เจอมานักต่อนักเวลาอยากนั่งทิ้งตัวสบาย ๆ แต่ดันโดนเรียกให้ไปทำโน่นทำนี่ พอไม่ทำเท่านั้นแหละ จะแม่ จะแฟน จะเพื่อนก็พูดใส่ว่า นั่งจนรากงอกแล้ว ลุกไปทำอะไรอย่างอื่นเดี๋ยวนี้! แล้วการนั่งจนรากงอกมันไม่ดีตรงไหน? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาปวดขมองของนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทันที เมื่อคนทำเขาต้องผลิตออกมาเน้นความสบายให้คนนั่งได้แช่ แต่ค่านิยมสังคมดันมองว่าเป็นคนขี้เกียจซะงั้น แบรนด์ BURROW ที่เกิดขึ้นมาสร้างเฟอร์นิเจอร์เพื่อการนั่ง ๆ นอน ๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเบาะ โซฟา หมอน หรือเก้าอี้ เลยใช้วิธีฮุคกลับคนพูดประโยคเหล่านี้ ด้วยการสร้างแอปพลิเคชันกวนตีนสนุก ๆ มากลบ pain point กระตุ้นยอดขายมันเสียเลย “Couch Potato” คือแอปพลิเคชันต่อยอดการตลาดของ BURROW ที่ตั้งชื่อมาจากสำนวนเรียกการนั่งนาน ๆ หรือที่เรียกคุ้นปากคนไทยเราว่า “นั่งจนรากงอก” ที่เขาสร้างมาเพื่อชวนให้เราผ่อนคลาย ทำออกมาคล้ายกับเกมเป็นมิชชั่น ให้เราเอาชนะด้วยการนั่งให้นานที่สุด พอเราเริ่มกด Start ปุ๊ป ตัวแอปฯ จะเริ่มจับเวลาจากการนั่ง หากเรานั่งนานไม่ลุกไปไหนเลยจนถึงจุดหนึ่ง เจ้ามันฝรั่งของเราที่นั่งอยู่บนโซฟาในแอปฯ (เหมือนกับที่เรานั่งตอนนี้) มันก็จะเริ่มมีต้นอ่อนออกงอกขึ้นมา แบ่งเป็นเลเวล ๆ ให้เราเห็นรายละเอียดจากแรกผลิ ไปจนถึงงอกลำต้น
ความรักทำให้ทุกสิ่งอ่อนนุ่ม แข็งขืน มีพลังและท้อถอยไปพร้อมกัน อาจเรียกได้ว่ามันคือตัวแปรประหลาด ๆ ในโลกนี้เพียงอย่างเดียวที่พร้อมจะสูบเราให้จมดินหรือส่งขึ้นฟ้าก็ได้ ช่วงชีวิตลูกผู้ชายเราทุกคนคงต้องเคยได้รับบททดสอบ “ความรัก” ด้วยกันทั้งนั้น มุมที่ทำให้ความแกร่งของเราไร้ค่าไร้ความหมาย จนต้องเผยความโรแมนติกออกมา ไม่เว้นแม้แต่วีรบุรุษคิวบาที่เราชื่นชม นักปฏิวัติชาวอาร์เจนตินาชื่อก้องโลกที่ยังคงเห็นภาพของเขาอยู่ทุกวันนี้ในฐานะ iconic ของขบถ นักปลดแอกทางสังคมลัทธิมาร์กซิสอย่าง Ernesto Guevara (เอร์เนสโต เกวารา) หรือที่รู้จักกันด้วยชื่อ “Che Guevara” (เช เกวารา) UNLOCKMEN ขอพาคุณไปรู้จักแง่ความเป็นมนุษย์ผู้อ่อนไหวของผู้ชายที่ไม่เคยสิ้นชื่อจากวงการอุดมการณ์และความเท่าเทียม ในมุมมองที่น้อยคนจะมีโอกาสรับรู้อย่าง “ความรัก” จากคนที่ใกล้ชิดร่วมสนามรบและเคียงหมอน Aleida March (อาเลย์ดา มาร์ช) ผู้หญิงของเช แน่นอนว่าถ้าใครติดตามชีวประวัติของ เช เกวารา (ออกเสียงตามอย่างคิวบา) ต้องรู้ว่า อาเลย์ดา มาร์ช ไม่ใช่เจ้าสาวคนแรกของเช แต่เธอคือเจ้าสาวคนที่สองและเป็นคนสุดท้ายในชีวิตที่เชรักที่สุด เจ้าสาวคนแรกของเช Hilda Gadea (อิลดา กาเอดา) คือนักเศรษฐศาสตร์ชาวเปรูที่ไม่ได้สะสวยนัก ชนิดที่ในสารคดีชีวประวัติเชได้กล่าวว่า เขาดูถูกหน้าตาของเธอแต่ชื่นชมที่เธอมีปรัชญาทางความคิดและการเมืองที่คล้ายกัน ดังนั้น ภาพความโรแมนติกระหว่างทั้งคู่จึงไม่ค่อยมีให้เห็น แต่หลายคนเชื่อว่าเธอคนนี้คือกุญแจผลักดันเขาเข้าสู่ฝ่ายซ้าย ก่อนที่เชจะไปพบกับ Fidel Castro
