News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "life"

  • Life
    By: Chaipohn May 3, 2019
    ปวดหลังเรื้อรัง อย่าชะล่าใจ! แพทย์เตือนเสี่ยงโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด

    บ่อยครั้งที่คนวัยทำงานอาจมีอาการปวดหลังแบบไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่ด้วยวิถีการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบ และแข่งขันกับเวลาในการทำงานมากขึ้น ต้องนั่งติดหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จนอาจละเลยการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเหมาะสม และมองอาการปวดหลังเป็นเพียงอาการหนึ่งของออฟฟิศซินโดรมเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงนั้นอาการปวดหลังยังสามารถส่งสัญญาณได้อีกหลากหลายโรค โดยเฉพาะโรคที่คนส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นเคย หรืออาจไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อมาก่อนเลย เช่น โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (Ankylosing spondylitis) ศ. นพ. วรวิทย์ เลาห์เรณู อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติสซั่ม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด เป็นโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบเรื้อรังที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาพบว่าโรคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม โดยพบว่าผู้ที่มีการตรวจพบสารพันธุกรรม HLA B27 ก็จะถือว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึดมากกว่าคนทั่วไป และจะมีอัตราเสี่ยงมากยิ่งขึ้นหากว่ามีบุคคลในครอบครัวหรือญาติสนิทมีประวัติป่วยในโรคนี้มาก่อน ทั้งนี้โรคดังกล่าวมีแนวโน้มที่มักพบได้บ่อยในเพศชายมากกว่าเพศหญิงสูงถึง 10 เท่า ซึ่งผู้ป่วยมักจะเริ่มมีอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะอาการปวดหลังบริเวณเอวหรือกระดูกก้นกบ ช่วงอายุที่เริ่มมีอาการจะอยู่ระหว่าง 20-30 ปี หากว่าผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่ล่าช้า หรือรับการรักษาไม่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดความพิการหรือทุพลภาพอย่างรุนแรงตามมาได้ สิ่งสำคัญที่ควรเริ่มสังเกตและตรวจสอบตนเอง คือ อาการปวดหลังหรือรู้สึกหลังตึงขัดเรื้อรังที่นานเกิน 3 เดือน ขึ้นไป โดยที่ไม่เคยได้รับอุบัติเหตุใดๆ บริเวณหลังมาก่อน อาการปวดมักจะเริ่มปวดที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว โดยจะรู้สึกปวดหรือรู้สึกหลังตึงขัดมากในช่วงเวลาของการนอน ซึ่งในบางรายอาจมีอาการปวดรุนแรงมากจนต้องตื่นกลางดึกและไม่สามารถนอนต่อได้ แต่เมื่อภายหลังการตื่นนอนในช่วงเช้าและเริ่มขยับตัวทำงาน อาการปวดกลับค่อยๆ ทุเลาลงจนสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

  • Life
    By: unlockmen April 29, 2019
    บันทึกการเดินทางผ่านรูปถ่าย JEFF LUKER ผู้ตัดสินใจแบกกล้องตะลอนทั่วอเมริกา

    คอลเลกชันภาพถ่ายชุดนี้เป็นฝีมือของ Jeff Luker ช่างภาพชาวอเมริกันที่เติบโตมาจากฟาร์มเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของรัฐ  Massachusetts โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตวัยเด็กของเขาที่เงียบสงบ โลดแล่นอยู่ในอ้อมกอดแห่งธรรมชาติ แตกต่างจากชีวิตปัจจุบันที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง Boston New York และ Portland เขาอยากกลับไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้นอีกครั้ง จึงตัดสินใจสะพายกล้องออกเดินทางไปทั่วแผ่นดินอเมริกา พร้อมความตั้งใจที่อยากจะบันทึกทุกอย่างที่เขาเห็นออกมาเป็นรูปถ่าย “ผมชอบความรู้สึกที่ตัวเองอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ผมไม่รู้จัก…มีคาวบอยออกมาร่ายเวทมนตร์ในถนนที่โดดเดี่ยว” – Jeff Luker นี่คือการเดินทางของ Jeff ที่เขาบันทึกมันมาในรูปแบบภาพถ่าย เชื่อว่าใครหลายคนรวมถึงเราด้วยหลังจากได้ดูรูปพวกนี้แล้วคงรู้สึกว่าห้องที่อยู่มันเล็กเกินไป อยากสะพายกล้องออกท่องโลกแบบนี้บ้าง เป็นคอลเลกชันภาพถ่ายที่สร้างแรงบันดาลใจได้มหาศาล แล้วเจอกันเมื่อพร้อมนะ…โลกที่เรายังไม่รู้จักดี SOURCE1

