เปิดตัว Range Rover 2 รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น Range Rover Sport Plug-in Hybrid HSE Plus และ New Land Rover Discovery Sport รถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมอย่าง Range Rover Sport Plug-in Hybrid ที่สามารถขับขี่บนถนนปกติและในเส้นทางออฟโรด กับความหรูหราผ่านการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เลือกมีการใช้งานที่หลายหลาก ไม่เพียงขับในเมืองแต่มีการใช้การบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่เพื่อขับขี่ไปนอกเมือง หรือการขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน Range Rover Sport Plug-in Hybrid HSE Plus มีการปรับออฟชั่นให้เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะที่แตกต่างเพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 5.699 ล้านบาท ออฟชั่นประกอบด้วย ล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว เพิ่มความสง่าและสวยงามของรูปโฉมภายนอก พร้อมเทคโนโลยีหลอดไฟหน้า Matrix LED สามารถปรับการทำงานตามสภาพการขับขี่อัตโนมัติไม่รบกวนรถที่วิ่งสวนมา ด้านความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพ รอบทิศทาง
ในบรรดาค่ายรถผู้ผลิตยนตรกรรมระดับโลก คงต้องยอมรับว่า BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เป็นหนึ่งในค่ายที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่รถยนต์หรูหราล้ำสมัยไปพร้อมกับการขับเคลื่อนผลงานศิลปะที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปินผู้รังสรรค์ ตั้งแต่ปี 1975 ที่ Hervé Poulain นักแข่งรถและนักประมูลรถชาวฝรั่งเศสได้ริเริ่มโปรเจกต์ ‘BMW Art Cars’ เอาไว้ นับแต่นั้นบริบทของศิลปะก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผลงานศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนผืนผ้าใบหรือในพิพิธภัณฑ์ชื่อก้องโลกอีกต่อไป หากสอดแทรกอยู่แทบทุกที่รอบตัว แม้แต่บนหลังคา ปีก หรือฝากระโปรงของรถยนต์ BMW ก็ตาม Hervé Poulain ชวนศิลปินหลากหลายแขนงทั่วโลกมาร่วมสร้างผลงานศิลปะเฉพาะตัว เนรมิตยานพาหนะเพื่อการขับขี่ให้กลายเป็นผ้าใบผืนใหญ่ และเปิดโอกาสให้เหล่าศิลปินใช้พื้นที่ว่างรังสรรค์ศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Alexander Calder, Frank Stella, Roy Lichtenstein หรือแม้แต่ Andy Warhol ล้วนเคยสร้างผลงาน BMW Art Cars ในแบบฉบับของตัวเองมาแล้วทั้งนั้น พวกเขาระเบิดความคิดสร้างสรรค์และถ่ายทอดทักษะความสามารถลงบนโมเดลรถยนต์ค่ายใบพัดฟ้าจนเป็นตำนาน ซึ่งปัจจุบันมี BMW Art Cars รวมทั้งสิ้น 19 คันทั่วโลก ‘BMW Unbound World of
แม้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้คุ้นชินกับการออกแบบเชิงตอบโต้ หรือ Interactive Design มากเท่าไรนัก แต่งานประเภทที่ผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับประสิทธิภาพทางเทคโนโลยี เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ตื่นเต้นตระการตาให้กับผู้ชมเช่นนี้ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แถมงานสไตล์นี้ยังแทรกตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลกด้วยซ้ำ แต่ในช่วงไม่กี่ปีให้หลังชื่อเสียงด้านงาน Interactive Design ของคนไทยก็เริ่มกลายเป็นที่โจษขานมากยิ่งขึ้น งานดีไซน์ที่ว่านี้ไม่ได้มีดีแค่ขับเน้นความงามให้กระทบต่อสายตาผู้ชม หากมอบความบันเทิง