เข้าใกล้โลกอนาคตในอุดมคติของ Mark Zuckerberg ไปอีกก้าว กับการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Smart Glasses ที่ร่วมมือกันพัฒนาระหว่าง Facebook และ Ray-Ban ในชื่อ “Ray-Ban Stories” ความเจ๋งของแว่นตา Ray-Ban Stories ที่ดูจะเท่กว่าอดีต Google Glasses โปรเจคที่โดนพับจากความล้มเหลวไปก่อนหน้านี้หลายปี เพราะนอกจากความสามารถจากเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้านดีไซน์ แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่เลือกใช้โครงจาก 3 รุ่นดัง Wayfarer, Round และ Meteor แว่นทรงยอดนิยมที่ใครใส่ก็เท่ ที่สำคัญคือฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามา แว่น Ray-Ban Stories สามารถถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอได้ด้วยกล้องความละเอียด 5 Megapixels – high resolution photos (2592×1944 pixels) and quality video (1184×1184 pixels at 30 frames per second) พร้อม
เขาเริ่มต้นเส้นทางนักแสดงจากการเป็นนักเต้น เล่นละครเวทีเดอะมิวสิคัล จนก้าวเข้าสู่วงการฮอลลีวูดตั้งแต่ยังวัยกระเตาะ สำหรับ Thomas Stanley Holland หรือ Tom Holland สไปเดอร์แมนหนุ่มร่างเล็ก วัย 25 ปี ซึ่งนอกจากฝีมือการแสดงที่น่าชื่นชมแล้ว เขายังมีสไตล์การแต่งตัวที่ชวนหลงใหล ทั้งเรื่องของสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตน การเลือกสีเครื่องแต่งกายให้แมทช์กันอย่างไร้ที่ติ รวมไปถึงการเลือกทรงผมเผยโครงหน้าที่ดูจะเหมาะเจาะไปซะทุกครั้งที่เขาต้องปรากฎกายต่อหน้าสาธารณะชน วันนี้ Style Guide เราจะเจาะจุดเด่นการเลือกแต่งกายของพ่อหนุ่ม Spider-Man คนนี้กัน เชื่อว่าจะสร้างสไตล์สีสันให้กับผู้ชายร่างเล็กหลาย ๆ คนได้อย่างแน่นอน Tom Holland คือชายที่มีชั้นเชิงในการแต่งกายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าลีลาการแสดง เขามักจะมีเสื้อตัวนอกที่เป็นส่วนเติมเต็มลุคอยู่เสมอ โดยเฉพาะแจ็คเก็ตโทนหลัก 3 สี ยีนส์ ดำ น้ำตาล ที่ก็แทบจะ finish ได้ทุกลุคของผู้ชายอย่างเรา ๆ แล้ว แจ็คเก็ตสียีนส์ที่มาช่วยคลุมเสื้อยืดสีขาวด้านใน กับกางเกงผ้าลายตารางแบบฉบับหนุ่มอังกฤษยุค 60S’ ดึงดูดสายตาด้วยสนีกเกอร์สีขาว เรียกได้ว่าขยี้ซะลุคนี้ออกมาโคตรคูล ส่วนแจ็คเก็ตดำเข้าตำรา All Black คลุมโทนดำขรึมทั้งลุค หรือบางวันก็หยิบไอเท็มสุดคลาสสิคอย่างเสื้อยืดขาวมาตัดความทะมึน พร้อมกับสวม
ผู้ชายไทยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยจะให้ความสนใจในเรื่องของทรงผมกันมากนัก หรือไม่ก็จะทำตัวตามกันไปหมดจนแทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร เห็นเค้าว่าทรงนี้ดี ทรงนี้กำลังฮิต ก็ทำตามกันโดยไม่ได้รู้ที่มาที่ไป หรือดูความเหมาะสมกับสไตล์ของตัวเอง ซึ่งอย่างที่เราเคยบอกไปหลายครั้งว่าเรื่องของทรงผมนั้น “ไม่มีกฎตายตัว” ไม่มีใครฟันธงได้ว่าแบบไหนถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเข้ากันระหว่างสไตล์ที่เลือกใช้ กับคาแรคเตอร์ บุคลิก และตัวตนของคุณมากกว่า ขอแค่คุณหาตัวเองจนพบว่าจริง ๆ ชอบอะไร ทำอะไรแล้วรู้สึกมั่นใจ เพราะบางครั้งการทำผมแบบดาราในดวงใจ ผมที่ได้ชื่อฮิตอันดับหนึ่งของโลก ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่มีสไตล์ดีขึ้นได้ถ้ามันไม่ใช่ตัวตนของคุณ เพื่อเป็นการแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สไตล์ทรงผมแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะการพัฒนาสไตล์ถือเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นตัวเองได้ง่ายที่สุด วันนี้เรามีแนวทางมาช่วยแนะนำผู้ชายทุกคนที่ต้องการจะพัฒนาบุคลิกตัวเองให้ดีที่สุดด้วยการ “Find the