หลายคงชื่นชอบ ‘พาสต้า (Pasta)’ อาหารเส้นของชาวอิตาลีที่อยู่กับเรามานานกว่าพันปีแล้ว ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีร้านพาสต้าสุดพรีเมี่ยมมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ละร้านมีความพิถีพิถันทั้งในเรื่องการเลือกวัตถุดิบ การทำเส้น และการปรุงเมนูแต่ละจานให้มีความเป็นอาหารอิตาเลียนแท้ ในบทความนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำ 5 ร้านพาสต้าที่จะทำให้คุณต้องหลงรักเมนูเส้นจานนี้มากขึ้นกว่าเดิม 300% !! La Dotta ร้านพาสต้าที่ของกลุ่มร้านอาหาร Foodie Collection เจ้าของ Vesper บาร์ค็อกเทล และ Il Fumo ร้านอาหารโปรตุเกส โดยเมนูพาสต้าแต่ะจานของ La Dotta จะรังสรรค์โดย Giampiero Quartararo เฮดเชฟมากประสบการณ์จากเมืองปาแลร์โม ประเทศอิตาลี เราจึงวางใจได้ว่าพาสต้าของร้านมีความเป็นอาหารอิตาเลียนแท้ เมนูพาสต้าของร้านจะใช้เส้นสดทำมือทั้งหมด แถมยังมีความหลากหลายให้เลือกอย่างจุใจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แทลเลียเตลเล บูคาตินี หรือ ตัลยาเตลเล และอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกสั่งได้ตามความสนใจของเรา การรับประทานเมนูพาสต้าทามกลางบรรยากาศสีฟ้าอันแสนอบอุ่นของร้าน นับเป็นหนึ่งในวิธีการผ่อนคลายความเครียดทีดี หากใครมองหาร้านพาสต้านั่งชิว La Dotta จะตอบโจทย์มาก นอกจากเมนูพาสต้าแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟอาหารอย่างอื่นด้วย
‘รอยสัก’ นับเป็นงานศิลปะและลวดลายแฟชั่นที่เพิ่มความงดงามให้กับเรือนร่างของผู้ชายมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่นอกเหนือจากความสวยงาม รอยสักยังสะท้อนถึงความเชื่อ ความหมาย ตัวตน และความชอบที่แตกต่างกันออกไป มันจึงเป็นสิ่งที่ต้องการความปราณีตและความเป็นมืออาชีพของช่างในการสลัก วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปเยี่ยมร้านสักหลากสไตล์ที่จะเปลี่ยนผิวหนังของคุณให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ INK AGAIN มาเริ่มกันที่ INK AGAIN TATTOO ร้านสักลายขนาดย่อมที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยรัชดา 36 แม้ตัวร้านจะมีขนาดเล็ก แต่ฝีมือของช่างก็ไม่ได้เล็กน้อยตามตัวร้านเลย เพราะช่างประจำร้านมีประสบการณ์ด้านนี้มานานถึง 10 ปี แถมยังสลักลายได้หลายแนวไม่ว่าจะเป็น Black Work / New School / Minimal หรือ ถ้าคุณอยากได้ลายแนว Custom ทางร้านก็จัดให้ได้เหมือนกัน หากใครสนใจลองไปดูผลงานของร้านเพิ่มเติมได้ที่ IG: @inkagaintattoo หรือ ดูพิกัดร้านได้ที่ Google Maps AOMOA ใครที่ชื่นชอบรอยสักที่มีสีสันสวยงามฉูดฉาด หรือ ที่เป็นลายกราฟิกที่โดดเด่นทั้งสีและเส้น เราขอแนะนำร้านสักที่น่าจะตอบโจทย์คุณ ร้านนี้มีชื่อว่า AOMOA TATTOO STUDIO ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 21
หากใครเคยมาเดินเล่นที่ ‘สามย่าน’ คงคุ้นเคยกับสถานที่ที่เป็นเหมือนกับแลนด์มาร์กจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สามย่านมิตรทาวน์ จามจุรีสแควร์ หรือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงร้านขายของหวานที่เป็นดั่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่านักศึกษามานานกว่า 8 ปีอย่าง ‘Creamery Boutique Ice Creams’ ซึ่งนอกจากจะเป็นร้านที่มีบรรยากาศชวนให้มานั่งชิวแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟเมนูพาสต้าและของหวานที่มีเอกลักษณ์และใช้วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมอีกด้วย