Pop Art คือศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนและสังคมในปัจจุบันที่กำลังได้รับความสนใจหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนั้น เป็นเหมือนกระบอกเสียงสะท้อนภาพแท้จริงของสังคมในขณะนั้น เมื่อพูดถึง Pop Art หนึ่งในศิลปินแนวนี้ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘Andy Warhol’ ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ Pop Art ซึ่งโลดแล่นสร้างสรรค์ผลงานอยู่ในช่วงยุค 60-80 ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ผลงานและเรื่องราวของเขายังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เหมือนที่ Henry Geldzahler ผู้ดูแล Metropolitan Museum of Art ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 1973 ว่า “Andy จะเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลังไปอีกนานแสนนาน” หนึ่งใน Icon แห่งวงการศิลปะอย่าง Andy มีระบบความคิดไม่ธรรมดา วันนี้ UNLOCKMEN จึงจะพาไปสำรวจว่าวิธีการทำงานอย่างสร้างสรรค์สไตล์ Andy Warhol มีอะไรกันบ้าง ไม่แน่ว่าอาจจะมีเคล็ดลับอะไรที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานตัวเองได้ โดยเฉพาะสาย Creative บอกเลยว่าไม่ควรพลาด Crossbreed หนึ่งในสินค้าที่คุ้นตาชาวอเมริกันที่สุดคือซุปมะเขือเทศกระป๋องยี่ห้อ Campbell’s ส่วนหนึ่งในผลงานศิลปะชิ้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของ Andy Warhol คือภาพวาดซุปมะเขือเทศกระป๋องยี่ห้อ Campbell’s เช่นกัน ถือเป็นความฉลาดและสร้างสรรค์ของ Andy ที่เลือกหยิบจับของใกล้ตัวที่ทุกคนรู้จักกันดีมาผสมผสานกับไอเดียของเขาจนเกิดเป็นผลงานศิลปะที่ตอนนี้มูลค่าของมันพุ่งสูงมากกว่า 80
ฝนตก รถติด รถไฟฟ้าเสีย และอีกสารพัดปัญหาของคนเมืองที่ทำให้ปวดหัวได้อยู่ทุกวี่ทุกวันจนบางทีก็อย่างหนีเข้าป่าไปให้พ้น ๆ แต่เมื่อมาคิดดูดี ๆ แล้วก็เป็นตัวเราเองนั่นแหละที่เสพติดความสะดวกสบาย จะ Into the Wild แบบในภาพยนตร์ก็คงไปได้ไม่กี่น้ำเดี๋ยวก็คงซมซานกลับเข้าสังคมเมือง ดังนั้นมันจะดีแค่ไหนถ้าเราได้ทั้งความสะดวกสบายไปพร้อม ๆ กับการใช้ชีวิตสงบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยแนวคิดแบบนี้จึงเกิดสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถตอบโจทย์ขึ้นมา ‘Mono Cabin’ คือชื่อของเจ้ากระท่อมในฝันหลังนี้ มันถูกออกแบบให้เป็นเหมือนที่พักพิงที่ครบครันทั้งความสะดวกสบายและความทันสมัย ทุกรายละเอียดมีประโยชน์ต่อการใช้สอยในพื้นที่ 106 ตารางฟุต ภายใต้คอนเซ็ป “Plug and Play” ที่มีทั้งความสนุกสนานและการพักผ่อน ความเรียบง่ายที่สร้างอารมณ์สุนทรีคือปรัชญาในการรังสรรค์ Mono Cabin ออกมา โดยด้านนอกจะมีเหล็กเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ตัวกระท่อม ส่วนภายในจะตกแต่งด้วยไม้ เพดานถูกออกแบบเป็นทรงโค้งให้ความรู้สึกอิสระ นอกจากนั้นบรรดาอุปกรณ์ภายในตัวกระท่อมสามารถเคลื่อนย้ายได้ทำให้คุณสามารถจัดวางและออกแบบในแบบที่เป็นตัวคุณได้ Mono Cabin มีให้เลือกจับจองถึง 3 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐานที่มาพร้อมกับอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้าในตัว รุ่นใช้พลังงานจากแผงโซลาเซลล์ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านบน และรุ่นสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการใกล้ชิดความเป็นธรรมชาติที่สุดด้วยออปชั่นเสริมเตาผิงไม้ติดตั้งมาในตัว เรื่องราคาก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่แค่คิดแล้วคุณจะมีกระท่อมในฝันไว้นอนท่ามกลางขุนเขาได้แต่คุณต้องมีเงินด้วย! เพราะราคาเฉลี่ยของเจ้า Mono Cabin อยู่ที่ 25,000 เหรียญหรือประมาณเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
