ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระนาบจิตใจและสมองแบบเถรตรง โดยเฉพาะกับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อสาวคนรู้ใจพูดว่า “ไม่” “เปล่า” “ไม่รู้สิ” สมองของเราประมวลผลไปตรง ๆ เช่นเดียวกับคำที่เธอพูด เราไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นและปล่อยผ่านไป แต่สิ่งที่เราไม่เคยรู้คือ สาว ๆ มักเก็บดีเทลเรื่องเล็กน้อยได้ดีกว่าที่เราคิด คำพูดตรง ๆ ของเราที่สร้างความน้อยใจกองโตและบาดแผลให้ เธอจะซุกพรมทำเหมือนไม่คิดอะไรและเข้าใจดี จนกระทั่งมันสุมทับท่วมรับไม่ไหว สุดท้ายก็บานปลายเป็นบรรยากาศมาคุและการทะเลาะชุดใหญ่ แถมถ้าโชคร้ายเราอาจลงเอยด้วยการเลิกกัน ทั้งที่ปัญหาเริ่มต้นจากเรื่องขี้ปะติ๋วเท่านั้น เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว UNLOCKMEN ขอแนะนำ 4 วิธีการขอโทษแบบไม่รู้สึกเสียเกียรติ ในวันที่ใจของเราพูดว่า “กูไม่ผิด” ขอให้จำไว้ว่า “จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง” 1. ปิดโหมดกลไกป้องกันตัวเองลง แม้จะรู้ตัวดีว่าเราไม่ผิดและไม่อยากจะทะเลาะแค่ไหน แต่จะให้บอกว่าตัวเองผิด เราเชื่อว่าคุณก็คงรู้สึกฝืนใจ ความหนักใจนั้นถือเป็นเรื่องปกติเพราะมนุษย์มีกระบวนการป้องกันทางจิตที่เรียกว่ากลไกในการป้องกันตัวเองจากสัญชาตญาณ เพื่อหลีกจากความเครียด เพราะคงไม่มีใครอยากโดนชี้หน้าว่าเป็นคนผิดแม้จะผิดจริงก็ตามที แต่ลองคิดให้ดีถึงผลลัพธ์ที่ได้มันก็คุ้มที่จะดับอีโก้หรือทิฐิในตัวลง 2. ให้อภัยด้วยคำว่าขอโทษ ขั้นต่อมาคือการปรับ Mind Set เมื่อจะกล่าวคำว่าขอโทษ ถ้าอีกฝ่ายกำลังหัวร้อนหรือน้อยใจอย่างหนัก การชิงพูดคำว่า “ขอโทษ” ด้วยความคิดที่อยาก “ให้อภัยเธอ” เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ เหตุผลที่เราใช้คำว่าอภัยเพราะเราอยากคุณได้กลับไปค้นถึงต้นตอของการวีน เหวี่ยงของเธอ เป็นไปได้ไหมว่ามันจะมาจากความเป็นห่วงยามเธอโทรมาแล้วคุณไม่ได้รับ
ถ้าความสามารถของจิ้งจกคือการสลัดหางหนีศัตรูได้ยามโดนจับ สำหรับสายพันธ์ุที่ขนาดใหญ่กว่าอย่าง “ตุ๊กแก” เองก็มีความสามารถที่ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะมันสามารถงอกสมองใหม่ได้! เรื่องนี้หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่มันได้รับการศึกษา ยืนยันและตีพิมพ์แล้วใน วารสาร Scientific Reports จากนักวิจัยจาก University of Guelph หลังพวกเขาตั้งข้อสงสัยมานานว่าความสามารถ “งอก” หรือ “ซ่อมแซม” ส่วนที่เสียหายของตุ๊กแกเกี่ยวพันไปถึงสมองด้วยหรือเปล่า ซึ่งเมื่อทดลองในตุ๊กแกพันธุ์เสือดาวแล้วก็พบว่ามันสามารถสร้างเซลล์สมองขึ้นใหม่ทดแทนเซลล์เดิมได้ในปริมาณเกินคาด