มวลมหาดราม่ากับวงดนตรีมีชื่อเสียงนั้นเรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน ยิ่งวงอินดี้รุ่นใหม่ที่มีฟรอนต์แมนฝีปากกล้าอย่าง THE 1975 พวกเขาผ่านดราม่ามามากจนนับไม่ถ้วนเลยทีเดียวในรอบปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ออกไปให้สัมภาษณ์อะไรสุ่มเสี่ยงที่รายการไหน อย่างไรก็ไม่รอดอยู่ดี ล่าสุดก็เป็นเรื่องเป็นราวอีกแล้ว เมื่อศิลปินหนุ่ม Lauv (เจ้าของเพลงฮิต I Like Me Better, Paris In The Rain) ปล่อยมิวสิควิดีโอตัวใหม่ล่าสุด Tattoos Together ออกมา ซึ่งก็ดูเฮฮาน่ารักดี แต่บรรดาแฟนคลับนี่สิ ดันปั่นกันไปใหญ่โตว่ามันเหมือนมิวสิควิดีโอเพลง Sincerity Is Scary ของ THE 1975 ซะงั้น อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากการเดินไปเต้นไป มีผู้คนตามถนนมาเต้นด้วยเยอะ ๆ เพียงแต่สถานที่ตรงฉากหลังมันก็ดูไปในทิศทางเดียวกันจริง ๆ ซึ่งตัว Lauv เองพอรู้ข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย Matt Healy ฟรอนต์แมน The 1975 เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จากนั้นก็นำข้อความที่คุยกันนั้นมาโพสต์ทางทวิตเตอร์วันที่ 17 มกราคม เพื่อยืนยันว่าเขาทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วเรียบร้อย
หลังจากคราวก่อนที่ WEEKLY PLAYLIST ได้รวบรวม “10 บทเพลงเบสหนึบ ตึ้บในหู” กันไป ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากคอเพลงชาว UNLOCKMEN อย่างเป็นที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว ครั้งนี้เราจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะได้ถอยภาคต่อรอเสิร์ฟแขกผู้มีใจรักเสียงเพลงทุกท่านกันแล้วเรียบร้อย พูดถึงเบสกันไปแล้ว ก็ถึงคราวของขุนพลแห่งจังหวะอย่าง ‘กลอง’ กันบ้าง มาดูกันว่าจะมี 10 เพลงกลองเด็ดเจ็ดย่านน้ำจากศิลปินท่านใดบ้างที่นิตยสารดนตรีทั้งหลายเขายกย่องว่าเนี่ยแหละกองเทพ! เผื่อจะมีบางเพลงที่ยังไม่เคยฟังหรือไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเทพมากขนาดนี้ งานนี้ชาวร็อกที่รักการ Headbang เตรียมคอเคล็ดกันได้เลย My Generation – The Who My Generation ของวงร็อกอังกฤษยุค 60 อย่าง The Who เป็นหนึ่งในเพลงที่ติดโผของสื่อหลายเจ้า และอยู่สูงเป็นอันดับ 6 ของเว็บไซต์ ultimate classic rock เลยทีเดียว ไอ้ที่เขาชื่นชมกันว่าดี มันไม่ใช่ว่าจะต้องหวดหนักจนหน้ากลองยุบ แต่ลองคิดดูนะครับว่าโลกเราในปี 60 นั้น ดนตรีเมทัลยังไม่ถือกำเนิดเลยด้วยซ้ำ แต่ Keith Moon กลับมีความกล้าที่จะออกแบบจังหวะกลองบ้าดีเดือดแหกคอกวงดนตรีผู้ดีอังกฤษคนอื่น ๆ ในยุคนั้น