ต่อให้ไม่ติดเชื้อ I Hate Monday ทุกวันนี้การขุดตัวเองขึ้นจากที่นอนก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี ภาวะเตียงดูดแบบนี้ส่วนใหญ่เรามักใช้วิธีแก้อาการง่วงงุน ให้ตื่นตัวเต็มที่ด้วยการชงกาแฟเข้ม ๆ ดื่มสักแก้ว แต่ Morning Call เจ๋ง ๆ แบบลืมตาแล้วมีเครื่องดื่มร้อน ๆ รอพร้อมจิบอยู่ข้างเตียงมักจะเป็นอภิสิทธิ์ของคนมีคู่เสียเป็นส่วนใหญ่ เราเคยตื่นมาพร้อมภาวะแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง พอจะเข้าว่าเสียงช้อนโลหะกระทบแก้ว Mug มันชวนดีดให้ลุกจากเตียงแค่ไหน แต่ถ้าวันนี้ต้องกลายมาเป็นหนุ่มโสดที่อาศัยร้านกาแฟริมทางชงให้ดื่มแทนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะมีบางวันที่เราอดดื่มกาแฟหอม ๆ เพราะดันเผลอกด Snooze นาฬิกาไปหลายครั้ง กว่าจะลุกมาอาบน้ำอาบท่าออกจากบ้านได้ก็เกือบสายหวุดหวิด ไม่ต้องไปคิดถึงการซื้อกาแฟให้ทัน แล้วหันไปนั่งสัปหงกที่ออฟฟิศแทน Barisieur คือนวัตกรรมที่เกิดมาเพื่อเอาใจคอกาแฟชายโสด ออกแบบโดย Joshua Renouf ใช้งานง่ายแค่ใส่เมล็ดกาแฟที่ชอบลงไปในช่องที่เตรียมไว้พร้อมตั้งเวลาที่อยากตื่น พอถึงเวลา Coffee Brewer จะเริ่มทำงานสัมพันธ์กับตัวนาฬิกา ปลุกเราด้วยเสียงลูกโลหะสั่นกระทบกันจากการต้มน้ำ จากนั้นกลิ่นกาแฟสดที่ระเหยออกมาผ่านการดรอปน้ำร้อน ๆ ดริ๊ฟกาแฟจะช่วยปลุกให้เราตื่นขึ้น พร้อมความรู้สึกกระหายคาเฟอีน ถ้าใครอยากได้นม คอฟฟี่เมต น้ำตาล ด้านล่างข้างหน้าปัดดิจิทัลมีช่องสำหรับให้เปิดตักชง เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มแก้วที่ชอบได้ทันที ผ่อนคลายสุด ๆ เมื่อดื่มหมดแก้วปุ๊ป อยากจะหยิบไปลางก็แค่ดึงชิ้นส่วนต่าง ๆ แยกออกไปจากแท่นเพื่อล้างได้อย่างสะดวก พอแห้งก็นำกลับมาใส่ตามตำแหน่งเดิมเตรียมพร้อมปลุกให้ตื่นในเช้าวันถัดไป
“Swiss made คือหนึ่งในความนิยมของนักเล่นนาฬิกาทั้งมือเก่ามือใหม่ แต่ SEIKO จะเป็นนาฬิกาเรือนแรก ๆ ที่คนไทยใส่” เรานั่งพูดคุยเรื่องความนิยมกับพี่น้องที่รักและหลงใหลเรื่องนาฬิกา ชื่นชอบเรื่องวัสดุการผลิตสายลึกจนจู่ ๆ ได้ยินประโยคนี้ขึ้นมาระหว่างการพูดคุย จริงหรือเปล่าที่ Seiko เป็นแบบนั้น แต่คงไม่ต้องมองไปไหนไกล เมื่อที่ข้อมือเราเองก็คาดไว้หนึ่งเรือน แม้จะไม่ใช่ Limited Edition ก็ตาม ก็น่าจะจริงอย่างเขาว่า ทำไมแบรนด์นี้ถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คนไทยคิดถึง และยังเป็นหนึ่งแบรนด์ในดวงใจของชายหญิงผู้มองหาเรือนเวลาสักเรือนมาสวมใส่และสะสม หรือกระทั่ง Brand Heritage เขามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึง survive ข้ามกาลเวลามานับ 100 ปีแล้วก็ยังไม่ตกชั้น UNLOCKMEN จะพาไปดูหลาย ๆ มุมมองเหล่านี้ไปพร้อมกัน THE BEGINNING OF SEIKO Kintaro Hattori คือผู้เขียนตำนานของ Seiko เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำอาชีพขายของโบราณและได้รับ DNA เดียวกับพ่อมาเต็มเปี่ยมจึงใฝ่ฝันจะเป็นพ่อค้าตั้งแต่วัยสิบกว่าขวบ ก่อนเริ่มตัดสินใจว่าจะเป็นช่างทำนาฬิกาตั้งแต่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้นหลังไปที่ร้าน Kobayashi Clock Shop
ครั้งสุดท้ายที่เราเอาจริงกับการจัดบ้านมันเมื่อไหร่นะ? จู่ ๆ เราก็ตั้งคำถามตัวเองหลังจากเปิด Netflix เพลิน ๆ แล้วไปเจอซีรีส์สอนจัดบ้านของ Marie Kondo สาวญี่ปุ่นผู้หลงใหลการจัดระเบียบตั้งแต่ 5 ขวบ ตอนเรียนชั้นประถมก็ชอบจัดหนังสือในห้องสมุดมากกว่าไปวิ่งเล่น ถึงจะน่าเหลือเชื่อแต่นั่นแหละ มีสาวคุณสมบัติเพียบพร้อมแบบนี้อยู่จริง ๆ ความมหัศจรรย์ของข้าวของในบ้านที่โดนเคลียร์เสียเรียบเนี้ยบนิ้งในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นถูกดองให้รกมาเป็นสิบ ๆ ปี แถมพอเอาของทุกอย่างฉบับ before มากองสุมรวม ๆ ซ้อนกันแล้ว มันยังสูงกว่าตัวเธอ หรือครอบครัวที่เธอไปแก้ปัญหาให้เสียอีก เป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่า เอาวะ! เขาทำได้เราก็ต้องทำได้ แต่เบื้องหลังความเรียบร้อย กองผ้าผ่อนที่พับอย่างดี ของที่จัดวางอย่างเป็นหมวดหมู่ก็ทำให้เผลอไปคิดถึงอีกพฤติกรรมนึงที่เราเคยได้ยินอย่างโรค OCD (โรคย้ำคิดย้ำทำ) ประเภทที่ว่าเป็นคนระเบียบจัดแบบสุด ๆ ตลอดเวลาด้วย แล้ว Marie Kondo เป็น OCD หรือเปล่า? หรือการเป็น OCD มันคืออะไรกันแน่ เกี่ยวข้องกับความชื่นชอบจัดบ้านไหม ใครที่สงสัยเหมือนเราลองตามไปดูพร้อมกัน แต่ถ้ามีคำตอบในใจอยู่แล้วก็อย่าพลาด มาเช็กให้ชัวร์อีกทีว่าเหมือนกันกับที่คิดไหม WHO’S MARIE
ย้อนกลับไปหลายร้อยปีที่แล้ว มนุษย์เราต้องโตมาพร้อมกับการจำ “ข้อมูล” บางอย่างเพื่อรักษาตัวตน เราต้องมีชื่อเรียกที่ต้องจำให้ได้ไว้บอกคนอื่น ต้องมีตัวเลขวันเดือนปีเกิดไว้นับเพื่อบอกความอาวุโสของตัวเองและบอกหน้าที่ที่ควรจะต้องทำเมื่อตัวเลขนั้นมาถึง ต้องมีรหัสตัวเลขในระบบพลเมืองเพื่อชี้ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะทำและไม่ทำอะไร จุดเริ่มต้นของการรักษาข้อมูลเลยโดนกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่เราเกิดมา จนวันหนึ่งพอสมองกลมาอยู่ในกิจวัตรประจำวัน เราก็ต้องจำมากขึ้นเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาขโมยข้อมูลความลับดิจิทัลที่บอกความเป็นส่วนตัวของเราอีก ซึ่งสิ่งที่เราต้องจำเพิ่มนี้ได้กลายเป็นศัพท์ใหม่ที่รู้จักกันดีว่า “password” เราคงไม่ต้องบอกว่าไอ้ password เนี่ยสำคัญกับชีวิตคุณแค่ไหน