นี่เป็นคนชอบอ่านมังงะที่มีความเรียลชีวิตจริงแบบเศร้า ๆ มาก แล้วทุกครั้งจะต้องเศร้าตามพร้อมกับเสียน้ำตาไปหลายลิตร แต่มันไม่ใช่เพราะว่าเราเสพติดความเศร้าหรืออะไรนะ มันเป็นเพราะความเศร้าได้สร้างคุณค่าให้ชีวิตเรา ไปพร้อม ๆ กับเติมเต็มว่าปัจจุบันเรายังมีชีวิตอยู่ วันนี้อยากจะขอพูดถึงมังงะภาพสวย พล็อตแสนเศร้า ซึ่งมาพร้อมกับบทสรุปอันแสนงดงาม ชื่อ My Broken Mariko ผลงานเดบิวต์ปี 2020 ของคุณ Waka Hirako ผู้ที่เขียนพร้อมวาดมังงะเรื่องนี้จากประสบการณ์ตรงในชีวิตของตัวเอง โดยเลือกถ่ายทอดความเจ็บปวดได้อย่างเข้าใจ * Trigger Warning ต้องขอเตือนก่อนเลยว่า My Broken Mariko เป็นมังงะที่มีเนื้อหาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง ด้วยภาพของการทำร้ายในครอบครัว และภาพของการพยายามจบชีวิตตัวเองของตัวละคร * แต่ UNLOCKMEN อยากให้คุณได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ที่พาเราไปสัมผัสกับ ‘อาการซึมเศร้า’ แบบที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมาพร้อมกับคุณค่าดี ๆ มากมายเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่กันต่อไป เรื่องย่อ : หลังจากที่ได้ยินข่าวว่า ‘มาริโกะ’ จากไปอย่างกระทันหันด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางรับได้ ‘ชิอิโนะ โทโมยะ’ ผู้เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือเป็นเพื่อนคนเดียวถึงจะถูกกว่า รู้ถึงสาเหตุเบื้องหลังนี้ จึงออกไปโขมย
ถ้าพูดถึงประเทศแห่งความฝัน นอกจาก American Dream ก็มีญี่ปุ่นนี่ล่ะที่หัวข้อ ‘สู้เพื่อฝัน’ ถูกยกขึ้นมาพูดอย่างไม่เคยขาดในทุกสื่อ ไม่ว่าจะใน Soft Power หลักอย่างมังงะ อนิเมะ จนถึงวรรณกรรมหลาย ๆ เล่มเองก็ตั้งคำถามถึงสิ่งนี้เสมอ ถ้ายังจำกันได้ ตอนโอลิมปิกส์ปี 2020 ที่ผ่านมา ทีมวอลเลย์บอลของทีมชาติญี่ปุ่น ก็มีท่าตบลูกอย่างกับหลุดออกมาจากเรื่อง Haikyu!! จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก และอีกหนึ่งสื่อสุนทรีย์ที่ขับเคลื่อนชีวิตมนุษย์กว่าศตวรรษอย่าง ‘ภาพยนตร์’ ของญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงความฝันเราจึงได้เห็นภาพยนตร์ที่อิงจากชีวิตจริงมนุษย์ ซึ่งพูดถึงการตามความฝันแต่ไม่สำเร็จอยู่บ่อย ๆ UNLOCKMEN จะมาชวนทุกคนถอดบทเรียนจากหนัง 4 เรื่อง ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่าผู้คนในวันที่สู้เพื่อฝัน แต่ความจริงก็ซัดหมักหนักใส่ชีวิตเหลือเกิน เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังทำตามฝัน หรือเคยมีฝันทุกคนใช้ชีวิตแบบที่ต้องการกันต่อไปครับ Solanin (2010) : จงทำตามความฝันให้เหมือนกับว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้ฝันอีกแล้ว ไอเดียสำคัญจากหนังซึ่งดัดแปลงจากมังงะของ Inio Asano เรื่องนี้ คือการพูดกับคนดูด้วยน้ำเสียงปกติ ในวันที่แดดแรงพอจะทำให้ผ้าแห้งว่า “ทำความฝันวันนี้ให้เต็มที่นะ ถ้าพรุ่งนี้ตายไปจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง” ‘ความตาย’ เป็นสิ่งใกล้ตัวเราทุกคนเสมอ ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ความตายฟรีสไตล์จริง
