ว่าด้วยเรื่องของ ‘กลิ่น’ แทบทุกคนคงเคยได้ยิน ได้รับรู้ถึงความสำคัญของกลิ่นที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นกายก็เช่นกัน เพราะการมีกลิ่นกายสะอาดไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ จะขยับตัวทำอะไรก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นต้นตอแห่งมลพิษทางกลิ่นที่รบกวนคนรอบข้าง และแน่นอนว่ากลิ่นกายที่ดีมันส่งผลโดยตรงต่อการสร้างความมั่นใจได้เต็มที่ หากพกความมั่นใจเอาไว้เต็มร้อยตั้งแต่ออกจากบ้าน ระหว่างที่พบปะผู้คนในแต่ละวันมันก็พร้อมต่อยอดไปสู่โอกาสดี ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องความรัก หรืออะไรก็ตาม หากเริ่มต้นด้วยความมั่นใจยังไงก็เป็นต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีกลิ่นกายที่ดีแม้จะฟังดูไม่ยาก แต่มันก็ไม่ได้เรียบง่ายแค่อาบน้ำให้สะอาด หาน้ำหอมดี ๆ มาใช้แล้วจบไป เพราะยังมีหลายปัจจัยที่พร้อมสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยเราเองแทบไม่รู้ตัว หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีผู้กล้าเข้ามาทัก จนต้องรู้สึกช็อตฟีลเสียหลัก หมดความมั่นใจไปไม่ใช่น้อย ซึ่งในวันนี้ปัญหาเรื่องกลิ่นที่หลบซ่อนอยู่กำลังจะหมดไป เพราะเราจะพาไปรู้จักกับปัญหาหลักของกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ที่หลายคนมองข้าม หรือด้วยความเคยชินอาจทำให้ไม่ได้รับรู้ถึงกลิ่นกวนใจเหล่านี้ พร้อมปิดท้ายด้วยวิธีแก้ปัญหาแบบอยู่หมัดด้วย MARO BODY & FACE Cleansing Soap เจลอาบน้ำนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น ช่วยล็อกกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ให้สลายกลายเป็นศูนย์ ขวดเดียวใช้ได้ทั้งร่างกายและใบหน้า กลิ่นกายจากของกิน: ก่อนจะเข้าสู่วิธีแก้ เราขอไล่เรียงต้นตอของปัญหาไปทีละสเต็ป เริ่มต้นด้วยกลิ่นกายที่มาจากอาหารการกิน หลายคนอาจเข้าใจว่ากลิ่นมาจากเหงื่อ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเหงื่อเพียว ๆ นั้นแทบไม่มีกลิ่น แต่แบคทีเรียซึ่งทำให้เหงื่อกลายเป็นกรดไขมันนั่นแหละตัวการทำให้เกิดปัญหากลิ่นกายกวนใจ นอกจากนี้อาหารจานโปรดของหนุ่ม ๆ ชาวไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเนื้อสัตว์บางชนิด หรือเครื่องเทศกลิ่นแรงรสจัด
เชื่อว่าชาว UNLOCKMEN หลายคนต่างเติบโตมา พร้อมความสุขบนหน้าจอ ที่เต็มไปด้วยฉากชวนตื่นตาตื่นใจระหว่างรับชมการต่อสู้ของฮีโร่ร่างยักษ์ซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์โลกจากเหล่าสัตว์ประหลาดไคจูตัวร้าย พร้อมเอาใจช่วยด้วยความลุ้นระทึกกับเงื่อนไขเวลาจำกัดของพระเอกขณะที่อยู่ในร่างยอดมนุษย์นามว่า Ultraseven โดยเรื่องราวของ Ultraseven นักรบผู้ผดุงความยุติธรรมจากดวงดาวแห่งแสงใน Nebular M78 ที่ออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1967 – 1968 ได้กลายเป็นตำนานสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนรุ่นสู่รุ่นมายาวนานกว่า 55 ปี เช่นเดียวกันกับเรือนเวลา SEIKO 5 SPORTS ซึ่งยืนหยัดในฐานะ Automatic Day-Date Watch รุ่นแรกของญี่ปุ่น ที่มาพร้อมราคาคุ้มค่า คุณภาพน่าเชื่อถือ และดีไซน์ที่ถูกพัฒนาให้ร่วมสมัยสำหรับหนุ่มสาวหัวใจสปอร์ตมาเป็นเวลา 55 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1968 ด้วยช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดี ทำให้ยอดมนุษย์ Ultraseven และเรือนเวลาชั้นยอดอย่าง SEIKO 5 SPORTS มีโอกาสได้โคจรมาเจอกันในคอลเลกชั่น SEIKO 5 SPORTS 55th ANNIVERSARY ULTRASEVEN LIMITED EDITION เรือนเวลารุ่นพิเศษ ตัวแทนการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 55 ปีของทั้งคู่ ที่บอกเลยว่าแฟน
