‘สถานที่อโคจร’ ถือเป็นพื้นที่ที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน หลายพันปีก่อนโลกของเรามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ซ่อง’ เพื่อมอบความสุข ความบันเทิง รวมถึงบริการทางเพศให้แก่ลูกค้าผู้มาเยือน และในวันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนย้อนอดีตไปยังญี่ปุ่นยุคเก่าก่อน เพื่อรู้จักกับย่านโคมแดงในยุคสมัยอันลือลั่นอย่าง ‘โยชิวาระแห่งเอโดะ’ หลายคนอาจคิดว่าโยชิวาระคือชื่อเรียกย่านโคมแดงของญี่ปุ่น ไม่ว่าย่านไหน ๆ ในจังหวัดใดก็เรียกว่าโยชิวาระไปเสียหมด แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นแบบนั้น สถานที่อโคจรเพื่อความบันเทิงของผู้ชายและแหล่งพักอาศัยของนางโลมจะถูกเรียกว่า ‘ยูคาคุ’ โดยยูคาคุดัง ๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือ ชิมาบาระ ในจังหวัดเกียวโต ชินมาจิ ในจังหวัดโอซาก้า และ โยชิวาระ ในเอโดะ (ปัจจุบันคือจังหวัดโตเกียว) ที่โยชิวาระจะเป็นที่รู้จักของคนยุคหลังมากกว่าซ่องอีกสองแห่ง ย้อนไปไกลมาก ๆ ในช่วงที่ญี่ปุ่นยังไม่มีระบบระเบียบชัดเจน ซ่องถูกเปิดกระจัดกระจาย ใครใคร่ค้าค้า ใครใคร่ซื้อก็เดินเข้าไปเลย แต่พอเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 17 มีที่กฎหมายมีระบอบการเมืองการปกครองจริงจัง รัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ ลงมติผ่านร่างกฎหมายจัดระเบียบสถานเริงรมย์ ซ่องที่กระจัดกระจายต้องมารวมตัวอยู่ในย่านเดียว หากใครไม่ย้ายมาต้องปิดกิจการเสีย ทำให้ซ่องน้อยใหญ่พากันมาอยู่ในพื้นที่วัดเป็นความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ในย่านนิฮงบาชิ แต่ภายหลังย่านเริงรมย์ขยายตัวจนแออัดแถมเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ รัฐบาลจึงต้องย้ายแหล่งบันเทิงไปยังอาซากุสะที่อยู่ชานเมือง โดยเรียกว่า เขตปกครองพิเศษโยชิวาระ
ในทุกแวดวงไม่ว่าวงการกีฬา ดนตรี ภาพยนตร์ ต่างก็มีคนดังหรือซูเปอร์สตาร์อยู่ด้วยกันทั้งนั้น แน่นอนว่าต้องรวมถึงวงการภาพยนตร์ผู้ใหญ่หรือวงการ AV ที่พระเอกและนางเอกต่างสั่งสมประสบการณ์จนเป็นที่รู้จัก มีผลงานมากมายหลายเรื่อง ผ่านการพิสูจน์ตัวเองหลายต่อหลายครั้งดังเช่นป๊า ชิเงโอะ โทคุดะ (Shigeo Tokuda) ราชาเอวีรุ่นเก่าของวงการหนังผู้ใหญ่แห่งเกาะญี่ปุ่น หากดูหนังเอวีนักแสดงหญิงส่วนใหญ่ต้องสวย ขาว หน้าตาน่ารัก และหน้าอกใหญ่ (ยุคหลังเริ่มมีนางเอกเอวีรุ่นคุณป้ามากขึ้นแล้ว) ทว่านักแสดงฝ่ายชายมีหลากหลายกว่านางเอกเอวี บางเรื่องเป็นหนุ่มใหญ่รับบทนักธุรกิจเก็บกด บางเรื่องเป็นหนุ่มวัยรุ่นวัยใสหุ่นแบบไอดอลเกาหลี หลายเรื่องเป็นผู้ชายธรรมดาไม่ได้มีกล้ามหรือซิกซ์แพคสวย ๆ แต่กลับแทนที่ด้วยพุงหรือหุ่นตามความเป็นจริงของคนส่วนใหญ่ รวมไปถึงนักแสดงรุ่นคุณปู่ตัวเล็กพุงพลุ้ยก็เป็นพระเอกได้เหมือนกัน ตลาดหนังเอวีที่เติมเต็มความพึงพอใจของผู้ชมสูงวัยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากปัจจุบันญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงทำให้เราได้เห็นหนังเอวีแนวใหม่ที่นางเอกเป็นรุ่นคุณป้าส่วนพระเอกเป็นรุ่นคุณลุงมากขึ้น