โลกไม่เคยใจดีกับเรา คนอื่นก็เช่นกัน หลายครั้งมีคนช่วยเหลือ แต่ก็หลายหนที่หันไปทางไหนจะพึ่งใครก็มืดหม่น หรือในบางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่เป็นดังใจ หน้าที่การงานไม่เป็นอย่างที่หวัง และคนทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในความย่ำแย่พอ ๆ กัน คนเดียวที่เหลืออยู่ให้พึ่งพิงได้ก็คือ “ตัวเราเอง” การรักและใจดีกับตัวเองมาก ๆ โดยเฉพาะในวันที่หนทางเต็มไปด้วยอุปสรรค แม้จะไม่ง่าย แต่หากโลกทั้งใบใจร้ายกับเรา แล้วเรายังโบยตีตัวเอง โทษตัวเองซ้ำ ๆ แล้วจะเหลือพลังที่ไหนให้ลุกขึ้นสู้ต่อ? ดังนั้นแม้โลกใบนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ตราบใดที่ยังหายใจ มารักและให้กำลังใจตัวเองมาก ๆ เข้าไว้ ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นฝึกรักและปลุกพลังให้ตัวเองอย่างไร ลองเริ่มต้นด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนัง 5 เรื่องนี้ Little Miss Sunshine ถ้าชีวิตคือการแข่งขัน ใคร ๆ ก็อยากครองตำแหน่งผู้ชนะ วิ่ง เหนื่อย สู้ แพ้ หดหู่ วิ่งใหม่ เหนื่อยใหม่ แย่งชิงตำแหน่งผู้ชนะหนึ่งเดียวจนแทบขาดใจ สายตาจับจ้องจนหลงลืมไปว่าการแพ้มันเลวร้ายขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? และการแพ้ในมาตรฐานการแข่งขันที่ไม่เคยสนใจความหลากหลายของมนุษย์ และมุ่งเปลี่ยนให้เราเดินตามทางเดียวกันหมดมันน่าเสียใจมากน้อยแค่ไหน? Little Miss Sunshine จะพาเราขึ้นรถโฟล์คสีเหลืองบุโรทั่งไปกับครอบครัว (ที่ถ้าตัดสินจากมาตรฐานสังคมก็อาจบอกว่าพวกเขาคือ)
ทุกคนที่เคยดู Nirvana เล่นคอนเสิร์ตใน MTV Unplugged วันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 1993 ต้องจำภาพ Kurt Cobain กับกีตาร์ 1959 Martin D-18E ได้ติดตา ล่าสุดได้มีการนำกีตาร์ตัวนั้นออกประมูลเพื่อการกุศลผ่าน Julien’s Auctions website และมันถูกขายไปด้วยราคาสถิติถึง $6 ล้านเหรียญหรือราว 180 ล้านบาท กีตาร์ 1959 Martin D-18E Serial Number: 166854 กีตาร์ทรง Dreadnought ที่มีจุดเด่นเรื่องความ Balance ของโทนเสียง ซึ่งเป็นตัวที่ 7 จากจำนวนทั้งหมด 302 ตัวในโลก ถูกนำมาโมดิฟายสะพานและสลับสายใหม่สำหรับคนถนัดซ้าย บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานี เปิดประมูลราคาแรกที่ $1 ล้านเหรียญ และมีจำนวนผู้ร่วม bid 7 ราคา ซึ่งราคาที่สูงที่สุดอยู่ที่ $6,010,000