ยิ่งเมื่อประจวบกับองค์ประกอบสมองส่วนฮิปโปแคมปัสของมนุษย์ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวพันกับระบบความจำใกล้เคียงกับสมองสัตว์เลื้อยคลานมากที่สุดเมื่อเทียบกับสัตว์ประเภทอื่น ชีววิทยาพิเศษของตุ๊กแกเสือดาวนี้จึงเป็นกุญแจดอกใหม่ที่อาจแก้ปมทุกความบกพร่องที่เกิดขึ้นกับสมองของมนุษย์ได้ ปัจจุบันการคิดค้นจึงอยู่ระหว่างการสืบหาความลับว่าทำไมตุ๊กแกพันธ์ุเสือดาวจึงทำเช่นนั้นได้ มีปัจจัยที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างไร เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่นักวิจัยสามารถถอดรหัสพันธุกรรมนี้สำเร็จ อาจสามารถนำผลวิจัยที่ได้มาประยุกต์การรักษาสมองของมนุษย์เพื่อต่ออายุสมองให้คงประสิทธิภาพไว้นานเท่านานไม่มีวันสิ้นสุดจนวันไร้ลมหายใจ นี่คือหนึ่งความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่เราเชื่อว่าหากประสบความสำเร็จคนไทยหลายคนจะต้องได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากผลสำรวจสถิติของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือสูญเสียความทรงจำสูงถึง 6 แสนคนตั้งแต่ปี 2558 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ล้านคนในปี 2573 แต่ระหว่างนี้ที่การทดลองยังไม่สำเร็จ UNLOCKMEN ก็เตรียมวิธีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพและปกป้องสมองไว้ให้ทุกคนลองทำตามแล้วได้ในนี้ สมองและหัวใจมีความสำคัญไม่แตกต่างกัน อย่าลืมดูแลกันด้วยล่ะ SOURCE: 1 / 2
ทุกวันนี้เทคโนโลยีดี ๆ สำหรับการถ่ายภาพนับวันจะยิ่งราคาถูกลงเรื่อย ๆ แต่ก็น่าแปลกที่เราพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความกระหายที่จะกดชัตเตอร์ที่เคยมีมันดันหายไปเสียเฉย ๆ เหลือเพียงความว่างเปล่า ไม่มีไอเดียและไม่รู้จะออกไปถ่ายอะไรเลยปล่อยให้หยากไย่ขึ้นอุปกรณ์ ดังนั้นเพื่อปัดฝุ่นทุกอุปกรณ์ถ่ายภาพเราเคยรัก ไม่ว่าจะเป็น DSLR ตัวเก่งหรือมือถือ UNLOCKMEN เตรียม 5 วิธีสำหรับปลุกแรงบันดาลใจให้ออกไปเก็บภาพไว้ให้ที่นี่แล้ว 1. ออกเดินทางไปที่ใหม่ ๆ หนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากถ่ายรูป บางครั้งก็เกิดจากการวนเวียนอยู่ในที่เดิม ๆ ทุกวัน เดินไปเดินมาในสถานที่เดิม เจอแต่คนเดิม ๆ เลยทำให้รู้สึกเบื่อ ไม่รู้จะเก็บไว้เป็นความทรงจำทำไม วิธีแก้แรกจึงเป็นการออกเดินทางไปในสถานที่ใหม่ เพราะมันสร้างความตื่นเต้นให้เราได้ และความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่แห่งนี้อีกไหม มันจะทำให้เราขยับนิ้วรัวชัตเตอร์ไปเองโดยไม่รู้ตัว 2. โดดเข้าหา Photography Challenge เมื่อจับการถ่ายภาพไปอยู่ในสมรภูมิการแข่งขันมันจะสนุกขึ้น การแข่งขันที่เราพูดถึงไม่ได้หมายถึงการออกไล่บี้ไปคว้ารางวัล แต่เป็นการร่วมแคมเปญทางโซเชียลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ ซึ่งเรามักจะเห็น Challenge ประเภทนี้ใน feeds อยู่เป็นระยะ กรณีที่ช่วงนี้เริ่มซาเราก็หันมาสร้างแคมเปญและ Hashtag เล่นระหว่างกลุ่มเพื่อนก่อนได้โดยไม่ต้องรอได้เลย เพราะการลงไปถ่ายภาพในสนามที่มีโจทย์เดียวกันและเห็นมุมมองของคนอื่นสร้างความท้าทายและทำให้รู้สึกมีความหมายมากขึ้น
