ความเครียดหลากหลายรูปแบบรุมเร้าเราพร้อม ๆ กัน ทั้งหน้าที่การงานที่ไม่มั่นคงอย่างที่เราเคยคิด สภาพเศรษฐกิจที่ชวนให้รู้สึกหวาดระแวง ปัญหา COVID-19 ที่ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายลงเมื่อใด ไม่เพียงเท่านั้นไฟแห่งความเครียดและความกดดันถาโถมเข้าใส่เราอย่างหนักหน่วงจากการถูกจำกัดพื้นที่เพื่อความปลอดภัย แทบไม่ได้ออกไปไหน และได้พบปะผู้คนน้อยลง สิ่งเหล่านี้ทำให้สภาพจิตใจใครหลายคนย่ำแย่ บางคนเหงา บางคนโดดเดี่ยว บางคนเครียด และอยากได้ใครสักคนคอยรับฟัง (อย่างถูกวิธี) หรือบางคนที่รู้สึกเครียดไม่มากก็ต้องการหนทางผ่อนคลายจากหนักให้เป็นเบา UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 แอปพลิเคชันเยียวยาจิตใจช่วงที่อะไร ๆ ก็ดูหนักหน่วงสำหรับเราไปหมด Ooca ปรึกษาปัญหาใจ Ooca คือแอปพลิเคชันรับปรึกษาปัญหาใจ ใครเศร้าเกินขนาด ใครเครียดเกินพอดี ใครวิตกกังวลจนกระทบกับการใช้ชีวิต หรือสารพันอาการทางใจที่เราต้องการใครสักคนรับฟัง แต่ใครสักคนที่ว่าไม่ใช่ใครก็ได้ Ooca รวบรวมจิตแพทย์และนักจิตวิทยาที่มีความรู้เรื่องปัญหาทางอารมณ์โดยเฉพาะมาให้เราปรึกษาตัวต่อตัวได้จากที่บ้าน ไม่ว่าปัญหาที่คุณเจออยู่จะเป็นอะไร และคิดว่าไร้หนทางจะหาทางออกแล้ว ลองโหลดแอปพลิเคชันนี้มาวีดีโอคอลคุยกับผู้เชี่ยวชาญดูสักครั้ง หลายอย่างอาจดีขึ้นเมื่อใจเราได้รับคำแนะนำที่ถูกวิธี หรือใครที่คิดว่าปัญหาไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น แต่ก็อึดอัดกับอารมณ์ความรู้สึกหม่น ๆ ที่อยู่รอบตัวก็ไม่จำเป็นต้องรอให้อาการหนักใหญ่โตแต่อย่างใดที่ Ooca มีคนที่คอยรับฟังคุณอยู่เสมอ ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play, App Store Raksa – ป่วยทัก รักษา จิตใจหม่น
ชีวิตยามปกติที่เคยนอนในบ้าน กินอาหารข้างนอก ทำงานที่ทำงาน อยากผ่อนคลายก็ไปทะเลสักแห่ง ถูกสถานการณ์ COVID-19 บีบบังคับให้เราต้องกิน นอน ทำงาน ผ่อนคลาย มีชีวิตเกือบ 100% เต็มในสถานที่จำกัด บางคนอาจมีบ้านยังพอเดินไปเดินมาให้ผ่อนคลาย (แต่ก็ไม่อิสระเหมือนการได้ไปข้างนอกอยู่ดี) แต่หลายคนที่อาศัยอยู่ในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก ยิ่งต้องเผชิญความท้าทาย ความกดดันทางอารมณ์มากขึ้นไปอีก ความโดดเดี่ยวในสถานที่คับแคบ การแบ่งเวลางานและเวลาพักผ่อน การพยายามหาหนทางผ่อนคลายให้ตัวเองจึงไม่ง่ายเลยสำหรับใครหลายคน จะมีใครเข้าใจ “วิธีมีชีวิตรอดในความโดดเดี่ยว” ดีไปกว่า Scott Kelly นักบินอวกาศผู้ต้องใช้เวลาบนสถานีอวกาศยาวนาน 1 ปี เขากิน นอน ทำงาน และผ่อนคลายที่นั่น ไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง หรือห่างจากสถานีอวกาศไปไหนไกลและนี่คือเคล็ดวิธีที่เขาอยากแนะนำ ในห้วงเวลาที่เราต้องอยู่ติดบ้านไปอีกพักใหญ่ อย่าปล่อยเวลาให้ไหลไป “กำหนดตารางเวลา” ให้ตัวเองเสมอ สิ่งหนึ่งที่ Kelly แนะนำคือเมื่อเราต้องอยู่ในสถานที่เดียวนาน ๆ แต่ทำสารพัดอย่าง เราต้อง “กำหนดตารางเวลา” ให้ตัวเอง ตัวเขามีตารางเวลาที่แน่นขนัด ตั้งแต่วินาทีที่ลืมตาตื่นไปจนถึงเข้านอน เพราะเรานั้นไม่สามารถใช้ “สถานที่” มาเป็นตัวกำหนดเวลาและกิจกรรมได้อีกแล้ว เช่น เมื่อก่อนเราไปถึงออฟฟิศ เราจะรู้โดยอัตโนมัติว่านี่คือเวลาทำงาน
เนื่องด้วยมาตรการรับมือการระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งรวมตัวของผู้คน เพื่อลดโอกาสการกระจายของเชื้อไวรัส ทำให้หลายคนต้องกลายเป็นเด็กหัดตั้งไข่ เริ่มใช้ชีวิตสนองนโยบาย Social Distance กันแบบยังไม่ค่อยคุ้นชิน ไหนจะต้องเริ่มทำงานแบบ Work From Home ที่บางคนอาจจะงง ๆ อยู่ รวมถึงต้องปรับตัวกับวิถีชีวิตด้านอื่นที่เปลี่ยนไป จะออกไปไหนทีต้องคิดหนัก เพราะต้องคำนึงถึงหลัก อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เรื่องของข้าวปลาอาหารส่วนใหญ่ก็เลยต้องพึ่งพาบริการสั่งแล้วส่งถึงที่แทน ส่วนใครที่มีวิถีชีวิตผูกติดอยู่กับการออกกำลัง วันไหนไม่ได้ออกแรง ไม่ได้เสียเหงื่อ เหมือนชีวิตขาดอะไรไป พอมาเจอสถานการณ์ให้กักตัวอยู่บ้านอาจต้องอาศัยการออกกำลังกายแบบ Workout from Home ไม่ว่าจะโหลดแอพฯ มาดูท่าบริหารแล้วทำตาม หรืออ่านจากบทความของ UNLOCKMEN ว่าด้วยเรื่องการบริหารร่างกายภายในบ้าน ที่มีให้เลือกสรรค์หลากหลายรูปแบบสุดแล้วแต่ชอบใจ แต่ในระหว่างนี้สำหรับใครที่โหยหาการเข้าคลาสออกกำลังกับเทรนเนอร์ที่รู้ใจภายในยิม อาจจะพอยิ้มออกได้บ้าง เพราะถึงแม้ยิมหรือฟิตเนสทั้งหมดจะยังคงงดให้บริการไปยาว ๆ แต่เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน เพราะจากที่เราไปสืบเสาะหาข้อมูลมาเลยพบว่า แบรนด์ฟิตเนสดัง ๆ ทั้งหลาย ได้เปลี่ยนการนำเสนอมาเป็นรูปแบบของคลาสออกกำลังออนไลน์ Live Streaming กันให้ดูฟรี ๆ ผ่าน
ใครหลายคนเคยเบื่อฤดูร้อนของเมืองไทยเราแทบแย่ เพราะเดินไปไหนเหงื่อก็ไหลโชก แต่ในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วงและเราทุกคนต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านคราวละนาน ๆ ก็อดคิดถึงแดดจัดจ้า ฟ้าสีสด ๆ ของกรุงเทพมหานครไม่ได้ นับถึงวันนี้คุณอยู่บ้านมากี่วันแล้วนะ? เหงาบ้างไหม? ยังไหวกันอยู่หรือเปล่า? UNLOCKMEN อาสาพาทอดน่องไปทั่วย่านพระนคร มองแดดยามบ่าย ละเลียดท้องฟ้าครามแห่งฤดูร้อน ชื่นชมแลนด์มาร์กสำคัญให้หนำใจผ่านหน้าจอคุณ ไม่ใช่แค่เราที่เหงาและรู้สึกโดดเดี่ยวกับหลายเรื่องที่รุมเร้า กรุงเทพฯ ของเราก็ดูเหงาไปถนัดตา แต่สัญญาได้ไหมว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน ผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ออกมาเดินเล่น ใช้ชีวิต กรุงเทพฯ ยังมีอะไรรอให้เราไปชื่นชมอีกมาก ชีวิตเราก็เช่นกัน เราจะผ่านสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกัน เพื่อรอเจอสิ่งสวยงามอีกมากมายนับจากนี้ไป เสาสีแดงชะลูดขึ้นไปในอากาศ ตัดกับฟ้าสีสดปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เรานัดกันที่ “เสาชิงช้า” แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครที่เป็นภาพจำในโฆษณาการท่องเที่ยวอยู่บ่อย ๆ แต่กับเราคนไทยเอง เสาชิงช้าอาจไม่ใช่สถานที่ท็อปฮิตนัก