Bentley สร้างความยิ่งใหญ่ให้ตัวเองด้วยการเป็นเอกลักษณ์แบรนด์รถยนต์หรูหรามายาวนานครบ 100 ปีแล้ว และดูเหมือนพวกเขาจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ แต่มุ่งมั่นวางแผนสำหรับก้าวต่อไปในอีก 100 ปีข้างหน้าที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์รถยนต์ฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษของพวกเขาในชื่อ Bentley EXP 100 GT นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1919 ในที่สุดค่ายรถยนต์สายพันธุ์ Luxury สัญชาติอังกฤษอย่าง Bentley ก็มีอายุครบหนึ่งร้อยปี ซึ่งพวกเขาก็ฉลองวาระสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยคอนเซ็ปต์รถยนต์ Gran Tourer แห่งยุคอนาคตที่ว่ากันว่าเป็นนวัตกรรมและงานออกแบบยานยนต์ของปี 2035 ซึ่งเราจะได้เห็นความหรูหราและผู้ช่วยอัจฉริยะสุดล้ำที่รวมกันไว้ในหนึ่งเดียว Bentley EXP 100 GT Concept คือแนวคิด EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ค่ายรถยนต์สัญชาติอังกฤษตั้งใจสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีของอีก 15 ปีข้างหน้า มีดีไซน์สปอร์ตแห่งยุคอนาคตด้วยงานออกแบบของตัวรถที่โค้งมนเข้ากับไฟหน้าทรงกลมที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับส่วนของกระจังหน้าขนาดใหญ่ ส่วนไฟท้ายจะเป็น LED ที่ลากยาวจากด้านนอกเข้ามาบรรจบตรงกลางตัวรถซึ่งมีเป็นโลโก้ พร้อมกับประตูแบบปีกที่ทำให้ออกมาเป็น Gran Tourer ความยาว 19 ฟุตที่มีน้ำหนัก 1,900 กิโลกรัม ดีไซน์ภายในตัวรถเป็นห้องโดยสาร4 ที่นั่งที่ออกแบบมาอย่างล้ำสมัยโดยเบาะโดยสารด้านหลังจะพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบอัจฉริยะที่นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่แล้ว ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของร่างกาย ศรีษะและสายตา รวมไปถึงระดับความดันเลือดในร่างกาย แม้
โลกไร้พรมแดน แต่ภาษาก็ยังเป็นข้อจำกัดสำหรับคนไม่ถนัดเสมอ เราเคยเชื่อว่าโดเรมอนเป็นแค่จินตนาการ แต่ศรัทธาในเจ้าหุ่นยนต์แมวฟ้าก็มาปรากฏในยุคนี้ในที่สุด เพราะหลายอุปกรณ์วิเศษที่เราไม่เคยเชื่อว่ามันจะมีจริง ๆ ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว อย่างชิ้นหนึ่งที่ตอนเด็ก ๆ คิดว่าถ้ามีไว้คงสนุกมากขึ้น แต่พอโตแล้วเริ่มเห็นประโยชน์และอยากให้มีสุด ๆ คงหนีไม่พ้น “วุ้นแปลภาษา” เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษามันเป็นอุปสรรคกับการสื่อสาร การเดินทางและการหาเงินหาทองของเราวันนี้เหลือเกิน จากจินตนาการผ่านลายเส้นของ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ปี 2512 เกี่ยวกับของวิเศษจากโลกอนาคตที่นำมาช่วยเหลือเด็กชายโนบิตะ กลายเป็นความฝันสากลที่มนุษยชาติไล่ตามกันมาเรื่อย ๆ ของวิเศษหลายชิ้นที่ถูกเล่ามาเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้วหลายชิ้นวันนี้กลายเป็นความจริง ไม่เว้นแม้แต่ “เครื่องแปลภาษา” ด้วยเช่นกัน จากเหตุการณ์ราว 2 ปีที่แล้วเราเคยฮือฮาเพราะ iLi (อีลี่) หรือแท่งแปลภาษาที่ผลิตจากบริษัท LOGBAR ประเทศญี่ปุ่น ทำงานเป็นล่ามโดยตรง ใช้งานผ่านการนำไปจ่อปากพูดแล้วเลือกแปลภาษาให้อีกฝ่ายฟัง หรือรับเสียงจากฝ่ายตรงข้ามแล้วนำกลับมาฟังเพื่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับสถานที่ที่ต้องเอาตัวรอด หรือคับขันสุด ๆ แต่ไม่มีอีกฝ่ายให้พูดคุยด้วยล่ะจะทำอย่างไร? ถ้ามีตัวอักษรแปลกอยู่เต็มไปหมด เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน Google Translate ที่สามารถติดตั้งลงเครื่องเลย และปัจจุบันเขาพัฒนาให้มันสามารถรองรับการใช้งานภาษาไทยแล้วด้วย! ซึ่งจากการอัปเดตครั้งล่าสุด Google ได้ใช้เทคโนโลยี Neural