  • Life
    By: Chaipohn April 26, 2019
    ฟังเพลงให้งานเดิน ต้องเข้าใจว่าดนตรีตอนไหนมีผลอย่างไรกับสมอง

    ร้อยทั้งร้อยคนทำงาน ต้องผ่านการฟังเพลงขณะทำงานกันมาแล้ว แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าเหตุใดบางครั้งฟังเพลงไป ทำงานไป แล้วได้งานดีเหลือเกิน แต่ในบางทีฟังเพลงไป ทำงานไปเหมือนเดิม แต่งานไม่เกิด ไอเดียไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที ทำให้หลายคนโต้เถียงกันว่าสรุปแล้วฟังเพลงทำงานเป็นผลดีหรือแย่ลงกว่าเดิม แน่นอนว่าทุกการโต้เถียงย่อมมีวิทยาศาสตร์เป็นกรรมการคอยตัดสิน เรื่องดนตรีกับการทำงานก็เช่นกัน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า ฟังเพลงในสถานการณ์ไหน มีผลกับสมองตอนทำงานอย่างไร และเราควรจะฟังเพลงยังไงให้งานวิ่งฉิว นึกภาพว่าเรากำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศตามปกติ นึกภาพสิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีทั้งวันที่มีเสียงรบกวนจากเพื่อนร่วมงาน นึกภาพโจทย์งานที่ได้รับในแต่ละวัน แล้วดูไปด้วยกันทีละสถานการณ์ว่าก่อนจะกด Play ฟังเพลงให้ได้ประโยชน์สูงสุดในแต่ละสถานการณ์นั้นต้องทำอย่างไร ต้องใช้สมองคิดไอเดีย วิเคราะห์ แยกแยะ -> ปิดเพลง ในการทำงานที่ต้องใช้สมองหนัก ๆ สำหรับคิดงาน ต้องจดจำรายละเอียดต่าง ๆ หรือต้องเรียนรู้ Instruction สำคัญ ๆ ซึ่งสมองต้องตั้งใจและใช้พลังงานในการทำงานมากอยู่แล้ว การฟังเพลงไปด้วยจะยิ่งทำให้สมองต้องแบ่งพลังงานมาใช้ในการประมวลผลดนตรีอีก ซึ่งการทำงานที่ Multitasking มากเกินไปของสมองจะทำให้มันจดจำได้ไม่ดีอย่างที่ควร หรือคิดงานได้ไม่เฉียบขาดเพราะมีรายละเอียดบางอย่างหลุดหายไป แบบที่เราต้องอ่านโจทย์วนไปวนมานั่นแหละ เมื่อมี Instruction เข้ามาที่สมองมากไป ทำให้มันจดจำรายละเอียดที่ไม่สำคัญมาแทนบ้าง หรือจำสลับกันบ้าง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดเมื่อเราต้องทำงานที่ใช้สมองหนัก ๆ คือใส่หูฟังได้ แต่อย่าเพิ่งกด Play เลยจะดีกว่า ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทนที่

  • Life
    By: unlockmen April 25, 2019
    HIGH ON MARS: ถ้ามนุษย์ต้องย้ายถิ่น จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราดูดกัญชาบนดาวอังคาร?

