News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "world"

  • DESIGN
    By: unlockmen September 9, 2019
    ‘SPACE HOTEL’โรงแรมอวกาศแห่งแรกของโลก สร้างสเปซกลาง SPACE ไร้แรงโน้มถ่วง

    การตั้งรกรากในอวกาศหรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ อาจเป็นพล็อตยอดนิยมที่หนุ่ม ๆ หลายคนเคยเจอมาจากซีรีส์หรือภาพยนตร์ไซไฟเรื่องดัง แต่ก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆ สำหรับเราหลายคน เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่าน โลกก็เริ่มส่งสัญญาณบ่งชี้ถึงความผิดปกติ ทั้งภาวะโลกร้อน ไฟป่า น้ำแข็งขั้วโลกหลอมเหลว หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างนำความรู้ความสามารถแต่ละแขนงมาผนวกรวมกัน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีแห่งโลกอนาคต เมื่อไม่นานมานี้ The Gateway Foundation มูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรมการก่อสร้างอวกาศผู้สร้างสถานีอวกาศแห่งแรกได้เปิดตัว ‘SPACE HOTEL’ โรงแรมกึ่งสถานีอวกาศแห่งแรกของโลก หรือที่นักบินอวกาศรู้จักกันในชื่อสถานีอวกาศวอนเบราน์ (Von Braun Space Station) ถือเป็นหนึ่งในแผนการสร้างเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) แต่แทนที่จะสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว มันกลับเป็นเหมือนเรือสำราญที่โคจรท่องอวกาศ พร้อมบรรจุห้องพักหรูหราและบาร์ค็อกเทลระดับพรีเมียมราวถอดแบบมาจากโรงแรมไฮเอนด์ Tim Alatorre ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบโรงแรมแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของ Wernher von Braun วิศวกรการบินและอวกาศลูกครึ่งอเมริกัน-เยอรมัน เขาจึงนำเสนอตัวโครงสร้างโรงแรมแบบวงล้อขนาดมหึมาที่หมุนอย่างช้า ๆ เพื่อสร้างแรงโน้มถ่วง ตัวล้อมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 190 เมตร ระหว่างล้อแบ่งเป็นห้องพัก 24 ห้อง และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับแขกจำนวน 400 คน ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีอบอุ่น

  • World
    By: unlockmen September 9, 2019
    NIHON STORIES: ว่าด้วยศาสนาและเสรีภาพกับ SAINT YOUNG MEN เมื่อสองศาสดาขอลาพักร้อน

    ถ้าพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘ศาสนา’ คุณจะคิดถึงอะไรและให้นิยามกับคำนี้ว่าอย่างไร ? แน่นอนว่าคำตอบที่ได้จะต้องหลากหลาย บางคนกล่าวว่าศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ บ้างก็ว่าคือความเชื่อที่สืบทอดกันมาหลายยุคสมัยและเป็นคำตอบสำหรับการใช้ชีวิตให้มีความสุข บางคนอาจนึกถึงหลักคำสอนที่ให้เราเป็นคนดี มีเมตตาต่อผู้อื่น ปล่อยวางให้จิตใจมีความสุข แต่คำตอบที่ตรงกันมากที่สุดเมื่อถูกถามว่าถ้าพูดถึงศาสนาจะนึกถึงอะไรก็คงหนีไม่พ้นศาสดาของศาสนาอย่างพระเยซู อัลเลาะห์ และพระพุทธเจ้า แค่คำถามสั้น ๆ ทำให้เราสามารถต่อบทสนทนากันได้อย่างไม่จบสิ้น หลายประเทศในโลกสามารถพูดคุยและวิจารณ์ศาสนากันได้อย่างเสรี บางประเทศทำศาสนาให้เข้าถึงง่ายจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่สำหรับบางประเทศศาสนาก็กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ยากจะจับต้อง ด้วยความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรมเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องศาสนา ทำให้ UNLOCKMEN นึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่เคยได้รับความสนใจจากคนไทยในช่วงเวลาหนึ่งอย่าง Saint Young Men ที่ทำให้คำว่าศีลธรรมและความเหมาะสมเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อถูกพูดถึงพร้อมกันเป็นวงกว้างในสังคมไทย จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อนักวาดการ์ตูนชื่อดังของเกาะญี่ปุ่นอย่าง Hikaru Nakamura (中村光) ได้ไอเดียโคตรบ้าที่มาจากการตั้งคำถามเล่น ๆ ว่า ‘ถ้าศาสดาของศาสนาคริสต์และพุทธทำงานหนักมาเป็นเวลายาวนาน แล้ววันหนึ่งพวกเขาเกิดอยากลงจากสวรรค์มาพักร้อนด้วยการเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งปีจะเป็นอย่างไร’ เมื่อคิดได้ดังนั้น Hikaru Nakamura จึงไม่รอช้าที่จะเล่าเรื่องราวนี้ผ่านการ์ตูน Saint Onii-San (聖 おにいさん) หรือในชื่อภาษาอังกฤษ Saint Young Men   การ์ตูนเรื่องนี้ว่าด้วยการใช้ชีวิตของสองศาสดาชื่อดังของโลกอย่างพระพุทธเจ้าและพระเยซู พวกเขาไม่ต้องแบกรับภาระหนักหนาอะไรอีกต่อไปและพากันไปเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ญี่ปุ่น ซ่อนตัวตนที่แท้จริงจากผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นชายธรรมดา พร้อมกับเรียนรู้สังคมวัฒนธรรมของญี่ปุ่นยุคปัจจุบันที่ใคร ๆ ก็ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่างพระพุทธเจ้าซักผ้า พระเยซูออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมกับสะสมแสตมป์แลกซื้อ พากันไปงานเทศกาลฤดูร้อน ไปสวนสนุก

