นิสัยคล้าย ๆ กันของคนประสบความสำเร็จทางการเงินที่เราควรทำตาม
ความเชือใจในที่ทำงาน กุญแจสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม
ใครจะรู้ แค่เดินก็ช่วยให้เราคิดงานได้เพิ่มขึ้น 60% ดีใช่ไหมล่ะ?
โบกมือลาทัศนคติบางอย่าง เพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จ
ทำงานเป็นทีมจุดเริ่มต้นของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของลูกผู้ชาย
ไม่รู้จริง ๆ ก็ไม่ผิด แต่ตอบไม่รู้บ่อย ๆ ก็อาจดูไม่เป็นมืออาชีพได้
หมั่นตรวจสอบการทำงานของตัวเองบ่อย เป็นอีกวิธีในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง
เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะไม่ค่อยมองเห็นข้อเสียของตัวเอง โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์จะมีเหตุผลรองรับการกระทำของตัวเอง คิดอะไรเข้าข้างตัวเอง แม้เหตุผลนั้นอาจจะฟังดูไร้สาระ ขาดซึ่งหลักการใด ๆ ในโลกใบนี้ก็ตามที เราถึงมีคำว่า “มึงเป็นศูนย์กลางจักรวาลหรือไง” เกิดขึ้นมาให้ใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมไทยนั่นเอง การเป็นศูนย์กลางจักรวาลนั้น ที่จริงก็ไม่ใช่ความผิดของแต่ละบุคคลซะทีเดียว เพราะมนุษย์มีพื้นฐานสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมความเชื่อในวัยเด็กที่แตกต่างกัน ทำให้การตีความของแต่ละคนนั้นต่างกันออกไปอย่างช่วยไม่ได้ หลายคนจึงทำตามที่ตัวเองอยากทำ โดยมีเหตุผลปลอบใจเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอว่า “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง ใคร ๆ ก็ทำกัน” เมื่อเคยตัวมากเข้าก็เริ่มหนักข้อมากขึ้น ก็เริ่มคิดว่า “ช่างมันว่ะ ไม่ใช่บริษัทกู ทำ ๆ ไป เดี๋ยวรอเงินเดือนขึ้น โบนัสออกดีกว่า” ซึ่งแน่นอนครับว่า ยิ่งถ้าเราเผลอทำพฤติกรรมแย่ ๆ ทำตัวชิว ๆ เป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง นอกจากเงินเดือนจะไม่ขึ้น โบนัสไม่ต้องพูดถึง แถมยังเสี่ยงพร้อมโดนไล่ออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วพฤติกรรมศูนย์กลางจักรวาลในหมู่คนทำงานแบบไหนบ้าง ที่ถือว่ามีความเสี่ยงและอาจอันตรายต่ออนาคต แต่กลับเห็นได้มากมายในสังคม และเจ้าตัวมักจะคิดว่าไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก (เหรอ?) ลองมาดูกัน เพื่อปรับกันตอนนี้ยังไม่สาย จักรวาลนินทา ด่าเจ้านาย ขายเพื่อนร่วมงาน คนแบบนี้แปลกตรงไหน
ในโลกปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนมีความเป็นปัจเจก เส้นสมมติที่เคยขีดรอยทางให้เราต้องดำเนินชีวิตตามกระแสหลักที่ใคร ๆ ต่างก็ว่าดี มันค่อย ๆ จางลง มีพื้นที่ซึ่งเปิดกว้างให้เรามีอิสระที่จะคิด ที่จะแสดงออกความเป็นตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น หากมองในแง่การตลาด นี่คือโจทย์ยากที่จะสร้างแบรนด์ให้สามารถครองใจผู้บริโภคได้ในปัจจุบัน แต่ยังมีอยู่หนึ่งก้อนความคิดที่สามารถสร้างจุดร่วมให้เกิดการยอมรับในตัวแบรนด์ นั่นคือ ‘ให้แบรนด์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความเป็นตัวตนที่แตกต่าง’ ซะเลย ด้วยแนวคิดนี้ ทำให้ในปัจจุบันเราได้เห็นสื่อโฆษณา รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใส่ความสนุก และกล้าที่จะแตกต่าง ลงไปในตัวงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีในแง่ของการจุดประกายไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นอกเหนือจากการโฆษณาเพียงอย่างเดียว ซึ่ง U BEER ถือเป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามอง ด้วยความโดดเด่นในการนำแนวคิดที่เป็นตัวแทนของความแตกต่างมาใช้ได้อย่างชัดเจน ด้วยการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ พิสูจน์ได้จากกระแสโซเชียลที่ร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปีก่อน และหลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์ขวดไปแล้ว ล่าสุด U BEER ยังได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบกระป๋อง ตอกย้ำภาพลักษณ์ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ของแพ็คเกจที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเท่ โดดเด่นด้วยโลโก้ตัว U สีดำ ตัดกับกระป๋องสีเหลืองตัวแทนของความสนุกสดใส และการสร้างจินตนาการอย่างไม่หยุดยั้ง และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ ยังคงแนวคิดของ U BEER เอาไว้อย่างชัดเจน ด้วยความมุ่งหวังที่ต้องการให้แบรนด์ U เป็นแบรนด์ของ YOU หรือพวกเราทุกคน
ลองตื่นมาใช้ชีวิตตอนเช้าให้เหมือนคนประสบความสำเร็จระดับโลกดูไหม?