“Consistency is the key to success” คำพูดของ Mr. Franz Linder, President of MIDO ที่ตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ได้อย่างยิ่งใหญ่ ประกอบกับ DNA ของแบรนด์อย่าง “Timeless design, Quality materials and Technical innovation” คุณค่าที่สืบเนื่องส่งต่อกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี ด้วยความแข็งแกร่งและสม่ำเสมอในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ ภาพลักษณ์ที่ทรงคุณค่าจนถึงปัจจุบันนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้รับเชิญไปร่วมงานฉลอง “MIDO CELEBRATES ITS 100TH ANNIVERSARY IN SHANGHAI” ที่จัดขึ้นที่ ณ ประเทศเซี่ยงไฮ้ สำหรับงานนี้ต้องบอกว่าจัดได้อลังการมาก พิเศษแม้กระทั่งหิมะที่ไม่ตกกว่า 10 ปี ยังตกโปรยปรายลงมาเป็นทางเดินสวยงามต้อนรับแขกจากรอบโลกที่มาร่วมงาน โดยงานนี้นอกจากจะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ทาง MIDO ยังมีการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่อย่าง Commander Big Date อีกด้วย
เงินเป็นสิ่งไม่มีชีวิต แต่กลับดิ้นหลุดมือง่ายเสียยิ่งกว่าสมญาพ่อปลาไหลชายไทย บุรุษนักลงทุนและสายออมอย่างเรา ๆ รู้กันเป็นอย่างดีว่าต่อให้ช่ำชองแค่ไหน การตามหลังเหล่าผู้รู้ฉลาด ๆ จากอีกซีกโลกก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นความรู้ที่ไม่มีวันจบ เพราะเรื่องการเงินเป็นสิ่งที่ effect ถึงกันทั่วโลกไม่ต่างจากน้ำกระเพื่อม แต่จะเริ่มตามใครก่อนดี? งานนี้เรามีไลฟ์สไตล์ทางการเงินจาก Blog ต่าง ๆ ถึง 10 Blog มาให้คุณได้เลือกติดตามตามความชอบแล้ว 1. Financial Mentor Blog ของ Todd Tresidder อดีตผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงเป็นหนึ่งใน Blog โปรดของเรา เพราะเล่าเรื่องเงินเป็นเรื่องง่าย ผ่านการซอยเรื่องเล่าการเงินเป็นหัวข้อย่อยให้ง่ายต่อเหล่าผู้แสวงหาความรู้อย่างพวกเรา ย่อยง่าย เคี้ยวคล่อง ไม่ต้องกลืน ขนาดนี้ รับรองว่าได้เรียนรู้มุมมองการลงทุนในอณูใหม่ ๆ ไว้ปรับใช้เพื่อกวักเรียกความมั่งคั่งมาเป็นเจ้าของได้อย่างแน่นอน 2. TheBudgetnista งบประมาณคือของหวาน Tiffany Aliche หนึ่งในเจ้าแม่การเงินตัวยง ที่สร้างสูตรการวางแผนแบบสนุก ๆ คือคนที่หนุ่ม ๆ อย่างเราหมายปอง เพราะแค่เข้าไปหาเธอใน Blog เราจะได้เก็บเกี่ยววิธีการรับมือเรื่องเงิน ๆ
หากพูดถึง TOYOTA หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์รถยนต์ แต่นอกจากนั้นแล้ว TOYOTA ยังมีธุรกิจอีกหลายแขนง ซึ่งหนึ่งในชื่อที่คุ้นหูกันมากหน่อยก็คือ ‘Toyota Tsusho’ ผู้นำธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม เครื่องอุปโภค-บริโภค นำเข้า-ส่งออก ฯลฯ ที่ก่อตั้งร่วมกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเมื่อ 60 ปีก่อน เป็นบริษัทที่ยึดคติในการทำงานตามแบบ Learning by doing เรียนรู้โดยลงมือทำ ได้เห็นภาพรวมการทำงานเข้าใจอย่างแท้จริง รวมทั้งการบริหารผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นกันเอง ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ UNLOCKMEN มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ คุณก้อง – กณพ เชาว์วิศิษฐ ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง Toyota Tsusho (Thailand) เกี่ยวกับแนวคิดการบริหาร และการเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อปรับใช้ในการบริหารงานและบาลานซ์ชีวิตครอบครัวให้ประสบความสำเร็จทั้งสองด้าน ต้องบอกเลยว่าจากการพูดคุย ทำให้เราได้แนวคิดที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถนำไอเดีย มุมมองดี ๆ ไปปรับใช้ให้เข้ากับการบาลานซ์ชีวิตของพวกเรา เพื่อจะได้พัฒนาขีดความสามารถในการทำงาน และแบ่งเวลาส่วนตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อได้ยินชื่อ Toyota สิ่งแรกที่นึกถึงคือแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก แล้วบริษัท Toyota Tsusho (Thailand) จำกัด นั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจของตนเอง อยากทำสิ่งที่เรารัก อยากมีบริษัท มีแบรนด์ของตัวเอง อยากมีชื่อเสียง แต่กว่าที่จะประสบความสำเร็จมีธุรกิจของตัวเองนั้น ชีวิตจริง มันอาจไม่ได้โรยไปด้วยดอกกุหลาบ ไม่ง่ายเหมือนหนังสือบนแผง ที่ชวนลาออกมาทำสิ่งที่เรารักให้สำเร็จได้ง่าย ๆ “ความมุ่งมั่น ความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง กล้าเผชิญกับปัญหา มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีการวางแผนสู้เป้าหมายเป็นอย่างดีเป็นสิ่งจำเป็น” UNLOCKMEN เอง กว่าจะพยายามจนถึงวันนี้ ที่มีแฟนเพจใจดีติดตามมากมาย ก็ต้องใช้ความมานะพยายามอย่างเต็มที่ วันนี้เราจึงไม่พลาด ที่จะนำแนวคิดดี ๆ จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จมาแชร์กัน ให้เป็นแรงบันดาลใจดี ๆ ในการเริ่มลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจ ASK MY BRO : จากการได้ทำธุรกิจของตัวเองที่ผ่านมา มีบทเรียนหรือแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จมาฝากคนรุ่นใหม่ ที่กำลังคิดอยากจะมีธุรกิจของตัวเองบ้าง ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา, STOCK2MORROW เราอยู่ในยุคสวรรค์ของผู้บริโภค คือเมื่อมี Pain Point หรือปัญหาในการใช้ชีวิตอะไร ก็จะมีคนสร้างธุรกิจมาแก้ปัญหาตรงนั้นให้จบไป เป็นยุคของการเลิกบ่นเลิกตัดพ้อในปัญหาจุก ๆ จิก ๆ แต่สามารถเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสในทางธุรกิจได้ ยุคที่ธุรกิจสามารถเติบโตเร็วในชั่วข้ามคืนพร้อม ๆ
“ใครว่าเด็กคืออนาคตของชาติ? ” เราอยากให้คุณลองกลับมาปัดฝุ่นความคิดใหม่หลังจากเจอบรรดาบอยตัวจี๊ดทั้ง 5 คนต่อไปนี้ เพราะความสามารถ ความคิด กับการแสดงออกของพวกรุ่นเยาว์ มันไม่ได้เบาเหมือนอายุที่ต้องรอวันโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนถึงจะเห็นผลอีกต่อไปแล้ว ชาว UNLOCKMEN จะประมาทในความคล่อง ความดีพ ความสุดของรุ่นน้องเหล่านี้ไม่ได้ ดังนั้นวันเด็กปีนี้ เดินหน้าเป็นผู้ใหญ่แล้วอย่าลืมเหลียวหลังกลับมามองด้วยว่ารุ่นน้องเดี๋ยวนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว เผื่อจะ GET หรือได้ INSPIRE ในการรีดความเก๋าไว้พัฒนาตัวเองอย่างเร่งด่วน ดรีมทีมเด็กเด็ดดวงจาก 5 สาขาปี 2019 นี้จะมีอะไรบ้าง มีคนที่ผู้ใหญ่อย่างเรารู้จักบ้างไหม ตามไปดูกันเลย สาขานักรีวิว ยกให้ Influencer จิ๋ว 7 ขวบวัยประถม ที่นำทัพการเล่นได้ถึงขีดสุดอย่าง RYAN BOY เด็กน้อยที่ดังจนถึงขั้นนั่งแท่น World’s Highest-Paid YouTube Stars list for 2017 ของ Forbe ที่เด็กที่สุด ซึ่งมี Marketing ของบริษัทของเล่นต่างให้ความสนใจ ส่งของไปให้เล่นที่บ้านฟรีเพื่อโฆษณาเพิ่มยอด เป็นตัวจริงขนาดนี้เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ เพราะเดี๋ยวพวกพี่จะหนาว เห็นตาใส
กระแสของ Crypto Currency หรือสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะ Bitcoin กำลังเป็นที่พูดถึงกันหนาหู จากที่เป็นหัวข้อคุยเฉพาะชาวสตาร์ทอัพ หรือ Geek IT แต่ด้วยราคาที่พุ่งชนิดฉุดไม่อยู่ ทำให้ชื่อ Crypto Currency เป็นที่คุ้นหูของคนทั่วไปมากขึ้น แต่ข้อสงสัยต่างๆยังมีอยู่มาก เราจึงขอนำมาอธิบายให้เข้าใจพอสังเขปด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุดดังนี้ Crypto Currency คืออะไร? คือเงินสกุลดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นจากการเขียนโค้ดโปรแกรมจึงไม่สามารถจับต้องได้ ต่างจากสกุลเงินปกติที่มีตัวตนจริงๆผ่านเหรียญกษาปณ์และธนบัตร ผู้สร้าง ทำมันขึ้นเพราะอะไร? ผู้สร้าง Bitcoin คนแรก (ต้องบอกว่ายังไม่สามารถระบุตัวตนได้) มีความคิดว่าสกุลเงินปกติทั่วไป (ซึ่งเราเรียกกันว่า Fiat Currency)โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐฯ “ไม่มีความน่าเชื่อถือ” เพราะสามารถพิมพ์ออกมาเท่าไรก็ได้ (จากการทำคิวอีหลังวิกฤตซับไพร์ม) และธนาคารกลางทั่วโลกก็สามารถบริหารจัดการค่าเงินตัวเองได้ไม่ให้แข็งค่าหรืออ่อนเกินไป ใช้ซื้อของได้จริงหรือ? ได้จริง หากร้านค้านั้นๆเปิดรับ ในประเทศไทยเองก็มีร้านอาหารสองร้านที่เปิดรับ Bitcoin ส่วนมากยังเป็นในต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ที่พูดๆกันว่า “ขุด” หมายความว่าอย่างไร? คำว่าขุด ถูกเรียกให้เหมือนกับการขุดทองคำ ซึ่งเป็นสกุลเงินหรือสิ่งแลกเปลี่ยนที่นิยมกันในอดีต จริง ๆ แล้วการขุดคือการใช้การ์ดจอหรือ GPU นำมาใช้ประมวลผลเพื่อ “ถอดรหัส”
ชาว UNLOCKMEN สายถ่ายภาพทั้งมือสมัครเล่นและมือโปรเตรียมยิ้มหวานกับการประกาศอย่างเป็นทางการให้สะเทือนวงการภาพ เมื่อบริษัทยักษ์ล้มเจ้าดังอย่าง KODAK ลุกมาจับมือกับ Wenn Digital บุกตลาดค้าภาพลุกมาสร้างสกุลเงินกลางสายดิจิตอลสำหรับนักถ่ายที่หวังจะดึงอำนาจการสื่อขายถ่ายโอนภาพให้ได้ดังใจ KODAKCOIN สกุลเงินใหม่มีไว้ทำไม? หลายคนสงสัยว่าเมื่อมีสกุลเงินดิจิตอลชื่อดังอย่าง Bitcoin แล้ว ทำไมยังต้องมี KODAKCOIN มาเพิ่มอีก คำตอบง่าย ๆ ก็คือไอ้ระบบสกุลเงินดิจิตอลเนี่ย Bitcoin มันอาจจะดังที่สุด