กระแสข่าวแรงมาก สำหรับ ราล์ฟ รังนิก ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกีฬาและพัฒนาของ โลโคโมทีฟ มอสโคว ทีมดังจากประเทศรัสเซีย ที่ ณ ตอนนี้มีหลายแหล่งข่าวฟันธงว่าเจ้าตัวตกลงเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงสิ้นฤดูกาล พร้อมกับรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของสโมสรหลังจบฤดูกาล รังนิก สร้างชื่อของตัวเองมากที่สุดในตอนที่คุมทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ถึงแม้ว่าตัวผู้เล่นจะไม่ได้มีชื่อเสียงระดับเวิร์ลคลาส แต่ด้วยแทคติกอันเฉียบคมทำให้ไลป์ซิกก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของบุนเดสลีกา แถมยังวางรากฐานที่สำคัญไว้ให้กับทีมอีกด้วย นอกจากนั้นรังนิกยังเคยพาชาลเก้ 04 คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพลคา เมื่อฤดูกาล 2010-2011 มาแล้วด้วยเช่นกัน รังนิกเองก็ได้รับการยอมรับและยกย่องฝีมือการคุมทีมและบริหารทีมจากวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก แล้วอะไรคือจุดเด่นแทคติกของรังนิกที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้แต่ Jurgen Klopp ยังต้องเอ่ยปากว่า การมาของ Ralf Rangnick เป็นข่าวร้ายสำหรับทีมคู่แข่ง เรามาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันครับ เจ้าพ่อแห่งการเพรสซิ่งหนักมาก จุดเด่นของรังนิกคือการ Counter Pressing ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและหวังผลได้ ทันทีที่เสียบอลในแดนของคู่ต่อสู้ ลูกทีมของเขาตั้งแต่แนวรุกจนถึงแนวรับจะขยับไล่บีบให้คู่ต่อสู้เข้ามาอยู่ในนวงล้อมสี่เหลี่ยมโดยไม่ทันตั้งตัว แนวรับจะดันสูงขึ้นมาจนเกือบถึงบริเวณครึ่งสนาม หลังจากนั้นก็จะหาจังหวะดักแย่งบอลกลับคืนมาให้ไวที่สุด แทคติกที่ใช้นี้เป็นที่นิยมของฟุตบอลเยอรมันสมัยใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ “Gegenpressing” ซึ่ง เยอร์เกน คลอปป์,
“และแล้วก็ถึงเวลา และแล้วเธอก็ต้องไป” ท่อนร้องจากเพลง “เกิดมาแค่รักกัน” ของวง Big Ass ดังขึ้นมาในหัวทันทีหลังจากที่ทราบข่าวการถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เป็นการเซ่นผลงานอันย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา 12 นัด แพ้ไปถึง 5 นัด ซึ่งฟางเส้นสุดท้ายของบอร์ดบริหารเกิดขึ้นในนัดที่แพ้วัตฟอร์ดไป 4-1 จริงอยู่ที่บรรดาแฟนบอลปีศาจแดงต่างต้องการให้โซลชาร์ลงจากตำแหน่งมาซักพักแล้ว แต่พอจากไปจริง ๆ กลับรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งมันอาจจะมาจากทั้งความรักและความผูกพันตั้งแต่สมัยที่โซลชาร์ยังเป็นนักเตะในฐานะตำนานของสโมสรกับบทบาทซุปเปอร์ซับฉายา “เพชรฆาตหน้าทารก” เป็นนักเตะที่ไม่เคยปริปากบ่นแม้จะลงเล่นในตำแหน่งตัวสำรองเป็นประจำก็ตาม แต่ลงมาทีไรก็สามารถสร้างสถานการณ์ที่ช่วยให้ปีศาจแดงกลับมาได้เปรียบอยู่เสมอ ในเมื่อโซลชาร์จากไปแล้ว ความขุ่นเคืองในใจของแฟนบอลก็ค่อย ๆ ลดลงตามไปด้วย และเพื่อเป็นการให้เกียรติความจงรักภักดีและความทุ่มเทของโซลชาร์ เราขอพาย้อนความทรงจำอันสวยงามกับ 5 แมตช์ยอดเยี่ยมของแมนยูไนเต็ดในยุคโซลชาร์ คาร์ดิฟ ซิตี้ 1-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/2019 : วันที่ 23 ธันวาคม 2018) หลังจากที่โชเซ่ มูริญโญ่ ถูกปลดจากตำแหน่ง โซลชาร์ก็เข้ามารับหน้าที่ต่อในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว และสามารถสร้างความประทับใจให้แฟนบอลได้ทันทีด้วยการบุกไปประเทศเวลส์ถล่มคาร์ดิฟ ซิตี้
