เรื่องความปลอดภัยในชีวิตเจ้าหน้าที่ เป็น priotiry สำคัญของ US Department of State เรื่องยานพาหนะจึงต้องสั่งทำเป็นพิเศษโดยการร่วมมือกับ GM Defense แผนกย่อยของ General Motors ที่รับผิดชอบด้านรถยนต์สำหรับ Security Service ผลิตรถหุ้มเกราะให้หน่วยงานรัฐโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ GM Defense พึ่งจะได้รับ contract ให้ผลิตรถสำหรับกองทัพโดยใช้พื้นฐานของ Chevrolet Colorado ZR2 เป็นจำนวนเงินมากถึง $213.4 ล้านเหรียญ สำหรับยานพาหนะ 2.065 คัน และใน contract ใหม่ล่าสุดที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีมูลค่า $36.4 ล้านเหรียญ สำหรับรถยนต์ heavy-duty Chevrolet Suburban จำนวน 10 คัน เฉลี่ยคันละ $3.6 ล้านเหรียญ หรือราว 120 ล้านบาท ในขณะที่ราคารุ่นนี้ปกติอยู่ที่ $52,000 เท่านั้น Chevrolet
วันนี้แม้แต่ Wong Kar Wai ยังเตรียมเปิดตัวผลงาน NFT ชิ้นแรก Unseen Footage จากภาพยนตร์สุดเหงา “In The Mood For Love” ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน การประมูล Unseen Footage ของ “In The Mood For Love – Day One” ความยาวประมาณ 91 วินาที เนื้อหาทั้งหมดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกในวันแรกของการถ่ายทำภาพยนตร์ Classic Romantic Drama ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเทศกาล Cannes Film Festival ปี 2000 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้กำกับสุดอาร์ทคนนี้มากที่สุดเรื่องนึง และถูกโหวตโดยคนดูว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดอันดับที่ 2 ของ Wong Kar Wai การประมูลครั้งนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง Wong Kar Wai และ Sotheby’s ในการนำ
ชาว UNLOCKMEN น่าจะไม่มีใครไม่เคยเห็นเด็กน้อยน่ารักในวัย 4 เดือน ที่กำลังแก้ผ้าว่ายน้ำในปกอัลบั้ม Nevermind ของ Nirvana ชื่อของเด็กคนนั้นก็คือ Spencer Elden ซึ่งปัจจุบันเป็นชายฉกรรจ์อายุ 30 ปี และตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ เพราะความหัวหมอ เตรียมฟ้องวงในข้อหาอนาจารฐานให้ภาพเด็กเปลือย Elden ดำเนินการทางกฎหมายด้วยเหตุผลว่า ตัวของเขา รวมถึงพ่อแม่ของเขา ไม่มีใครเคยเซ็นยินยอมให้ Nirvana ใช้ภาพนู๊ดวัยเด็กของเขาในการดีไซน์ปกอัลบั้ม Nevermind ที่มียอดขายมากกว่า 30 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก ในขณะที่ค่ายเพลงทำรายได้มหาศาล แต่สิ่งที่ครอบครัวของ Elden ได้รับคือค่าตอบแทนจำนวน $200 สำหรับรูปถ่ายเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครบอกว่าจะเอาไปทำอะไรด้วยซ้ำ กระทั่ง 3 เดือนผ่านไป ก็พบว่ารูปเปลือยของลูกชายปรากฏอยู่บนโปสเตอร์เต็มกำแพง Tower Records ใน Los Angeles ซะแล้ว “ปก Nirvana อัลบั้มนี้ โชว์ของลับ อวัยวะเพศของ Elden ตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งถึงวันนี้ การที่คนทั่วโลกเห็นจู๋ของคุณมาตลอด 30
เตือนภัยสำหรับผู้ชายทุกคน เพราะ Covid-19 ที่ว่าอันตรายแล้ว ยังมีการค้นพบอาการ Long COVID ที่น่ากลัวยิ่งกว่า นั่นคือมันอาจมีผลทำให้สมรรถนะทางเพศเสื่อมอีกด้วย นักวิจัยจาก University of Miami Miller School of Medicine ได้ทำการตรวจสอบผู้ป่วยเพศชาย 2 ราย ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 และทำการรักษาจนหายดีแล้ว กลับพบว่าร่างกายยังมีผลกระทบระยะยาว นั่นคือน้องชายไม่สู้โดยไม่มีสาเหตุ ทั้งที่ก่อนหน้าก็ยังใช้การได้ดีเป็นปกติ เพื่อทำการรักษาให้น้องชายกลับมาแข็งแรง ผู้ป่วย 2 รายจึงปรึกษาแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด และระหว่างวิเคราะห์เนื้อเยื่อจากอวัยะเพศ ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่ามีเชื้อไวรัสโควิดที่ยังมีชีวิตอยู่ ปะปนอยู่ในเนื้อเยื่อดังกล่าวแม้ระยะเวลาจะผ่านมาแล้ว 7-9 เดือน นับตั้งแต่หายจาก Covid-19 นักวิจัยสรุปในบทความที่ตีพิมพ์ใน World Journal of Men’s Health ว่าการติดเชื้อ Covid-19 อาจทำให้เลือดอุดตัน จนกระทบการไหลเวียนของเลือดที่ส่งไปเลี้ยงอวัยวะเพศ เมื่อเลือดไปเลี้ยงไม่ได้ จึงเกิดเป็นปัญหาทำให้น้องชายไม่ขันนั่นเอง ในรายงานระบุด้วยว่า นอกจากอวัยวะเพศที่เสี่ยงต่อการอุดตันของเลือดจาก Covid-19 ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
แสงสี / ปาร์ตี้อันเย้ายวนใจ / ความเมามาย และเสียงเชียร์กระหึ่มเมื่อทีมบอลในดวงใจคว้าชัยชนะ อาจจะกลายเป็นเพียงภาพในอดีตที่ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้อีกต่อไป เนื่องจากอุตสาหกรรมไนท์คลับในอังกฤษกำลังถึงกาลอวสาน ทั้ง ๆ ที่เปิดประเทศไปแล้ว ไม่ใช่เพียงบ้านเราเท่านั้นที่ธุรกิจกลางคืนไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ เพราะขนาดประเทศอังกฤษ เมืองที่มีผับ บาร์ และไนท์คลับคับคั่งประเทศหนึ่งในโลก ต่างก็กำลังเผชิญวิกฤตปิดตายไม่ต่างกัน ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจกลางคืนนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจชั้นดีเสมอมา เกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่สามารถเล่นคอนเสิร์ตและผู้ชมสามารถถอดแมสค์เพื่อรับชมคอนเสิร์ตได้ ไหนจะรับวัคซีนจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว แต่ทำไมธุรกิจกลางคืนยังไม่สามารถกลับมาเปิดได้ ซ้ำร้ายยังถูกหลายสื่อฟันธงว่า “มันถึงจุดสิ้นสุดของยุค และธุรกิจไนท์คลับได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับไปแล้ว” ทำไมธุรกิจไนท์คลับถึงไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม ? เว็บไซท์ของสำนักข่าว Bloomberg ได้ตั้งคำถามถึงวิกฤตขอวธุรกิจสถานบันเทิงเอาไว้อย่างน่าสนใจ สืบเนื่องจากอังกฤษได้ยืนกรานที่จะคืนเสรีภาพและการใช้ชีวิตของผู้คนให้เป็นปกติ โดยใช้วันดีเดย์คือวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นวันแห่งเสรีภาพ หรือ Freedom Day ด้วยการคลายมาตรการรับมือกับเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการไม่จำกัดจำนวนคนในการชุมนุม ไปจนถึงสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้อย่างเสรี หากแต่ธุรกิจไนท์คลับนั้นกลับไม่สามารถเปิดได้แบบปกติ 100% เพราะเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ การติดเชื้อที่ไม่มีวันลดลง แม้อังกฤษจะเปิดประเทศด้วยการพยายามตอกย้ำว่า “เราต้องอยู่กับโรคระบาดนี้ให้ได้” แต่จำนวนผู้ป่วยนั้นกลับมาอยู่ที่ระดับ 50,000 รายต่อวันอีกครั้ง ซ้ำยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า สายพันธุ์ล่าสุดที่แม้จะรับวัคซีนครบ
เกม เป็นอีกสื่อสะท้อนความคิดและวัฒนธรรมของผู้คนในยุคนั้น ๆ ได้ดี ตัวละครนึงที่เป็นจุดเปลี่ยนและกระบอกเสียงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงในยุค 90’s ที่อิทธิพลเพศชายถือไพ่เหนือกว่าก็คือ “Chun Li” นักสู้สาวสุดสวยจาก Street Fighter II: The World Warrior Chun Li ถือกำเนิดขึ้นในปี 1991 เป็น Playable Female Fighter ตัวละครหญิงตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้นในยุคนี้ นักสู้สาวผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ของจีน และยังเป็นตำรวจสากลนอกเครื่องแบบ บนเวทีการต่อสู้แบบ 1-on-1 ที่มีแต่นักสู้ชายสุดแกร่ง นักมวยปล้ำร่างยักษ์ หรือแม้แต่นักโยคะพ่นไฟได้ ความนิยมของ Chun Li นั้นอยู่ในกลุ่มหัวแถวเท่ากับพระเอกอย่าง Ryu หรือ Ken ทำให้บทบาทของเธอได้ถูกส่งต่อไปยังภาพยนตร์ live-action เช่น Street Fighter: The Legend of Chun-Li (2009), Animation หรือแม้แต่ในเพลง Hip Hop
