นักเตะที่เก่งกาจ อาจจะไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่เก่งกาจข้างสนาม คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่ไม่เกินเลยความจริง มีนักเตะระดับตำนานหลาย ๆ คนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่ากับตำแหน่งนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยสมองอันปราดเปรื่องจนสามารถประสบความสำเร็จในตำแหน่งผู้จัดการทีมได้ หนึ่งในนั้นคือ “อันโตนิโอ คอนเต้” แม้จะประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะกับทีมยูเวนตุสอย่างยิ่งใหญ่ พาทีมกวาดแชมป์ได้ถึง 14 รายการตลอดระยะเวลาที่รับใช้ทีมม้าลาย 13 ปีเต็ม ๆ แต่เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมของคอนเต้กลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะมันเลวร้ายย่ำแย่ถึงขนาดทำทีมตกชั้นก็เคยมาแล้ว แต่ทุกอุปสรรคทุกย่างก้าว ล้วนเป็นประสบการณ์ให้คอนเต้ได้ขัดเกลาฝีมือของตัวเองให้กลายมาเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ในโลกของฟุตบอล ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น คอนเต้ได้รับโอกาสชิมลางในการเป็นผู้จัดการทีมด้วยตำแหน่งผู้ช่วยกับทีมเซียน่าในฤดูกาล 2005-2006 ซึ่งเขาทำงานร่วมกับ ลุยจิ ดิ คานิโอ ที่เป็นเฮดโค้ช ณ เวลานั้น แต่การเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมของคอนเต้กลับมาไวเกินคาด ในเดือนกรกฎาคมปี 2006 เขาได้รับโอกาสคุมทีมอเรซโซ่ ในซีเรียบี แต่การเริ่มต้นกลับต้องเจอความล้มเหลวอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาใช้เวลาคุมทีมเพียงแค่ 3 เดือนอก็ถูกไล่ออกจากผลงานทำทีมชนะได้เพียง 1 นัดจาก 12 เกมส์ แม้สุดท้าย อเรซโซ่ จะตัดสินใจดึงคอนเต้กลับมาคุมทีมอีกครั้งเพื่อกู้วิกฤติหนีตายจากโซนตกชั้น แต่เรื่องจริงก็ไม่เหมือนนิยาย เพราะคอนเต้ทำภารกิจไม่สำเร็จ ทีมของเขาต้องหล่นไปสู่ซีเรียซี 1 (ระดับดิวิชั่น 3) นับเป็นการเริ่มต้นที่น่าวิตกกังวลมากเลยทีเดียว ความสำเร็จแรกในฐานะผู้จัดการทีม
ในยุคสมัยที่ความทันสมัยและความคมชัดของการดูหนังเป็นเรื่องที่แสนสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังผ่านสตริมมิงชื่อดังอย่าง Netflix ที่มีความคมชัดระดับ 4K แต่คนกลุ่มหนึ่งกำลังกำลังถวิลหาความสุขผ่านการเสพภาพยนตร์จากม้วนวีดีโอเทป สื่อในอดีตที่คมชัดเพียงระดับหนึ่ง แถมมีความยุ่งยากพอสมควรทั้งในการค้นหาซีนเวลาที่ต้องการ การดูแลรักษาไม่ให้เนื้อเทปเสียหาย รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่หาได้ยากยิ่ง แต่เพราะอะไรหลายคนกลับคิดถึง Home Entertainment ชิ้นนี้ และชุมชนคนดูหนังในแบบจับต้องได้กำลังค่อย ๆ ขยับขยายเพิ่มขึ้นทั้งคนเกิดทัน และในหมู่คนรุ่นใหม่ มาทำความรู้จักกลุ่มๆนี้ Free Blockbuster ตู้ปันสุขสำหรับคนที่ชอบเสพย์ความบันเทิงในแบบ Old School VHS สื่อบันเทิงทันสมัยในยุคเทคโนโลยีค่อยๆเบ่งบาน ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970s โลกเริ่มทันสมัยรุดหน้าไปเรื่อยๆ สื่อบันเทิงก็เช่นกัน