ช่วงเวลานี้คงไม่มีข่าวไหนสะเทือนใจและช็อคใจเท่ากับเหตุการณ์การเหยียบกันตายในงานเทศกาลดนตรี Astroworld Festival ในช่วงเวลาที่ Travis Scott กำลังโชว์อย่างเมามันส์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตถึง 10 ราย และบาดเจ็บไปอีกเป็นจำนวนมาก สังเวยความหละหลวมของทีมงานและนำไปสู่การสอบสวน และทำให้ Travis Scott ตกเป็นจำเลยของสังคมในทันที แต่เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่คอนเสิร์ตครั้งแรกที่เกิดโศกนาฏกรรมอันแสนโหดร้าย เรามาย้อนดูกันว่า เกิดเหตุสลดอะไรบ้างที่ทำให้งานคอนเสิร์ตกลายเป็นฝันร้ายเพียงชั่วข้ามคืน เรามาไล่ระดับจากการเสียชีวิตหลักสิบสู่หลักร้อยว่าสาเหตุสำคัญของโศกนาฏกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นจากอะไร 10. Roskilde Festival June 30, 2000 — Roskilde, Denmark ผู้เสียชีวิต: 9 ราย สาเหตุ: เหยียบกันตาย ความเมามันในเทศกาลดนตรีชื่อดังของประเทศเดนมาร์ค Roskilde Festival กลับกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของผู้ชมทั้ง 9 คน หลังจากที่วงเฮดไลน์อย่าง Lou Reed, Iron Maiden และ Oasis ได้เล่นเสร็จสิ้นไปแล้ว ก็ถึงเวลาของราชากรันจ์ในตำนานอย่าง Pearl Jam ขึ้นวาดลวดลายบนเวที Orange Stage
ในช่วงเวลานี้ วงการหนังคงไม่มีอะไรคึกคักเท่ากับหนังไทย “ร่างทรง” ที่สร้างความหลอนจนทำรายได้และสร้างกระแสทั้งในจอและนอกจอ แม้กระทั่งมีหนังที่หลุดในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนกระแสของหนังเรื่องนี้ให้จืดจางลงได้เลย ซ้ำยังมีผู้ที่พร้อมไปพิสูจน์ความหลอนด้วยตาตัวเองในโรงอย่างแน่นขนัด แต่ท่ามกลางความสำเร็จระดับโลกนั้น ก็แลกด้วยข้อถกเถียงกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะรูปแบบที่หนังพยายามนำเสนอในรูปแบบหนังสารคดี จนส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาเป็น “หนังเสียงแตก” อย่างชัดเจน คือถ้าชอบจะชอบมาก แต่ถ้าไม่ชอบก็พาลเกลียดไปเลย โดยเฉพาะการถ่ายทำในรูปแบบของสารคดีนั้น แม้จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในโลกภาพยนตร์ แต่ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับหนังไทย เราจึงชวนคุณมาทำความรู้จักกับหนังแนวนี้ มาดูกันว่าทำไมนักสร้างหนังหลายคนถึงเลือกที่จะทำในแนวทาง Mockumentary และคำ ๆ นี้แปลว่าอะไรกันแน่ Mockumentary ความไม่จริง สะท้อนความจริงอย่างชัดแจ้ง หนังสารคดี หรือ Documentary นั้น มักถูกใช้สะท้อนภาพความจริง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์หรือบุคคลนั้น ๆ เพื่อใช้โน้มน้าวหรือสร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกได้ หรือการบอกเล่าจากปากผู้ประสบเหตุนั้นมา สารคดีส่วนใหญ่จึงทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนที่มุ่งหวังหรือตั้งคำถามต่อสิ่ง ๆ นั้นโดยใช้ “ความจริง” เพื่อเป็นสิ่งประจักษ์แก่ผู้รับสาสน์ ในขณะเดียวกัน ยาขมของ Documentary ก็ทำให้คนบางคนรู้สึกเบื่อ เมื่อภาพจริงในบางครั้งก็ไม่อาจนำพาอารมณ์ให้ตื่นเต้นจนคนคล้อยตามได้ หนังสารคดีบางส่วนจึงจำต้องสร้างฉากบางฉาก ซีนบางซีน เพื่อสอดรับกับสิ่งที่นำเสนอ เช่นการสัมภาษณ์ของผู้ให้สัมภาษณ์อาจจะน่าเบื่อจนเกินไป หรือบางเหตุการณ์ที่กล้องจับภาพไม่ทัน การใส่สีสันไม่ว่าจะเป็นภาพที่ถ่ายใหม่เพื่อจำลองเหตุการณ์จริงที่กล้องไม่ทันได้ถ่าย เพื่อทำให้เหตุการณ์นั้น ๆ