    กว่าศตวรรษที่มนุษย์โลกเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับการหาแหล่งที่อยู่ใหม่เพื่อหลบหนีออกจากดาวเคราะห์ดวงนี้ที่ดูใกล้ล่มสลายลงไปทุกวัน สถานที่ที่เป็นไปได้มากที่สุดก็หนีไม่พ้นดาวเคราะห์สีส้มบ้านใกล้เรือนเคียงของเราอย่าง ‘ดาวอังคาร’   หลังจากนั้นทุกฝ่ายต่างก็ทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้ความฝันของมนุษยชาติเป็นจริงโดยเร็ว เมื่อเวลาเคลื่อนผ่านไป จากความฝันที่ไกลสุดเอื้อมก็เริ่มขยับเข้าใกล้ความจริงขึ้นทุกที จากคำถามว่าจะทำยังไงให้สามารถมีชีวิตรอดบนดาวอังคาร การถกเถียงต่าง ๆ ก็เริ่มเจาะประเด็นลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ จะเป็นยังไงถ้าเราเสพกัญชาบนดาวอังคาร? ฟังดูเป็นคำถามที่ไร้สาระ ถึงแม้การสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารดูจะมีความเป็นไปได้กว่าเมื่อก่อนมาก แต่มันก็ยังห่างไกลความเป็นจริง ยากที่จะเกิดขึ้นในช่วงอายุเรา อย่างไรก็ตาม Elon Musk ผู้ก่อตั้ง SpaceX ดูจะชื่นชอบคำถามนี้ เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าเขาคือสายเขียวตัวยง Shelhamer อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัยของมนุษย์ที่ศูนย์อวกาศจอห์นสันในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส กล่าวว่า “การสร้างอาณานิคมเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และสำคัญ ผมไม่เห็นประโยชน์ของการทำให้ร่างกายตอบสนองผิดเพี้ยน ซึ่งอาจส่งผลเสียมหาศาลในสถานการณ์ฉุกเฉิน” Neil deGrasse นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดังก็คิดเห็นไปในทางเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องเข้าท่าเลยที่จะสูบกัญชาบนดาวอังคาร ถึงแม้ในมุมของนักวิชาการจะมองว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่ในมุมของผู้ที่ตั้งใจจะตั้งถิ่นฐานจริง ๆ พวกเขาอาจผลักดันให้มีการขนส่งกัญชาไปยังดาวอังคารเพื่อประโยชน์ในแง่การสันทนาการหรืออาจมีการแอบลักลอบนำเมล็ดไปปลูก Karin Kloosterman ผู้ก่อตั้ง Mars Farm Odyssey อธิบายว่าการปลูกกัญชาบนดาวอังคารนั้นง่ายกว่าการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ดังนั้นกัญชาจึงอาจจำเป็นต่อการสันทนาการผู้ตั้งถิ่นฐานในช่วงแรก เราสามารถปลูกกัญชาบนดาวอังคารได้หรือไม่? เมื่อคุณตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารแล้ว ตัดเรื่องการขนส่งสินค้าจากโลกไปได้เลย เพราะราคาค่าขนส่งคงแพงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นถ้าต้องการอะไรคุณต้องสร้างมันขึ้นมาเอง แม้กระทั่งกัญชา แต่ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์หรือสารคดีมาบ้างคงทราบดีว่าสภาพภูมิศาสตร์บนดาวอังคารนั้นเป็นอุปสรรคต่อการทำเกษตรกรรมทุกรูปแบบ ดังนั้นถ้าจะเพาะปลูกกัญชาที่นี่ จำเป็นที่ต้องทำในเรือนกระจกแบบปิดที่สร้างบรรยากาศเลียนแบบโลก นอกจากนั้นต้องมีระบบรีไซเคิลน้ำและดินที่สมบูรณ์ เนื่องจากในตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าทรัพยากรเหล่านี้บนดาวอังคารปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์หรือไม่ อย่างไรก็ตามแม้จะมีเรือนกระจกที่จำลองบรรยากาศบนโลกได้อย่างสมบูรณ์ แต่เรื่องแรงโน้มถ่วงจำลองเป็นสิ่งที่เรายังสร้างไม่ได้

  • Life
    By: unlockmen April 25, 2019
    สมองคุณกำลังคิดอะไร เลิกสงสัยเมื่อนักวิจัยคิดค้นนวัตกรรมทำให้สมองพูดได้สำเร็จ

