“ร้านเขาอ่านว่า ‘สยามมิส’ เมื่อกี้มึงอ่านผิด” ขณะยืนเถียงระหว่างชี้ทางใน Google Maps กับเพื่อน AE ที่มาด้วยกันในวันนี้ เราทั้งคู่ก็เดินมาถึงหน้าร้าน Siamese Cocktail & Gallery ในสุขุมวิท 58 แบบไม่รู้ตัว วันนี้เราตามหาบาร์เทนเดอร์ของร้านเพราะมีทีเด็ดที่หลายคนบอกให้มาลอง นั่นคือเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่สร้างสรรค์จาก Jameson Black Barrel และวัตถุดิบจากหลายภูมิภาคของไทย แถมยังเป็นการเสิร์ฟแบบ Pairing อาหารที่ช่วงส่งเสริมทั้งกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมและแตกต่าง เล่าขานกันขนาดนี้ มีหรือที่เราจะพลาดได้ คอลัมน์ ManCave ในครั้งนี้ เราขอเสนอเรื่องราวของ Hand-selected Whiskeys ที่กลมกล่อมเพราะความพิถีพิถันใส่ใจซึ่งเป็น Herritage ของแบรนด์มาโดยตลอด ผ่านประสบการณ์จากบาร์ชื่อ Siamese Cocktail & Gallery ที่นำความเป็นค็อกเทลไทยมาเจอกับความเป็น Irish Whiskey ได้อย่างลงตัว แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น สิ่งที่ทุกคนต้องรู้ก่อนว่า คอนเซปต์ของบาร์แห่งนี้เขานิยามตัวเองเอาไว้ 2 คำ ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกเล่าความเป็นไทยของร้านเอาไว้ทั้งหมดแล้ว นั่นคือ ‘Thai Drink
MANCAVE คราวนี้ ขอเปิด Maps พิกัดชิลล์รับ New Year ใจกลางกรุงฯ แบบไม่ต้องเดินทางไกล กับ BACCARAT BANGKOK บาร์แห่งใหม่สุดเย้ายวน ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในโรงแรม The Davis Bangkok ย่านสุขุมวิท 24 บอกเลยว่าที่นี่โดดเด่นด้วยเสน่ห์ที่แค่เยื้องย่างเข้ามาด้านในก็สัมผัสได้กับบรรยากาศเรียบหรู สะดุดตาด้วยลูกเล่นของเฉดสีแดงสุดไอคอนิก ตัดกับเครื่องแก้วชั้นเลิศและโซฟาหลากสีสันในโทนสีกรมท่า เขียว และเหลือง เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นด้วยแสงไฟสลัวจากเชิงเทียน และเตาผิงเสมือนจริงที่สื่ออารมณ์ครบถ้วนทั้งภาพเปลวไฟโชติช่วง และเสียงของไม้ที่ถูกเผาในเตาผิง ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในบาร์ที่นิวยอร์ก นอกจากนี้ BACCARAT BANGKOK ยังเป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย พร้อมร่วมวงสนทนากับกลุ่มเพื่อนและจิบค็อกเทลที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน เคล้าคลอด้วยเพลย์ลิสต์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีในสไตล์เพลง R&B, Afro Latin และ House พาทุกคนเริ่มต้นด้วยบีทเบา ๆ เพิ่มความผ่อนคลายหลังจากเลิกงาน ก่อนที่เมโลดี้ดนตรีจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นจังหวะสนุกเร้าใจให้ทุกคนพร้อมออกเสต็ปปล่อยจอยปล่อยใจให้เต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนจะมีชีวิตชีวาในพื้นที่แห่งนี้ สำหรับเครื่องดื่มที่ห้ามพลาด เราขอแนะนำไฮไลต์เมนูค็อกเทล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกมการ์ดสุดไอคอนิกระดับตำนาน อย่าง BACCARAT นำเสนอการผสมผสานที่สนุกสนานและถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประยุกต์เครื่องดื่มแต่ละแก้วให้เป็นเหมือนการเดินทางผจญภัยอันรื่นรมย์จากรสชาติ ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลองประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน เอาเป็นว่าใครขี้เกียจเดินทางไกล
