ออกไปใช้ชีวิต เพื่อค้นพบเส้นทางที่ตัวเองเลือก กับแคมเปญ “LIVE ALIVE…ออกไปใช้ชีวิต” สัมผัสมุมมองความคิดที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป ความท้าทายใหม่สำหรับโตโยต้าจึงเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของไลฟ์สไตล์คนปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของแนวคิด LIVE ALIVE…ออกไปใช้ชีวิต ซึ่งรถยนต์โตโยต้ามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ และช่วยให้ชีวิตไปได้ไกลกว่า ภายในงานเปิดตัวแคมเปญ พบกับเหล่า Co-Creator ที่มาร่วมพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับแคมเปญ อย่าง วง Getsunova ที่มาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการออกไปใช้ชีวิต ผ่านเพลง “ชีวิตที่มีชีวิต” ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อถ่ายทอดความหมายของคอนเซ็ปต์ LIVE ALIVE, ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชั้นนำผู้ออกแบบ ALIVE Spaceby Toyota ที่ ICONSIAM ต้นแบบโชว์รูมนวัตกรรมสุดล้ำ, “มินต์” มณฑล กสานติกุล นักเดินทางและบล็อกเกอร์ชื่อดังจากเพจ I Rome Alone ผู้หญิงที่รักในการเดินทางรอบโลกด้วยตนเอง ร่วมแบ่งปันมุมมองการออกไปใช้ชีวิต และปิดท้ายความสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากวง Getsunova ที่ เดอะ แจม แฟคทอรี่ พร้อมกันนี้
เพื่อที่เราจะเข้าถึงประสบการณ์ที่แท้จริงของการสัมผัสอะไรสักอย่าง การเข้าใจถึงเรื่องราวเบื้องหลังของสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการเติมเต็มประสบการณ์ให้เต็มที่ได้มากกว่า หรือที่เราเรียกว่าการเสพแบบมีศาสตร์และศิลป์ เช่นเราดูรูปภาพงานศิลปะระดับโลกที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ถ้าขาดซึ่งประวัติของภาพนั้น ๆ การเสพศิลป์นั้นก็คงขาดความสนุกไปจนหมด ไม่ใช่แค่ของไกลตัวอย่างงานศิลปะ ของใกล้ตัวพวกเราอย่างกล้องถ่ายรูปที่ผ่านการผลิตแบบ Handmade นาฬิกาที่ใช้ Movement ละเอียดประณีต หรือเครื่องดื่มดี ๆ ที่ผ่านการบวนการผลิตอันซับซ้อนยาวนาน การจะเข้าใจถึงสัมผัสของสิ่งนั้นย่อมต้องรู้เรื่องราวเบื้องหลังให้ดีเสียก่อน จึงจะเข้าถึงความพิเศษของสิ่งเหล่านั้นได้ ที่ผ่านมาเราพูดถึงเรื่องเรื่องราวความพิเศษของนาฬิกาชนิดต่าง ๆ ไปหลายรุ่นแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องดื่มตัวหนึ่งที่มีความพิเศษมาก นั่นคือ Johnnie Walker Blenders’ Batch แต่หลายคนอาจจะเผลอจดจำมันในชื่อ Johnnie Walker White Label หรือ Johnnie Walker ฉลากขาว ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้เรามองข้ามรายละเอียดที่น่าสนใจของมันไป และวันนี้เราจะมาไขกระจ่างว่า Johnnie Walker Blenders’ Batch คืออะไร เกิดขึ้นมาจากไหน และมันมีรายละเอียดอะไรที่พิเศษจนเราต้องหยิบขึ้นมาพูด Johnnie Walker Blenders’ Batch การทดลองพร้อมดื่มแบบ Limited Edition แม้ฉลากจะเป็นสีขาว แต่มันไม่ใช่