    หายใจได้แต่ทำได้แค่หายใจ รู้สึกแต่ทำได้แค่รู้สึก ไม่สามารถสื่อสารหรือขยับตัวได้ เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่ง เราบังเอิญไปเจออุบัติเหตุหรือเจอโรคจู่โจมร่างกายจนระบบประสาทโดนทำลายจะเป็นอย่างไร? ใครที่เคยอ่านหนังสือเรื่องนักประดาน้ำและผีเสื้อ เรื่องจริงของอดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร ELLE แห่งฝรั่งเศสที่เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตกกลายเป็นอัมพาตทั้งตัว อวัยวะทุกส่วนไม่สามารถเคลื่อนไหว นอกจากตาข้างซ้ายและสมองที่เป็นปกติ เขาจึงใช้วิธีกระพริบตาส่งเป็นสัญญาณสะกดตัวอักษรทีละตัวเพื่อสื่อสารและเขียนหนังสือ หรือรู้จักนักฟิสิกส์ระดับตำนานอย่างสตีเฟน ฮอว์กิ้ง ที่ป่วยเป็นโรคเซลล์ประสาทนำคำสั่งเสื่อม คงพอเข้าใจว่าเวลาที่จิตและสมองไม่สามารถสั่งกายได้อีกต่อไปเพราะอาการอัมพาตนั้น ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกในฐานะความเป็นมนุษย์จะเสื่อมไปด้วย ต้องต่อสู้กับสภาพที่น่าอึดอัดนี้มากแค่ไหน เมื่อการสื่อสารที่เคยดีกลายเป็นอุปสรรคและผู้คนที่อยู่ในสภาพนั้นต่างโดนเรียกว่า “ผัก” นักวิจัยด้านระบบประสาทจากรุ่นสู่รุ่นเลยพยายามแก้ไขปัญหานี้เพื่อหาวิธีการสื่อสารให้ดีกว่ารูปแบบเดิม ๆ และชัดเจนยิ่งขึ้น จนล่าสุดข่าวที่น่ายินดีก็มาถึง เพราะนักวิจัยจาก University of California, San Francisco (UCSF) สามารถพัฒนารูปแบบการสื่อสารจากสมอง แปรให้ออกมาเป็นเสียงสังเคราะห์โดยไม่ต้องต้องขยับปากพูดเพื่อสื่อสารให้สำเร็จ เสียงที่มาจากสมอง วิธีที่นักวิจัย UCSF พัฒนาสร้างนวัตกรรมทำให้สมองเปล่งเสียงออกมา เริ่มต้นจากสร้างอัลกอริทึมผ่านการทดลอง โดยรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในสมองของอาสาสมัครที่เป็นลมชัก 5 คนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายปีผ่านการฝังแผงขั้วไฟฟ้าเชื่อมตรงกับสมองและติดตามรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการทดสอบพูดประโยคต่าง ๆ หลายร้อยประโยค เมื่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสมองที่พยายามสื่อสารผ่านการควบคุมประสาทส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการพูดแล้ว (ริมฝีปาก ลิ้น กราม และกล่องเสียง) พวกเขาบันทึกมันไว้เป็นข้อมูลสำหรับใช้ในการถอดรหัสขั้นต้น จากนั้นจึงพัฒนาเครื่องสังเคราะห์เสียงเพื่อสร้างภาษาขึ้นเพื่อแปลงข้อมูลดังกล่าวออกมาเป็นข้อความอีกครั้ง การพัฒนาสองขั้นจากสมองโดยตรงมาสู่การสั่งการที่เชื่อมต่อกับระบบประสาทอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเปล่งเสียง ถือเป็นความพิเศษที่แตกต่างจากรูปแบบการพัฒนาด้านการถอดรหัสเดิม เพราะส่วนใหญ่คนศึกษามักมุ่งเน้นที่ระบบประสาทสั่งการจากสมองโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้สนใจระบบอื่นที่เกี่ยวข้องกับการพูดมากนัก แต่การเปลี่ยนสัญญาณสมองที่ให้ความสำคัญลงลึกไปถึงการเคลื่อนไหวของการสร้างเสียงจากส่วนต่าง ๆ ทำให้การถอดรหัสคำเหล่านั้นชัดเจนขึ้น “เราพยายามถอดรหัสผ่านการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างเสียงอย่างชัดเจนแทนที่จะโฟกัสกับเรื่องการถอดรหัสเสียงโดยตรง” –