บรรยากาศร้าน เมื่อผลักบานประตูและเดินเข้าไปภายในร้าน สิ่งที่สะดุดตาเรามาก คือ ตู้ไอศกรีมหน้าร้านที่บรรจุสกู๊ปไอศกรีมสุดพรี่เมี่ยมเอาไว้กว่า 10 รส ซึ่งมีทั้งรสชาติที่เราคุ้นเคยอย่าง วานิลลา และที่เราไม่คุ้นหูอย่าง รสนมเด็ก ซูกัส หรือ ใจแตก ซึ่งทางร้านบอกว่า ปกติจะมีรสชาติไอศกรีมมากถึง 30 รส แต่เลือกที่จะนำมาขายเพียง 10 รส และจะเปลี่ยนรสชาติไอศกรีมใหม่ทุกเดือนเหมือนเป็นกิมมิคที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า เราสามารถจับคู่ไอศกรีมกับรสชาติคุ๊กกี้ที่เราชื่นชอบ หรือ จะสั่งมาทานแบบเดี่ยวก็ได้ตามใจเรา ที่ร้าน Creamery เราสามารถเอนจอยกับของหวานภายใต้บรรยากาศแบบห้องนั่งเล่น (living room) อันประกอบไปด้วยของตกแต่งสุดชิวอย่าง เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนังสือ ผ้าม่านสีขาว กรอบรูปตั้งโต๊ะ หรือ ดอกไม้ประดับ
เมื่อพูดถึงสเต็กเนื้อ เมนูนี้น่าจะติดอยู่ในลิสต์อาหารโปรดอันดับต้น ๆ ของใครหลายคน เรียกได้ว่าชื่นชอบจนถึงกับต้องมาลองทำกินเองที่บ้าน แน่นอนว่ามีทั้งประสบความสำเร็จอร่อยถูกใจ หรืออาจจะเฟลจนไม่กล้าเปิดเตาแสดงฝีมือกันอีกต่อไป สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในฝีมือทำสเต็กของตัวเอง คอลัมน์ ManUP อยากชวนให้ลุกขึ้นมาอัพสกิลการลงครัวอีกครั้งกับ Filet mignon with Pomme Puree เมนูสเต็กเนื้อสันในฉ่ำ ๆ เคียงคู่กับมันบดเนื้อเนียนนุ่ม รสกลมกล่อม เอาไว้ทำกินที่บ้าน หรือโชว์ฝีมือเซอร์ไพรส์คนพิเศษก็เท่ไม่หยอก งานนี้ส่วนผสมและขั้นตอนวิธีทำจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย ส่วนผสม สเต็ก เนื้อ Tenderloin 300 กรัม น้ำมันมะกอก 30 กรัม เนย 40 กรัม กระเทียม 2 -3 กลีบ ใบ Thyme / Rosemary เกลือ พริกไทยดำ มันบด มันฝรั่ง 100 กรัม นมสด 30 กรัม เนย 50
หลังจากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการให้สามารถออกไปนั่งทานอาหารที่ร้านได้อีกครา เชื่อว่าหลายคนที่คิดถึงบรรยากาศ การชิลล์เอ้าท์ กินดื่มพูดคุยกับครอบครัวเพื่อนฝูง คงจะออกไปตามเก็บร้านอาหารโปรดร้านต่าง ๆ ที่ห่างหายไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยือนเป็นเวลานานหลายเดือน และในวันนี้เราก็จะขอชวนทุกคนออกไปทานข้าวนอกบ้านให้หายคิดถึง ด้วยการมุ่งหน้าไปยังร้าน Charm Eatery and Bar สาขาซอยสาทร 12 ร้านอาหารไทยแท้สืบทอดตำรับมาจากรสมือคุณย่า ผสานอาหารฟิวชั่นที่เป็นส่วนผสมของอาหารไทยและอาหารตะวันตกได้อย่างลงตัว ซึ่งเราเชื่อว่าร้านนี้ต้องหนึ่งร้านโปรดในดวงใจของชาว UNLOCKMEN หลายคนเช่นกัน CHARM EATERY and BAR เริ่มต้นย่างเท้าเข้าร้าน ก็ได้พบกับบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองที่คุ้นเคย กับความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ผสานความเท่ด้วยผนังปูนเปลือย และแน่นอนว่าเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนที่โดดเด่นอยู่หน้าร้านทำให้อาการคอแห้งโหยหาเครื่องดื่มเย็น ๆ มันกำเริบ แต่วันนี้ยังมีอีกหลายที่ต้องไปต่อ เลยจัดเป็นน้ำแตงโมปั่นเย็น ๆ มาดื่มดับกระหายไปก่อน ระหว่างรออาหารที่สั่งไปประมาณ 3 เมนู เราไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปชั้น 2 ของร้าน เพื่อขอเก็บภาพกลุ่มโคมไฟที่ทิ้งตัวไล่ระดับดิ่งตรงลงมาบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในมุมสวย ๆ ที่มีมากมายภายในร้าน หลังจากแอบไปเก็บภาพร้านมานิดหน่อย ก็ได้เวลาที่ 3 เมนูของวันนี้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ เริ่มต้นมื้อด้วย ‘พาสต้าไส้กรอกอีสาน’ เมนูฟิวชั่นที่มาพร้อมความอร่อยดั้งเดิมของเส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับกระเทียม, โหระพา