อย่างมากก็ขับรถผ่านมาในวันที่มีนัดจิบเบียร์กับใครบางคนที่ถนนข้าวสาร เสาชิงช้าในวันที่รถราไม่ขวักไขว่อย่างที่เคย เสาชิงช้าในวันนักท่องเที่ยวร้างไร้กว่าห้วงเวลาปกติดูเหงาไปถนัดตา แต่ที่เหงาปนเศร้ายิ่งกว่าคือคนทำมาหากิน “ตุ๊กตุ๊ก” ที่เคยรับหน้าที่ไม่ต่างจากทูตสันถวไมตรี นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะบินมาจากมุมไหนของโลก พี่คนขับและตุ๊กตุ๊กคู่ใจล้วนเป็นทัพหน้าแข็งขัน พาตระเวนทั่วย่านเมืองเก่า พร้อม ๆ กับเป็นภาพจำความเป็นไทยด้วยตัวรถเอง วันนี้รถตุ๊กตุ๊กน้อยลงถนัดตา ที่ยังเหลืออยู่ก็จอดนิ่งสนิท รอใครสักคนเรียกใช้บริการอย่างมีความหวัง แหงนหน้าฝ่าแดดมองเสาชิงช้าจนหนำใจ ลัดเลาะไปตามกำแพง
เหนื่อยหรือเปล่า? ท้อบ้างไหม? ชีวิตตอนนี้ไม่ง่ายเลย เรารู้ คุณรู้ หลายบริษัทเล็กใหญ่ ไปจนถึงคนทำงานตัวเล็กตัวน้อยทั่วทุกภาคส่วนต่างเผชิญความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามอย่างน่าเป็นห่วงไปทั่วโลก หลายคนเหนื่อยแต่ยังไม่ท้อ หลายคนท้อแต่ยังไม่หยุด หลายคนหยุดแต่ยังพยายามมองหาหนทาง แม้มันจะล้าแสนล้า แต่ในหัวก็วนเวียนว่า “ถ้ายอมแพ้วันนี้ พรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน? ” เราเชื่อว่าหลายคนไม่เพียงแต่ต้องดูแลตัวเอง แต่ยังมีความรับผิดชอบในหลายรูปแบบให้ต้องจัดการ “พลังแห่งการไม่ยอมแพ้” จากมนุษย์หนึ่งคนจึงยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด แม้ในสภาวการณ์ที่เป็นอยู่นี้เราจะมองไม่เห็นหนทางว่าการไม่ยอมแพ้ของเราจะได้ผลอะไรกลับมา? เราจึงอยากแบ่งกำลังใจจาก UNLOCKMEN ด้วย ZERO TO HERO PODCAST ทั้ง 5 Ep ที่ว่าด้วยการไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ Zero To Hero – อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร “ถ้าเราได้ทุ่มเททุกอย่าง แม้มันจะเกิดผลช้ามาก หรือไม่เกิดผลเลย อย่างน้อยเมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถตอบได้เต็มปาก ในหัวใจหนึ่งกำปั้นมือว่า มึงได้ลองแล้ว“ ในวันที่ชีวิตหม่น ๆ เราเชื่อว่าบทเพลงของ Greasy Cafe เคยอยู่เป็นเพื่อนใครหลายคน แต่เบื้องหลังบทเพลงที่ดูเข้าอกเข้าใจความหม่นเศร้า หรือเบื้องหน้าที่ใคร ๆ
เมื่อสถานการณ์รอบตัวเปลี่ยนไป มีสารพัดสิ่งละอันพันละน้อยที่ผู้ชายอย่างเราต้องปรับตัวตาม ตั้งแต่เรื่องที่ต้องรับผิดชอบอย่างหน้าที่การงาน วิถีชีวิต ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ความรัก” และ “ความสัมพันธ์” เมื่อวิกฤตไวรัสฯ ส่งผลกระทบต่อชีวิตเราเพื่อความปลอดภัยที่สุดของทั้งเราและคนสำคัญของเราจึงทำให้ต้องห่างกันสักพัก การกุมมือกันดูหนังเรื่องโปรดก็ต้องยกเลิกไปโดยปริยาย อาหารร้านอร่อยที่ชวนกันไปกินบ่อย ๆ ก็ต้องงดไปอีกระยะ รวมถึงกิจกรรมเดินเล่นผ่อนคลาย ไปจนถึงทริปทะเลที่ได้นอนเล่นรับแดดอุ่น ๆ เคียงข้างกัน แม้ความรักและความรู้สึกคล้ายจะเป็นแกนหลักของความสัมพันธ์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้เจอกัน มีกิจกรรมดี ๆ สานบทสนทนาราบรื่นต่อหน้า