สำหรับผู้ที่ใช้แอปพลิเคชัน Spotify ฟังเพลง เดือนสุดท้ายของปีแบบนี้ก็เป็นธรรมเนียมที่ทางแอปฯ จะปล่อยฟีเจอร์สนุก ๆ อย่าง Spotify Wrapped ออกมาให้พวกเราเล่น ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ก็เปรียบเสมือน ‘รายงานประจำปี’ ที่แกะพฤติกรรมการฟังเพลงของเราบนแอปฯ ทุกกระเบียดนิ้ว เราฟังศิลปินคนไหนมากที่สุด ฟังเพลงไหนมากที่สุดในรอบปี ฟังเพลงจากศิลปินกี่ประเทศ มันจะทำการรายงานพร้อมขึ้น Rank จัดอันดับให้โดยละเอียด (ใครยังไม่ได้เล่นลองสังเกตบนหน้าแอปฯ ดูว่าป๊อปอัปขึ้นมาให้กดหรือยังนะครับ) ดูเผิน ๆ ก็เหมือนเป็นแค่การเล่นสนุกทั่ว ๆ ไป แต่อันที่จริงสิ่งนี้นับว่าเป็นการตลาดที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งของ Spotify เลยนะครับ เพราะเจ้าสิ่งนี้กลายเป็นไวรัลได้ในชั่วข้ามคืนโดยที่ Spotify ไม่ต้องเสียเงินซื้อสื่อโฆษณาสักแดงเดียว เหตุใดผู้คนจึงชื่นชอบมันถึงขนาดนี้ ? เว็บไซต์ Producthunt.Com เขาได้ลงบทความดี ๆ เขียนโดย Sarah McBride ที่วิเคราะห์สิ่งนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยเธอได้ให้เหตุผลใหญ่ ๆ เอาไว้ 4 ประการ ทั้งหมดที่เรากำลังจะกล่าวนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวกับความซับซ้อนทางเทคโนโลยี แต่มาจาก ‘ความเข้าใจที่มีต่อผู้บริโภค’ ล้วน ๆ
เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่นิตยสารระดับโลกอย่าง TIME จะต้องประกาศ “10 อันดับ” ในหัวข้อต่าง ๆ รวมทั้งหัวข้อเกี่ยวกับเพลงและศิลปิน แต่สำหรับการจัดอันดับในครั้งนี้คงจะมาแบบธรรมดาไม่ได้ เพราะโลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่อย่างเป็นทางการ ทำให้การจัดอันดับ “ที่สุดในทศวรรษ” งอกขึ้นมาเป็นดอกเห็ด หัวข้อ 10 เพลงที่ดีที่สุดในทศวรรษ (The 10 Best Songs of the 2010s) ก็เช่นกัน สำหรับหัวข้อนี้พวกเขาไม่ได้วัดจากยอดสตรีมมิงหรือยอดขายเพียงเท่านั้น แต่ TIME ระบุว่าเพลงเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางของวงการเพลงอเมริกันในทศวรรษนี้ ไม่ทางใดทางหนึ่งก็ทางหนึ่ง โดยเราจะเรียงตามช่วงเวลาจาก 2010 ไปจนถึง 2019 และขอแยกออกเป็น 2 ตอน สำหรับวันนี้เราจะขออนุญาตพูดถึง 5 เพลงแรกก่อนครับ Rolling in the Deep – Adele (2010) เขาว่ากันว่า เพลง(ไม่)รัก หรือเพลงรักที่อับปาง คือหัวใจหลักของเพลงป๊อปในปี 2010 ก็ว่าได้ อัลบั้ม 21 ของ