การที่ซากุระสักต้นจะเจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขาได้มากมายนั้นแน่นอนว่าระหว่างทางกลีบของมันต้องมีร่วงโรยลงไปบ้าง เช่นเดียวกับสถานการณ์ของวง BNK48 ตอนนี้ที่ถึงแม้ว่าข่าวใหญ่ล่าสุดจะเป็นข่าวการประกาศจบการศึกษาของ ‘แคน’ นายิกา ศรีเนียน หนึ่งในสมาชิก แต่วงก็ต้องเดินทางต่อไปข้างหน้า ไม่สามารถจะหยุดพักได้ ก้าวต่อไปของ BNK48 คือซิงเกิ้ลที่ 4 ของวงที่ได้ประกาศไปเรียบร้อยแล้วเมื่องานเปิดตัวรุ่น 2 ที่ผ่านมาว่าซิงเกิ้ลที่ 4 คือเพลง ‘Kimi Wa Melody’ หนึ่งในบทเพลงระดับตำนานของ 48 Group ที่มีเรื่องราวมากมายเรียงร้อยอยู่เบื้องหลัง โดยในวันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปรู้จักเพลง ๆ นี้กันรวมถึงคาดเดาเซ็มบัตสึและเซ็นเตอร์ของเพลงนี้ด้วย Kimi Wa Melody ‘Kimi Wa Melody’ คือซิงเกิ้ลลำดับที่ 43 ของ AKB48 วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2016 เป็นซิงเกิ้ลที่มาในคอนเซ็ปต์ความเป็นญี่ปุ่นแบบจัดเต็มพร้อมด้วยเนื้อหาเพลงที่เกี่ยวกับการแอบรักของเด็กสาว อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงขมวดคิ้วและตั้งคำถามว่ามันก็ดูเหมือนซิงเกิ้ลอื่น ๆ ตามสไตล์ของเพลงไอดอลทั่วไป มันพิเศษยังไงและอะไรที่ทำให้มันกลายเป็นตำนาน? ความพิเศษของ Kimi Wa Melody คือซิงเกิ้ลฉลองครบ 10
ก่อนปี 1903 ถ้ามีใครสักคนพูดว่าสักวันมนุษย์จะสามารถเดินทางบนท้องฟ้าได้คงมีแต่คนหาว่าบ้า แต่ความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ก็กลายเป็นความจริงด้วยฝีมือของพี่น้องตระกูลไรต์ จากปี 1903 ถึงวันนี้ก็ผ่านมากว่า 115 ปีแล้ว วิวัฒนาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินทางบนท้องฟ้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเครื่องบินลำเล็ก ๆ ของพี่น้องตระกูลไรต์สู่ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 อากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก Hybrid Air Vehicles Airlander 10 อากาศยานที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าเมื่อมันทำงานด้วยระบบ Hybrid เจ้าวิหคยักษ์ลำนี้จึงเป็นการผสมผสานกันระหว่างเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน และเรือเหาะ ส่วนประกอบหลักของ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 คือไฟเบอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงอย่าง Vectran เพื่อให้สามารถรองรับแก๊สฮีเลี่ยมที่ถูกอัดไว้ในปริมาณมากซึ่งจะทำงานควบคู่กับครีบใบพัดขนาดใหญ่ทำให้อากาศยานลำยักษ์นี้ลอยขึ้นเหนือพื้นดินได้ ถึงแม้ว่าขนาดของ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 จะใหญ่โตจนกลายเป็นอากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่การเคลื่อนที่ของมันไม่ได้ช้าอย่างที่คิดเพราะความเร็วสูงสุดของมันอยู่ที่ 90 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ด้วยความเร็วขนาดนี้ประกอบกับขนาดของมัน Hybrid Air Vehicles Airlander 10 จึงมีประโยชน์ต่อระบบการขนส่งทางอากาศเป็นอย่างมาก ด้านในนั้นก็ตกแต่งอย่างหรูหรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แตกต่างจากเรือเหาะลำอื่น ๆ