หากกล่าวถึงวัฒนธรรม Punk (พังก์) เชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็นแฟชั่นที่จัดจ้าน เพลงร็อกรุนแรงบาดหู และแนวคิดหัวขบถต่อต้านสังคม เพราะวัฒนธรรมย่อยประเภทนี้เกิดขึ้นเพื่อปลดแอกวิถีชีวิตของคนบางกลุ่มออกจากกรอบของสังคม พวกเขาใช้ศิลปะและเสียงเพลงในการแสดงออก ต่อต้าน ประท้วง จนสามารถรวบรวมผู้คนที่คิดเหมือนกันให้เป็นปึกแผ่นได้ จากอังกฤษ ไปอเมริกา ต่อมาก็แพร่กระจายไปทั่วโลกและเฟื่องฟูถึงขีดสุดในยุค 1970 ตอนต้น พอเข้าสู่กลางยุค 70 การมาของวัฒนธรรม New Wave (นิวเวฟ) ก็เริ่มต้นขึ้น สิ่งนี้คือดนตรีที่เกิดจากรากฐานของพังก์ร็อก แต่หลอมรวมเอาดนตรีแนวดิสโก้และซาวด์ซินธิไซเซอร์มาผสมผสานให้กลายเป็นเพลงป๊อปแปลกใหม่ที่มีความเป็นศิลปะ ฟังง่าย เป็นมิตรต่อหูคนทุกเพศทุกวัยได้มากกว่าพังก์ พังก์จึงเริ่มเสื่อมความนิยมลงในที่สุด นิวเวฟกลายเป็นขวัญใจใหม่ของผู้คนและได้ขึ้นมาเฉิดฉายในวงการเมนสตรีม ซึ่งวงดนตรีที่ถูกจัดว่าอยู่ในซีนของ New Wave นี้ ก็มีแนวเพลงที่แตกแขนงแยกย่อยไปอีก ไม่ว่าจะเป็น New Romantic, Power Pop หรือ Post-Punk วงดนตรีชื่อดังอย่าง Blondie ก็จัดเป็นแถวหน้าของซีน New Wave นี้เช่นกัน หากพูดกันแค่ในแง่ของดนตรีอาจจะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างช่างน่าตื่นตาตื่นใจ แต่อันที่จริงสถานการณ์บ้านเมืองนิวยอร์กยุคนั้นกลับไม่ได้สวยหรู เมื่อย่างเข้าสู่ ค.ศ.1977 ภาพฝันอเมริกันชนก็ต้องดับสลาย อเมริกาเป็นพ่ายแพ้ในสงครามเวียดนาม คุณภาพประชากรร่วงสู่จุดตกต่ำ แต่ยอดอาชญากรรมกลับพุ่งขึ้นสูง
“รักฉัน รักฉันเถอะนะ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ” “ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้” หากบทเพลงของผู้ชายที่ชื่อ ‘อะตอม – ชนกันต์ รัตนอุดม’ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณมาโดยตลอด ขอให้รู้ไว้ว่าเรากับคุณคือเพื่อนกัน จากวันแรกที่เด็กชายอะตอมได้เห็นนักร้องในโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าในอนาคตตัวเองจะต้องเป็นแบบนี้ให้ได้ ถึงแม้จะเรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมาย แต่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของอะตอมกลับวนเวียนอยู่กับเสียงเพลงมาโดยตลอด และถ้าหากคุณรู้สึกว่าบทเพลงของเขาคือส่วนหนึ่งในชีวิต วันนี้ก็ถึงคราวที่คุณจะได้ไปเรียนรู้ชีวิตของผู้ชายเจ้าของบทเพลงเหล่านั้นกันบ้าง เขาเริ่มต้นการเป็นนักร้องไมค์ทองคำตัวยงบนเวทีประกวดเพลงลูกทุ่งชั้นประถม สู่การเริ่มเขียนเพลงจริงจังในสมัยมัธยม จนถึงวันที่เขาตัดสินใจส่งเดโมให้ค่ายใหญ่ ทุกความสำเร็จล้วนเกิดขึ้นจากความพยายาม หาใช่โชคช่วยหรือการเป็นไวรัลทางอินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด บทสนทนาในครั้งนี้จะพาเราทุกคนไปย้อนประวัติศาสตร์บนเส้นทางดนตรีของอะตอมกันอีกครั้ง รวมถึงรับฟังมุมมองด้านกฎหมายลิขสิทธิ์เข้มข้น ที่เราการันตีว่าจะเป็นประโยชน์กับศิลปินและเหล่าผู้สร้างสรรค์ผลงานทุกคนอย่างแน่นอน จุดเริ่มต้นของคุณคือการฝากเดโมเพลงตัวเองไปกับ ‘แอมมี่ The Bottom Blues’ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันที่จริงตอนเริ่มต้นไม่ใช่ว่าทำเดโมเลยตามหาตัวพี่แอมมี่เพื่อเอาไปฝากนะ ไม่รู้ว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตอะไรหรือเปล่า วันที่เราไปอัดเดโมเซตสุดท้ายที่เราตั้งใจว่าถ้าเสียเงินให้ห้องอัดที่นี่รอบนี้ แล้วเอาไปส่งรอบนี้ ถ้าไม่รอดก็คือไม่รอด ถือว่าสุดทางแล้ว มีเพลงที่แต่งมาเยอะประมาณ 5-6 เพลง อัดเป็นกีตาร์โปร่งกับเสียงร้อง ซึ่งห้องอัดนี้เราหาจาก Google พยายามหาอันที่ดูดี ที่คนเขาใช้กันเยอะ ๆ ก็ไปเจอห้องอัดนึงชื่อ LopStudio อยู่ตรงตึกลิเบอร์ตี้ ท้ายซอยทองหล่อ แล้วก็เข้าไปอัด
