เราหายใจอยู่บนโลกที่เทคโนโลยีรุกคืบเข้ามาในเขตแดนของชีวิตมากขึ้นทุกขณะ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกขณะของชีวิตเราต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยี เพราะเหตุนี้ศูนย์วิจัยเทเลเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีจึงลองคาดเดาทิศทางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2019 ไว้ 7 เรื่องด้วยกัน UNLOCKMEN ก็ไม่รอช้า เพื่อความรู้เท่าทันเราจึงสรุปทิศทางของแต่ละเทคโนโลยีมาให้เรียบร้อยแล้วว่าเราน่าจะได้เห็นอะไรเกิดขึ้นบ้างในปีนี้ 1. AI รูปแบบใหม่ที่มีกรอบของจริยธรรมเข้ามาเป็นตัวกำหนด AI กลายเป็นสิ่งที่หลายองค์กรใช้กันอย่างแพร่หลาย เมื่อเกิดความแพร่หลายสิ่งที่ตามมาคือการอยู่เหนือความควบคุมของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะบางครั้ง AI ก็อาจจะทำอะไรที่เกินกว่าความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงการให้ข้อมูลที่บิดเบือน และการละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล ปี 2019 นี้จึงมั่นใจได้เลยว่าหลายองค์กรจะเริ่มตรวจสอบไปพร้อมกับการสนับสนุนให้ใช้ AI มากขึ้น รวมถึงการกำหนดขอบเขตการใช้งาน AI ให้มีความละเอียดมากขึ้น พูดง่าย ๆ ปีนี้เราจะไม่มอง AI เป็นแค่หุ่นยนตร์ที่เกิดขึ้นเพื่อใช้งานแล้วจบไป แต่เราจะมองมันลงลึกในรายละเอียดถึงจริยธรรมและขอบเขตการใช้งานที่ซับซ้อนลงไป เพราะมัน AI นั้นซับซ้อนพอ ๆ กับการใช้งานมนุษย์สักคนให้ทำงานนี่เอง 2. DEEPFAKE จะแพร่หลายมากยิ่งขึ้น Deepfake คือเทคโนโลยีที่เกิดจากระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่สร้างขึ้นเพื่อนเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์อย่างแนบเนียน เป็นการสร้างข้อมูลปลอมที่แพร่กระจายอยู่เต็ม Social Media ในปี 2019
Elon Musk คือชายที่โลกตั้งฉายาให้ว่า Iron Man ในชีวิตจริง เพราะมุมมองเฉียบคมและมันสมองสุดอัจฉริยะ แถมยังเป็นเจ้าของบริษัทที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง SpaceX, Tesla และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนทรัพย์สินยิ่งไม่ต้องอธิบายให้มากความ เขามีมากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ แต่นอกจากเรื่องของความสำเร็จทะลุขีดความเป็นมนุษย์ที่เราพยายามนำเสนอรูปแบบการทำงานของเขามาให้ชาว UNLOCKMEN ได้เสพบ่อย ๆ แล้ว เราเชื่อว่าเราสามารถเข้าถึงความคิดของเขาผ่านหนังสือที่อ่านได้ UNLOCKMEN จึงอยากแนะนำหนังสือ 5 เล่มที่ Elon Musk อ่าน เพื่อเป็นแนวทางให้เห็นว่าคนที่ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้เขาสนใจอ่านอะไร Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future by Peter Thiel หนังสือเกี่ยวกับธุรกิจโดย ปีเตอร์ ธีล ผู้ได้ฉายาว่าเป็นประธานาธิบดีของโลกไร้เงินสด จากชายที่ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าทำงานในศาลสูง เขาคือหนึ่งในผู้สร้างธนาคารออนไลน์ชื่อดังอย่าง PayPal หนังสือเล่มนี้จึงไม่ต่างจากการแบ่งปันความคิดและทัศนคติในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตัวเองบนโลกแห่งการเงินในปัจจุบันของเขา Musk