หลังจากที่เราทำเพลย์ลิสต์รวม 10 เพลงฮิตที่หนุ่ม ๆ คัฟเวอร์ศิลปินหญิงกันไปแล้ว (คลิก) ครั้งนี้เราจึงกลับมาทำตามสัญญาใจ จัดเพลย์ลิสต์คู่ตรงข้ามกันขึ้น ถึงเวลาที่จะมาฟัง 10 เพลงเพราะ ๆ ของศิลปินชายที่ถูกสาว ๆ เขานำมาคัฟเวอร์กันบ้างแล้ว จริงอยู่ว่าไม่มีอะไรจะคลาสสิกไปกว่าเวอร์ชันออริจินัล แต่บางครั้งการฟังเพลงเดิม ๆ ในเวอร์ชันที่ต่างออกไปก็ช่วยเติมเต็มหัวใจ สร้างบรรยากาศแห่งความรื่นรมย์ใหม่ ๆ เพื่อหนีความจำเจได้ไม่เลว Smells Like Teen Spirit – Tori Amos Original: Nirvana Tori Amos จัดว่าเป็นศิลปินหญิงที่เฟื่องฟูมาก ๆ ในยุค 90 ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับวง Nirvana และ Kurt Cobain เวลาเปิด Smells Like Teen Spirit ฟัง แล้วโดนพ่อแม่พี่น้องหรือป้าข้างบ้านบ่นว่ารำคาญ ลองเปิดเป็นเวอร์ชันเปียโนนุ่ม ๆ ของสาวคนนี้แก้ขัดไปก่อน คุณเธอนำเพลงมาเรียบเรียงใหม่ชนิดที่ว่าไม่เหลือคราบความเกรี้ยวกราด แต่ฟังแล้วจิตใจอ่อนไหวจนน้ำตาจะไหลแทนได้ ลองเปิดใจแล้วฟังกันดู Half
ไม่บ่อยนักที่ทาง Marvel Studio จะยอมทำตามข้อเรียกร้องของเหล่าแฟนคลับ แต่ภาพยนตร์ “Black Widow” ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทางเบื้องบนรับฟังเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ จนสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในที่สุด สายลับรัสเซียสาว Natasha Romanoff (รับบทโดย Scarlett Johansson) คือหนึ่งในทีมอเวนเจอส์ยุคบุกเบิก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะไม่มีหนังแยกของตัวเอง แต่บทบาทของเธอก็โดดเด่น แถมยังเป็นตัวแปรสำคัญในชัยชนะหลาย ๆ ครั้งของเหล่าอเวนเจอส์อีกด้วย ไม่แปลกที่คาแรกเตอร์นี้จะสามารถครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกได้ทุกเพศทุกวัย และในที่สุดเทรลเลอร์แรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้รับชมกันสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากได้ดูเทรลเลอร์แล้วก็เป็นอันเข้าใจตรงกันชัดเจนว่า Black Widow ไม่ใช่หนังเล่าจุดกำเนิดของ Natasha แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนไทม์ไลน์ของ Avengers: Endgame โดยหนังเรื่องนี้มาพร้อมตัวละครใหม่ ๆ เช่น Yelena Belova (รับบทโดย Florence Pugh) และ Melina Vostokoff (รับบทโดย
เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่ MusicRadar เว็บไซต์เพื่อคนทำเพลงจะเปิดให้ชาวเน็ตได้เข้ามาโหวตโพลต่าง ๆ ที่พวกเขาคิดหัวข้อขึ้นมา สำหรับปีนี้โพล ‘มือกลองเมทัลยอดเยี่ยมแห่งปี’ ก็ได้ผู้ชนะทั้ง 8 อันดับเป็นที่เรียบร้อย โดยความพีคของปีนี้คือผู้กลายเป็นมือวางอันดับ 1 ได้คะแนนสูงเกือบสองเท่าของผู้ถูกเสนอรายชื่อคนอื่น ๆ เลยทีเดียว! ว่าแต่เขาคนนั้นจะเป็นใคร วันนี้ UNLOCKMEN ขออนุญาตหยิบยกขึ้นมารายงานต่อให้คอเพลงได้ทราบโดยถ้วนทั่ว เราจะขออนุญาตเรียงลำดับจากอันดับ 8 ก่อนจะไปสิ้นสุดที่อันดับที่ 1 กันนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอ้า เริ่ม! 8. Jason Bittnet วง Overkill Jason Bittnet เพิ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกของวง Overkill เมื่อปี 2017 เท่านั้น แต่อัลบั้ม The Wings Of War ที่เพิ่งปล่อยออกมาปีนี้ ทำให้ความเทพของเขาเตะตาแฟนเพลงหลายคนจนเข้ามาติดโผของเว็บไซต์จนได้ ใครยังไม่เคยเห็นฝีไม้ลายมือตาคนนี้ก็ลองดูจากคลิปที่เราแนบไว้ด้านบนได้ครับ 7. Art Cruz วง Lamb of God Art