  • World
    By: unlockmen September 4, 2019
    NIHON STORIES: VAN GOGH จิตรกรชื่อก้องโลกผู้เศร้าโศกและหลงใหลศิลปะภาพพิมพ์แกะไม้ญี่ปุ่น

    ถ้าให้พูดถึงศิลปินที่โด่งดังในโลกนี้ ก็คงจะต้องมีชื่อของชายหนุ่มชีวิตสุดรันทดอย่าง Vincent Van Gogh อยู่ด้วยแน่นอน เพราะเขาเป็นชายผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่หลงเหลือผลงานไว้เป็นมรดกให้เหล่าคนรุ่นหลังเข้าถึง จากรูปภาพที่บอกเล่าความเศร้าและความรู้สึกโดดเดี่ยวได้อย่างชัดเจน ทั้งที่ผลงานภาพวาดของเขาเต็มไปด้วยสีสันสดใส  ก่อนหน้านี้ UNLOCKMEN เคยถ่ายทอดชีวิตแสนเศร้าของ Van Gogh ไปแล้วใน (เรื่องเล่าที่สุดแสนจะรันทดของ VINCENT VAN GOGH ชายผู้เคยตัดหูซ้ายเพื่อโสเภณี) วันนี้เราจะมาพูดถึงงานอดิเรก ของสะสม ความหลงใหลคลั่งไคล้วัฒนธรรมและศิลปะการแกะไม้สไตล์ญี่ปุ่นของเขากันบ้าง   แม้ไม่เคยมาเหยียบเกาะญี่ปุ่น แต่เขากลับตกหลุมรักสไตล์นิฮงจนหมดใจ Van Gogh เป็นชายที่มีอาการป่วยทางจิต เขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเข้าออกสถานบำบัดและโรงพยาบาล พร้อมกับวาดภาพเพื่อถ่ายทอดความรู้สึก Van Gogh เสียชีวิตด้วยอายุเพียง 37 ปี ทำให้ตลอดชีวิตของเขาไม่เคยได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้เขาจะไม่เคยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น แต่ Van Gogh ก็มีโอกาสเสพศิลปวัฒนธรรมธรรมของชาวญี่ปุ่นที่มหานครปารีสผ่านงานนิทรรศการงานเขียนและภาพวาดจากญี่ปุ่นมาจัดแสดงในยุโรป เมื่อผลงานจากฝั่งตะวันออกข้ามทวีปมาให้เขาได้ชมถึงที่ Van Gogh วัยหนุ่มผู้เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจแต่ไร้ชื่อเสียงก็พบกับศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ศิลปินหนุ่มชื่นชอบงานศิลปะของญี่ปุ่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับผลงาน Woodcut หรือที่เรียกกันว่า ภาพพิมพ์แกะไม้ ศิลปะภาพพิมพ์แบบนูนบนแผ่นไม้ เมื่อเขาเห็นและศึกษาเทคนิคงานแกะไม้ของญี่ปุ่นมาพักหนึ่ง Van Gogh ก็นำสไตล์ดังกล่าวมาอยู่บนผืนผ้าใบด้วย นอกจากนี้วัฒนธรรมจากฝั่งตะวันออกโดยเฉพาะจีนยังได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นสูงทวีปยุโรป