“หลายคนอาจมองว่าเราเป็นคนทำงาน Street Art ที่ประสบความสำเร็จ แต่พูดตรง ๆ คือ เราไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงจุดนั้นหรือเปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าเรามีโอกาส ได้รับโอกาสอะไรมา เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด งานมันต้องพัฒนาเรื่อย ๆ เราอยากรู้สึกตื่นเต้นกับงานที่ทำ ณ ปัจจุบันให้มากที่สุด อยากรู้สึกเหมือนตอนทำงานกำแพงแรก ที่เราผ่านอะไรมามากมายจนสุดท้ายก็ทำสำเร็จ เราว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลย” Quote ข้างต้นคือมุมมองการสร้างงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วย Passion จากปากของชายที่เรา และใครอีกหลายคนทั้งในไทยรวมถึงต่างประเทศ ต่างให้การยอมรับว่าเขาคือหนึ่งในศิลปินเบอร์ต้น ๆ ที่นำพาผลงาน Street Art ไทย ให้ดังไกลถึงต่างแดน แม้เจ้าตัวจะไม่มั่นใจว่าได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางของความสำเร็จแล้วหรือยัง แต่เชื่อว่าผลงานมากมายของ ‘รักกิจ สถาพรวจนา’ หรือ ที่หลายคนรู้จักในชื่อ RUKKIT น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว จากจุดเริ่มต้นของเด็กชายธรรมดาที่มีใจรักในการวาดรูป แต่การคว้ารางวัลประกวดวาดภาพระดับอนุบาลมาครอง กลับกลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้เด็กชายรักกิจ มุ่งมั่นในเส้นทางศิลปะต่อเนื่องและเริ่มต้นทำงานประจำในสาขากราฟิกดีไซน์เนอร์ จนกระทั่งสิ่งที่เรียกว่า “โอกาส” ที่ถูกหยิบยื่นให้ได้เปิดเส้นทางใหม่ให้ผู้ชายคนนี้ได้รู้จักกับงาน Street Art และใช้ชีวิตกับศิลปะแขนงนี้มาจนถึงปัจจุบัน “หลังจากจบมหาวิทยาลัยก็ไปทำงานกราฟิกดีไซน์ก่อน จากนั้นมีรุ่นพี่ชวนไปทำงาน Street Art เป็นงานพ่นกำแพงที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ (BACC) เริ่มทำครั้งแรกก็รู้สึกชอบเลย
Rolex จริงจังกับการเป็นเจ้าแห่งนาฬิกาดำน้ำ นับตั้งแต่ Submariner (1953) พัฒนาไปเป็น Sea-Dweller (1967), Deepsea (2008) มาจนถึง Deepsea Challenge ในวันนี้ กลับมาคว้าเจ้าของสถิติ Production Diving Watch ที่ดำน้ำได้ลึกที่สุดในโลก ด้วย Deepsea ตัวเรือน Titanium case ครั้งแรกของ Rolex กับรหัส reference 126067 หลังจากเคยส่ง experimental watch ลงไปกับเรือดำน้ำใต้ Maraiana Trench จุดที่ลึกที่สุดในโลกกับ James Cameron มาแล้วในปี 2012 Rolex Deepsea Challenge 2022 หน้าปัดขนาด 50mm หนา 23mm เป็นกระจก Sapphire crystal glass ถึง 9.5mm กลไก
อีกครั้งกับความร่วมมือ TAG Heuer x Nintendo ทั้งสองได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์เรือนเวลาสองรุ่นสุด limited ในรูปแบบของโครโนกราฟ TAG Heuer Formula 1 สำหรับนักสะสมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองไปกับ Mario Kart แฟนๆที่หลงใหลความสดใสและกล้าหาญของ Super Mario จะได้เห็นตัวละครโปรดของพวกเขาโลดแล่นอีกครั้ง คอลเล็กชั่นที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันอันเป็นสัญลักษณ์ของ TAG Heuer และการออกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งสองสิ่งเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม TAG Heuer และ Nintendo เพื่อปรับแต่งในทุกรายละเอียด โดยทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งคู่ ในคอลเลคชัน TAG Heuer Formula 1 และชุด Mario Kart ได้แก่ อะดรีนาลีน ความเร็ว การแข่งขัน ไปจนถึงชัยชนะ “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดเผยสองผลงานล่าสุดที่เกิดจากความร่วมมือของเรากับทาง Nintendo “TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Editions” (Chronograph และ Chronograph Tourbillon) ผสมผสานไปด้วยการเล่นสนุกๆ ซึ่งจะทำให้แฟน ๆ ของ Mario Kart ทั่วโลกพึงพอใจด้วยการจับเวลาที่ละเอียดและมีประสิทธิภาพสูง” Frédéric Arnault