เคยไหมครับ ชอบเพลงของศิลปินหญิงคนหนึ่งมาก ๆ อยากนำมาร้อง อยากนำมาส่งให้สาว ๆ อินกับความหมาย แต่ติดตรงที่เนื้อเพลงดันใช้สรรพนามเป็นเพศตรงข้ามกับเรา เช่น คุณไม่สามารถส่งเพลงที่มีท่อนร้องว่า “I Love You Boy” ไปให้แฟนได้ หรือบางทีทำนองเพลงมันก็หวานจ๋อยจนไม่เข้ากับลุคและใบหน้าของคุณสักนิด แม้คุณจะซาบซึ้งกับเนื้อหาในเพลงเสียเต็มประดาก็เถอะ อีกกรณีก็คือการร้องตามนี่แหละครับ บางทีเราชอบเพลงนี้มาก ๆ แต่ไม่สามารถขึ้นคีย์สูงได้แบบเขา ทำให้จำเป็นต้องหาเวอร์ชันผู้ชายสักคนมาไกด์ก่อนจะร้องจริง หรือบางทีคุณก็แค่อยากฟังเพลงที่เพราะขนาดนี้ในฟีลใหม่ ๆ ในแนวดนตรีที่ตัวเองชอบก็เท่านั้น ถึงแม้จะฟังดูเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ UNLOCKMEN เข้าใจคุณ วันนี้เราจึงมาแนะนำ 10 เพลงจากศิลปินหญิงที่ถูกชายหนุ่มนำมาคัฟเวอร์ใหม่ ให้คุณได้ฟังเพลงเพราะเพลงเดิมด้วยสไตล์ที่ต่างออกไป If I Ain’t Got You – James Bay Original: Alicia Keys อันที่จริงเราเคยแนะนำเพลงนี้ไปแล้วใน WEEKLY PLAYLIST รวม 7 เพลงคัฟเวอร์เจ๋ง ๆ ในครั้งก่อน แต่เผื่อบางคนที่พลาดไป เราเลยขออนุญาตหยิบขึ้นมาพูดถึงกันอีกครั้ง เพราะเพลง
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ติดตามข่าวสารรอบโลกในช่วงนี้ เชื่อว่า ‘การประท้วงในฮ่องกง’ คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่คุณกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด (คุณสามารถอ่านข้อมูลเรื่องนี้เต็ม ๆ ได้ที่นี่ คลิก ) ในหน้าประวัติศาสตร์แห่งวงการเพลง ที่ใดมีการประท้วงที่นั่นย่อมมีบทเพลงปลุกใจ เหล่าศิลปินผู้มีจุดยืนมักจะนำเรื่องราว ความคิด หรือทัศนคติของตัวเองที่มีต่อเหตุการณ์นั้น ๆ มาถ่ายทอดผ่านผลงานของตัวเอง และเมื่อวันเวลาล่วงเลยผ่าน การแสดงจุดยืนของพวกเขาในวันนั้น ล้วนเป็นมรดกที่ส่งต่ออิทธิพลทางความคิดบางอย่างสู่คนรุ่นหลังต่อไป ‘เพลงฮิปฮอป’ เรียกได้ว่าเป็นศิลปะและวัฒนธรรมแขนงหนึ่งที่อยู่คู่กับการประท้วงบนโลกนี้มาโดยตลอด เฉกเช่นที่บ้านเราเคยมีเพลง ‘ประเทศกูมี’ อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งบางเมื่อปีก่อน ชาวฮ่องกงก็มีศิลปินฮิปฮอปหลากหลายกลุ่มที่กำลังขับเคลื่อนสังคมในบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองเช่นกัน ถึงแม้ศิลปินเมนสตรีมในฮ่องกงหลายคนจะแสดงตัวว่าอยู่ฝั่งเดียวกับรัฐบาล บ้างก็ไม่แม้แต่จะปริปากพูดเรื่องนี้ แต่ศิลปินนอกกระแสหลายคนก็กำลังเดินหน้าในการยืนหยัดจุดยืนของตน