Snowpiercer เป็นชื่อขบวนรถไฟที่มีจำนวนโบกี้ 1,001 ตู้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับยุคน้ำแข็งใหม่ของโลก ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของโครงการแก้ปัญหาโลกร้อน การปล่อยสารเคมีชื่อ CW-7 สู่ชั้นบรรยากาศของโลก กลับทำให้โลกกลายเป็นหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบ 80 องศา อารมณ์คล้ายเรือโนอาห์ในพระธรรมปฐมกาลบทที่ 6 ก่อนที่พระเจ้าได้ลงโทษมนุษย์ด้วยการทำให้น้ำท่วมโลก แต่ก็ได้สร้างเรือโนอาห์ไว้เพื่อส่งต่อการดำรงค์เผ่าพันธุ์ของเหล่าสรรพสัตว์ ความแตกต่างกันอยู่ที่การคัดเลือกผู้รอดชีวิตที่จะได้สิทธิ์ขึ้นมาเป็นผู้โดยสารของขบวนรถไฟ Snowpiercer นั้นจะต้องใช้เงินซื้อตั๋วเพื่อทำให้เขาและครอบครัวกลายเป็นมนุษย์กลุ่มสุดท้ายบนรถไฟที่วิ่งวนรอบโลกอย่างไม่มีวันหยุด เมื่อกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกขึ้นอยู่กับจำนวนทรัพย์สิน ผู้คนที่จะสามารถขึ้นรถไฟขบวนนี้ จึงเป็นชนชั้นนำที่มีทรัพย์สินมากพอที่จะมาเป็นผู้โดยสารรถด่วนขบวนนี้ เมื่อข่าวกระจายออกไป ก่อนขบวนรถไฟจะออกจากชานชาลาก็เกิดการจลาจลขึ้น เหล่าคนผู้คนรวมกลุ่มกันพยายามจะขึ้นรถไฟขบวนนี้เพื่อเอาชีวิตรอดบางกลุ่มสามารถขึ้นรถไฟมาได้แต่ก็ต้องถูกจำกัดพื้นที่ และคุณภาพชีวิตแบ่งเป็นชนชั้นต่าง ๆ ตู้โดยสารชั้น 1 ชั้น 2 … ชั้น 3 และกลุ่มคนที่ไม่มีตั๋วขึ้นรถไฟเรียกว่าพวกท้ายขบวน เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อระบบของรถไฟถูกแบ่งแยกเป็นชนชั้นต่าง ๆ คุณภาพชีวิต และสิทธิ์ที่จะได้รับของแต่ละชนชั้นจึงไม่เท่าเทียมกัน ทำให้พวกกลุ่มท้ายขบวนมีความคิดลุกฮือเพื่อก่อการกบฎและยึดครองส่วนหัวรถจักร นำไปสู่เรื่องราวการต่อสู้เพื่อสิทธิ์ความเป็นคนและตั้งคำถามกับระบบในรถไฟขบวนนี้ เมื่อมนุษย์ต้องเผชิญกับวิกฤตกาลครั้งใหญ่ คนที่มีทรัพยากรมากพอย่อมมีโอกาสเอาชีวิตรอดมากกว่าคนที่ไม่พร้อม ทุกคนพร้อมจะดิ้นรนเพื่อให้เราและครอบครัวได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น แม้ว่าจะยากลำบากสักเพียงไหน หรือต้องแลกมาด้วยชีวิตก็ตาม พล็อตที่ว่ามานี้มากจากผลงาน Graphic Novel เรื่อง Le Transperceneige (1982) นิยายภาพสัญชาติฝรั่งเศสของ
การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ได้สร้างความตื่นตัวให้ผู้คนให้มองเห็นความสำคัญในการต่อต้านการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติให้เกิดขึ้นทั่วโลก การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมครั้งนี้ก็กำลังขยายวงกว้างไปทั่วสหรัฐอเมริกาอย่างไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ ขณะเดียวผู้คนที่ออกมาประท้วงจำนวนมาก ไม่ได้มาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่มันคือการต่อสู้เรียกร้องความเท่าเทียมให้กับมนุษย์ทุกคน เพราะพวกเขาเบื่อเต็มทีกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่รัฐ ในกรณีล่าสุดคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกมานาน ปัญหาเหล่านี้เคยถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงเสียดสีสังคมจากศิลปินหลากแนวจากหลายยุคสมัย