โลกเต็มไปด้วยความหลากหลายของมนุษย์ บางคนเก่งด้านนี้ บางคนฉลาดด้านนั้น เราต่างมีความสามารถเป็นของตัวเอง หรือแม้แต่การไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ที่โคตรไม่เข้าใจคือ “พวกกูก็ไม่รู้ แต่กูอยากอวด” หรือพูดง่าย ๆ ว่าอวดฉลาดไปทั่ว พูดเหมือนตัวเองรู้ทุกอย่าง เอาล่ะ ไม่ว่ากัน ถ้าใครอยากแชร์ความรู้ เราก็พร้อมฟัง แต่ถ้าเกิดเอะใจสงสัยว่าอีตาคนนี้มันรู้จริงไหมหรือมันแค่อวดว่ารู้มั่ว ๆ ? เราก็มี 5 หนทางดีต่อใจมาให้ลองเช็คกัน พุ่งคำถามเข้าใส่ การจะเช็คว่าใครรู้จริงไหม เราไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ มากมายแต่อย่างใด แค่คำถามง่าย ๆ โยนลงไปกลางวงก็พอ คนที่รู้ว่าตัวเองมีพื้นฐานการคิดเรื่องนั้น ๆ แน่นอยู่แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ซ้ำยังจะตอบคุณกลับมาอย่างง่ายดาย เพราะคิดว่าคุณไม่เข้าใจ แต่พวกฉลาดปลอม ๆ แต่ชอบอวด จะติดแหง็กทันที ถ้าเจอคำถามง่าย ๆ เช่น “ทำไมคุณถึงเชื่อว่า … ล่ะครับ” หรือ “อธิบายเรื่อง … ที่คุณพูดเมื่อกี๊เพิ่มอีกหน่อยได้ไหมครับ” ถ้าตอบไม่รู้ เราก็ไม่ว่ากัน เพราะคนเรารู้อะไรไปหมดทั้งโลกไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าอึกอักแล้วทำโกรธใส่ หรือโยนกลับมาว่าคนถามนี่โง่เองที่ไม่รู้
ชั่วโมงนี้ทำอะไรก็ดูดีไปหมด สำหรับ Virgil Abloh เจ้าของแบรนด์สตรีทสุดฮิตอย่าง OFF-WHITE ที่เมื่อปีก่อนได้สร้างปรากฎการณ์คอลเลคชั่น “The Ten” กับแบรนด์ Nike จนเป็นที่ฮือฮา รวมถึงผลงานส่วนตัวที่โดดเด่นชนิดไม่ใครสู้ได้ น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไปเตะตาห้องเสื้อสุดหรูจากฝรั่งเศสอย่าง Louis Vuitton ที่ตอนนี้นับว่าสถานการณ์ยังเลื่อนลอยเนื่องจาก Kim Jones ที่ดำรงตำแหน่ง Artistic Director of Menswear มานาน 7 ปีกำลังจะโบกมือลาย้ายค่ายไปอยู่ Dior Homme ทำให้ Louis Vuitton รีบส่งเทียบเชิญเพื่อให้ Virgil Abloh มารับไม้ต่อในตำแหน่งนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ Louis Vuitton มักจะเลือกดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์เคยผ่านงานกับแบรนด์ดัง ๆ รวมถึงคลุกคลีในแวดวง High-fashion เสียส่วนใหญ่ แต่อาจเพราะติดใจกับคอลเลคชั่น SUPREME x Louis Vuitton ที่ขายดิบขายดีเป็นปรากฎการณ์จึงทำให้ยอมหักดิบเลือก Virgil Abloh ที่แม้จะไม่เคยร่ำเรียนศาสตร์แฟชั่นมาโดยตรงก็ตาม ทว่าผลงานมาสเตอร์พีชกับแบรนด์เชิงสตรีทระดับโลกก่อนหน้านี้อย่าง Nike , Champion
เราเชื่อว่ายังมีชาว UNLOCKMEN อีกหลายคนที่รู้สึกไม่ค่อยชอบความเป็น EDM หรือดนตรีเสียงสังเคราะห์ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกเหมือนกับเชื้อไวรัสในขณะนี้ อาจจะเพราะเราได้เติบโตมากับวัฒนธรรมเพลงร็อคอินดี้ hair band อะไรทำนองนั้น จนทำให้รู้สึกว่าดีเจที่ถือ laptop ยืนสแครชแผ่นดูไม่คูลเท่ากับนักร้องที่สะพายกีต้าร์กำลังลี้ดโซโล่เท่าที่ควร เหตุผลที่เราหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเกริ่นในตอนต้น เพราะเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่เคยคิดเช่นนั้น