ซอยอารีย์เป็นที่รู้กันว่าเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร อัดแน่นกันอยู่แทบจะทุกซอย และหลายคนอาจคุ้นเคยกับ JOSH HOTEL มาบ้างแล้ว จากการเดินสำรวจซอยอารีย์บ้าง จากรูปในอินสตาแกรมบ้าง เพราะมีมุมสระน้ำยอดฮิตที่ใครมาเป็นต้องโดนสัก snap แน่นอน ใครที่เคยมา JOSH HOTEL แล้วจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโรงแรมนี้ถึงฮอตฮิต Go Viral กันแบบปากต่อปาก แม้เพิ่งเปิดได้ไม่นานก็ตาม วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาสำรวจ JOSH HOTEL ไปพร้อม ๆ กันแบบทุกซอกทุกมุม แล้วจะหลงรักในทุกดีเทลที่ตั้งใจเลือกในทุกมุม เดินเข้ามาที่ซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) เพียงนิดเดียวก็จะสะดุดตากับโรงแรมสีสบายตาที่เราจะเห็นคำว่า “JOSH HOTEL” ตัวใหญ่อยู่ด้านบนสุด เป็นเหมือนป้ายบอกให้รู้ว่าเรามาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เดินเข้ามาด้านในจะเจอล็อบบี้บรรยากาศ Cozy ได้นั่งฟังเพลงจากแผ่นเสียงเป็นเพลงที่เราคิดถึง ทุกอย่างดูเข้าตีมกันไปหมด เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทุกชิ้นถูกคัดสรรและดัดแปลงให้ไปในทิศทางเดียวกัน หนึ่งในเจ้าของที่นี่เป็น Interior เลยค่อนข้างใส่ใจกับทุกดีเทลและทำออกมาได้แบบมืออาชีพ ความพิเศษของที่นี่คือ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักเท่านั้น แต่ยังมี Facilities ดี ๆ ที่ไม่เหมือนใครให้เราได้สำรวจกันอีกด้วย อย่างในรูปคือห้อง Theater ที่อยู่ชั้นเดียวกับล็อบบี้ ไม่ได้มีเก้าอี้แบบโรงภาพยนตร์ไว้เป็นของตกแต่งเท่านั้น แต่มันใช้งานได้จริง เพราะนี่คือห้องที่เอาไว้ฉายภาพยนตร์จริง
Central & ZEN Department Store ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท เปิดตัวบิ๊กโปรเจคโฉมใหม่ในพื้นที่กว่า 11,000 ตารางเมตร เนรมิตโซน MEN & UNISEX บริเวณชั้น 5 และ ชั้น 4 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยคอลเลคชั่นล่าสุดจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำให้เลือกสรรกว่า 300 แบรนด์ดัง ที่มีมากกว่าการช้อปปิ้งด้วยนิยาม EXPERIENCE THE NEW MEN & UNISEX ให้เหล่าแฟชั่นเลิฟเวอร์ได้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ในสไตล์ที่เป็นตัวเอง โดยมีแฟชั่นโชว์สุดเท่ “MEN ON THE MOVE” จากเหล่าดารานายแบบชื่อดังที่มาร่วมเดินแบบ อาทิ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ, เต้-ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์, ตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์, ก็อต-อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์ และปิดท้ายด้วย มินิคอนเสิร์ตสุดมันส์จาก แสตมป์-อภิวัฒน์ พร้อมดาราและเซเลบริตี้มาร่วมงานมากมาย บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยดาราและเซเลบริตี้ที่มาร่วมสนุกกันในงาน เปิดตัวด้วยความอลังการและเต็มไปด้วยความคึกคักโดยไลฟ์มิวสิคจาก TWOPEE และ DJ
