Virgil Abloh ดีไซเนอร์ผู้ดำรงตำแหน่ง Artistic Director คนปัจจุบันของ Louis Vuitton พร้อมพาแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการสร้างความตื่นเต้นให้วงการแฟชั่นอีกครั้งโดย Virgil ออกผลงานดีไซน์ใหม่เป็นหูฟังสุดหรูที่ประทับตราสัญลักษณ์ของ LV หูฟังแบบ Wireless earphones กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความสะดวกและใช้งานง่าย จึงไม่แปลกที่แบรนด์ทั้งหลายต่างก็ออกหูฟังแบบไร้สายมาแข่งขันกันมากขึ้น รวมถึงแบรนด์แฟชั่นอย่าง Louis Vuitton ด้วย Louis Vuitton Horizon Earphones คือหูฟังที่ได้รับการพัฒนามาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเสียงอย่างบริษัท Master & Dynamic จึงการันตีเรื่องคุณภาพเสียงที่จะได้รับว่ามีความทุ้มลึก คมชัดอัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอน ด้านดีไซน์ Louis Vuitton ก็มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีดำ สีแดง และสีน้ำเงินสลับเหลือง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 3.5 ชั่วโมงโดยการชาร์จแบตเต็มหนึ่งครั้งและสามารถชาร์จเพิ่มกับกล่องเก็บหูฟังได้อีก ทำให้สามารถสัมผัสดนตรีได้กว่า 20 ชั่วโมง พร้อมกับระบบควบคุมการสั่งงานแบบสัมผัสที่ตัวหู อย่างไรก็ตาม Louis Vuitton Horizon Earphones นั้นไม่ใช่หูฟังที่ออกแบบใหม่ล่าสุด เพราะหูฟังตัวนี้คือรุ่น
เหตุการณ์วางระเบิดและบุกกราดยิงที่โรงแรม Dusit D2 ในเมืองไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยากลายเป็นข่าวดังครึกโครมไปทั่วโลก หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มก่อการร้าย Al-Shabaab อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ Al-Shabaab เป็นใคร? และพวกเขาทำแบบนี้ทำไม? Al-Shabaab หรือกลุ่มอัล-ชาบับ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 เป็นกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงที่เป็นผลผลิตจากความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากโค่นล้มผู้นำเผด็จการซึ่งเป็นฐานอำนาจเดิม กลุ่มก่อการร้ายนี้มีฐานกำลังอยู่ในสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียบริเวณใกล้กับประเทศเคนยา หัวหน้ากลุ่มของ Al-Shabaab คือนาย Ahmad Umer วัย 47 ปี เขาคือชายที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัวเป็นอย่างมากถึงกับตั้งค่าหัวให้ถึง 6 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 190 ล้านบาท และเฝ้าจับตากลุ่มก่อการร้ายนี้เป็นพิเศษเนื่องจากกลุ่มก่อการร้าย Al-Shabaab นั้นมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายชื่อดังอย่างกลุ่ม Al-Qaeda แต่ภายหลังทั้งสองฝ่ายมีอุดมการณ์บางอย่างต่างกัน กลุ่มก่อการร้ายทั้งสองกลุ่มจึงแยกกันอย่างชัดเจน แม้จะเป็นกลุ่มก่อการร้ายชาวมุสลิมหัวรุนแรง แต่สมาชิกระดับสูงของกลุ่ม Al-Shabaab นั้นมีคนจากหลากหลายเชื้อชาติเข้าร่วมด้วย และคาดว่ามีสมาชิกราว 8,000-10,000 คน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือตั้งรัฐบาลอิสลามเคร่งจารีตให้สำเร็จ กลุ่มก่อการร้ายที่มีสมาชิกเกือบหมื่นคนหารายได้และอาวุธสงครามมาจากไหน? เหล่านักวิเคราะห์คาดว่าที่มาของรายได้หลักคือการดีลกับเจ้าหน้าที่ท่าเรือขนส่งสินค้าหลายแห่งในแถบแหลมแอฟริกา ในปี 2011 สหประชาชาติเคยประเมินรายได้ของกลุ่มก่อการร้าย Al-Shabaab ว่าสร้างรายได้กว่า
