ใครกำลังมองหาซีรีส์รักโรแมนติกไว้ดูรับวาเลนไทน์ แน่นอนว่าคงพลาดซีรีส์เด็ดจากเกาหลีไปไม่ได้! เพราะพูดถึงซีรีส์เกาหลีทีไรก็ต้องนึกถึงบรรยากาศรักโรแมนติก และอารมณ์สุขเศร้าเคล้าน้ำตาที่มากับบทละครที่ตราตรึงใจ แต่จริง ๆ แล้ว ซีรีส์เกาหลียังมีอีกหลายอารมณ์ หลากรสชาติที่บางคนอาจยังไม่เคยได้ลิ้มลอง วันนี้เราขอต้อนรับเทศกาลแห่งความรักกันด้วยลิสต์ซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลี ที่มัดรวมความรักหลากหลายรูปแบบมาไว้ด้วยกัน บรรจงคัดสรรมาจากทั้งซีรีส์คุณภาพที่ครองฟีดโซเชียลในปีที่ผ่านมา ไปจนถึงซีรีส์และภาพยนตร์ที่กำลังต่อคิวพรีเมียร์ให้ได้รับชมกันทาง Netflix ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ #รักรสหวานปานน้ำผึ้ง วัยใสๆ หัวใจสุดเปิ่น (So Not Worth It) ซีรีส์ซิตคอมที่เล่าถึงเรื่องราวหลากสีสันของก๊วนเพื่อนนักศึกษาในหอพักนานาชาติของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น ตัวละครน่ารักสดใส ความโรแมนติกหัวใจพองโต รวมถึงเรื่องราวของการก้าวผ่านความเจ็บปวดและเติบโตตามประสาวัยรุ่น กลมกล่อมด้วยรักหวานๆ และความสนุกสนานสไตล์ซิตคอม นำแสดงโดยบรรดานักแสดงดาวรุ่ง พร้อมนักแสดงรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์! รับชมได้แล้ววันนี้ที่ Netflix ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (Twenty Five, Twenty One) ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (Twenty Five, Twenty One) รักโรแมนติกที่ก่อตัวขึ้นในกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นยุค 90 ที่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 1998 ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียความฝันและเผชิญกับสถานการณ์ไร้ทางออก พวกเขาเรียกชื่อกันครั้งแรกเมื่ออายุ 22 และ 18 ปี
มังงะญี่ปุ่น เป็นวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ผู้ชายอย่างเราได้เรียนรู้ความเป็นลูกผู้ชายจากการ์ตูนสไตล์ High school delinquent manga หรือนักเรียนนักเลงสายต่อยตี แย่งชิงความเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่นมามากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กยันโต ภายใต้ความรุนแรงนั้น ก็มีเรื่องของศักดิ์ศรี ความเป็นผู้นำ ความรักพวกพ้อง ที่ล้วนแลกมาด้วยกำปั้น บาดแผล และน้ำตา สิ่งที่ปัจจุบันแถบจะหาในชีวิตจริงไม่ได้ วันนี้เราจึงขอหยิบตัวละครบางตัวที่เราชอบมากที่สุด มาตีแผ่ความเป็นลูกผู้ชายที่เราสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง จากมังงะนักเรียนนักเลงโคตรมันส์ระดับคลาสสิคที่หยิบมาเมื่อไหร่ก็อ่านได้ยาว ๆ ทุกครั้ง BOUYA HARUMICHI – CROWS “Crows” หรือชื่อภาษาไทยว่า “เรียกข้าว่าอีกา” มังงะแนวโชเน็นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนถูกต่อยอดไปอีกภาค ไม่ว่าจะเป็น “Worst” เรื่องย่อยที่เจาะตัวละครอย่าง “Linda Man” รวมไปถึงต่อยอดเป็นภาพยนตร์ Live Action และซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้มังงะเลยแม้แต่น้อย “โบยะ ฮารุมิจิ” เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาสู่โรงเรียนซูซูรันกลางคัน โรงเรียนอีกาที่ไม่เน้นเรื่องเรียน แต่พากเพียรเรื่องต่อยตี มันเปรียบเสมือนการเข้าสู่สมรภูมิแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของโบยะ เพราะเขาเริ่มปะทะเบา ๆ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียนจนถูกพักการเรียน หลังจากนั้นสหะบาทาก็พุ่งเข้าหาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน แต่ก็ไม่มีใครหยุดยั้งความเก่งกาจของโบยะลงได้ ทำให้เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1
แฟน Ghostface ได้เฮกันทั่วโลก Paramount ยืนยันอย่างเป็นทางการ เตรียมเปิดกล้องสานต่อตำนานความสยอง Scream 6 พร้อมเปิดกล้องถ่ายทำกลางปีนี้ หลัง Scream 5 ประสบความสำเร็จทำรายได้ทะลุ $100 ล้านเหรียญภายใน 1 สัปดาห์ Scream ภาพยนตร์แนวสยองขวัญกับฆาตกรโรคจิตที่ปรากฏตัวในผ้าคลุมสีดำและหน้ากาก Ghostface สัญลักษณ์ที่ทุกคนจำติดตามาตั้งแต่ภาคแรกในปี 1996 และหลายครั้งที่เหยื่อตกเป็นเป้าหมายโดยไม่รู้เหตุผล แต่นั่นก็ทำให้ franchise ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ รวมถึงมีการต่อยอดทั้งในรูปแบบซีรีส์และ parody ตามออกมามากมาย เช่น Scary Movie กับวลี “Wazzzuppppppp” สุดฮา ใน Scream 6 คาดว่าจะเป็นเรื่องราวที่ยืดยาวต่อเนื่องมาจาก pattern ภาคก่อน ซึ่งมักจะมีเส้นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาทุกภาค เช่นในภาคที่ 5 ที่พึ่งจะเข้าโรงฉายไปเมื่อต้นปี ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Woodsboro หลังกาลเวลาผ่านไป 10 ปีจากภาคที่ 4 ซึ่งแต่ละภาคมักจะมี Ghostface คนใหม่ลุกขึ้นมาไล่ล่าเหยื่อที่รอดชีวิตจากภาคก่อน ซึ่งในความต่อเนื่อง
นับเป็นความคึกคักอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับตลาด Non-Fungible Tokens หรือที่เรียกสั้นๆว่า NFT ชุมชนนักสะสมที่ต้องการครอบครองผลงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งแน่นอนว่าวงในตำนานอย่าง The Beatles เองก็ไม่พลาดเช่นกัน โดยครั้งนี้ Julian Lennon ลูกชายของ John Lennon ได้นำสมบัติแห่งความทรงจำให้แฟนของ John Lennon ได้ยื้อแย่งมาครอบครองกัน โดยลูกชายคนโตของศิลปินผู้ล่วงลับ ได้วางแผนที่จะปล่อยคอลเล็กชั่นส่วนตัวของพ่อของเขาผ่าน Yellow Heart โดยจะปล่อยเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำแบบและไม่เหมือนใคร ประกอบด้วยคอลเลคชั่นดังต่อไปนี้… เสื้อคลุมสีดำชุดประวัติศาสตร์ที่ John Lennon ใส่เพื่อถ่ายปกอัลบั้ม HELP! ราคาประมูลเริ่มต้นที่ $8,000 เสื้อ Afghan Coat ที่ John ใส่ในหนัง Magical Mystery Tour ราคาประมูลเริ่มต้นที่ $6,000 รวมไปถึงกีตาร์ Gibson อีก 3 ตัว ที่ล้วนเป็นความทรงจำอันงดงามของ Lennon ผู้พ่ออีกด้วย