ออกมาแล้วกับผลรายงานไตรมาส 4 ของปี 2018 กับรายชื่อแบรนด์แฟชั่นที่มีคนค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรกคือ Gucci, Nike Off-White, Balenciaga และ Polo Ralph Lauren ซึ่ง UNLOCKMEN จะมาวิเคราะห์กันว่าเพราะไอเท็มเด็ดชิ้นไหน รวมถึงมีเรื่องราวอะไรบ้างทำให้แบรนด์เหล่านี้ Hot ที่สุดในปี 2018 รายงานที่ว่านี้ถูกจัดอันดับโดย Lyst แพลตฟอร์มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นระดับโลกรายใหญ่ ได้เปิดเผยรายงานแบรนด์แฟชั่นยอดฮิตแต่ละไตรมาส โดยมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการค้นหาบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภคกว่า 5 ล้านครั้ง และพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักช้อปจนได้อันดับแบรนด์ที่ถูกค้นหามากที่สุดดังนี้ 1. GUCCI Gucci คือแบรนด์แฟชั่นที่ครองความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งเพราะการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของ Sir Elton John ในชื่อว่า Farewell Tour จำนวนกว่า 300 รอบทั้ง 5 ทวีป ที่เสื้อสูทของแบรนด์ก็ไปโผล่อยู่ในงานเสมอ รวมถึงแบรนด์สตรีทแฟชั่นประจำย่าน Harlem อย่าง Dapper Dan ที่ร่วมงานกับ Gucci ในด้านของผลงานได้ออก
เทคโนโลยีที่ไม่มีการควบคุมมักจะสร้างปัญหาให้พวกเราได้เป็นประจำ อย่างในปีนี้เราได้เห็นการขยายตัวของยานยนต์อัตโนมัติไร้คนขับหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า โดรน กลายมาเป็นของเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการเข้าถึงที่ง่าย ราคาไม่แพง จึงมีทั้งคนที่ซื้อไปใช้อย่างสร้างสรรค์ และคนที่ซื้อไปใช้สนองความต้องการแปลก ๆ ของตัวเอง ถึงแม้หลายประเทศจะยังไม่อนุญาตให้นำโดรนขึ้นบินอย่างอิสระ และต้องมีการขอใบอนุญาตหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนก็ตาม แต่แน่นอนว่ายังมีคนลักลอบนำโดรนขึ้นบินอยู่ดี และถ้าหากวันหนึ่งเราเจอกับโดรนแปลกหน้าบินเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคลขณะทำกิจกรรมส่วนตัวกับคนรู้ใจอยู่ แทนที่จะต้องคอยถามว่าของใคร การมีปืนสำหรับสอยโดรนให้ร่วงโดยที่ไม่สร้างความเสียหายเก็บไว้ซักกระบอกก็คงจะดีไม่น้อย เทคโนโลยีปืนสอย Drone นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับความน่าเป็นห่วงจากสารพัดปัญหาที่มาจากโดรนเถื่อน หรือล่าสุดกับปัญหา Drone ต้องสงสัยที่บินวนป่วนอยู่ในสนามบินประเทศอังกฤษจนการจราจรทางเครื่องบินปั่นป่วนไปหมด ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งเรื่องของเที่ยวบินที่ต้องถูกระงับ เพราะไม่สามารถนำเครื่องบินขึ้นได้ เนื่องจากอาจเกิดการชนโดรนและทำให้ตัวเครื่องบินเสียหาย เพราะการบังคับโดรนสามารถทำได้จากระยะไกล ทำให้ในบางครั้งก็ไม่อาจทราบได้ว่าผู้ที่ควบคุมโดรนนั้นอยู่ตรงไหน ยากจะหาต้นตอเจ้าของมันได้ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับโดรนที่ไม่ทราบที่มาที่ไป จึงทำให้บริษัท OpenWorks Engineering ของประเทศอังกฤษเร่งพัฒนาปืนสำหรับจำกัดโดรนในชื่อสุดเท่ว่า Skywall 100 ปืนขนาดใหญ่แบบวางบนบ่า (Shoulder-mounted) น้ำหนัก 