บ่อยครั้งที่ภาพยนตร์เลือกหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับความทรงจำมาเล่าอย่างเหนือจริง ทั้งการถ่ายโอนความทรงจำของคนหนึ่งไปสู่อีกคน เมื่อโอนความทรงจำสำเร็จเราก็จะกลายเป็นคนคนนั้น เราจะมีลักษณะและบุคลิกที่เหมือนกันเพราะใช้ความทรงจำเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ดูเป็นสิ่งที่เป็นจริงได้แค่จินตนาการหรือหนังเท่านั้น แต่ UNLOCKMEN อยากจะบอกว่าการถ่ายโอนความทรงจำไม่ได้มีแค่ไหนหนัง Sci-fi อีกต่อไป เพราะนักวิทยาศาสตร์สามารถถ่ายโอนความทรงจำของสัตว์ได้แล้ว แม้จะยังไม่สามารถถ่ายโอนความทรงจำของมนุษย์ได้ แต่การถ่ายโอนความทรงจำของสัตว์สำเร็จถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่ทำให้วงการวิทยาศาสตร์พัฒนาไปอีกขั้น มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า UCLA ได้เริ่มทำการทดลอง Memory transplant เปลี่ยนถ่ายความทรงจำของหอยทากทะเล Aplysia californica ได้สำเร็จ ผลการวิจัยครั้งนี้ตีพิมพ์ลงวารสาร eNeuro รายงานถึงการฝึกให้หอยทากทะเลกลุ่มหนึ่งสร้างกลไกเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายเมื่อโดนกระแสไฟอ่อน ๆ สัมผัสบริเวณส่วนหาง โดยสาเหตุที่เลือกใช้หอยทากทะเล Aplysia californica นั้นเป็นเพราะเซลล์ประสาทของหอยทากทะเลชนิดนี้มีระบบกลไกการทำงานที่คล้ายกันหลายอย่างกับเซลล์ประสาทของมนุษย์ ผลจากการฝึกให้หอยทากกลุ่มตัวอย่างมีปฏิกิริยาต่อสิ่งเร้าและรู้จักป้องกันตัว ในที่สุดหอยทากทะเลกลุ่มนี้ก็เรียนรู้ที่จะหดตัวกลับเข้าเปลือกเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องโดนกระแสไฟฟ้าช็อตอีกครั้ง และหลบอยู่ในเปลือกนานกว่า 50 วินาที ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมการหลบหนีที่นานกว่าหอยทากกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้รับการฝึก เมื่อสอนให้หอยทากมีปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างจากหอยทากทั่วไปได้แล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้สกัด RNA ของหอยทากกลุ่มนี้ออกจากระบบประสาทและนำไปฉีดให้กับหอยทากทะเลอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่เคยถูกฝึกให้หลบหนีจากกระแสไฟฟ้าช็อต ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าทึ่งเพราะหอยทากกลุ่มหลังที่ไม่เคยผ่านการฝึกมาก่อนมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบเดียวกับหอยทากที่ผ่านการฝึก โดยการถ่ายโอน RNA ไม่ทำให้หอยทากทะเลกลุ่มที่สองได้รับบาดเจ็บหรือสร้างความเสียหายทางกายภาพจากการทดลองครั้งนี้อีกด้วย กุญแจสำคัญของการถ่ายโอนความทรงจำอยู่ใน RNA ที่มีชื่อเรียกแบบเต็ม ๆ ว่ากรดไรโบนิวคลีอิก (Ribonucleic acid
