บางสิ่งที่ดูเหมือนน่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่กลับกลายเป็นเรื่องน่าอึดอัดที่จะลงมือทำมัน ก็คือการเข้าไปพูดคุยกับคนแปลกหน้าในโอกาสต่าง ๆ นั่นเอง โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันยุคปัจจุบันที่เราใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอของ smartphone หรือแม้กระทั่งใส่หูฟังปิดกั้นโลกภายนอกได้ง่ายขึ้น นั่นยิ่งทำให้การสร้างความสัมพันธ์กับคนใหม่ ๆ ดูจะน้อยถดถอยลงไปทุกที จะว่าไปเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะการที่เดินเข้าไปคุยกับใครสักคนที่ไม่รู้จัก เราจะรู้สึกกังวลว่าอาจจะไม่ได้ผลตอบรับที่ดีกลับมาก็ได้ ซึ่งภาพในหัวของเรามันก็สร้างกำแพงในใจให้เราได้ไม่มากก็น้อย จนเรามักจะตัดปัญหาโดยการไม่ต้องเข้าไปคุยมันซะก็จบเรื่องแล้ว แต่จากการวิจัยล่าสุดที่ปรากฏในเวบไซต์ psychologytoday พบว่ามีไอเดียที่ดีกว่าในการเริ่มบทสนทนากับคนแปลกหน้าให้มีประสิทธิภาพ ทีมวิจัยได้เชิญอาสาสมัครมาทดลองด้วยการให้เล่นเกมประเภทไล่ล่าทำภารกิจให้สำเร็จเป็นเวลา 2 สัปดาห์ด้วยกัน โดยก่อนการทดลองทีมวิจัยให้บรรดาอาสาสมัครได้ลองทำแบบทดสอบ เช่น พวกเขาจะมีเปอร์เซ็นต์ถูกปฏิเสธจากการสนทนากับคนแปลกหน้ามากน้อยเพียงใด, มีความสามารถในการเริ่มบทสนทนากับคนแปลกหน้าขนาดไหน, การสนทนากับคนแปลกหน้าสร้างความอึดอัดหรือไม่, จะสนุกกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้าได้อย่างไร เป็นต้น หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการทำแบบทดสอบ นักวิจัยก็ส่งพวกเขาไปปฏิบัติภารกิจต่าว ๆ ด้วยกัน เพื่อสร้างโอกาสการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวสักเล็กน้อย ผลปรากฏว่าผู้ทดลองสามารถทำภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดี แถมยังสนุกกับมันอีกด้วย ในช่วงท้ายสัปดาห์ของการทดลอง ทีมวิจัยให้อาสาสมัครทำแบบสอบถามอีกครั้ง เพื่อดูว่าความคิดต่อการสนทนากับคนแปลกหน้าเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าพอใจเอามาก ๆ เพราะเหล่าอาสาสมัครพบว่าโอกาสที่จะถูกปฎิเสธจากคนแปลกหน้าที่เข้าไปพูดคุยน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะทีเดียว รู้สึกอึดอัดน้อยลง ซึ่งมันได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขาได้มากยิ่งขึ้น และยังเชื่อว่าสามารถสร้างความประทับใจในเชิงบวกให้กับคู่สนทนาได้ด้วย จากการวิเคราะห์ภารกิจที่ทีมวิจัยได้นำมาใช้ พบว่าเคล็ดลับมาจากการชวนคนอื่นคุยในสิ่งที่เขาสนใจนั่นเอง อย่างเช่นคนที่มีรอยสักนอกร่มผ้า ลึก ๆ แปลว่าคนนั้นมักจะมีความภูมิใจและอยากอวดรอยสักให้คนอื่นได้เห็นอยู่แล้ว ดังนั้นใครก็ตามที่เข้าไปทักทายเกี่ยวกับเรื่องรอยสัก ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะเปิดใจมาพูดคุยกับคุณได้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเจ้าของรองเท้าที่โดดเด่นสวยเตะตา
ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้? คงไม่จริงเสมอไป! พิสูจน์ได้จาก The Real ประจำสัปดาห์นี้ กับ “กร-มหาดำรงค์กุล” ซาวด์เอนจิเนียร์เจ้าของห้องอัดสุดเจ๋ง Axis Studio ที่นอกจะช่ำชองสกิลการเนรมิตซาวด์ของดนตรี เขายังเป็นคนที่พกสกิลสุดโหดในการเล่นดนตรี ด้วยการที่สามารถแทนได้ทุกตำแหน่งในวง Cocktail ยกเว้นแค่ร้องนำ “กร” เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้รับความไว้วางใจจากวงร็อกระดับประเทศ ตัวตนของเขาอยู่ที่นี่ มาทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ไปพร้อม ๆ กันครับ คลุกคลีกับดนตรีตั้งแต่เด็ก ว่ากันว่าชีวิตวัยเด็กของทุกคนมักจะได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่อยู่ในบ้านเสมอ คุณกรก็เช่นกัน เพราะเขาได้ซึมซับเสียงดนตรีมาตั้งแต่วัยเด็ก ได้มีโอกาสเห็นคุณพ่อเล่นดนตรีคัฟเวอร์ผลงานเพลงของวง CCR, Santana หรือ The Beatles เป็นต้น อยู่มาวันหนึ่งในช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คุณกรก็ได้จับกีตาร์เล่นครั้งแรก โดยมีคุณพ่อที่ช่วยสอนและให้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย จนได้วิธีมาต่อยอดในการฝึกซ้อมเอง หลังจากที่ฝึกกีตาร์ได้ระยะหนึ่ง ก็เริ่มมาหัดตีกลองจนสามารถจับจังหวะได้ ก่อนจะต่อยอดมาหัดเล่นเบส “เครื่องดนตรีหลักคือกีตาร์ ผมก็เล่นมาเรื่อย ๆ ทั้งกีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์โปร่ง ตีคอร์ดทั่วไป หรือแกะโซโล่ พอกีตาร์ได้แล้ว เราก็คิดว่าเบสก็น่าจะพอได้ มันก็ไม่ได้แบบยากมากขนาดนั้น
เก็บชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลได้สำเร็จ สำหรับทีม Manchester United ภายใต้การนำทัพของ Erik Ten Hag และนับว่าเป็นสามแต้มอันล้ำค่ามาก ๆ เพราะปีศาจแดงสามารถยัดเยียดความปราชัยให้แก่ Liverpool คู่ปรับตลอดกาลได้ซักที หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วโดนหงส์แดงยำเละไม่เป็นท่าทั้งไปทั้งกลับ โดยก่อนที่เกมแดงเดือดจะเริ่มต้นขึ้น สถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมไม่ค่อยจะโอเคซักเท่าไหร่ ฝั่งเจ้าบ้าน Man UTD แพ้รวดมา 2 นัด จมบ๊วยอยู่ท้ายตาราง ทำให้เกมนี้มีการปรับหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น Raphael Varane ที่ลงเล่นแทน Harry Maguire กัปตันจอมสร้างคอนเทนต์, Tyler Malacia เสียบตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน Luke Shawn, Scott McTominay แทน Fred และ Anthony Elanga แทน Cristiano Ronaldo ส่วนทีมเยือนรองแชมป์เก่าก็เสมอมา 2 นัดรวด เก็บได้เพียง 2 คะแนน แถมยังขาดนักเตะตัวหลักไปหลายคน
Unlockmen ขอพาทุกคนมาปลดล็อกสกิลกับ Man Up : 6 วิธีการสังเกตเสื้อวินเทจแบบเบื้องต้น ซึ่งเราได้ “โย” แห่ง Knowwhere Studio กูรูสายตรงมาแนะนำทริกให้กับมือใหม่ บอกเลยว่าสกิลนี้จะช่วยทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นว่าจะไม่โดนมิจฉาชีพหลอกขายของปลอมให้อย่างแน่นอน *เสื้อวินเทจคือเสื้อที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หากนับตั้งแต่ปี 2022 ลงไป 1.