พูดถึงแบรนด์ “ยูนิโคล่” เรารับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จัก แถมแทบทุกบ้านต้องมีสักตัวสองตัวติดตู้เสื้อผ้า ด้วยคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้แบรนด์ยูนิโคล่เป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าที่ทุกคนเลือกใส่เป็นประจำ ล่าสุดเพื่อเอาใจคนรักยูนิโคล่ และสร้างความสะดวกสบายมากขึ้น ยูนิโคล่ได้เปิดตัวร้านยูนิโคล่ โรดไซด์ สโตร์ (Roadside Store) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ แหล่งทำเลทองแห่งกรุงเทพตะวันออก ใกล้กับใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่แห่งการช้อปปิ้งที่ทั้งตอบสนองความต้องการและความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ด้วยรูปแบบของร้านโรดไซด์ สโตร์ หรือ ร้านรูปแบบริมถนน สำหรับ ยูนิโคล่ พัฒนาการจะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าย่านพัฒนาการ ให้ช้อปได้เต็มที่และส่วนตัวมากขึ้น สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยพันธสัญญาที่เหมือนกันของรูปแบบร้านยูนิโคล่ โรดไซด์ สโตร์ ทุกสาขา นั่นคือ การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ร้านตั้งอยู่ และจุดช้อปปิ้งสำหรับลูกค้า ให้ได้ช้อปได้ง่าย สะดวกสบายและใกล้ที่อยู่อาศัย นายซาโตชิ ฮาตาเสะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูนิโคล่ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ขณะนี้ ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่โตเป็นหลักของยูนิโคล่ทั่วโลก เราพร้อมนำเสนอรูปแบบร้านอันเป็นเอกลักษณ์ของยูนิโคล่ สินค้าที่มีคุณภาพ และการบริการอันน่าประทับใจให้กับลูกค้า และชุมชนในภูมิภาคนี้ ด้วยร้านรูปแบบโรดไซด์ สโตร์ เราจะสามารถต่อยอดความสำเร็จของร้านยูนิโคล่ โรดไซด์
ถ้าให้นึกถึงประเทศท่องเที่ยวเน้นการช้อปปิ้งแบบจัดเต็ม ไม่ต้องนั่งเครื่องบินไกล หนึ่งในประเทศที่เราพลาดไม่ได้เลยคือ สิงคโปร์ ประเทศที่ถือเป็นสวรรค์ของนักช้อปสำหรับแบรนด์สินค้าชั้นนำ สินค้าหายากที่ควรค่าแก่การครอบครอง ประเทศที่เต็มไปด้วยแฟล็กชิพสโตร์ และร้านค้าเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ระดับท็อปซึ่งเลือกสิงคโปร์เป็นสถานที่ตั้งที่แรกในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้กระทั่งแบรนด์หรูอย่างหลุยส์วิตตอง ก็ยังเลือกสิงค์โปร์เป็นที่มั่นสำคัญในการเปิดคอนเซ็ปสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวว่า ‘Island Maison’ รวมถึงแบรนด์ดังอื่น ๆ อย่าง Off White สตรีทแวร์ชื่อดังจากอเมริกา, Victoria’s Secret, Muji, Uniqlo และ Apple store “Passion Made Possible : ทุกความชอบที่ใช่ เป็นไปได้ที่สิงคโปร์” คือ แคมเปญล่าสุดที่การท่องเที่ยวสิงคโปร์ ผลักดันให้ประเทศสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวสไตล์ Collectors จับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ที่ไม่อาจห้ามใจไปกับสีสันสดใส คัตติ้งสุดเนี้ยบ ผลงานชิ้นเอก และมองโอกาสที่จะตามล่าหาของสุดโปรดเพื่อแสดงความเป็นตัวตนออกมา พูดได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่การช้อปปิ้งเท่านั้น แต่เป็นการเลือกสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถสร้างมูลค่าได้ในอนาคตด้วย พูดมาถึงตรงนี้ เราไม่รีรอที่จะพาทุกคนไปสัมผัสพิกัดสุดเจ๋ง ที่เราได้คัดเลือกมาแล้วสำหรับเหล่า Collectors ให้ได้ไปลองค้นหาแรงบันดาลใจ ของขวัญ ของสะสมชิ้นพิเศษให้ได้มาครอบครอง Limited Edt Vault @