และการสร้างประสบการณ์ร่วมกันก็มีส่วนหล่อเลี้ยงให้ความสัมพันธ์คงอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อสถานการณ์ไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดทำให้เราต้องห่างกันสักพัก จะมีวิธีไหนที่ยังประคับประคองความสัมพันธ์นี้ให้ราบรื่นต่อไปได้บ้าง? “โกรธ เศร้า หึง น้อยใจ” จงใช้เวลามากขึ้นก่อนรู้สึก ยิ่งตัวอยู่ไกลกันมากเท่าไร ระยะเวลาที่ยืดยาวออกไปไม่ได้เจอกันขึ้นมากเท่าไหน เราก็ยิ่งโหยหาคิดถึงอยากเจอคนที่เรารักมากขึ้นเท่านั้น ระยะห่างจึงมีข้อดีของมัน แต่ระยะห่างก็เป็นดาบ 2 คม เมื่อเราไม่ได้เจอกันต่อหน้า สภาวะการณ์รอบกายมีเรื่องให้ตึงเครียดจนอารมณ์ขุ่นมัว เราก็ยิ่งมีเรื่องให้เข้าใจกันผิดได้มากยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ประคองระยะความสัมพันธ์ให้ราบรื่นต่อไปได้คือ “การใช้เวลาทบทวนสิ่งที่ตัวเองรู้สึกมากขึ้น” จากปกติเราเห็นหนุ่ม ๆ มาคอมเมนต์แฟนเราแบบสนิทสนมแล้วเราอาจจะโกรธทันที โทรหาเธอเพื่อโวยวาย ณ ตอนนั้น แต่ในสถานการณ์ที่ต้องห่างกันนาน ๆ ลองปรับระยะเวลาการแสดงออกให้ยืดยาวออกไป เพื่อให้อารมณ์เจือจางลงก่อน การให้อารมณ์เจือจางแล้วถึงแสดงออกจะช่วยลดระดับความรุนแรงทางอารมณ์ที่เราส่งไป หรือบางครั้งเมื่อเราให้เวลาได้ทบทวนดี
หนึ่งในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของการทำงาน คือยังไม่ได้ทำใจในวันจากลา เหตุผลนี้กลายเป็นวิกฤตสำคัญของสถานการณ์ Covid-19 ไปเรียบร้อย บางคนโดนลอยแพกระทันหัน บางคนยังไม่รู้ชะตากรรม ตกงานระนาว ส่วนหนี้สินที่รุงรังอยู่ยังไม่รู้จะเริ่มสางตรงไหน เพราะมันไม่ได้หยุดทำงานเหมือนเรา เรื่องนี้อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมาจากประกันสังคมและกระทรวงแรงงานว่าผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกมาตรการเยียวยาผลกระทบ Covid-19 เพื่อให้เรายังพอมีเงินยังชีพระหว่างที่ขาดรายได้ โดยใครที่เข้าเกณฑ์เงื่อนไขใดในนี้ สามารถไปเข้าไปกรอกเพื่อรับสิทธิ์เงินสมทบได้ตามที่กำหนด Keyword: เพื่อให้อ่านต่อเนื่องจากนี้ไปแล้วเข้าใจมากขึ้น เราอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจรูปแบบการเป็นผู้ประกันตนมาตราต่าง ๆ ก่อนว่าเราเข้าข่ายแบบไหน และแต่ละคนมีความแตกต่างอย่างไร ผู้ประกันตน มาตรา 33 = พนักงานเอกชนทั่วไป ผู้ประกันตน มาตรา 39 = เคยเป็นพนักงานแต่ลาออกและต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง ผู้ประกันตน มาตรา 40 = อาชีพอิสระ/แรงงานนอกระบบ หรือผู้ที่ต้องการทำประกันสังคม ไม่เคยทำมาก่อน ต้องมีอายุ 15-60 ปี เงื่อนไข แน่นอนว่าการคุ้มครองแรงงานในสถานการณ์นี้ ถึงจะบอกว่าช่วยเยียวยาแต่ก็มีเงื่อนไข โดยเงื่อนไขครั้งนี้คือลูกจ้างที่สามารถรับสิทธิ์ได้ ต้องส่งประกันสังคมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ถ้าคุณเข้าเงื่อนไขนี้ก็ขอให้ข้ามไปดูต่อได้ว่าคุณอยู่ในข่ายผู้ได้รับผลกระทบแบบไหน