ค่ายทำหนังผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยพยายามตีตลาดผู้สูงอายุด้วยการเปิดออดิชันนักแสดงวัย 40-50 ไม่จำกัดหุ่น สัดส่วน หรือหน้าตา แต่เน้นกันที่แอคติ้งและอารมณ์ร่วม แรกเริ่มการเลือกนักแสดงมักจำกัดอายุอยู่ที่ 40-50 ปี เราจะเรียกพวกเขาว่าหนุ่มใหญ่หรือสาวใหญ่ อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้อายุของนักแสดงเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเตะหลัก 70-80 ปี เลยก็มี ดังเช่นป๊าชิเงโอะ โทคุดะ ที่เข้าวงการหนังเอวีเพราะเบื่อชีวิตวัยเกษียณไร้แก่นสาร เลยไปออดิชันบทโดยไม่ได้บอกภรรยาและครอบครัว ผลงานของป๊าตั้งแต่เข้าวงการจนปัจจุบันอยู่ในหลักร้อยกว่าเรื่อง ปีหนึ่งถ่ายทำมากกว่า 60 เรื่อง
เวลานี้หากพูดถึงมังงะโชเน็นหรือการ์ตูนลูกผู้ชายทางฝั่งญี่ปุ่น เรื่องราวการผจญภัยของสองพี่น้อง ‘ทันจิโร่’ กับ ‘เนซึโกะ’ จากเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba, Demon Slayer) ก็คงเป็นหนึ่งในมังงะที่ถูกหยิบยกมาพูดบ่อย ๆ ในวงสนทนา เพราะดาบพิฆาตอสูรสามารถทำลายสถิติเก่า ๆ เป็นว่าเล่น แถมยังมียอดขายเล่มแซง ‘วันพีซ’ แชมป์เก่าที่ครองบัลลังก์นานนับสิบปี หรือจะความกลมกล่อมของเวอร์ชันแอนิเมชันทำให้คนเริ่มรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้มากขึ้น ผลงานเรื่องดาบพิฆาตอสูรเกิดขึ้นโดยอาจารย์ โคโยฮารุ โกโตเกะ (Koyoharu Gotouge) นักเขียนการ์ตูนสั้นดาวรุ่งอายุน้อย ที่มีโอกาสลงผลงานของตัวเองกับนิตยสารมังงะชื่อดัง โชเน็น จัมพ์ (Shonen Jump!) ส่งเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มที่โดน vปีศาจพรากครอบครัวไปเกือบหมดเหลือเพียงน้องสาวสู่สายตาสาธารณชน เมื่องานเสร็จสิ้นใคร ๆ ต่างต้องอยากทราบฟีดแบคหรือผลตอบรับว่าดีหรือไม่ ซึ่งผลของดาบพิฆาตอสูรคือ “ยังไม่ค่อยน่าประทับใจนัก” เสียงของนักอ่านต่อมังงะค่อนข้างกล่าวไปทางเดียวกัน บ้างก็ว่าเนื้อเรื่องเดินเป็นเส้นตรงเกินไป ซ้ำซากกับการ์ตูนโชเน็นอื่น ๆ รวมถึงลายเส้นไม่ค่อยดึงดูดในช่วงแรก (ตอนหลังลายเส้นของมังงะเริ่มดีขึ้นแล้ว) ส่วนหนังสือการ์ตูนก็มียอดขายแค่หลักหมื่น บั่นทอนกำลังใจทั้งคนเขียนและสำนักพิมพ์ จนใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเรื่องราวการตามล่าอสูรตัวบอสที่ฆ่าครอบครัวของทันจิโร่กับเนสึโกะมีแววจะโดนตัดจบกลางคัน เหมือนกับมังงะเรื่องอื่นที่ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ ทว่าหนังสือการ์ตูนที่มีแววจะถูกโละกลับสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเสียอย่างนั้น เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงตอนแรกกลายเป็นการปูทางสู่เนื้อหาเข้มข้นขึ้นจนวางไม่ลง วิธีการนำเสนอเรื่องราวที่หลายคนว่าทื่อๆ
เวลานี้ Animal Crossing: New Horizons กลายเป็นเกมที่ถูกพูดถึงและเป็นที่ต้องการสำหรับคนมีเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch มากที่สุด ณ เวลานี้ เพราะการกลับมาอีกครั้งในรอบหลายปีของเกม แถมดันตรงกับช่วงที่คนทั่วโลกต้องกักตัวอยู่แต่บ้าน จึงไม่แปลกใจที่ใคร ๆ ต่างอยากหนีจากโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายเข้าไปในเกาะที่ตัวเองสามารถทำอะไรก็ได้ Animal Crossing: New Horizons