นักเตะที่เก่งกาจ อาจจะไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่เก่งกาจข้างสนาม คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่ไม่เกินเลยความจริง มีนักเตะระดับตำนานหลาย ๆ คนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่ากับตำแหน่งนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยสมองอันปราดเปรื่องจนสามารถประสบความสำเร็จในตำแหน่งผู้จัดการทีมได้ หนึ่งในนั้นคือ “อันโตนิโอ คอนเต้” แม้จะประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะกับทีมยูเวนตุสอย่างยิ่งใหญ่ พาทีมกวาดแชมป์ได้ถึง 14 รายการตลอดระยะเวลาที่รับใช้ทีมม้าลาย 13 ปีเต็ม ๆ แต่เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมของคอนเต้กลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะมันเลวร้ายย่ำแย่ถึงขนาดทำทีมตกชั้นก็เคยมาแล้ว แต่ทุกอุปสรรคทุกย่างก้าว ล้วนเป็นประสบการณ์ให้คอนเต้ได้ขัดเกลาฝีมือของตัวเองให้กลายมาเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ในโลกของฟุตบอล ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น คอนเต้ได้รับโอกาสชิมลางในการเป็นผู้จัดการทีมด้วยตำแหน่งผู้ช่วยกับทีมเซียน่าในฤดูกาล 2005-2006 ซึ่งเขาทำงานร่วมกับ ลุยจิ ดิ คานิโอ ที่เป็นเฮดโค้ช ณ เวลานั้น แต่การเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมของคอนเต้กลับมาไวเกินคาด ในเดือนกรกฎาคมปี 2006 เขาได้รับโอกาสคุมทีมอเรซโซ่ ในซีเรียบี แต่การเริ่มต้นกลับต้องเจอความล้มเหลวอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาใช้เวลาคุมทีมเพียงแค่ 3 เดือนอก็ถูกไล่ออกจากผลงานทำทีมชนะได้เพียง 1 นัดจาก 12 เกมส์ แม้สุดท้าย อเรซโซ่ จะตัดสินใจดึงคอนเต้กลับมาคุมทีมอีกครั้งเพื่อกู้วิกฤติหนีตายจากโซนตกชั้น แต่เรื่องจริงก็ไม่เหมือนนิยาย เพราะคอนเต้ทำภารกิจไม่สำเร็จ ทีมของเขาต้องหล่นไปสู่ซีเรียซี 1 (ระดับดิวิชั่น 3) นับเป็นการเริ่มต้นที่น่าวิตกกังวลมากเลยทีเดียว ความสำเร็จแรกในฐานะผู้จัดการทีม
ในยุคสมัยที่ความทันสมัยและความคมชัดของการดูหนังเป็นเรื่องที่แสนสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังผ่านสตริมมิงชื่อดังอย่าง Netflix ที่มีความคมชัดระดับ 4K แต่คนกลุ่มหนึ่งกำลังกำลังถวิลหาความสุขผ่านการเสพภาพยนตร์จากม้วนวีดีโอเทป สื่อในอดีตที่คมชัดเพียงระดับหนึ่ง แถมมีความยุ่งยากพอสมควรทั้งในการค้นหาซีนเวลาที่ต้องการ การดูแลรักษาไม่ให้เนื้อเทปเสียหาย รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่หาได้ยากยิ่ง แต่เพราะอะไรหลายคนกลับคิดถึง Home Entertainment ชิ้นนี้ และชุมชนคนดูหนังในแบบจับต้องได้กำลังค่อย ๆ ขยับขยายเพิ่มขึ้นทั้งคนเกิดทัน และในหมู่คนรุ่นใหม่ มาทำความรู้จักกลุ่มๆนี้ Free Blockbuster ตู้ปันสุขสำหรับคนที่ชอบเสพย์ความบันเทิงในแบบ Old School VHS สื่อบันเทิงทันสมัยในยุคเทคโนโลยีค่อยๆเบ่งบาน ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970s โลกเริ่มทันสมัยรุดหน้าไปเรื่อยๆ สื่อบันเทิงก็เช่นกัน มีความพยายามที่จะทำสื่อพกพาเพื่อความสะดวกสบายและเม็ดเงินที่จะสะพัดตามมา โดยเฉพาะสื่อภาพยนตร์ หลังจากที่สื่อโทรทัศน์เริ่มแพร่หลาย และมีคนคิดค้นฟิล์ม Super 8 ขนาด 8 มิลลิเมตรเพื่อชมกันในครัวเรือนในยุค 60s แต่มันก็เทอะทะและยังเป็นเครื่องเล่นที่ราคาสูงจนเกินไป บริษัทญี่ปุ่นสองแห่ง Sony และ JVC ได้คิดค้น VCR (Video Cassette Recorders) เพื่อรองรับความสะดวกสบายทั้งการบันทึกภาพและการดู โดยทั้ง 2 บริษัทต่างพยายามกันแข่งกันค้นคว้าและทดลอง จนในที่สุด