สำหรับหนุ่ม ๆ Urban Men ที่มีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับย่านใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘สาทร’ ย่านธุรกิจที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ตึกออฟฟิศ หรืออาคารสำนักงานต่าง ๆ เพียงเท่านั้น ย่านสาทรเป็นเหมือนศูนย์กลางของ Urban Lifestyle ที่สะดวกสบายทั้งการเดินทาง และการใช้ชีวิต รายล้อมไปด้วยร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์, ห้างสรรพสินค้า, คาเฟ่บิสโทรสุดชิค รวมไปถึงสถานศึกษา โรงพยาบาล สถานทูต และโรงแรมระดับ 5 ดาว มากมาย นอกจากอาคารสำนักงาน และสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่ครบครัน ‘สาทร’ ยังเป็นโลเคชั่นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตใจกลางมหานครได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับโครงการ TAIT Sathorn 12 (เทตต์ สาทร ทเวลฟ์) ที่เราอยากชวนชาว UNLOCKMEN ทุกคนไปทำความรู้จักในทุกแง่มุมของคอนโดมิเนียมโครงการนี้ไปพร้อมกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เลือกคอนโดใหม่ที่พร้อมตอบสนองวิถีชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว โครงการ TAIT Sathorn 12 เป็นคอนโด High Rise ระดับ Luxury ความสูง
ใครที่ชอบดูหนังไซไฟ คงเคยอยากนั่งยานอวกาศ จานบิน หรือ รถบินได้กันบ้าง ตอนนี้ความฝันของคอหนังใกล้จะเป็นจริงมากขึ้นแล้ว เมื่อหลายธุรกิจพยายามผลิตพาหนะบินได้กันอย่างแพร่หลาย หนึ่งในนั้น คือ Jetpack Aviation (JPA) ผู้ผลิตไอพ่นบินได้ ซึ่งกำลังพัฒนา ‘Speeder’ พาหนะที่พวกเขาเคลมว่าเป็น “มอเตอร์ไซค์บินได้คันแรกของโลก” Speeder จะเป็นพาหนะขับเคลื่อนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี VTOL (vertical take-off and landing) ช่วยให้มันบินขึ้นจากพื้นของที่ไหนก็ได้บนโลกอย่างง่ายดาย ซึ่ง Speeder จะถูกผลิตออกมาทั้งหมด 2 เวอร์ชัน ได้แก่ สันทนาการ (Recreational) และ ทหารหรือเชิงพาณิชย์ (Military/Commercial) สำหรับ Recreational จะเป็น Speeder ที่ใช้สัญจรทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยมันมีน้ำหนักอยู่ที่ 231 lbs สามารถบินด้วยความเร็วสูงสุดมากกว่า 150 mph มาพร้อมกับแรงขับสูงสุด (ISA) 705 lbs และเพดานการบินสูงสุดอยู่ที่ 15,000 ft ซึ่งทาง
อากาศดี ๆ ลมเย็นพัดสบายแบบนี้ เป็นโอกาสดี ๆ ที่จะพาสาว ๆ ไปดื่มด่ำบรรยากาศ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ชมพระอาทิตย์ตก มองดูแสงสีของเมืองในบรรยากาศ Rooftop วันนี้ UNLOCKMEN จึงได้รวบรวมสถานที่ Rooftop Bar ที่เราชื่นชอบมาแนะนำเป็นไอเดียสำหรับช่วงวันหยุดยาวนี้ 360 – Millennium Hilton Bangkok เหนือจากพื้นขึ้นไป 32 ชั้นที่โรงแรม Millennium Hilton Bangkok คือหนึ่งใน Rooftop Bar ที่มีวิวสวยที่สุดในประเทศไทย เพราะคุณจะสามารถมองเห็นกรุงเทพมหานครทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรีพร้อมกันได้อย่างเต็มตาโดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง และด้วยที่นั่งที่ไล่สโลปลงไปเป็นชั้น ๆ ประกอบการตกแต่งที่เน้นบรรยากาศร่มรื่นเป็นหลัก ทำให้การมา Rooftop Bar แห่งนี้คุณจะรู้สึกเหมือนมาสวนลอยฟ้าซึ่งโดนโอบล้อมด้วยป่าคอนกรีตที่ชื่อ ‘กรุงเทพมหานคร’ นอกจากพระจันทร์เต็มดวงสดสวยที่คุณจะมองเห็นได้เต็มสองตาในคืนลอยกระทงแล้ว ถ้าคุณไปเร็วสักนิด คุณจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่เห็นแล้วยากจะเชื่อว่านี่คือในกรุงเทพฯ หนุ่ม ๆ คนไหนกำลังหาที่พาคนรู้ใจไปเดตอยู่ละก็ รับรองว่าที่ 360 – Millennium Hilton Bangkok จะสร้างบรรยากาศเป็นใจสำหรับคุณได้อย่างแน่นอน Location: ชั้น 31-32