คุณมีความครีเอทีฟในตัวหรือเปล่า ? คำถามที่หลายคนอาจรีบตอบปฏิเสธในทันทีทันใด เพียงเพราะความเชื่อที่ตีกรอบว่าครีเอทีฟนั้นเป็นชื่ออาชีพเฉพาะ ที่เหมาะกับคนความคิดสร้างสรรค์ล้นปรี่เท่านั้น ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะทำงานสายไหน หรือประกอบอาชีพใด ๆ ก็ตาม พลังสร้างสรรค์หรือความ Creativity นั้นเป็นพลังสำคัญที่มักจะถูกดึงออกมาใช้ในการทำงานอยู่เสมอทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ด้วยปริมาณที่มากน้อยแตกต่างกันไปในลักษณะงาน แม้กระทั่งการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ หากลองสังเกตตัวเองดี ๆ ก็จะพบว่าบ่อยครั้งที่พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตมีสีสัน แถมยังมีอีกหลายวิกฤตชีวิตที่สามารถผ่านมันไปได้ด้วย Creativity Skill ที่มีอยู่ในตัวของทุกคนนี่แหละ แต่การที่บางคนนั้นมีออร่าความคิดสร้างสรรค์ฉายแสงออกมาอย่างโดดเด่นกว่าชาวบ้านชาวช่อง จริง ๆ แล้ว คนเหล่านี้ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่พิเศษเหนือใคร แต่ความคิดสร้างสรรค์มากมายนั้นเกิดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสั่งสมเป็นวัตถุดิบชั้นดี ผสานเข้ากับความช่างสังเกต ช่างสงสัย กล้าที่จะตั้งคำถาม และหาทางออกของคำตอบใหม่ ๆ จนกลั่นกรองออกมาเป็นไอเดียคม ๆ รวมถึงวิธีสร้างงาน วิธีนำเสนองานที่โคตรเจ๋ง ให้หลายคนได้อุทานว่า “คิดได้ไงวะ” กันอยู่บ่อย ๆ และเมื่อใช้คำเรียกต้นทางของความคิดสร้างสรรค์ว่า “วัตถุดิบ” แน่นอนว่าวัตถุดิบเหล่านี้มันต้องมีวันหมด ถ้าไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา เปิดมุมมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ยังไงซะวันที่ไอเดียตีบตันมันก็ต้องมาถึง วันนี้เราจึงอยากพาชาว UNLOCKMEN ที่ไม่ว่าจะเป็นครีเอทีฟโดยอาชีพ หรือใครที่อยากอัพสกิลความครีเอทีฟของตัวเองให้พุ่งกระฉูด
เชื่อว่าทุกคนคุ้นเคยกับความซ่ามาตั้งแต่เด็กกับ “เครื่องดื่มโค้ก” กระป๋องแดงที่สร้างความสดชื่น ไม่ว่าจะดื่มตอนไหน กินกับอะไรก็เพิ่มรสชาติให้มื้ออาหารอร่อยขึ้นกว่าเดิม และล่าสุดโดยกลุ่มธุรกิจโคคา–โคลา ในประเทศไทย เปิดตัว “โค้ก พลัส คอฟฟี่” นำเสนอความลงตัวของความซ่าสดชื่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มโค้ก ผสานกาแฟโรบัสต้าแท้ ชวนกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักศึกษา วัยทำงานพักเบรคจากอาการเหนื่อยล้า คลายง่วงยามบ่าย สร้างสีสันช่วงเวลายามบ่ายให้ได้อร่อยซ่า สดชื่น พร้อมเพลิดเพลินด้วยรสชาติเข้มหอมจากกาแฟโรบัสต้า ให้สดชื่นสดใสกันได้ทั้งวัน เตรียมกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น-อีเลฟเว่น’ มิถุนายนนี้ (ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ สิงหาคมนี้) นางสาวคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากความชื่นชอบในเครื่องดื่มโค้กแล้ว เราพบว่าผู้บริโภคชาวไทยยังรักการดื่มกาแฟอีกด้วย เนื่องจากช่วยเติมความสดชื่นได้ในเวลาที่ต้องการ โดยเฉพาะในยามบ่าย ดิฉันเองเป็นคนทำงาน และยังมีบทบาทเป็นแม่เมื่ออยู่ที่บ้าน จึงทราบดีว่าในแต่ละวัน คนเรามักจะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย การได้ลิ้มลองรสชาติซ่าสดชื่นของเครื่องดื่มโค้ก ที่ผสานกับรสเข้มของกาแฟโรบัสต้าแท้ในยามบ่าย ช่วยเติมเต็มความสดชื่นในยามที่รู้สึกเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ข้อดีอีกประการ คือ ‘โค้ก พลัส คอฟฟี่’ ยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เลือกดื่ม” “เรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีทั้งจากแฟนเครื่องดื่มโค้ก รวมไปถึงคอกาแฟอีกด้วย” นางสาวคลาวเดียกล่าว ตลอดเวลาที่ผ่านมา