แต่หลังจากที่ได้ศึกษาจึงรู้ว่านี่เป็นอีกวัฒนธรรมหลักอย่างหนึ่งของโลกเลยทีเดียวโดยเฉพาะในยุโรป เราอยากจะให้ลบภาพเพลงสายย่อที่เหล่าเด็กแว๊นซ์มาเต้นกัน เพราะนั่นไม่ใช่ความเป็น อิเล็กทรอนิกส์อย่างแท้จริง เบื้องลึกในความเป็น EDM เราสามารถย่อยประเภทของเพลงได้อีกนับสิบ ดังนั้นถ้าเกิดลองเปิดใจดู ก็จะรู้ว่าเพลงประเภทนี้ก็ให้อารมณ์ความสนุกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกลุ่มนักดนตรีที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ Swedish House Mafia จัดได้ว่าเป็น Legend ของดนตรีสาย progessive โลกเลยก็ว่าได้ โดยพวกเขาเป็นกลุ่มนักดนตรีเต้นรำแนว house ชาว Sweden ที่ประกอบไปด้วย Axwell , Steve Angello และ Sebrastian Ingrsso ซึ่งอันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้พวกเขาถือเป็นศิลปินตัวพ่อแห่งวงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนั้น แต่ดันคุยกันถูกคอเลยร่วมโปรเจคนี้ในปี 2008 จนทั่วโลกต่างยกให้เขาเป็น Supergroup ที่สุดเท่าที่วงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์เคยมีมา ทว่าหากไล่ประวัติลึกลงไปก็จะรู้ว่าแท้จริงแล้ว ทั้ง Steve Angello และ Sebrastian
เข้านอนหัวค่ำ ควรจะ boost ความสดชื่นให้เรายามเช้า แต่สำหรับเช้าต้นสัปดาห์อย่างนี้ ชาว UNLOCKMEN บางคนก็ยังรู้สึกว่ายังง่วงอยู่เหมือนเเดิม หนังตาหนักเหมือนคนอดนอน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? วันนี้เราไปสืบจากผู้เชี่ยวชาญมาบอกต่อเพื่อคืนความกระปรี้กระเปร่าต้นสัปดาห์ให้กลับมามีพลังเหมือนเดิม หรือบางทีอาการง่วงตลอดเวลาของพวกเราอาจเป็นสัญญาณส่งต่อว่า “เฮ้ย! ถึงเวลาต้องไปหาหมอ 7-10 ชั่วโมงอันคุ้มค่าที่ปิดตาไปตามที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่ามันจะพอต่อร่างกาย แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้นเมื่อใช้งานยามตื่น ผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่าที่ให้นอนก็ใช่อยู่หรอก แต่แค่หลับตาต่อเนื่อง 7-10 ชั่วโมงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตล้ำเลิศอะไร เพราะบางครั้งเรายังขาด 8 สิ่งด้านล่างนี้ เพื่อคืนความฟิตทุกวินาทีจากการตื่นนอนเราลองมาเช็กดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่เราขาดและควรเสริมเข้าไป 1. ออกกำลังกาย ชาว UNLOCKMEN สายสุขภาพน่าจะออกมายืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหลังออกกำลังกายในวันนั้นเราจะหลับได้ดีและรู้สึกตื่นตัวในวันรุ่งขึ้น ต่างจากการไม่ออกกำลังกายแล้วนอนซึ่งแม้จะนอนยาวนานก็ยังรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนอยู่ดี วิธีแนะนำจาก Science Alert เมื่อคุณเกิดอาการนอนไม่พอไม่ว่านานแค่ไหนด้วยการไปออกกำลังกายเบา ๆ ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ ขยับยืดตัวบ้างแล้วมันจะดีเอง 2. รินน้ำดื่มเข้าไป เราอาจจะไม่เคยคิดว่าเรื่องกินน้ำจะกระทบการนอนและทำให้วันทั้งวันของเรากลายเป็นวันเพลีย ๆ ที่อยากฟุบตลอดเวลาตั้งแต่ลืมตา แต่ความจริงอาการขาดน้ำมันจะทำให้การสูบฉีดเลือดในร่างกายของเราสะดุดได้ ซึ่งนำไปสู่อาการเหนื่อยล้า 3. รีแล็กซ์ให้น้อยลงจากเครื่องดื่มมึนเมา เรื่องนี้หลายคน รวมถึงเราเองก็มักจะทำอยู่บ้างเวลาเหนื่อยพอกลับไปที่บ้านสบโอกาสเมื่อไรก็เปิดขวดไวน์บ้าง กระป๋องเบียร์ป้อนเบียร์ให้ตัวเอง