แต่มันก็เป็นแค่หนึ่งในสกุลเงินเท่านั้น และช่วงนี้ก็เป็นขาขึ้นของ cryptocurrency จึงไม่แปลกที่ KODAK เองจะสนใจ หันไปปล่อย Currency ของตัวเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ Portfolio ด้วยความเชื่อมั่นในระบบ Blockchain และรู้ว่านี่ยังเป็น Blue Ocean ที่จะทำเงินได้ แถมการใช้ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่อย่าง KODAK ย่อมทำให้ค่าเงินของตัวเองมีมูลค่าน่าสนใจกว่าเจ้าไหน ๆ ในตลาด คนใช้ได้จะได้อะไร? KODAK เขาก็ออกมาเผยข้อดีว่าแพลนนี้มันดีนะยูวววว มันช่วยเปิดมิติการซื้อขายรูปอย่างเท่าเทียมขึ้นมา ช่างภาพอยากขายภาพก็เทรดตรงไปเลยระหว่างคนซื้อคนขาย จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะการซื้อขายทุกวันนี้ที่มันมีช่องว่างของพ่อค้าคนกลางมาเอี่ยวบ้าง หรือบรรดาคนซื้อหัวหมอที่ซื้อครั้งเดียวใช้ไปรัว ๆ ทุกช่องทาง หรือมุกหนูไม่รู้ที่หยิบเอาช่องว่าระหว่างพรมแดนมาบอกบ่อย
เราต่างประสบปัญหาหัวร้อนเป็นไฟกันมาแล้วเมื่อต้องถกเถียงกับใครอย่างดุเดือดผ่านทางช่องการสื่อสารออนไลน์ จนเราพากันคิดว่านี่เราตั้งสเตตัสอธิบายยาวเหยียดก็แล้ว ส่งข้อความไปคุยด้วยก็แล้ว ทำไมยังเถียงกันไม่จบ แถมอีกฝั่งก็ไม่ได้ดูมีทีท่าว่าจะเข้าใจเรามากขึ้นเลย UNLOCKMEN ขอเสนอตัวหยุดความหัวร้อนเป็นไฟไว้ให้ แล้วเอา 3 วิธีทำให้เขาฟังเราอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาฝาก 3 วิธีหยุดวามหัวร้อนเป็นไฟแล้วทำให้เขาหันมารับฟังเราอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาลอย ๆ แต่เป็นงานวิจัยที่ผ่านการศึกษามาแล้วอย่างจริงจังโดย Juliana Schroeder ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการจัดการองค์กรที่ Haas School of Business, University of California, Berkeley Juliana Schroeder ศึกษาเรื่องการมีข้อถกเถียงระหว่างกันโดยศึกษาคน 300 คน ซึ่งทั้ง 300 คนนั้นถูกขอให้ร่วมดู ร่วมฟัง และร่วมอ่านข้อถกเถียงต่าง ๆ เช่น เรื่องการทำแท้ง เรื่องสงคราม เรื่องเพลง (โดยอาจจะเป็นเรื่องที่เขาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้) ผลปรากฏว่าการถกเถียงกันแต่ละครั้งและมีแนวโน้มที่จะทำให้อีกฝ่ายหันมารับฟังเราหรือเข้าใจเราได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่การเถียงกันผ่านตัวอักษรอย่างการอ่านหรือเขียน แต่เป็นด้วยการดู การพูดหรือการฟังมากกว่า ข้อสรุปจากงานวิจัยของ Juliana Schroeder จึงมีความสำคัญต่อผู้ชายหัวร้อนอย่างเรามาก เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้ว่าเราควรสื่อสารผ่านทางช่องทางไหนเมื่อต้องการโน้มน้าวใจคนที่เขาไม่เห็นด้วยกับเรา โดยเฉพาะการเจรจาทางธุรกิจ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าคุณจะส่งข้อความคุยกันเฉย ๆ ไม่ได้