ถ้าเอ่ยชื่อถึงเหล่าคนดังที่ขับเคลื่อนวงการบันเทิง ใครหลายคนคงจะคุ้นชื่อของผู้กำกับ Steven Spielberg (สตีเวน สปีลเบิร์ก) ชายที่ถูกเรียกว่า ‘พ่อมดฮอลลีวูด’ รู้จักชื่อของผู้กำกับฝีปากจัดแต่โคตรเก่งอย่าง Martin Scorsese (มาร์ติน สกอร์เซซี) หรือรู้จักชื่อของ George Lucas (จอร์จ ลูคัส) ชายผู้สร้างค่ายหนัง Lucusfilm ที่ทำเรามีหนังอวกาศเรื่อง Star Wars ดูตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก แล้วถ้าเป็นชื่อของ Kurosawa Akira (คุโรซาวะ อากิระ) หลายคนอาจไม่รู้จักชื่อของเขา UNLOCKMEN จึงอยากแบ่งปันให้ทุกคนได้รู้จักเรื่องราวและผลงานยิ่งใหญ่ที่ส่งผลต่อวงการบันเทิงโลก ทำไม Kurosawa ถึงเป็นชายที่ Spielberg ชื่นชมอยู่เสมอ ถูกอัจฉริยะอย่าง Scorsese ชมว่า ‘Kurosawa คืออัจฉริยะตั้งแต่เกิด’ และทำไมผลงานหนังซามูไรของเขาถึงได้เป็นแรงบันดาลใจให้ George Lucas สร้างหนัง Star Wars ออกมาเหมือนอย่างทุกวันนี้ ? ความฝันที่ล้มเหลวก่อนมาเป็นผู้กำกับหนังซามูไร Kurosawa Akira (คุโรซาวะ
หากกล่าวถึง MAYA MUSIC FESTIVAL หลายคนคงจะคิดถึงงานดนตรีแนว EDM ระดับบิ๊กที่จัดเป็นประจำทุกปี ณ เมืองพัทยา งานเดียวที่จะทำให้เราได้แดนซ์แบบข้ามวันข้ามคืนไปกับบรรดาดีเจชั้นนำระดับโลก สุดเหวี่ยงไปกับแสงสีเสียงและบรรยากาศ จนหลายคนก็พูดปากต่อปากว่าหากปีหน้าจัดต้องมาซ้ำอีกแน่นอน สำหรับปี 2020 นี้ MAYA เขาก็จะครบรอบ 5 ปีเต็มพอดี ครั้งนี้เลยจัดใหญ่ใส่เต็มกว่าเดิม ด้วยการขยับขยาย LIVE STAGE ให้อินเตอร์กว่าที่เคย พวกเขาได้รวบรวมศิลปินแถวหน้าหลากหลายแนวมาไว้ให้คุณได้เต็มอิ่มในเวทีเดียว แถมบางวงยังเป็นวงรุ่นใหญ่ที่ไม่ได้หาดูกันง่าย ๆ งานนี้ใครซื้อบัตรแล้วบอกได้คำเดียวว่ามีแต่คุ้มกับคุ้ม มาทบทวนกันอีกครั้งว่าใน 6 วงนี้จะมีวงอะไรบ้าง เผื่อคนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะไปหรือไม่ไปดีจะได้ทราบข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจครับ H 3 F H3F คือวงคนไทยที่ทำเพลงสากล มีสมาชิก 3 คน ได้แก่ ก้อง แม็ก และหม่อม (ชื่อวงของเขาก็ย่อมาจากคำว่า Happy 3 Friends ครับ) แนวเพลงฟังสบายที่ผสมผสานดนตรีหลากหลายแนวเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็น บลูส์ ฟังก์ โซล หรือร็อก กลมกล่อมลงตัว