มีความพยายามที่จะทำสื่อพกพาเพื่อความสะดวกสบายและเม็ดเงินที่จะสะพัดตามมา โดยเฉพาะสื่อภาพยนตร์ หลังจากที่สื่อโทรทัศน์เริ่มแพร่หลาย และมีคนคิดค้นฟิล์ม Super 8 ขนาด 8 มิลลิเมตรเพื่อชมกันในครัวเรือนในยุค 60s แต่มันก็เทอะทะและยังเป็นเครื่องเล่นที่ราคาสูงจนเกินไป บริษัทญี่ปุ่นสองแห่ง Sony และ JVC ได้คิดค้น VCR (Video Cassette Recorders) เพื่อรองรับความสะดวกสบายทั้งการบันทึกภาพและการดู โดยทั้ง 2 บริษัทต่างพยายามกันแข่งกันค้นคว้าและทดลอง จนในที่สุด
ยังคงเป็นกระแสที่ Hype ไม่เลิก สำหรับซีรีส์ที่จุดกระแสมากมายในระดับที่คนทั้งโลกต้องดู สำหรับ Squid Game ซีรีส์สุดฮิตสัญชาติเกาหลี ที่พาให้ Netflix กลับไปขึ้นแท่นสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของโลกไปได้อย่างขาดลอย พร้อมทั้งแจ้งเกิดนักแสดงและทีมงานทุกคน สร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี จนกลายเป็น Soft Power ที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงการสร้าง Pop Culture ที่ Hype ทั้งแฟชั่นชุดวอร์มสีเขียวติดเบอร์ รองเท้า Vans สีขาว ไปจนถึงชุดยูนิฟอร์มของผู้คุมในซีรีส์ที่กระหึ่มงานเทศกาลฮาโลวีนทั่วโลกแน่ๆ แม้ว่าซีรีส์จะปล่อยใน Netflix มานานพอสมควรแล้ว แต่กระแสยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วเลย เหล้าเก่าในขวดใหม่ ใส่ประเด็นสังคมเข้มข้น Squid Game ซีรีส์สุดฮิตระดับ Mega Trend ที่ทำให้ Korean Wave หรือ Hallyu กลับมาเป็นกระแสทั่วโลกอีกครั้ง หลังจาก Parasite ทำให้วงการหนังเป็นที่พูดถึงในฐานะหนังภาษาต่างประเทศ 100% เรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ BTS สามารถนำ K-Pop
ต้องยอมรับว่าวงการฟุตบอลญี่ปุ่นพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาก การเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวนิปปอนไปแล้ว มีการส่งออกนักเตะไปอยู่กับลีกชั้นนำของยุโรปมากมายตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น คาซูโยชิ มิอูระ (คิงคาซู), ฮิเดโตชิ นากาตะ, ชินอิจิ โอโนะ, ชุนซูเกะ นากามูระ, ชินจิ คากาวะ และล่าสุดกับเคียวโกะ ฟุรุฮาชิ ที่ตัดสินใจก้าวเดินออกจากเจลีกมาลุยดินแดนวิสกี้ สกอตติช พรีเมียร์ลีก ฟุรุฮาชิ เล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีก เฉิดฉายฝีเท้ากับทีมวิสเซล โกเบ อยู่ถึง 4 ปีเต็ม ๆ นับตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปี 2021 สั่งสมประสบการณ์ทั้งการเล่นในสนาม รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมระดับเวิร์ลคลาส อย่าง อันเดรียส อิเนียสต้า อดีตกองกลางระดับเทพจากบาร์เซโลน่า, ลูคัส โพโดลสกี้ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี, โธมัส แฟร์มาเลน อดีตกลองหลังทีมอาร์เซนอลและบาร์เซโลน่า รวมไปถึง ธีราธร บุญาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งทีมชาติไทย สไตล์ของฟุรุฮาชิ น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็ว การสปรินต์ของเขาสามารถฉีกแนวรับคู่แข่งได้เป็นประจำ, การจับบอลที่ดูเนียนตา, การหาพื้นที่จบสกอร์ที่เฉียบคมและเยือกเย็น สามารถทำได้ดีทั้งในและนอกกรอบเขตโทษ