10 kg ที่แม้จะหนักแต่มีประโยชนมากมายเพื่อให้องค์กรต่าง ๆ สามารถซื้อเจ้าปืนอันนี้ไว้ใช้ในยามจำเป็น หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างกรณีโดรนไม่ทราบที่มาบินเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ป้องกันการสอดแนม รวมถึงการรุกล้ำละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การใช้งานเจ้า Skywall 100 นั้นก็แสนจะง่ายดาย เพราะมันคือปืนที่จะสอยโดรนให้ร่วงอย่างง่ายดายด้วยแก๊สอัดลมพื่อส่ง หัวจรวด SP40 ติดตั้งตาข่ายไว้สำหรับจับโดรน
ที่สุดของตำนานนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ซามูไรหาญกล้าผู้ออกรบอย่างดุดันแม้จะมีตาเพียงดวงเดียว สำหรับชายผู้ที่ชื่นชอบความเท่แบบญี่ปุ่นและชื่นชอบซามูไร คงไม่มีใครไม่รู้จักกับยุค เซ็นโงคุ ที่สร้างชื่อให้กับเหล่านักรบผู้เก่งกาจ และนักสู้คู่ยุคเดือด ซามูไรนาม ดาเตะ มาซามุเนะ ชายที่เกิดมาพร้อมกับความบกพกพร่องทางสายตา แต่ด้วยความสามารถที่ไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงความแข็งเกร่งที่แสดงให้ทุกคนได้สัมผัสมากกว่าแค่ชื่อเสียง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น มังกรตาเดียวแห่งเซ็นโงคุ ดาเตะ มาซามุเนะ เกิดเมื่อปีค.ศ. 1567 ในปราสาทของตระกูลโยเนซาวะ เขาเป็นลูกชายคนโตของไดเมียว (ผู้ครองนคร) แคว้นมุตสึ มาซามุเนะสูญเสียตาขวาตั้งแต่กำเนิดด้วยโรคไข้ทรพิษ (Smallpox) แต่บางตำนานก็ได้เล่าขานเรื่องราวของเขาอย่างแปลก ๆ เช่น ผู้เป็นพ่อสั่งให้คนรับใช้ประจำตัวเป็นผู้ควักลูกตาออก แต่ยังไร้ซึ่งเหตุผลที่หนักแน่นพอมารองรับข้อสันนิษฐานนี้ และก็มองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่คนเราจะต้องควักลูกตาออกข้างหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามแต่ ดาเตะ มาซามุเนะ เป็นเด็กผู้ชายที่มีตาข้างเดียว ซึ่งความไม่สมบูรณ์นี้เองที่ถึงแม้จะเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลก็ตาม กลับไม่ได้เป็นที่รักของมารดาเท่าไหร่นัก และถูกมองว่าไม่คู่ควรกับการได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งไดเมียวแห่งโยเซนาวะผู้ครองแคว้นมุตสึ ด้วยนิสัยหาญกล้าบ้าบิ่น ชื่นชอบการแข่งขัน กระหายชัยชนะ จึงทำให้ มาซามุเนะ เป็นที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ยังเด็ก มีตำนานเล่าขานความโหดเหี้ยมเด็ดขาดของมาซามุเนะว่า เมื่อตอนอายุ 11 ปี และต้องแต่งงานกับ ทามูระ เมโงฮิเมะ แต่มาซามุเนะเกิดความหวาดระแวงว่าตระกูลทามูระจะพยายามหักหลัง เขาได้ลงมือสังหารคนรับใช้ของภรรยาตัวเองเสียสิ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าในสังคมญี่ปุ่นสมัยก่อนยังมีมุมมองเรื่องอายุที่ต่างกับยุคปัจจุบัน เด็กเกือบทั่วทั้งเอเชียมักแต่งงานเร็วเป็นเรื่องธรรมดา และเด็กอายุสิบกว่าขวบก็มีเรื่องครอบครัวและความรับผิดชอบมาให้คิดมากกว่าเด็กอายุรุ่นเดียวกันอย่างในปัจจุบัน หลังจากนั้นต่อมาในปี 1581
เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน แฟนคลับลูกหนังของทีมฟุตบอลปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงพอจะเห็นข่าวคราวที่ว่ามีนักเตะเยาวชนเด็กไทยจะได้เซ็นสัญญากับสังกัดแมนยู ฯ ผ่านตากันมาบ้าง รวมถึงเรื่องของฝีเท้าที่ไม่ธรรมดาทั้งที่ยังอายุน้อย กับลูกเตะฟรีคิกคิกอันโด่งดังของ Corbyn Murray ที่สื่อเทียบเคียงได้กับลูกเตะฟรีคิกของอดีตนักเตะชื่อดังอย่าง เดวิด แบคแฮม กันเลยทีเดียว คอร์บิ้น เมอร์เรย์ หรือ Corbyn Murray เด็กหนุ่มผู้โตมากับครอบครัวที่รักการเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะปู่เป็นนักฟุตบอลเก่า พ่อก็ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก Corbyn ก็เลยคลุกคลีอยู่กับฟุตบอลมาโดยตลอด และเมื่อเขาอายุ 8 ขวบ ก็ได้รับข้อเสนอจากสโมสรฟุตบอลของอังกฤษ และทำให้เขากลายเป็นนักเตะเยาชนลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย อย่างที่รู้กันดีว่าสโมสรแมนยู ฯ นั้นมีการคัดเลือกนักเตะระดับเยาวชนที่มีความเข้มข้น แต่ด้วยพรสวรรค์ที่โดดเด่นทำให้ Corbyn สามารถติดทีมเยาวชนของสโมสรชื่อดังอย่าง Manchester United ไม่ได้มีเพียงแค่สโมสร Manchester United เท่านั้น แต่ยังมีอีก 4 สโมรสรที่พร้อมจะรับ Corbyn เข้าทีมอคาเดมี ทั้ง Liverpool ที่เป็นทีมฟุตบอลโปรดของ Corbyn นอกจากนี้ยังมีสโมสร Blackburn Rovers F.C. ,
สำหรับช่วงเวลาเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่ ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน จะไป Iconsiam รถก็ติดสะบั้นเหลือเกิน ถ้าไม่รู้จะทำอะไรในวันว่าง การนั่งดูหนังอยู่บ้านก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังสุดโหดที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่ ที่จะเปลี่ยนวันแห่งความสุขให้กลายเป็นเรื่องสยองขวัญ บู๊สะใจจนลืมเรื่องเครียด ๆ ที่สะสมไว้ให้หายไปสิ้น Silent Night (2012) จะทำอย่างไรเมื่อฆาตกรสุดโหดสวมชุดซานต้าออกมาไล่ฆ่าคนในวันคริสต์มาส Silent Night คือภาพยนตร์รีเมคจากหนังสยองขวัญในปี 1984 เรื่อง Silent Night, Deadly Night ที่ในภาพยนตร์ฉบับสร้างใหม่นี้ได้นักแสดงอย่าง Jaime King จากเรื่อง Sin City และ The Spirit มารวมสร้างความระทึกขวัญกันหนังซานต้าสุดโหดนี้ พร้อมกับพล็อตหนังทริลเลอร์คลาสสิกกับเอาตัวรอดในการวิ่งหนีฆาตรสุดโหดที่ดูเมื่อไหร่ก็ยังคงตื่นเต้นได้ทุกครั้ง P2 (2007) หนังสยองขวัญที่มีชื่อไทยว่า “ลานสยอง จ้องเชือด” เมื่อนางเอกของเรื่องอย่างแองเจลล่าที่ทำงานจนดึกดื่นในคืนคริสต์มาสอีฟ เธอลงมาที่ลานจอดรถกลับพบว่ารถสตาร์ทไม่ติด โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองโดนขังอยู่ในตึกปิดตายด้วยฝีมือของยามรักษาความปลอดภัยโรคจิต ทำให้เธอต้องติดอยู่ในลานจอดรถโซน P2 แองเจลล่าจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกจากตึกปิดตายให้ได้ก่อนที่ยามโรคจิตจะตามหาเธอเจอ ซึ่ง
หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของมิตรภาพลูกผู้ชายที่แบ่งออกได้หลายประเภทมาก ๆ ทั้งเคยไม่ถูกกัน เคยต่อยตีกัน แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นเพื่อนตายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันโดยไม่รู้ตัว หรือผู้ชายที่สนิทกันเพียงเพราะความเมาในคืนก่อนหน้า ขับรถรุ่นเดียวกัน หรือเชียร์บอลทีมเดียวกัน ทั้งหมดทำให้เกิดการสร้างมิตรภาพแบบลูกผู้ชายที่ยากจะแตกหัก ถึงขนาดงานวิจัยยังบอกว่า ความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายยั่งยืนกว่าความสัมพันธ์แบบชาย-หญิง งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ถูกเขียนไว้บน Men and Masculinities เกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายที่เรียกว่า Bromance ซึ่งคำ ๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1990 จากการนำคำว่า Brother รวมกับ Romance กลายเป็น Bromance หมายถึง มิตรภาพในแบบผู้ชาย แนวคิดเรื่อง Bromance มีขอบเขตที่กว้างมากตั้งแต่เพื่อนรักไปจนถึงคู่รัก แต่ในที่นี้ UNLOCKMEN จะขอพูดถึง Bromance ในรูปแบบเพื่อนสนิทมิตรสหาย ทีมวิจัยจาก University of Winchester in England ได้ศึกษาว่าทำไมความสนิทของผู้ชายถึงอยู่ได้นานกว่าความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาว คำตอบที่ได้นั้นมีความน่าสนใจไม่น้อย เกือบทั้งหมดตอบว่า Bromance คือความสัมพันธ์ที่มีความเชื่อใจและไว้วางใจกันเหมือนกันพี่น้อง ในระดับที่จะยอมบอกความลับบางอย่างให้ฟังได้ เพราะความสบายใจจึงทำให้สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ปรึกษากันได้ดีกว่าความสัมพันธ์แบบคู่รักระหว่างชาย-หญิง ในด้านสุขภาพ การมีเพื่อนสนิทของผู้ชายนั้นยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยคลายความเครียด เติมเต็ม Self-Esteem สร้างความรู้สึกมั่นใจในการเข้าสังคมมากขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ชายด้วยกันจะเข้าใจกัน รู้ถึงตัวตนและสิ่งที่เป็น ในจำนวนนักศึกษาที่ทางทีมวิจัยได้ไปสัมภาษณ์กล่าวว่า เพื่อนผู้ชายจะตัดสินเขาน้อยกว่าบรรดาเหล่าแฟนสาว
ปัจจุบันโรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นและกลุ่มวัยทำงานมากที่สุด ทำให้หลายคนมองข้ามโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่มือใหม่หรือหญิงสาวตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะด้วยความไม่รู้ทำให้สังเกตอาการได้ยาก หากรับมือไม่ทันก็จะสร้างความสูญเสียให้แก่คู่สามีภรรยาที่กำลังจะสร้างครอบครัวเป็นอย่างมาก สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เมื่อรู้ว่ากำลังจะมีลูก สิ่งที่ทั้งคู่มักพุ่งเป้าให้ความสนใจเป็นส่วนใหญ่คือการศึกษาอาการในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งในบางครั้งอาจจะลืมและมองข้ามการศึกษาอาการและผลกระทบต่าง ๆ หลังคลอด อย่างเช่นอาการซึมเศร้าหลังคลอดบุตร ที่จะถือเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นช่วงเวลาอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวได้มากกว่าที่คิด อาการซึมเศร้าหลังคลอด เป็นเรื่องที่ต้องหมั่นสังเกตและให้ความใส่ใจกันเป็นอย่างมาก เคยมีกรณีชายหนุ่มที่ต้องสูญเสียภรรยาไปด้วยโรคซึมเศร้าหลังคลอด อย่างเช่นกรณีของ Kim Chen ที่แต่งงานกับแฟนสาวพยาบาล และเมื่อแฟนสาวของเขาตั้งครรภ์ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีจนถึงขั้นสร้างครอบครัวด้วยกัน กระทั่งเมื่อภรรยาของเขาคลอดลูกก็เริ่มเกิดความเครียด เวลาผ่านไปสองเดือน ภรรยาของเขาได้หายตัวไป