มงานไอเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ในฉบับของตัวเธอ หลังจากเรียนจบ
เจอรถติดใช่มั้ย ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของ taxi คันนี้ (ที่จริงต้องใช้คำว่าลำนี้) ท่ามกลางความเดือดของการแข่งขันด้าน Flying Taxi หรือรถบินได้ ที่มีทั้งบริษัทใน Dubai และทาง Uber ดูจะเป็นผู้นำหน้าเทคโนโลยีอยู่ในขณะนี้ ทางด้าน Rolls-Royce Holdings plc บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินชั้นนำของโลกที่เรานั่งโดยสารกันอยู่ในปัจจุบัน (เครือเดียวกับ Rolls-Royce Motor Cars ผู้ผลิตยนตรกรรมสุดหรูราคาแพงระยับจากอังกฤษ) ได้ทำการประกาศศักดาลุยธุรกิจสายใหม่ เปิดตัว Hybrid Flying Taxi ในงาน Farnborough International Airshow 2018 Flying Taxi ลำนี้มีรหัสเรียกขานว่า Electric Vertical Take-off and Landing (EVTOL) หรือ “อากาศยานพลังงานไฟฟ้าที่บินขึ้นลงได้ในแนวดิ่ง” สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 4-5 คน ทำความเร็วได้ประมาณ 400 กม. ต่อชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งสามารถบินได้ไกลราว 800
ฟุตบอลโลก 2018 มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติจบลงไปแล้ว UNLOCKMEN ขอแสดงความยินดีกับทีมตราไก่ฝรั่งเศสด้วยที่สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จหลังจากที่รอคอยมากว่า 20 ปี เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของพวกเขา และก่อนจะสิ้นสุดการนอนดึกและลาจากเทศกาลนี้ไป UNLOCKMEN ขอทิ้งท้ายอีกสักหนึ่งคอนเทนต์ด้วยการรวบรวมสถิติเก็บตกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นควันหลง ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียครั้งนี้มีอะไรให้น่าจดจำกันบ้าง ยอดเยี่ยม Luka Modric คว้ารางวัล Golden Ball หรือนักเตะยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลกได้ตามคาดด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมและมีส่วนสำคัญในการพาทีมม้ามืดอย่างโครเอเชียมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ในนาทีนี้ไม่มีดาวรุ่งคนไหนจะร้อนแรงไปกว่า Kylian Mbappé กองหน้าวัย 19 ของทีมชาติฝรั่งเศสอีกแล้ว โดยเฉพาะในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่เขาทำให้ทั้งโลกตะลึงด้วยลีลาการเล่นอันจัดจ้านจนทำให้เขาคว้ารางวัล Best Young Player หรือดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลกไปครอง ถึงครึ่งหนึ่งจะมาจากจุดโทษแต่ประตูก็คือประตู Harry Kane ซึ่งซัดไปทั้งหมด 6 ประตูจึงคว้ารางวัล Golden Boot หรือดาวซัลโวประจำฟุตบอลโลกไปครอง จากการโชว์ซูเปอร์เซฟนับครั้งไม่ถ้วนโดยเฉพาะในเกมที่ทีมชาติเบลเยี่ยมพบกับทีมชาติบราซิลจึงทำให้ Thibaut Courtois คว้ารางวัล Golden Glove หรือผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมกลับบ้านไปปลอบใจ ถึงแม้จะกลับบ้านไปตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างน่าผิดหวัง แต่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้พวกเขาคือทีมที่เล่นฟุตบอลได้สุภาพบุรุษและขาวสะอาดที่สุดจนได้รางวัล Fair