ขับเคลื่อนบริบทแวดล้อม และช่วยสร้างแรงบันดาลให้กับคนในเวลาเดียวกัน แล้ว “อะตอม-ติณห์นวัช จันทร์คล้อย” Creative Director ของบริษัท Eyedropper Fill คือหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบเชิงตอบโต้สุดสร้างสรรค์ที่เราหมายถึง งานออกแบบประสบการณ์ของอะตอม Eyedropper Fill “ถ้าจะให้อธิบายถึงสิ่งที่เราทำคร่าว ๆ น่าจะอยู่ในสามประโยคคือ เราสร้างพื้นที่ เราชวนคนมาเจอกัน และเราสร้างประสบการณ์ที่น่าจดให้กับพวกเขา Eyedropper Fill เริ่มต้นจากงานที่เป็นภาพเคลื่อนไหวซะส่วนใหญ่ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนจากภาพเคลื่อนไหวไปสู่งานบนพื้นที่จริง” ปัจจุบัน Eyedropper Fill เป็นสตูดิโอผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภาพเคลื่อนไหว ศิลปะติดตั้ง และการออกแบบเชิงตอบโต้ พวกเขานิยามตัวเองว่าเป็น ‘สตูดิโอนักออกแบบประสบการณ์’ ขยันครีเอตผลงานดีไซน์เจ๋ง ๆ ที่สอดรับกับความต้องการพวกเขา คล้องกับความต้องการของลูกค้า ตลอดจนขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่มาชมงาน “การเล่นสนุกคือน้ำเสียงในแบบคนไทยที่เราใช้สื่อสาร”
ในยุค Digital ที่การฟังเพลงผ่าน Streaming กลายเป็นพฤติกรรมหลักของคนทั่วโลก ยุคนี้ใน Smartphone ของหลายคนไม่จำเป็นต้องเสียพื้นที่เพื่อ Save เพลงลงเครื่องอีกต่อไป แต่การฟังเพลงที่จับต้องไม่ได้ ก็ทำให้หลายคนโหยหาเสน่ห์ของแผ่น Vinyl จนมันกลับมาเป็นสื่อในการฟังเพลงของแฟนตัวจริงจำนวนไม่น้อย แต่สำหรับ Yuri Suzuki นักออกแบบและนักดนตรีชาวญี่ปุ่น ผู้มีความผูกพันกับแผ่นเสียงมาตั้งแต่สมัยเป็นนักดนตรีวง Punk ในช่วงวัยรุ่น ในยุคก่อนนั้นเค้าและเพื่อนสมาชิกต่างใฝ่ฝันที่จะมี Demo ของตัวเองในรูปแบบแผ่น Vinyl แต่ราคาต้นทุนก็แพงเกินจะเอื้อม ทำให้พวกเค้าได้แต่เก็บมันติดตัวไว้จนถึงวันนี้ วันที่ความฝันของ Suzuki เป็นจริง และ Easy Record Maker ก็เป็นสิ่งที่เค้าต้องการสนองความต้องการของตัวเองในตอนนั้น และยังต้องการส่งต่อความคลาสสิกและความแตกต่างของการเล่นเพลงผ่านแผ่นเสียงให้วัยรุ่นปัจจุบันได้สัมผัส Easy Record Maker ไม่ใช่แค่เครื่องเล่นแผ่น Vinyl แต่ความพิเศษของมันคือการบันทึกเสียงหรือเพลงที่ต้องการให้ออกมาในรูปแบบแผ่น Vinyl ได้อีกด้วย เพียงแค่เสียบสายเชื่อมต่อ Easy Record Maker เข้ากับ iPhone, Computer หรือ Audio Player วางเข็มลงบนแผ่น
พอเข้าวงการกาแฟสด ก็กลับเข้าวงการสำเร็จรูปไม่ค่อยได้ ตอนนี้เรื่องนี้เลยกลายเป็นปัญหาหลักของคนทำงานอย่างเรา ๆ ที่เริ่มรู้สึกลงแดงคาเฟอีน เวลา Work from Home และหากแก้ด้วยการสั่งมากินที่บ้าน ก็ต้องโดนชาร์จเรื่องค่าส่งเพิ่ม ถ้าคิดว่าเป็นการแก้ระยะสั้นอาจจะพอได้ แต่พอคิดว่าถ้าทำแบบนี้ไปยาว ๆ ในเวลาที่ต้องรัดเข็มขัดแบบนี้คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าไหร่ UNLOCKMEN จึงคิดว่า “คงดีกว่า” ถ้าเราจะมี Gadgets สักตัวไว้ใช้ทำกาแฟสด ตั้งแต่บด อัด จนถึงดริฟต์พร้อมดื่มได้ในชิ้นเดียว ซื้อแล้วจบเลยแค่มีเมล็ดก็ทำได้ ประจวบพอดีกันกับไปเจอ Gadgets ตัวหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “CAFFLANO” เป็นเครื่องทำกาแฟสดทรงกระบอกน้ำ ที่มีเครื่องบดในตัวผลิตจากโลหะขึ้น รับประกันคุณภาพและความคงทน เครื่องทำกาแฟสดแบบแมนนวล ดีไซน์รูปแบบทรงกระบอกออกแบบมาให้เลือกหลากสี Krinder (ดำ, แดงและมิ้นต์) และ Go-Brew (ดำ, แดง, มิ้นต์, สีงาช้าง, ชมพูและม่วง) สามารถเสียบได้กับกระเป๋ากางเกง พกไปไหนก็พร้อมหยิบขึ้นมาใช้งานได้ไม่จำกัดพื้นที่กรุ่นกลิ่นและรสชาติคาเฟอีน นอกจากฟังก์ชันการใช้งาน คุณภาพวัสดุยังไม่เป็นสองรองใครด้วย 6 ข้อต่อไปนี้ 1. “บดกาแฟง่าย” หลายคนอาจจะเจอเรื่องความฝืด ขนาดที่ไม่เหมาะกับมือ จำเป็นต้องกดเครื่องไว้กับระนาบโต๊ะเพื่อหมุน