ซึ่งปัจจุบันกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่บทเพลงไหนจะถูกเปิดฟังมากที่สุดในช่วงการประท้วงครั้งนี้ มาฟังเหตุผลและทำความรู้จักแต่ละบทเพลงไปพร้อมกันได้เลย ‘Alright’: Kendrick Lamar เริ่มต้นกับ Alright ผลงานเพลงจากสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ‘To Pimp a Butterfly’ ของศิลปิน Kendrick Lamar หนึ่งในบทเพลงที่เหล่าคนดำยกให้เป็นเพลงที่ย้ำเตือนถึงการเติบโตอันแสนเจ็บปวด ขณะเดียวกันก็ให้กำลังใจผู้ฟังให้เอาตัวรอดจากชีวิตบัดซบได้อย่างมีพลัง Alright ยังมีเนื้อหาที่สะท้อนถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นล่าสุดอย่าง “Nigga, and we hate po-po Wanna Kill us dead on the street fo sho” ซึ่งไรม์ที่เจ็บแสบแต่กระแทกใจนี่เองที่ทำให้ Alright กลับมาติดอันดับ 26 ในชาร์ตเพลงจากคนฟังทั่วโลกของ Spotify ในช่วงการประท้วงครั้งนี้ ‘This
ถ้าจะมีสักช่วงวัยที่ทิ้งคราบน้ำตาและความทรงจำปวดเจ็บยากลืมเลือนไว้ในชีวิตเราได้มากพอ ๆ กับที่ฝากเสียงหัวเราะและเรื่องราวชวนอุ่นในใจเอาไว้ วันวัยที่ว่านั้นก็คงเป็น “วัยรุ่น” ช่วงวัยแห่งการเปลี่ยนผ่าน ณ ขณะที่ชีวิตคาบเกี่ยวระหว่างการเป็นเด็กและการเป็นผู้ใหญ่ ณ ขณะที่เราเชื่อว่ามีแต่ความเป็นไปได้รอเราอยู่ วัยที่เต็มไปด้วยความหวังเจิดจ้า แต่ขณะเดียวกันการเติบโตก็นำบาดแผลใหม่ ๆ มาสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกที ๆ แม้บางคนจะผ่านวัยนั้นมาแล้ว แต่เมื่อหวนนึกถึงทีไรก็ชวนให้รู้สึกอะไรบางอย่างในใจทุกที เพราะนั่นคือชั่วขณะสำคัญที่ประกอบร่างสร้างให้เราเป็นผู้ใหญ่อย่างที่เราเป็นในตอนนี้ เพื่อให้ทบทวนตัวเองได้ดื่มด่ำกว่าเดิม เพื่อให้ระลึกถึงทุกเสียงหัวเราะและหยาดน้ำตาของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ เราเลยอยากเอา ‘5 หนัง COMING OF AGE’ตีแผ่รอยยิ้มและบาดแผลของการเติบโตมาปลอบประโลมความทรงจำ และความเจ็บปวดจากการเติบโต The Perks of being a wallflower วินาทีที่เราตระหนักได้ว่าชีวิตตอนมัธยมก็ไม่เห็นจะหนักหนาอะไรนี่หว่า นั่นอาจเป็นวินาทีที่เราข้ามผ่านช่วงวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ถ้าหมุนเข็มนาฬิกากลับไปช่วงวัยก่อนจะ 20 ปี ความพยายามไขว่คว้าคะแนนดี ๆ มาครอบครอง การวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อเป็นที่รักในแก๊งเพื่อน การเอื้อมสุดแขนเพื่อให้สาวสักคนหันมามอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายของเราในวัยรุ่น The Perks of being a wallflower พาเราย้อนกลับไปในช่วงมัธยมปลาย ตอนที่ตัวละครหลักเพิ่งเข้าไฮสคูลเป็นครั้งแรก ที่ที่เราต้องปรับตัว