right hairstyle for you” PICK THE BEST HAIRSTYLE เติมเต็มสไตล์ของตัวเอง นอกจากเสื้อผ้า เรื่องทรงผมก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นส่วนสำคัญในการเติมเต็มสไตล์และคาแรคเตอร์ของเราให้สุดทาง สามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอกได้อย่างสิ้นเชิง ต่อให้แต่งตัวดีแค่ไหน แต่ถ้าเลือกทรงผมไม่เข้ากับสไตล์และรูปหน้า หรือเซ็ทผมออกมาได้ไม่ดี ก็ทำให้ภาพรวมดูขัดใจได้ง่าย ๆ เหมือนกัน ทรงผมผู้ชายมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเหมาะกับผมทุกทรง ซึ่งเราแนะนำให้เลือกทรงผมที่ใช่ โดยใช้รูปหน้าเป็นจุดหลักในการช่วยตัดสินใจ จะทำให้ได้ไอเดียช่วยเลือกและจัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น รูปทรงไข่ (Oval Face) คือทรงหน้าที่น่าอิจฉา เพราะมีอัตราส่วนค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
Audemars Piguet เปิดตัวนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ ขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือน เช่นเดียวกับนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ 3 โมเดลที่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 4308 ซึ่งเป็นกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง (Selfwinding) ล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ อีกทั้งยังใช้ระบบถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาด้วยตนเอง พร้อมดีไซน์หน้าปัดที่ตอบโจทย์ทุกการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะบนบกหรือใต้น้ำ กลไกที่พร้อมสำหรับทุกการผจญภัย นาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มาพร้อมกลไกอัตโนมัติแบบล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อมการแสดงวินาทีและการแสดงวันที่แบบ Instant-Jump คาลิเบอร์ 4308 ถูกติดตั้งพร้อมกลไกที่ช่วยมอบเสถียรภาพและความแม่นยำเมื่อปรับฟังก์ชันของนาฬิกา สเกลเวลาการดำน้ำที่แสดงอยู่บนวงแหวนด้านในที่สามารถหมุนได้ของหน้าปัดสามารถเปิดใช้งานด้วยกลไกการคลิกแบบทิศทางเดียวที่ถูกติดตั้งให้เชื่อมกับเม็ดมะยมตรงที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็นเทคนิคการตกแต่งสุดประณีตของคาลิเบอร์ 4308 ไม่ว่าจะเป็นลาย โกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) เทคนิคเทรตส์ ทิเรส์
เชื่อว่าสาวกเรือนเวลาทั้งหลายที่ชอบแสวงหาความแปลกใหม่ไม่จำเจ คงคุ้นเคยกับชื่อของ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวย ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องราคาที่สามารถจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดย SEIKO แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ALBA นั้นถือเป็นแบรนด์น้อง ที่รวมพลังร่วมบุกตลาดในไทย ยืนหยัดเคียงข้างแบรนด์พี่ใหญ่อย่าง SEIKO มายาวนาน ล่าสุดในปี 2021 นี้ ทาง ALBA ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ “The Reflection Of Japan” ด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product โดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ของเรือนเวลา Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และในวันนี้เราได้คัดเลือกเรือนเวลา 5 โมเดลใหม่ที่น่าสนใจจาก ALBA มาอวดโฉมความเท่ ให้ชาว UNLOCKMEN ได้สัมผัส และทำความรู้จักกับจุดเด่นของทั้ง 5 เรือนนี้ ที่พร้อมประทับลงบนข้อมือในฐานะไอเทมบอกเวลาคู่ใจซึ่งช่วยอัพความเท่ให้กับคุณได้ในทุกสถานการณ์ เริ่มต้นที่เรือนแรกซึ่งต้องบอกเลยว่าใครเห็นเป็นต้องสะดุดตา กับความหรูหราที่ผสานความสปอร์ตได้อย่างลงตัวกับ ALBA Automatic รุ่น AL4185X ตัวท็อปแห่งเรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตขับเคลื่อนด้วยระบบออโตเมติก มาพร้อมหน้าปัดซันเรย์สีน้ำเงิน มีหลักชั่วโมงแบบพรายน้ำเหลือบทอง
ช่วงนี้เรากำลังนิยมนาฬิกาดีไซน์ย้อนยุคที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่พร้อมใส่เทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป มันให้ฟีลลิ่งความสนุกสนานที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร หลังจากเปิดตัว Pac-man x A100WEPC ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Casio ก็ตอกย้ำกระแสความ Vintage อีกครั้งด้วยการนำ “F-100” ที่โด่งดังในปี 1978 มานำเสนอใน collection ล่าสุด “A100” หน้าปัดทรงเหลี่ยมจอดิจิทัลที่หลายคนคุ้นตาตั้งแต่วัยเด็ก หากใครเกิดไม่ทันยุค ’70s นาฬิกา Casio F-100 ในยุคนั้นเปิดตัวมาอย่างอลังการ ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยความแตกต่างของ resin case น้ำหนักเบา เป็นนาฬิกา digital ที่ล้ำสุด ๆ ในยุคนั้นก็ว่าได้ มันเข้าถึงภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อย่าง Alien (1979) ที่ Ridley Scott นำ F-100 2 เรือนมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ดูล้ำหน้าเหมาะกับยุคอวกาศในบทภาพยนตร์ ก็ยิ่งดันให้มันดังเปรี้ยงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว Casio Vintage A100 Series นำความคลาสสิคของ F-100 นาฬิกาหน้าจอดิจิทัลระดับ Iconic ให้กลับมาใหม่อีกครั้งในรูปแบบ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘SEIKO (ไซโก)’ คำภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “นาที” “ความดีเยี่ยม” และ “ความสำเร็จ” เป็นคำคุ้นหูที่หลายคนรู้จักในฐานะชื่อแบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย นอกจากชื่อเสียงที่ชาวไทยคุ้นเคย ในระดับโลก SEIKO ยังถือเป็นแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่บนหน้าประวัติศาสตร์วงการนาฬิกามาแล้วมากมาย ทั้งในฐานะแบรนด์นาฬิกาข้อมือแบรนด์แรกของญี่ปุ่นที่ริเริ่มผลิตนาฬิกาควอตซ์จนทำให้เกิดยุค Quartz Crisis และเป็นแบรนด์ที่ผลิตนาฬิกาดำน้ำไทเทเนียมรุ่นแรกของโลก รวมถึงนวัตกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย จากประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 140 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ SEIKO ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 จนกลายเป็นความเชี่ยวชาญที่ผลักดันให้ SEIKO ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำในญี่ปุ่น เป็น House of Watchmaking ที่ผลิตทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาด้วยโดยช่างผู้ชำนาญการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของนาฬิกา ภายใต้คติ Keep Going Forward ซึ่งหมายถึงการไม่หยุดพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ที่ SEIKO ยึดถือมาจนถึงปัจจุบัน และในปี 2021 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสพิเศษของแบรนด์คุณภาพจากญี่ปุ่นที่เดินทางมาครบรอบ 140 ปีเท่านั้น ซึ่งพวกเราชาวไทยที่เป็นสาวก SEIKO มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกน่าจะรู้กันดีว่าช่วงเวลานี้ถือเป็น “ช่วงเวลาพิเศษ” ของไซโก