ในวงการฮอลลีวูด คุณอาจเคยเห็นนักแสดงเจ๋ง ๆ หลายคนยอมลงทุนเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองเพื่อให้เข้าถึงบทบาทของเขา ไม่ว่าจะเป็นลดน้ำหนักจนซูบผอม หรือเพิ่มน้ำหนักเป็นสิบ ๆ กิโลฯ ผู้หญิงบางคนยอมโกนหัว นักแสดงบางคนถึงยอมไว้หนวดเครารุงรังจนเราแทบจำไม่ได้ แต่เชื่อไหมครับว่าครั้งหนึ่งในยุค 1960 มีนักแสดงท่านหนึ่งโดนสั่งให้ทำอะไรที่โหดร้ายกว่านั้นมาก นั่นก็คือการส่งตัวไปหาหมอเพื่อหด ‘ความเป็นชาย’ ของตัวเองให้ลดลง! Burt Ward คืออดีตนักแสดงชาวอเมริกัน (ปัจจุบันอายุ 74 ปี) ผู้เคยรับบท ‘โรบิน’ สหายคู่ใจมนุษย์ค้างคาวใน Batman เวอร์ชันทีวีซีรีส์ที่ออกฉายช่วงปี 1966–1968 เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ออกมาเผยกับเว็บไซต์ Page Six ว่า ครั้งหนึ่งสถานีโทรทัศน์ ABC (The American Broadcasting Company) ถึงกับส่งตัวเขาไปหาหมอ เพื่อสั่งยา ‘หดขนาด’ เจ้าโลกของเขา ด้วยเหตุผลที่ว่าเป้าของเขามันดูตุงเกินไปสำหรับโทรทัศน์! “ผมทานยาไปได้ 3 วันก็เริ่มคิดว่าสิ่งนี้อาจจะทำให้ผมมีลูกไม่ได้ ผมตัดสินใจหยุดทาน ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ผ้าคลุมบังเอาไว้แทน” อีกทั้ง Burt Ward ยังเผยอีกว่า Adam West
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา บรรดาสื่อดนตรีต่างประเทศต่างออกมาจัดอันดับ ‘สุดยอดเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล’ ในหมวดต่าง ๆ ตามธรรมเนียมของทุกปี ซึ่งเพลงดีตลอดกาลที่ว่านี้ก็ไม่มีมีดีแค่หัวข้อเดียว เพราะมันยังแยกประเภทออกมายิบย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพลงร็อกยอดเยี่ยม เพลงป๊อปยอดเยี่ยม เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม แต่มีหนึ่งหัวข้อที่เตะตาเรามาก ๆ จนไม่นำมาพูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือหัวข้อ เพลงไลน์เบสยอดเยี่ยมตลอดกาล นั่นเอง คอเพลงทุกคนคงคุ้นเคยกับวลีติดปากที่มักจะพูดกันว่า เบสหนึบ เบสโหด เบสเทพ ซึ่งไอ้ความรู้สึกเหล่านี้ถ้าไม่ใช่นักดนตรีก็คงจะไม่มีวันรู้ว่าไลน์เบสใครที่เจ๋งสุดในวงการ หรือต่อให้รู้ก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่เราชอบจะดีที่สุดเสมอไป วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะหยิบยกเพลงไลน์เบสโดดเด่นที่พวกนิตยสารดนตรีดัง ๆ เขาเคลมว่าดีมาบอกต่อบรรดาคอเพลงทั้งหลาย มาดูกันว่าจะมีเพลงอะไรบ้าง แล้วที่ว่าดีนี่มันดีแค่ไหนกันเชียว! Around The World – Daft Punk Select By NME เพลงนี้อยู่ในอันดับ 10 เพลงไลน์เบสยอดเยี่ยมตลอดกาลของ NME แน่นอนว่าวงอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Daft Punk ให้ความใส่ใจเรื่อง Beat ยืนหนึ่งกว่าวงไหน หลายเพลงของพวกเขาไม่มีเนื้อร้องด้วยซ้ำ Around The World เพลงนี้ก็เช่นกัน
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าในช่วงเวลานี้ภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใต้เรื่อง Parasite (2019) ก่อให้เกิดการพูดถึงเป็นวงกว้างไม่ใช่แค่คนในวงการหนังเท่านั้น เพราะภาพยนตร์ที่กล้าเล่าความจริงในชีวิตประจำวัน เสียดสีสังคมแบบจัดเต็มทำให้คนส่วนใหญ่อินตามเรื่องราวในหนังได้ง่าย ๆ เพราะภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ที่มาแรงมากในปีนี้ ทำให้ UNLOCKMEN เลือกภาพยนตร์เสียดสีสังคมเกาหลี 5 เรื่อง เนื้อเรื่องหนัก เครียด ชวนให้หดหู่และเล่าไว้ได้เจ็บแสบมาแบ่งปันกันให้ทุกคนรับรู้ว่า ความสังคมและผู้คนที่เราพบเจอกันอยู่ทุกวันมันอาจไม่สวยงามอย่างที่ตาเห็น แถมหนังทั้ง 5 เรื่อง ยังแสดงให้เห็นว่ากระแสจากสื่อบันเทิงมีส่วนขับเคลื่อนสังคมได้มากกว่าที่คิด Silenced (2011) Silenced (2011) อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงสุดสะเทือนใจของเกาหลีใต้ เมื่อครูคนใหม่มาสอนในโรงเรียนสำหรับเด็กผู้บกพร่องทางการได้ยินอินฮวา (เด็กหูหนวก) เขาบังเอิญพบว่าเด็กเหล่านี้ถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเป็นเวลานาน ครูคนใหม่ (รับบทโดย กงยู) จึงพยายามนำเรื่องราวน่าสะอิดสะเอียนที่ไม่มีใครรับรู้นี้ออกให้แจ้งสาธารณชนได้รับรู้โดยร่วมมือกับนักสิทธิมนุษยชน เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Silenced (2011) ออกฉายในปี 2011 ทำให้โรงเรียนอินฮวาถูกสั่งปิดในอีกสองเดือนถัดมาพร้อมกับการตั้งคำถามของสังคมว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเรื่องน่าเศร้านี้กินเวลานานหลายปีตั้งแต่ปี 2005 ที่แก๊งครูผู้ก่อเหตุ 6 คน กับผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมมือกันปกปิดเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ถูกสืบสวนและตั้งข้อหาข่มขืนเด็กพิการอย่างน้อย 9 คน แต่เรื่องกลับเงียบหายไปเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ใส่ใจจะเอาคนผิดมาลงโทษ คนชั่วลอยนวล สื่อก็เพิกเฉย
วันที่ 10 มกราคม 2020 คือวันครบรอบ 4 ปีที่ราชาเพลงร็อกตลอดกาลอย่าง David Bowie (เดวิด โบอี) ได้จากโลกใบนี้ไป หลายคนจดจำผลงานเพลงของเขา บ้างก็จดจำเขาในฐานะนักแสดง หรือแม้กระทั่งบางคนที่ไม่เคยเสพผลงานของเขาเลยก็ยังสามารถจดจำเขาได้จากแฟชั่นและการแต่งกายอันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แถมยังมีหลากหลายลุคและมีบุคลิกที่ชวนจดจำ เขาคนนี้เป็นดั่งผลงานศิลปะที่มีชีวิต แถมยังรู้จักเปลี่ยนแปลงปรับตัวตามยุคสมัย ทำให้ตลอดชั่วชีวิตของเขาเต็มไปด้วยสีสันและควาฟน่าสนใจ แถมยังกลายเป็นแรงบันดาลใจต่อผู้คนบนโลกในทุก ๆ วงการ ไม่ว่าจะเป็นในแง่งานเพลง การแสดง จนไปถึงการวงการแฟชั่น คนอย่างเดวิด โบอีไม่จำเป็นต้องตามแฟชั่น แต่เป็นแฟชั่นต่างหากที่มีเขาเป็น Trendsetter! เพลง Space Oddity – David Bowie โบอีล้ำหน้ากว่าผู้คนไปก้าวหนึ่งเสมอ ลองคิดดูสิครับว่าเพลง Space Oddity ที่แต่งออกมาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว เหตุใดเรานำมาเปิดฟังในวันนี้มันก็ยังคงเข้ากับความไซไฟในทุกยุคทุกสมัย ต่อมาช่วงปลาย 70 เขาก็ยังเป็นคนแรก ๆ ที่นำซาวด์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในเพลงก่อนดนตรีแนวซินธ์ป๊อปจะเฟื่องฟู หรือแม้กระทั่งในยุค 90 ที่โลกเต็มไปด้วยเพลงกรันจ์ร็อกและบริทป๊อป เดวิด โบอีกลับเลือกที่จะทำเพลงแนว Drums and