เพราะทุกวันนี้ถ้ามีใครบังเอิญไปรู้ข้อมูลความลับของคุณเข้า เขาก็สามารถขโมย data อื่นเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้ทันที เหมือนที่เห็นตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ อย่างเร็วก็แฮ็กแล้วติดต่อไปหาเพื่อนหรือคนรู้จักให้โอนเงินให้ ส่วนอย่างช้าก็เอาข้อมูลเราไปวิเคราะห์เพื่อทำประโยชน์จากอย่างอื่นต่อจากนั้น ดังนั้น การเปลี่ยน password หรือตั้งมันให้ยาก ๆ เข้าไว้เลยเป็นทางออก กลับมาที่คำถามใหม่ว่า งั้นยิ่งลับก็น่าจะยิ่งดีใช่ไหม? ถ้ามีเรารู้คนเดียวก็ต้องดีดิวะจะได้ไม่มีใครขโมย กรณีนี้ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปเราก็จะบอกว่าใช่ แต่พอเจอข่าวแคนาดาว่าตลาด crypto ต้องปั่นป่วนเพราะ Gerald Cotten ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ QuadrigaCX ตลาดซื้อขาย crypto ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดาเสียชีวิตจากโรคโคร์น (ความผิดปกติของลำไส้) กะทันหันช่วงเดือนธันวาคมปลายปีที่ผ่านมา จากการเดินทางไปที่อินเดียเพื่อเปิดสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนบริษัทออกมาประกาศแจ้งเหตุการณ์นี้ผ่าน Facebook https://www.quadrigacx.com/gerald-cottenIt is with a heavy heart that
ไม่ว่าคุณจะเจ๋งมาจากไหน อย่าประมาทวงการเกมเด็ดขาด! เพราะพวกเขาและเราเป็นกลุ่มคนที่มีแพสชั่นโคตร ๆ กับการเล่น ทั้งการปั๊มเวล แบทเทิ้ลและการขายของ ที่สำคัญยังเป็นเจ้าบุญทุ่มด้วย ทำให้เบื้องหลังวงการนี้มีเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล ที่เราพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คอเกม Fornite รวมทั้งคนนอกเกมด้วยคงมีโอกาสได้ยินและได้เห็นปรากฎการณ์ใหม่อย่างการเปิดคอนเสิร์ตของ DJ ระดับโลกของสาย EDM อย่าง “Marshmello” ที่เข้าไปจัดอีเวนต์ในนั้น จนกลายเป็นกระแสให้ทั้งเกมเมอร์และคนที่ชื่นชอบเสียงเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ต้องฮือฮา อยากตีตั๋วสร้าง Account ไว้ sign in ขึ้นมาทันที ตีสองตามไทม์โซนเขตอเมริกา ตัวละครของเกมเมอร์จำนวนนับ 10 ล้านบัญชีจาก Epic Games’ battle royale title เจอจับวาร์ปไปที่ Virtual Stage คอนเสิร์ตในเกมที่จัดให้มีเฉพาะช่วงเวลานี้ การจับปืน ตบ ยิงสาด จะโดนตัดออกไป งด WAR คัดให้เหลือแค่การออกสเตปกดท่าเต้นมันส์ ๆ กับจังหวะ ด้วยซาวน์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน และใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้ชมสดขนาดนี้ ตัวเลขดิจิทัลบนเวทีจะเริ่มนับถอยหลัง จนถึงช่วงที่เลขทุกตัวบนจอเปลี่ยนเป็นเลข 0 ทั้งหมด เสียงทักทาย