ขณะที่หลายคนกำลังอ่านบทความนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียวกำลังดำเนินอยู่ เพื่อส่งสัญญาณการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งที่ 32 อย่างเป็นทางการ และในช่วงจังหวะเวลาเหมาะเจาะแบบนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลน่าสนใจของ Tokyo 2020 Olympics ครั้งนี้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านอุ่นเครื่องเพิ่มความอินในการรับชม และร่วมเชียร์ได้อย่างมีอรรถรสเต็มเหนี่ยวกันไปเลย 57 ปีที่รอคอย มหกรรม Tokyo 2020 Olympics ที่ถูก COVID-19 เล่นงาน จนต้องถูกเลื่อนมาจัดในปี 2021 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี ที่ตำแหน่งเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน หวนกลับมาสู่อ้อมอกชาวอาทิตย์อุทัยอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1964 และถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนถึง 2 ครั้ง ซึ่งการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีตนั้นมีความสำคัญในแง่ของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก ช่วยลบล้างทัศนคติเชิงลบของประเทศ ด้วยการสร้างชื่อเสียงของญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในมุมมองของประเทศที่ทันสมัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม หลังจากผ่านเวลามาอย่างยาวนาน ในที่สุดวงล้อแห่งโอลิมปิกก็หมุนวนมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในการประชุมหาเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ที่อาร์เจนตินาเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา มี 3 เมืองใหญ่ได้ขับเคี่ยวเพื่อตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิก ทั้งอิสตันบูล มาดริด
เวสป้า เปิดตัว “Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT)” สกู๊ตเตอร์สายสปอร์ตเหนือชั้นรุ่นล่าสุดจากซีรีส์ SPRINT S ด้วยคอนเซ็ปต์ “When style meets technology, a new attraction is born” ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ กับครั้งแรกของหน้าจอ TFT (Full-Colour TFT Display) ในรุ่น SPRINT พร้อมขับเน้นดีเอ็นเอแห่งดีไซน์โมเดิร์นสปอร์ตที่สะท้อนความคลาสสิกและเรียบหรูเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นด้วย 2 เฉดสี นำโดยสีใหม่ “สีบรอนซ์ Bronzo Antico” ที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดตกแต่งสีดำ และ “สีดำด้าน Nero Opaco” ที่ดึงดูดด้วยรายละเอียดตกแต่งสีบรอนซ์ สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้นับเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มากกว่ายานพาหนะ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีดีเทลให้กับหนุ่ม ๆ ผู้หลงใหลในดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างโดดเด่นและลงตัว Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT) สีบรอนซ์