  • FASHION
    By: unlockmen September 3, 2019
    FASHION x CULTURE: BONNIE AND CLYDE คู่รักอาชญากรที่จากไปเหลือเอาไว้แต่มรดกทางแฟชั่น

    บรรดาคู่รักที่มีอยู่มากมายบนโลกทั้งคู่รักดารา คู่รักนักการเมือง คู่รักที่เป็นชาวบ้านธรรมดากับสายลับที่ชีวิตจริงเข้าตาใครหลายคนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่คงไม่มีเรื่องราวของคู่รักไหนจะแสบ เต็มไปด้วยความวุ่นวายเคล้าความโรแมนติกและจัดจ้านด้านแฟชั่นได้มากไปกว่า Bonnie และ Clyde อีกแล้ว  ด้วยความเท่เปี่ยมด้วยสไตล์ของ Bonnie กับ Clyde คู่รักนักปล้นอันแสนโด่งดังแห่งอเมริกาที่โดดเด่นสะดุดใจทั้งเรื่องเล่าสะดุดตาทั้งเครื่องแต่งกาย UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาตั้งแต่วัยเด็ก เห็นแนวคิด ชีวิต และแฟชั่นระหว่างการหลบหนีตำรวจ ที่หลอมรวมให้ทั้งคู่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้  ก่อนการพบกันของ BONNIE และ CLYDE Bonnie Parker และ Clyde Barrow ก่ออาชญากรรมราวสองปีตั้งแต่ 1932-1934 ช่วงเวลาก่อนที่พวกเขาจะพบกันต่างชีวิตไม่ต่างจากเด็กทั่วไปในอเมริกา Clyde Barrow เด็กชายชีวิตแสนธรรมดาจากรัฐ Texas ลาออกจากโรงเรียนเพื่อทำตามความฝันของเองในวัย 16 ปี เขาชื่นชอบการเล่นแซ็กโซโฟนและกีตาร์ ใฝ่ฝันถึงการเป็นนักดนตรี แต่บ้านจนจึงต้องพับความฝันทางดนตรีเปลี่ยนมาลักเล็กขโมยน้อยร่วมกับพี่ชายแทน ส่วนของที่ขโมยก็ค่อนข้างสะเปะสะปะ เพราะขโมยเงิน ขโมยรถ หรือแม้กระทั่งขโมยไก่แถวบ้านมาเต็มคันรถ  ส่วน Bonnie Parker เป็นเด็กสาวจากรัฐ Texas เช่นเดียวกับ Clyde เธอเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินดี จนวันหนึ่งชีวิตดันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตลง

  • World
    By: unlockmen August 30, 2019
    NIHON STORIES: “แมวมองดารา AV”และฮาราจูกุย่านสว่างที่ซ่อนความดำมืดวงการหนัง