ในยุคที่ดิจิทัลเป็นใหญ่และเป็นหนึ่งช่องทางที่แทบจะกำหนดได้ว่าแบรนด์จะโตหรือจอด คนทำงานด้านสื่อทุกคนจึงต้องไหวตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง นี่เลยเป็นเหตุผลให้เกิดการรวมตัวกันระหว่างคนโฆษณาเพื่อสร้างพันธมิตรเสนอข้อมูล ช่วยให้วงการสื่อเข้มแข็งในงาน DATT DAY 2018 – Infinite Possibilities ซึ่งปีนี้จัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว DAAT 101 หลายคนสงสัยว่า DAAT คืออะไร แท้จริงแล้วมันคือตัวย่อของ Digital Advertising Asscociation (Thailand) ทำไมเราต้องไปงาน DATT DAY ในเมื่อข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับดิจิทัลก็อาจจะวนเวียนหรือสามารถเสิร์ชหาได้จาก Device ที่เรามีทั้งมือถือและสมาร์ตโฟน เราขอสรุปจากสิ่งที่เราเข้าไปสัมผัส 3 ข้อ ต่อไปนี้ เราจะได้สัมผัสกับบุคคลที่เป็นตัวพ่อตัวแม่ด้านดิจิทัลจากอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ในงานเดียว แบบตัวเป็น ๆ ข่าวคราวอัปเดตในงานค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราต้องการ เพราะเป็นการสำรวจโดยใช้พื้นฐานข้อมูลจากประเทศไทย ที่สำคัญยังไร้ fake news ด้วย ปิดท้ายงานด้วย After Party ที่จะทำให้สายสัมพันธ์ของคนอยากโตในวงการนี้มีทางไป บางทีเราอาจได้เนื้อคู่ หรือพาร์ตเนอร์ที่ตรงใจไว้ร่วมงานได้ Recap DAAT’s
ตามเงินจากลูกหนี้ว่ายากแล้ว แต่วันนี้หลายคนต้องเจอสถานการณ์บังคับให้ต้องกลายเป็นลูกหนี้จำเป็น เพราะจู่ ๆ ธนาคารที่รักของพวกเราก็เกิดพร้อมใจกันระบบล่ม เบิก ถอน โอน จ่าย ชะงักแทบทั้งหมด แม้ตอนนี้วิกฤตจะคลี่คลายได้แล้วแต่วันดีคืนดีอาจจะเกิดอีกเมื่อไหร่ก็ได้ UNLOCKMEN ขอแนะนำวิธีการยืมเงินในภาวะแบบนี้ให้เจ้าหนี้เห็นใจ เราจะได้มีเงินไว้ใช้จาก 5 วิธีเหล่านี้ที่เราสำรวจมา ใครเห็นด้วยกับวิธีไหนก็เลือกไปใช้งานกันได้ แต่อย่าลืมว่า…ยืมไปแล้วต้องคืนด้วยนะ อย่าชักดาบเป็นอันขาด! “คิดถึงศักยภาพตัวเอง คำนวณวันพร้อมคืน จะได้ไม่ผิดใจกัน” แม้จะไม่ใช่หนทางทำให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่หนุ่มคนนี้ขอใช้ความรอบคอบและความเป็นคนจริงเป็นที่ตั้ง เริ่มด้วยถามตัวเองก่อนว่าศักยภาพการเงินเป็นอย่างไร ยืมแล้วคืนไหวหรือเปล่า และพร้อมจะคืนเมื่อไหร่เพื่อป้องกันการผิดใจกัน เพราะไม่ใช่แค่สัจจะที่เราต้องรักษาไว้แต่มิตรภาพยิ่งต้องใส่ใจไม่แพ้กัน เจอเคสนี้มาเป็นลูกหนี้ คิดก่อนยืมไม่พร่ำเพรื่อ เชื่อว่าใครก็ยอมยกเงินให้ “ยืมคนที่บ้าน ไม่เดือดร้อนคนอื่น” หนึ่งในวิธีที่ฮิตและได้ผลที่สุดที่หลายคนคาดไม่ถึงคือการยืมเงินคนในบ้านนี่แหละ เพราะเป็นเจ้าหนี้ที่รู้จักเราดีที่สุดและไม่ต้องกลัวว่าเราจะหนีไปไหน แต่เธอก็ยังเน้นว่าถึงจะเป็นคนในบ้านก็ยังต้องบอกเหตุผลและวันเวลาที่คืนให้ชัดเจนเข้าไว้เพื่อคืน ปิดท้ายด้วยสินน้ำใจสักนิดหลังคืนเงิน เวลามีปัญหาครั้งหน้าเขาจะอยากให้เรายืม “บอกปัญหาตรง ๆ ไม่ดราม่า แมน ๆ ใจ ๆ” บางคนกังวลว่าถ้าขอไปแล้วเจ้าหนี้ในอนาคตจะไม่ให้ เล่นดราม่าใส่ แต่กับเธอคนนี้ที่ไม่ถนัดการเป็นเจ้าหนี้คนอื่นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะไม่กล้าทวง ให้เหตุผลกับเราว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นต้องหยิบยืมเงินคนอื่นเธอจะเลือกใช้วิธียืมกันแบบตรง ๆ บอกเลยว่ากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่และจะเอาเงินที่ยืมได้ก้อนนี้ไปใช้อะไรต่อ
ต่อให้บริษัทสร้างระบบอีเมลทั้งหลายจะพยายามสร้างเงื่อนไขการตั้งพาสเวิร์ดให้มันยาก ทั้งอักขระ ตัวเลข และตัวอักษรให้ผสมกันเพื่อป้องกันคนภายนอกแฮ็กได้ แต่ถ้ารู้ความจริงว่าสิ่งที่ตั้งใจช่วยรักษาแทบตาย บรรดาพนักงานที่ใช้ดันมีพฤติกรรมไม่แคร์ หรือแจกคนอื่นให้เข้าอีเมลตัวเองกันได้สะดวกคงต้องถอดใจเพราะไม่รู้จะแก้ยังไง Confidential หรือการรักษาความลับของอีเมลสำคัญแค่ไหน คนที่ยังไม่เจอกับตัวอาจจะยังไม่รู้ แต่ตามบริษัทใหญ่เขารู้ดี เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีมือดีเข้ามาแฮ็กข้อมูล อาจหมายถึงความเสียหายทางธุรกิจจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่บริษัทที่โชคดี หวยออกเข้าอย่างจังมักจะเป็นบริษัทที่มีไซซ์ขนาดเล็กหรือขนาดกลางเท่านั้น โดยรายงานระบุจำนวนบริษัทที่ถูกโจมตีทางไซเบอร์มีมากถึง 4,000 ครั้งต่อวันแถมมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นด้วย! และปลายทางของบริษัทที่โดนแฮ็กส่วนใหญ่จะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนหลังจากนั้น จากรายงานของ Switchfast บริษัทให้คำปรึกษาและให้บริการการจัดการด้านไอทีใน Chicago เผยข้อมูลการสำรวจที่จัดทำกับผู้บริหารบริษัทขนาดเล็กจำนวนกว่า 600 บริษัทเกี่ยวกับพฤติกรรมการรักษาความปลอดภัยด้านไอที พบว่าส่วนมากพนักงานทุกระดับคือต้นตอเรียกแขกอย่างแฮ็กเกอร์มาด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ บริษัทขนาดเล็กหรือกลางมักไม่มีมาตรการรับมือความปลอดภัยด้านไอที 35% ของพนักงานและ 51 % ของหัวหน้ามักคิดว่าบริษัทของตัวเองไม่ใช่เป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ 44% ของพนักงานและ 66% ของหัวหน้าเชื่อมต่ออีเมลกับ Wi-Fi สาธารณะ หรือสถานที่ภายนอกองค์กรอย่างร้านกาแฟหรือล็อบบี้โรงแรม ความเสี่ยงเรื่องงานมีมากไม่พอ แต่เรื่องที่น่าตกใจเป็นเงาตามตัวคือ บรรดาผู้นำทั้งหลายมักใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศเข้าโซเชียลมากกว่าพนักงาน โดยคิดสัดส่วนได้เป็น 3 ใน 5 ของทั้งหมด (ผู้นำและผู้จัดการ 62%
