จากโปรเจกต์ Sansiri Tree story ที่แสนสิริคงสภาพพรรณไม้รูปทรงสวยงามที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างก่อนพัฒนาโครงการโดยไม่ตัดและหาวิธีรักษาไว้ กระทั่งเข้าไปพัฒนาโครงการจนเสร็จสมบูรณ์และออกแบบให้สถาปัตยกรรมอยู่ร่วมกับสีเขียวได้อย่างลงตัว ทำให้เห็นว่าปัจจุบัน โมเดลธุรกิจเริ่มหันไปให้คุณค่ากับสีเขียวมากขึ้น และ “แสนสิริ” ก็นับว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจกับคุณภาพชีวิตและสังคมเสมอมา แต่ล่าสุดยังไม่หยุดแค่นั้นเพราะแสนสิริยังก้าวเป็นผู้นำด้านนำด้าน Green และ Well-Being ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยจากการต่อยอดโปรเจกต์ Sansiri Backyard @ Sansiri Project ซึ่งเกิดจากการร่วมมือระหว่างแสนสิริ และ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปลี่ยนพื้นที่ส่วนกลางด้วยการยกระดับพื้นที่สวยให้กลายเป็นพื้นที่สวนที่ไม่ลดทอนความสวยเพิ่มขึ้นถึง 30 แห่ง ใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจตลอดปีนี้ เพื่อพิสูจน์ความสวยที่ไม่ฉาบฉวยแต่หวังสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนทั้งสภาพแวดล้อมและชุมชนอยู่อาศัยให้ยาวนาน UNLOCKMEN จึงไปสัมผัสงานดีไซน์ที่อัดแน่นแพสชั่นนี้ถึงถิ่นที่ Onyx โครงการแสนสิริย่านพหลโยธินด้วยสายตาตัวเอง รวมถึงได้รับฟังและพูดคุยร่วมกับคุณจริยา จันทร์เจิดศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ คุณนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด “สร้าง – ปลูก –
ประโยคนี้คือประโยคจาก “ขวัญ-ชวิน นันทเทิม” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดแต่งทรงผมและผู้ก่อตั้ง BLACK AMBER ซึ่งเป็น Gentlemen’s Club และบาร์เบอร์สำหรับสุภาพบุรุษที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าพิถีพิถันกับการจัดแต่งทรงผมผู้ชายแบบหาตัวจับยาก ใช่ ผู้ชายอย่างเราต่างรู้ว่าทรงผมสำคัญและอยากจัดแต่งทรงผมของตัวเองออกมาให้ได้ดั่งใจ ราวกับเดินออกมาจากบาร์เบอร์มืออาชีพ แต่หลายครั้งการเซ็ตผมตัวเองที่บ้านกลับไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง UNLOCKMEN จึงพามาหาคำตอบกับ “ขวัญ-ชวิน นันทเทิม” เรื่องทรงผมที่เหมาะกับผู้ชายแต่ละคน และตัวช่วยไหนที่จะทำให้ผู้ชายจัดแต่งทรงผมง่าย ได้ดั่งใจ แถมสะดวกจนทำเองได้ทุกวัน การมีทรงผมอย่างใจต้องการ ไม่เกี่ยวกับว่าเราเป็นผู้ชายที่ชอบแต่งตัวจัดหรือไม่ แต่การมีทรงผมอย่างใจต้องการหมายถึงความมั่นใจจากภายในและบุคลิกภาพที่ดีที่ผู้ชายทุกคนควรพิถีพิถันในทุกวันของชีวิต “ถ้าพูดถึงเรื่องสไตล์เนี่ย ทรงผมสำคัญมากเท่ากับเสื้อผ้าและรองเท้าเลย มันคือรากฐานหนึ่งที่คนภายนอกจะมองเราว่ามี Personality แบบไหน เพราะฉะนั้นทรงผมถึงสำคัญมาก ๆ สำหรับผม” “ท้าท้ายที่สุดน่ะหรอ ผมว่าน่าจะเป็นการหาทรงผมที่เข้ากับคน ๆ นั้นครับ เพราะว่าประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างมาก เขาทำอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ลักษณะนิสัยเป็นคนอย่างไร ลักษณะเส้นผมเป็นลักษณะไหน บางทีเขาอยากได้ทรงผมนี้ แต่ว่าเส้นผมมันไปไม่ได้แน่ ๆ มันก็อาจจะยังไม่ใช่ทรงผมที่เหมาะสมมากนัก การหาจุดลงตัวสำหรับทรงผมของคนคนนั้น ผมว่าสำคัญมาก ๆ” ทรงผมสำหรับผู้ชายจึงเป็นทั้งรากฐานที่บ่งบอกตัวตน และเป็นความลงตัวที่ต้องการผู้ช่วยที่เข้าใจไลฟ์สไตล์และสภาพเส้นผมมาดูแลอย่างมืออาชีพ แม้ผู้ชายอย่างเราจะเก่งกาจจนสามารถเสกอะไรหลายอย่างให้ชีวิตตัวเองได้ แต่เรื่องทรงผมถ้าเรามีที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญและมีความมืออาชีพเต็มเปี่ยม จะทำให้เรื่องทรงผมกลายเป็นเรื่องง่ายราวกับมีเวทมนตร์ “ตัวช่วยสำคัญมากครับ เพราะคนเราบางครั้งอาจจะยังไม่เข้าใจลักษณะเส้นผมของตัวเองเท่าไหร่
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นอีกวันสำคัญของมนุษยชาติ เพราะมันคือวันครบรอบ 50 ปีที่ยานอวกาศ Apollo 11 ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ และเป็นวันที่มนุษย์ได้ประทับรอยเท้าบนดาวเคราะห์ขรุขระดวงนี้เป็นครั้งแรก นอกจาก Neil Armstrong, Michael Collins, Buzz Aldrin และทีมนักอวกาศที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลก หนุ่ม ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแบรนด์กล้องสุดหรูสัญชาติสวีเดนอย่าง HASSELBLAD ก็มีบทบาทไม่น้อยในภารกิจอันใหญ่หลวงนี้ กล้องที่เคยบันทึกภาพประวัติศาสตร์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว หากเปิดบันทึกประวัติศาสตร์ย้อนไปเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน จะรู้ว่า HASSELBLAD ได้รับคัดเลือกจาก NASA ให้ผลิตและจัดหากล้องที่จะไปสำรวจดวงจันทร์พร้อมกับยาน Apollo 11 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นกล้องที่แข็งแรงทนทาน สามารถยืนหยัดต่อสู้กับอุณหภูมิ -270 องศาเซลเซียสและภาวะขาดแรงโน้มถ่วงของอวกาศได้เป็นอย่างดี แบรนด์กล้องสวีเดนเจ้านี้จึงส่ง HASSELBLAD DATA CAMERA (HDC) สีเงิน พร้อมเลนส์ Zeiss Biogon 60 มม. ƒ/5.6 ให้ Neil Armstrong
เคยถามตัวเองไหมว่าทำไมเราถึงมีชีวิตอยู่ หรือถามตัวเองว่าทำไมเราถึงอยากตาย ? หลายคนอาจจะมีคำถามเหล่านี้แวบเข้ามาในหัว แต่สำหรับบางคนคำถามเหล่านั้นมักเป็นสิ่งที่เฝ้าถามอยู่ทุกวัน เพราะความต่างทางความคิด สภาพแวดล้อมและสังคมทำให้แต่ละคนมีความคิดที่ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้เอง UNLOCKMEN เกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าแต่ละคนมีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ต้องมีชีวิตอยู่ การค้นหาคำตอบเริ่มขึ้นในเว็บไซต์ reddit ซึ่งเป็นเว็บไซต์พูดคุยยอดนิยมของคนอเมริกัน ภายในเว็บรวบรวม forum ต่าง ๆ และแยกแต่ละเรื่องให้เข้ากันโดยการจัดหมวดหมู่ กระทั่งเราได้เห็นกระทู้ตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า “เหตุผลดี ๆ ที่ทำให้แต่ละคนอยากมีชีวิตอยู่คืออะไร ?” คำตอบในกระทู้มีมากมายหลากหลายเกือบสองหมื่นคำตอบ โดยมีตั้งแต่เหตุผลของเรื่องส่วนตัวเล็ก ๆ แต่แสนสำคัญอย่าง “ไม่อยากสร้างความเจ็บปวดให้กับคนในครอบครัว ซึ่งครอบครัวที่ว่ารวมถึงน้องหมาที่เลี้ยงไว้ด้วย” หรือคำตอบที่ว่า “ก็แค่อยากใช้ชีวิต” ไปจนถึง “ตอนนี้ยังสนุกอยู่” หรือ “ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่หดหู่แต่ใช่ว่าจะมีความสุข ที่อยู่ต่อทุกวันนี้เป็นเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับพ่อ” ส่วนคำตอบที่คนชื่นชอบมากที่สุดจนได้ Top Comment คือคำตอบที่ว่า “ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ แต่แค่มีเหตุผลที่ยังตายไม่ได้” เมื่อลองคิดดูแล้วคำตอบของคนส่วนใหญ่มักเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่น ๆ เช่น ไม่อยากให้คนรู้จักต้องเศร้าไปจนถึงไม่อยากให้คนที่เกลียดขี้หน้าเราดีใจ จากนั้นจึงค่อยคิดถึงความสนใจของตัวเองอย่างการอยู่เพื่อไปฟังเพลงที่ชอบในคอนเสิร์ต หรือรอดูหนังภาคต่อเรื่องโปรด ถัดจากการดูคำตอบไกลตัวของคนจากอีกซีกโลกหนึ่งที่พอจะทำให้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ผลที่ตามมาคือคำถามที่ชวนให้เราเกิดความสงสัยว่าหากเป็นคนใกล้ตัวอย่างสมาชิกของ UNLOCKMEN ล่ะจะมีคำตอบอะไรบ้างที่ทำให้ต้องมีชีวิตอยู่ Video Editor คนหนึ่งของ
สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา ประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในสงคราม และโดดเด่นด้วยยอดมัทเทอร์ฮอร์นที่เป็นมงกุฎตั้งตระหง่านกลางเทือกเขาแอลป์ ตลอดพื้นที่ 41,285 ตารางกิโลเมตร มีหลาย ๆ เมืองที่ผู้ชายเราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ทั้งลูเซิร์น ซูริค และเจนีวา แต่คงมีน้อยคนที่จะรู้จัก ‘บาเซิล’ เมืองแสนสงบทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแม่น้ำไรน์ ถ้าเทียบกับเมืองอื่น ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ บาเซิลอาจไม่ได้มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อัดแน่นเท่าลูเซิร์น ไม่ได้ทันสมัยเฉกเช่นเจนีวา และไม่ได้โด่งดังเทียบเท่าซูริค แต่ที่นี่เป็นเขตแดนระหว่างสวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี จึงกลายเป็นเมืองนานาชาติที่ซุกซ่อนกลิ่นอายของวิถีชีวิตอันหลากหลายและมีเสน่ห์บางอย่างที่บางคนยังไม่รู้ SWIM CITY นิทรรศการเมืองว่ายน้ำที่เปลี่ยนชีวิตของผู้คน The S AM (Swiss Architecture Museum) และ Future Architecture Platform เปิดตัวนิทรรศการใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Swim City’ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและตีแผ่เรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการว่ายน้ำในแม่น้ำไรน์ พร้อมเชิญชวนให้ผู้คนที่หลงรักกิจกรรมนี้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ ความเจริญที่เยื้องกรายและความวุ่นวายของจราจรใจกลางเมือง อาจเป็นอีกเหตุผลที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของชาวเมืองบาเซิล The S AM จึงตั้งใจจะผละฝูงชนออกจากตัวเมืองและชวนมาทำกิจกรรมยามว่างในพื้นที่สาธารณะ จากความคิดที่เชื่อว่า ‘แม่น้ำ’ คือทรัพยากรที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในเมือง นำไปสู่การจัดนิทรรศการกลางน้ำที่หวังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับคนที่นี่