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คู่ชิงชนะเลิศของฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลกต่างใส่ชุดแข่งของไนกี้ และนี่ยังเป็นบทสรุปอันน่าประทับใจของไนกี้ตลอดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติรายการสำคัญที่สุดที่มีการทำสถิติใหม่ๆ มากมาย ในโอกาสนี้ เอลเลียต ฮิลล์ ประธานฝ่ายผู้บริโภคและช่องทางจัดจำหน่าย (President of Consumer and Marketplace) ของไนกี้ กล่าวว่า “ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ 3 ใน 4 ทีม ใส่ชุดแข่งของไนกี้ และทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทั้ง 2 ทีม ต่างสวมชุดแข่งของไนกี้ เราผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับกีฬาฟุตบอลมาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ และการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คู่ชิงชนะเลิศของฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลกต่างใส่ชุดแข่งของไนกี้” ในการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติรายการสำคัญที่แฟนบอลเฝ้ารอชมนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 10 จาก 32 ทีม เลือกใช้ชุดแข่งของไนกี้ ซึ่งรวมถึง 3 จาก 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ (ได้แก่ ฝรั่งเศส โครเอเชีย และอังกฤษ) และชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศส่งผลให้ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถปักดาวแชมป์โลกดวงที่ 2 ลงบนเสื้อแข่งของพวกเขาได้สำเร็จ ฮิลล์กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือไปจากชุดแข่งแล้ว ไนกี้ยังเป็นแบรนด์ที่ชนะใจนักฟุตบอลมากมาย เพราะนักฟุตบอลระดับชั้นนำหลายต่อหลายคนเลือกใช้รองเท้าฟุตบอลของไนกี้ เวลารวมของการลงเล่นในสนามโดยนักฟุตบอลที่สวมใส่รองเท้าฟุตบอลไนกี้นั้นสูงถึงร้อยละ 65
หลังจากใช้เวลาถึง 9 ปีอยู่กับ Real Madrid ซึ่งเราเคยคิดว่ามันจะเป็นสโมสรสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ดด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าในบั้นปลายอาชีพค้าแข้งของ Christiano Ronaldo นักเตะเจ้าของรางวัล Ballon d’Or 5 สมัย วัย 33 ปี จะยังสามารถย้ายทีมไปอยู่เมือง Turin กับสโมสรโลโก้เท่ Juventus Football Club หรือที่เราเรียกกันสบายปากว่า Juve ด้วยค่าตัวมโหฬารบานตะไท มี Transfer fee 100 ล้านยูโร เงินเดือนปีละ 30 ล้านยูโร รวมสัญญา 4 ปี 120 ล้านยูโร สัปดาห์ละ 22 ล้านบาท เฉลี่ยวินาทีละ 40 บาท ประเด็นคือหลายคนยังไม่รู้ว่าตัวเลขดีลที่หลายคนพูดถึงนั้น ยังไม่รวมโบนัสและภาษีที่ Andrea Agnelli ผู้บริหารสโมสร Juventus ต้องจ่ายภาษีในจำนวนเงินเท่ากันเข้าหลวงอีก เบ็ดเสร็จปิดดีลเขย่าโลกครั้งนี้คาดว่า Juve ต้องควักไม่ต่ำกว่า 340 ล้านยูโร