  • Girls
    By: unlockmen April 23, 2019
    SUMMER DATE GUIDE: เดตกับสาวช่วงฤดูร้อนนั้นไม่ง่าย แต่ทำได้ด้วย 5 วิธีต่อไปนี้

    หายใจไม่ทั่วท้อง ตื่นเต้นกระวนกระวาย ส่องกระจกซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อพูดถึงอาการเหล่านี้หนุ่ม ๆ คงเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็นก่อนออกเดต โดยเฉพาะเดตกับสาวคนที่เราหลงใหลเธอเป็นพิเศษที่ห้ามมีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบและต้องพกความมั่นใจใส่กระเป๋าไปเต็มที่   แต่เดตไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าเราจะเตรียมตัวไปดีแค่ไหนก็มักจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะการออกเดตในหน้าร้อนที่ทุกอย่างยิ่งยากกว่าเดิม เพราะนอกจากความผิดพลาดที่อาจเกิดจากตัวเราเองแล้ว ยังมีความร้อนที่เปรียบเหมือน ‘ปีศาจสีแดง’ สุดอันตรายคอยมาคอยขัดขวางอีกทาง ปีศาจสีแดงไม่ได้แค่มาพร้อมอุณหภูมิเดือด ๆ เท่านั้น แต่ปีศาจสีแดงยังกวนใจเราในรูปแบบหยดเหงื่อท่วมกาย เรือนร่างเหนียวเหนอะหนะ กลิ่นอับไม่พึงประสงค์ และความไม่สบายตัวจนหัวร้อนตามปีศาจสีแดงได้ง่าย ๆ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามไปได้เพราะมันคือตัวทำลายความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีของผู้ชายอย่างเรา แต่ไม่ต้องห่วงไป วันนี้ UNLOCKMEN มีคัมภีร์ออกเดตในหน้าร้อนมาแนะนำ แม้การออกเดตในช่วงฤดูร้อนจะไม่ง่าย แต่ก็ทำได้ด้วย 5 วิธีต่อไปนี้ รับรองว่าเดตหน้าร้อนหรือปีศาจสีแดงแห่งความร้อนระอุตัวไหนก็ทำอะไรคุณไม่ได้แน่นอน! สุนทรียะมาพร้อมความเย็น ในช่วงอากาศดี เราอาจชวนสาว ๆ ไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง รับแดดอ่อน ๆ แต่เมื่อฤดูร้อนมาถึงและปีศาจสีแดงแห่งความระอุมากวนใจจนเหงื่อไหลท่วม การทำกิจกรรมกลางแจ้งคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่สาว ๆ จะประทับใจ แต่ก็ใช่ว่าเราจะต้องปิดประตูการออกไปเดตข้างนอกแล้วชวนเธอจมปลักอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียว ลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ที่จะทั้งสร้างความตื่นตาตื่นใจและเย็นกายไปด้วยพร้อม ๆ

  • Life
    By: unlockmen April 22, 2019
    HOW TO ENJOY LIFE ใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น แค่มองโลกด้านใหม่ให้ดีกว่าเดิม