‘คุณถูกไล่ออก’ เราเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากที่จะได้ยินคำนี้ แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับตัวเราล่ะ จะทำอย่างไร เพราะชีวิตการทำงานไม่มีอะไรที่มันแน่นอนอยู่แล้ว ก่อนอื่นหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวคุณ ขอให้ตั้งสติเสียก่อน อย่าคิดว่ามันเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต การโดนไล่ออก ให้ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งบางครั้ง คนเราอาจจะซวยถึงขั้นต้องเจอกับเรื่องเหล่านี้บ้าง ซึ่งมันคงต้องแย่หรือซวยสุด ๆ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น แล้วเรารู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ก็ขอให้ใช้มันเป็นบททดสอบในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปสู่เส้นทางที่ดีกว่าเดิม เชื่อหรือไม่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จหลาย ๆ คน ใช้วิกฤตจากจุดนี้เปลี่ยนเป็นโอกาส ถ้าเราอยากที่จะประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ต้องละทิ้งความกลัว ความเสียใจ และเริ่มมองหาแง่ดีจากการถูกไล่ออกเพื่อใช้มันเป็นบทเรียนในการพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมซะ Why Getting Fired is a Blessing ? ในทุก ๆ วันมีคนถูกไล่ออกจากงานที่ไหนซักแห่งในโลกเป็นเรื่องปกติ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแค่คนเดียว และไม่ใช่คนสุดท้าย ถึงแม้ตอนนี้คุณจะรู้สึกมืดแปดด้าน มองไม่เห็นทางออก แต่ทำใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ลองมาดู 6 ข้อดีที่มาพร้อมกับการถูกไล่ออก ท่ามกลางความผิดพลาดครั้งใหญ่ เราอาจจะยังพอศึกษาประโยชน์อะไรจากมันได้บ้างไม่มากก็น้อย Chance to Move On คนส่วนใหญ่เมื่อโดนไล่ออกมักจะมีแนวโน้มที่จะหยุดอยู่กับที่ ไม่พร้อมก้าวออกไปไหน หรือทำอะไรต่อไป ซึ่งเป็นผลจากการสูญเสียความมั่นใจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม
“งานแม่งหายาก” ประโยคสบถโคตรคลีเช่แบบนี้ คุณยังพูดมันอยู่หรือเปล่า? บางทีการเสพข่าวเรื่องตกงานซ้ำ ๆ จากสำนักงานสถิติแห่งชาติปลายปีที่แล้ว ที่บอกว่าคนตกงานเพิ่ม 1.2 % หรือเกือบ 5 แสนคน มันก็ทำให้ใจของชายอกสามศอกอย่างเรา ๆ ทิ้งดิ่ง หรือเอามาเป็นข้ออ้างในการเลิกหางานแล้วนั่งคอตกอยู่ที่เดิม แต่อย่าเพิ่งเหมาว่าชีวิตมันแย่ เพราะ UNLOCKMEN มีเทคนิคหย่อนเบ็ดเรียกแขกเหล่า RECRUITER เปลี่ยนชีวิตว่างงานจาก SUCK เป็น SUCCESS แค่ลองเปลี่ยนตำแหน่งมายืนเหนือเกมเดิมที่คุณเคยเล่น แตะมือสลับทางจากเหยื่อมาเป็นพรานเลือกงานที่ชอบ เชื่อเหอะว่าพอเรามั่นใจในตัวเอง งานเฉียบ ๆ มันจะตามมา สวมวิญญาณ RECRUITER 2018 ปีนี้เขาต้องการอะไรบ้าง ADECCO THAILAND เขาสำรวจมาว่า HR TREND 2018 เป็นยุคที่บริษัทหันมาใช้โซเชียลกับเทคโนโลยี ในการตามหาและคัดเลือกคนกันมากขึ้น ซึ่งถ้าจะให้รู้เขา รู้เรา ก่อนอื่นเราต้องรู้เทรนด์การทำงานที่บริษัทหลายแห่งจะปรับตัวกันมากขึ้น ถามว่ารู้แล้วได้อะไร ก็เผื่อจะเอาไปดักทางสร้างคะแนน หรือต่อรองกับบริษัทเหล่านั้นดู เพราะสมัยนี้มีออฟชันมากกว่าแค่ทำงานประจำแบบ Full-Time นะ 1. หา Freelance ตามกระแส GIG ECONOMY เมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มไม่อยากทำงานประจำ
ความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แทบจะแตะต้องไม่ได้ เรียกว่าไปบีบคั้นมันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าจะแหลกสลายลงไปตรงหน้ามากเท่านั้น บางทีเค้นให้ตายก็ไม่ออกมา จนเลือดเราขึ้นหน้าด้วยความโมโห UNLOCKMEN อยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งหัวร้อนไป ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ลอยมาจากอากาศ แต่อยู่ที่การฝึกนิสัยให้เราเป็นคนสร้างสรรค์ แล้วจะสร้างฉัน สร้างฝันนั้นให้สำเร็จได้อย่างไร ใช้เวลานานหรือเปล่า เราบอกเลยว่าขอเวลาแค่ 10 นาทีต่อวันเท่านั้น เพื่อฝึกเราเป็นคนใหม่ คิดอะไรสร้างสรรค์กว่าเดิม The Journey of A Man And A Dog การบริหารกล้ามเนื้อส่วนความคิดสร้างสรรค์ ถูกตั้งชื่อตามลักษณะง่าย ๆ แต่ทำได้จริงของมันว่า The Journey of A Man And A Dog มันง่ายสุดง่ายจนผู้ชายทุกคนต้องตะโกนออกมาว่า เฮ้ย รู้อย่างนี้ทำตั้งนานแล้ว! จุดเริ่มต้นของมันอยู่ที่คุณหลับตาแล้วจินตนาการให้ชัดเจนว่ามีผู้ชายหนึ่งคนและหมาหนึ่งตัว จากนั้นค่อย ๆ พิจารณาความสัมพันธ์ของผู้ชายคนนั้นกับหมาหนึ่งตัวในห้วงจินตนาการสุดบรรเจิดของคุณ หมาตัวนั้นมาจากไหนกันนะ? หมาตัวนั้นอยู่กับผู้ชายคนนั้นมานานแค่ไหนกัน? สุนัขตัวนั้นเป็นพันธุ์อะไร? หมาตัวนั้นเป็นของผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า? แล้วทั้งเขาและมันกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกัน? เริ่มจากคิดถึงรายละเอียดง่าย ๆ พื้นฐานทั้งหมด แต่ครอบคลุมทุก ๆ รายละเอียดเท่าที่เราจะจินตนาการออกในหัว
ผู้ชายอย่างเราล้วนแต่รู้สึกว่ามีงานล้นมือล้นหัวจนต่อให้มี 10 มืออย่างทศกัณฐ์ก็คงแอบบ่นว่าทำไม่หมดอยู่ดี ในทางกลับกัน CEO ระดับโลกอย่าง Elon Musk ล่ะ? งานผู้ชายคนนี้จะล้นมือขนาดไหน? เขาทำบริษัทอะไรบ้าง? โปรเจ็กต์กี่ล้านอย่างในหัว? แล้วเขาทำทั้งหมดนั้นในหนึ่งช่วงชีวิตได้อย่างไร? 85 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ คือเวลาชีวิตที่ Elon Musk มอบให้งาน ถ้าเรารู้สึกว่านักธุรกิจ CEO มหาเศรษฐีอย่าง Elon Musk จะใช้ชีวิตลูกผู้ชายอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทองและบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาอย่างสุขสบาย เห็นทีจะคิดผิดมหันต์ เพราะไม่ใช่แค่ทำงาน แต่เขาทำงาน 80-85 ชั่วโมงต่อสัปดาห์! จินตนาการถึงการทำงานประจำของคนทั่วไปอย่างเรา ๆ กันดูหน่อยไหม? เราทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ ก็เท่ากับว่าในแต่ละสัปดาห์เราทำงานเพียง 40 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ใน 40 ชั่วโมงของเราก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า การรู้สึกว่าทำงานไม่ทันจนอยากจะลาออกจากความเป็นเราอยู่ร่ำ ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ แล้ว Elon Musk ทำอย่างนั้นได้อย่างไร? นอกจากการนอนเป็นเวลาแค่ 6 ชั่วโมง