เมื่อเราปรนเปรอชีวิตไปกับเรื่องซื้อข้าวของที่ต้องการ ถึงจุดหนึ่งผู้ชายเราจะอยากมองหาความมั่นคงให้ตัวเอง ด้วยการซื้อบ้านหรือคอนโด บางคนรู้ช้า บางคนรู้เร็ว แต่ไม่ว่าอย่างไรส่วนมากแล้ว “อสังหาริมทรัพย์” จะเป็นอีกเลเวลการลงทุนที่เรารู้สึกอยากไปเอี่ยวด้วยเสมอ จะอยู่เองหรือปล่อยเช่าก็อุ่นใจ เพราะเรารู้ว่าหนทางนี้มันคือการเตรียมพร้อมสู่วิถีการเป็น “เสือนอนกิน” แน่นอนว่าถ้าพูดถึงอสังหาฯ ขึ้นมา ย่านกลางเมือง หรือย่านเศรษฐกิจจะได้รับการปักหมุดให้เป็นสินค้าระดับมาสเตอร์พีซ ดังนั้นพวกเรต 2.5 – 5 ล้านบาท ที่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาอย่างเรา ๆ ต้องหืดจับก็นับว่าโคตรจะพื้นสำหรับสิ่งนี้ไปทันที เพราะบางแห่งที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้มีราคาระดับหลักร้อยล้าน! ใช่ คุณฟังไม่ผิด ที่สำคัญพื้นที่แพงมหาโหดนี้ยังมีคนแห่กันไปซื้อด้วย แม้ประเทศเราจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีก็ตาม อะไรคือเบื้องหลังความพิเศษกว่าและอยู่ค้างฟ้าที่คนมีเงินต้องสอยมาให้ได้เหล่านี้ ลองมาดูไปพร้อมกัน อันดับ 1 : 98 Wireless โครงการพรีเมี่ยมละแวกไม่ใกล้ไม่ไกลออฟฟิศเราเอง เดินจาก BTS เพลินจิตเราต้องผ่านที่นี่ทุกวัน เพนเฮ้าส์ที่นี่จัดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศทั้งเรื่องความแพงและความหรู ด้วยเงื่อนไขที่ผู้ซื้อทุกคนต้องตาลุกวาวอย่างการปล่อย Freehold หรือขายขาด ให้คนซื้อได้กรรมสิทธิ์ โดยว่ากันว่าพื้นที่กลางเมืองตรงนี้คือพื้นที่ 77 ยูนิตสุดท้ายของถนนเส้นนี้แล้วที่เราจะมีโอกาสเป็นเจ้าของ ละแวกนี้ปกติราคาตารางวาละ 2 ล้านบาท วันหน้ารับรองว่าจะทวีราคามากกว่านี้ การเก็งกำไรแบบนี้เลยเป็นเรื่องที่ใครก็ตามที่มีเงินเย็นในมือจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้พลาดไป สำหรับส่วนอื่นอย่าง facility
ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ศิลปะยังคงเบ่งบานทั่วกรุง หลายแห่งแข่งขัน ประชัน เชิญชวนให้เรานั่งไม่ติด ต้องลุกเป็นเป็นส่วนหนึ่งของงาน ในวันที่ศิลปะเบิกบาน เมื่อศิลปะถูกจับมาเขย่าแล้วทอดลงบนย่านต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ทุกที่ที่ได้รับเลือกให้เป็นแลนด์มาร์กจะเกิดเป็นสีสัน เหมือนดอกไม้บานปลุกให้ผู้คนเข้ามามาเยี่ยมชมเล่นสนุกกันในย่านน้ัน แต่พอเทศกาลสิ้นสุดลงตามกำหนดการ ความเห่อที่ไม่กรุ่นในหน้าโซเชียลอีกต่อไป สิ่งที่ย่านเหล่านั้นเหลืออยู่คืออะไรกันแน่ เราเชื่อว่าหลายคนคงตั้งคำถาม เพื่อไม่ให้การเดินเท้าครั้งนี้เป็นแค่การเดินอย่างผู้มาเยือนเหมือนเคย เราจึงเลือกเข้าไปดูงาน Bangkok Design Week 2019 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคม 2562 – 3 กุมภาพันธ์ 2562 ในย่านตลาดน้อยกับตาตัวเองเพื่อตอบคำถาม “งานศิลปะก็ดีนะ แต่เราอยากให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมกับงานศิลปะมากกว่านี้” เป็นหนึ่งในความเห็นของคนที่เคยมาชมงานในหน้าโซเชียล