หลังจากเมื่อปี 2016 แบรนด์เสื้อผ้ากีฬายักษ์ใหญ่อย่าง Nike ได้เปิดตัวรองเท้าผูกเชือกเองได้รุ่น Self-Lacing Hyperadapt 1.0 ไปแล้วในราคา 720 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงพอสมควร แต่ถ้าหากมองว่านี่คือเทคโนโลยีที่เราต้องรอนานกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ที่ Back to The Future II ออกฉายเมื่อปี 1989 ก็นับว่าเกินคุ้ม และในปี 2019 นี้ Nike ได้นำรองเท้าอัจฉริยะกลับออกมาวางจำหน่ายอีกครั้งในราคาที่ถูกลงกว่าการจำหน่ายในปี 2016 โดยมีราคาอยู่ที่ 350 ดอลลาร์ และใช้ชื่อว่า Adapt BB รองเท้าสำหรับกีฬาบาสเก็ตบอลที่ปรับรูปทรงให้เข้ากับรูปเท้าที่แตกต่างกันของผู้สวมใส่ได้อย่างอัตโนมัติ พร้อมรูปทรงสุดเท่และแถบไฟสีฟ้าที่ให้ความรู้สึกล้ำสมัยกว่าใคร อย่างที่รู้กันดีว่า Nike คือแบรนด์รองเท้าบาสเก็ตบอลเบอร์ต้น ๆ ของโลกที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการบาสเก็ตบอลมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อย่างเช่นการร่วมงานกับราชานักบอสอย่าง Michael Jordan ที่ร่วมกันออกรองเท้าสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาบาสเก็ตบอลใน Air Jordan เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จึงทำให้ Nike สามารถครองใจเหล่านักกีฬารวมถึงผู้ชื่นชอบ Sneaker
ถึงแม้จะมีงานรัดตัวแค่ไหนก็ตาม แต่สุดยอดดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งยุคอย่าง Virgil Abloh ก็ไม่เคยหยุดพัก เพราะตอนนี้เขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับโปรเจกต์พิเศษที่จะมาสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าคอแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยการประกาศตัวว่าจะก้าวเข้าสู่วงการจิวเวลรี่อย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน Virgil Abloh ดำรงตำแหน่งเป็น Artistic Director ให้กับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Louis Vuitton และแบรนด์เสื้อผ้าสตรีทสุดเท่ Off-White ที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดโชว์คอลเลกชันเสื้อผ้า Fall/Winter 2019 ของ Off-White ที่กำลังจะมีขึ้นที่ Paris Fashion Week อันใกล้นี้ แต่ถึงจะยุ่งเขาก็วางแผนและพร้อมส่งผลงานเดบิวต์ในวงการจิวเวลรี่เรียบร้อยแล้ว ไอเทมในคอลเลกชันจิวเวลรี่ของ Virgil จะมีทั้งสร้อยคอ ตุ้มหู รวมถึงเข็มกลัดหลากหลายรูปแบบ โดยทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากคลิปหนีบกระดาษที่เจอได้ทั่วไปตามสำนักงาน ถึงจะดูเป็นของใช้ในออฟฟิศธรรมดา ๆ แต่ Virgil พูดถึงโปรเจกต์นี้ว่าเขาใช้เวลากว่า 3 ปี ทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้คลิปหนีบกระดาษกลายเป็นเครื่องประดับที่ไม่ธรรมดา สำหรับการหยิบของใช้ทั่วไปในสำนักงานมาเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับสุดเท่ ก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นมาบ้างแล้วในวงการแฟชั่นที่นำคลิปหนีบกระดาษมาทำเป็นไอเทมแปลก ๆ อย่างหนุ่มแรปเปอร์ชื่อดังจากเกาหลีอย่าง G-Dragon ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้ทุกคนอึ้งด้วยการนำคลิปหนีบกระดาษมาเพิ่มลูกเล่นให้ผลงานของตัวเองภายใต้แบรนด์ PEACEMINUSONE รวมไปถึง Money Clip คลิปหนีบกระดาษสีเงินจากแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Prada ที่ผลิตอย่างประณีต