ภายใต้ใบหน้าที่ที่ปูดโปนชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อผสมเลือดของไอ้หนุ่มม้าคึกชาวอิตาเลียน แม้การชกจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ให้กับนักชกรุ่นใหญ่ที่ใหม่และสดกว่า แต่ Rocky กลับชนะใจนักดูหนังมาตลอด 46 ปี จนได้รับฉายาว่า “นักแพ้ผู้ยิ่งใหญ่” ที่ไม่เพียงจะกลายเป็นหนังในดวงใจของใครต่อใครมากมาย แต่ยังกลายภาคต่ออันทรงคุณค่า และเดินหน้ากวาดรางวัลใหญ่อย่างออสการ์มาแล้ว เรามาลั่นระฆังที่ความรู้จักกับนักชกแห่งโลกภาพยนตร์ผู้เกรียงไกร ที่ความพ่ายแพ้ชนะใจผู้ชมตลอดกาล “ROCKY” ยกที่ 1: จากนักชกธรรมดาสู่ซูเปอร์สตาร์แห่งโลกฮอลลีวู้ด หนัง Rocky เล่าเรื่องราวของนักมวยที่แสนจะธรรมดา Rocky Balboa เติบโตในย่านแหล่งเสื่อมโทรมของเมืองฟิลาเดลเฟีย อาชีพหลักของเขาคือการเป็นนักมวยในสังเวียนท้องถิ่นที่แพ้บ้างชนะบ้างตามยถากรรม ส่วนงานรองของเขาคือการตามทวงหนี้ แม้งานทวงหนี้จะเป็นงานที่ไร้เกียรติ แต่เขาก็แทบไม่เคยใช้กำลังกับลูกหนี้เลยสักครั้ง เขามีความรักกับ Adrian Pennino สาวผู้เก็บตัวเงียบที่อยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยง จนชีวิตพลิกผันเมื่อนักชกสุดฮ็อต Apollo Creed แชมป์เฮฟวี่เวทที่ไม่เคยพ่าย ได้คัดเลือก Rocky นักชกโนเนมขึ้นสังเวียนที่เปลี่ยนเขากลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน แต่เพราะความกดดันที่ถาโถม รวมไปถึงความรักที่เขามีต่อ Adrian อย่างหมดหัวใจ ทำให้เขาทุ่มเทอย่างเต็มที่ในศึกครั้งนี้ แม้ชัยชนะจะดูริบหรี่ก็ตาม เสน่ห์ของหนัง Rocky คือการนำเสนอภาพ Loser ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามอันแสนรันทดใจ แต่กลับประกายความหวังอันเรืองรองในฐานะหนังที่สร้างกำลังใจให้ผู้แพ้หรือคนตกอับ ให้ลุกขึ้นสู้ยิบตา แม้ว่าจะปราชัย แต่ชนะใจคนดูอย่างท่วมท้น แต่กว่าที่หนัง
Dr.Dre หรือ Andre Romelle Young แฟนเพลงสายฮิปฮอปคงไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ ชายผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตกับเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งในฐานะการเป็นโปรดิวซ์เซอร์,การทำค่ายเพลง Aftermath Entertainment และ Death Row Records, เจ้าของบริษัทหูฟัง Beats, นักแสดงภาพยนตร์ และในฐานะศิลปินโดยเฉพาะกับอัลบั้ม “2001” (แต่วางจำหน่ายปี 1999) ที่ทำยอดขายรวมกันทั่วโลกเกิน 10 ล้านก็อปปี้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างมองเห็นในตัว Dr.Dre กันเป็นอย่างดี แต่ความสำเร็จมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความทุ่มเท, ความเข้าใจในดนตรีฮิปฮอปอย่างถ่องแท้ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือสายตาอันเฉียบแหลมของ Dr.Dre ทำให้เขาสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ของวงการเพลงฮิปฮอป จนประวัติศาสตร์ต้องจารึกกับการค้นพบเพชรเม็ดงามที่มีนามว่า “Snoop Dogg” และ “Eminem” เพชรเม็ดแรก : SNOOP DOGG แร็ปเปอร์สายเขียว Snoop Dogg หรือชื่อจริง Calvin Cordozar Broadus Jr. ส่วนชื่อฉายาได้มาจากตัว Snoopy ตัวการ์ตูนเรื่องโปรดในวัยเด็ก ซึ่งคุณแม่ของเขาเป็นตั้งให้