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ทะยานสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แปลกถ้าผู้ชายบางคนจะรู้สึกวิตกกังวล ไม่เป็นอันกินอันนอน และตื่นกลัวทุกสิ่งอย่าง ไหนจะข่าวสารที่น่าหดหู่ ผู้คนบางตารอบตัว หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป คล้ายกับอุปาทานหมู่ที่ทำให้เราวิตกตามไปด้วย แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างตอนนี้ กลับเป็นช่วงที่เราต้องมีสติและเข้มแข็งมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณปล่อยให้อารมณ์วิ่งพล่านและอาละวาดโดยปราศจากการควบคุม อาจทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วย่ำแย่ลงไปอีก วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะมาบอกวิธีควบคุมและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปไหนไกล เพื่อให้คุณยังมีสติ เข้มแข็ง และยืดหยัดอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ต่อไปได้ รู้จักอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น วิธีพื้นฐานในการควบคุมจัดการกับอารมณ์ตัวเอง เริ่มจากคุณต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้อารมณ์แบบไหนกำลังเกิดขึ้นกับคุณอยู่ หากสามารถจำแนกและบอกได้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แปลว่าคุณมีสติและควบคุมอารมณ์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนั้นการรู้จักอารมณ์ยังช่วยจัดการกับอารมณ์เชิงลบและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณได้ เช่น ถ้าคุณรู้สึกวิตกกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัส ความกังวลของคุณจะอยู่บนพื้นฐานของความคิดและเหตุผล คุณจะไม่กระวนกระวายเหมือนคนอื่น ๆ หากมีสติและพร้อมแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด ช่วยเหลือคนรอบตัว แม้คุณสามารถจำแนกและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่เชื่อว่ายังมีคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวอีกมาก ที่ไม่อาจจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ นานาได้อย่างคุณ คุณจึงต้องช่วยนำทางพวกเขาหรือแบ่งปันอารมณ์ร่วมกัน ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างและพอมีวิธีไหนจะทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง ถ้าความวิตกกังวลเรื่องไวรัส COVID-19 เป็นอุปาทานหมู่ที่ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกแย่ตามไปด้วย การมีสติ เข้มแข็ง และควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ก็สามารถกลายเป็นอุปาทานหมู่ที่ส่งต่อไปยังคนอื่นได้เช่นกัน ไม่ต่างจากเรื่องไวรัส จดจ่อสิ่งที่ทำได้ คุณอาจไม่สามารถไปยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในวงกว้างได้ แต่เราอยากให้คุณมุ่งเน้นในเรื่องที่คุณทำได้และทำมันให้ดีที่สุด เช่น