COUNTDOWN ต่อไปอีก 2 อาทิตย์ ก่อน D-day วันที่ 8 เมษายน 2561 ถึงจะได้เวลาปิดไฟว่างรับผู้โดยสารไปตลอดกาลภายใต้แบรนด์สีเทา – ดำ กับโลโก้ตัว “U” ของ UBER เพราะจากนี้ต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ใต้อาณัติของ GRAB โดยสมบูรณ์ จากข่าวที่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการและกระฉ่อนที่สุดต้นสัปดาห์นี้ เรื่อง GRAB เข้าเทคโอเวอร์กิจการโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เหี้ยนกับการประกาศการจับมือครอบครัวเดียวกันระหว่าง GRAB และ UBER แต่ครอบครัวนี้เน้นสีเขียวเป็นใหญ่เท่านั้นเอง ชาว UNLOCKMEN คนไหนอยากจะมันส์และไม่ตกข่าวกับกลยุทธ์สุดพิเศษนี้มาตามดู RECAP ให้เป็นเรื่องเป็นราวด้านล่างกัน อุแว้ UBER บ๊ายบายยยย นายอูเบอร์เพื่อนยาก ไหน ๆ นายจะลอกคราบไปเกิดใหม่เป็น GRAB เราก็จะไม่ลืมการมีอยู่ของนาย เพราะก็พึ่งพากันมาแต่ไหนแต่ไร ขอบคุณนะที่ยกระดับการขับขี่แท็กซี่ไทย UBER ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว (ปี 2009) บุกลงสนามแท็กซี่สาธารณะในรูปแบบ niche market หรือตลาดเฉพาะที่เน้นรับลูกค้าหรู
ต่อให้ผู้ชายอย่างเราจะเป็น ‘นักล่า’ ผู้ชำนาญการ จะเป็น ‘เสือ’ ที่กินดุ หรือจะเป็น ‘คนเจ้าชู้’ เลเวลไหน สุดท้ายเราก็พร้อมจะหยุดทันทีที่เจอคนที่ ‘ใช่’ และอยากจะใช้ชีวิตกับเธอคนนั้นจนวันสุดท้าย แต่ปัญหาก็คือเรามักจะไม่ค่อยรู้ว่าความใช่คืออะไรในแบบรูปธรรม บ้างก็เชื่อว่าคือลักษณะภายนอกที่ตรงสเปค นิสัยดี หรือใช้ความรู้สึกล้วน ๆ ในการตัดสินใจ ซึ่งก็ไม่ผิด แต่เราอยากให้ลองคิดดี ๆ ก่อน เพราะการจะอยู่กับใครคนเดียวทั้งชีวิตมันต้องดูทั้งตัวเขาและตัวเราว่าจะไปกันได้จริงไหม โดยจากข้อมูลโครงสร้างครัวเรือน อัตราการจดทะเบียนสมรสและอัตราการจดทะเบียนการหย่า ปี พ.ศ. 2523 – 2558 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ปี 2556 มีอัตราการหย่าร้างประมาณ 5.3 คู่ต่อกันครัวเรือน, ปี 2557 ราว 5.4 คู่ต่อพันครัวเรือน และ ปี 2558 เพิ่มเป็นประมาณ 5.7 คู่ต่อพันครัวเรือน ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาตัวเลขก็ไม่ต่ำกว่า 5 คู่ต่อพันครัวเรือนอีกเลย จากข้อมูลที่ดังกล่าวที่ได้รับก็ทำให้เราพอจะสรุปได้คร่าว ๆ ได้ว่าอัตราการแยกทางกันของคู่สมรสในไทยค่อย
ความสวยงามที่สัมผัสได้ ไม่จำเป็นต้องมาจากทางสายตาเสมอไป อย่าลืมว่าร่างกายเรายังมีผัสสะอีกหลายที่ที่จะให้เรารับรู้ความสวยงามของโลกใบนี้ได้ โดยเฉพาะจากสาว ๆ ! วันนี้ UNLOCKMEN จะชวนมาขบคิดกันเล่น ๆ ว่านอกจากรักแรกพบแล้ว รักแรกจากกลิ่นมันจะเป็นไปได้มั้ย ? จากงานวิจัยบอกเราว่าเสียงและกลิ่นของคนเราเนี่ย เป็นส่วนสำคัญทางกายภาพที่จะดึงดูดใครสักคนได้ หรือหากจะย้อนไปที่ทฤษฎีเก่าแก่อย่าง Frontiers in Psychology ที่ Agata Groyecka ผู้วิจัยจาก University of Wroclaw ใน Poland