ยังคงเป็นกระแสที่ Hype ไม่เลิก สำหรับซีรีส์ที่จุดกระแสมากมายในระดับที่คนทั้งโลกต้องดู สำหรับ Squid Game ซีรีส์สุดฮิตสัญชาติเกาหลี ที่พาให้ Netflix กลับไปขึ้นแท่นสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของโลกไปได้อย่างขาดลอย พร้อมทั้งแจ้งเกิดนักแสดงและทีมงานทุกคน สร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี จนกลายเป็น Soft Power ที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงการสร้าง Pop Culture ที่ Hype ทั้งแฟชั่นชุดวอร์มสีเขียวติดเบอร์ รองเท้า Vans สีขาว ไปจนถึงชุดยูนิฟอร์มของผู้คุมในซีรีส์ที่กระหึ่มงานเทศกาลฮาโลวีนทั่วโลกแน่ๆ แม้ว่าซีรีส์จะปล่อยใน Netflix มานานพอสมควรแล้ว แต่กระแสยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วเลย เหล้าเก่าในขวดใหม่ ใส่ประเด็นสังคมเข้มข้น Squid Game ซีรีส์สุดฮิตระดับ Mega Trend ที่ทำให้ Korean Wave หรือ Hallyu กลับมาเป็นกระแสทั่วโลกอีกครั้ง หลังจาก Parasite ทำให้วงการหนังเป็นที่พูดถึงในฐานะหนังภาษาต่างประเทศ 100% เรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ BTS สามารถนำ K-Pop
ต้องยอมรับว่าวงการฟุตบอลญี่ปุ่นพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาก การเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวนิปปอนไปแล้ว มีการส่งออกนักเตะไปอยู่กับลีกชั้นนำของยุโรปมากมายตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น คาซูโยชิ มิอูระ (คิงคาซู), ฮิเดโตชิ นากาตะ, ชินอิจิ โอโนะ, ชุนซูเกะ นากามูระ, ชินจิ คากาวะ และล่าสุดกับเคียวโกะ ฟุรุฮาชิ ที่ตัดสินใจก้าวเดินออกจากเจลีกมาลุยดินแดนวิสกี้ สกอตติช พรีเมียร์ลีก ฟุรุฮาชิ เล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีก เฉิดฉายฝีเท้ากับทีมวิสเซล โกเบ อยู่ถึง 4 ปีเต็ม ๆ นับตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปี 2021 สั่งสมประสบการณ์ทั้งการเล่นในสนาม รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมระดับเวิร์ลคลาส อย่าง อันเดรียส อิเนียสต้า อดีตกองกลางระดับเทพจากบาร์เซโลน่า, ลูคัส โพโดลสกี้ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี, โธมัส แฟร์มาเลน อดีตกลองหลังทีมอาร์เซนอลและบาร์เซโลน่า รวมไปถึง ธีราธร บุญาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งทีมชาติไทย สไตล์ของฟุรุฮาชิ น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็ว การสปรินต์ของเขาสามารถฉีกแนวรับคู่แข่งได้เป็นประจำ, การจับบอลที่ดูเนียนตา, การหาพื้นที่จบสกอร์ที่เฉียบคมและเยือกเย็น สามารถทำได้ดีทั้งในและนอกกรอบเขตโทษ