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของแต่ละคนมากน้อยแตกต่างกันไป หลายคนไลฟ์สไตล์ชีวิตต้องเปลี่ยนไปชั่วคราว อาจต้องเริ่มการทำงานที่บ้าน หยุดงาน รวมถึงสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงหลายแห่งต้องหยุดให้บริการ หนึ่งในนั้นคือฟิตเนส สถานที่ออกกำลังประจำของหนุ่ม ๆ หลายคน พร้อมกันนั้น คนที่ไม่ได้เลือกออกกำลังที่ฟิตเนส แต่เลือกที่จะออกกำลังด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ตามสวนสาธารณะก็อาจต้องลดความถี่ลงหากต้องการเลี่ยงการเดินทางร่วมกับคนอื่น เพราะการสร้าง Social Distancing ในช่วงเวลานี้ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับคนหวังดีกับตัวเองและคนรอบตัว เพราะเราไม่รู้เลยว่าการแพร่เชื้อจะเกิดขึ้นได้ที่ไหนบ้าง ดังนั้นการออกกำลังกายที่บ้านจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถรักษาร่างกายให้ยังคงแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคภัยต่าง ๆ ได้แถมยังมีประโยชน์เป็นมวลกล้ามเนื้อที่แกร่งเพิ่มมากขึ้น วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมา WORKOUT FORM HOME กับ 10 ท่าบอดี้เวทสำหรับคน (จำเป็นต้อง) อยู่บ้านในช่วงนี้ Push Up เริ่มด้วยวิดพื้น ท่าออกกำลังที่ทุกคนรู้จักดีแถมยังพัฒนากล้ามเนื้อได้หลายส่วนทั้ง แขน อก ไหล่ ถือเป็นท่าที่ขาดไม่ได้สำหรับออกกำลังง่าย ๆ ที่บ้าน สำหรับคนที่เริ่มอาจฝึกด้วย Bent Knee Push Up เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแขนไปก่อน แต่สำหรับคนที่ชินกับการวิดพื้นอยู่แล้วแนะนำให้เปลี่ยนอารมณ์ให้ด้วย Diamond Push up หรือ Spider
เมื่อต้องลดการออกจากบ้านเพื่อป้องกันความเสี่ยง หลายคนพยายามหากิจกรรมทำเพื่อแก้เบื่อ เพื่อคลายเหงา หรือแม้แต่คลายความเครียด ความกังวลที่รุมเร้า การฟังพอดแคสต์ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ผู้ชายหลายคนเลือก เนื่องจากไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ฟังไปเอนหลังพักผ่อนไปก็ได้ หรือจะทำงานบ้านและกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างฟังพอดแคสต์ก็ยังไหว ในบรรดาพอดแคสต์จำนวนมากที่อาจเลือกฟังได้ไม่หมด UNLOCKMEN อยากชวนทุกคนมารู้จักและลองฟังพอดแคสต์ที่จะชวนให้เราฝึกภาษาอังกฤษ เพราะในแต่ละวันที่ต้องกักตัวเองอยู่ในบ้าน เราค่อย ๆ สะสมความรู้ทีละเล็กละน้อย ใครจะไปรู้ เมื่อทุกสิ่งคลี่คลาย เราก็เก่งภาษาอังกฤษกว่าเดิมไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว Easy Stories in English ใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นฝึกภาษาอังกฤษจากตรงไหน เราขอแนะนำให้เริ่มที่พอดแคสต์นี้ Easy Stories in English โดยแต่ละ Ep จะเล่าเรื่องสั้น ๆ เป็นภาษาอังกฤษ แต่ละเรื่องฟังเพลิน ๆ เหมือนได้ฟังนิทานก่อนนอน ที่สำคัญก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่อง เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอคำศัพท์ยาก ๆ ที่ไม่รู้จักจนทำให้ฟังไม่รู้เรื่องหรือเปล่า? เพราะตอนต้นของทุก Ep เขาจะพูดลิสต์คำศัพท์สำคัญ ๆ ที่เราจะเจอในเรื่องไว้ ทำให้เราเชื่อมต่อกับเรื่องได้อย่างรวดเร็ว แถมทำให้เราจำศัพท์ผ่านเรื่องเล่า ความดีงามอีกอย่างก็คือในแต่ละ Ep จะเขียนกำกับไว้ว่าเหมาะกับคนรู้ภาษาอังกฤษระดับไหน โดยจัดตามเรื่องราว