เมื่ออาวุธเคมีที่มีคุณสมบัติทำลายล้างสูงอย่างแก๊สพิษไม่ได้ถูกใช้แค่ในสมรภูมิรบเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อทำลายล้างประชาชนทั่วไปด้วย ดังนั้นไม่ว่าใครต่างก็ต้องเตรียมรับมือกับอากาศปนเปื้อนที่พร้อมจะฆ่าเราได้ทุกเมื่อ ชีวิตที่ต้องใส่หน้ากากกันแก๊สพิษตลอดเวลาจะเป็นอย่างไร ? UNLOCKMEN จะพาย้อนเวลาไปสู่ยุคที่ทุกคนต่างก็ต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน สงคราม ควันและแก๊สเป็นสิ่งที่ถูกใช้งานคู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยการใช้ควันไฟไล่ต้อนศัตรูคู่ตรงข้ามให้ออกมาจากถ้ำ และในบางครั้งก็เพิ่มสารหนูลงไปในวัตถุดิบที่ใช้เผาไหม้ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อมีแก๊สพิษจึงทำให้มีหน้ากากกันแก๊ส จุดเริ่มต้นของสังคมหน้ากากจึงเริ่มต้นขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่นับเป็นการนำ Chemical weapons หรืออาวุธเคมีมาใช้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นแก๊สน้ำตาที่เป็นอาวุธเคมีรุ่นแรกจากคลังแสงที่กลุ่มทหารฝรั่งเศสนำมาเริ่มใช้ในปีค.ศ. 1914 เมื่อทหารฝ่ายตรงข้ามสูดดมเข้าไปจะทำให้เยื่อบุโพรงจมูกระคายเคือง ส่งผลต่อหลอดลม ปอด รวมถึงดวงตา นอกจากแก๊สน้ำตาแล้วยังมีคลอรีนของฝ่ายกองทัพเยอรมัน เมื่อสูดดมเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและระบบการมองเห็น ทำให้ร่างกายเกิดสภาวะ Asphyxia หรือที่เรียกว่าภาวะร่างกายขาดออกซิเจนเฉียบพลัน มีอาการเจ็บหน้าอก อาเจียน และเสียชีวิตภายใน 2-3 นาที รวมไปถึงอาวุธเคมีชนิดอื่น ๆ อย่าง ฟอสจีน และ มัสตาร์ด จึงเรียกได้ว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างก็งัดอาวุธเคมีขึ้นมาสู้กันอย่างดุเดือด เมื่ออาวุธเคมีทวีความร้ายกาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างต้องเร่งผลิตหน้ากากกันแก๊สพิษขึ้นมาใช้อย่างจริงจัง แต่หน้ากากในช่วงแรกนั้นไม่สามารถต้านพิษจากสารเคมีที่ลอยอยู่ในอากาศได้ 100% จึงทำให้หน้ากากเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเผาใบหน้าของผู้สวมใส่ และเมื่อถอดหน้ากากออกก็จะต้องสูดดมแก๊สพิษ ซึ่งไม่ว่าจะใส่หรือถอดก็แย่อยู่ดี อาวุธเคมีมีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดจำนวนฝ่ายตรงข้ามจึงทำให้บางครั้งมีการทิ้งระเบิดเคมีลงในเมืองใหญ่ ประชาชนต้องสูดดมอากาศที่เป็นพิษ แต่ละฝ่ายจึงต้องเร่งหาวิธีเพื่อป้องกันการจู่โจมของประเทศฝ่ายตรงข้ามที่ไม่รู้ว่าจะปล่อยระเบิดเคมีเมื่อไหร่
ในสังคมที่เต็มไปด้วยความเครียด ความสับสนและความโดดเดี่ยว ไม่แปลกที่ผู้คนจะรู้สึกอ้างว้างและความอ้างว้างนี้ก็กัดกินเราแทบตลอดเวลาไม่ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายหรืออยู่ลำพังก็ตาม แม้เราจะอ้างว้างและเหงากันจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ ความเหงา กลับอันตราย รวมถึงส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าที่คิด งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่าคนที่ตกหลุมพรางของความเหงามีแนวโน้มจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่ชอบเข้าสังคม 50% ด้วยตัวเลขที่สูงมากจึงทำให้นักสังคมวิทยาได้ออกมาเตือนถึงอันตรายที่เป็นผลพวงมาจากความเหงา การศึกษาระบุว่าชาวอเมริกันมากถึงหนึ่งในสามไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกเหงาด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับผู้สูงอายุจะรู้สึกเหงามากกว่าคนวัยอื่นถึง 