Zound Industries บริษัทสัญชาติสวีเดนผู้ผลิตหูฟังและลำโพงภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Marshall Amplification ประกาศเปิดตัวลำโพงบลูทูธขนาดพกพารุ่นใหม่ล่าสุด ‘Marshall Uxbridge Voice’ ที่ผนวกระบบเสียงในตำนานของ Marshall เข้ากับซอฟต์แวร์ควบคุมด้วยเสียงสุดอัจฉริยะอย่าง Amazon Alexa Marshall Uxbridge Voice เป็นลำโพงพกพาขนาด 128 x 168 x 123 มิลลิเมตร ที่ควบคุมการทำงานด้วยเสียงของ Amazon Alexa ใช้ชุดไมโครโฟนระยะไกล สามารถจดจำเสียงระยะไกลได้ และมีระบบตัดเสียงรบกวนในตัว ทำให้ผู้ใช้สั่งงานและควบคุมลำโพงจากพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านแบบแฮนด์ฟรีได้อย่างสะดวกสบาย จะสั่งให้ลำโพงเร่งเสียงเพลงเมื่อถึงเพลย์ลิสต์โปรดหรือหยุดเพลงที่เล่นแบบกะทันหันก็ได้ ลำโพงเครื่องนี้ใช้ 30-W Class D Amplifier ที่ขับเคลื่อนด้วยไดร์เวอร์เสียงสองตัว ทั้ง Woofer และ Tweeter ให้เสียงดังสูงสุดอยู่ที่ 96 เดซิเบล และมีกำลังขับเสียงอยู่ที่ 30 วัตต์ นอกจากจะปรับแต่งลำโพงผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Voice บนสมาร์ตโฟนได้แล้ว ด้านบนของลำโพงยังดีไซน์ปุ่มควบคุมเท่
หนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบรถยนต์ของโฟล์คสวาเกนโดยเฉพาะสาวกของ Type 2 คงกำลังรอคอยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง I.D Buzz ที่กว่าจะวางขายก็ต้องรอถึงปี 2022 แต่ระหว่างนี้เชื่อว่าหลายคนจะต้องถูกใจกับรถยนต์คอนเซ็ปต์คันล่าสุดที่ชื่อ E-BULLI อย่างแน่นอน e-BULLI คือรถยนต์คอนเซ็ปต์คันล่าสุดจาก eClassics แผนกผลิตและพัฒนารถยนต์รุ่นคลาสสิกให้กลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถทำได้ทั้งในรุ่น Type I Type II และ Type III โดยรถคันล่าสุดที่ถูกเลือกคือ Micro Bus ที่มาพร้อม 21 หน้าต่างอย่าง T1 ‘Samba Bus’ รุ่นปี 1966 ซึ่งถูกเปลี่ยนขุมพลังขับเคลื่อนรวมถึงปรับงานดีไซน์ใหม่ให้กลายเป็นส่วนผสมที่ตัวระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับดีไซน์ไอคอนนิก eClassics ต้องการแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สูญเสียความคลาสสิกของดีไซน์ดั้งเดิมของ Samba Bus ไป e-BULLI จึงมาในสีดั้งเดิมคือสีส้ม ทองและสีครีม ส่วนที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือชุดไฟหน้า LED ทรงกลมและไฟ Day Light LED ในส่วนตัวถังถูก Re-Design ใหม่ทั้งหมดโดยเพลาหน้าและเพลาหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ซึ่งจะส่งพลังขับเคลื่อนไปที่ล้อหลัง ด้านขุมพลัง e-BULLI
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกรวมถึงลดทอนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทำให้มีอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ จากยอดขายที่ลดลงและการสั่งหยุดการผลิตของโรงงานกลุ่มประเทศเสี่ยง อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก ยังมีค่ายผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากที่แสดงความต้องการชัดเจนว่าพร้อมเปลี่ยนโรงงานของตัวเองให้กลายเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้สนับสนุนและช่วยเหลือทีมแพทย์ในการต่อสู้กับโรคร้ายหากสถานการณ์ต่าง