“โปรดเห็นใจฉันหน่อย ปล่อยให้ตัวฉันไป” ประโยคเชือดเฉือนใจบนทำนองเศร้าซึมจาก Moving and Cut ได้เข้าไปครอบครองหัวใจใครหลายคน จนเหล่าสมาชิกศาลาคนเศร้าต่างสถาปนาตัวเองเป็นแฟนเพลงของเขา ตั้งแต่ยังมีสมาชิกวงเพียงคนเดียว และไม่ได้ทำเพลงกันเป็นอาชีพ บ้างก็พบเจอพวกเขาจาก Youtube ได้ยินผ่านคลื่นวิทยุเพลงอินดี้ หรือรู้จักผ่านเพลย์ลิสต์เพลงเศร้าในช่องทางสตรีมมิงต่าง ๆ เรื่องมันเริ่มจาก มีน (นักร้องนำ) เริ่มปล่อยเพลงที่เขาทำเองลงบน Youtube โดยตั้งใจให้สิ่งนี้เป็นเพียงงานอดิเรก จนกระทั่งเพลงที่ปล่อยไว้เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ ยอดวิวพิ่มพูนขึ้นและเกิดการติดต่อจ้างงาน Moving and Cut ให้ไปเล่นสด ๆ ต่อหน้าผู้ชม ทำให้มีนตัดสินใจชวนสมาชิกที่เหลือมารวมตัวกัน ได้แก่ การ์ตูน เพื่อนสมัยเรียนลาดกระบังมาเป็นมือซินธิไซเซอร์ บุ๊ค มาเป็นมือกีตาร์ ต้น มาเป็นมือกลอง และ ต้นหยาง อดีตสมาชิกวง SomeMary มาเป็นมือเบส ก็เป็นอันสมบูรณ์ครบในที่สุด จากจุดเริ่มต้นที่สวยงามสู่คอนเสิร์ตสุดประทับใจที่เพิ่งผ่านมาในอีเวนต์คอนเสิร์ตต่อเนื่องตลอด 5 วันในเชียงใหม่งาน “Independence Day” (สัปดาห์แห่งการปลดปล่อย) ที่จัดขึ้นโดย LEO หลายคนยังคงประทับใจการขึ้นเวทีแสดงสดวันสุดท้ายของพวกเขาและยังกระหายเรื่องราวเพิ่มขึ้น วันนี้ UNLOCKMEN จึงมาเยือนเขาถึงบ้านพักย่านพระโขนง สถานที่รวมตัวของสมาชิกวง
เมื่อเข้าสู่ปี 2020 วงการภาพยนตร์ก็ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้มีหนังภาคต่อเข้าหลายเรื่อง มีหนังภาคแยกจากจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมจากผู้คน มีแอนิเมชันน่าจับตามองจากค่ายดัง และภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยายหรือหนังรีเมคนำของเก่ากลับมาเล่าใหม่ The Hollywood Reporter สำนักข่าวรายงานข่าวสารของวงการฮอลลีวูดก่อตั้งมานานกว่า 8 ทศวรรษ จึงไม่พลาดธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำมายาวนาน โดยให้ผู้คนเข้ามาร่วมโหวตเพื่อจัดอันดับภาพยนตร์ที่เรารอคอยและอยากดูมากที่สุดในปี 2020 UNLOCKMEN ได้เลือกภาพยนตร์ที่ถูกโหวต 5 อันดับแรกมาให้ทุกท่านได้ชมกันพร้อมกับวิเคราะห์เพิ่มเติมว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้คนส่วนใหญ่อยากดู และหนังทั้ง 5 เรื่องจะใช่เรื่องเดียวกันกับที่คุณอยากดูหรือไม่ อันดับ 5 BLACK WIDOW หนังจากตัวละครของนาตาชา โรมานอฟ (Natasha Romanoff) ผู้ยอมสละชีวิตตัวเองในสงครามใหญ่อย่าง Avengers: End Game (2019) เธอกำลังจะมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองสักที โดยเรื่องราวภายใน Black Widow เล่าถึงช่วงที่เธอหลบหนีจากการตามจับของรัฐบาล ถ้านับเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์ของการฉายภาพยนตร์ในจักรวาล Marvel หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของนาตาชาช่วง Captain America: Civil War (2016) – Avengers: Infinity War (2018)