18% และความเหงาเป็นเหตุที่ทำให้เราตายได้ Julianne Holt-Lunstad ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก Brigham Young University ได้นำเสนองานวิจัยของสมาคมจิตวิทยาอเมริกันที่สำรวจผู้คนกว่า 3.4 ล้านคนในสหรัฐ ฯ (รวมถึงการสำรวจในทวีปยุโรปและเอเชีย) พบว่าผลของความเหงาที่เกิดจากการอยู่คนเดียวนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียกับร่างกายและชีวิตวัยเด็กได้เท่ากับโรคอ้วน เพราะยิ่งเหงาจะยิ่งเครียด และยิ่งเหงาก็จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนามีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าความเหงาร้ายกาจพอ ๆ กับโรคเบาหวาน อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด รวมไปถึงงานวิจัยที่พูดถึงอันตรายของความเหงาในคอนเทนต์ Loneliness Kills: เป็นคนเหงามันเจ็บปวด เพราะการเหงา “อันตรายกว่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน” ที่แสดงให้เห็นว่าความเหงาอันตรายเทียบเท่ากับโรคมะเร็งปอดที่มาพร้อมกับบุหรี่ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความน่ากลัวของความรู้สึกอ้างว้างที่สามารถทำร้ายเราได้ นอกจากความเหงาที่ทำให้เกิดโรคแล้ว ศาสตราจารย์ Holt-Lunstad ยังแจ้งให้คนทั่วไปได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของความเหงา และพยายามหาวิธีสลายความรู้สึกเหงา รวมถึงค้นหาคำตอบว่ากลุ่มคนประเภทไหนจะมีอัตราเสี่ยงเผชิญกับความเหงามากที่สุด คำตอบที่ได้นอกจากเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มักเหงาอยู่บ่อย ๆ แล้ว เรื่องของอายุที่ยืนยาวของเหล่าเศรษฐีก็ส่งผลทำให้เหงาได้ง่ายกว่าคนที่มีฐานะทั่วไปเช่นกัน เมื่อพวกเขาป่วย เขาพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อรักษาโรค และใช้เงินไปกับการซื้อความสุข เสริมสุขภาพจิตด้วยการไปเที่ยวต่างประเทศหรือกินอาหารที่ชอบ แต่จากผลสำรวจนั้นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐีเหล่านี้ถึงจะอายุยืนแต่อัตราการแต่งงานนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อไม่แต่งงานก็ไม่มีลูกหรือบางคนที่แต่งงานก็หย่าร้างและอยู่ตัวคนเดียว
ทุกคนต่างรู้ดีว่ายาเสพติดทุกชนิดนั้นให้โทษและเต็มไปด้วยพิษภัย แต่ภายใต้พื้นผิวแห่งความอันตรายก็กลับกลายเป็นว่า “ความลึกลับ” และ “ความท้าทาย” นั้นกำลังรอการเผยตัวอยู่ นั่นเป็นเหตุผลให้คนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจมุ่งเข้าสู่วังวนของยาเสพติด แต่ถ้าให้เจาะลึกลงไปถึงเหตุผลจริงแท้มากกว่าความอยากลองว่าเพราะอะไรคนถึงหันมาเสพยา ? UNLOCKMEN อาสาหาคำตอบมาให้ถึงที่แล้ว พันธุกรรมทำให้เราเสพติด บทความเทคโนโลยีทางการแพทย์เขียนถึงเรื่องพันธุกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละคนและพบว่ายีนมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากลองใช้สารเสพติดได้ง่ายขึ้นจริง หนังสือเรื่อง “โคเคน พิษร้ายจากอเมริกาใต้” เขียนโดยกลุ่มแพทย์ที่ทดลองทฤษฎีเกี่ยวกับโคเคนและได้คำตอบที่น่าสนใจว่าผู้มีความบกพร่องทางพันธุกรรมบางประเภทที่ส่งผลทำให้มีอาการจิตเภท หรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าจะมีส่วนที่ทำให้พวกเขาเริ่มหันมาใช้ยาเสพติดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป สภาพแวดล้อมรอบตัว การสำรวจระบุว่าผู้อาศัยย่านใจกลางเมืองจะตัดสินใจริลองยาเสพติดง่ายกว่าตามเขตชายขอบ เพราะมีผู้ค้าจำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อก็มีจำนวนมากตาม การเข้าถึงยาเสพติดจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากถ้าอยู่กลางเมือง รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัว เช่น กลุ่มเพื่อน คนใกล้ชิด เพราะเมื่อเราเห็นกลุ่มเพื่อน ๆ นัดกันปาร์ตี้เล่นยา บางครั้งอาจเกิดความรู้สึกอยากใช้ยาบ้างเพื่อทำให้ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนมากขึ้น เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ สภาพเศรษฐกิจมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจใช้ยาของคนในสังคม บางคนเป็นหนี้ เกิดความเครียดและหาทางออกด้วยการเริ่มต้นยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยจะเริ่มจากประเภทไม่ร้ายแรงอย่างบุหรี่หรือแอลกอฮอล์ และเมื่อมีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่อาจจะลามไปถึงโคเคนหรือเฮโรอีนก็เป็นได้ ในขณะที่เรื่องภาษีก็มีส่วนกำหนดอัตราการใช้สารเสพติดของผู้คนได้เช่นกัน บางรัฐในสหรัฐฯ มีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำเนื่องจากภาษียาสูบแพงกว่าที่อื่น เมื่อยาเสพติดมีราคาแพงขึ้นคนก็จะใช้น้อยลงไปเอง เพราะถ้ายามันแพงเกินไปใครจะจ่ายไหวล่ะ บุคลิกภาพ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบุคลิกภาพถูกจัดให้เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจใช้ยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดประเภทอื่น ๆ เพราะบุคลิกในภาพยนตร์หลายเรื่องที่พระเอกโคตรจะเท่เวลาถือซิการ์ หรือบทบาทเจ้าพ่อมาเฟียที่มาพร้อมยาเสพติดทุกประเภทที่ไม่ว่ามุมไหนก็ให้ภาพลักษณ์ที่ไม่ธรรมดา
ผู้ชายไทยอย่างเรารู้ดีว่าปีนี้คือปีหมู แต่ใช่ว่าคนทั้งโลกจะรู้ไปกับเราด้วยเพราะชาติตะวันตกนั้นไม่ได้มีการนับปีตามปฏิทินนักษัตรเหมือนอย่างประเทศในทวีปเอเชียตะวันออก แต่ถ้าเป็นเรื่องของแฟชั่นนั้นย่อมไม่มีคำว่าขอบเขตหรือเชื้อชาติ เพราะ Gucci แบรนด์แฟชั่นระดับโลกก็อินกับปีหมูและออกคอลเลกชันเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีนด้วยการนำหมูมาอยู่ในงานดีไซน์ได้อย่างลงตัว Gucci ภายใต้การนำของ Alessandro Michele ดีไซเนอร์หนุ่มมากความสามารถที่มีแนวคิดไม่เหมือนใคร ได้หยิบตัวการ์ตูนชื่อดังตั้งแต่สมัย 1993 อย่าง Three Little Pigs หรือที่คนไทยรู้จักกันได้ในชื่อ ลูกหมูสามตัว จากค่ายการ์ตูนชื่อดังอย่าง Disney นิทานเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในทุกยุคทุกสมัยมาสร้างสรรค์เป็นผลงานแฟชั่นได้อย่างสนุกสนาน เพราะปีนี้คือปีหมู และ Alessandro Michele คือแฟนคลับตัวยงของ Disney เขาจึงไม่พลาดที่จะหยิบเรื่องราวของลูกหมูสามตัวที่บอกเล่าเรื่องราวของความขยันและขี้เกียจมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งโดยการนำลูกหมูทั้งสามตัวมาอยู่บนเสื้อผ้าในคอลเลกชั่น Ready-to-Wear ทั้งเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีนที่กำลังจะมาถึง สำหรับลายปัก