ยิ่งเร้าความสงสัยเราเข้าไปอีก คนในพื้นที่เขารู้สึกอย่างไรกับงานเหล่านี้กันแน่ และเมื่อมันเข้าไปกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตเขามันเกิดผลกระทบอย่างไร เหตุผลหนึ่งที่เราเลือก “ตะลัคเกียะ” หรือตลาดน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ของการจัดงานครั้งนี้เพื่อเดินเท้าดูศิลปะ เพราะย่านนี้เป็นชุมชนจีนที่เกิดจากการขยายตัวของสำเพ็งช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อยู่ในพื้นที่เมืองที่เดินทางได้สะดวก เราเองก็เดินทางผ่านย่านนั้นบ่อยแต่อาจจะเลยผ่านไป ทั้งที่ความน่าสนใจจากส่วนผสมของหลายวัฒนธรรมนั้นไม่ได้น้อยหน้าใคร เรียกได้ว่าแม้จะไม่ถือเป็น Big place อย่างเยาวราชแต่ก็ไม่ได้เบาบางเสียจนสามารถมองข้ามไปได้ ย่านเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมจีน ไทย แถมยังมีโบสถ์และการใช้ชีวิตของคนหลากหลายเจนเนอเรชั่นเดินขวักไขว่ เราลองมาดูของจริงไปพร้อมกันว่าเจ้าของพื้นที่เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับงานศิลปะที่จัดวางอย่างไร IS ART
ท่ามกลางฝุ่นควันวันนี้ ยังคงมีหลายชีวิตที่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ด้านนอก ไม่ยี่หระต่อสภาพอากาศหรือความอันตรายที่ข่าวประกาศปาว ๆ ว่าดมไปเยอะเข้าจะอันตรายต่อระบบหายใจ อันตรายถึงขั้นกลายเป็นมะเร็ง เพราะฝุ่นคงสำคัญน้อยกว่าอาหารสักมื้อและน้ำสักหยดตอนนี้ ภาพที่พร่าเลือนไม่ว่าจะมีฝุ่นหรือไม่ คือภาพของพวกเขา ชาวโฮมเลสไร้บ้านหรือคนด้อยโอกาสที่เดินอยู่บนฟุตบาทเดียวกับเรา อาศัยกำบังแสงแดด ลมฝน จากตึกแถวที่เราเคยผ่าน ทั้งหมดนี้ถ้าขัดถูด้วยหัวใจ ภาพจาง ๆ นั้นจะชัดยิ่งขึ้น ผู้คนเหล่านั้นบางคนอายุอานามเป็นพี่ น้อง เพื่อน หรือพ่อแม่ของเราได้ บางคนอาจเติบโตมาพร้อมกัน เพียงแต่อยู่ในกรอบสังคมและภาพลักษณ์ที่แตกต่าง คุณจะมองเมินต่อสิ่งเหล่านี้ได้นานแค่ไหน สำหรับบางคนใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี อาจใช้ทั้งชั่วชีวิตนี้ หรือจนกว่าพบภาพสะเทือนใจตรงหน้าอย่างเขา “ป๊อก” ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล “ตอนที่ไปเรียนปริญญาโทไปเรียนที่ซานฟรานซิสโกครับ ที่นั่นมีคนไร้บ้านเยอะ แล้ววันหนึ่งเราไปเห็นเขากำลังถูกทำร้ายอยู่แต่เราไม่ได้เข้าไปช่วยเขา ก็เลยตัดสินใจว่าเราจะทำโปรเจ็กต์เพื่อช่วยเขาในวันถัดไป ตอนแรกแค่กะแค่ว่าทำแค่วันสองวันแล้วก็พอแล้ว ไม่คิดว่ามันจะยาวนานมา 6-7 ปี จริง ๆ โดนด่าตั้งแต่โปรเจ็กต์โฮมเลสแล้วครับว่าสร้างภาพ มาหากินกับโฮมเลส เราก็รู้สึกว่าไม่แคร์แล้ว เพราะว่าสนใจนักเลงคีย์บอร์ด สนใจคนไม่กี่คน แต่ว่าผมบริจาคให้โฮมเลสเยอะมาก ๆ แล้วมาทำโรฮิงญาตอนนี้ก็ไม่ได้ขอเงินใครครับผม เงินผมเอง สมมติว่าช่วยโรฮิงญาได้ไปลี้ภัยประเทศอื่นได้