    ต้องยอมรับว่าหนังสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Video) หรือที่เราเรียกกันจนชินปากว่า หนัง AV เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชายทุกคนเคยดูอย่างน้อยหนึ่งครั้งแน่นอน ด้วยความใกล้ชิดระหว่างชายหนุ่มกับหนัง AV โดยเฉพาะที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปสัมผัสถึงเบื้องหลังของกลุ่มคนที่มีส่วนขับเคลื่อนวงการนี้ในอาชีพที่เรียกว่า “แมวมองดารา AV” กันบ้าง เพราะถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีใครเฟ้นหานักแสดงมาเล่น และถ้าไม่มีนักแสดงก็จะไม่มีหนัง AV มาให้เราดูอย่างทุกวันนี้ วงการหนัง AV ของญี่ปุ่นถือเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงขนาดใหญ่ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาลกว่าพันล้านเยน เพราะไม่ใช่แค่จับหญิงชายมามีอะไรกันหน้ากล้องแล้วจบ แต่หนังผู้ใหญ่ญี่ปุ่นแตกแขนงไปหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ชม หนัง AV บางเรื่องมีหลายตอนเหมือนซีรีส์ ปูเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวพระนางมานานเพื่อให้คนดูมีอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น บางเรื่องมีฉากโหดที่บางคนอาจรับไม่ได้ หรือบางเรื่องต้องใช้ฝีมือการแสดงของตัวละครหลักมากกว่าลีลาบนเตียง  สิ่งที่ตามความหลากหลายมาคือค่าใช้จ่ายแสนแพงที่ผู้จัดจะต้องหามาจ่ายปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะกับนักแสดงที่ยิ่งดัง ยิ่งเล่นเก่ง สวมได้ทุกบทบาท รู้ทุกมุมกล้อง ทำให้ค่าตัวของพวกเธอสูงมากจนผู้จัดบางเรื่องต้องส่ายหน้า เมื่อผู้จัดไม่มีงบมากพอจะจ้างนักแสดง A-List ผลคือต้องลดสเปกจากดาราดังมาเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไป อาจไม่ต้องดราม่าเจ้าน้ำตาได้เก่งเกินใครหรือรู้มุมกล้องเป็นอย่างดี ขอแค่เพียง “สดใหม่ไร้เดียงสา” ก็พอแล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ในย่านฮาราจูกุเต็มไปด้วยอาชีพหนึ่งทีเรียกว่า แมวมองนักแสดงหนัง AV    “ฮาราจูกุ” ย่านที่กลายเป็นเส้นแบ่งขาวดำของสังคมญี่ปุ่น เหล่าแมวมองจากบริษัทหนังต่าง ๆ ต้องแข่งกันหาหญิงสาวที่มีบุคลิกและรูปร่างหน้าตาให้ตรงตามใบสั่งจากบริษัทมากที่สุด แมวมองบางคนโดนสั่งให้หาเด็กนักเรียน บางคนต้องหาสาววัยทำงาน หรือผู้หญิงวัยแม่บ้าน

  • Girls
    By: unlockmen August 28, 2019
    1 น้ำของคุณ = 1 น้ำใจ! PORNHUB ปล่อย ‘หนังโป๊รักษ์โลก’เตือนให้คนใส่ใจปัญหาขยะ

    สำหรับผู้ชายโสดสนิทไร้พันธะอย่างเรา ๆ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘PornHub’ เว็บไซต์หนังโป๊ชื่อดังที่ครองใจคนทั่วทั้งโลก เว็บไซต์นี้ไม่เพียงสร้างสรรค์วิดีโอวาบหวิว ที่มาพร้อมท่วงท่าขยับเขยื้อนเรือนร่างโป๊เปลือยสุดสยิว แต่ PornHub ยังเป็นอุตสาหกรรมสื่อลามกขนาดใหญ่ที่ผู้ชายเราต้องเสียน้ำให้กับมันแทบทุกครั้งที่เข้าดู ต่อให้หลากหลายกลุ่มธุรกิจจะพบวิกฤตหรือการเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน แต่เว็บไซต์สื่อลามกแห่งนี้ยังคงยืนหยัดอยู่ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างแข็งแกร่ง ตราบเท่าที่เรื่อง ‘เซ็กซ์’ ยังตื่นเต้นเร้าใจและเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับชีวิตคน แม้ในปัจจุบันกระแสรักษ์โลกจะมาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่หากชำเลืองไปตามชายหาด ท้องทะเล หรือมหาสมุทรบางแห่ง ก็อดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา เมื่อได้เห็นสิ่งปฏิกูลวางกลาดเกลื่อนอยู่เต็มชายหาดมากพอ ๆ กับเม็ดทราย โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่นอกจากจะย่อยสลายยากแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ PornHub จึงจัดแคมเปญ The Dirtiest Porn Ever ถ่ายทำภาพยนตร์ผู้ใหญ่บนชายหาดของทะเลแคริบเบียน ที่เต็มไปด้วยขยะพลาสติกจากน้ำมือของมนุษย์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ทำลายฉากรักที่งดงามของหนังโป๊ได้อย่างไรบ้าง จุดประสงค์ของแคมเปญนี้คือสร้างขึ้นเพื่อหาเงินและมีเป้าหมายจะชำระล้างขยะพลาสติกตามชายหาดให้สิ้นซาก ทันทีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกสู่สายตาสาธารณชนทาง PornHub จะบริจาคเงินและรายได้ทั้งหมดให้กับ Ocean Polymers องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เสาะหาวิธีกำจัดและแปรรูปขยะพลาสติกในมหาสมุทรอย่างยั่งยืน ภาพยนตร์สุดเสียวเรื่องนี้ได้คู่รักมือสมัครเล่นอย่าง Leolulu ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเว็บไซต์มาเป็นนักแสดงนำ เดินเรื่องด้วยเพศสัมพันธ์ร้อนฉ่ากลางชายหาด ทั้งคู่ดื่มด่ำและกลืนกินร่างกายกันและกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยขยะสกปรก ในขณะที่พวกเขากำลังร่วมรักกันอย่างดูดดื่ม ก็จะมีกองขยะมหึมาเข้ามาบดบัง ทำให้ผู้ชมไม่อาจมองเห็นเรือนร่างกำยำและบอบบางของทั้งคู่ในขณะเปลื้องผ้าได้อย่างแจ่มชัด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สวมชุดหมีของ PornHub เดินเข้ามาทำความสะอาดพื้นที่และกำจัดขยะโดยรอบ ภาพของสองเรือนร่างโป๊เปลือยและลีลาร้อนแรงที่เคยถูกบด