ถ้าให้นึกถึงของดีฝั่งธนแบบไว ๆ คุณจะคิดถึงอะไร ? ให้เวลาคิด 15 วิ … หมดเวลา ! และไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่ของเรามันคือ P.Sherman The Enjoyable Ground ร้านแฮงเอาต์ของเรากับแก๊งเพื่อน ที่สามารถเริ่มต้นเจอกันตั้งแต่เช้า และปิดวันนั่งจิบเบา ๆ (รึเปล่า) ได้เลย ! บทความที่ชาว UNLOCKMEN กำลังได้อ่านอยู่นี้ ถูกเขียนขึ้นในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันศุกร์ โดย Content Creator ใส่แว่นคนหนึ่งที่ก็กำลังปั่นงานอยู่ในร้านโปรดที่เป็นหัวใจหลักของคอนเทนต์นี้อยู่ นั่นแสดงให้เห็นว่าร้านนี้เหมาะกับการนั่งทำงานด้วยเหมือนกัน และเป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ที่เราจะขอป้ายยาทุกคนในบรรทัดถัดไปกันเลย จาก ‘โรงงานเย็บผ้า’ สู่พื้นที่แห่งความหลากหลายของวัยมันส์ ร้าน P.Sherman The Enjoyable Ground ซ่อนตัวอยู่ในย่านอรุณอมรินทร์ ระบุชัด ๆ เลยคือซอยอรุณอมรินทร์ 39 ในอดีตที่นานมากแล้ว กว่า 10 ปีก่อน ตึกแห่งนี้เคยเป็นโรงงานเย็บผ้ามาก่อน ซึ่งเอาจริง
ขอเข้าเรื่องแบบไม่รีรอ คอนเทนต์นี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำ 3 ร้านกิน ดื่ม ชิล ที่ต้องไปให้ได้ในช่วงเวลาที่ลมหนาวเดือนธันวาคมยังคงอยู่กับประเทศไทย เลื่อนลงไปอ่านแล้วโทรนัดเพื่อนออกมาเลย เพราะลมหนาวใกล้จะไปแล้ว ! Everyday Mookrata & Cafe (Riverside) : ตอนเช้า American Breakfast / ตอนบ่ายเอ็นจอยหมูกระทะ / ตอนกลางคืนจิบเบา ๆ ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “หมูกระทะกินกับอะไรก็อร่อย” ไม่มีอะไรจะถูกต้องไปกว่าคำพูดข้างบนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ยิ่งช่วงท้ายของปีอากาศของลมหนาวพัดผ่านร่างก็ยิ่งตอกย้ำความถูกต้องในความอร่อยของหมูกระทะมากขึ้นไปอีก และไม่มีร้านหมูกระทะไหนจะสไตล์จัดได้เท่ากับ Everyday Mookrata & Cafe (Riverside) ที่เขาเพิ่งเปิดสาขาใหม่เมื่อเดือนธันวาคมนี่เอง โดดเด่นด้วยการเป็นร้าน 3 in 1 เป็นทั้งคาเฟ่ บาร์ ร้านหมูกระทะ แถมยังอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา วิวหลักล้านเห็น Icon Siam อยู่ฝั่งตรงข้าม ให้เราได้มองพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยกัน ข้อดีของ Everyday Mookrata & Cafe