ดูเหมือนว่าชะตาของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคงยืดออกไปอีกเล็กน้อย หลังผลงานการเอาชนะ Tottenham Hotspur ในนัดสำคัญไปถึง 3-0 นัดวัดใจว่า Ole จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่แม้จะผ่านมาได้หนึ่งนัด ก็ยังคงอยู่ในความเสี่ยงหากมีการแพ้ต่อเนื่องเกิดขึ้นให้แฟนบอลและสโมสรต้องผิดหวังอีก ด้วยเหตุนี้สื่อหลาย ๆ เจ้าจึงหันไปจับประเด็นเกี่ยวกับว่าใครจะมารับเผือกร้อนต่อจากกุนซือชาวนอร์เวย์ และนี่คือรายชื่อผู้จัดการทีมทั้ง 5 คนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรหามางานงานต่อจากโซลชาร์ 1. อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียนผู้นี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากคอนเต้ยังคงว่างงานและมีโปรไฟล์การทำทีมที่ยอดเยี่ยม การันตีถ้วยแชมป์ลีกมามากมายทั้งจากยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และเชลซี คอนเต้มีรูปแบบแผนการเล่นที่ชัดเจนโดยเฉพาะ 3-5-2 ที่เหมือนเป็นสูตรประจำตัวไปแล้ว นอกจากนั้นกระแสข่าวยังโหมมาทางคอนเต้ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามความน่ากังวลใจที่สุดคือเรื่องการมีปัญหากับนักเตะภายในทีม รวมถึงปัญหากับบอร์ดบริหารที่เข้ามาล่วงเกินงานของเขา แต่เรื่องดังกล่าวดูจะเป็นเรื่องเล็กไปเลยหากแลกกับการได้กลับมาเป็นแชมป์ในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แถมคอนเต้จะยังได้กลับมาร่วมงานกับปอล ป็อกบา อีกครั้ง 2. ซีเนดีน ซีดาน ความสำเร็จกับเรอัล มาดริด โดยเฉพาะถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, บารมีของนักเตะเวิร์ลคลาสระดับตำนาน, ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกนักเตะ ทุกสิ่งที่เหมาะเจาะและดูเพอร์เฟคที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หากจะให้พูดถึงผู้รักษาประตูที่มีฟอร์มการเล่นร้อนแรงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ คงต้องยกให้ Edouard Mendy จากเชลซี และทีมชาติเซเนกัล จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแนวรับของทีมสิงห์บลูส์ที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา แต่กว่าที่ Mendy จะก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารระดับโลก ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่ก็ยังไม่สายเกินไปสำหรับคนที่ไม่ยอมละทิ้งความฝัน เขาใช้เวลา 6 ปีที่ผ่านพ้นช่วงเกือบจะถอดใจกับวงการฟุตบอลจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกได้น่าอัศจรรย์ “เมื่อไหร่ที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ มันทำให้ผมได้ตระหนักถึงเส้นทางในอาชีพของผม มันคือความจริงที่ว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก! ผู้คนชอบพูดว่าการทำงานหนักจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และมันก็จริง ผมทำงานหนักมาก ๆ ผมยอมรับในเรื่องนี้ ผมเคยอยู่ที่มาร์กเซย, แร็งส์, แรนส์ และตอนนี้คือเชลซี มันมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเติบโตขึ้นไปอีกขึ้นครับ” Edouard Mendy ให้สัมภาษณ์กับสโมสรเชลซีไว้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2020 จุดเริ่มต้นที่เกือบกลายเป็นจุดจบ Mendy เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมเยาวชน เลอ อาฟร์ ด้วยวัย 13 ปี ก่อนจะย้ายไปสโมสร ซีเอส มูนิซิปัล เลอ อาฟ และย้ายเข้าสู่ทีมฟุตบอลระดับซีเนียร์กับทีมเฌอบัว ในปี 2011 ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในลีก The Championnat National
เป็นสัปดาห์ที่แสนสาหัสของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยแท้จริง กับการพ่ายแพ้คู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลในเกมแดงเดือดไปแบบเละเทะคาบ้านถึง 0-5 เป็นการพ่ายแพ้ทั้งสกอร์และรูปแบบแผนการเล่น บ่งบอกถึงความห่างชั้นของผู้จัดการทีมระหว่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์และเจอร์เกน คลอปป์ ได้เป็นอย่างดี ผลงานของโซลชาร์นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก 5 นัดหลังสุดเก็บได้เพียง 4 แต้มและแพ้ไปถึง 3 เกมส์ด้วยกัน ยิ่งพอมามองตัวผู้เล่นที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ ก็ยิ่งตอกย้ำผลงานอันน่าผิดหวังของผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ผู้นี้แบบสุด ๆ และสมควรเดินลงจากตำแหน่งนี้ได้แล้ว และนี่คือ 5 เหตุผลว่าทำไมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรปลดโซลชาร์ 1.แผนการเล่นที่จำเจ ปัญหาหลักของปีศาจแดงในฤดูกาลนี้คือแผนการเล่น จริงอยู่ว่าในฤดูกาลที่แล้วมันใช้ได้ผล จนสามารถพาทีมจบอันดับ 2 ในลีกและรองแชมป์ยูโรป้าลีก แต่ในฤดูกาลนี้รูปแบบแผนการเล่นของทีมยังคงไม่ต่างจากเดิม ทำให้ทีมคู่แข่งจับทางได้หมด ในหลาย ๆ ครั้งเมื่อเจอทีมที่ใช้เกมรับแนวลึกก็มักจะสร้างปัญหาในการเข้าทำของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ต้องเสียคะแนนที่ควรจะได้โดยใช่เหตุ และปัญหาดังกล่าวมันก็ยิ่งเด่นชัดกับการพ่ายแพ้ลิเวอร์พูล เมื่อแผนการเล่นสุดจำเจไม่สามารถสร้างปัญหาใด ๆ ให้กับทีมหงส์แดงได้เลยแม้แต่น้อย 2.ไม่มีกองกลางตัวรับธรรมชาติ กองหลังจะลดงานหนักหากมีกองกลางตัวรับดี ๆ ซักคนมาคอยสกรีน แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมโซลชาร์ถึงมั่นใจในการใช้คู่กลางเป็นสกอตต์ แมคโทมิเนย์ และ เฟร็ด ทั้ง ๆ ที่
แฟนบอลทีม Barcelona เพิ่งได้รับข่าวดีหลังจากดาวรุ่งอย่าง Ansu Fati จรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมยาวถึงปี 2027 พร้อมกับค่าฉีกสัญญาสูงถึง 1 พันล้านยูโร เป็นเครื่องหมายยืนยันฝีเท้าและอนาคตที่น่าจับตามองของเด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนนี้ได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด Fati ได้รับเสื้อหมายเลข 10 ต่อจากตำนานและสุดยอดนักเตะของโลก Leonel Messi ถือเป็นนักเตะ Barcelona คนที่ 8 ที่ได้สวมเบอร์ที่ยิ่งใหญ่นี้นับตั้งแต่ปี 1995 Cuellar (1995/96) Giovanni (1996-1999) Litmanen (1999/00) Rivaldo (2000-2002) Riquelme (2002/03) Ronaldinho (2003-2008) Leo Messi (2008-2021) Fati คืออีกหนึ่งผลผลิตจาก La Masia ทีมฟุตบอลเยาวชนของ Barcelona ได้สร้างสถิติ “The Youngest” เอาไว้มากมายตั้งแต่ย้ายมาจาก Sevilla เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ เขาได้ฝึกทักษะและเคล็ดลับจากทีมอยู่หลายปีจนได้เดบิวต์ใน