ใครบางคนเคยนิยามว่าความรักคือความป่วยไข้ ยามใดที่ติดเชื้อเข้าแล้ว พิษรักอาจเสกโลกทั้งใบให้งดงามหมดจด แต่พิษรักก็ทำให้เพ้อคลั่งอกกลัดหนอง แบบที่เราในยามปกติไม่มีวันเป็นได้ เพราะอย่างนี้ความรักจึงอาจเป็นความป่วยไข้สำหรับบางคน เป็นพรวิเศษสำหรับหลายคน เป็นสวงสวรรค์หรือขุมนรก แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนจะนิยาม ไม่ว่าเราอายุเท่าไร เรียนสูงเพียงไหน ผ่านอะไร ๆ มามากมายเพียงใด ความรักก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่คุณต้องทำความรู้จักอีกหนเมื่อมันเดินมาทักทาย แต่นอกจากความรักที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ความรักพิสูจน์ได้หรือไม่? มีทฤษฎีอะไรมารองรับหรือเปล่า? เราเชื่อว่าหลายคนเคยอยากรู้ เราถึงแวะเอาหนังสือ 5 เล่มที่ว่าด้วยความรัก แต่เป็นความรักที่เชื่อมโยงกับทฤษฎีทั้งทางวิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เผื่อว่าสักเล่มในนี้จะทำให้ความรักดูแปลกหน้าน้อยลง หรือเข้าใจตัวเองและเรื่องราวรักใคร่ที่ผ่านมาได้ราบรื่นขึ้น ทำไมต้องตกหลุมรัก: Alain Badiou ความรัก และ The Lobster บางคนบอกว่าความรักไม่มีเหตุผล นั่นอาจเป็นเพราะมันเหนื่อยเปล่าที่จะต้องหาคำตอบว่าทำไมเราถึงตกหลุมรักใครสักคน แต่หลายหนเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าการจะตกหลุมรักใครสักคนได้นั้นมีปัจจัยอะไรมาข้องเกี่ยวบ้าง? ทำไมต้องตกหลุมรักเล่มนี้จะพาเราสวมแว่นทฤษฎีทางสังคมศาสตร์ทำให้เรามองความรักผ่านเลนส์ที่เราไม่เคยมองมาก่อนว่าการตกหลุมรักใครสักคนอาจมีเกณฑ์บางอย่างซ่อนอยู่ก็ได้ ในขณะเดียวกันยุคสมัย ทุนนิยม และอีกหลายสิ่งรอบตัวเราก็ลอบลดทอนความรักให้เหลือเพียงอะไรบางอย่าง อย่างกำไร ขาดทุน ไปด้วย การอ่านเล่มนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเห็นด้วยกับทุกประโยค แต่เรารับรองได้ว่าคุณจะได้กระโจนเข้าหาอีกมุมของความรักที่คุณอาจไม่ทันคิดว่ามันก็มีมุมแบบนี้อยู่ รวมถึงชวนคุณตั้งคำถามบางแบบที่คุณอาจไม่เคยกล้าแม้แต่จะถามตัวเองเกี่ยวกับความรัก จงรักสิ่งที่คุณจะไม่มีวันได้เจออีกเป็นครั้งที่สอง ถอดรหัสรักออนไลน์ รักออนไลน์มันปลอม! บางคนกล่าวหาความรักที่พบเจอกันในโลกเสมือนไว้แบบนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์หาคู่อาจช่วยจับคู่ให้คุณได้ถึงเดือนละ 70 คน
การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ นำมาซึ่งความรู้สึกเสียใจ เศร้าใจ และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านเสียงตะโกนของผู้เดินขบวนประท้วงบนท้องถนน ที่ออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรมของการจบชีวิตที่มีจุดเริ่มมาจากเหยียดสีผิว ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะหมดไปจากโลกนี้เสียที และเชื่อว่าทุกคนจะช่วยกันสนับสนุนไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ไม่ว่าคน ๆ หรือมีชาติกำเนิดมาจากไหนก็ตาม (ล่าสุดตำรวจนายนั้นโดนเพิ่มดีกรีความรุนแรงเป็น Second-degree murder แล้ว) อย่างไรก็ตามพักความเครียดลงกันก่อน และหันมาทำความเข้าใจเรื่องราวของความแตกต่างระหว่างผู้คนผ่าน 6 ภาพยนตร์ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่า มนุษย์ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างได้ แม้เชื้อชาติหรือลักษณะทางภายนอกจะแตกต่างกัน The Butler เริ่มต้นกันกับ The Butler ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากบทความที่ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ชื่อ “A Butler Well Server by The Election” ซึ่งมาจากชีวิตจริงของยูจีน อัลเลน (Eugene Allen) ชายผู้ทำงานในทำเนียบขาวกว่า 34 ปี ที่ต้องต่อสู้ในเรื่องสิทธิพลเมืองมาตลอดชีวิต โดยตัวหนังเล่าเรื่องผ่านตัวละคร เซซิล เกนส์ พ่อบ้านผิวดำแห่งทำเนียบขาว ผู้ถูกกดขี่ข่มเหงจากสังคมรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก ต้องหนีเอาตัวรอดเพื่อหาชีวิตใหม่ในวอชิงตัน จนกระทั่งโชคชาตะพาเขามาสู่การเป็นบริกรหรือพ่อบ้านในห้องทำงานของประธานาธิบดี หนังสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต ที่ต้องต่อสู้ เอาตัวรอดและเรียกร้องสิทธิพลเมืองของตัวเอง โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องที่มีโอกาสได้เห็นมุมมองและความคิดของผู้นำประเทศแต่ละคน และในเวลาเดียวกัน
การต่อเวลาขยายเคอร์ฟิวไปอีก 1 เดือนคงทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนต้องวางแผนชีวิตตัวเองกันใหม่ เพราะยังคงต้องกลับบ้านเร็วไปอีก 30 วัน ในเมื่อผับบาร์จะยังไม่เปิดให้เราไปพักผ่อนหย่อนใจ การให้รางวัลตัวเองเป็นเวลาว่าง พร้อมกับสารคดี ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ดี ๆ สักเรื่อง ก็เป็นกิจกรรมง่าย ๆ ที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการความมันส์ เรามีความบันเทิง 5 เรื่อง 5 สไตล์มาแนะนำให้เลือกรับชมอย่างครบรส ทุกเรื่องล้วนน่าติดตามและอยู่ในความสนใจของผู้ชายอย่างเราแน่นอน Samurai Gourmet (TV Shows, Japanese Food) เรื่องแรกเหมาะมากสำหรับคนชอบหาของกินที่ญี่ปุ่น และอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นไปพร้อม ๆ กัน ขอแนะนำ ‘Samurai Gourmet’ ซีรีส์ญี่ปุ่นความยาว 12 ตอน สร้างและดัดแปลงมาจากมังงะอย่าง Nobushi no Gurume เขียนโดยอาจารย์มาซายูกิ คุสึมิ ซึ่งเชื่อว่าต้องเรียกน้ำย่อยให้หนุ่ม ๆ หลายคนได้แน่นอน Samurai Gourmet คือเรื่องราวของ ทาเคชิ คาซุมิ