UNLOCKMEN สายกระหายเหล้าบ๊วยยกมือขึ้น ! เห็นมือที่ยกกันบางเบา เราก็พอรู้ว่าในหมู่ผู้ชายส่วนใหญ่ มักไม่กระแทกปากกันด้วยแอลกอฮอล์รสชาติติดหวานและนิยมความคมเข้มฉบับ ON THE ROCK ของ Whisky หรือ Single Malt มากกว่า ถึงอย่างนั้นก็อย่าได้ประมาทว่าร้านเหล้าบ๊วยจะรองบ่อนหรือมองเมินไปเป็นอันขาด เพราะการมีร้านบาร์เหล้าบ๊วยสักแห่งติดลิสต์ไว้ก็เป็นแต้มต่อสำหรับผู้ชายที่อยากเปลี่ยนรสชาติการจิบทบทวนอารมณ์สไตล์สายชิล และเป็นปลายทางสุดโรมานซ์ไว้สำหรับพาคนรู้ใจมาด้วย จึงเป็นเหตุให้เราต้องดั้นด้นมาตั้งหน้าตั้งตามาเยือนที่นี่ เราบุกสำรวจร้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้าด้วยความรีบ ก่อนแสงสุดท้ายของวันจะย้อมที่นี่ให้กลายเป็นสีชมพูนีออนจากฝีมือของสองสาวเจ้าของร้าน พิมพ์-ชโลชา นิลธรรมชาติ กับเพื่อนสนิทอย่าง เหมียว-ปิยาภา วิเชียรสาร ที่บรรจงหยิบและจัดวางทุกสิ่งให้เข้าที่ทาง ป้ายกระดาษปะติดหลังบาร์ ตามกำแพง และแสงไฟโลโก้หน้าร้านเปิดสว่างขึ้น ทั้งหมดเต็มไปด้วยข้อความและภาพที่ระบุให้เรายกนิ้วชี้จรดริมฝีปากตาม “จุ๊ ๆ อย่าเสียงดังนะ” ทำเอาเราแปลกใจจนแทนที่จะเริ่มสั่งเครื่องดื่มอย่างที่เคย หันมากระซิบคุยกับพวกเธอกันก่อน SHUU SHUU’s hidden story คุยไปคุยมาได้ความว่า ร้าน SHUU SHUU เกิดจากความถูกคอของ 2 สาวที่รู้จักกันเนื่องจากเปิดร้านในละแวกเดียวกัน ตั้งวงดื่มด้วยกันมาก็หลายประเภทแต่ลงตัวพอดิบพอดีที่การดื่มเหล้าบ๊วย เพราะดื่มง่ายเพลินลิ้นและไม่หนักจนเกินไปเลยจับมือกันมาเปิดร้าน ส่วนเหตุผลของความเงียบที่เตรียมมาเตือนสายดื่มอย่างที่เราสังเกตเห็นตามจุดต่าง ๆ ของร้าน ก็เพราะด้านบนของร้านเป็นที่พัก บวกกับสถานที่แห่งนี้เป็นย่านชุมชน การถ้อยทีถ้อยอาศัยจิบและคุยกันแบบสงบเคล้าเสียงเพลงเบา ๆ เลยเป็นเสน่ห์ของร้านแห่งนี้ อีกสิ่งที่ถือเป็นเรื่องยูนีคที่ชาว UNLOCKMEN
ว่ากันว่าการได้หยุดพักผ่อน เสพงานศิลป์จะทำให้สมองปลอดโปร่งเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับชีวิต เราจึงไม่พลาดที่จะมาอัพเดทแคมเปญดี ๆ สำหรับสายอาร์ทอย่าง “Vacation with an Artist” ที่ได้เปิดตัวโปรเจ็คท์ล่าสุด ‘ESCAPE X CLUBPOPP’ ต้อนรับหน้าร้อนนี้ จากการร่วมมือกับอิลลัสเตรเตอร์คนล่าสุดอย่าง CLUBPOPP (พีระ สุขอาษา) เจ้าพ่อผลงานป๊อปอาร์ท ผู้อยู่เบื้องหลังปกอัลบั้มของศิลปินดัง อีเว้นท์ปาร์ตี้และงานดนตรีสุดเจ๋งอีกมากมาย ที่จะมาครีเอทงานศิลปะแนวป๊อบสมัยใหม่ กับแรงบันดาลใจจากยุค 80s ผ่านบรรยากาศและพื้นที่ในโรงแรม Escape ทั้ง 2 โลเคชั่น อย่าง Escape Hua Hin และ Escape Khaoyai ในช่วงซัมเมอร์นี้ ให้กลายเป็นสถานที่ที่เหล่าชายหนุ่มสายท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายภาพไม่ควรพลาด ทั้งผลงาน Installation Art และครั้งแรกของการฉายภาพ Projector Mapping ในโรงแรม และโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้ได้สนุกสนานตลอดการพักผ่อนตลอดซัมเมอร์นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. –31 ส.ค. นี้ Escape เป็นอีกหนึ่งเดสทิเนชั่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านักเดินทาง มีการจัดสรรพื้นที่ของโรงแรมให้เป็นอีกหนึ่งแกลอรี่ที่เหล่าศิลปิน สามารถแวะเวียนกันเข้ามาจัดแสดงผลงานผลัดเปลี่ยนกันได้ตลอด สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศช่วงวันหยุดพักร้อน สบาย