    ถามตัวเองว่ากี่เช้าแล้วที่เราลืมตาขึ้นมาเพื่อพบกับโลกใบเก่าและเผชิญการเดินทางบนถนนแสนทรมาน ไหนจะการทำงานสุดหนักหน่วงจนดูดเอาพลังงานทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกายไป และปิดท้ายวันอันเมื่อยล้าเกินทนด้วยการดื่มเพื่อลืมความทุกข์ตรมของชีวิต การพลิกมุมใหม่ในเรื่องเดิม ๆ จึงจะช่วยให้เรามีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น เพราะ Urban Men อย่างเราล้วนแต่ใช้ชีวิตอยู่ในวงจรเก่าซ้ำเดิมไม่จบสิ้น เราใช้เวลาจำนวนมากของแต่ละวันหมดไปความซ้ำซากเพราะเราจมอยู่กับ “มุมมองเดิม ๆ” ในหัวของตัวเราเองเหมือนเดินหลงทางอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก จะดีกว่าไหมถ้าเราพลิกมุมมองด้านลบอันซ้ำซากจำเจที่เราเกลียดแสนเกลียด เพื่อพาตัวเองก้าวเข้าสู่ “มุมมองด้านบวกที่ทำให้ชีวิตสนุกกว่าเดิม” ด้วยการพลิกวิธีคิดใหม่เพื่อเดินทางได้เป็นสุขขึ้น ทำงานได้สุดขีดขึ้นและสนุกกับชีวิตแบบไม่มีข้อจำกัดได้มากขึ้น เพราะชีวิตเราย่อม เลือกได้ แค่พลิกวิธีคิดใหม่ๆ เพื่อใช้ชีวิตให้มีความสุขพุ่งทะยานสู่สิ่งที่แสนสดใส! ไม่ต้องเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่: THOUGHT DISTORTION ตัวการร้ายแห่งความหน่ายเหนื่อย! “ความเข้าใจ” คือกุญแจแรกสู่โลกแห่งความสดใหม่ที่เราฝันถึง เราคงไม่อาจสลัดต้นตอแห่งความคิดลบ ๆ ออกไปได้ ถ้าเราไม่รู้ที่มาของมันแล้วรีบถอนรากถอนโคนให้ถูกจุด และจุดสำคัญที่เราต้องข้องใจให้ไวเพราะมันคือตัวการร้ายที่ทำให้เราไม่สามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ก็คือ “THOUGHT DISTORTION” เพราะจิตใจของเรานั้นฉลาดเกินกว่าที่เราคิด บ่อยครั้งมันจึงชี้นำ บิดเบือน และชักจูงให้เราหลงคิด หลงเชื่อกับสิ่งที่ไม่เป็นความจริงซึ่งเป็นที่มาของวิธีคิดลบ ๆ ซึ่งวนเวียนอยู่ในหัวเรานั่นเอง แต่ถ้าเรารู้เท่าทันมัน เมื่อนั้นไม่ว่าจิตใจเราจะพยายามบิดเบือนเข้าสู่ด้านลบแค่ไหน เราก็ไม่หวั่นกลัว Black and white thinking: Black and white thinking ถือเป็น THOUGHT DISTORTION อย่างหนึ่งที่เรามักหลงคิดว่าบนโลกใบนี้มีแค่สองสี

  • Life
    By: unlockmen April 22, 2019
    ไร้ความสามารถ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ “ภาวะรู้สึกแย่กับตัวเอง”ที่ทำให้คิดว่าเราไม่มีดีเลย

    บ่อยครั้งที่ความไม่มั่นใจในตัวเองเวลาที่ได้รับมอบหมายงานอาจทำให้เราเครียดและท้อ แต่สำหรับบางคนอาจเครียดหนักกว่าหลายเท่า และคิดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากเพียงพอที่จะทำงานใหญ่ (หรือแม้กระทั่งงานทั่วไปด้วยซ้ำ) ความรู้สึกเหล่านี้บางทีไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่งจริง ๆ แต่เราอาจกำลังอยู่ในภาวะรู้สึกแย่กับตัวเองอยู่ก็เป็นได้ Imposter Syndrome หรือ Impostor Phenomenon ถูกเรียกด้วยชื่อภาษาไทยหลายชื่อเช่น ภาวะรู้สึกแย่กับตัวเอง อาการที่คิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ เป็นคำที่ปรากฏขึ้นเมื่อปี 1978 โดยนักจิตวิทยาสองคนชื่อ Pauline Clance และ Suzanne Imes ในบทความ “The Imposter Phenomenon in High Achieving Intervention” ที่บันทึกผลวิจัยจากการสัมภาษณ์หญิงสาวที่ประสบความสำเร็จจำนวน 150 คน ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ทั้งทางด้านวิชาการและวิชาชีพที่มีคะแนนสอบสูงที่สุดแต่ละสาขา จากการนั่งพูดคุยกันระหว่างนักจิตวิทยากับหญิงสาวกลุ่มตัวอย่างพบว่า พวกเธอส่วนใหญ่คิดว่าความสำเร็จของเธอไม่ได้มาจากความสามารถของตัวเองจริง ๆ แต่เป็นปัจจัยอื่นต่างหากที่ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ เช่น โชค หรือจังหวะเวลาที่เหมาะสม ภาวะรู้สึกแย่กับตัวเองหรืออาการไม่มั่นใจในตัวเองทางการแพทย์ยังไม่เรียกอาการนี้ว่าเป็นโรคทางจิตเวช แต่เป็นภาวะทางจิตชนิดหนึ่ง โดยคนที่อยู่ในภาวะดังกล่าวจะคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำสิ่งต่าง ๆ  บางครั้งก็วิตกกังวลว่าคนจะรู้ว่าตัวเองไม่เก่ง ซึ่งทั้งหมดแพทย์ต่างลงความเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการคิดไปเองมากกว่าการยืนยันว่าบุคคลเหล่านี้ไร้ความสามารถ   สำรวจตัวเองว่าเรากำลังเป็น Imposter Syndrome หรือไม่ คนส่วนใหญ่ที่เป็น