คุณมองเสน่ห์สีสันของ ‘ชีวิตกลางคืน’ (night life) เป็นแบบไหน คือสีของแสงจากเสาไฟที่สาดถนนอันว่างเปล่า สีของไฟแช็คที่จุดขึ้นก่อนถูกกลบอบอวลด้วยควันของบุหรี่ หรือสีของแก้วเหล้าที่ถูกรังสรรค์ส่วนผสมในการชงอย่างดีจากบาร์เทนเดอร์คนโปรด เหตุผลข้อหลังสุดพาเรายืนอยู่หน้าร้าน WYNN WOOD florist studio ในซอยทองหล่อ 61 ร้านซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของ Midsummer Night’s Dream Bar บาร์ค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทละครโศกของ Shakespear ทั้งชื่อเดียวกัน การตกแต่ง ไปจนถึงเครื่องดื่มที่ถูกคิดสูตรมาอย่างดี เรานัดเจอกับ ‘ออย-วรีวรรณ ยอดกมล’ ผู้เป็น Bar Manager ของที่นี่ และเธอเพิ่งได้รับคำพ่วงชื่อต่อท้ายอันใหม่ด้วยคำว่า ‘คนไทยคนแรกที่สามารถเข้ารอบ 2 ของการแข่งขัน Hennessy My Way ปี 2022’ ก่อนที่จะได้แข่งชงค็อกเทลกับบาร์เทนเดอร์ฝีมือฉกาจ 400-500 คนจากทั่วทุกมุมโลกใน Hennessy My Way 2022 คุณออยเป็นบาร์เทนเดอร์มากว่า 15 ปีแล้ว เธอหลงใหลในชีวิตกลางคืน
3 สิ่งที่นึกถึง เมื่อคุยกับเพื่อนเรื่องนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Haruki Murakami ก็คือ (1) บุหรี่ (2) แมว และ (3) เพลงแจ๊ซ โดยอย่างหลังน่าจะเป็นภาพจำที่ฝังอยู่ในหัวของใครหลาย ๆ คนมากที่สุด ทุกครั้งที่อ่านงานของเขา เราจะต้องได้ยินเสียงของเพลงแจ๊ซลอดออกมาจากตัวอักษรเสมอ และแน่นอนว่า ความสามารถในการเขียนพรรณาถึงความสุนทรีย์ในเพลงแจ๊ซของมูราคามิเกิดจากประสบการณ์ตรง ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเปิดบาร์แจ๊ซจริง ๆ มาก่อน และนั่นคือ 4 ปีก่อนหน้าช่วงเวลาของการเริ่มเขียนนิยายเล่มแรก เราจะลงเข็มไวนิลชีวิต ย้อนกลับไปที่ร่องแรกของมูราคามิกัน จุดเริ่มต้นของบาร์แมว ฮารูกิ มูราคามิ เป็นคนที่เกลียดการทำงานเป็นพนักงานบริษัทมาก ซึ่งความคิดนี้เป็นชนวนเล็ก ๆ อันนำไปสู่ไอเดียของการอยากมีร้านที่ผู้คนสามารถมาชิล กิน ดื่ม และแน่นอนฟังเพลงแจ๊ซกัน โดยที่ไม่ได้เป็นผลดีต่อลูกค้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่ร้านจะเป็นผลดีต่อตัวเขาเอง ที่จะได้ทำงานพร้อมซึ่งสามารถฟังเพลงแจ๊ซ ที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่อายุ 15 ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน ปี 1974 หลังจากทำงานอย่างหนักหน่วงตลอด 3 ปีเพื่อสร้างร้านแห่งความฝัน เขากับภรรยา (ที่พบและแต่งงานกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย) ก็นำเงินเก็บทั้งหมดที่มีเปิดร้านเล็ก ๆ ที่เป็นคาเฟ่ในช่วงเช้า และเป็นบาร์ในตอนกลางคืนชื่อ
อากาศดี ๆ ลมเย็นพัดสบายแบบนี้ เป็นโอกาสดี ๆ ที่จะพาสาว ๆ ไปดื่มด่ำบรรยากาศ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ชมพระอาทิตย์ตก มองดูแสงสีของเมืองในบรรยากาศ Rooftop วันนี้ UNLOCKMEN จึงได้รวบรวมสถานที่ Rooftop Bar ที่เราชื่นชอบมาแนะนำเป็นไอเดียสำหรับช่วงวันหยุดยาวนี้ 360 – Millennium Hilton Bangkok เหนือจากพื้นขึ้นไป 32 ชั้นที่โรงแรม Millennium Hilton Bangkok คือหนึ่งใน Rooftop Bar ที่มีวิวสวยที่สุดในประเทศไทย เพราะคุณจะสามารถมองเห็นกรุงเทพมหานครทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรีพร้อมกันได้อย่างเต็มตาโดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง และด้วยที่นั่งที่ไล่สโลปลงไปเป็นชั้น ๆ ประกอบการตกแต่งที่เน้นบรรยากาศร่มรื่นเป็นหลัก ทำให้การมา Rooftop Bar แห่งนี้คุณจะรู้สึกเหมือนมาสวนลอยฟ้าซึ่งโดนโอบล้อมด้วยป่าคอนกรีตที่ชื่อ ‘กรุงเทพมหานคร’ นอกจากพระจันทร์เต็มดวงสดสวยที่คุณจะมองเห็นได้เต็มสองตาในคืนลอยกระทงแล้ว ถ้าคุณไปเร็วสักนิด คุณจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่เห็นแล้วยากจะเชื่อว่านี่คือในกรุงเทพฯ หนุ่ม ๆ คนไหนกำลังหาที่พาคนรู้ใจไปเดตอยู่ละก็ รับรองว่าที่ 360 – Millennium Hilton Bangkok จะสร้างบรรยากาศเป็นใจสำหรับคุณได้อย่างแน่นอน Location: ชั้น 31-32
สุดสัปดาห์มาถึง พร้อมบรรยากาศวันลอยกระทงของปี 2020 ที่ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมพอดิบพอดี ถึงหลายปีที่ผ่านมาเราจะออกไปลอยหรือไม่ลอยกระทงบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำนั้นช่วยเยียวยาหัวใจที่เหนื่อยล้าจากการงานมาทั้งสัปดาห์ได้อยู่หมัด โดยเฉพาะคืนลอยกระทงที่พระจันทร์สว่างนวล มีแสงเทียนจากกระทงวิบไหวให้เราได้ผ่อนคลาย อย่ามัวนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ลองดู 5 บาร์ที่เราอยากชวนไปรู้จัก รับรองว่าลมแม่น้ำ แสงจันทร์สะท้อนคลื่น และกลิ่นเฉพาะของเจ้าพระยาจะช่วยปลอบโยนหัวใจและร่างกายแสนเหนื่อยล้าได้แน่นอน Samsara Bar ถ้าจะมีสักพื้นที่ในเมืองหลวงอันวุ่นวายแห่งนี้ที่เป็นเหมือนสถานที่พักใจ สถานที่ที่เวลาเดินช้าลง และทำให้เราได้อยู่กับแต่ละวินาทีตรงหน้าอย่างเต็มอิ่มที่สุด เราขอยกให้ Samsara Bar เป็นหนึ่งในสถานที่นั่น การที่ที่ตั้งบาร์ซ่อนตัวอยู่ในซอกซอยที่ต้องเดินผ่านอู่ซ่อมรถเข้ามา ยิ่งทำให้เหมือนเราได้เดินทางเข้าไปสู่อีกโลก พร้อมกับที่บรรยากาศของ Samsara Bar อยู่ชิดแม่น้ำเจ้าพระยาในระดับที่ได้ยินเสียงคลื่นแม่น้ำซัดฝั่งทุกครั้งที่เรือแล่นผ่าน ชวนให้หัวใจสงบอย่างประหลาด ที่นี่บริการเครื่องดื่มหลายประเภท รวมถึงอาหารที่พอกินแบบหอมปากหอมคอ (ถ้าไม่อิ่ม เดินไปกินต่อที่เยาวราชได้อย่างอิ่มหนำ) ที่สำคัญในร้านมีแมวคอยเดินนวยนาดเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย ใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่เวลาเดินช้าลง ห้ามพลาด Location: 1612 ถนน ทรงวาด แขวง สัมพันธวงศ์ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร Open: 5.00 pm – 12.00 am
เย็นวันศุกร์เวียนมาอีกหน สายชิล สายดื่มที่ทำงานมาทั้งสัปดาห์จะให้นั่งร้านเดิม ๆ ในย่านธุรกิจกลางเมืองก็ดูจะไม่พิเศษเอาเสียเลย UNLOCKMEN อยากชวนคุณออกจากคอมฟอร์ตโซน กระโจนเข้าหาย่านเมืองเก่าที่วันปกติธรรมดาเราคงไม่ได้ปรายตามองบ่อยนัก แต่อย่าลืมว่าเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์มาเยือน ลองไปใช้เวลาอย่างที่อยากใช้ดูก็ไม่เสียหาย ที่สำคัญตอนนี้ MRT ก็พาเราไปเยือนย่านเมืองเก่าง่ายขึ้น ที่สำคัญ 5 