ทุกเช้า เราเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่อันหลากหลาย แต่ล้วนมีความสำคัญไม้แพ้กันในมุมของแต่ละคน เราพุ่งออกจากบ้านด้วย Passion ที่เต็มเปี่ยม แต่พลังงานเหล่านั้นกลับหมดไประหว่างทางตั้งแต่เรายังเดินทางไม่ถึงจุดหมาย การเสียเวลาราว 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวันให้กับการเดินทางไปและกลับ ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถาม และหาทางออกให้กับตัวเองว่า “แล้วเราจะอัพเกรดคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร” ซึ่งทางออกที่ง่ายที่สุดในปัจจุบัน คงต้องเป็นการมองหาที่อยู่อาศัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ แน่นอนว่ามันไม่มีคำว่าดีที่สุด แต่สิ่งที่เราควรพิจารณาคือ ‘คำว่าเหมาะสมกับเราที่สุด’ มากกว่า ‘YOU ARE WHERE YOU LIVE’ อาจจะเป็นคำใหม่สำหรับใครหลายคน การเลือกใช้ชีวิตตามรูปแบบไล์ฟสไตล์ของเรา มันได้ซอยย่อยถี่ลงถึงระดับสถานที่ หรือย่านที่อยู่อาศัยไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ Filter ตัวเลือกของเราอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งข้อดีของการเข้าใจไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมของย่านที่อยู่อาศัยนั้น ๆ คือการใช้ชีวิตที่มีความสุข อัพเกรดคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าการเลือกที่อยู่แค่จากกรอบราคาและความนิยมของโครงการอย่างที่หลายคนบอกกันว่าดี แต่บางทีมันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ จากการพยายามอัพเกรดคุณภาพชีวิตของตัวเองเหมือนกับคนอ่านทุกคน เราก็เป็นอีกคนที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถช่วยทุ่นแรงวันทำงานจันทร์ถึงศุกร์ และยังตอบโจทย์ด้านไล์ฟสไตล์ครบ ๆ ในวันหยุดและจังหวะหลังเลิกงานได้เต็มที่ วันนี้เราจะมาแนะนำอีกโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ ณ ตอนนี้ มีจุดเด่นทั้งด้านที่ตั้งโครงการ ราคาพื้นที่ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงคอนเซปต์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน นั่นก็คือ LIFE SUKHUMVIT 62 The Concept
แม้ว่าช่วงนี้การแข่งขันฟุตบอลลีกในต่างประเทศจะเข้มข้น แต่ก็สู้กระแสบอลไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้งไม่ได้ ทั้งกระแส #ช้างศึกเบอร์12 บน Twitter ที่ติดเทรนด์ไปแล้ว หรือจากการที่วงเกิร์ลกรุ๊ปที่หนุ่ม ๆ หลายคนเป็นโอตะอย่าง BNK48 ก็ยังขอร่วมเชียร์นักเตะทีมชาติไทยไปด้วย ภาพของกัปตัน เฌอปราง และสมาชิกของวงที่สวมเสื้อทีมชาติไทยเบอร์ 48 น่าจะยืนยันได้ถึงกระแสบอลไทยที่ยังคงอยู่ในสายเลือดของพวกเราทุกเพศทุกวัย ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นโปรเจ็กต์ใหม่อย่าง #เชียร์ไทยใช้ใจล้วนๆ มาแล้วบนเพจช้างศึก และในครั้งนี้ พวกเราคนไทยทุกคนจะกอดคอกันราวกับเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกันมานานทำหน้าที่ ‘ช้างศึกเบอร์ 12’ อีกครั้ง เราจะตะโกนสุดเสียง ใส่หมดพลังกายและใจ เพื่อไม่ให้แข้งช้างศึกต้องต่อสู้อย่างโดดเดียวในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ‘คิงส์ คัพ’ ครั้งที่ 46 ที่เตรียมฟาดแข้งกันในวันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2661 นี้ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมี 4 ทีมร่วมดวลแข้ง ประกอบด้วย ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย, กาบอง, สโลวะเกีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งทีมไทยเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ และได้ชูถ้วยคิงส์ คัพ ในบ้านมาแล้วถึง 13 ครั้ง แต่ที่เจ๋งสุด ๆ ในครั้งนี้ก็คือคนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ของการเชียร์แข้งช้างศึกด้วยการเป็นผู้เล่นหมายเลข