คุณใช้เวลาหาซีรีส์หรือหนังดูบน Netflix วนไปมาอย่างยาวนาน โดยไม่รู้จะดูอะไรดีอยู่ใช่มั้ย? อาการนี้เรารู้ดีว่ามันน่าอึดอัดแค่ไหน จึงเป็นที่มาของการรวบรวมซีรีส์น่าดูมาใหม่ประจำเดือนมิถุนายน เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องกดวนไปมาอย่างไร้จุดหมายอีกต่อไป 13 Reasons Why S4 (13 บันทึกลับหัวใจสลาย ซีซั่น 4) กำหนดออกอากาศ: 5 มิถุนายน จากจุดเริ่มต้นของเทปลับ 13 ม้วน สู่การกลับมาในซีซั่นสุดท้ายเพื่อปิดฉากเรื่องราวของ เคลย์, แซ็ค, อานี และกลุ่มเพื่อน ในขณะที่นักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมลิเบอร์ตี้ต่างกำลังเตรียมตัวที่จะจบการศึกษา รวมถึงเคลย์และเพื่อนๆ แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้กล่าวคำอำลา พวกเขาต้องเก็บความลับสุดอันตรายอย่างหนึ่งไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ และยังต้องเผชิญกับทางเลือกที่เจ็บปวดซึ่งอาจเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล Eurovision Song Contest: The Story of Fire Saga (ไฟร์ซาก้า: ไฟ ฝัน ประชัน เพลง) กำหนดออกอากาศ: 16 มิถุนายน เรื่องราวชีวิตของคู่นักร้องจากประเทศไอซ์แลนด์ Lars Erickssong (วิล เฟอร์เรล) และ
ความกระหายใคร่รู้ว่าคนดัง ๆ เขาอ่านอะไร ดูอะไร กินอะไร หรือวัน ๆ ทำอะไรบ้าง ดูจะเป็นความกระหายปกติที่มนุษย์หลายคนมี โดยเฉพาะบรรดามนุษย์ผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก ที่เรามักสนใจว่าวัน ๆ เขาทำอะไรบ้าง ถึงมีส่วนส่งเขาไปสู่ยอดเขาแห่งความสำเร็จที่ใคร ๆ ก็ฝันถึงนั้น Bill Gates เองก็ถือเป็นมนุษย์ผู้ประสบความสำเร็จระดับโลกที่ผู้คนอยากรู้เสมอว่าเขาอ่านหนังสืออะไร ใช้ชีวิตประจำวันแบบไหน แบ่งเวลาอย่างไร ทั้งเพื่อเป็นข้อมูลไว้ทำตาม และเพื่อเรียนรู้ปรับหาจุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้ตัวเอง ปกติเขาเองก็ไม่เคยปิดเป็นความลับว่าตัวเองอ่านหนังสืออะไร มีกิจวัตรแบบไหน โดยเฉพาะหนังสือที่เขาอ่าน เขาจะออกมาเปิดเผยลิสต์หนังสือที่อ่านและอยากให้คนอื่นได้อ่านด้วยผ่านเว็บไซต์ gatesnotes.com ของเขาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่ปีละครั้งเท่านั้นแต่เป็นฤดูกาลเลยทีเดียว (เช่น 5 หนังสือที่ควรอ่านช่วงหน้าร้อนนี้) Bill Gates ระบุว่าช่วงนี้หัวข้อที่เขาได้พูดคุยส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับ COVID-19 แต่ที่ถูกถามบ่อยไม่แพ้กันคือ Bill Gates อ่านหรือดูอะไร อาจเป็นเพราะช่วงนี้ผู้คนอยากเข้าใจเรื่องโรคระบาดมากขึ้น หรือไม่ก็พวกเขาอยากหาอะไรบางอย่างเพื่อดึงความสนใจตัวเองออกไปจากสถานการณ์อันชวนเครียดนี้ เขากล่าวอีกว่า “ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้พูดถึงหนังสือหรืออะไรที่ผมดู” ความพิเศษคือครั้งนี้ Bill Gates ออกมาเปิดเผยหนัง สารคดี และซีรีส์ที่เขาติดตามอยู่ช่วงนี้ออกมาด้วย ใครที่ไม่ใช่สายอ่านหนังสือก็ถือว่านี่คือโอกาสอันดีที่จะไปดูตามบ้างว่าคนแบบ Bill Gates เขาดูอะไร?