กล่าวไว้ว่า “ส่วนใหญ่เรามักจะถูกดึงดูดทางสายตามากที่สุด ง่าย ๆ เลยก็หน้าสวย หุ่นดี” ยิ่งมีงานวิจัยใหม่ ๆ ที่สืบค้นลึกลงไปในเรื่องของความสัมพันธ์และสังคมพบว่าสัมผัสอื่น ๆ เนี่ยมันก็มีผลไม่แพ้กัน การรับรู้ความคิดของอีกฝ่ายจากผัสสะทางอื่นด้วย (นอกจากทางสายตา) มันน่าเชื่อถือมากกว่าเพราะเราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับอีกฝ่ายมากขึ้น อะไรที่นอกเหนือจากสายตา อย่างเสียง ก็สามารถบอกถึง เพศ อายุ ได้ หรือแม้แต่สังเกตความมั่นใจ บุคลิก ได้จากน้ำเสียงด้วยเช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กลิ่นจะทำให้เราตกหลุมรักใครสักคนได้ เพราะเราก็จะมี Typeในใจที่ชอบเหมือนว่าเป็นสเป็กนั่นแหละ ถ้าเราชอบคนสะอาด แล้วเกิดได้กลิ่นหอมแบบสะอาด สดชื่น
การเข้าห้องน้ำเป็นกิจวัตรใกล้ตัวที่เราต้องทำในทุกวัน วันละหลายรอบเสียด้วย เพราะการขับถ่ายมันคือกิจวัตรขั้นพื้นฐานของชีวิตคนเราน่ะสิ บางครั้งเราอาจจะมองแค่ว่ากินน้ำเยอะก็ฉี่บ่อยแค่นั้น แต่วันนี้ UNLOCKMEN ขอบอกว่า “ฉี่” ของเรา มันบอกถึงสุขภาพเราได้ด้วย เราสามารถเช็กสุขภาพของเราได้จาก “สีของฉี่” ง่าย ๆ แบบนี้เลยแหละ ลองมาดูกันว่าแต่ละสีจะบอกถึงอะไรบ้าง สีใสเหมือนน้ำเปล่า คุณแค่ดื่มน้ำเยอะไป ไม่มีอะไรน่าห่วงมากนัก นอกจากดื่มน้ำในปริมาณที่พอดีต่อน้ำหนักของร่างกาย สีเหลืองอ่อน / สีเหลือง อยู่ในระดับที่ปกติ ดื่มน้ำประมาณนี้แหละ กำลังดี สีเหลืองเข้ม คุณดื่มน้ำน้อยไป อาจจะหลงลืมไปบ้างในวันยุ่ง ๆ แต่ยังดีที่ไม่ได้บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอย่างอื่น สีเหลืองหม่น / สีน้ำตาล / สีส้ม อันนี้เริ่มมีปัญหาแล้วล่ะ สีนี้แสดงถึงว่าร่างคุณขาดน้ำขนาดหนัก และมีปัญหาเกี่ยวกับตับ หากดื่มน้ำจนเพียงพอแล้วยังไม่ดีขึ้น ต้องรีบพบแพทย์แบบด่วนจี๋ สีเขียว / สีน้ำเงิน อันนี้มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสีผสมอาหาร ผลข้างเคียงจากยารักษาโรคที่เรากิน สัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือแม้แต่โรคทางพันธุกรรมที่หายาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ฟังดูอันตรายทั้งนั้น
ภาพจำเดิม ๆ ของผู้ชายอ่านหนังสือมักเป็นภาพผู้ชายใส่แว่นตาหนาเตอะ เนิร์ด ๆ จมอยู่กับหนังสือกองโตจนไม่สนใจโลกรอบกาย แต่เราอยากจะบอกว่าทุกวันนี้หนังสือมันไม่ใช่ของสูงส่งแตะต้องยากอีกต่อไปแล้ว แถมหนังสือก็มีหลากหลายประเภทจนผู้ชายทุกวัย ทุกแบบสามารถหาหนังสือคู่ใจมาอ่านได้ไม่ยาก ประโยชน์ที่แถมมาแบบฟลุค ๆ อีกอย่างคือหนังสืออาจกลายเป็นเสน่ห์ติดตัวอีกอย่างที่ทำให้สาว ๆ หันมาสนใจผู้ชายอย่างเรา นี่ก็ใกล้งานสัปดาห์หนังสือเข้ามาทุกที ๆ งานหนังสือครั้งนี้ลองไปหาหนังสือมาอ่านดูหน่อย เราจะกระซิบบอกให้ว่าผู้ชายอ่านหนังสือนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจเบอร์ไหน จินตนาการกว้างไกล หนังสือกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถักทอจินตนาการของผู้ชายอย่างเราให้แผ่ขยายไปได้ไกลแสนไกล ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมหรือหนังสือจริงจังให้ความรู้ ก็ล้วนแต่ทลายกรอบคิดเดิม