Chen โทรแจ้งตำรวจและสุดท้ายก็พบว่าภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลงจากการฆ่าตัวตายเพราะความเครียดจากโรคซึมเศร้าหลังคลอดบุตร ดังนั้นการหมั่นดูแลเรื่องอารมณ์ของภรรยาหลังคลอดลูกจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ชายเรามองข้ามไม่ได้เด็ดขาด โดยอาการซึมเศร้าหลังการคลอดบุตรแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ระยะที่หนึ่ง ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด หรือ Postpartum Blue ที่คนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า Baby Blue อาการในระยะแรกถือเป็นอาการปกติที่สามารถเจอได้ทั่วไปสำหรับคุณแม่ที่พึ่งคลอด โดยจะมีความรู้สึกเศร้าซึมประมาณ 3-10 วันหลังจากคลอดบุตร เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างฉับพลัน รวมถึงความเครียดและแรงกดดันจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น เรื่องความสัมพันธ์ของคู่สมรส สุขภาพของทารก การคลอดบุตรก่อนกำหนด รวมถึงสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยเหตุผลต่าง ๆ จึงทำให้มีอาการอ่อนเพลีย
สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการศิลปะหรือคนทั่วไป แวนโก๊ะนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินชายผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะกว่า 2,100 ชิ้น และงานของเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาแพงและความดังอย่าง Sunflowers หรือ ภาพราตรีประดับดาว The Starry Night แต่กว่าที่เขาจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะสุดยอดศิลปิน เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาโรคซึมเศร้า คำครหา ความขัดแย้งกับเพื่อน รักที่ไม่สมหวัง รวมถึงหูซ้ายที่หายไป ฟินเซนต์ วิลเลียม ฟัน โกะ (Vincent Willem van Gogh) หรือที่คนไทยเรียกเขาในชื่อ วินเซนต์ แวนโก๊ะ ศิลปินชื่อดังในช่วงลัทธิ Post-Impressionism ที่ศิลปินในลัทธินี้จะเน้นการใช้สีสันที่จัดจ้าน เส้นหนา เน้นรูปทรงเรขาคณิต และความเหนือจริง ซึ่งผลงานของแวนโก๊ะนั้นมีหลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพนิ่ง ภาพเหมือน รวมถึงวาดภาพตัวเองด้วย แต่ผลงานทั้งหมดของเขานั้นจะมีจุดเด่นที่เหมือนกันคือความจัดจ้านของสี และลายเส้นของพู่กันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ถึงปัจจุบันชื่อของแวนโก๊ะจะโด่งดัง แต่ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตของเขานั้นช่างน่าเศร้า แวนโก๊ะเกิดในครอบครัวที่มีฐานะดี แต่กลับเป็นเด็กที่เงียบขรึม พูดไม่เก่ง มีท่าทางเงอะงะ และมีปมด้อยเรื่องอารมณ์ที่อ่อนไหวง่าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามจิตใจที่แท้จริงของเขานั้นอ่อนโยนและตรงไปตรงมา เขาเคยสร้างวีรกรรมตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำงานอยู่ในร้านขายภาพที่ปารีส ซึ่งบริษัทนี้ชอบเอารูปภาพชั้นเลวมาหลอกขายคนที่ไม่มีความรู้เรื่องศิลปะในราคาสูง ด้วยความเป็นคนตรงไปตรงมานี้ทำให้ครั้งหนึ่งแวนโก๊ะเคยบอกกับลูกค้าว่าอย่าซื้อภาพ จนทำให้เขาถูกไล่ออกทันที หลังจากโดนไล่ออก