เป็นเกมแนว Life Simulator กึ่ง RPG โดยเรื่องราวของเกมเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้เล่นถูกส่งมาอยู่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ผู้เล่นสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจ บุกเข้าไปในป่า เตรียมพื้นที่ทำการเกษตร ตกปลา ขุดฟอสซิล กางเต็นท์ สร้างบ้านพร้อมตกแต่งภายใน เลือกไม่ทำอะไรเลยและใช้ชีวิตแสนสุขไปวัน ๆ อยู่บนเกาะหรือออกเดินทางไปรอบโลกก็ได้ เพราะ Animal Crossing ให้อิสระแก่ผู้เล่นอย่างเต็มที่ แถมเวลาในเกมตรงกับเวลาเล่นจริง เช่น กดเข้าเกมไปตอนสองทุ่ม เวลาบนเกาะจะสองทุ่มเช่นกัน คล้ายกับว่าเรามีตัวตนอยู่ในเกมด้วยจริง ๆ นอกจากใช้ชีวิตอยู่บนเกาะส่วนตัว Animal Crossing ยังมีโหมด Multiplayer รองรับผู้เล่นได้ถึง 8 คน แถมเรายังสามารถแวะไปเยี่ยมเกาะของเพื่อน
“วัยเด็กของผมโตมากับยอดมนุษย์ 5 สี” UNLOCKMEN เชื่อว่าเด็กผู้ชายอีกไม่น้อยต่างเคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นแนวโทะกุซัตสึ วันเสาร์-อาทิตย์ รีบแหกขี้ตาตื่นมานั่งอยู่หน้าทีวีรอดูตำรวจเหล็กจีบัน โกเรนเจอร์ ตำรวจอวกาศเกียบันผู้บัญญัติศัพท์คำว่า “บรรยากาศมาคุ” หรือนินจาจอมคาถาอาราชิ ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้วันวานของพวกเราจะกลับมาอีกครั้งบนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Youtube บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ การ์ตูน รายการโทรทัศน์ชื่อดังของญี่ปุ่น Toei Tokusatsu (โตเอะ โทกูซัตสึ) ยอดมนุษย์และเหล่าขบวนการพิทักษ์โลกชื่อดังจากยุค 60-90 ตัดสินใจก้าวตามกระแสของโลกด้วยการเปิดช่องใน Youtube ในชื่อว่า Toei Tokusatsu World Official ที่ลงซีรีส์สุดเก๋าให้เราได้ชมกันหลังจากที่ไม่ได้ดูมานานจนบางคนอาจลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว ถือว่าเปิดตัวได้เหมาะกับสถานการณ์โลกไม่น้อย เพราะเวลานี้ใคร ๆ ก็ต้องนอนอยู่ในบ้านกันทั้งนั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องหาอะไรมานั่งดูแก้เบื่อ และช่องของ Toei Tokusatsu World Official ก็เตรียมจัดเต็มลงซีรีส์ที่ตัวเองมีกันรัว ๆ ทั้งขบวนการ 5 จอมพิฆาตโกเรนเจอร์ (Himitsu Sentai Goranger 1975) ที่ถือเป็นขบวนการ 5 สี แก๊งแรกของโลกที่ถูกสร้างเป็นหนัง เป็นผู้บุกเบิกมนุษย์สี ๆ
ถ้าใครพอรู้จักสไตล์การใช้ชีวิตกับความคิดของคนญี่ปุ่น เราจะรู้ว่าพวกเขามุ่งเน้นความคิดและจิตวิญญาณ การทำบางสิ่งจากความต้องการภายใน การเคารพธรรมชาติ บูชิโด อิคิไกและคิสึงิ ดังนั้นเมื่อมีคนทำผิดกฎหมายพวกเขาต้องรับโทษไม่ต่างจากคนทำผิดในประเทศอื่น ๆ ความแตกต่างที่น่าสนใจของกระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่นคือพวกเขาไม่ต้องการให้นักโทษรู้สึกสูญสิ้นตัวตน ไม่ได้บอกว่าคนทำผิดเป็นคนสารเลว พยายามดึงให้คนที่จิตใจต่ำทรามที่สุดรู้สึกสำนึกให้กลับมาเป็นคนดีอีกครั้ง ผ่านการบีบคั้นอยู่ในห้องสอบสวนเป็นเวลานาน ๆ เพื่อให้นักโทษรับสารภาพให้ได้ ฟังเหมือนหนังสือการ์ตูนลูกผู้ชาย แต่ระบบความยุติธรรมและความคิดส่วนใหญ่ของชาวญี่ปุ่นเป็นแบบนี้จริงๆ หลายคนเมื่ออ่านแล้วอาจยังไม่อยากปักใจเชื่อ ดังนั้น UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปสำรวจคุกญี่ปุ่นไปพร้อมกันว่าภาพของเรือนจำตรงกับที่จินตนาการไว้ตอนแรกหรือไม่ ภายใต้ความเรียบง่ายนั้นซ่อนความกดดันมหาศาลให้กับเหล่านักโทษอย่างไรบ้าง หลังผ่านกระบวนการสืบสวนสอบสวนสุดหนักหน่วงและพิสูจน์แล้วว่ามีความผิด คนเหล่านั้นถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ พอเข้ามาในเขตเรือนจำก็พบกับสไตล์สุดมินิมัลตามแบบฉบับญี่ปุ่น บรรยากาศโล่ง ไม่อึดอัด ไม่สกปรก สีขาวสะอาดตาตัดกับลูกกรงสีเทาสูงเลยหัวและพื้นกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อน เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แถมห้องพักของนักโทษญี่ปุ่นจะแตกต่างจากคุกประเทศอื่น ๆ ปกติแล้วห้องนอนในคุกควรเป็นเตียงเหล็กสองชั้นสามหลัง นอนได้หกคนท่ามกลางบรรยากาศทึบ สีเทาของพื้นปูน กำแพงคอนกรีตไร้หน้าต่าง แต่ญี่ปุ่นนำสไตล์การแต่งห้องดั้งเดิมอย่างการปูเสื่อทาทามิ มีฟูกพับได้ให้นอนที่พื้น บางห้องอยู่คนเดียว บางห้องจุคนได้ 6-12 คน การจัดห้องให้ความรู้สึกเหมือนบ้านและสะท้อนภาพลักษณ์ชาตินิยมอย่างชัดเจน แถมห้องอาบน้ำยังมีบ่อแช่ตัวเหมือนโรงอาบน้ำสาธารณะข้างนอกเรือนจำ การใช้จ่ายภายในเรือนจำเหมือนกับภาพยนตร์หรือซีรีส์คุกที่เคยดูทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศ นักโทษจะไม่ได้รับอนุญาตให้พอเงินสดแต่เงินที่ญาติ ๆ ส่งมาจะถูกเปลี่ยนเป็นแสตมป์ โดยนำโทษนำแสตมป์ไปซื้อสิ่งของที่ต้องการได้ ณ ร้านสหกรณ์เหมือนอย่างซีรีส์เรื่อง Orange is the New Black
เมื่อพูดถึงการสูญเสียของมนุษยชาติ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงสงครามโลก สงครามนิวเคลียร์ หรือการก่อการร้าย แต่แท้จริงแล้วการสูญเสียประชากรโลกอย่างมหาศาลเกิดขึ้นจากโรคระบาดมากกว่า จำนวนผู้คนหลายร้อยล้านจากไปด้วยเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงในเวลานี้ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตไวรัสอีกครั้ง UNLOCKMEN จึงอยากย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อดูว่าก่อนหน้านี้มีโรคระบาดอะไรบ้างที่คร่าชีวิตของผู้คนจนนับไม่ถ้วน และความน่ากลัวของโรคระบาดที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดนั้นน่ากลัวไม่น้อยไปกว่าระเบิดนิวเคลียร์หรือรถถังของฝ่ายศัตรูช่วงสงคราม THE BLACK DEATH กาฬโรคสีดำจากสัตว์ฟันแทะ “ความตายสีดำ” “โรคห่า” หรือ “กาฬโรค” คือชื่อของโรคระบาดร้ายแรงเกิดจากแบคทีเรียเยอร์ซิเนีย เปสติส (Yersinia Pestis) ทั้งคนและสัตว์ก็สามารถติดเชื้อนี้ได้ โดยสัตว์ฟันแทะอย่างกระรอก กระจง กระต่าย และหนู มีเชื้อชนิดนี้อยู่ในร่างกายอยู่แล้ว เชื้อสามารถแพร่ไปตามอากาศ ผู้ป่วยกาฬโรคมักเกิดอาการหลากหลายแล้วแต่กรณี เช่น ต่อมน้ำเหลืองโตส่งผลให้มีไข้ หนาวสั่น ปวดหัวรุนแรง เกิดความผิดปกติทางระบบหายใจ บางคนไอเป็นเลือดจนอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยใกล้ตายผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีดำเพราะเลือดคั่งบริเวณหนังกำพร้า จึงทำให้ใคร ๆ ต่างเรียกกาฬโรคว่าความตายสีดำ ด้วยความรุนแรงทำให้ผู้ป่วยสามารถตายได้ใน 24 ชั่วโมง ส่งผลให้กาฬโรคเป็นแบคทีเรียคร่าชีวิตของผู้คนจำนวนมากที่ยากจะมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียชนิดอื่นมาสู้ได้ แรกเริ่มที่มีการบันทึกประวัติศาสตร์โลกพบว่ากาฬโรคหรือโรคห่าเกิดขึ้นครั้งแรกในจักรวรรดิไบแซนไทน์ และแพร่กระจายไปถึงอียิปต์ เอเชียกลาง และเข้าสู่กลางกรุงคอนสแตนติโนเปิลอันโด่งดัง ผู้คนล้มตายกันวันละเป็นหมื่นคน กินเวลานานกว่า 50 ปี