ยุคนี้ชื่อของ Ronaldo อาจทำให้หลายคนนึกถึง Cristiano Ronaldo กองหน้าชาวโปรตุเกสและสโมสร Manchester United แต่หากย้อนไปในความทรงจำของคอฟุตบอลในยุค 90’s ทุกคนจะต้องนึกถึง Ronaldo “R9” สุดยอดกองหน้าทีมชาติบราซิลเจ้าของฉายา “The Phenomenon” (ปรากฏการณ์) อย่างแน่นอน แม้ชื่อเสียงของ Ronaldo จะถูกยกย่องในวงการฟุตบอลไปทั่วโลก แต่อุปสรรคหลาย ๆ อย่างก็ทำให้เจ้าตัวต้องพบกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่เล่นงานจนทำให้เราไม่ได้เห็นฝีเท้าของเขาไปนานนับปี รวมไปถึงเรื่องของน้ำหนักตัวที่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวถึงต้องตัดสินใจยุติการค้าแข้งไวกว่าที่ใครคาดคิดเอาไว้ ทิ้งการเรียนมาลงถนนเพื่อเตะฟุตบอล Ronaldo Luis Nazario de Lima ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 1976 ณ กรุงริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ชีวิตของเขาผูกพันกับลูกฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดสำหรับคนบราซิล เพราะบางคนเกิดมาก็ได้รับของขวัญเป็นลูกฟุตบอลแล้ว รวมไปถึงคนส่วนใหญ่ในประเทศเชื่อว่ากีฬาชนิดนี้จะทำให้พวกเขาหนีออกจากความยากจนซึ่งเป็นปัญหาของประชากรส่วนใหญ่ไปได้ อย่างไรก็ตามครอบครัวของ Ronaldo ไม่ได้ยากจนขนาดนั้น และสามารถส่งเขาเรียนหนังสือได้อย่างสบาย ๆ แต่ตอนที่ Ronaldo มีอายุได้ 11
ใครคือนักเต้นที่ดังที่สุดในประเทศไทย? อาจจะเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก แต่ถ้าถามว่าใครคือนักเต้นที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก รับรองว่าเราจะต้องเห็นชื่อ ‘Les Twins’ สองพี่น้อง duo นักเต้นจากฝรั่งเศสเจ้าแห่ง new-style hip-hop dancing ปรากฎอยู่ในระดับหัวแถวแน่นอน “Les Twins” คือชื่อทีมสุดขลังระดับ Icon ของวงการ Street Dancers ที่โด่งดังทะลุไปถึงในวงการ Design และ Entertainment ทั่วโลก ประกอบด้วยสองพี่น้องฝาแฝดชาวฝรั่งเศส Laurent และ Larry Bourgeois aka “Lil Beast” and “Ca Blaze” คู่หูที่ปัจจุบันคำว่านักเต้นอาจจะน้อยเกินไป เราขอเรียกว่าเป็น “Urban Movement Creators” ศิลปินที่สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งรอบตัวให้กลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ฉีกกรอบความสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัดจะเหมาะสมกว่า Laurent และ Larry Bourgeois สองนักเต้นฝาแฝด Les Twins เกิดในปี 1988 และเติบโตในเมืองทางตอนเหนือของปารีส พวกเขาไม่เคยเข้าคอร์สเรียนเต้นอย่างจริงจังมาก่อนเลย แต่ใช้วิธีเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการสังเกตนักเต้นคนอื่น