จอห์น ซีน่า แท็กทีมเหล่าฮีโร่ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายเพื่อพิทักษ์โลก ในซีรีส์เรื่องใหม่ล่าสุด Peacemaker พร้อมเข้าฉายสามตอนแรกในวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคมนี้ และสามารถรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันพฤหัสบดี เฉพาะทาง HBO GO เท่านั้น Peacemaker เล่าเรื่องราวเบื้องหลังต้นกำเนิดของ Peacemaker ชายผู้อวดดีที่เชื่อในสันติภาพจนยอมแลกและทำทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะต้องฆ่าคนสักกี่คนเพื่อให้ได้มันมา ตัวละครที่ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ The Suicide Squad ของผู้กำกับเจมส์ กันน์ (James Gunn) รับบทโดย จอห์น ซีน่า (John Cena) พร้อมเสริมทัพด้วยเหล่านักแสดงมากความสามารถ อาทิ แดเนียล บรู๊คส์ (Danielle Brooks) รับบท Leota Adebayo, เฟรดดี้ สโตรมา (Freddie Stroma) รับบท Vigilante, เจนนิเฟอร์ ฮอลแลนด์ (Jennifer Holland) รับบท Emilia Harcourt, สตีฟ เอจี
การไล่ล่าของสองขั้วทางกฏหมาย / การห้ำหั่นของสองนักแสดงระดับตำนาน และการถ่ายทำอันสุดเดือด มีเหตุผลมากมายที่ทำให้หนังเรื่อง Heat หนังสุดเจ๋งแห่งปี 1995 กลายเป็นที่สุดของหนังอาชญากรรมสุดคลาสสิคที่ยากที่หนังเรื่องไหนจะโค่นตำแหน่งได้ลง Unlockmen จึงขอทำการย้อนไปหาต้นตอของความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ว่าเพราะอะไรหนังเรื่องนี้ถึงได้ครองใจทั้งคนดูหนัง, นักวิจารณ์, นักทำหนัง หรือแม้กระทั่งอาชญากรตัวจริงก็ยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจ เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น แม้ความยาวของหนัง Heat จะทำให้เครียดสำหรับคนที่ชอบอะไรที่กระชับรวดเร็ว เพราะความยาวของหนังนั้นยาวถึง 170 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 50 นาที แต่ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ Heat จะชวนง่วงเหงาหาวนอน เพราะหนังไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยการไล่ล่าของ 2 ขั้วทางกฏหมาย หนึ่งคือ Neil McCauley (รับบทโดย Robert De Niro) หัวหน้าแก๊งโจรผู้สุขุมและฉลาดเฉลียว อีกหนึ่งคือ Vincent Hanna (รับบทโดย Al Pacino) ตำรวจตงฉินผุ้พร้อมไล่ล่าท้าชนอาชญากรแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน จากเหตุการปล้นรถขนส่งไปรษณีย์อย่างอุกอาจเพื่อแย่งชิงพันธบัตร แต่แผนที่ผิดพลาด ก็นำไปสู่การตายของเจ้าหน้าที่ ก่อให้เกิดการชิงไหวชิงพริบของทั้ง 2 ท่ามกลางการลุ้นระทึกที่นอกจากจะลุ้นว่าการปะทะครั้งนี้จะจบลงที่ใครเป็นผู้คว้าชัย