  • Life
    By: unlockmen April 18, 2019
    ความซื่อสัตย์กำลังสั่นคลอน งานวิจัยเผยว่าหมาที่ว่าซื่อก็โกหกเราเป็น

    เวลาเปรียบเทียบความซื่อสัตย์กับอะไรสักอย่าง ชื่อของฮาจิโกะและหมานานาสายพันธ์ุจากทั่วมุมโลกจะลอยมาทันที แล้ววลี “ซื่อสัตย์อย่างหมา” ก็จะเป็นประโยคแรก ๆ ที่เราได้ยิน แต่ความจริงเคยสงสัยไหมว่า ไอ้ที่แม่งกระดิกหางริก ๆ เดินมาหา หรือทำหน้าหงอเวลาโดนด่า จริง ๆ แล้วมันซื่ออย่างที่ว่าจริงเหรอ? มันเคยโกหกเราบ้างไหม? ตอนนี้ชั่วโมงแห่งความจริงมาถึงแล้ว เพราะนักวิจัยพฤติกรรมสัตว์เขาออกมาวิจัยและแถลงความจริงให้เรารู้ว่า “หมาซื่อมันไม่จริงเสมอไป” และตีพิมพ์งานวิจัยลงใน Animal Cognition หรือ “การรับรู้ของสัตว์” ดังนั้น อย่าเหมารวมว่าหมาทุกตัวมันจะสื่อหรือแสดงออกทุกอย่างตามที่มันคิดล่ะ เพราะบางทีคุณอาจจะเคยเจอไอ้ด่างที่บ้านตลบหลังมาแล้ว หมาโกหกมันก็มี ทาสหน้าโง่ การวิจัยครั้งนี้ใช้การมอนิเตอร์ติดตามพฤติกรรมลูกสุนัขต่างการเลี้ยงดูและอายุจำนวน 27 ตัว ซึ่งได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมจากเจ้าของพวกมันแล้ว จะแยบยลแค่ไหนถึงตีความได้แบบนี้ลองอ่านวิธีการวิจัยไปพร้อมกัน วันแรกเขาจะฝึกฝนสุนัขทุกตัวให้แยกแยะคน 2 จำพวก ได้แก่ ฝ่ายพาร์ทเนอร์และฝ่ายแข่งขัน โดยให้พวกมันได้เรียกรู้ผ่านรูปแบบการให้อาหาร ฝ่ายพาร์ทเนอร์จะยื่นอาหารส่งให้แบบง่าย ๆ ส่วนฝ่ายแข่งขันพอยื่นให้แล้วให้ขยักหรือปิดไว้ ไม่ยื่นให้ง่าย ๆ ผลของการฝึกวันแรกเลยทำให้เห็นว่าเจ้าลูกสุนัขชอบฝ่ายพาร์ทเนอร์มากกว่า วันต่อมาสุนัขจะถูกสอนว่าทำอย่างไรเพื่อให้มนุษย์ให้อาหาร ซึ่งเขาใช้วิธีจัดอาหารออกแบบเป็น 3 กล่อง 2 กล่องแรกที่มีอาหารเป็นกล่องที่หน้าตาเหมือนกัน แต่ว่าด้านในบรรจุอาหารต่างกันโดยจะมีอาหารที่สุนัขชอบและไม่ชอบอยู่ในนั้น ส่วนกล่องที่สามเป็นกล่องเปล่า หลังจากที่ฝึกให้พาไปแล้ว