หนังที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังเมืองคานส์หลายคนอาจจะร้องยี้เพราะภาพจำของหนังจากเทศกาลหนังเก่าแก่ประเทศฝรั่งเศสนี้มักเป็นหนังที่ดูยาก เข้าใจยาก น่าเบื่อ หรือเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ แต่สำหรับปี 2018 นี้ขอให้ทุกคนลบภาพนั้นออกไปก่อน เพราะภาพยนตร์ที่ได้รางวัล ‘ปาล์มทองคำ’ รางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดในเทศกาลหนังเมือคานส์ในปีนี้คือ ‘Shoplifters’ ภาพยนตร์แนวครอบครัว เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ทุกคน ผลงานกำกับของ ‘Hirokazu Koreeda’ เจ้าพ่อหนังแนวครอบครัวชาวญี่ปุ่น และแน่นอนว่า Shoplifters ไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกของเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังครอบครัวแห่งเอเชียผลงานที่ผ่านมาของเขาย่อมไม่ธรรมดาและน่าจะติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ร่วมสำรวจความอบอุ่นและร้าวรานที่ Hirokazu Koreeda ฝากไว้บนแผ่นฟิล์มไปด้วยกันกับภาพยนตร์ 5 เรื่องนี้ Nobody Knows (2004) ภาพยนตร์ที่ทำให้ชื่อของ Hirokazu Koreeda ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และคงเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนน่าจะทั้งรักทั้งเกลียด ส่วนเหตุผลว่าทำไมคำตอบอยู่ในตัวหนังที่ต้องไปหาดูกันเอง Nobody Knows เล่าเรื่องราวของครอบครัวฐานะยากจนครอบครัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยว และลูก ๆ อีก 4 คนที่ต้องแอบอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ เนื่องจากผู้เป็นแม่แจ้งกับเจ้าของห้องเช่าว่าเธอมีลูกแค่คนเดียวเท่านั้น เด็ก ๆ จึงไม่สามารถออกไปไหนมาได้ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในห้องพัก และอยู่
‘เบียร์’ คือเครื่องดื่มที่อยู่คู่มนุษย์มาเนิ่นนาน เป็นเครื่องดื่มที่เราดื่มกันอยู่แทบทุกวัน ไม่ว่าวันเกิด วันสุข วันเพื่อน วันเหงา วันพิเศษ ปีใหม่ ตรุษจีน จะวันไหน ๆ เราก็สดชื่นได้ด้วยเบียร์เย็น ๆ และเมื่อวันสำคัญแบบนี้เวียนมาบรรจบทั้งที UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมร้านเบียร์สุดชิลมาแนะนำกับ 10 ร้านคราฟต์เบียร์ที่คอเบียร์ไม่ควรพลาด ส่วนใครมีร้านเจ๋ง ๆ มาแชร์อีก เรายินดีไปเป็นเพื่อนร่วมทาง Hair of the Dog ร้านคราฟต์เบียร์เล็ก ๆ ใจกลางเมืองที่ตัวร้านมาในบรรยากาศของโรงพยาบาลร้าง แสงนีออนสีม่วงแดงของร้านให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา ถึงแม้ว่าขนาดของร้านจะเล็กแต่คุณภาพเรื่องเบียร์ของที่นี่ไม่เล็กตามไปด้วย เพราะที่นี่มีเบียร์คราฟต์ให้เลือกดื่มได้ถึง 13 แท็ป นอกจากนั้นยังมีเบียร์ขวดจากต่างประเทศอีกมากมายแช่เย็นอยู่ในตู้พร้อมเสิร์ฟ และนอกจากเบียร์รสชาติดีแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะได้จาก Hair of the Dog คือมิตรภาพ เนื่องจากขนาดร้านที่ค่อนข้างเล็กและคอนเซ็ปต์ร้านที่มีความเป็นสากลจึงทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คุณจะเริ่มบทสนทนากับคนแปลกหน้าในร้าน หรือพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเบียร์ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงแต่อย่างใด Location: Mahatun Plaza, 2nd Floor, 888/26 Ploenchit Road, Lumpini, Patumwan, Bangkok Open: 5.00 pm