ๆ ของเราให้กว้างขวางไปกว่าเดิม ดังนั้นผู้ชายที่มีจินตนาการ สาว ๆ คนไหนก็อยากอยู่ใกล้ เพราะไม่อยากพลาดความคิดดี ๆ ที่จะแผ่ขยายมาให้เมื่อได้ซุกตัวอยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง ความรู้รอบตัวกว้างขวาง ขึ้นชื่อว่าหนังสือ ผู้เขียนย่อมเขียนขึ้นมาด้วยแก่นสารอะไรบางอย่างแน่นอน การได้อ่านหนังสือจึงเป็นการอ่านความคิด อ่านความรู้ อ่านจินตนาการ อ่านภาษาของผู้เขียนมาซึมซับไว้กับตัวเรา ดังนั้นหายห่วงเรื่องความรู้รอบตัวที่เราจะได้มาประดับสมองไปฟรี ๆ และความรู้รอบตัวเหล่านี้เองที่จะกลายเป็นหัวข้อพูดคุยชวนให้สาว ๆ หลงใหลและฝากหัวใจไว้กับความรอบรู้นี้ได้ไม่ยาก จิตใจละเอียดอ่อน ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งได้สัมผัสมนุษย์ในแง่มุมต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ อ่านหนังสือแนวมานุษยวิทยา หรือแม้แต่วรรณกรรมเองก็ตาม การได้รับรู้เรื่องราวของคนในบริบทต่าง ๆ จะทำให้เราเป็นผู้ชายที่นึกถึงผู้อื่นมากขึ้น
การเจอกันครั้งแรกของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยการทักทายอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มที่ฉีกกว้างประดับบนใบหน้า (แบบที่จริงใจบ้างไม่จริงใจบ้าง) บทสนทนาสุดไพเราะลื่นใจ แต่บางครั้งผู้ชายอย่างเราก็เลือกไม่ได้ เมื่อต้องเจอกับมนุษย์หน้าหงิกไม่เป็นมิตรพูดคุยอะไรด้วยก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับเหมือนเราไปเหยียบเท้าเขาไว้ตลอดเวลา หรือเพราะหน้าเรามันกวนตีนเขาเกินไปก็ไม่รู้ ไม่เอา อย่าเพิ่งหัวร้อนไป เราควรรับมือมนุษย์พวกนี้อย่างมืออาชีพ ถ้ายังไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไรเราเอา 5 วิธีรับมือกับมนุษย์ไม่เป็นมิตรมาฝากกัน ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก รอยยิ้มนี่แหละที่สร้างง่ายแสนง่ายไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แต่เคล็ดลับเด็ดอยู่ที่ความจริงใจ รอยยิ้มที่ดีต้องมาจากทัศนคติที่ดี คิดไว้เสมอว่าว่าเขาแย่ใส่เรา เราไม่จำเป็นต้องแย่ใส่เขา โปรยยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ ถ้าไม่ถนัดฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันทุกซี่ ก็ยิ้มบาง ๆ ด้วยสายตาเพื่อบ่งบอกว่า “นาย ๆ เรามาอย่างเป็นมิตรนะ อย่ากัดเราเลยว่ะ” ตั้งใจฟังรายละเอียดทุกส่วนของเขา การเจอกันครั้งแรกต้องมีการแนะนำตัว พูดคุยสร้างบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่แล้ว ให้เราตั้งใจฟังทุกอย่างที่เขาพูดเกี่ยวกับตัวเขาเองหรือเรื่องราวที่เขาเล่า แสดงความตั้งใจว่าเราใส่ใจที่จะฟังเขาอย่างจริงใจ อาจจะพยักหน้ารับเป็นครั้งคราว หรือส่งเสียงตอบรับเป็นระยะ ๆ หรือตรงไหนที่เห็นว่าน่าสนใจก็โยนคำถามกลับไป เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเรากำลังใส่ใจจะเป็นมิตรกับเขามาก ๆ ได้โปรดอย่าตั้งแง่ใส่เรานักเลย ไหว้ล่ะครับพี่ หมากัดอย่ากัดตอบ การรับมือกับมนุษย์ไม่เป็นมิตรจำเป็นต้องมีสติอย่างมาก แต่ UNLOCKMEN เชื่อในสติของผู้ชายชาว UNLOCKMEN ทุกคน ดังนั้นไม่ว่าเขาจะจิกกัด เหน็บแนม