เมื่อ 21 ปีก่อน แฟนคลับเกมตระกูลผีชีวะหรือ Resident Evil ได้ทำความรู้จักกับเกมภาค Resident Evil 3 เป็นครั้งแรก ความนิยมของเกมภาคดังกล่าวยังคงตรึงใจใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบัน และในที่สุดค่ายเกม Capcom ก็ขอหยิบของเก่าจากปี 1999 มาเล่าใหม่ ด้วยการคงบรรยากาศเดิมชวนคิดถึง เราจะได้เห็นจิล วาเลนไทน์ ที่หลบหนีการตามล่าจากเนเมซิสจนมาพบกับคาร์ลอสอีกครั้งผ่านกราฟิกทันสมัยขึ้นผิดหูผิดตา แม้ว่า Resident Evil 3: Remake จะเป็นของเก่าเล่าใหม่ แต่พอข่าวเรื่องการสร้างเกมผีชีวะภาค 3 อีกครั้ง ผู้คนจำนวนมากก็ให้ความสนใจกันล้นหลาม นักเล่นเกมจำนวนมากรอคอยจะได้เล่นเกมในตำนานและย้อนกลับไปยังเหตุการณ์คืนวันที่ 28 กันยายน 1998 ในเมือง Raccoon City กันอีกครั้ง Resident Evil 3: Remake เล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์คฤหาสน์ชานเมือง เมื่อ T-Virus แพร่กระจายไปสู่ชุมชน Raccoon City ด้วยฝีมือของ Umbrella บริษัทขนาดใหญ่เวชภัณฑ์ผู้ผลิตอาวุธชีวภาพ เจ้าหน้าที่หน่วยสตาร์จิล วาเลนไทน์ (Jill
หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมารณรงค์ขอความร่วมมือให้ชาวโลกออกจากบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมถึงหลายประเทศที่ออกมาตรการเด็ดขาดห้ามประชาชนออกมาข้างนอกตามเวลาที่กำหนด ดูเหมือนว่าความเครียดจะพุ่งสูงขึ้นทุกพื้นที่ เพราะการอยู่แต่ในบ้านอาจทำให้ผู้คนห่อเหี่ยวและหมดเรี่ยวแรง องค์การระดับโลกหลายแห่งพยายามหาทางออกของปัญหาวิกฤตไวรัส จึงทำให้องค์การอนามัยโลกยอมจับมือกับบริษัทผู้ผลิตเกมหลายแห่ง สนับสนุนให้ประชาชนที่กักตัวอยู่ในบ้านหันมาเล่นเกมออนไลน์ระหว่างที่รัฐบาลแต่ละประเทศกำลังเร่งจัดการไวรัสโควิด-19 ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 องค์การอนามัยโลกเคยระบุในคู่มือสำหรับการวินิจฉัยโรคระหว่างประเทศ หรือ The International Classification of Diseases (ICD) ที่ถือเป็นคู่มือสำหรับแพทย์ที่โลกว่าพฤติกรรมการติดเกม (Gaming disorder) ถือเป็นอาการป่วยทางสุขภาพจิตชนิดหนึ่ง ไม่ว่าคนคนนั้นจะติดจะเกมออนไลน์หรือวิดีโอเกมก็ตาม เหตุที่การติดเกมถูกระบุว่าเป็นอาการทางจิตเนื่องจากผู้เล่นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คนที่ติดเกมจะไม่สามารถแบ่งเวลาหรือจำกัดเวลาที่ตัวเองเล่นได้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและส่งผลเสียต่อสุขภาพ ครอบครัว สังคม การเรียนหรือการทำงานในระยะยาว บางคนเมื่อขาดการเล่นเกมจะมีอาการ ‘ลงแดง’ ไม่ต่างกับคนที่เป็นพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งการระบุว่าการติดเกมเป็นอาการทางสุขภาพจิตในคู่มือ ICD ถือเป็นการปรับปรุงเนื้อหาคู่มือในรอบ 27 ปี