ถึงจะบอกว่าผู้ชายโปรไฟล์ดี ๆ มักได้สาว ๆ มาครอบครอง แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป ชาว UNLOCKMEN หลายคนที่พยายามฝึกตัวเองจน productive สุด ๆ คงแย้งว่าทุกวันนี้เรายังคงโสดแบบไร้เหตุผล คุยกับสาวคนสนิทมานานแต่ก็เธอก็ไม่มีทีท่าอยากสานต่อสักนิด ถ้าเรายังไม่เคลียร์ว่าสิ่งที่ทำมาตลอดหรือความเป็นตัวตนของเรามันไม่ดีตรงไหน งานวิจัยนี้อาจเป็นกุญแจให้ถึงบางอ้อ คำตอบของมันคือ “ความเก่งเกินไป” ต่างหากที่ทำให้เธอถอยหนี การวิจัยครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีสอบถามคนจำนวน 214 คน โดยให้แต่ละคนประเมินสเปคที่ตัวเองอยากได้จากคู่รัก แบ่งตามระดับที่ต่างกันทั้งเรื่องความฉลาด รูปลักษณ์ ความเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และความใจดี โดยผู้ถูกสัมภาษณ์จะได้รับการสอบถามว่าคนที่คุณคุยด้วยจะมีเสน่ห์มากขึ้นไหม ถ้ามีความใจดี ความฮ็อต ความฉลาด หรือความเป็นคนง่าย ๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าคนทั่วไป คำตอบที่ได้จากสาว ๆ ส่วนใหญ่คือความเป็นคนยืดหยุ่นหรือเป็นคนง่าย ๆ แต่ถ้าเจอคนง่าย ๆ ที่ฉลาดด้วยเธอมักจะเลือกเบรกความสัมพันธ์ลงเสียกว่า 90 % เพราะพวกเธอคิดว่าผู้ชายที่ฉลาดเกินไปเอาใจได้ยากกว่า เลยมักจะเลือกเลี่ยงเสมอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่ฉลาดมักจะซึมเศร้าหรือย้ำคิดย้ำทำ แม้การมีหลายคาแรคเตอร์ด้านบวกจะเป็นเรื่องดีและเป็นสเปคดึงดูดใจให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าหา แต่บทวิจัยนี้ก็แสดงให้เห็นอีกมุมของมาตรฐานการเลือกคู่ที่ทำให้รู้ว่า เยอะไปก็ใช่ว่าจะดี หรือในอีกมุมก็คือคุณอาจโดนปฏิเสธกลับมาให้ช้ำว่า “ดีเกินไป”
ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่า “โค้ก” เป็นแบรนด์น้ำอัดลมตัวท็อปในตลาดน้ำดำขวัญใจผู้บริโภคทั่วโลก ที่เวลาทุกคนกระหายความสดชื่นจะต้องสั่งมากินเสมอ แต่ไม่เพียง Awareness เรื่องแบรนด์ที่ไม่เคยหายไปจากจอโทรทัศน์หรือบิลบอร์ดเท่านั้น สิ่งที่ทำให้โค้กติดอยู่ในใจผู้บริโภคเสมออาจเป็นมูลค่าการใช้งานของมันที่เหล่าผู้บริโภคทั่วโลกไปค้นพบโดยบังเอิญ นอกเหนือจากความเด็ดเรื่องรสชาติ ซึ่ง VAROOMA รวบรวมไว้เป็น infographic ลายเส้นอ่านง่ายให้เราดูถึง 50 อย่าง ! งานนี้เรียกได้ว่าโคตรคุ้มราคา เพราะเราซื้อโค้กลิตรมาได้ในราคาไม่ถึง 50 บาทด้วยซ้ำ เราจึงขอนำมาเผยแพร่ต่อเผื่อชาว UNLOCKMEN คนไหนกำลังเจอปัญหายุ่งยากจากรูปแต่ไม่รู้จะแก้ยังไง ลองลงทุนไปซื้อสักกระป๋องมาทดลองความเวิร์กก่อนเสียเงินแก้ด้วยวิธีอื่นก็ไม่เสียหาย น่าทึ่งว่าน้ำอัดลมหนึ่งขวดจะสามารถเอาไปใช้งานผิดประเภทได้ยอดเยี่ยมเกินคาด ผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจว่านี่เป็นคุณสมบัติที่ใช้ได้เฉพาะโค้กหรือเป็นส่วนผสมหลักที่อยู่ในน้ำอัดลมสีอื่น ยี่ห้ออื่นเหมือนกัน ถ้าใครเคยลองแบบอื่นแล้วใช้งานได้ผลตาม 50 สิ่งนี้ก็ลองมาบอกกันบ้างนะ SOURCE
ทุกวันนี้การถ่ายภาพกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรพื้นฐานที่ผู้ชายอย่างเราต้องทำทุกวัน ถ้าไม่ถ่ายเพื่อใช้งานเองส่วนตัว ก็ต้องถือถ่ายให้คนอื่น ดังนั้นสมาร์ตโฟนจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราต้องใช้ถ่ายภาพอยู่เสมอ แต่บางครั้งสมาร์ตโฟนที่เราเลือกมาก็ไม่ได้ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติถ่ายรูปได้เฉียบเท่ากับรุ่นใหม่ ๆ ที่สร้างฟังก์ชันมาเพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะ ล่าสุดจึงมีคนรู้ใจออกแบบเคสโทรศัพท์มาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ เราจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ทั้งที่เครื่องเก่าก็ยังใช้งานได้ดีเพราะติดปัญหาเรื่องกล้อง Pictar คือเคสอุปกรณ์เสริมที่สามารถเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องเดิมที่ถ่ายรูปแสนห่วย noise กระจายของเราให้กลายเป็น DSLR ตัวย่อมได้ทันทีที่ใช้ เพื่อให้เราสามารถถ่ายภาพทั่วไปหรือเซลฟี่ได้ดียิ่งขึ้นเพียงแค่สวมทับ ไม่เพียงแค่คุณภาพและฟังก์ชันที่ติดมากับอุปกรณ์ แต่สัมผัสการใช้งานเองก็ยังเลียนแบบออกมาเสียเหมือน เพราะมีกริ๊ฟสำหรับจับกันลื่น ช่วยกันกระแทกเวลาเครื่องหล่นได้ แถมปุ่มด้านบนให้หมุนปรับเลือกฟังก์ชันการถ่ายภาพได้แบบเดียวกับการใช้ DSLR ตั้งค่าได้หมดเนื่องจากมีโหมดไว้ปรับทั้งแสง การซูม หรือค่า ISO ตามต้องการ นอกจากนี้ วิธีเชื่อมอุปกรณ์เพื่อใช้งานยังเป็นการทำงานผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงที่เกิดจากการกดปุ่ม โดยแต่ละปุ่มจะให้เสียงต่างกันและซิงค์กับโหมดการใช้งาน จึงทำให้ไม่ดึงพลังงานแบตเตอรี่จากสมาร์ตโฟนของเราระหว่างการใช้งานด้วย เลยเป็นข้อดีที่พวกเราสามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะถ่ายภาพสะดุดเพราะแบตฯ หมด สำหรับสายเดินทางที่อยากตั้งกล้องถ่ายแลนสเคปสวย ๆ เพราะกลัวมือสั่น หรือเก็บภาพกลางคืน ทาง Pictar ก็ยังออกแบบทั้งขาตั้งกล้อง แฟลชแยก และไมโครโฟน (กรณีที่เราอยากถ่ายวิดีโอ) มาขายเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้คู่กัน เรียกได้ว่าเลียนแบบ DSLR จริงมาทุกกระเบียดนิ้ว ใครอยากจะเสริมตัวไหนก็เลือกไปใช้คู่กันได้เลย ส่วนใครที่อยากเปรียบเทียบว่าการใช้งานของมันจะดีสมราคาจริงหรือเปล่า ลองดูวิธีใช้งานได้จากจริงด้วยคลิปด้านล่างนี้จะเห็นภาพชัดกว่า ท้ายนี้ ถ้าใครอยากได้ไว้ในครอบครองแนะนำว่าต้องรีบซื้อในเว็บไซต์ของ The Mashable shop