หากเอ่ยถึงชื่อ Speedmaster หนึ่งในซีรีส์นาฬิการะดับไอคอนิกจาก OMEGA เชื่อว่าบรรดาผู้หลงใหลในเรือนเวลาส่วนใหญ่คงมีภาพจำถึงเรื่องราวการประกาศศักดาให้โลกจารึกในฐานะ Moonwatch นาฬิกาที่ถูกสวมโดยนักบินอวกาศ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin ผู้ฝากรอยเท้าเล็ก ๆ ที่สุดแสนจะสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติลงบนพื้นผิวดวงจันทร์ในเดือนกรกฎาคม ปี 1969 แต่สำหรับสาวก Speedmaster อีกจำนวนไม่น้อยคงรู้กันดีว่า เดิมทีนาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อพิชิตดวงจันทร์ หากแต่ชื่อ Speedmaster ยังประกาศก้องถึง DNA แห่งความเร็วที่ชัดเจนเข้มข้นจนแทบไม่ต้องเสียเวลาตีความ นับย้อนไปตั้งแต่ปี 1957 ช่วงเวลาที่ปฐมบทของเรื่องราวแห่ง Speedmaster จาก OMEGA ได้เริ่มต้นด้วยเรือนเวลาที่มาพร้อมเข็มบอกทิศทางแบบ Broad Arrow รูปทรงหัวลูกศรสุดโดดเด่น และยังเป็นนาฬิกาข้อมือ Chronograph แบบแรกที่นำสเกล Tachymeter หรือมาตรวัดความเร็วมาไว้บนขอบตัวเรือน เพื่อจุดประสงค์สำหรับใช้งานในวงการ Motorsport เรียกได้ว่าก่อนจะไปโลดแล่นบนดวงจันทร์ เหล่านักแข่งรถ ช่างเทคนิค รวมถึงทีมงานในสนามประลองความเร็ว ต่างก็เคยประทับใจในความทนทาน, ประสิทธิภาพ รวมถึงงานดีไซน์ของ Speedmaster มาแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ชื่อของ Speedmaster
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ตอนนี้ ชื่อของ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวยที่มีจุดเด่นเรื่องราคาจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดยแบรนด์เรือนเวลาชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง SEIKO กำลังเป็นที่จับตามองด้วยคอลเลกชั่นเท่ ๆ มากมายที่ทยอยเปิดตัวออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “The Reflection Of Japan” ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละคอลเลกชั่นนั้นล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นโดนใจ ด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product กับนาฬิกาแนว Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ล่าสุดทาง ALBA ก็ได้เผยโฉมอีกหนึ่งคอลเลกชั่นใหม่ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่ที่สะท้อนจิตวิญญาณญี่ปุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี กับ ALBA Monster Thailand Creation ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือนเวลารุ่นยอดนิยมของรุ่นพี่อย่าง SEIKO ที่ได้รับการขนานนามจากเหล่านักสะสมว่า Monster ด้วยความแข็งแรงบึกบึนของตัวเรือน และดีไซน์ที่ดูแปลกตาแต่มีเสน่ห์ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2000 และ Monster ที่ถูกตีความภายใต้ชื่อ ALBA Monster Collection นั้น เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ระดับไอคอนิก มาร้อยเรียงเรื่องราวและดีไซน์ใหม่ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านนาฬิการะบบอัตโนมัติ 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ยังคงความโดดเด่นเอาไว้แบบครบ ๆ ทั้งในเรื่องขนาดตัวเรือนกำลังเข้าข้อที่ 42.4