“ไวน์คือบทกวีที่ถูกบรรจุลงสู่ขวด” เป็นคำที่นักเขียนชาวสก็อตติชอย่าง Robert Louis Stevenson เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่ง UNLOCKMEN ว่านี่ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มอันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดชวนให้ผู้ชายอย่างเราเข้าไปสัมผัส นอกจากนั้นวัฒนธรรมแห่งการดื่มไวน์ได้กลายเป็นศิลปะการลองลิ้มชิมรสสุดคลาสสิกที่ผู้ชายคูล ๆ ทุกคนไม่ควรพลาด การรู้เรื่องไวน์ประดับตัวไว้จึงเป็นทั้งการยกความเท่ของผู้ชายอย่างเราให้สูงขึ้นไปอีกระดับ แถมยังช่วยให้เราเข้าสังคมแห่งการดื่มไวน์ได้อย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้น ผู้ชายแมน ๆ คนไหนที่เคยคิดไว้ว่าการดื่มไวน์นั้นยากแสนยาก วันนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะการได้รู้จักเครื่องดื่มแห่งความลุ่มลึกมีระดับอย่างไวน์จะทำให้เราติดใจจนบอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะลิ้มลองบทกวีบรรจุขวดให้ลึกซึ้ง ถ้าพร้อมจะดำดิ่งไปกับความคลาสสิกในโลกของไวน์แล้ว UNLOCK WINE 101 ที่เก็บเรื่องไวน์พื้นฐานให้ครบถ้วนทุกเม็ดก็พร้อมจะปลดล็อกศักยภาพการสัมผัสไวน์ให้คุณถึงที่แล้วเช่นกัน สำหรับมือใหม่ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ การเริ่มต้นนับหนึ่งในโลกของไวน์จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีระดับและไม่ซับซ้อน ถ้าเราเริ่มจากพื้นฐานของไวน์กันก่อน โดยคำถามสุดเบสิคที่เราควรรู้ก็คือ “ไวน์คืออะไร?” นอกจากความงดงามคล้ายบทกวีแล้ว ไวน์คือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการหมักของน้ำองุ่นที่ได้จากผลองุ่นสด ๆ นั่นเอง โดยแต่ละท้องที่ก็จะมีกระบวนการผลิตแตกต่างกันไปตามสไตล์ที่แต่ละท้องถิ่นกำหนดขึ้น ถ้าในหัวผู้ชายอย่างเรายังนึกออกแค่ไวน์แดงกับไวน์ขาวก็ไม่ต้องห่วงไป ครั้งนี้เราจะพามาทำความเข้าใจไวน์ 3 ประเภทที่แบ่งตามเทคนิคการผลิตให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันไปเลย เริ่มต้นกันที่ Still Wine เป็นไวน์ที่ไม่มีฟอง หรือพูดง่าย ๆ คือไม่มีการอัดก๊าซ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 8-15% Still Wine แบ่งออกเป็นไวน์ได้อีก
จุดเริ่มต้นของบทความนี้เริ่มจากที่ UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘หมวย และ ยิ้ม’ คู่รักนักท่องเที่ยวอารมณ์ดีจากเพจ LIFE with MUAY ในวงสนทนาตามประสาเพื่อนฝูง ว่าด้วยเรื่องโลเคชั่นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มันส์ ๆ และมีความจัดจ้านหลากหลาย ในกรุงเทพฯ นั้น มันยังมีที่อื่นให้ไปนอกจากโซนทองหล่อ – เอกมัย หรือเส้นเลียบด่วนอะไรแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งมันก็พอเหมาะพอเจาะกับการที่ทั้งคู่ กำลังมีแผนจะไป Explore พิกัดไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ ที่พวกเขาไปค้นพบมาว่าพื้นที่ซึ่งไม่ค่อยมีใครนึกอยากจะไปแฮงเอ้าท์ หรือไปทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากมีเหตุจำเป็นให้ต้องไปติดต่อธุระในศูนย์ราชการ หรือไปดูคอนเสิร์ต ไปงานอีเว้นท์ที่อิมแพค อย่างย่านแจ้งวัฒนะนั้น ยังมีอีกหลายพิกัด ซึ่งสามารถเป็นอีกทางเลือกให้ได้ไปใช้ชีวิตที่มีสีสันไม่แพ้ย่านใจกลางเมือง เหมาะสำหรับใครที่เบื่อกรุงเทพชั้นใน อยากออกไปเปิด Maps หาอะไรใหม่ ๆ ในพื้นที่ใหม่ ๆ ทำดูบ้าง ได้ยินแบบนี้เราก็ไม่รอช้า ออกตัวอย่างไวว่างานนี้ UNLOCKMEN ขอติดตาม LIFE with MUAY ไปตะลุยตามดูการใช้ชีวิตจัดจ้านที่ย่านแจ้งวัฒนะ ว่ามีโลเคชั่นไหนโดน ๆ มีกิจกรรมไหนที่น่าสนใจให้ทำกันบ้าง แต่ก่อนล้อหมุน สำหรับใครที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ LIFE