  • World
    By: Chaipohn August 27, 2019
    หล่อ รวย รักษ์โลก LEONARDO DICAPRIO อัดฉีดกว่า 160 ล้านบาท ช่วยหยุดไฟป่า AMAZON

    เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่เราเห็นข่าวไฟไหม้ป่า Amazon มานานกว่า 2 สัปดาห์เต็ม โดยที่ไม่มีมหาเศรษฐีหรือ Celebrity เข้ามามีส่วนช่วยเหมือนเหตุการณ์ไฟไหม้อื่น ๆ ที่ผ่านมา ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นเหตุการณ์ Notre Dame Cathedral ในฝรั่งเศสเมื่อช่วยเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีอภิมหาเศรษฐียื่นมือและเงินเข้าช่วยซ่อมแซมเป็นจำนวนกว่า $500 million (แม้หลายสื่อจะบอกว่าเป็น PR Stunt ที่ได้เห็นเงินจริงน้อยกว่านั้นมากก็ตาม) แต่สำหรับกรณีไฟไหม้ป่า Amazon ซึ่งเป็นปอดของโลก มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากอาศัยอยู่ในนั้น และมันยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่แม้จะมีเงินมากแค่ไหนก็ตาม แต่เรากลับไม่เห็นใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหตุการณ์นี้แม้แต่คนเดียว ไม่ต้องพูดถึง Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีคนที่ 38 ของบราซิล ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของไฟป่าครั้งนี้อย่างที่ควรจะเป็น ถึงกับเคยให้สัมภาษณ์ว่า “มันไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด” หรือเหตุผลบ้า ๆ ว่า “เป็นการกระทำเพื่อทำลายรัฐบาล”  แม้ประธานาธิบดีจะคิดแบบนั้น แต่พระเอกรูปหล่อขวัญใจชาวโลกอย่าง Leonardo DiCaprio น่าจะเป็นคนแรกที่ทนกับเหตุการณ์นี้ไม่ไหว ล่าสุดได้จัดตั้งกองทุนไม่แสวงหาผลกำไรที่ชื่อ ‘Earth Alliance’ ร่วมกับ Laurene Powell Jobs (ภรรยาม่ายของ Steve Jobs) และ Brian

  • TECH
    By: unlockmen August 26, 2019
    ดื่มกาแฟฟรีจาก FACEBOOK กัน! FACEBOOK เปิดคาเฟ่ป๊อปอัปเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