แต่เวลานี้องค์การอนามัยโลกออกมาบอกให้ประชาชนเริ่มเล่นเกมกันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกย้ำว่าคนที่ชอบเล่นเกมกับคนที่ติดเกมไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับคนที่ชื่นชอบดื่มเบียร์เป็นชีวิตจิตใจแต่ไม่เดือดร้อนหากไม่ได้ดื่มทุกวัน พวกเขากังวลว่าคนที่ดำดิ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปจะทำให้เกิดปัญหาตามมาและส่งผลลบที่อันตรายเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าทุกคนชอบเล่นเกมจะมีความผิดปกติทางจิต สำหรับช่วงต้นปี 2020 ภาคธุรกิจเกมพบว่าเกมออนไลน์ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Boomberg) ที่รายงานเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินระบุว่าพบอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตของชาวอิตาลีเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลบังคับใช้กฎเข้มงวดที่ให้ประชาชนเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน บริษัทที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่เป็นอับดับสองของสหรัฐอเมริกาอย่าง เวไรซอนไวร์เลสส์ (Verizon Wireless)
ตอนนี้วงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ว่าเข้มแข็งและไม่มีทางล้มง่าย ๆ เกิดเหตุระส่ำระสายไม่แพ้ธุรกิจประเภทอื่น ๆ กองถ่ายภาพยนตร์หลายเรื่องต้องเลื่อนการทำงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเสร็จแล้วเหลือเพียงแค่รอวันเข้าฉายในโรงก็ต้องถูกเลื่อนออกไป ในเวลาย่ำแย่สื่อบันเทิงก็ไม่สามารถทำหน้าที่ผ่อนคลายความรู้สึกให้กับผู้คนได้เหมือนเดิม ความเศร้าจากเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่บานปลายทำให้ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ออกมาเขียนจดหมายถึงคนรักการชมภาพยนตร์ทั่วโลก คนที่เป็นคอหนังภาพยนตร์ต่างประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของโนแลน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนหนัง หลายคนก็คงต้องเคยได้ดูผลงานการกำกับของเขาบ้าง เพราะโนแลนเป็นผู้กำกับหนังเรื่องดังทั้ง Batman Begins (2005) Inception (2010) Betman: The Dark Knight (2008) Interstellar (2014) และ Dunkirk (2017) ที่ใคร ๆ ต่างลงความเห็นว่าผลงานของเขานั้นยอดเยี่ยมในระดับปรมาจารย์ โรงภาพยนตร์คือสถานที่แรก ๆ ที่รัฐบาลหลายประเทศสั่งให้ปิดทำการ หลายคนได้รับผลกระทบกันเป็นโดมิโน ด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้โนแลนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่หลงใหลการชมภาพยนตร์แบบดั้งเดิม (ดูในโรงภาพยนตร์) ออกมาแสดงความคิดเห็นลงในคอลัมน์ของ The Washington post ว่าอยากให้คนที่หลงรักการดูหนังแวะเวียนไปโรงภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสจบลง ใจความสำคัญของบทความที่โนแลนเขียนชวนให้คิดถึงบรรยากาศการดูหนังในโรงหนัง เขาเห็นความสำคัญของธุรกิจภาพยนตร์และรู้ถึงผลกระทบรุนแรงที่ธุรกิจได้รับ คนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงหนังสักเรื่องก็มักนึกถึงนักแสดง ผู้กำกับ แต่ยังมีผู้คนในโลกธุรกิจภาพยนตร์อีกมากที่ถูกลืมทั้งคนโรงภาพยนตร์ ขายตั๋ว คนทำโฆษณา