นักฆ่าขวัญใจทุกคน John Wick กลับมาแล้วในภาคที่ 4 พร้อมปล่อยตัวอย่างจนแฟน ๆ ทั่วโลกแทบจะอดใจรอกันไม่ไหว ซึ่งนอกจากความมันส์ กับคุณคีอานูที่เข้าถึงคาแรคเตอร์แบบเท่สุด ๆ แล้ว ประเด็นเรื่อง ‘การต่อต้าน’ หรือ ‘การฝืน’ ในสิ่งที่เราไม่อยากเป็น แม้ว่าจะทำสิ่งนั้นได้ดีแค่ไหนก็ตามเป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ใน John Wick คือการแก้แค้นให้กับสิ่งที่เขารัก พร้อมกับการตระหนักถึงศีลธรรมว่าอาชีพของตัวเองมีความเทาอยู่สูง แล้วจะเคลียร์อย่างไรถึงจะสามารถไปใช้ชีวิต ‘ปกติ’ ที่มีบ้าน มีอาหาร 3 มื้อ มีสิ่งที่รักให้ยึดเกาะชีวิตในแต่ละวันได้ล่ะ การที่ยังมีภาคต่อออกมาเรื่อย ๆ แสดงว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสำเร็จได้ง่าย ๆ และเราทุกคนได้แต่หวังว่าในหนังภาคสุดท้าย (ไม่รู้ว่าปีไหน) จอห์นจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ UNLOCKMEN ชวนอ่านมังงะ 6 เล่ม ว่าด้วยนักฆ่ากลับใจ ผู้พยายามอย่างหนักเพื่อหนีจากชีวิตที่ตัวเปรอะไปด้วยเลือด แล้วมุ่งหน้าสู่ความสามัญแสนเรียบง่ายให้ได้ แม้จะรู้ตัวดีว่ามันจะยากกว่าทุกงานที่พวกเขาเคยได้รับก็ตาม The Fable (2014) เมื่อนักฆ่าในตำนานผู้ใช้ฉายาว่า The Fable ถูกหัวหน้าขององค์กรที่สังกัดอยู่สั่งให้วางมือซะ แล้วจงไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ อยู่ในเมืองเล็ก
ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในมังงะที่ดังที่สุดในโชเน็นยุคใหม่ของ Chainsaw Man ที่ล่าสุด ถูกแบรนด์เครื่องประดับไฮคลาสจากญี่ปุ่น Tasaki มาจับมือร่วม collaboration ทำเป็นสร้อยคอ แหวน ต่างหูในคอลเล็กชั่นที่ชื่อว่า DANGER การสร้างคอลเล็กชั่น DANGER ของทาง Tasaki ใช้วัสดุหลักเป็นทองคำขาวประกบด้วยไข่มุกอะโกยาม่า (Akoya pearls) ส่วนไอเดียในการปรับตัวละครจาก Chainsaw Man ให้ลงมาอยู่ในรูปเครื่องประดับนั้น จะใช้รูปทรงของ ‘ฟัน’ เพื่อให้เข้ากับความอันตรายของชื่อคอลเล็กชั่น และความแหลมคมของฟันตัวเอกในมังงะเรื่องนี้เองก็เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดสายตามาก สำหรับแฟนคลับของมังงะเรื่องนี้ ต่อให้ไม่บอกว่าแบรนด์ Tasaki คอลแลบกับใคร ก็คงจะเดาได้ทันทีที่เห็นตัวเครื่องประดับของจริง อย่าง Power Necklace สร้อยคอเขาสีแดงจากตัวละคร ‘พาวเวอร์’, Chainsaw Pendant & Ear Cuff ต่างหูและสร้อยคอเลื่อยนตร์ประดับมุขจาก ‘เดนจิ’ กระทั่ง Pochita Pendant สร้อยสุดน่ารักที่ถอดคาแรกเตอร์ของ ‘โปจิตะ’ มาเต็ม ๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือไอเท็มไฮไลต์ของคอลเล็กชั่นนี้ ในวันที่ 29/06/2022 ที่ผ่านมา
ในห้วงเวลาแห่งยุคสมัยที่โรคระบาดกำลังกัดกินทั้งจิตใจและร่างกาย อาชีพหมอคือทัพหน้าที่ช่วยทั้งช่วยรักษา และยื้อชีวิตจากวิกฤตโควิดที่คืบคลานคนไทยที่ในตอนนี้เผชิญหน้าทั้งอาการป่วยใหม่ระดับหมื่นต่อวัน และเสียชีวิตพุ่งไปเป็นหลักร้อย โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย ในระหว่างที่ประชาชนต่างตั้งคำถามถึงการบริหารงานของทั้งรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของการจัดสรรวัคซีน และเกมการเมืองที่นับวันจะร้อนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากที่เราพบเจอในทุกวันไม่ว่าจะเป็นการได้เห็นคนรักที่พลัดพลากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ คนไข้นอนลมหายใจรวยรินในบ้านอย่างไร้ความหวัง บางที่ก็เผชิญปัญหาเตียงเต็ม และการเห็นคนตายข้างถนนอย่างที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพหมอในตอนนี้ที่เป็นคนกุมชะตาคนไข้ในตอนนี้มีทั้งหมอที่เสียสละ และหมอที่สังคมกำลังตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณ UNLOCKMEN จึงอยากกระตุ้นและส่งกำลังใจผ่านคาแรคเตอร์หมอในมังงะเรื่องดัง ที่เชื่อมั่นว่าหมอหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยผ่านตา บางเรื่องก็เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นหมอจากการ์ตูนเหล่านี้ ที่พวกเขาล้วนเป็นฮีโร่ต้นแบบของหมอในชีวิตจริงของใครหลาย ๆ คน มาดูกันว่าจะมีใครที่ตรงใจกันบ้าง Black Jack หมอปีศาจ เริ่มต้นด้วยมังงะดราม่าในตำนานของปรมาจารณ์แห่งโลกมังงะ Osamu Tezuka ที่นำประสบการณ์ของตนสมัยที่ยังเป็นหมอ มาดัดแปลงเป็นเรื่องราวของหมอเถื่อนที่ประสบอุบัติเหตุในวัยเด็กเกือบตาย แต่เขาได้รับการผ่าตัดยื้อชีวิตและทำศัลยกรรมใบหน้าและร่างกาย เขาจึงต้องการตอบแทนด้วยการเป็นหมอขบถที่หันหลังให้กับวงการแพทย์ด้วยการปฏิเสธใบอนุญาติประกอบโรคศิลป์ เป็นหมอใต้ดินยอดฝีมือรักษาคนรวยด้วยการขูดรีดเงินจำนวนมหาศาลเพื่อตั้งคำถามกับระบบทุนนิยม แต่ในความเย็นชาภายใต้ใบหน้าปุปะจากบาดแผลในอดีตนั้น เขากลับเป็นหมอที่มีความเป็นมนุษย์มากที่สุดอย่างเหลือเชื่อ มังงะ Black Jack เป็นการทวงถามถึงจรรยาบรรณทางการแพทย์ภายใต้สถานการณ์อันบีบคั้นอารมณ์ นับเป็นมังงะคลาสสิคที่ Osamu บรรจงเขียนเพื่อเชิดชูหมอขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามถึงสังคมที่มักเชิดชูอาชีพนี้แต่เบื้องหลังนั้นกลับเต็มไปด้วยความฟอนเฟะและความดำมืดได้อย่างทรงพลัง Black Jack ได้รับการยอมรับในฐานะมังงะอมตะที่ถูกนำมารีเมคโดยนักเขียนหลายยุคหลากสมัย เป็นหนึ่งในตัวละครขบถที่ครองความเป็นอมตะจวบจนถึงทุกวันนี้ Super Doctor K อีกหนึ่งการ์ตูนหมออมตะ ที่ปัจจุบันก็ยังคงตีพิมพ์มาอย่างต่อเนื่อง Super
ถือเป็นข่าวเศร้า และข่าวช็อคสำหรับคอมังงะที่ติดตามอ่านการ์ตูนมหากาพย์อย่าง Berserk ที่นักเขียนระดับตำนานอย่าง อาจารย์มิอุระ เคนทาโร่ ได้จากโลกนี้ไปทิ้งไว้เพียงผลงานระดับตำนานพร้อมความค้างคาใจของนักอ่านที่รอคอยจะพบบทสรุปของมังงะที่เริ่มเขียนมาตั้งแต่ปี 1989 จนถึงเล่มที่ 40 ท่ามกลางความเสียดายและความเสียใจของนักอ่านทั่วโลก ที่รอคอยอย่างมีความหวัง แต่ในที่สุดฝันนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่ถึงกระนั้นไม่ใช่เพียง อาจารย์มิอูระ ที่จากไปก่อนจะสิ้นสุดมังงะ UNLOCKMEN ขอย้อนไปชมมังงะที่ไม่มีวันจบ เพื่อทำการคารวะศิลปินผู้วายชนม์ และรำลึกถึงผลงานชิ้นสุดท้ายไปพร้อมๆกัน Yoshito Usui – Crayon Shinchan โศกนาฏกรรมของการ์ตูนสายฮา ที่ลงท้ายด้วยน้ำตาและการลาจาก เริ่มต้นด้วยมังงะสุดฮา