ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พิซซ่าต้องมาคู่กับเบียร์ แต่ผู้ชายอย่างเราก็รู้ดีว่า เฮ้ย เมื่อไหร่สั่งพิซซ่ามากินที่บ้านมันต้องมีเบียร์ฉ่ำ ๆ ในตู้เย็นรอให้กระดกคู่กัน ยิ่งคืนไหนมีบอลคู่ที่เราเชียร์ขาดใจแล้วมีพิซซ่าให้สวาปามและมีเบียร์ให้ดื่มตามนี่แม่งฟินยิ่งกว่าอะไร แต่ติดนิดเดียวที่บางทีก็ต้องสั่งพิซซ่ามา แล้วก็เดินลากแตะไปซื้อเบียร์จากร้านชำข้างบ้าน ลำบากลำบนจนขี้เกียจไปเลยก็มี แต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไปเมื่อผู้จำหน่ายพิซซ่ารายใหญ่อย่าง Pizza Hut ประกาศทดลองส่งตรงเบียร์ให้ถึงประตูบ้านลูกค้า! แต่ก่อนจะเข้าไปดูการปรับปรุงธุรกิจครั้งสำคัญของ Pizza Hut ผู้ชายอย่างเราเคยสงสัยไหมว่า ทำไมพิซซ่าถึงต้องมาคู่กับเบียร์ ? เพื่อให้เอาไปแชร์ข้อมูลกับคนอื่นในวงพิซซ่าครั้งหน้าได้อย่างคูล ๆ เรามารู้จักวัฒนธรรมแห่งการกินพิซซ่าคู่กับเบียร์กันก่อน แรกสุดเราอาจจะคิดว่า เฮ้ย พิซซ่าที่เป็นอาหารอิตตาเลียนน่าจะเข้ากับการจิบไวน์มากกว่าสิ เพราะปกติการจับคู่ไวน์กับชีสก็ดูเข้ากันดีเหลือเกินอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะกระบวนการ carbonation ของเบียร์สร้างความเป็นกรดอ่อน ๆ ที่ยกไขมันออกจากชีส ดังนั้นรสชาติขม ๆ ของเบียร์ที่ตัดผ่านเลเยอร์ของชีสจะสร้างความผสมผสานสุดเพลิดเพลินให้ชีวิตลูกผู้ชายอย่างเราได้แบบลืมไม่ลง ความลงตัวระหว่างพิซซ่าและเบียร์ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยีสต์ในเบียร์และยีสต์ในแป้งพิซซ่าแล้วให้ความกลมกล่อมเข้ากันได้ดีมาก ๆ เพราะรู้ว่าเบียร์กับพิซซ่าไปกันได้ดีระดับนี้ Pizza Hut ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสทางธุรกิจหลุดลอยไป ดังนั้น Pizza Hut เลยเริ่มการบริการส่งเบียร์มากกว่า 100 ที่ทั่ว Arizona และ California ในสหรัฐอเมริกา โดยเหตุผลหลักที่ Yum
“แพสชัน” “ความฝัน” สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ คำสองคำนี้แม่งโคตรมีความหมาย และพวกเราใช้ทั้งชีวิตเพื่อตามหามัน แต่ก็ใช่ว่าคนทุกคนจะสามารถค้นเจอมันได้ง่าย ๆ บางคนตั้งแต่เรียนจบ จนมาทำงานทุกวันนี้อาจจะยังบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าความฝันที่แท้จริงของตัวเองคืออะไร สำหรับชาว UNLOCKMEN คนไหนคิดว่ากูอาจจะไม่เจอความฝันและแพสชันอีกแล้วในชีวิตนี้ ลองมารู้จักกับเขาคนนี้ก่อน เพราะเขาจะเปลี่ยนความคิดของคุณด้วยความกล้า มุมมองและความคิดที่เขามีจากทุกสิ่งที่เขาเลือกทุ่มให้กับมัน นั่นคือการเป็น “Videographer” หากคุณเป็นคนที่อยู่ในสาย Travel Video ชื่อของ “ขุน” – โชติพงษ์ เอกเสน น่าจะเป็นหนึ่งใน Videographer ที่คุณเคยได้ยินหรือผ่านตาจากผลงานสุดเฉียบมากมายของเขา แต่สิ่งที่เจ๋งและเราอยากให้คุณได้ทำความรู้จักมากกว่ามันอยู่ที่ความกล้าเลือกตัดสินใจสวนทางกับคนอื่น เดินออกจาก Comfort Zone โดย drop เรียนมหาวิทยาลัยมาทุ่มเทตามฝันอย่างสุดตัวจนเกิดโปรเจกต์สนุก ๆ มากมายที่วันนี้ความชอบมันสร้างมูลค่าได้ อะไรคือเบื้องหลังของการตัดสินใจครั้งนั้น ความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่เขาต้องพบเจอ ถ้าคุณพร้อมแล้ว จากนี้ลองมารู้จักเขาไปพร้อมกัน UNLOCKMEN : แนะนำตัวหน่อยครับ ว่าเป็นใคร ทำอะไรอยู่ตอนนี้ ขุน : ชื่อขุนครับ ปีนี้อายุ 22 เมื่อก่อนเป็นนักศึกษา ตอนนี้เป็น Drop-Out Boy ก็คือดรอปเรียนออกมาทำตามความฝันของตัวเองครับ เพราะว่าเชื่อในความฝันนะ