ดูเหมือนว่าค่ายผลิตมอเตอร์ไซค์สุดเก๋าอย่าง Curtiss Motocycles จะกำลังให้ความสำคัญกับรูปแบบรถพลังงานไฟฟ้าของตัวเองอยากต่อเนื่อง ล่าสุดปล่อยคอนเซ็ปต์รถมอเตอร์ไซค์แห่งอนาคตกับ Curtiss ‘Hades ที่มาในดีไซน์มินิมัล แต่ด้านสมรรถนะถือว่าโหดไม่แพ้มอเตอร์ไซค์คันไหนในโลกแน่นอน ก่อนหน้านี้ไม่นาน Curtiss Motocycles เปิดตัวมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ EV ออกมาในชื่อ Zeus ซึ่งนอกจากจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 140 KW (190 แรงม้า) ที่ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาต่ำกว่า 3 วินาทีแล้ว ยังเลือกใช้โครงสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์และ Aluminum 6061-T6 เพื่อความเบาและแข็งแรงของตัวรถ ขณะเดียวรถคอนเซ็ปต์คันล่าสุดอย่างรุ่น Hades ก็ไม่น้อยหน้า เพราะมากับโครงสร้างตัวรถที่ใช้เป็น Titanium ขนาด 1.75 นิ้วและวัสดุอย่างเหล็กผสม Chromoly Tubular รวมถึง Aluminum 6061 ที่สร้างออกมาในรูปทรงครุยเซอร์สไตล์คลาสสิกที่มาในโทนสีดำตัดขาว และสีน้ำตาลที่เข้ากับเบาะหนังดีไซน์เฉียบ พร้อมล้อหน้าขนาด 110/80 mm ล้อหลังขนาด 160/60 mm ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งสองเส้น แม้ดีไซน์จะเรียบง่ายแต่ Hades ก็มีระบบป้องกันการสั่นสะเทือนแบบจัดเต็ม
NASA องค์การอวกาศของสหรัฐ ที่เป็นเจ้าของโครงการ Apollo ซึ่งพามนุษย์ไปลงจอดและเดินบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และหลังจากภารกิจล่าสุดผ่านไป 47 ปีที่ไม่มีมนุษย์คนไหนได้เดินทางกลับไปเลย ในที่สุดรัฐบาลสหรัฐก็มีแผนที่จะส่งมนุษย์ออกเดินทางกลับไปอีกครั้งให้ได้ โดยครั้งนี้พวกเขามาในชื่อโครงการว่า Project Artemis ที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ การออกล่า ป่า และเนินเขา ในเทพนิยายกรีกโบราณ ซึ่งเป็นธิดาของเทพ Zeus กับ Leto และเป็นพี่น้องกับเทพ Apollo ชื่อของโครงการแรกที่พามนุษย์ไปลงเดินบนดวงจันทร์ รัฐบาลของประธานาธิบดี Donald Trump ต้องการจะส่งมนุษย์กลับไปดวงจันทร์อีกครั้งอย่างเร็วที่สุด และในเดือนเมษายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา Mike Pence รองประธานาธิบดีของสหรัฐเองก็ได้ตั้งเป้าหมาย ให้ NASA พามนุษย์กลับไปลงเดินบนนั้นให้ได้ภายในปีค.ศ. 2024 หรือครบรอบ 55 ปีการลงดวงจันทร์ครั้งแรกนั่นเอง ซึ่งคล้ายคลึงกับตอนที่ John F. Kennedy อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศท้าทายและตั้งเป้าหมายการลงดวงจันทร์เอาไว้ในปีค.ศ. 1961 การกลับไปลงเดินบนดวงจันทร์ในรอบนี้นั้นแตกต่างไปจากเมื่อ 50 ปีที่แล้ว นั่นก็เพราะ เป้าหมายของโครงการ
บทเพลงและเสียงดนตรีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติที่ขาดไปไม่ได้ คนเราฟังเพลงเพื่อหาความรื่นรมย์ในหัวใจ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเรายึดปฏิบัติมาช้านาน แต่ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่ง ‘เพลง’ ที่จรรโลงใจจะกลายเป็นอาวุธในการขับไล่หรือทรมานคนได้ แล้วยิ่งถ้าบอกว่าเพลงนั้นคือเพลงสำหรับเด็กอย่าง ‘Baby Shark’ ฟังดูก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเพลงพ่อแม่ลูกฉลามนี้ถูกนำมาเปิดเพื่อขับไล่คนแล้วจริง ๆ ! เพลง Baby Shark เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ย่าน West Palm Beach ในรัฐ Florida เมื่อมีกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนมากถูกทางการขับไล่ไม่ให้นอนบริเวณอาคาร Lake Pavillion ซึ่งเป็นอาคารกระจกใสริมน้ำที่เปรียบดั่งทำเลทองของเมือง แถมยังถูกใช้เป็นสถานที่จัด Event ต่าง ๆ มากกว่า 160 งานในปีที่ผ่านมา โดยวิธีขับไล่ที่ว่าก็สุดแสนจะอหิงสา ไม่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดทว่าเป็นการเปิดเพลง Baby Shark และ Raining Tacos เพลงฝึกร้องสำหรับเด็กเล็กที่แสนติดหู วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะนอนไม่ได้แล้วลุกหนีไป ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้แม้มันจะดูไม่ได้รุนแรงยังไง แต่ในสายตาของนักรณรงค์ หรือคอเพลงที่ก็อดรู้สึกเฟลเพราะความไร้มนุษยธรรมแถมยังนำเพลงยอดฮิตในหมู่เด็กไร้เดียงสามาใช้กับจุดประสงค์ที่โหดร้ายไม่ได้ เพลง It’s Raining Tacos ทำไมถึงต้องลุกมาทำแบบนี้ คนพวกนี้ผิดอะไร?
เข้าสู่หน้าฝนแล้ว แม้บรรยากาศรอบตัวจะเย็นสบายขึ้น แต่อากาศเย็น ๆ และเสียงฝนพรำ ๆ ก็คงทำให้ชาว UNLOCKMEN หลายคนที่ติดฝนอยู่บ้านรู้สึกเหงาใจอยู่ไม่น้อยอย่างแน่นอน สำหรับวันนี้ UNLOCKMEN มีวิธีคลายเหงากับตัวช่วยชั้นยอดอย่าง Netflix ผู้นำด้านความบันเทิงบนอินเทอร์เน็ตระดับโลก ที่ไม่ต้องห่วงเลยว่าอยู่ที่ไหนเพราะสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านหน้าจออุปกรณ์ใดก็ได้ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ให้คุณได้เพลิดเพลินในฤดูฝนนี้ไปกับ 5 ซีรีส์ หนัง หลากสไตล์ที่จะเป็นเสมือนเพื่อนคู่ใจให้ทุกคนก้าวผ่านฤดูแห่งความเหงานี้ไปพร้อมกัน My First First Love เริ่มต้นกันด้วย My First First Love (วุ่นนัก รักแรก) ซีซั่น 2 ที่จะมาสานต่อเรื่องราวความสนุกสนานจากมิตรภาพและความรักของเหล่าวัยว้าวุ่น นำแสดงโดย จีซู จองแชยอน จินยอง ชเวรี และ คังแทโอ เรื่องราวของหนุ่มสาวที่มาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน โดยในซีซั่น 2 นี้จะดำเนินเรื่องต่อจากซีซั่นแรก มาร่วมติดตามความสัมพันธ์อันคุกกรุ่นและอารมณ์ความรู้สึกทีอันสับสนของตัวละคร ซึ่งทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ความหมายว่า “รักแรก” ที่แท้จริงคืออะไร Queer Eye ต่อกันด้วย Queer Eye (เควียร์