สังเกตกันบ้างมั้ย? เช้าวันศุกร์จะเป็นเช้าที่เราตื่นมาแล้วสดใส และทำให้เรามีความสุขทุกครั้งเวลานึกถึง แต่ความสุขเหล่านั้นจะหายไปถ้าวันนั้นคุณต้องเลิกงานและกลับไปอยู่บ้านคนเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องหาชาวแก๊งไปทำอะไรมันส์ๆกันในศุกร์แห่งชาติแบบนี้ ! จะไปช้อปปิ้ง นั่งกินข้าวริมถนน หรือจะเพิ่มความมันส์ให้มากขึ้นไปอีกกับผับระดับชาติ ‘LEO LEMIX : The Another World Concert’ LEO จัดใหญ่เริ่มต้นวาระความมันส์แห่งชาติ เอาใจสายตื๊ด คอดนตรีด้วยแคมเปญ ‘LEO LEMIX’ สร้าง Music Platform ขึ้นมาใหม่ เน้นคอนเซ็ปต์ “รวมกันมันส์กว่า” โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ ไม่ใช่แค่การรวมศิลปินมาร้องเพลงแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการสร้างแนวทางขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เริ่ม โดยนำเอาองค์ประกอบของดนตรี ทั้งศิลปิน ค่ายเพลง คนเบื้องหลัง และแฟนคลับของศิลปินต่างวงมารวมตัวกัน เพื่อทำให้ทุกคนได้พบกับปรากฏการณ์ทางดนตรีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มต้นจุดชนวนความมันส์ด้วย MV ‘Let’s Go’ กันก่อนเลย โดยเพลงนี้ได้ ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม และ ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญ มาแต่งเนื้อร้อง และได้ 8 ศิลปินชั้นนำที่มีแนวเพลงแตกต่างกันจาก 5 ค่ายเพลง Pex Zeal,
ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนบนโลก สิ่งที่เราจะสามารถพบได้ทุกแห่งไม่ต่างจาก 7-11 คือ ย่าน china town และไอริชผับ แต่ปัญหาคือเวลาที่หนุ่ม ๆ ออกไปย่ำราตรีหรือดื่มสังสรรค์ยังร้านที่มีลักษณะตกแต่งด้วยไม้ ๆ มีชาวต่างชาตินั่งกันอยู่เต็มร้าน เรามักจะเหมารวมว่านี่คือ ไอริชผับ ไปก่อนแล้ว ซึ่งอันที่จริงสถานที่บันเทิงแห่งนั่นอาจจะเป็นเพียงบาร์ปกติทั่วไปที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรปก็ได้ โดยในบ้านเราเองที่มีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับไอริชผับอยู่มาก อาจจะว่าถูกดัดแปลงวัฒนธรรมมาจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมต้นตำรับจาก Ireland ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จะนำเรื่องราวของไอริชผับแบบเจาะลึกทุกมุม รวมถึงลายแทงร้านเจ๋ง ๆ ย่านสุขุวิทที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรพลาดไปเช็คอินกับแก๊งเพื่อนดูสักครั้ง History of Irish pubs เชื่อหรือไม่ว่าไอริชผับแห่งแรกเกิดขึ้นย้อนกลับไปราว ๆ ค.ศ 900 ชื่อว่า Sean’s Bar (ถูกยกให้เป็นบาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปจาก Guinness World Records) ตั้งอยู่ในย่าน Athlone ประเทศ Ireland ทว่ามีการถกเถียงกันมากมาย เพราะมีหลาย ๆ ร้านต่างเคลมเครดิตว่าตัวเองคือผับที่เก่าแก่ที่สุดใน Ireland แต่จากทุกแหล่งข้อมูลต่างชี้ชัดว่าไอริชผับน่าจะเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่
“Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2018” งานที่ถูกจัดภายใต้แนวคิด “Dare to Move” ชวนคนไทยออกกำลังกายผ่านการวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง พร้อมส่งต่อโอกาสในการวิ่งให้ผู้พิการ เพราะทุกกิโลเมตรที่วิ่ง จะเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคให้กับมูลนิธิคนพิการไทยเพื่อสร้างวีลแชร์ นักวิ่งที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรมได้ 2 ซีรีส์ คือวิ่งเก็บระยะทางแบบ Virtual Run (เวอร์ชวลรัน) บันทึกระยะผ่านระบบ online เป็นเวลา 90 วัน และการวิ่งในสถานที่จริงแบบ Field Run ที่จะถูกจัดขึ้นณ สวนผึ้ง ราชบุรี ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากความสำเร็จของโครงการ Allianz World Run โดยกลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยการวิ่งในกลุ่มพนักงานอลิอันซ์ทั่วโลก โดยทุกกิโลเมตรที่วิ่งถูกแปลงเป็นเงินบริจาคมอบแก่มูลนิธิเพื่อเยาวชน ทั้งนี้ในปี 2560 ที่ผ่านมา พนักงานอลิอันซ์ร่วมกันวิ่งได้ระยะทางรวมกว่า 1.3 ล้านกิโลเมตร รวมเป็นเงินบริจาคถึงกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากกิจกรรมดังกล่าว และเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่ต้องการเป็นผู้นำด้านความคุ้มครอง จึงอยากสนับสนุนให้ชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพตนเองและสร้างเครือข่ายคนรักสุขภาพบนแพลทฟอร์ม Healthy
หลังจากที่หลายคนได้ไปสัมผัสงาน Lighting Installation เท่ ๆ ออกตระเวนถ่ายรูปเช็คอินคู่กับไฟแจ่ม ๆ ดวงกลมโต ในคอนเซ็ปต์ AROUND ARI ที่ว่าด้วยเรื่องของ ‘AROUND’ หรือวงกลมที่เป็นตัวแทนสัมพันธ์อันดีของผู้คนกับสิ่งแวดล้อมรายรอบในย่านอารีย์ ผ่านห้วงแห่งกาลเวลาอันเนิ่นนาน เกิดเป็นการผสมผสานที่ลงตัว จนกลายเป็นวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ และเสน่ห์เฉพาะของพื้นที่ AROUND ARI ยังสถานที่ทั้ง 11 โลเคชั่น ซึ่งถูกยกให้เป็น Signature ของย่านอารีย์ที่เราเคยได้ Guide กันไปใน Article ที่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังเสพวิถีความชิล รวมถึงเสน่ห์ความสนุกสนานในแบบฉบับอารีย์กันได้ไม่สุด ทางเจ้าของแนวคิด AROUND ARI อย่าง Noble เค้าจึงเล่นใหญ่ เนรมิตลานจอดรถสำนักงานขาย Noble Around Ari จัดงาน ‘Play AROUND ARI’ เมื่อวันที่ 18 – 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานนั้นเป็นพื้นที่รวบรวม Conceptual Ari Area
ในสายตาผู้ชายอย่างเรา ๆ ถ้าพูดถึงเมืองในประเทศญี่ปุ่น ชิซึโอกะอาจจะเป็นเพียงเมืองทางผ่าน แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่รักความเงียบสงบต้องการหลุดพ้นจากความคลาคล่ำวุ่นวายของผู้คนในเมืองใหญ่และอยากแสวงหาความสงบสดชื่นของธรรมชาติ แถมได้เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบถึงเลือดถึงเนื้อสไตล์คนท้องถิ่นผ่านศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ชิซึโอกะจะให้ประสบการณ์ใหม่ที่ผู้ชายอย่างเราต้องหลงใหลผ่านการนั่งลงในมุมสงบ ๆ แล้วดื่มด่ำชาเขียวของชิซึโอกะแท้ ๆ ได้แบบที่หาหาที่ไหนไม่ได้ แม้ไม่ใช่ผู้ชายที่อินกับการท่องเที่ยวมากนัก แต่ผู้ชายอย่างเราก็รู้ดีว่าการเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นความนิยมท็อปฮิตในหมู่ชาวไทย แต่ถ้าเราจะไปทั้งทีจะให้มุ่งไปยังเมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างโตเกียว โอซาก้า หรือซัปโปโรก็ดูจะธรรมดาเกินไป ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความหนาแน่นของผู้คนและซึมซับบรรยากาศแบบชาวญี่ปุ่นท้องถิ่น รวมทั้งธรรมชาติรอบตัวและความเป็นอยู่ที่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาทำลายความสงบนั้น “ชิซึโอกะ” จึงเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุด ชิซึโอกะ : ความหลากหลายของทัศนียภาพเพื่อผู้ชายทุกคน ชิซึโอกะก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่หลายคนเลือกที่จะแวะมาพักกายพักใจด้วยหลากจุดประสงค์ ผู้ชายที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ชิซึโอกะก็มีให้เลือกมากมายด้วยภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขาและทะเล (รวมถึงที่ราบสูง ทะเลสาบ และวิวริมแม่น้ำสวย ๆ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในจังหวัดเดียวกัน!) เช่น ริมทะเลสาบฮามานะ หรือทัศนียภาพริมชายฝั่งที่ลาวาเซาะให้ภูเขาเป็นร่องโอบล้อมแผ่นน้ำที่โจกะซากิ หรือถ้ำโดกาชิม่า เทนโซโดะ ที่มีไฮไลต์อยู่ที่ลำแสงอาทิตย์ที่สามารถส่องลอดเข้ามาได้ สถานที่เหล่านี้จึงยืนยันความมหัศจรรย์ของธรรมชาติของชิซึโอกะอย่างแท้จริง เรียกว่าถ้าพาสาวมาด้วยสักคน เธอจะต้องประทับใจไปตลอดชีวิตแน่นอน ชิซึโอกะ : สวรรค์ของผู้ชายสายกิน สำหรับผู้ชายสายกิน ชิซึโอกะก็เป็นที่ที่ตะลุยกินได้แบบไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะที่ตั้งของจังหวัดที่อยู่ติดทะเลจึงไม่น่าแปลกใจ หากจะบอกว่าตลาดปลาที่นี่จะคึกคักและเป็นแดนสวรรค์ของคนรักปลาดิบสด ๆ จากทะเล ความพีคคือปลาดิบสด ๆ ยั่วยวนใจพวกนั้นเสิร์ฟมากับวาซาบิพันธุ์ที่ลือชื่อที่สุดจากไร่ในชิซึโอกะเอง นอกจากนั้นถ้าได้มาชิซึโอกะแล้วก็ต้องห้ามพลาดอุนะจูหรือข้าวหน้าปลาไหลที่เสิร์ฟปลาชิ้นโต โตเต็มคำชนิดที่ว่าแทบมองไม่เห็นข้าวเลยทีเดียว! และที่ห้ามลืมคือต้องไปเยือนถนนสายโอเด้งที่นอกจากจะละลานตาไปกับการจัดหน้าร้านของแต่ละร้านให้เดินเลือกรับประทานกันอย่างสนุกสนานแล้ว โอเด้งของชิซึโอกะก็มีรสชาตินุ่ม
ถ้าพูดถึงการตามหาอะไรบางอย่างที่โคตรลึกลับ สัญชาตญาณภายในตัวผู้ชายมันมักสูบฉีดแบบฉุดไม่อยู่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ UNLOCKMEN มาที่นี่ Sport Bar แห่งหนึ่งในย่านนานาที่กลับมีตู้ถ่ายรูปปริศนาตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านเหมือนต้องการเชิญชวนให้คนที่ผ่านไปมาลองเข้าไปสำรวจดู แน่นอนว่าตู้ถ่ายรูปตู้นี้ไม่ใช่ตู้ถ่ายรูปธรรมดา แต่มันคือทางเข้าสู่บาร์ลับแห่งใหม่! อย่าง #FINDTHEPHOTOBOOTH วันนี้ UNLOCKMEN เลยขออาสาเป็นไกด์พาไปสำรวจเอง มันจะลึกลับสักแค่ไหนกันเชียว มาค่อย ๆ คลายปริศนาไปด้วยกัน! หาเราให้เจอสิ! ถ้าจะพูดถึงบาร์ลับ สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือตำแหน่งที่ตั้งของมัน สำหรับร้าน #FINDTHEPHOTOBOOTH ที่เราจะพาไปทำความรู้จักในวันนี้ที่ตั้งมันก็ลึกลับสมกับที่เป็นบาร์ลับ และไม่สามารถโทรไปถามกับทางร้านได้ด้วยเพราะร้านนี้ไม่มีโทรศัพท์ อย่าว่าแต่เบอร์โทรศัพท์เลย ชื่อร้านยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ #FINDTHEPHOTOBOOTH เป็นแค่ Hashtag ที่คนใช้เวลาพูดถึงบาร์แห่งนี้ในโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่เสน่ห์ของร้านแนวนี้ก็อยู่ตรงนี้แหละ ความน่าค้นหา ความท้าทาย การสืบเสาะ แบบนี้สิถึงจะสมกับการเป็นบาร์ลับท้าทายการตามหาที่แท้จริง แต่ UNLOCKMEN ขอใบ้ให้สักนิดว่า การเดินทางไปร้านนี้ให้คุณลงรถไฟฟ้าสถานีนานา เดินมุ่งหน้าเข้าไปในซอยสุขุมวิทซอย 11 ไม่เกิน 500 เมตร มองทางขวามือไว้ให้ดีจะเจอ Sport Bar ชื่อ Score Bar ให้คุณขึ้นไปชั้น 2 คุณจะเจอตู้ถ่ายรูปปริศนาตั้งอยู่ ทางเข้าซ่อนอยู่ในตู้นั้นนั่นแหละ