ๆ เลวร้ายขึ้น มาดูกันว่ามีค่ายรถไหนบ้างที่พร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือในครั้งนี้ เริ่มกันที่อิตาลีหนึ่งในประเทศที่มีสถานการณ์น่าเป็นห่วงที่สุด การแพร่ระบาดในอิตาลีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาไม่สามารถกักตัวผู้คนก่อนจะเกิดการอพยพได้รวมถึงการดำเนินงานที่ล่าช้าของภาครัฐ รู้ตัวอีกทีการระบาดก็กระจายไปทั่วประเทศ รัฐทำได้เพียงควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายแต่ประชาชนยังคงติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น นั่นทำให้โรงพยาบาลส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือ ขาดแคลนอุปกรณ์ทั้งเตียงและเครื่องช่วยหายใจ จนทำให้ Siare Engineering บริษัทผลิตเครื่องช่วยหายใจเบอร์หนึ่งของอิตาลีให้รับการขอร้องจากรัฐบาลให้เพิ่มกำลังการผลิตจากเดือนละ 160 ตัวเป็น 500 ตัวซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายหากจะผลิตด้วยโรงงานเดิม Siare Engineering ได้ติดต่อพูดคุยกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอิตาลีไม่ว่าจะเป็น Ferrari Fiat และ Chrysler และพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปว่า การช่วยเหลือในครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 วิธีด้วยกัน วิธีแรกคือให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมดช่วยเหลือในการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องช่วยหายใจเพราะส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญการผลิตอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้ว อีกทางหนึ่งคือให้ Ferrari หรือ Fiat ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไปดูงานที่โรงงานผลิตเครื่องช่วยหายใจของ Siare Engineering เพื่อสนับสนุนการผลิตรวมถึงศึกษาแบบเครื่องช่วยหายใจและนำกลับไปผลิตที่โรงงานของตัวเอง โดยเหตุผลที่รัฐบาลอิตาลีข้อความร่วมมือการองค์กรเหล่านี้เพราะรู้ดีว่าค่ายผู้ผลิตรถยนต์มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์ครั้งละมาก ๆ รวมถึงสามารถขอซื้อวัสดุหลายประเภทได้ในราคาถูกกว่าภาครัฐ ซึ่งต้องรอข่าวยืนยันการเริ่มผลิตอีกครั้ง ข้ามมาดูสถานการณ์ในฝั่งสหรัฐอเมริกาแม้จะประกาศปิดประเทศแล้วแต่ยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ประมาณ 26,000 คนและเสียชีวิตแล้ว 178 คน จนทำให้หลายฝ่ายเริ่มตื่นตัวไม่เว้นแม้แต่
สมองสั่งการให้สายตาของเราจับจ้องไปที่มันทุกครั้ง ประสาทสัมผัสของเรารับรู้และบอกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ Harley-Davidson เสียงที่กระหึ่ม ดุดัน เร้าใจของเครื่องยนต์ V-Twin ข้อเหวี่ยงวางที่ตำแหน่ง 45 องศา กับรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม โดดเด่นและท่านั่งขับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson คือรถในฝันของผู้ชายหลายคนที่ต้องการครอบครองสักครั้งในชีวิต เชื่อว่าหลายคนประทับใจภาพยนตร์ซีรีส์ในตำนานที่ว่าด้วยเรื่องราวแก๊งอาชญากรนักบิดนอกกฎหมายที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson เป็นพาหนะคู่ใจ อย่างเรื่อง “Sons Of Anarchy” แม้ว่าตัวหนังจะจบลงไปแล้วในซีซันที่ 7 แต่นอกจากเรื่องราวของหนังที่สนุกเข้มข้นแล้ว