ก่อนอื่นเลยขอโอ้อวดความแม่นของตัวเองสักนิด จากคอนเทนต์ที่แล้ว (https://www.unlockmen.com/semi-wc/) น้องแนทเทอรีน BNK48 หรืออีเจี๊ยบเลียบด่วนที่ว่าอาถรรพ์แรง ๆ ยังต้องพ่ายแพ้ต่อความแม่นยำของพ่อหมอ UNLOCKMEN ตอนนี้กำลังได้ใจ จึงขอออกมาวิเคราะห์และฟันธงอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศแล้ว การแข่งขัดนัดสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 หลังจากขับเคี่ยวกันมาตลอด 1 เดือนเต็ม สุดท้ายแล้วทีมตราไก่ฝรั่งเศสหรือทีมตราหมากรุกโครเอเชีย ทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์ไปครอง Head Coach เรื่องแผนการเล่น ฝีมือ และประสบการณ์ ทั้ง Didier Deschamps และ Zlatko Dalić ต่างก็ใช้แผน 4-2-3-1 ซึ่งทำให้สามารถคาดเดารูปเกมได้ล่วงหน้าเลยว่าต้องเป็นเกมที่รัดกุมและระมัดระวังด้วยกันทั้งคู่ ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อยอาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้เลย ส่วนในเรื่องประสบการณ์นั้นเป็นฝ่าย Didier Deschamps ที่ดูดีกว่าพอสมควร เพราะมีผ่านประสบการณ์คุมทีมมาอย่างยาวนานและแต่ละทีมล้วนเป็นทีมใหญ่ทั้งนั้น ในขณะที่ Zlatko Dalić ถึงแม้จะเริ่มรับบทบาทในตำแหน่ง Head Coach ครั้งแรกเมื่อปี 2005 แต่ก็ไม่เคยผ่านการคุมทีมยักษ์ใหญ่เลย และเขาเพิ่งเข้ามาคุมทีมชาติโครเอเชียเมื่อปี 2017 นี้เอง อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถพาทีมม้านอกสายตาอย่างทีมชาติโครเอเชียมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้แปลว่าฝีมือเขาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ทีมใดมีกุนซือดีกว่ากัน: เสมอกัน Goalkeeper ถ้าวัดกันเฉพาะในแง่ชื่อเสียงแน่นอนว่า Hugo Lloris
เรียบร้อยโรงเรียนม้าลายไปแล้วสำหรับดีลสั่นสะเทือนวงการลูกหนังโลกของ Cristiano Ronaldo ที่ตกลงย้ายออกจากหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Real Madrid ไปซบอก Juventus ทีมมหาอำนาจลูกหนังเมืองมักกะโรนีด้วยค่าตัวประมาณ 110 ล้านยูโร ขึ้นแท่นเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Serie A เป็นที่เรียบร้อย ถึงจะไม่ใช่ค่าตัวนักเตะสูงสุดตลอดกาลของโลก (ตอนนี้อันดับ 1 เป็นของ Neymar มูลค่า 222 ล้านยูโร) แต่อย่าลืมว่านี่คือนักเตะอายุ 33 ปี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับคนอื่นนี่คือช่วงปลายอาชีพค้าแข้งที่สภาพร่างกายโรยราแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ชายชื่อ Cristiano Ronaldo ความฟิตของเขายังสุดยอดไม่ต่างจากช่วงวัยรุ่น ยิงประตูได้เกิน 40 ประตูต่อเนื่องมาตลอดทุกปี พาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 และล่าสุดก็ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก ผู้ชายคนนี้สร้างปรากฏการณ์ให้ได้ทึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าตำนานของเขากับทีม Real Madrid จะจบลงแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าเขาต้องสานต่อตำนานของตัวเองที่เมือง Turin ได้แน่นอน ดังนั้นก่อนที่จะพบกับตำนานบทต่อไป ย้อนดูกันก่อนดีกว่าว่าที่ผ่านมาลูกผู้ชายนาม Cristiano Ronaldo ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรไว้บนโลกนี้บ้าง ทุบสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่อยู่มากว่า 8 ปี นับตั้งแต่ Zinedine Zidane สุดยอดจอมทัพเลือดน้ำหอม ตกลงย้ายตัวจาก Juventus สู่
เมื่อพลาสติกเป็นวาระแห่งชาติและหลอดกลายเป็นอาวุธทิ่มแทงสัตว์ทะเลให้เจ็บปวด ร้านกาแฟขวัญใจคอคาเฟอีนเจ้าใหญ่อย่างสตาร์บัคส์เลยขอออกโรงรักษ์โลก เลิกผลิต เลิกใช้หลอดเขียวที่เป็นสี CI ให้เกลี้ยงภายใน พ.ศ. 2563 เพราะถ้าทำได้จริง ปริมาณหลอดจะหายจากระบบไปถึง 1,000 ล้านหลอดต่อปี แม้สำหรับเราก็แค่ไม่รับหลอด มันคงไม่ยากอะไร แต่สตาร์บัคส์ก็ยังอยากตอบโจทย์คนติดหลอดด้วยการดีไซน์ฝาแก้วพลาสติกให้พอดีกับรูปปากไว้แทนที่หลอด และเรียกเจ้าแก้วรูปแบบใหม่นี้ว่า “Sippy cup” ซึ่งแม้ฝาที่ทำออกมาเป็นพลาสติก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดี ๆ ที่องค์กรสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเห็นด้วย เนื่องจากปกติฝาแก้วที่เราใช้ต้องเจาะด้านบนสำหรับใส่หลอดทำให้มีเศษแผ่นพลาสติกทิ้งอยู่แล้ว แถมใช้หลอดด้วยก็เท่ากับมีขยะเพิ่มสองเท่า การเปลี่ยนมาลดบางส่วนจึงถือว่าดีกว่าไม่ลดเลย ปัจจุบันสตาร์บัคส์เริ่มนโยบายนี้ไป 8,000 สาขาจาก 28,000 สาขาทั่วโลก หลอดสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์คงค่อย ๆ หายไป แล้วแทนที่ด้วยสิ่งนี้แทน ตามที่ประกาศไว้ ฝาแก้วรูปแบบใหม่ แม้ตอนนี้ยังไม่มีในเมืองไทยแต่พวกเราก็ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนั้น หนุ่ม ๆ คนไหนที่กินสตาร์บัคส์บ่อย ๆ ลงทุนเปลี่ยนมาเป็นผู้นำซื้อแก้วแบบรีฟีลงดใช้ทั้งหลอดและแก้วพลาสติกไปเลยจะคูลกว่า SOURCE
การแข่งขันเข้มข้นดุเดือดผ่านไป มีทั้งผู้แพ้ที่ต้องกลับบ้านและผู้ชนะที่ได้ไปต่อ ในที่สุดฟุตบอลโลก 2018 ก็ดำเนินมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว เหลือการแข่งขันอีกแค่ 4 นัดเราก็จะรู้กันแล้วว่าทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์ไปครอง แม้ตอนนี้ทั้ง 4 ทีมจะเป็นทีมจากทวีปยุโรปทั้งหมด จนหลายคนออกมาล้อว่านี่คือ ‘ฟุตบอลยูโร 2018’ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความสนุกจะน้อยลงแต่อย่างใด เพราะทั้ง 4 ทีมนี้คือ 4 ทีมที่ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, อังกฤษ, โครเอเชีย ทีมใดจะได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เราขออาสาเป็นกูรูวิเคราะห์แมทที่ดุเดือดนี้กัน France vs Belgium ฝรั่งเศส – ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ทีมเต็งลำดับสูง ๆ ต่างพร้อมใจกันเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันอย่างรวดเร็ว มีเพียงฝรั่งเศสทีมเดียวเท่านั้นที่อยู่ในทีมเต็ง 5 อันดับแรกที่สามารถฝ่าฟันเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางในกลุ่ม C ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่โหดมาก แต่กลับโชว์ฟอร์มได้กระท่อนกระแท่น กว่าจะชนะได้แต่ละนัดค่อนข้างหืดจับ จนแฟนบอลและสื่อออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘จะไหวเหรอ?’ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องเจอกับอีกหนึ่งทีมเต็งอย่างอาร์เจนตินาที่นำทัพมาด้วย Lionel Messi และนัดนี้ก็เป็นนัดแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าทีมตราไก่โชว์ฟอร์มได้ดี พวกเขาไล่ต้อนอาร์เจนตินาไปด้วยสกอร์ 4-3 ทะลุสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเจอกับทีมจอมโหดอุรุกวัยที่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้โชว์ฟอร์มได้โหดสมชื่อ เป็นทีมที่มีแนวรับแข็งแกร่งอันดับต้น