Three Little Pigs หรือลูกหมูสามตัวจะถูกปักไว้บนไอเทมต่าง ๆ ของคอลเลกชันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย แว่นกันแดด ผ้าพันคอ หมวก นาฬิกาข้อมือ หรือกระเป๋าสุดคูลที่ผู้ชายคอแฟชั่นควรมีอย่าง Beanie Tote Bag รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ขนกันมาทุกแบบทุกสไตล์ ทั้งเสื้อโปโล เสื้อเชิ้ต รวมถึงเสื้อแจ๊คเก็ตที่ปัก และไฮไลต์อย่างรองเท้าสนีกเกอร์ยอดฮิตของแบรนด์อย่าง Ace ที่เปลี่ยนความเรียบง่ายให้เป็นความเท่เฉพาะตัวด้วยเจ้าลูกหมูสามตัวที่แปะทับลายสัญลักษณ์แถบสามสีของ
ในบางครั้งเราอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและคิดว่ามีเพียงแค่เราเท่านั้นที่ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกแย่และผิดหวังให้ออกไปจากใจได้ แต่แท้จริงแล้วในโลกใบนี้มีคนมากกมายกำลังเผชิญกับความรู้สึกด้านลบและพยายามกำลังจัดความรู้สึกแย่ ๆ ออกไปอยู่เช่นกัน ดังนั้น UNLOCKMEN จึงอยากตบบ่าแนะนำวิธีที่จะทำให้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเครียด ความเศร้าและความรู้สึกแย่ ๆ ให้สามารถผ่านมันไปให้ได้ เพราะโลกไม่ได้มีเพียงเราแค่คนเดียวที่กำลังเครียด จากการสำรวจในงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าชาวอเมริกันจำนวนกว่า 16 ล้านคน ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกแย่ ๆ ได้ และจากความเครียดที่ต้องเผชิญจึงทำให้โรคซึมเศร้ากลายเป็นอาการทางจิตเวชที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐ ฯ บุคคลที่ทางการแพทย์ให้คำนิยามว่าเป็น โรคซึมเศร้า จะมีอาการหลายอย่างที่แสดงออกมาอย่างเช่น ความเครียด ความเศร้า ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากเคลื่อนไหวร่างกายมากนัก หรือลดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ ไม่อยากอาหาร รวมถึงนอนหลับไม่สนิท บางคนอาจจะยังไปไม่ถึงคำว่าโรคซึมเศร้า หากมีความเครียดอยู่ในหัวตลอดไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม การใช้ชีวิตในแต่ละวันจะมีความยากลำบากมากขึ้น อย่างเช่นการสะบัดผ้าห่มแล้วลุกออกจากเตียงอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และความเครียดจะก่อให้เกิดความรู้สึกว่าไม่พร้อมก้าวออกจากเตียงเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวัน เพราะมวลความเครียดที่กระจายอยู่ทั่ว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตหลายคนจึงได้แบ่งปันเคล็ดลับที่จะทำให้ผู้ที่มีความเครียดหรือความกังวลใจสามารถเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างราบรื่น วางแผนล่วงหน้าก่อนลุกจากเตียง หากวันไหนเริ่มรู้สึกว่ากลุ่มก้อนความสิ้นหวังกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ การสำรวจอารมณ์ของตัวเองในตอนเช้ารวมถึงวางแผนเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเจอเมื่อลุกจากเตียงคือการเริ่มต้นที่ดี เช่น การตั้งปลุกล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะตื่นขึ้นจริง ปกติเราอาจตื่นตอน 8 โมงเช้า ก็ให้เปลี่ยนไปตั้งปลุกเป็น 7 โมง และลุกออกจากเตียงอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง Harben Bradford นักจิตวิทยาในรัฐจอร์เจียกล่าวว่า