ในยุคที่การทำดนตรีและมีเพลงของตัวเองไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ทุกคนสามารถเป็นศิลปินได้ เพียงแค่มีใจรักและคอมพิวเตอร์ดี ๆ สักเครื่อง แต่การที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอสร้าง Beat ทั้งวันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อและเคร่งเครียดพอสมควร คงจะดีไม่น้อยถ้ามี Gadget อะไรเจ๋ง ๆ ที่สามารถสร้าง Beat ไปด้วยสนุกไปด้วย ไม่ต้องรอให้ถึงโลกอนาคต เพราะตอนนี้ Oddball Drum Machine ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว มันคือลูกบอลทรงกลมที่คุณสามารถสร้าง Beat ได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่ให้มันตกกระทบกับวัตถุต่าง ๆ เท่านั้นเอง Oddball Drum Machine คือเจ้าลูกบอลเด้งดึ๋งที่จะทำให้คุณได้ปลดปล่อยเสียงเพลงในใจ เพียงแค่คุณโยนมันเล่น คุณก็สามารถออกแบบดนตรีในแบบที่เป็นคุณผ่านการตกกระทบได้เต็มที่ ทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์และพรสวรรค์อยู่ในตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสสร้างสรรค์อะไรออกมา เจ้าของไอเดียรู้ดีถึงความจริงข้อนี้ จึงได้ผลิต Oddball Drum Machine เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างดนตรีในแบบที่เป็นตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลาแถมยังได้ความสนุกอีกต่างหาก Oddball แบ่งเป็นส่วนหลัก ๆ ได้ 2 ส่วนคือส่วนลูกบอลที่ภายในประกอบด้วยกลไกประเภทเครื่องตกกระทบ ทุกครั้งที่พื้นผิวของมันกระทบกับสิ่งใด ๆ ก็ตาม เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งเอาไว้จะส่งสัญญาณไปอีกส่วนซึ่งก็คือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อไว้ด้วยระบบบูลทูธ คุณจะได้ยินเสียง Beat ที่คุณสร้างผ่านการตกกระทบของเจ้าลูกบอลผ่านทางหูฟังหรือลำโพงที่คุณเชื่อมต่อไว้กับโทรศัพท์มือถือของคุณ ความดังเบาหรือหนาแน่นของเสียงขึ้นอยู่กับความแรงในการตกกระทบซึ่งแล้วแต่การออกแบบของคุณ นอกจากนั้นคุณยังสามารถเพิ่มความซับซ้อนให้ดนตรีของคุณด้วยการสร้างลูปหรือเพิ่มเอฟเฟกต์ลงไปได้อีกด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นคือเหล่าผู้ใช้ Oddball Drum
ถ้าในวงการกีฬามีฟุตบอลโลกหรือ Super Bowl วงการเกมมีงาน E3 วงการ Comic ของเล่นก็มี San Diego Comic Con นี่แหละที่เป็นมหกรรมยิ่งใหญ่ประจำปีของชาวโลก และในทุกปีงาน San Diego Comic Con ก็จะมีการเปิดตัว Trailer หนังหรือข่าวสารอื่น ๆ ในวงการ Comic มาให้เราตื่นเต้นได้เสมอ ในปี 2018 นี้แต่ละค่ายหนังก็จัดหนักจัดเต็มปล่อย Trailer หนังที่หลายคนกำลังรอคอยออกมาเรียกน้ำย่อย ให้ผู้ชายอย่างเราได้ตื่นเต้นกัน Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald Newt Scamander และเหล่าสัตว์วิเศษของเขากลับมาอีกครั้งพร้อมเนื้อเรื่องที่ใกล้ชิดกับจักรวาล Harry Potter เข้าไปอีกขั้นเพราะในภาคนี้เราจะได้พบกับตัวละครหลักในซีรีส์พ่อมดน้อยที่หลายคนคิดถึงอย่าง Albus Dumbledore แต่เป็นช่วงที่เขายังเป็นหนุ่มไม่มีหนวดเครายาวแบบที่เราคุ้นตา ซึ่งจะรับบทโดยนักแสดงผู้มีเสน่ห์เหลือล้นอย่าง Jude Law Fantastic Beasts 2 หรือในชื่อภาค The Crimes of Grindelwald จะเล่าเรื่องย้อนอดีตไปในตอนที่ Newt Scamander
นับตั้งแต่ Mission: Impossible ภาคปฐมบทเข้าฉายในปี 1996 จนถึงวันนี้เวลาก็ล่วงเลยมากว่า 22 ปีแล้วแต่สายลับมาดเท่นาม Ethan Hunt ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะวางมือจากวงการง่าย ๆ เพราะตอนนี้ Mission: Impossible – Fallout ภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในซีรีส์นี้กำลังจะเข้าฉายให้เหล่าสาวกได้ตื่นเต้นไปกับภารกิจสุดระห่ำที่เป็นไปไม่ได้อีกครั้ง นักแสดงที่มารับบทเป็น Ethan Hunt ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Tom Cruise เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ถึงแม้อายุจะปาไป 56 