ในขณะที่ปี 2022 โลกแห่งความเป็นจริงจะยังลุ้นระทึกว่าจะเป็นภาคต่อของสถานการณ์โรคระบาดหรือไม่ แต่ในโลกของภาพยนตร์นั้น เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยหนังเจ๋ง ๆ มากมาย ที่พร้อมจะพาคุณห่างไกลจากโลกแห่งความจริงแบบสุดลิ่มทิ่มประตู หลังจากที่ปีที่ผ่านมา กว่าจะคึกคักก็ผ่านไปปลายปีแล้ว ปี 2022 จึงเป็นปีที่พร้อมทบต้นทบดอกความสนุกสุดเหวี่ยงให้ได้ชมกันแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลย โดยเฉพาะโลกแห่งซูเปอร์ฮีโร่ยังคงผงาดไม่มีแผ่ว พร้อมสร้างจักรวาลใหม่และสานต่อเรื่องราวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรามาดูกันว่าปี 2022 หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องเจ๋ง ๆ เรื่องใดจะเข้าฉายในโรงบ้าง กาปฏิทินจองคิวกันตั้งแต่เนิ่นๆเอาไว้เลย Morbius กำหนดฉาย – *ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน เปิดปีกันด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างนักสู้ฝ่ายธรรมมะ และวายร้ายฝ่ายอธรรม กับ Morbius เรื่องราวของ Dr. Morbius นักวิทยาศาสตร์ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่เขาจะได้รับพลังพิเศษจากค้างคาว นำพาให้เขากลางร่างเป็นแวมไพร์กระหายเลือด ที่ต้องต่อกรกับมหาวายร้ายนั้นคือ Vulture ที่ทะลุจากจักรวาล Spider-Man: Homecoming และต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายของตนเองก่อนความมืดดำจะกัดกินตัวเขาให้กลายเป็นวายร้ายไป หลังจากที่ Spider Man: No Way Home สร้างสถิติใหม่ทั้งในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำเงินระดับพันล้านเหรียญทั่วโลก และเป็นหนังขวัญใจนักดูหนังในช่วงปลายปี SONY ก็เหมือนจะเป็นสตูดิโอสาขา 2 ของ Marvel ที่พร้อมเสนอภาพซูเปอร์ฮีโร่ด้านมืดหลังจากประสบความสำเร็จจาก
หากจะย้อนไปพูดถึงวงร็อกที่ได้รับความนิยมในช่วงยุค 2000’s ที่โดดเด่นมากมายหลายสิบวง หนึ่งในวงเหล่านั้นต้องยกให้ Ebola วงที่นำเสนอความหนักหน่วงที่ติดพ่วงมาตั้งแต่สมัยอันเดอร์กราวน์ ก่อนจะปรับเปลี่ยนซาวด์เพื่อการเติบโตในวงการดนตรีไทย และอีกสิ่งที่ทุกคนต่างพูดถึง ก็คือเสียงสำรอกสุดทรงพลังของชายที่ชื่อว่า “เอ๋ กิตติศักดิ์ บัวพันธุ์” หรือ “เอ๋ Ebola” ชายผู้ไล่ตามความฝันบนเส้นทางสุดเกรี้ยวกราดของดนตรีมาโดยตลอด ชายผู้ตัดสินใจไปทำงานร้านขายซีดีตามไอดอล และยังเป็นชายที่รวบรวมสมาชิกวงร็อกชื่อดังให้เกิดขึ้นมาจนโด่งดังไปทั่วประเทศ เรามาทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากขึ้น กับมุมมองที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนกันครับ กลับสู่จุดเริ่มต้นกับชีวิตวัยเยาว์ “เท่าที่จำได้เป็นเด็กทั่ว ๆ ไป ครับ เรียนหนังสือใช้ชีวิตปกติ เราจะใช้ชีวิตเรียบง่าย คุณพ่อผมชอบร้องเพลงมาก เขาจะมีวงที่โรงพยาบาลของเขา ชอบซ้อมดนตรีกัน ผมก็ได้ไปกับพ่อบ่อย ๆ ก็อาจจะได้ซึมซับการเป็นนักร้องจากคุณพ่อมาก็ได้ แล้วคุณพ่อชอบเก็บแผ่นเสียง เช่นพวกวง The Beatles, Led Zeppelin วงสมัยก่อนที่เขาฟังกัน ส่วนวงไทยก็เยอะหน่อยพวกเทปคาสเซตเช่น บรั่นดี, คีรีบูน แต่คุณพ่อจะชอบร้องเสียงแบบ คุณลุงธานินทร์ อินทรเทพ มันก็อาจจะกลายเป็นความชอบติดตัวมาในความเป็นนักร้องครับ” “ส่วนช่วงเรียนที่ผมชอบที่สุดคือการเป็นนักฟุตบอล ผมชอบการ์ตูนเรื่องซึบาสะมาก อินจนแบบว่าทุกเช้าวันเสาร์อาทิตย์ผมกับน้องชาย (โอ๋ มือกีตาร์ Ebola)