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในฐานะนักร้อง-นักแต่งเพลง นักกีตาร์ และโปรดิวเซอร์เพลง John Mayer ถือเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถอันหลากหลาย ที่มาพร้อมความสำเร็จไม่ว่าจะเรื่องรายได้หรือรางวัลมาหลายครั้ง บทเพลงของเขาตลอดชีวิตการทำงานนั้นมีหลากหลายจนยากที่จะจำกัดเขาเพียงแนวใดแนวหนึ่ง นอกจากการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากผู้ฟังแล้ว อัลบั้มของเขาได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์อีกด้วย พร้อมทั้งรางวัลที่มากมายจนที่บ้านนั้นแทบไม่มีที่ไว้ แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชมมากมายในด้านผลงาน ชีวิตอีกด้านของเขาก็เต็มไปด้วยสีสันและความแสบทรวงเช่นกัน เรามาดูกันว่าชีวิตรอบด้านหลายมิติของนาย John Mayer เป็นแบบไหน และทำไมหลายคนถึงเรียกเขาว่า Bad Boy แห่งวงการดนตรีป็อป ความหมกมุ่น นำพาสู่เส้นทางอัจฉริยะ John Mayer เป็นประชากรคอนเนตทิคัตโดยกำเนิด ชีวิตของเด็กน้อย John ในวัยเยาว์นั้นก็ไม่ได้ต่างกับเด็ก ๆ ทั่วไป ที่ซุกซนตามประสา จนกระทั่งเขาได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือ Back to the Future หนังไซไฟ แฟนตาซีเรื่องดัง เปล่า…เขาไม่ได้อยากย้อนเวลาไปไหน แต่สิ่งที่โดนใจเขาอย่างจัง คือฉากที่ Michael J. Fox เล่นกีตาร์เพลง “Johnny B. Goode” ซึ่งฉากโซโล่อันแสนสะเด็ดสะเด่านั้น นำพาให้เขาอยากเป็นร็อคสตาร์ และยิ่งพ่อและแม่มักมีปากเสียงอยู่เสมอ
ขณะที่หลายคนกำลังอ่านบทความนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียวกำลังดำเนินอยู่ เพื่อส่งสัญญาณการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งที่ 32 อย่างเป็นทางการ และในช่วงจังหวะเวลาเหมาะเจาะแบบนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลน่าสนใจของ Tokyo 2020 Olympics ครั้งนี้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านอุ่นเครื่องเพิ่มความอินในการรับชม และร่วมเชียร์ได้อย่างมีอรรถรสเต็มเหนี่ยวกันไปเลย 57 ปีที่รอคอย มหกรรม Tokyo 2020 Olympics ที่ถูก COVID-19 เล่นงาน จนต้องถูกเลื่อนมาจัดในปี 2021 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี ที่ตำแหน่งเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน หวนกลับมาสู่อ้อมอกชาวอาทิตย์อุทัยอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1964 และถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนถึง 2 ครั้ง ซึ่งการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีตนั้นมีความสำคัญในแง่ของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก ช่วยลบล้างทัศนคติเชิงลบของประเทศ ด้วยการสร้างชื่อเสียงของญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในมุมมองของประเทศที่ทันสมัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม หลังจากผ่านเวลามาอย่างยาวนาน ในที่สุดวงล้อแห่งโอลิมปิกก็หมุนวนมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในการประชุมหาเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ที่อาร์เจนตินาเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา มี 3 เมืองใหญ่ได้ขับเคี่ยวเพื่อตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิก ทั้งอิสตันบูล มาดริด