สังเกตจากราคา แม้ว่าเสื้อบางลายที่เราได้เห็นอาจจะเหมือนกับเสื้อในช่วงยุค 80’s-90’s ที่ราคาแรง ๆ แต่บางครั้งเรากลับเจอในราคาที่ไม่ถึง 1,000 ด้วยซ้ำ จากจุดสังเกตนี้สามารถเข้าใจได้เลยว่าเสื้อดังกล่าวเป็นการ Re-Product หรือ Re-Block นั่นเอง กล่าวคือเป็นการใช้บล็อกเสื้อตัวเดิม (หรือบล็อกใหม่ก็ได้) มาสกรีนเพื่อจำหน่ายใหม่อีกครั้งในยุคปัจจุบัน 2.สังเกตจากป้ายคอเสื้อ ป้ายคอเสื้อก็สามารถบ่งบอกปีที่ผลิตได้เช่นกัน อย่างเช่นป้ายยี่ห้อเสื้อ Gildan, Fruit Of The Loom, Hanes หรือ Giant เป็นต้น แต่ละแบรนด์จะผลิตป้ายติดคอที่มีลวดลายแตกต่างกันออกไปแต่ในละช่วงปี ซึ่งมันก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูว่าเสื้อตัวดังกล่าวผลิตปีไหนนั่นเอง 3.สังเกตจากการสกรีนปีผลิต โดยส่วนมาก โดยเฉพาะเสื้อวงมักจะมีสกรีนระบุปีที่ผลิตไว้ ตำแหน่งของมันอาจจะอยู่ด้านล่างของลายสกรีนหลัก หรือจะเป็นตำแหน่งอื่น
Arctic Monkeys คือวงดนตรีแห่งยุคโพสต์พังก์รีไววัล ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ด้วยเสน่ห์ทางดนตรีที่ชวนดึงดูด บวกกับภาพลักษณ์สุดเท่ของวง นั่นทำให้พวกเขาสามารถสร้างฐานแฟนเพลงได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ออกผลงานอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่ายาว ๆ ว่า “Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not” ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 มกราคม ปี 2006 กับสังกัด Domino Recording Company ผลงานชุดนี้ทางวงได้ Jim Abbiss มารับหน้าที่โปรดิวซ์เซอร์ ซึ่งเขาเคยร่วมงานกับ Bjork และ Massive Attack มาแล้ว รวมไปถึงได้ยกพลกันไปอัดเพลงที่ The Chapel ในเมืองเชฟฟิลด์ บ้านเกิดของพวกเขาเอง ส่วนชื่ออัลบั้มก็ได้มาจากประโยคหนึ่งจากนวนิยายเรื่อง “Saturday Night and Sunday Morning” ประพันธ์โดย Alan Sillitoe “Whatever People Say I
ดนตรีร็อกแม้ในปัจจุบันอาจจะดูเหงาลงไปบ้าง แต่ถ้าย้อนกลับไปในอดีต แนวดนตรีที่มีเสียงกีตาร์อันแตกพร่าจะโผล่ขึ้นมาเป็นกระแสหลักได้ตลอด เช่นเดียวกับในช่วงยุค 80’s จนถึงช่วงต้นยุค 90’s แนวดนตรีแกลมร็อก/เมทัล หรือที่ใคร ๆ ก็เรียกกันว่า “แฮร์แบนด์” ก็เคยได้รับความนิยมอย่างสุดขีดมาแล้วเช่นกัน (ก่อนจะโดนกรันจ์กินเรียบ) ภาพจำของวงดนตรีแฮร์แบนด์ คงหนีไม่พ้น การแต่งหน้าแต่งตาคล้ายผู้หญิงของบรรดาศิลปินชาย, การแต่งตัวที่แสดง Sex Appeal สูง, ดนตรีหนักแน่นในแบบเฮฟวี่เมทัลกับฮาร์ดร็อก ที่ฉาบไปด้วยเมโลดี้สุดป๊อป จนเคยถูกแซะว่าเป็น “ป๊อปเมทัล” และนอกจากจะมีเพลงเร็วไว้สร้างความมันส์ วงเหล่านี้มักจะต้องมีเพลงช้าสไตล์บัลลาดเป็นเพลงขายอยู่เสมอ ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้จริง ๆ ผลพลอยได้นอกจากยอดขายอัลบั้มของศิลปิน ก็คือกำไรหูของคนฟัง ที่มีเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังอย่างไม่ขาดสาย และนี่คือ “Unlockmen Playlitst : 10 สุดยอดเพลงบัลลาดแห่งยุคแฮร์แบนด์” ที่เราคัดสรรค์มาให้ครับ NOVEMBER RAIN – GUNS N’ ROSES Guns N’ Roses คือหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงยุคแฮร์แบนด์ครองตลาด พวกเขาเป็นวงที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นมาก แต่ที่เด็ดกว่านั้นนั่นคือดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยความสุดยอดจนใคร ๆ ก็ต่างยกย่องให้กลายเป็นระดับตำนาน