สิ่งที่โดดเด่นและอาจจะผิดมากหากเราไม่กล่าวถึงมันก็คือรถมอเตอร์ไซค์ของตัวละครหลักในเรื่อง โอกาสนี้ UNLOCKMEN จะพาไปดูรถมอเตอร์ไซค์ที่ตัวละครหลักในเรื่องแต่ละคนใช้เป็นยานพาหนะคู่ใจ Clay Morrow หัวหน้าแก๊งหรือประธานของคลับ Sons of Anarchy Motorcycle Club, Redwood Original (เรียกอย่างย่อให้เข้าใจได้ว่า SAMCRO) Clay เป็น 1 ใน 9 สมาชิกดั้งเดิมของคลับ ก่อนตำแหน่งประธานคลับจะถูกแทนที่ด้วยลูกเลี้ยงเขาในภายหลัง สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนคือสิงห์นักบิดระดับหัวหน้าแก๊งในเรื่องคนนี้คือมือสมัครเล่นในชีวิตจริง เพราะ Ron Perlman เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนในชีวิตจนกระทั่งมาแสดงในหนังเรื่องนี้ Clay’s Bike
ช่วงนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องปากท้องก็ไม่มีเรื่องไหนสำคัญกว่าอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป ลองคิดเล่น ๆ ดูว่าสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเน็ตโดนตัดกันทั้งประเทศ เราคงจะหูหนวก ตาบอด มีอาการกึ่งอัมพาตทางความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมกันไปทันที เพื่อไม่ให้เจอวิกฤตชะงักทั้งความบันเทิง การทำงานและข้อมูลข่าวสารระหว่างที่ทุกคนยังอยู่บ้าน UNLOCKMEN ขอแบ่งวิธีปลดสัญญาณ WiFi บ้านที่อุดตันหรือเฉื่อยไม่ทันการฉบับเบื้องต้นให้เราสามารถทดลองทำง่าย ๆ เพื่อรักษาความสุขไว้อยู่กับตัวได้นาน ๆ ด้วย 6 วิธีต่อไปนี้ 1. เปลี่ยนตำแหน่ง Router ถ้าสัญญาณเดิมไม่เร้าใจ เน็ตจะเร็วหรือช้าเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือตำแหน่งการวาง Router ที่บางครั้งอาจจะมีอะไรมาขวางหรือเป็นมุมอับ บางที่อาจจะวางไว้ชั้นล่าง หรือมุมต่าง ๆ เพื่อให้ดูไม่เกะกะสายตา ทั้งที่บริเวณใช้งานจริงกับตำแหน่งอุปกรณ์อยู่ห่างกันเหลือเกิน ดังนั้นถ้าเช็กสปีดเน็ตยังดีแต่สัญญาณห่วยแตก แนะนำให้ Router มาไว้ใจกลางบ้านเพื่อกระจายสัญญาณอย่างทั่วถึง จำไว้เสมอว่าการเปลี่ยนตำแหน่ง Router เพียงแค่ย้ายออกจากตู้หรือหลังทีวีก็มากพอสำหรับการเพิ่ม bandwidth ให้เพียงพอต่อความต้องการ แถมการติดตั้ง Router บางประเภทยังสามารถติดตั้งที่ผนังเพิ่มคุณภาพสัญญาณให้ดีขึ้นได้ 2. รู้หลักการเชื่อมสัญญาณ คนอยู่บ้านส่วนใหญ่ก็มี WiFi ใช้งาน ส่วนมือถือเองก็มีสัญญาณ 4G ให้ใช้ ดังนั้น หากอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟนของคุณสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดจำนวน ให้ล็อกสมาร์ตโฟนเครื่องโปรดกับเน็ตเครือข่ายมือถือไว้แน่น
คงไม่แปลกถ้าการใช้ชีวิตท่ามกลางยุคที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดเฉกเช่นตอนนี้ ทำให้ผู้ชายหลายคนรู้สึกหดหู่และสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก หันไปมองถนนหนทางก็เงียบสงัด ร้านค้าร้านอาหารไร้ผู้คน แถมยังมีบรรยากาศรอบตัวเงียบเหงาพาให้ใจหวาดหวั่นยิ่งกว่าเดิม หนุ่มบางคนใช้ซีรีส์เรื่องโปรดในเน็ตฟลิกซ์เป็นตัวช่วยทุเลาความเครียด บ้างอุดสองรูหูด้วยเสียงดนตรีหวังผ่อนคลายจิตใจ แต่ถ้าลองทำสองวิธีนี้แล้วยังไม่ได้ผล แถมอยู่บ้านเฉย ๆ นับวันก็ยิ่งเบื่อ หมดหวัง และไม่รู้จะทำอะไรดี UNLOCKMEN ขอชวนคุณมาจัดทริป Virtual Tours เดินชมผลงานศิลปะเจ๋ง ๆ ในแกลเลอรีและพิพิธภัณฑ์ระดับโลก พร้อมเรียนศิลปะฟรีผ่านโลกออนไลน์ได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องก้าวเท้าออกไปไหน ทั้งยังจรรโลงจิตใจในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ได้เป็นอย่างดี “เพราะศิลปะจรรโลงใจมนุษย์ได้เสมอ” ศิลปะเป็นศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดอีกแขนงหนึ่งของโลกที่แตกแขนงแยกย่อยได้หลากสาขา และการใช้ศิลปะช่วยประคับประคองจิตใจมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ถ้าย้อนไปในอดีตจะรู้ว่าศิลปะกำเนิดขึ้นเนิ่นนานแล้ว นับเป็นผลผลิตของศิลปินที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิด ตัวตน และแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานของพวกเขา ศิลปะเคยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนหิ้งและสงวนไว้แด่ชนชั้นสูง เคยเป็นเครื่องมือระบายระบอบอยุติธรรม ตีแผ่ความแออัดยัดเยียด และเสียดสีตบหน้าความร้ายกาจคนในของสังคม แต่อีกด้านหนึ่งศิลปะคือสีสันที่ช่วยจรรโลงจิตใจมนุษย์และยังคงเป็นเช่นนั้นจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยที่มนุษย์ปราศจากความหวัง พ่ายแพ้หมดรูป และหมดสิ้นกำลังจะเดินต่อ ศิลปะเข้ามาช่วยค้ำจุนและพยุงมวลมนุษย์ให้อยู่ในร่องในรอยได้เสมอ อาจเป็นภาพถ่ายที่ทำให้ฉุกคิด จิตรกรรมฝาผนังแฝงนัยต่างยุค โคลงกวีที่ซ่อนวลีกินใจ หรือแม้แต่ภาพวาดศิลปะทั่วไปที่เรารู้จักดี เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองและเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่ทันสมัยขึ้น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากลายเป็นเครื่องมือเปิดโอกาสให้คนได้เสพงานศิลปะ ท่องโลกอินเทอร์เน็ตไปชมผลงานเจ๋ง ๆ ทั่วมุมโลก รวมทั้งเรียนศิลปะผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ แม้ไม่ต้องออกไปไหน เดินชมงานศิลปะเสมือนจริงด้วย Google Arts
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังเสาะหานาฬิกาเรือนใหม่ให้กับตัวเอง ถ้าคุณเป็นแฟนเดนตายของแบรนด์รถยนต์อย่าง Porsche โดยเฉพาะโมเดล 911 เราโคตรจะมั่นใจว่าเรือนเวลารุ่นล่าสุดจาก Porsche Design อย่าง 1919 Chronotimer Flyback ที่มาในโทนสีน้ำเงินเข้มรุ่นนี้คือคำตอบที่ตรงความต้องการอย่างแน่นอน ปี 2018 Porsche Design เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในชื่อ 1919 Chronotimer Flyback เป็นครั้งแรกซึ่งเปิดตัวพร้อมหน้าปัดและสายหนังสีน้ำตาล มาถึงปี 2020 พวกเขาจับนาฬิการุ่นดังกล่าวมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับวัสดุและสีพิเศษที่ใช้ในรถรุ่นเรือธงของค่ายอย่าง 911 1919 Chronotimer Flyback ‘Blue&Leather’ มาพร้อมหน้าปัดขนาด 42 mm ที่มีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ได้รับแรงบันดาลใจออกแบบมาจาก Dashboard ของ 911 ตัวเรือนผลิตจากวัสดุไทเทเนียม 100 เปอร์เซ็นต์ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบากว่าตัวเรือนจากแสตนเลส สตีลถึง 46 เปอร์เซ็นต์ หน้าปัดทำจากวัสดุกระจกแซฟไฟร์คริสตัลสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและอ่านเวลาได้ชัดเจนในที่มีแสงจ้า อีกความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้คือ สายรัดข้อมือที่ทำมาจากหนังลูกวัวชั้นดีพื้นผิวนุ่มสีกรมท่า เก็บรายละเอียดด้วยเส้นด้ายสีเทาซึ่งเป็นหนังแท้ที่ใช้งานเฉพาะในห้องโดยสารของ Porsche 911 เท่านั้น ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากครอบครองเพราะจะได้สัมผัสความพิเศษนี้ทุกวันผ่านการใช้งานนาฬิกาข้อมือ