ที่กลายเป็นมหากาพย์แห่งตำนานการ์ตูนตลกจวบจนปัจจุบันอย่างเรื่อง ชินจังจอมแก่น ที่เล่าถึงชีวิตของ โนฮาระ ชิโนะสุเกะ เด็กแก่แดดผู้มาพร้อมความเกรียน และสร้างความปั่นป่วนใจให้ทั้งครอบครัวและผู้ชิดใกล้ แต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจและความแสบซื่อจนกลายเป็นมังงะและอนิเมะจบในตอน รวมไปถึงอนิเมะจอใหญ่ที่ฉายให้ชมกันทุก ๆ ปี ผลงานการเขียนของอาจารย์โยชิโตะ อูซูอิ ที่วาดชินจังและผองเพื่อนด้วยลายเส้นเรียบง่ายแต่กลับชนะใจคนอ่านทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1990 ทำยอดขายระดับ 100 ล้านเล่มจากกว่า 15 ประเทศ และข้ามน้ำข้ามทะเลมาโด่งดังในไทยจนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ น่าเสียดายที่ อาจารย์โยชิโตะ จากไปอย่างสงบเมื่อปี 2009 เมื่อมีคนพบร่างอันไร้วิญญาณของอาจารย์ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่เมืองกุมมะ จากการชันสูตรพบว่าอาจารย์ตกจากที่สูงจากการปีนเขา แต่หลายคนก็ยังคลางแคลงใจกับการจากไปของอาจารย์และมองว่าการตายครั้งนี้อาจจะเกิดจากสภาวะความเครียดที่สะสมของตัวอาจารย์เองจากการทำงานอย่างหนักโดยไม่ได้พัก
ในมังงะแต่ละเรื่องแน่นอนว่าตัวละครที่มักจะมีบทโดดเด่นที่สุดหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพระเอกของเรื่องส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นตัวละครฝ่ายธรรมะผู้มีจิตใจยึดมั่นความถูกต้องยุติธรรม ลูฟี่, ซุน โกคู, นารูโตะ หรือตัวละครในตำนานอีกหลายตัวต่างก็อยู่ในข่ายด้านสว่างแทบทั้งสิ้น แต่ในมังงะบางเรื่อง ตัวละครที่เราจดจำได้ดีที่สุดกลับเป็นตัวละครฝ่ายอธรรมผู้มีจิตใจชั่วช้าเลวทรามเสียอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้คงต้องชื่นชมอาจารย์ผู้เขียนที่ออกแบบตัวละครเหล่านั้นออกมาได้ดี ดีถึงขนาดที่ว่าถึงแม้ตัวละครเหล่านั้นกำลังทำสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ แต่เรากลับเอาใจช่วยให้ทำสำเร็จ และรู้สึกเสียใจในเวลาที่ตัวละครเหล่านั้นจบชีวิตลง เอาล่ะมาย้อนความหลังไปกับตัวร้ายในความทรงจำกันเถอะ ยางามิ ไลท์ จากเรื่อง Death Note นี่คือตัวละครแรกที่แว่บเข้ามาในหัวเราทันทีหลังจากตัดสินใจเขียนคอนเทนต์นี้ ในเรื่อง Death Note ถ้าถามว่าใครคือพระเอก คำตอบก็คือยางามิ ไลท์ ถ้าถามว่าใครคือตัวร้าย คำตอบก็คือยางามิ ไลท์ เช่นเดียวกัน ยางามิ ไลท์ ไม่ได้เกิดมาชั่วร้ายแต่กำเนิด เขาเป็นเด็กเรียนดีระดับหัวกะทิของประเทศ เป็นลูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หน้าตาดีเป็นที่หมายปองของสาว ๆ เรียกว่าเขาคือนักเรียนมัธยมปลายในอุดมคติ แต่แนวความคิดเรื่องความยุติธรรมของเขาค่อนข้างสุดโต่ง เขาอยากกำจัดเหล่าอาชญากรชั่วร้ายให้หมดทั้งโลกด้วยความตาย ดังนั้นเมื่อเขาได้สมุดโน้ตมรณะที่เพียงรู้ชื่อกับรู้หน้าก็สามารถฆ่าใครก็ได้ในโลก เขาจึงไม่รีรอที่จะตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยพิพากษาโทษของคนตามใจชอบ ซึ่งนานวันเข้าก็เริ่มเลยเถิด ไลท์ไม่เพียงแต่ใช้สมุดโน้ตฆ่าอาชญากรฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าที่พยายามจะจับกุมเขา จากความคิดที่ต้องการสร้างสังคมให้ดีขึ้นในตอนแรก กลายเป็นหลงระเริงในอำนาจอยากสร้างโลกในอุดมคติที่มีเพียงความคิดเขาเองเท่านั้นที่ถูกต้อง ถ้าใครเคยอ่าน Death Note คงรู้ว่าไลท์มีจุดจบเช่นไร เราขอไม่บอกตรงนี้ แต่เอาเป็นว่าเป็นตอนจบที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย อามากิงจากเรื่อง แสบกว่านี้มีอีกมั้ย แสบกว่านี้มีอีกมั้ย