กะรัตแล้วแต่ก็ยังฟิตปั๋งอยู่ แต่ในส่วนผู้กำกับของภาคนี้มีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์นิดหน่อยเพราะโดยปกติซีรีส์ MI จะเปลี่ยนตัวผู้กำกับทุกภาค ไม่เคยใช้ผู้กำกับซ้ำกัน แต่ในภาคนี้ผู้รับหน้าที่กุมบังเหียนกำกับคือ Christopher McQuarrie คนเดิมจากภาค Mission: Impossible – Rogue Nation เมื่อดู Trailer แล้วในภาคนี้ความระห่ำของ Ethan Hunt ก็ยังจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้ภาคก่อน ๆ ดังนั้นก่อนที่เราจะไปสนุกกับ Mission: Impossible – Fallout UNLOCKMEN ขอพาไปย้อนดูในภาคก่อน ๆ ว่าพ่อหนุ่ม Ethan Hunt เคยผ่านการเสี่ยงตายอะไรกันมาบ้าง
สั่นสะเทือนวงการสายเขียวไปทั้งโลกอีกครั้ง เมื่อผลวิจัยทางการแพทย์ล่าสุดที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร ‘Scientific Reports’ เปิดเผยว่าการสูบกัญชานั้นอันตรายน้อยกว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 114 เท่า! ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นจากผลวิจัยพบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีอันตรายมากกว่ายาเสพติดทุกประเภท แต่มันกลับเป็นสิ่งเดียวที่ถูกกฎหมาย ช่างย้อนแย้งอะไรขนาดนี้ ส่วนอันดับความอันตรายรองมาคือเฮโรอีน, โคเคน, ยาอี ซึ่งเกณฑ์การจัดอันดับนี้วัดจากอัตราผู้เสียชีวิตที่ใช้สารแต่ละประเภทในปริมาณเท่า ๆ กัน ในอดีตกัญชานั้นเคยถูกมองว่าเลวร้ายเกินความเป็นจริงไปมาก เป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมาแบบผิด ๆ ทำให้มันกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ในทางตรงกันข้ามเครื่องดื่มมีแอลกฮอล์นั้นถูกมองเป็นสิ่งให้ความบันเทิงสนุกสนานอยู่คู่กับการสังสรรค์ของมนุษย์มาเนิ่นนานทั้งที่จริงแล้วอันตรายของมันนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าสารเสพติดทุกชนิด ถึงปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาต่าง ๆ จะปรับความอันตรายของกัญชาลงมาในระดับต่ำแล้ว และมีการพยายามผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมายหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายสำหรับประเทศส่วนใหญ่ในโลก การที่กัญชายังผิดกฎหมายทั้ง ๆ ที่มีงานวิจัยด้านการแพทย์มากมายหลายชิ้นยืนยันแล้วว่าพืชชนิดนี้มีอันตรายน้อยมากมันอาจจะมีสาเหตุมากกว่าการที่รัฐห่วงสุขภาพของประชาชน เหตุผลหลักน่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจมากกว่า อาจจะเกิดจากการที่ในแต่ละประเทศมีผู้จำหน่ายกัญชารายใหญ่อยู่แล้ว และพวกเขาอาจจะสนิทกับรัฐบาล ดังนั้นการที่เปิดให้ค้าขายกัญชาอย่างเสรีอาจทำให้สถานะพ่อค้ารายใหญ่เกิดความสั่นคลอน นอกจากนี้การเรียกเก็บโครงสร้างภาษี ถ้ากัญชาถูกกฎหมายอาจจะยังไม่ลงตัว อย่างไรก็ตามการที่กัญชาจะถูกกฎหมายในประเทศไทยก็ไม่ถึงกับสิ้นหวังในขนาดนั้น เพราะตอนนี้ในสังคมโลกตื่นตัวเรื่องกัญชาอย่างมาก เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ตอนนี้มีหลายองค์กรออกมาผลักดันเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง เชื่อว่าสายเขียวทั้งหลายคงอดใจรออีกไม่นานก็น่าจะได้ ‘High’ โดยไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เสียที ที่เขียนมาถึงตรงนี้ UNLOCKMEN ก็ไม่ได้มองว่าการใช้กัญชาเพื่อความบันเทิงเป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวขนาดนั้น และในเมื่อสิ่งที่อันตรายกว่ามันถึง 114 เท่ากลับเป็นสิ่งถูกกฎหมาย พืชชนิดนี้ก็ควรจะถูกกฎหมายเช่นกัน ถ้ามองในแง่ประโยชน์ทางการแพทย์และความผ่อนคลายในปริมาณที่เหมาะสม SOUECE1