เสื้อยืดมือ 2 หากอ่านชื่อของมันเผิน ๆ ความหมายของมันอาจจะหมายถึงของเก่า, ของถูกโละ หรือของไม่ใช้แล้ว แต่หากได้เจาะลึกคำ ๆ นี้ลงไปอีก ก็จะพบว่ามันคือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักล้าน ใช่แล้วคุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ เสื้อยืดมือ 2 วินเทจหลาย ๆ ตัวราคาพุ่งแรงไม่แตกต่างจากวงการพระเครื่องเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ทำให้ใครหลายคนลงมาจับธุรกิจชนิดนี้ เพราะการเริ่มต้นอาจจะไม่ต้องใช้งบประมาณลงทุนมากเหมือนกับธุรกิจประเภทอื่น ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะแค่มีเงินอย่างเดียวนั้นมันไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ Unlockmen เลยได้นัดพูดคุยกับ “โย – โยธิน พูนสำรอง” เจ้าของร้านเสื้อยืดมือ 2 และเสื้อวินเทจสุดคูลย่านสะพานควาย นามว่า “Knowwhere Studio” ที่ในปัจจุบันมีลูกค้าทั่วโลกติดตามอยู่บน Instagram มากกว่า 56,000 บัญชี โยเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากเงินเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น! มาติดตามเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จตามสไตล์ของ Zero To Hero ได้เลยครับ ซึมซับความรู้จากการฟังเพลงและเป็นลูกจ้าง “โย” เดิมทีไม่ได้เป็นคนที่สนใจเสื้อยืดวินเทจมาก่อน แต่เป็นคนที่ชื่นชอบแฟชั่นที่มาจากวงดนตรีแนวเพลงที่โยรักอย่างเช่น ฮาร์ดคอร์,
การนอนหลับฝันดีแบบเต็มอิ่มและไม่มีสิ่งใดมารบกวน ว่ากันว่ามันคือความสุขอย่างสูงสุดของผู้ที่ต้องการพักผ่อน ถ้าคุณสามารถทำมันได้เป็นประจำ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีของคุณเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น หลาย ๆ คนต้องเผชิญกับอาการนอนไม่หลับเต็มอิ่ม เพราะถูก “ฝันร้าย” เข้ามาครอบงำ จนส่งผลให้เรายิ่งเพลียไปมากกว่าเดิมทั้ง ๆ ที่นอนไว แถมยังเกิน 6 ชั่วโมง อีกด้วย หากคุณรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวเป็นประจำ และไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี มาลองดูวิธีแก้ไขจากทางเรากันดีกว่า รู้จักกับความฝัน ก่อนอื่นก่อนใด ลองมาทำความรู้จักกับ “ความฝัน” ดูซักหน่อย ว่ามันมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ซิกมันด์ ฟรอยด์ ได้อธิบายเกี่ยวกับความฝันที่เกิดขึ้นว่า มันมาจากบางสิ่งที่ถูกเก็บและอัดอั้นไว้ภายในส่วนลึกของจิตใจ โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะปรากฏออกมาโดยไม่รู้ตัวในขณะที่เรากำลังนอนหลับ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ในความฝันในบางครั้งมันจะดูโอเวอร์ไปจากชีวิตจริงเป็นอย่างมาก นักจิตวิทยาบางท่านก็มองว่าความฝันเกิดจากผลพวงของการสุ่มยิงเซลล์ประสาทในขณะที่เรากำลังนอนหลับ หรือบางครั้งก็ถูกวิเคราะห์ว่า ความฝันสามารถช่วยให้เราเตรียมพร้อมกับบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในวันรุ่งขึ้น เช่น เราฝันว่ากำลังจะนำเสนอพรีเซนต์ในห้องประชุม เป็นต้น ไม่ว่าความฝันจะเกิดจากอะไรตาม แต่สำหรับ “ฝันร้าย” โดยมากมักจะเกิดจากอาการของความเครียด, ความวิตกกังวล และสภาวะซึมเศร้า นั่นเอง วิธีกำจัดฝันร้าย เมื่อฝันร้ายสร้างผลกระทบต่อการนอนหลับ และส่งผลต่อสุขภาพของคุณ เราก็ควรจัดการมันซะด้วยวิธีง่าย