‘อารีย์’ นอกจากจะเป็นคำสั้น ๆ ที่ฟังแล้วอบอุ่นรู้สึกดี คำนี้ยังเป็นชื่อของย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะเป็นขาจรซึ่งเคยมีโอกาสได้แวะเวียนมาทำธุระ ทำงาน นัดเพื่อนฝูงพบปะสังสรรค์ หรือแม้กระทั่งเจ้าถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่ในย่านนี้มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เราเชื่อว่าแทบทุกคนคงสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ของอารีย์ ที่แม้จะมีพื้นที่อยู่ใจกลางเมือง ดำรงอยู่ท่ามกลางความเจริญที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอารีย์ก็ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายแบบดั้งเดิม ท้าทายกาลเวลาที่หมุนไปข้างหน้าอย่างกลมกลืน และคงไม่ผิดนักหากจะพูดว่ามันคือเสน่ห์ที่ให้ความรู้สึกดี ๆ ทุกครั้งเมื่อได้ไปเยือน ‘อารีย์’ ด้วยเสน่ห์ที่ชัดเจนของย่านนี้ ทำให้ร้านรวง แหล่ง Lifestyle ในอารีย์ ต่างก็ได้รับ DNA ความ Feel Good ไปแบบเต็ม ๆ และในวันนี้เราจะขอทำหน้าที่เป็นไกด์ เแนะนำโลเคชั่นร้านน่านั่งสำหรับผู้ชายสายชิลล์ ซึ่งใครมีแพลนจะมาบุกถิ่นอารีย์ ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ จากร้านต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยประการทั้งปวง Sati Handcraft Coffee เริ่มต้นกันที่ร้านกาแฟสุดคราฟท์ ให้อารมณ์สงบสมชื่อ ‘สติ’ กับร้าน Sati Handcraft Coffee ร้านกาแฟลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของ Made Here on Earth (MHOE)
ศิลปะอย่างการ Painting บนวัสดุต่าง ๆ อย่างผืนผ้าใบ หรือกระดาษ คงจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่กับบนวัสดุที่มีชีวิตอย่างผิวหนังของคนอย่างการสัก (Tattoo) หลายคนกลับนึกถึงภาพของความก้าวร้าว รุนแรง มากกว่าการเป็นศิลปะในอีกรูปแบบหนึ่ง แม้จะผ่านมาจนถึงศตวรรษที่ 21 ก็ยังมีบางอาชีพที่ไม่สามารถมีรอยสักได้เนื่องจากต้องอาศัยภาพลักษณ์ในการประกอบอาชีพ แม้จะเป็นบนร่างกายของเขาเองก็ตาม มันก็ยังสะท้อนอะไรบางอย่างถึงทัศนคติที่มีต่อคนที่มีรอยสัก UNLOCKMEN จะพามาทำความรู้จักกับร้านสักที่รวมลายเส้น 5 สไตล์ภายใต้ชื่อ Lone Wolf Studio และพร้อมพูดคุยกับช่างสัก เจ้าของลายเส้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง หลายคนอาจคิดว่าช่างสักจะต้องมาพร้อมความเฮ้ว ความแสบ แต่ลองมารู้จักพวกเขาพร้อม ๆ กับเรา แล้วจะรู้ว่าพวกเขามาพร้อมมุมมองดี ๆ ที่แฝงอยู่ในภาพลักษณ์สุดเฮี้ยวของเขา มาเริ่มกันที่ผู้ก่อตั้งร้านสัก Lone Wolf Studio อย่างพี่ต้น จริง ๆ ร้านนี้เปิดมากว่า 3 ปีแล้ว ในตอนแรกพี่ต้นเปิดร้านเองคนเดียวในชื่อ “สักกะหมา” และเนื่องจากเหตุผลของทำเลที่ตั้ง พี่ต้นเลยตัดสินใจขยับขยายมาอยู่ที่ปัจจุบัน ซึ่งเดินทางสะดวกกว่ากันมาก สามารถเดินทางโดย BTS มาลงที่สถานีปุณณวิถี เดินเข้าซอยสุขุมวิท 101 มาได้แบบชิล ๆ ส่วนชื่อ