ตอนนี้ใคร ๆ ก็ต้องอยู่บ้าน รวมถึงพวกเราชาว UNLOCKMEN ต้องอยู่ติดบ้าน พยายามออกไปข้างนอกให้น้อยเท่าที่จะทำได้ และการนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในพื้นที่เดิมอาจทำให้เราเบื่อหน่าย บางคนดูหนังจนไม่รู้ว่าจะดูเรื่องอะไรแล้วก็มี จึงทำให้วันนี้เราอยากแนะนำแอนิเมชันที่ฉายบนระบบสตรีมมิง Netflix ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนขี้เบื่อ แอนิเมชัน 7SEEDS สร้างจากมังงะที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารการ์ตูนรายเดือนโชโจปี 2001 และนิตยสารการ์ตูนรายเดือนฟลาวเวอร์ในปี 2002 ผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ของทามูระ ยูมิ (Tamura Yumi) นักเขียนมังงะสไตล์สดใสที่คนไทยชอบเรียกกันว่า “การ์ตูนตาหวาน” แต่ถึงจะตาหวานภาพสวยน่ารักแต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ของอาจารย์ยูมิมักมีเนื้อหาแหวกแนวจากการ์ตูนตาหวานเรื่องอื่น ๆ 7SEED จะเล่าเรื่องราวของคนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งถูกนำไปปล่อยทิ้งไว้สักแห่งหนึ่งของโลก เด็กสาวชื่อ ‘นัตสึ’ ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเรือลำหนึ่งกลางมหาสมุทรกับคนแปลกหน้าอีกสองคน พวกเขาสามารถขึ้นฝั่งบนเกาะที่ไม่รู้จัก แถมพบว่ายังมีคนอื่นที่ติดอยู่บนเกาะด้วยเหมือนกัน ผู้รอดชีวิตทั้งนักเรียนมัธยมปลาย นักดนตรี ตำรวจหญิง แต่ละคนล้วนอุปนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทุกคนต่างต้องงัดความรู้และไหวพริบเท่าที่มีทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดบนเกาะที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาด เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ทำให้เราลืมภาพการ์ตูนตาหวานไปจนหมดสิ้น เพราะเนื้อหาของมังงะเรื่องนี้เล่นกับจิตใจคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีคนที่เชื่อมั่นสุดหัวใจว่าหากร่วมมือกันทุกคนจะต้องออกไปจากเกาะให้ได้ และก็มีบางคนเชื่อว่ามนุษย์สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบตัว ดำรงชีวิตอยู่บนเกาะโดยไม่ต้องพยายามหาทางออกไป จนทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่าหรือถ้าเป็นเองจะเลือกอยู่บนเกาะหรือไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ? “ที่นั่น มีแต่ภาพแห่งความสิ้นหวัง” แท้จริงแล้วมนุษย์ถูกจับมาอยู่รวมกันโดยโครงการ 7SEEDS เพื่อค้นหาเมล็ดพันธุ์ยอดเยี่ยมจากกลุ่มเซอร์ไววัลมาเป็นต้นแบบเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์จากเหตุการณ์บางอย่างที่อาจทำให้เกิดการสูญพันธุ์ ท่ามกลางการ์ตูนภาพสวยกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวหนักอึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เราทุกคนล้วนต้องผ่านช่วงเวลาเป็นเด็กด้วยกันทั้งนั้น และกิจกรรมวัยเด็กขาดไม่ได้คือการตื่นเช้ามานั่งรอดูการ์ตูน อ่านหนังสือการ์ตูนเรื่องที่ชอบ ตามซื้อนิตยสารการ์ตูนเพื่อจะได้อ่านตอนถัดไปก่อนใคร ตามเก็บของเล่นที่แถมมากับขนม และเอาเรื่องราวมัน ๆ ในการ์ตูนมาคุยกับเพื่อนที่โรงเรียน ยุคหนึ่งเคยมีการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย มังงะจากเกาะญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของซุน โกคู เด็กชายผู้ออกตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพราะหากเก็บครบแล้วจะสามารถขอพรจากเทพเจ้ามังกร เรื่องราวการเดินทางที่ต้องพบเจอทั้งอุปสรรค เพื่อนฝูง เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการผจญภัย ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนติดการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball กันแจ DARGON BALL ในยุคคุณดังแค่ไหน ? เมื่อถูกถามขึ้นว่า “Dragon Ball ดังแค่ไหน ?” บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงถามคำถามนี้ เพราะคำตอบคือสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่า “การ์ตูนเรื่องนี้แม่งโคตรดัง!” แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป คนรุ่นก่อนที่ทันอ่านมังงะเรื่องนี้ก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูพบว่าช่วงเวลาที่ Dragon Ball ตีพิมพ์คือ ค.ศ. 1984-1995 (พ.ศ. 2527-2538) สรุปคือตอนนี้การ์ตูนเรื่องดังจบลงนานกว่า 25 ปีแล้ว เด็ก ๆ
Shonen Jump และอาจารย์ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ ผู้เขียนการ์ตูน SLAM DUNK เตรียมปล่อยสมุดภาพชุด “SLAM DUCK ILLUSTRATION 2” ที่มาพร้อมงานอาร์ตเวิร์กชิ้นพิเศษจำนวนมาก รวมถึงภาพวาดที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน! SLAM DUNK (แสลมดังก์) คือหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นหรือมังงะที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นยุค 90’s ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยแต่ทั่วทั้งโลก โดยทำให้วัยรุ่นได้รู้จักกับกีฬาบาสเกตบอลมากขึ้น รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ชายหนุ่มหลายคนตัดสินใจเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง และตอนนี้เวลาก็ผ่านมาถึง 29 ปีแล้ว นับตั้งแต่การ์ตูนตอนแรกเผยแพร่ออกมา มังงะในตำนานเรื่องนี้เขียนโดย อาจารย์ ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ เผยแพร่ครั้งแรกทางนิตรสาร Shonen Jump ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1990 ก่อนจะสิ้นสุดในวันที่ 17 มิถุนายนปี 1996 เป็นมังงะ 31 เล่มจบ นับเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นก็ขายไปมากกว่า 120 ล้านเล่ม โดยความนิยมในเวลานั้นทำให้ผู้สร้างแอนิเมชันชั้นนำอย่าง Toei Animation นำมาสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว ก่อนเผยแพร่และถูกแปลไปหลายภาษาทั่วโลก ทั้งหมดทำให้ SLAM