ถ้าพูดถึงคำว่า “อีสาน” สำหรับผู้บ่าวเมืองหรือคนนอกพื้นที่อาจมองภาพไม่ค่อยออก นอกจากจะเข้าใจว่าเป็น ถิ่นเศรษฐกิจ ยินเสียงแคน แดนส้มตำ และเป็นพื้นที่แห้งแล้งตามที่หน้าบทเรียนบอกไว้ ทั้งที่ในความจริงอีสานมีมากกว่านั้นเยอะ โดยเฉพาะความเข้มข้นทางอุดมการณ์ งานศิลป์ กับวัฒนธรรมแสบ ๆ คัน ๆ เรื่องเพศที่เอามาตีแผ่ผ่านประเพณี เรียกได้ว่าความทะเล้นขี้เล่นเลยไม่เป็นรองใครเหมาะกับผู้บ่าว UNLOCKMEN ที่มีศิลปะความแสบมันส์ ลึก น่าสนใจ ชอบการแสดงความคิดเห็นและมีอารมณ์ดีเป็นที่ตั้งจะได้ไป challenge ประสบการณ์ใหม่ช่วงวันหยุด โดยสามารถเบิ่งเต็มตาได้ที่นิทรรศการ “อีสานสามัญ” นิทรรศการหมุนเวียนที่จัดขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ภายในห้องนิทรรศการหลักชั้น 9 ของหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ได้ ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ลองดูภาพที่เราไปเก็บมาฝากเพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อน พุ่งตรงเข้าตะวันออกเฉียงเหนือที่ชั้น 9 เดินขึ้นบันไดเวียนมาตามทาง สิ่งที่เจอจะมีงานศิลปะหลายประเภท ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย Installation แล้ววิดีทัศน์ให้เราเดินไปได้ตลอดรายการไม่เบื่อ ที่สำคัญงานไม่ได้ลึกหรือ Abstact เกินกว่าจะเข้าใจ แต่สามารถนั่งมองและอ่านมันได้ยาวๆ หลายนาที ดินแตกบนผืนผ้าใบแลกเรื่องเล่าชาวอีสาน ภาพแม่เฒ่า พ่อเฒ่า บนผืนผ้าใบที่จัดเรียงตามแนวกำแพงด้วยสีหน้าเปี่ยมอารมณ์ความรู้สึกถูกจับเล่ากับสีโทนน้ำตาลที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความระอุขอแดนอีสาน ขัดกับแอร์คอนดิชั่นเย็น ๆ ที่กำลังงานได้เป็นอย่างดี ถ้าบอกว่ามันต่างจากภาพวาดของศิลปินคนอื่น ๆ
ผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ กับงาน FROM RAGS TO DISPLAY ครั้งที่ 3 กิจกรรมโคตรดีต่อใจสำหรับเหล่าคนที่รักและหลงใหลในของ Vintage โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “WEAR THE MUSIC” ในงานเต็มไปด้วยกองทัพเสื้อยืดวินเทจมากมายและเสียงดนตรีจากยุค 70’s , 80’s , 90s ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในอู่ต่อเรือกรุงเทพ(The Bangkok Dock) กิจกรรมภายในงาน แบ่งออกเป็นหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นโซนร้านค้า กว่า 180 ร้าน ที่ไม่ได้มีเพียงพ่อค้าแม่ขายชาวไทยเท่านั้น แต่พี่น้องคนรักของเก่าจากเพื่อนบ้านฝั่งประเทศมาเลเซียรวมไปถึงญี่ปุ่น ก็ลงุทนขนเสื้อผ้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้เราได้เสียเงินชนิดไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ไม่ว่าจะเป็นร้านชื่อดังอย่าง BERBERJIN และ MR.clean รวมไปถึงกิจกรรมประมูลของอย่าง Auction manage by “ LOVE TOKYO ” สำหรับคนชอบบิดของแข่งกัน ส่วนสาย ขุด คุ้ย ยื้อแย่งเป็นชีวิตจิตใจคงไม่หนีไม่พ้นความดึงดูดของเขต Backyard Sale