  • Life
    By: unlockmen April 17, 2019
    ผลวิจัยบอกว่าผู้ชายที่ไม่สามารถวิดพื้นได้ถึง 10 ครั้งมีโอกาสป่วยเป็นโรคหัวใจสูง

    ย้อนไปสมัยยังเด็ก ร่างกายพลุ่งพล่านด้วยฮอร์โมนและพละกำลัง การ ‘วิดพื้น’ หรือ ‘ดันพื้น’ คือของกล้วย ๆ สามารถทำเกิน 10 ครั้งได้แบบสบาย ๆ แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับแรงกายที่ลดลง เมื่อหลักไมล์ย่างเข้าสู่ช่วงวัยกลางคน ทุกอย่างก็กลับตาลปัตร สิ่งที่เคยง่ายก็ไม่ง่ายอีกต่อไป ครั้งล่าสุดคุณวิดพื้นได้กี่ครั้ง? เราทำได้ 23 ครั้ง ไม่ดีไม่แย่ แต่ก็ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ เพราะเกณฑ์อันตรายที่ทางงานวิจัยของ Havard ระบุไว้คือ ผู้ชายวัยกลางคนที่ไม่สามารถวิดพื้นได้ถึง 10 ครั้งมีโอกาสเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่าคนทั่วไป ในทางตรงกันข้ามถ้าสามารถวิดพื้นได้เกินกว่า 40 ครั้ง โอกาสที่คน ๆ นั้นจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจในอีก 10 ปีข้างน่าจะลดลงถึง 97% เลยทีเดียว ส่วนมนุษย์แข็งแรงระดับกลางอย่างเราที่วิดพื้นอยู่ในเกณฑ์ 21-30 ครั้ง ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะผลวิจัยของ Havard บอกว่าคนที่อยู่ในระดับนี้จะมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคหัวใจในอัตรา 1/4 ของคนที่ไม่สามารถวิดพื้นได้ถึง 10 ครั้ง สาเหตุหลักที่การวิดพื้นได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพในอนาคต เนื่องจากการออกกำลังกายในรูปแบบนี้สามารถใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการทำนายปัจจัยด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี แม่นยำยิ่งกว่าการออกกำลังในรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากการวิดพื้นนั้นใช้กำลังจากกล้ามเนื้อแทบทุกส่วนของร่างกาย “การค้นพบของเรามีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการวิดพื้นเป็นแนวทางใหม่ที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจได้อย่างแม่นยำและไม่มีค่าใช้จ่าย”

« Previous 1 … 43 44 45 46 47 … 159 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    CARS
    JDM: CODE RARE – Skyline GT-R Autech Version 40th Anniversary (1998: BCNR33)
  • 2
    CARS
    JDM: CODE RARE — SKYLINE AUTECH VERSION (1993: HNR32) สปอร์ตซีดานที่เน้นการใช้งานแบบ work-use vehicles
  • 3
    DESIGN
    LOST WATCHES OF REBELS : FIDEL CASTRO & HIS FOUR ROLEXES
  • 4
    CARS
    JDM: CODE RARE – 1997 TOYOTA CENTURY V12 รถบ้าน V12 หนึ่งดียวในประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่น
  • 5
    CARS
    Vittorio Tessera แห่ง Casa Lambretta ร้าน Restoration Scooter ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ Lambretta
  • 6
    FASHION
    LOST WATCHES OF REBELS : EP01 – FIDEL CASTRO: THE GUY WHO WORE TWO ROLEXES ON ONE WRIST
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

THE REAL EP 1 : Tamaryn Cooper
Unlockmen Channel
18,367

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.