ความประณีต หรือความ ‘Craft’ สำหรับผู้ชาย ไม่มีอะไรเกินกว่ารายละเอียดของ ‘ชุดสูท’ ที่ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่ต้องใช้ความ ‘Craft’ พิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่วิธีการเลือก วิธีการผลิต และวิธีการสวมใส่ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกสูทให้ดูดีที่สุด เพื่อความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เปรียบเสมือนกุญแจที่ปลดล็อคศักยภาพ และบุคลิกให้ดูดีกว่าที่เคย กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตัดสูทโดยเฉพาะ เพื่อการแต่งกายและไลฟ์สไตล์ที่เรียกว่า Craft และ Classic ที่แท้จริง การใส่สูทนั้นมีต้นกำเนิดมาจากฝั่งตะวันตกนานกว่า 400 ปี เดิมทีการใส่สูทเป็นการแต่งกายของชนชั้นสูง และขุนนางในศาลของฝรั่งเศส ต่อมาจึงขยายอิทธิพลไปสู่ขุนนางชาวอังกฤษ จนกระทั่งเข้าสู่ยุครีเจนซี่ การใส่สูทเร่ิมเป็นที่แพร่หลาย และกลายเป็นชุดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นตัวแทนของการแต่งกายที่สุภาพ และเริ่มใช้สวมใส่ในงานที่เป็นทางการตั้งแต่นั้นมา คำว่า ‘Suit’ แปลว่า ‘สอดคล้อง’ ในภาษาฝรั่งเศส มีรากฐานตกทอดมาจากคำว่า ‘Sequor’ ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า ‘ I Follow’ เพราะฉะนั้นการใส่สูทจึงหมายความว่า เสื้อผ้าทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ, กางเกง รองเท้า ทุกอย่างต้องคล้องกันกันทั้งชุด และจะต้องมีความพอดีระหว่างชุดกับขนาดรูปร่างอีกด้วย ถ้าหากการแต่งหน้าของผู้หญิงก่อนออกจากบ้านทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจ
เชื่อว่าหลายคนกำลังรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับเวลาที่จะได้ออกไปปลดปล่อยตัวเองสู่อิสรภาพอีกครั้ง หลังจากที่หลายอย่างถูกจำกัดไว้ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทีมงาน UNLOCKMEN จึงอยากนำเสนออีกหนึ่งแนวทางในการท่องเที่ยวแบบปลอดภัย รวมไปถึง Activity ดี ๆ ที่คุณสามารถไปลองทำตามได้แม้จะไปคนเดียว ซึ่งขอรับประกันได้เลยว่า ไม่ต้องเสี่ยงเจอคนเยอะ ได้ความสนุก ผ่อนคลาย แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย และจิตใจอีกด้วย หากใครกำลังรู้สึกเบื่อกับการอยู่ติดบ้าน อยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศสูดอากาศอยู่พอดี วันนี้เรามีสิ่งดี ๆ ทั้งสถานที่ วิธีการ และไอเทมเจ๋ง ๆ มานำเสนอ หลังจากที่เราทุกคนต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ กลายมาเป็นมนุษย์ติดบ้าน จากคนที่เคยออกจากบ้านไปทำงานทุกวันจันทร์–ศุกร์ ก็ต้องมา Work From Home กันเต็มรูปแบบ การใช้ชีวิตอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทุกวัน นอกจากจะทำให้เราเบื่อ มันยังทำให้เกิดความเครียด ต่อมความคิดสร้างสรรค์ตีบตัน ถ้าหากกว่าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ล่ะก็ มันคงได้เวลาที่คุณต้องออกไปเจอผจญภัย ออกจากการใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ไปค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ ทำกิจกรรมอะไรที่มันผ่อนคลาย ชมโลกภายนอกที่กว้างใหญ่ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจกันดูบ้างซะแล้ว ยิ่งการท่องเที่ยวธรรมชาติในช่วงนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่กำลังเหมาะพอดี เพราะสภาพอากาศตามแนวป่าในตอนนี้ถือว่ากำลังเขียวขจีได้ที่เลยทีเดียว การท่องเที่ยวธรรมชาติ นอกจากเราจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์หลุดจากความอุดอู้แล้ว เรายังได้เที่ยวแบบปลีกวิเวกหนีความแออัดของคน รักษายะห่างทางสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณเชื่อหรือไม่ว่า การไปเที่ยวพักผ่อนตามธรรมชาติคนเดียว