ดูเหมือนว่าชะตาของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคงยืดออกไปอีกเล็กน้อย หลังผลงานการเอาชนะ Tottenham Hotspur ในนัดสำคัญไปถึง 3-0 นัดวัดใจว่า Ole จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่แม้จะผ่านมาได้หนึ่งนัด ก็ยังคงอยู่ในความเสี่ยงหากมีการแพ้ต่อเนื่องเกิดขึ้นให้แฟนบอลและสโมสรต้องผิดหวังอีก ด้วยเหตุนี้สื่อหลาย ๆ เจ้าจึงหันไปจับประเด็นเกี่ยวกับว่าใครจะมารับเผือกร้อนต่อจากกุนซือชาวนอร์เวย์ และนี่คือรายชื่อผู้จัดการทีมทั้ง 5 คนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรหามางานงานต่อจากโซลชาร์ 1. อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียนผู้นี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากคอนเต้ยังคงว่างงานและมีโปรไฟล์การทำทีมที่ยอดเยี่ยม การันตีถ้วยแชมป์ลีกมามากมายทั้งจากยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และเชลซี คอนเต้มีรูปแบบแผนการเล่นที่ชัดเจนโดยเฉพาะ 3-5-2 ที่เหมือนเป็นสูตรประจำตัวไปแล้ว นอกจากนั้นกระแสข่าวยังโหมมาทางคอนเต้ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามความน่ากังวลใจที่สุดคือเรื่องการมีปัญหากับนักเตะภายในทีม รวมถึงปัญหากับบอร์ดบริหารที่เข้ามาล่วงเกินงานของเขา แต่เรื่องดังกล่าวดูจะเป็นเรื่องเล็กไปเลยหากแลกกับการได้กลับมาเป็นแชมป์ในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แถมคอนเต้จะยังได้กลับมาร่วมงานกับปอล ป็อกบา อีกครั้ง 2. ซีเนดีน ซีดาน ความสำเร็จกับเรอัล มาดริด โดยเฉพาะถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, บารมีของนักเตะเวิร์ลคลาสระดับตำนาน, ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกนักเตะ ทุกสิ่งที่เหมาะเจาะและดูเพอร์เฟคที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หากจะให้พูดถึงผู้รักษาประตูที่มีฟอร์มการเล่นร้อนแรงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ คงต้องยกให้ Edouard Mendy จากเชลซี และทีมชาติเซเนกัล จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแนวรับของทีมสิงห์บลูส์ที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา แต่กว่าที่ Mendy จะก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารระดับโลก ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่ก็ยังไม่สายเกินไปสำหรับคนที่ไม่ยอมละทิ้งความฝัน เขาใช้เวลา 6 ปีที่ผ่านพ้นช่วงเกือบจะถอดใจกับวงการฟุตบอลจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกได้น่าอัศจรรย์ “เมื่อไหร่ที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ มันทำให้ผมได้ตระหนักถึงเส้นทางในอาชีพของผม มันคือความจริงที่ว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก! ผู้คนชอบพูดว่าการทำงานหนักจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และมันก็จริง ผมทำงานหนักมาก ๆ ผมยอมรับในเรื่องนี้ ผมเคยอยู่ที่มาร์กเซย, แร็งส์, แรนส์ และตอนนี้คือเชลซี มันมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเติบโตขึ้นไปอีกขึ้นครับ” Edouard Mendy ให้สัมภาษณ์กับสโมสรเชลซีไว้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2020 จุดเริ่มต้นที่เกือบกลายเป็นจุดจบ Mendy เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมเยาวชน เลอ อาฟร์ ด้วยวัย 13 ปี ก่อนจะย้ายไปสโมสร ซีเอส มูนิซิปัล เลอ อาฟ และย้ายเข้าสู่ทีมฟุตบอลระดับซีเนียร์กับทีมเฌอบัว ในปี 2011 ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในลีก The Championnat National