การค้นพบเด็ก ๆ และโค้ชของทีมฟุตบอลหมูป่าเป็นเหมือนแค่จุดเริ่มต้นของภารกิจช่วยชีวิตครั้งนี้เท่านั้น เพราะถึงจะพบตัวแล้วแต่กว่าจะนำตัวทุกคนออกมาได้ก็ต้องใช้เวลาร่วมสัปดาห์ เนื่องจากการจะออกไปด้านนอกนั้นต้องดำน้ำออกไป จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดหน่วย Seal ที่มีความเชี่ยวชาญยังใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่นี่ต้องพาเด็ก ๆ ที่ร่างกายไม่แข็งแรงออกมาด้วยภารกิจนี้จึงเข้าขั้นโหดหิน นอกจากนั้นยังมีข่าวร้ายนั่นคือการเสียชีวิตของ จ.อ. สมาน กุนัน อดีตหน่วย Seal ที่เสียชีวิตภายในถ้ำหลวงระหว่างดำน้ำลำเลียงขวดอากาศ ยิ่งตอกย้ำว่าการดำน้ำในถ้ำนั้นอันตรายขนาดไหน ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จึงจะมาบอกอันตรายของการดำน้ำในถ้ำเพื่อเป็นอุทาหรณ์และทำความเข้าใจว่าทำไมการช่วยชีวิตเด็ก ๆ และโค้ชจึงไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ความคับแคบที่ส่งผลต่อทั้งกายและใจ การมุดผ่านซอกหินแคบ ๆ แม้แต่ในพื้นที่แห้งยังเป็นเรื่องยากลำบาก ดังนั้นเมื่อต้องดำน้ำแบกถังออกซิเจนหนัก ๆ ไว้บนหลัง ความยากย่อมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ การเคลื่อนที่ทำได้อย่างเชื่องช้ายิ่งทำให้รู้สึก Panic เข้าไปอีกว่าปริมาณออกซิเจนจะเพียงพอหรือไม่เพราะคุณไม่สามารถโผขึ้นบนผืนน้ำเพื่อหายใจได้เลยในกรณีออกซิเจนคุณหมด และการที่ต้องอยู่ในช่องแคบ ๆ เป็นเวลานานนอกจากสภาพร่างกายที่จะค่อย ๆ อ่อนล้าแล้ว จิตใจก็ต้องรับภาระหนักไม่แพ้กัน เหมือนคุณกำลังอยู่ในอุโมงค์ลึกที่ไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะใครที่กลัวที่แคบอยู่แล้วการดำน้ำในถ้ำถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามเลยทีเดียว อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยปกติการดำน้ำก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว แต่การดำน้ำในถ้ำนั้นเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าการดำน้ำปกติหลายเท่าตัวเนื่องจากคุณต้องดำผ่านซอกหินที่คับแคบแทบจะตลอดเวลา ซึ่งพื้นผิวของมันก็ขุรขระเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยแหลมคม และที่สำคัญคือถ้าคุณเกิดประสบอุบัติเหตุในซอกหินคุณจะไม่สามารถขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อปฐมพยาบาลได้ในทันที คุณต้องกลั้นใจเดินหน้าต่อไปหรือไม่ก็ถอยหลังกลับมาสู่พื้นที่โล่งเสียก่อน ดังนั้นการดำน้ำในถ้ำถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็เหมือนกำลังพาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย วิสัยทัศน์ในการมองเห็นต่ำ อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญของการดำน้ำในถ้ำคือการที่คุณแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยต่อให้คุณจะพกไฟส่องสว่างติดตัวไปด้วยก็ตาม ภายในถ้ำใต้น้ำที่ถูกตัดขาดจากแสงเดือนแสงตะวันนั้นมืดมิดเสียจนบางครั้งคุณมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเองด้วยซ้ำ นอกจากนั้นน้ำก็ไม่ได้ใสเหมือนในทะเล