เมื่อได้มองดูภูมิทัศน์อันงดงามและเงียบสงบของโลกใบนี้เรามักจะลืมตระหนักไปว่า จุดเริ่มต้นของดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลกได้กำเนิดจากพลังอันมหาศาล ที่รุนแรงและยากยิ่งต่อการดำรงชีวิต อีกครั้งที่ Azimuth ได้ใช้จินตนาการพาเราท่องไปยังอดีตกาลซึ่งเป็นปฐมบทของโลกใบนี้ ณ สถานที่ ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟและลาวาอันร้อนระอุ ผ่านยานสุดแกร่งชื่อ SPACESHIP PREDATOR LAVA OVERLAND 2021 SPACESHIP PREDATOR LAVA OVERLAND เป็นผลผลิตจากความหลงใหลที่ดำเนินมาอย่างยาวนานระหว่าง Azimuth และโลกแห่งนิยายวิทยาศาสตร์ ความหลงใหลเหล่านี้ก่อให้เกิดคอลเลกชันที่โดดเด่นของแบรนด์ อาทิ Mr. Roboto, Spaceship และ Twin Turbo SPACESHIP PREDATOR LAVA OVERLAND ได้รับการผสมผสานระหว่างการขึ้นรูปตัวเรือนที่ล้ำยุค การเคลือบวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ และการออกแบบที่ล้ำหน้า เป็นทายาทโดยตรงของคอลเลกชัน Spaceship คอลเลกชันยอดนิยมของ Azimuth ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสุนทรียศาสตร์ในการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยานอวกาศ แสดงเวลาด้วยเข็มชั่วโมงแบบกระโดดอันชาญฉลาด และมีสไตล์ด้วยเข็มนาทีแบบกว้าง รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของ SPACESHIP PREDATOR LAVA OVERLAND ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ค็อกพิทนักบิน” แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งการประดิษฐ์ที่แน่วแน่ของ Azimuth ตัวเรือนสองส่วนออกแบบด้วยแคปซูลด้านในและแชสซีด้านนอก ทำการสลักโครงสร้างตัวเรือนแบบโมดูลาร์
บาสเกตบอลถือเป็นส่วนสําคัญในการขับเคลื่อนวงการสตรีทแฟชั่นมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นการก่อกําเนิดรองเท้า Iconic มากมาย เช่น Converse All Star Chuck Taylor, ซีรีส์ Air Jordan, Air Force 1 หรือ สงครามเกมการตลาดของแบรนด์ใหญ่ที่ฟาดฟันพัดเปลี่ยนกันมาอย่างต่อเนื่องทั้งฝั่งยุโรป Reebok, Adidas หรือแบรนด์ในอเมริกาอย่าง Nike, Under Armor แม้กระทั่งจีนเองก็ส่งแบรนด์อย่าง Anta หรือ Li-Ning เพื่อมากอบโกยส่วนแบ่งจากตลาดนี้ นอกเหนือจากวัฒนธรรมรองเท้าที่เกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับกีฬาบาสเกตบอล ตัวนักกีฬาเองก็กลายมาเป็นสปอร์ตไลท์และมีสถานะไม่ต่างจากดาราซุปเปอร์สตาร์ เพราะนักกีฬา NBA ส่วนใหญ่นั้นมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราหวือหวา และถูกบรรดาสื่อมวลชนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา แต่จากบรรดาผู้เล่นมากมายกว่าหลายพันคนจากอดีตถึงปัจจุบัน มีนักบาสเกตบอลอยู่คนหนึ่งที่โดดเด่นทั้งในเรื่องฝืมือ สไตล์ พฤติกรรมสุดโต่ง ความติสท์อินดี้ที่แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาผู้เล่นคนไหนมาทาบรัศมีได้ ชายคนนั้นก็คือ Dennis Rodman หรือที่แฟน ๆ บาสเกตบอลจดจําเขาในฉายา “The Worm” Dennis Rodman ถือเป็นนักกีฬาระดับออลสตาร์ที่มีสไตล์การเล่นเกมรับอันดุดันโดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของยุค 90s และได้รับเครดิตอย่างมากในช่วงเวลาที่จับมือรวมพลังกับ
ความประณีต หรือความ ‘Craft’ สำหรับผู้ชาย ไม่มีอะไรเกินกว่ารายละเอียดของ ‘ชุดสูท’ ที่ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่ต้องใช้ความ ‘Craft’ พิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่วิธีการเลือก วิธีการผลิต และวิธีการสวมใส่ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกสูทให้ดูดีที่สุด เพื่อความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เปรียบเสมือนกุญแจที่ปลดล็อคศักยภาพ และบุคลิกให้ดูดีกว่าที่เคย กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตัดสูทโดยเฉพาะ เพื่อการแต่งกายและไลฟ์สไตล์ที่เรียกว่า Craft และ Classic ที่แท้จริง การใส่สูทนั้นมีต้นกำเนิดมาจากฝั่งตะวันตกนานกว่า 400 ปี เดิมทีการใส่สูทเป็นการแต่งกายของชนชั้นสูง