บาร์ย่านเมืองเก่าเคล้าบรรยากาศสุดคลาสสิกที่บาร์กลางเมืองอาจให้คุณไม่ได้ มาดื่มด่ำแสงเงา เมามายกับเครื่องดื่มรสชาติยวนใจไปด้วยกัน Buddha & Pals “นางเลิ้ง”นับเป็นย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยของกินรสเด็ดเจ้าเก่าสารพัดร้าน แต่ใครจะรู้ว่ามุมหนึ่งของตึกแถวเก่าแก่ของย่านนี้มี บาร์หนึ่งตั้งอยู่อย่างกลมกลืน Buddha & Pals คือสถานที่ที่กลางวันเป็นคาเฟ่เสิร์ฟชา กาแฟ และขนมรสชาติละมุนลิ้น แต่ทันทีที่ตะวันคล้อยต่ำ ความมืดคืบคลาน เมื่อนั้นเองที่ Buddha & Pals เดียวกันนั้นก็จะแปลงกายเป็นบาร์แสงสลัวที่บรรยากาศคลาสสิกอย่าบอกใคร เสน่ห์ของ Buddha & Pals คือการตั้งอยู่ในตึกแถวโบราณอายุราว 80 ปี ที่ผ่านการเก็บรักษาสภาพบางส่วน และรีโนเวตบางส่วนอย่างลงตัว จากโรงงานผลิตน้ำมันมวยยี่ห้อที่เราคุ้นเคย สู่อาคารที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันน่าหลงใหล สำหรับใครที่ชอบเพลงแจ๊ซ ที่นี่มีดนตรีแจ๊ซบรรเลงสดทุกวันพฤหัส ศุกร์ และเสาร์ ตั้งแต่ 2
สารภาพตามตรงว่าตั้งแต่ Covid-19 เข้ามามีบทบาทในชีวิต ดูเหมือนว่าการพาตัวเองไปดื่มด่ำสุนทรียภาพกลายเป็นเรื่องท้าย ๆ ที่เราแทบใส่ใจ ไหนจะงาน ไหนจะเงิน ไหนจะความสัมพันธ์ คล้ายว่ามีเรื่องสำคัญ ๆ อยู่อีกมากรอให้เราดูแล เดือนก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว จนกระทั่งสี่เดือนกว่าที่เราเคร่งขึงตึงเครียดกับชีวิต จนในที่สุดเราก็ถามตัวเองว่าใจดีกับตัวเองได้บ้างหรือยัง? คิดได้แบบนั้นก็อยากพาตัวเองไปดื่มด่ำบรรยากาศ ผ่อนคลายกับเครื่องดื่มให้ชื่นใจ และสนทนากับใครสักคนในบาร์สักแห่งที่แสงสลัวแปลกตา ราวกับว่าได้หลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริงไปชั่วขณะ Tai Soon Bar คือคำตอบของวันนี้ บาร์แสงสลัวที่เราอยากพาตัวเอง และชาว UNLOCKMEN ไปหลงใหลดื่มด่ำด้วยกัน ตึกรามเก่าแก่ย่านเมืองเก่า คลาคล่ำไปด้วยรถราและร้านอาหารเด็ดเจ้าดังที่ดึงดูดคนจากทั่วสารทิศ สองข้างทางมีผู้คนที่ดั้นด้นมาลิ้มรสของอร่อย นี่คือบรรยากาศของย่านประตูผีที่ใครหลายคนคุ้นเคย แม้บาร์คราฟต์เบียร์แสงสลัวจะดูโดดเด่นออกมาจากสิ่งอื่น ๆ แต่ทันทีที่เราเดินทางมาถึงก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะ Tai Soon Bar ทั้งโดดเด่นแต่ก็กลมกลืนด้วยดีไซน์ที่เจ้าของเลือกรีโนเวตอาคารที่เคยเป็นร้านขายยาจีนเก่าแก่ของตระกูล ที่นี่จึงเต็มไปด้วยโครงสร้างที่ยังคงความเก่าแก่ ความดิบ คู่ไปกับบรรยากาศที่เหมาะแก่การปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคืนค่ำได้อย่างดี “ไท้ซุ่นตึ๊ง” ป้ายชื่อร้านยาเดิมยังตระหง่านอยู่เหนือประตูทางเข้า พร้อมป้าย “Tai Soon Bar” สีแดงสดที่ดึงดูดให้เราเข้าไปค้นหา ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไป กำแพงปูนสึกกร่อนดึงสายตาเราไว้ บางส่วนหลุดลอกเป็นลวดลายเฉพาะ บางส่วนเผยให้เห็นอิฐเก่าสีส้มเรียงตัว เป็นความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้