การออกมาส่งเสียงเรียกร้องความยุติธรรม และความถูกต้องมันเป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนควรมี โดยเฉพาะในดินแดนที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยด้วยแล้ว เสียงของคนส่วนใหญ่นั้นคือสิ่งสำคัญ และเมื่อมีอะไรไม่ถูกต้องหรือข้อสงสัย ผู้คนก็ควรที่จะออกมาส่งเสียงทักถึงประเด็นที่ควรแก้ไขนั้นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศอะไร รวยหรือจน คนก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องความถูกต้องและการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น ศิลปินคนดังระดับโลกมากมายตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันที่สามารถส่งเสียงได้ดังกว่าและไกลกว่าคนทั่วไป เมื่อต้องการเรียกร้องความถูกต้อง เราจึงเห็นการออกมาเป็นกระบอกเสียง หรือที่เราเรียก ‘Call Out’ จากคนมีชื่อเสียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในยุคปัจจุบัน เรากลับได้เห็นผู้มีอำนาจสั่งให้ศิลปิน สื่อ หรือเหล่าคนดังหุบปาก ห้ามออกมาวิจารณ์ และห้ามแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ที่กระเทือนภาพลักษณ์ของรัฐบาล รวมถึงห้ามเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็น่าตลกที่เวลาหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ทำโครงการช่วยสังคมเพียงนิดหน่อย กลับจ้างศิลปินเหล่านี้มาช่วยกันตะโกนโปรโมทกันปาว ๆ มันช่างย้อนแย้งซะจริง ๆ การ Call Out ในอดีตเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น การต่อต้านการเหยียดสีผิว ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ต่อต้านการเหยียดเพศ ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ ต่อต้านสิ่งเหลื่อมล้ำต่าง ๆ ที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าศิลปินนักดนตรีเท่านั้น แต่นักกีฬาชื่อดัง นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ของ Hollywood ก็มักจะออกมาสนับสนุน และเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องกันอย่างเสรีโดยไม่มีใครมาห้าม ตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงของชาวนาในประเทศอังกฤษที่มีต่อระบบศักดินา ไปจนถึงการประท้วงครั้งใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน คนมีชื่อเสียง ศิลปิน นักดนตรี
ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสที่ทำลายทุกวงการ โดยเฉพาะวงการภาพยนตร์ที่ต่างต้องหยุดฉายเลื่อนวันกันจนเสียขบวน จากสถานการณ์ที่ส่งผลให้โรงหนังในประเทศไทยถูกปิดอย่างไม่มีกำหนด แต่วิกฤตที่ว่าหนักหน่วงนี้ ก็ไม่อาจปิดกั้นประกายแห่งความสำเร็จและความยอดเยี่ยมของผู้กำกับสายเลือดไทย ที่ได้ออกไปสร้างชื่อเสียงความยิ่งใหญ่ในต่างแดน ในฐานะผู้นำพาความภาคภูมิใจ และประจักษ์แก่ฝีมือว่าฟิล์มเมคเกอร์ไทยนั้นมีฝีมือไม่แพ้ขาติใดในโลก UNLOCKMEN ขอนำคุณไปรู้จักกับผู้กำกับสุดยอดฝีมือทั้ง 3 ท่าน ที่มีผลงานคว้ารางวัลระดับโลก และขึ้นอันดับ 1 หนังทำเงินอย่างสมภาคภูมิ และมาดูกันว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไรบ้าง เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้นำไปปรับใช้ได้สำหรับทุกคน เริ่มจากผู้กำกับที่หลักไมล์ในวงการหนังไทยอาจดูน้อยเมื่อเทียบกับผู้กำกับท่านอื่น ๆ เนื่องจากมีผลงานที่ผ่านตากับหนังเรื่องยาวเพียง 2 เรื่องเท่านั้น นั่นคือ Countdown (2012) และ ฉลาดเกมส์โกง (2017) แต่เพราะผลงานหนังเรื่องฉลาดเกมส์โกง ได้สร้างรูปแบบเฉพาะตัว จนกลายเป็นงานเปี่ยมล้นด้วยสไตล์ที่ล้ำสมัยและสื่อสารทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้อยู่หมัด ทำให้ชื่อของ “บาส นัฐวุฒิ” กลายเป็นฟิล์มเมคเกอร์รุ่นใหม่ที่ฝีไม้ลายมือเป็นที่กล่าวขานในระดับสากล โดยที่หนัง ฉลาดเกมส์โกง หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Bad Genius ได้สร้างชื่อเสียงในระดับอินเตอร์โดยเฉพาะประเทศจีนที่สามารถทำรายได้ระดับปรากฏการณ์ ทำให้ชื่อของบาส ทำลายกำแพงภาษา เป็นที่เตะตาของผู้สร้างระดับโลกที่อยากจะชวนเขามาร่วมงานด้วย และผู้โชคดีที่ได้ร่วมโปรเจกต์หนังเรื่องต่อมาของบาสก็คือ ผู้กำกับผู้ทรงอิทธิพลของคนยุคใหม่อย่าง หว่องการ์ไว (Wong Kar-wai) นั่นเอง ใน One for the
ขยับเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว สำหรับ Tokyo 2020 Olympics มหกรรมการแข่งขันกีฬาที่จะจัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น แม้จะมีปัญหาจากโควิด-19 คอยรบกวนการจัดงานอยู่บ้าง แต่ถ้ามองข้ามเรื่องนั้นไป ก็ยังมีความน่าสนใจเกี่ยวกับ Olympics ครั้งนี้อีกหลายอย่างที่ญี่ปุ่นทำได้ดี หนึ่งในนั้นก็คือโพเดียมรับเหรียญ ที่ผลิตแบบ 3D Prints จากขยะขวดพลาสติกจากบ้านเรือน 100% จุดประสงค์ของทีมผู้จัดงานของญี่ปุ่นคือต้องการให้ประชาชนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นครั้งนี้ ก่อนหน้านี้เราได้เห็นการผลิตเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่บริจาคโดยประชาชนมาแล้ว เช่นเดียวกับโพเดียมรับเหรียญรางวัลในโทนสีฟ้าเข้มนี้ ที่สร้างขึ้นจากขยะขวดพลาสติกจำนวน 400,000 ขวด ที่ชาวญี่ปุ่นนำไปทิ้งในกล่องสะสมขยะพลาสติก 2,000 จุดตามห้างสรรพสินค้าและโรงเรียนในระยะเวลา 9 เดือน “เราต้องการแสดงให้โลกได้เห็นถึงความ sustainability ในสังคมญี่ปุ่น และต้องการให้ชาวญี่ปุ่นได้มีส่วนร่วมกับ Olympics ที่ทุกคนเป็นเจ้าภาพด้วยกัน” ลวดลายบนโพเดียมได้แรงบันดาลใจมาจากโลโก้ Olympics เกิดจากลูกบาศก์สี่เหลี่ยมหลาย ๆ ชิ้นประกอบเข้าด้วยกันโดยเทคโนโลยี 3D Prints จนเป็นแท่นยืนขนาดใหญ่ที่ยาวกว่าโพเดียมปกติเนื่องจากสถานการณ์สังคมปัจจุบันที่ต้อง Social Distance และยังสามารถปรับระดับให้ลาดลงสำหรับนักกีฬา Paralympics หลัง Olympics จบลงได้อีกด้วย การปรับโลโก้ 2D ให้กลายเป็น 3D ทำให้โพเดียมมีมิติและมีระดับสีฟ้าเข้มที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแสงที่แตกต่างกัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 ที่เมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย ได้มีการจัดงานประกวดความแข็งแกร่งของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศงานหนึ่งชื่อว่า ‘Siberian Power Show’ ซึ่งประกอบไปด้วยการแข่งขันทดสอบความแข็งแกร่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพาะกล้าม กินจุ หรือ ยกน้ำหนัก แต่หนึ่งเดียวที่เป็นไฮไลท์และเรียกเสียงฮือฮาจากคนทั่วโลกได้มากที่สุดนั่น คือ การแข่งขันที่ชื่อว่า ‘Male Slapping Championship’ หรือ รายการแข่งขันชิงแชมป์สุดยอดนักตบชาย การแข่งขันนี้จะให้เราดูผู้ชาย 2 คนเดินไปที่โต๊ะที่อยู่ในเวทีแข่งขันแบบไร้อุปกรณ์ป้องกัน ยืนประจันหน้ากันด้วยสีหน้าตรึงเครียด ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างผลัดกันใช้ฝ่ามืออันแข็งแกร่งตบใบหน้าอันหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง จนแทบเบี้ยว ซึ่งการต่อสู้จะดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ หรือ หมดสภาพไป ผู้ชมสามารถมองเห็นบาดแผลและร่องรอยของการโดนตบได้แบบคมชัด 300% เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ดิบเถื่อนมาก ผู้ชนะในการแข่งขันเมื่อปี 2019 คือ Vasiliy Khamotiskiy ชาวนาในไซบีเรีย ที่ตอนแรกไม่ได้รู้จัก หรือ คิดที่จะเข้าร่วมงานนี้มาก่อน แต่หลังจากที่ได้ไปชมการแข่งขันกับเพื่อน เขาก็ถูกโน้มน้าวจนตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันสุดป่าเถื่อนนี้ในที่สุด การตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนั้นเรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล เพราะเขาไม่ได้เพียงรับเงินรางวัลกลับบ้านไป 30,000 รูเบิล (ราว 15,000 บาท) เท่านั้น