    แม้ความเป็นส่วนตัวจะเป็นเอกสิทธิ์สำหรับใครคนใดคนหนึ่งในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่เมื่อไรที่คุณย่างก้าวสู่โลกดิจิทัลและใช้ชีวิตผูกโยงกับโซเชียลมีเดีย ‘ความเป็นส่วนตัว’ และ ‘ความเป็นสาธารณะ’ อาจมีเพียงเส้นบาง ๆ คั่นกลางเท่านั้น แล้วประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้ก็เคยเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งอย่าง ‘Facebook’ จนเมื่อปีก่อนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO ต้องออกมาขอโทษผ่านหนังสือพิมพ์ 9 ฉบับ ว่าด้วยเรื่องการปล่อยให้มีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกราว 50 ล้านคนอย่างไม่เหมาะสม มีข่าวลือว่า Cambridge Analytica คือบริษัทหัวหอกผู้ซื้อข้อมูลส่วนตัวจาก Facebook เพื่อเอื้อประโยชน์ให้โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทันทีที่ข่าวนี้ถึงหูประชาชนคนอเมริกัน ความน่าเชื่อถือทั้งหมดของ Facebook ก็ถูกถ่ายโอนไปยัง Amazon และ Google แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ได้ทำลายความเชื่อถือของแอปพลิเคชันยอดนิยมของคนทั้งโลกไปอย่างสิ้นซาก หลังจากที่โดนกระแสโจมตีเรื่องการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Facebook ก็ทนพัฒนาและปรับปรุงระบบการใช้ท่ามกลางข้อครหามาร่วมปี แล้วตอนนี้ทาง Facebook ก็ออกแคมเปญเรียกคืนความน่าเชื่อถืออีกครั้ง ด้วยการเปิดคาเฟ่ป๊อปอัปเพื่อตรวจสอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้ คาเฟ่ป๊อปอัปจะถูกสร้างขึ้นในร้านกาแฟ 5 แห่งทั่วเกาะอังกฤษ ทั้งร้าน The Attendant ใน London, ร้าน Takk ใน Manchester,

  • Girls
    By: unlockmen August 22, 2019
    NO BRA: เสื้อในของเธอ แต่หนักหัวของใคร “คุณคิดอย่างไรถ้าผู้หญิงไม่ใส่ยกทรง?”

    ในวันธรรมดาสามัญวันหนึ่ง เราอาจเดินสวนกับมนุษย์ผู้หญิงสิบคน ร้อยคน พันคน หรือหลายพันคน บางวันเรากลับบ้านไปเพื่อระลึกว่าจำใครไม่ได้สักคน บางวันอาจมีสักคนที่โดดเด่นออกมาด้วยเสื้อผ้า ด้วยทรงผม ด้วยบุคลิกจนเราต้องเหลียวหลังมองและจดจำเธอไว้ แต่หากมีผู้หญิงสักคน สักคนที่ “NO BRA” เดินสวนเราไป โดยอัตโนมัติ โดยสัญชาตญาณ เราจะประหลาดใจ เราจะฉงนฉงาย เราจะเกิดคำถามมากมายในหัว หรือถึงขั้นจ้องมองอย่างไม่เจตนา (หรือเจตนา) เราจะจำเธอไว้ ในฐานะความแปลกปลอม ความไม่คุ้นเคย ความไม่เข้าพวก หรือถึงขั้นมองว่าเธอละเมิดกฎเกณฑ์อันดีงามของสังคม ทำไม? ทำไมเราถึงตื่นตระหนกกับการที่ผู้หญิง No Bra ไม่สวมยกทรง ไม่ใส่เสื้อในได้ถึงขนาดนั้น? เราอาจไม่เคยถามคำถามนี้กับตัวเอง เพราะเราดันเกิดมาในยุคที่ผู้หญิงใส่เสื้อชั้นในเป็นเรื่องปกติ และผู้หญิงต้องเขินอาย ถ้าไม่ใส่มัน แต่ในวันที่โลกหมุนไป หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงเริ่มกลับมาไม่ใส่เสื้อในอีกครั้ง UNLOCKMEN ชวนตั้งคำถามและสำรวจความเห็นไปพร้อม ๆ กันว่า “คุณคิดอย่างไรถ้าผู้หญิงไม่ใส่ยกทรง?” FREE THE NIPPLE! แม้ขบวนการสตรีนิยมในหลายประเทศจะพูดถึงสิทธิเสรีภาพเหนือเรือนร่างของผู้หญิงมาโดยตลอด จนถึงขั้นมีแคมเปญ Free the Nipple ที่พยายามบอกว่า “ที่หัวนมของพวกเรามันดูโป๊ ก็เพราะมีคนบอกว่ามันมีความหมายทางเพศไงล่ะ!?” แต่ถ้าพวกเราเปิดเปลือยให้เห็นเป็นปกติ

  • World
    By: unlockmen August 21, 2019
    THE PROFILES: EDMUND KEMPER อัจฉริยะผู้หลงใหลความตาย ชายวิปริตที่ฆ่าคนโดยไม่รู้สึกผิด

    สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์หรือชื่นชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวนคงไม่พลาดดู Mindhunter จาก Netflix ผลงานของผู้กำกับ David Fincher ที่หลงใหลในเรื่องราวของเหล่าฆาตกร และต้องการเจาะลึกถึงความคิด ความรู้สึกในการสังหารคนว่าในช่วงเวลานั้นเขาคิดอะไร สภาพแวดล้อมหล่อหลอมให้กลายเป็นคนชั่วหรือทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะจิตใจที่ดำมืดอยู่แล้ว ซีรีส์เรื่อง Mindhunter จำลองการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ FBI กับผู้ต้องหาคดีหนักในยุค 70 เนื้อหาของบทสนทนาจะเล่าถึงการก่อเหตุในแต่ละครั้ง เพื่อทำความเข้าใจวิธีคิดของฆาตกรโรคจิตและหาทางยับยั้งการเกิดเหตุน่าสลดในภายภาคหน้า หรือสำหรับบางคดีที่ฆาตกรยังไม่ยอมบอกว่าฝังศพของเหยื่อไว้ที่ไหนบ้าง พวกเขาจะต้องพูดคุยเพื่อไขคดีไปพร้อมกัน ด้วยเรื่องราวที่หนักหน่วงของ Mindhunter ทำให้ UNLOCKMEN สนใจหยิบเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งนาม Edmund Kemper มาเล่าสู่กันฟังว่าชายคนนี้เพี้ยนจนกู่ไม่กลับและสร้างความสะพรึงกลัวให้กับสังคมได้มากน้อยแค่ไหน   เด็กหนุ่มกับพฤติกรรมวิกลจริต เด็กชายเคมเปอร์เติบโตในรัฐแคลิฟอร์เนียร์ ท่ามกลางครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พ่อแม่ของเขามีปากเสียงกันแทบจะตลอดเวลา สุดท้ายทั้งสองคนหย่าร้างและส่งลูกชายของตัวเองไปอยู่กับตายาย ความประหลาดในตัวเขาเริ่มแสดงออกผ่านพฤติกรรม เขาชอบเล่นเป็นนักโทษประหารกับน้องสาว โดยแบ่งกันเลือกว่าจะตายด้วยวิธีไหนทั้งเก้าอี้ไฟฟ้า หรือโดนรมควันในห้องแก๊ส  เมื่ออายุ 10 ขวบ เด็กชายฆ่าแมวและฝังไว้ในสวนข้างบ้าน เวลาผ่านไปก็ฆ่าแมวอีกหนึ่งตัวเพราะเห็นว่าน้องสาวของเขาชอบมันมากเกิน แถมยังเก็บซากแมวไว้ในตู้จนสุดท้ายแม่ก็มาเจอซากศพแมวที่ส่งกลิ่นชวนคลื่นไส้ เด็กชายเคมเปอร์มีความสุขกับการฆ่า สนใจใคร่รู้ในเรื่องพิธีกรรมลี้ลับ เขาเคยเอาตุ๊กตาของน้องสาวมาทำพิธีบางอย่างด้วยการตัดหัวตุ๊กตา รวมถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างเขากับพี่สาวอีกคนว่าทำไมไม่ลองจูบครูของตัวเองดูล่ะ และเธอก็ได้คำตอบที่ชวนตกใจจากน้องชายว่า “ถ้าผมจะจูบเธอ ผมต้องฆ่าเธอก่อน”  นอกจากนี้แม่ขี้เมาของเขาอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เด็กชายโตมาเป็นคนวิกลจริต คุณนายเคมเปอร์เลี้ยงเขามาด้วยความลำเอียง ชอบพูดถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามใส่ ไล่ให้เขาไปนอนในห้องใต้ดินเพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายน้องสาวของตัวเอง ไม่ยอมกอดลูกชายเพราะการกอดจะเปลี่ยนให้เขาเป็นเกย์ และในที่สุดเวลาที่เขาก่อคดีฆาตกรรมก็มาถึง

« Previous 1 … 26 27 28 29 30 … 102 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    CARS
    JDM: CODE RARE – Skyline GT-R Autech Version 40th Anniversary (1998: BCNR33)
  • 2
    CARS
    Porsche 911 Carrera Coupe Reimagined by Singer แรงบันดาลใจจากตำนานสุดแรร์​ 911 SSE
  • 3
    Business
    Betterment Series: Hyperdrive Mind – อาการ ADHD มีดีมากกว่าแค่สมาธิสั้นถ้ารู้วิธีรับมือ
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

THE REAL EP 1 : Tamaryn Cooper
Unlockmen Channel
18,294

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.