ผ่านพ้นไปแล้วกับ “J–MAT Brand Planning Competition#1” การแข่งขันที่เฟ้นหานักสร้างแบรนด์รุ่นใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัย โดยความร่วมมือของ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และ เอสซีจี ซึ่งได้ยื่นโจทย์ให้คิดแผนสร้างแบรนด์ฉลาก “SCG Green Choice : คุณเลือกเพื่อโลกได้” ทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับ และมองหาเมื่อต้องซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน หรือคิดง่าย ๆ ว่าเป็นการทำแบรนด์ชวนคนมาเลือกสินค้าที่ดีต่อเรา และดีต่อโลกนั่นเอง หลังจากที่เริ่มต้นเปิดรับสมัครไปเมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ก็มีเหล่าบรรดานิสิตนักศึกษาตั้งทีมยื่นใบสมัครมากว่า 800 คน กว่าร้อยทีม ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 50 ทีม เข้ามาเรียนรู้และเก็บประสบการณ์กับโครงการผ่านกิจกรรม Online Training & Workshop ที่มีเหล่ากูรูด้านการสร้างแบรนด์ การวางแผนการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นแบรนด์รักษ์โลก มาให้ความรู้ ให้น้องๆ ได้นำไปพัฒนาแผน และส่งผลงานเข้าชิงในรอบ10 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบนี้จะได้รับเงินสนับสนุน 20,000 บาท เพื่อนำแผนไปลงมือทำจริงในเวลา 1 เดือน แล้วกลับมาชิงชัยหาผู้ชนะกันในรอบไฟนอล และสุดท้ายก็เป็นทีม Greentastic 4 ที่คิดและนำเสนอแผนสร้างแบรนด์ได้ชนะใจกรรมการจนคว้ารางวัลชนะเลิศรับเงินรางวัล
หากคุณเป็นคอดนตรีและชื่นชอบการชม Netflix เป็นพิเศษ เราก็ไม่อยากให้คุณพลาดกับ Trainwreck : Woodstock ‘99 โดยเด็ดขาด สารคดีที่จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ทิ้งทวนยุค 90’s โดยแท้จริง มันจะทำให้คุณได้ซึบซับว่าช่วงเวลาดังกล่าวดนตรีแนวไหนได้รับความนิยมสุดขีด และวัฒนธรรมการเสพดนตรีในช่วงนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่นั่นคงไม่ใช่หัวข้อหลักที่ทางสารคดีได้นำเสนอ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องที่ทุกคนต่างพูดถึงกันมาจวบจนปัจจุบัน มันคือ “หายนะ” สุดชิบหายวายป่วงที่ได้เกิดขึ้นในเทศกาลดนตรี Woodstock ‘99 ต่างหาก ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน (ก่อนปี 1999) หรือในปี 1969 เทศกาลดนตรี Woodstock ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยจัดงานกันที่ไวท์เลค ในเมืองเบเธล รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 15 – 18 สิงหาคม มันคือช่วงเวลาที่ทุกคนได้ร่วมกันดื่มด่ำความสุข, ความรัก, ความอบอุ่น และสันติภาพ ผ่านเสียงดนตรีจากศิลปินมากมายที่มาร่วมบรรเลง ไม่ว่าจะเป็น Jimi