พวกเขามีความกล้าลุกขึ้นสร้างสรรค์บทเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประท้วงในครั้งนี้เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้คนในสังคม เพลงของพวกเขาถูกเผยแพร่จากใต้ดินขึ้นสู่บนดิน กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในเวลาอันรวดเร็ว โดยที่ไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานใดให้ความสนับสนุน Credit: Joseph Chan หนึ่งในเพลงที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้คือเพลงที่ชื่อว่า FUCKTHEPOPO ของศิลปินที่ชื่อ JB (屌狗) ซึ่งคำว่า POPO ในที่นี้ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหนแต่คือ Police หรือตำรวจนั่นเอง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย ฮิปฮอปกับตำรวจก็ดูจะเป็นสองสิ่งที่ไม่เคยลงรอยกัน โดยเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา และปัจจุบันยอดวิวใน Youtube พุ่งสูงถึง 1.8 ล้านกว่าวิวเป็นที่เรียบร้อย
Deftones หากเอ่ยชื่อนี้ เชื่อว่าคอเพลงเฮฟวีเมทัลไม่มีใครไม่รู้จัก พวกเขาจัดว่าเป็นวงแนวหน้าของดนตรีสายนูเมทัลและสครีมโมในยุคบุกเบิก และเป็นหนึ่งในวงแรก ๆ ที่สับเปลี่ยนระหว่างริฟฟ์กีตาร์หนักหน่วงและการใช้เสียง ‘ว้าก’ บนดนตรีละเอียดอ่อน ก่อนจะขยับขยายแนวเพลง ทดลองซาวด์แปลกใหม่ไม่ซ้ำกันในแต่ละอัลบั้ม ด้วยสำเนียงการร้องอันมีเอกลักษณ์ของ ชิโน โมเรโน ฟรอนต์แมนของวง และการรักษามาตรฐานของวงอันยอดเยี่ยม Deftones จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวงร็อกที่ประสบความสำเร็จในระดับแนวหน้าของโลกก็ว่าได้ หากใครติดตามบทสัมภาษณ์หรือติดตามเรื่องราวของ ชิโน โมเรโน อยู่บ่อย ๆ คงพอจะทราบกันว่า ถึงแนวเพลงของ Deftones จะหนักหน่วง แต่ตัวชิโน เอง กลับมีรสนิยมทางดนตรีที่กว้างไกลไปกว่านั้นมาก หลังจากที่พวกเขาจัดเทศกาลดนตรีของตัวเองที่มีชื่อว่า “Deftones-curated festival” พวกเขาก็ได้เชิญ CHVRCHES (อ่านว่า เชิร์ส-เชส) วงซินธ์ป๊อปชื่อดังจากสกอตแลนด์ มาเป็นหนึ่งในไลน์อัปใหญ่ โดยให้ตำแหน่งพิเศษรองจากชื่อพวกเขาเลยทีเดียว ด้วยความที่เพลงของสองวงนี้ดูจะไปคนละทิศละทางกัน อีกทั้ง ลอว์เรน เมย์เบอร์รี นักร้องนำวง CHVRCHES ยังเป็นผู้หญิง (ที่มีเสียงใสกิ๊งราวกับนางฟ้า) อีกต่างหาก จึงสะกิดต่อมดราม่าขึ้นจนได้ เพราะ เจมี จาสตา นักร้องนำวง Hatebreed
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ‘Rocketman’ หนังชีวประวัติศิลปินชื่อก้องโลก เอลตัน จอห์น (Elton John) ก็เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปหมาด ๆ ถึงแม้กระแสในไทยจะไม่ได้หวือหวาเท่า Bohemian Rhapsody หนังชีวประวัติวง Queen แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านเหรียญ (ยอดจากตาราง Box Office ทั่วโลก) จากทุนสร้างเพียง 40 ล้าน เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปอย่างงดงาม นอกจากตัวภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตก่อนจะมาเป็นท่านเซอร์เอลตัน จอห์นผู้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญเลยที่ทำให้หนังเรื่องนี้ทรงคุณค่าและให้แง่คิดมากมายคือความกล้านำเสนอด้านมืดของศิลปินมากความสามารถท่านนี้ เรียกได้ว่าเผยหมดเปลือกทั้งปัญหายาเสพติด ติดเซ็กซ์ และเสพติดการชอปปิงของเขา อย่างที่ทราบกันว่าภายหลังท่านเซอร์เอลตันได้เข้ารับการบำบัดและไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ไอ้เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งนี้จัดว่าเป็นของคู่กันกับบรรดาศิลปินชื่อดังยุค 70 เลยก็ว่าได้ ท่านเซอร์เอลตันจึงมักจะออกมาเล่าประสบการณ์แย่ ๆ สมัยที่แกเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะยาเสพติดให้เด็กรุ่นหลังได้ฟังเป็นอุทาหรณ์เสมอและเรื่องที่เรากำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ก็เป็นหนึ่งในวีรกรรมของแกเช่นกัน (แต่อาจจะไม่ได้คอขาดบาดตายถึงขนาดนั้นนะครับ) เอลตัน จอห์นได้ออกมาเผยผ่านหนังสือ Me: Elton John อัตชีวประวัติอย่างเป็นทางการของตัวเขาเองว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นมหาบุรุษแห่งดนตรีโฟล์กอย่าง บ็อบ ดีแลน เป็นคนสวน! ซึ่งความพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้มียาเสพติดเป็นเหตุ และท่านเซอร์ก็ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เอาไว้ดังนี้ “ช่วงปลายยุค 80 ผมเคยจัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงใน LA ผมเชิญทุกคนที่รู้จักมาร่วมงาน
วงการเพลงเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ปี แต่กว่าจะเห็น ‘การเปลี่ยนแปลง’ ที่ว่าออกมาเป็นรูปเป็นร่างก็มักจะผ่านไปแล้ว 10 ปีให้หลัง สำหรับปี 2019 นี้ เพลงใดก็ตามที่ถูกปล่อยเมื่อปี 2009 จะมีอายุครบสิบปีพอดิบพอดี พูดแบบนี้ฟังดูราวกับผ่านมาเนิ่นนาน แต่อันที่จริงถ้านั่งย้อนฟังดี ๆ หลายเพลงที่คุณชอบในวันนั้นกลับยังวนฟังได้ไม่เก่า เหมือนถูกปล่อยออกมาเมื่อไม่นานนี้เอง WEEKLY PLAYLIST สัปดาห์นี้ต่อเนื่องมาจากบทความ “BACK TO 2009″ เปิดกรุเพลงฮิตเมื่อ 10 ปีก่อน” ที่เราได้พูดถึงอัลบั้มในความทรงจำกันไป ครั้งนี้เราเลยจะมาชวนคุณเจาะเวลาหาอดีต ย้อนวันวาน ทบทวนความทรงจำกันแบบเพลงต่อเพลง เชื่อว่าต้องมีผลงานศิลปินคนโปรดคุณติดบ้าง อย่างน้อยก็สักเพลงหนึ่ง! Right Round – Flo Rida ปี 2009 เป็นยุคที่ยังไม่มี EDM ในผับ! ส่วนมากจะเปิดเป็นเพลงฮิปฮอปผสมอิเล็กทรอนิกส์เสียส่วนมาก ทำให้ Flo Rida กลายเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในการเปิดในผับ ใครเพิ่งเริ่มเที่ยวยุคนั้นคงจะคิดถึงเพลงสไตล์นี้ไม่น้อย (เราก็คิดถึง) Hotel Room Service –