เราเคยปัดโทรศัพท์จนสุดรายชื่อ แต่ไม่รู้จะโทรไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังบ้างไหม… ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างที่มาพร้อมเพศ หลาย ๆ ครั้งเรามักสะสมความผิดหวังไว้กับตัวโดยไม่ระบายออก มองความท้อแท้เป็นศัตรูที่ต้องพุ่งเข้าไปพิชิต และเมื่อพบกับความพ่ายแพ้ เราตำหนิตัวเองอย่างรุนแรง จนมันกลายเป็นรอยแผลเป็นน่าเกลียดที่เราหันไปมองซ้ำแล้วซำ้เล่าและทวีขนาดขึ้นในวันที่เราจิตใจเศร้าหมอง แด่คนที่บรรยากาศในใจเหมือนสภาพอากาศนอกหน้าต่างในวันนี้ (ฝนตกฟ้าครึ้ม) ไม่รู้จะอธิบายความอึดอัดใจที่เจอกับใคร UNLOCKMEN ขอพาคุณมาตามหาเหตุผลที่เราควรคุยกับคนแปลกหน้า และพาคุณไปรู้จักทางออกที่ทำให้รู้ว่า เมื่อคุณเจอปัญหาและต้องการใครสักคนรับฟัง ควรจะมุ่งหน้าไปที่ไหน เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงควรคุยกับคนแปลกหน้าสักคน ไม่ว่าเราจะมีปัญหาหรือไม่ก็ตาม หรือเวลาไม่สบายใจทำไมเราถึงอยากเล่าเรื่องที่เจอให้คนไม่รู้จักฟังมากกว่า นักพูดสร้างแรงบันดาลใจจากเวที Ted ที่ชื่อว่า Kio Stark คือคนหนึ่งที่เลือกประเด็นนี้มาเป็นหัวข้อทอล์กของเธอ และท้าให้ทุกคนที่ฟังลุกขึ้นมาพูดคุยกับคนแปลกหน้าอย่างไม่ต้องเขินอายหรือพะวงมากนัก แก่นของการทอล์กครั้งนี้ คือประโยชน์ที่เธอพบมันด้วยตัวเองหลังจากเริ่มปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก 2 ประการใหญ่ที่เปลี่ยนความคิดไปตลอดการ เรื่องแรกคือเราได้ปลดปล่อยความรู้สึกเป็นอิสระ ทั้งทางความคิดและทัศนคติ เพราะเมื่อเราคุยกับคนแปลกหน้า เราจะเลิกตัดสินคนที่พบเจอ ไม่แบ่งเพศ สีผิว และความสัมพันธ์ว่าคนเหล่านั้นคือเพื่อนหรือไม่ แต่มอง “คน” ในฐานะ “บุคคล” แทน ซึ่งเธอเองก็ได้รับการปฏิบัติมาในแบบเดียวกัน…การรับความรู้สึกว่ามีใครสักคนรับรู้การมีอยู่และตัวตนของเราทำให้รู้สึกดีและมีค่ายิ่งขึ้น ประการที่สองคือการส่งผ่านความรู้สึกถึงกันได้ผ่านความใกล้ชิดชั่วขณะได้ดี เหตุผลที่ทำให้เราสุขมากกว่าเมื่อคุยกับคนแปลกหน้าเพราะเราปราศจากอคติ และไร้ความคาดหวังต่อกัน ถ้าเป็นคนใกล้ชิดที่รู้จักกันเราอาจต้องระวังคำพูดทั้งส่วนที่เราจะพูดออกไป และระวังคำพูดที่จะตอบกลับมา ในขณะที่คนแปลกหน้า เรามีโอกาสเจอกันครั้งนี้แต่อาจจะไม่เวียนกลับมาคุยกันอีก แล้วคนที่พร้อมจะฟังเราอยู่ที่ไหน? ถ้าผู้ชายอย่างเราอยากระบายความอ่อนแอในใจให้ใครสักคนฟัง ว่าควรทำอย่างไร