และขุนนางในศาลของฝรั่งเศส ต่อมาจึงขยายอิทธิพลไปสู่ขุนนางชาวอังกฤษ จนกระทั่งเข้าสู่ยุครีเจนซี่ การใส่สูทเร่ิมเป็นที่แพร่หลาย และกลายเป็นชุดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นตัวแทนของการแต่งกายที่สุภาพ และเริ่มใช้สวมใส่ในงานที่เป็นทางการตั้งแต่นั้นมา คำว่า ‘Suit’ แปลว่า ‘สอดคล้อง’ ในภาษาฝรั่งเศส มีรากฐานตกทอดมาจากคำว่า ‘Sequor’ ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า ‘ I Follow’ เพราะฉะนั้นการใส่สูทจึงหมายความว่า เสื้อผ้าทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ, กางเกง รองเท้า ทุกอย่างต้องคล้องกันกันทั้งชุด และจะต้องมีความพอดีระหว่างชุดกับขนาดรูปร่างอีกด้วย ถ้าหากการแต่งหน้าของผู้หญิงก่อนออกจากบ้านทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจ
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก คือการแข่งขันกีฬาที่มีความสำคัญมากที่สุดในโลก ถ้านับตั้งแต่การแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกที่จัดขึ้นใน Los Angeles ปี 1932 จนถึงปัจจุบัน จะมีการจัดไปแล้วทั้งหมด 28 ครั้ง และในวันที่ 23 กรกฎาคม ที่กำลังจะถึงนี้ ก็จะถึงช่วงเวลาสำคัญที่คนทั้งโลกเฝ้ารอคอย การแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 29 “Olympic Games Tokyo 2020 “ ตลอด 90 ปีที่ผ่านมาของกีฬาโอลิมปิก มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากมาย โดยเฉพาะสถิติโลกที่นักกีฬาทั่วโลกต่างพยายามจะทำลายมันลงในทุกการแข่งขัน กีฬาประเภทใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในแต่ละปี และเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการตัดสินที่แม่นยำมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือการเป็น Olympic Games Official Timekeeper ของ OMEGA ผู้จับเวลาตัดสินอย่างเป็นทางการของการแข่งขันระดับโลก ที่ต้องใช้ความแม่นยำระดับ Microsecond เพราะในโลกของการแข่งขันสำหรับนักกีฬาที่ทุ่มเทฝึกซ้อมมาหลายปีเพื่อเวทีแห่งนี้ ความเที่ยงตรงแม้ 1 ใน 1,000,000 วินาที ก็มีความสำคัญอย่างมากเพื่อการตัดสินที่เป็นเอกฉันท์ และเพื่อเป็นสักขีพยานยืนยันการทำลายสถิติที่คนทั้งโลกต้องจดจำ ไม่ใช่แค่ความแม่นยำ OMEGA ยังแนะนำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ ๆ
ถือเป็นก้าวใหม่ของการสั่งตัดสูท วันนี้เราสามารถวัดตัวได้ผ่านทางออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้คน และไม่ใช่แค่สูท แต่รวมถึงเสื้อเชิ้ต กางเกง ไม่จำเป็นต้องมีสายวัดก็วัดตัวได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยีการตัดสูทออนไลน์ครั้งแรกของ “SUITCUBE AI” “SUITCUBE AI” ใช่แล้วครับ คุณอ่านไม่ผิด นี่คือครั้งแรกกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก SUITCUBE ที่คิดค้นนวัตกรรมตัดสูทออนไลน์ได้เลยผ่านหน้าจอ Smartphone โดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปวัดตัวที่ร้านให้เสียเวลา ช่วยแก้ปัญหาคนที่ต้องใช้สูท แต่ก็อยากจะ Social Distancing จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยใช้เวลาในการวัดตัวผ่าน SUITCUBE AI เพียงไม่ถึง 5 นาที (ระยะเวลาจากที่เราลองใช้งาน) ที่เหลือก็นั่งรอชุดสูทส่งมาภายใน 7 – 10 วันทำการ ในราคาที่ไม่แพง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการเดินทางไปตัดที่ร้าน ตัดสูทออนไลน์ทาง SUITCUBE AI มีครอบคลุมครบทุกความต้องการโดยผสมผสานรายละเอียดที่เข้ากันมากที่สุด ตั้งแต่สูท Single Breasted สูทกระดุมแถวเดียว เลือกได้ทั้งแบบ 1, 2 หรือ 3 กระดุม) และสูท Double Breasted สูทกระดุมสองแถวแบบ