Franck Muller ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี กับบริษัท Cortina Watch หนึ่งในบริษัทด้านการค้าปลีกนาฬิกาและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสิงคโปร์ โดยได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นนาฬิการุ่นพิเศษ Vanguard Revolution 3 Skeleton ซึ่งประกอบไปด้วย 5 รุ่นย่อย ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด นอกจากนี้ในเดือนที่ผ่านมายังได้มีการจัดแสดงคอลเล็กชั่นนาฬิกาที่เป็นสุดยอดของการประดิษฐ์นาฬิกาจากอัญมณีชั้นสูง และเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแห่งความหรูหราของ Haute Horlogeries ซึ่งเป็นการนำเอารุ่นพิเศษอย่าง ทูร์บิญอง (Tourbillions) แบบสามเข็ม ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า และได้นำเอาเพชรพลอยที่ได้คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่น่าค้นหา นาฬิกา Vanguard Revolution 3 Skeleton อันเป็นเอกลักษณ์ทั้ง 5 รุ่นนี้ ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ที่ Watchland ในเจนีวา เพื่อรำลึกถึงความร่วมมืออันล้ำค่าระหว่าง Franck Muller และ Cortina Watch รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นและจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Franck Muller โดย มร. เจเรมี ลิม CEO ของ
การกลับมาอีกครั้งของเรือนเวลาสไตล์เรโทรรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของ “มิโด” (MIDO) “มัลติฟอร์ต พาวเวอร์วินด์ โครโนมิเตอร์” (Multifort Powerwind Chronometer) จากตระกูลมัลติฟอร์ต (Multifort) ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 1954 เรือนเท่านั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงรุ่นพาวเวอร์วินด์ (Powerwind) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1954 และได้ปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำและเที่ยงตรงที่สุดของ “มิโด” (MIDO) ในขณะนั้น โดยล่าสุดในปี 2022 นี้ “มิโด” (MIDO) ได้หยิบยกเรือนเวลาระดับตำนานขึ้นมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีร่วมสมัยที่ดีที่สุด ให้นาฬิกามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกที่ผสานกลิ่นอายของความวินเทจเอาไว้ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินมิดไนท์ บลู (Midnight Blue) ซึ่งเหมาะสำหรับนักสะสมที่หลงใหลความวินเทจเป็นอย่างดี “มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ.
สืบเนื่องมาจากภาพของหนึ่งในท่านผู้นำของประเทศละแวกบ้านเราสวมนาฬิกาหรูแบรนด์ไฮเอนด์ที่มีราคาเหยียบหลักล้าน ก็เลยทำให้โลกโซเชียลหันมาให้ความสำคัญกับ นาฬิกาข้อมือ จนกลายเป็นการเปิดหูเปิดตาจนทำให้รู้ว่าโลกของเรานั้นยังมีนาฬิกาที่เป็นไอคอนของแบรนด์และบุคคลอีกมากมายหลายรุ่นไม่ใช่เฉพาะแค่ Rolex อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เป็นเหมือนนาฬิการุ่นดังที่คนทั่วโลกชื่นชอบและใฝ่ฝัน เรามาดูกันครับว่าส่วนหนึ่งของนาฬิกาที่เป็นไอคอนนั้นมีอะไรกันบ้าง Rolex Submariner & Date Just เมื่อพูดถึงเครื่องบอกเวลาสุดคลาสสิคก็คงต้องเริ่มด้วย Submariner ที่ Rolex ทำขายครั้งแรกในปี 1954 ถือเป็นรุ่นที่ปฏิวัติวงการนาฬิกาข้อมือทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ในตอนแรก Submariner ไม่ได้จัดเป็นไลน์ Luxury แต่อย่างใด ผลิตมาเพื่อตอบโจทย์การดำน้ำโดยเฉพาะ แต่เมื่อนานวันเข้า จากปากต่อปากและไอคอนบนโลกนี้อย่าง Steve McQueen ที่ใส่จนมันกลายเป็นสถานะความเท่บนตัวสุภาพบุรุษ เมื่อมาถึงปลายยุค 80’s ที่ Rolex กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรามั่งคั่ง รุ่นที่ฮิตที่สุดของพวกเขาก็คือ Submariner นี่ล่ะ เอกลักษณ์ของมันคือความทนทาน และเป็นนาฬิกาทรง Sports ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งดีไซน์และการใช้งาน ทุกวันนี้รูปทรงของมันก็ยังคงร่วมสมัย มีหน้าปัดขนาด 40มม. ให้เลือกทั้งสีเงิน สีทองและทองขาว 18K ใส่ได้กับผู้ชายทุกสไตล์ (หรือผู้หญิงบางคนก็ใส่ได้เช่นกัน) หาก Submariner คือตัวแทนความสปอร์ตจาก