“มหกรรมวินเทอร์ มาร์เกต เฟส #6 (Winter Market Fest #6)” ต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเทศกาลแห่งความสุขประจำปีจากแสนสิริ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Heat Winter หน้าหนาวรูปแบบใหม่ที่อบอุ่นด้วยความสุขกับเทศกาลสุดพิเศษ ให้ทุกคนได้ร่วมเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่ากันอย่างเต็มที่ Winter Market Fest #6 ยกขบวนร้านค้าแบรนด์ดัง 170 ร้าน มาให้ทุกคนได้ช้อปปิ้งกันแบบหนำใจ พร้อมมอบความสุขสนุกสนานและอิ่มอร่อยกันอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชื่อดังอย่าง โกบู๊รถซิ่ง หน่องริมคลอง ปูพ่นไฟ ทะเลทอด เกี๊ยวทอด นายอ้วนการคลัง ก๋วยจั๊บเยาวราช ขนมปังปิ้งเยาวราช แดกหัวมันส์ รสโอชา มิดไนท์โกโก้ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับสุดอินเทรนด์อย่าง SUNTUR STORE Gongkan Things และ Papers และยังจะได้สัมผัสความร้อนระอุจากเหล่าพ่อค้าแซ่บ แม่ค้าสวยสุดฮ็อต ที่ไร้เงินสดกับร้านค้าจำนวน 50 ร้านในโซน Cashless Street by SCB ที่ให้การจ่ายเงินเป็นเรื่องง่ายผ่านระบบ QR Code
เชื่อว่าวันนี้ชาว UNLOCKMEN หลายคนเป็นมากกว่า User ตามแพลตฟอร์มโซเชียลที่เข้าใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Facebook ที่สร้างเพจเป็นของตัวเอง IG ที่สามารถสร้างร้านค้าได้ หรือเทรนด์ที่กำลังฮิตมากอย่างการเป็น Vlog สร้างวิดีโออัปโหลดในแชนแนล Youtube ของตัวเองให้คนได้ตามไป Subscribe กัน เพื่อลับเหลี่ยมความคิดสร้างสรรค์ คั่วความคิดสำหรับสร้างคอนเทนต์ให้ทั้งเข้มข้น มันส์ และเด็ดขึ้น จนใครก็อดกด Play คลิปของเราไม่ได้ UNLOCKMEN จึงพลาดไม่ได้ที่จะบอกต่อโครงการดี ๆ อย่าง Youtube Pop-Up Space โครงการล่าสุดของ Youtube ที่กำลังจัดขึ้นที่ช่างชุ่ย ช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายนนี้ เผื่อใครอยากแวะเวียนกันไปลองสตูฯ และเทคนิคต่าง ๆ จะได้แบ่งปันกัน โครงการ “Youtube Pop-Up Space” ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และแน่นอนว่าความเต็มอิ่มของปีนี้ที่จัดขึ้นที่ช่างชุ่ยทำให้เราได้เล่นอะไรหลายอย่างมากขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าในงานครั้งนี้เหล่าครีเอเตอร์จะ Register จองพื้นที่สตูฯ เพื่อถ่ายทำกันจนเต็มแม็กซ์แล้ว
นาทีนี้คงไม่มีงานศิลปะไหนดังและน่าไปมากกว่า BAB2018 งานอาร์ตระดับโลกที่จะแสดงถึงแค่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 กับ 20 สถานที่แสดงงานศิลปะสุดเจ๋งในกรุงเทพฯ ที่ผู้ชายทุกคนจะต้องไปเช็กอิน ดังนั้น เมื่อเราแนะนำว่าควรไป เราย่อมไม่พลาดลงพื้นที่ไปเช็กอินกันด้วยตัวเองและนำกลับมารีวิวกันแบบเรียล ๆ เลยว่าจุดไหนน่าไปลอง และจุดไหนต้องเตรียมตัวอย่างไร หลังจากกางแผนที่ออกมาเพื่อวางแผนก่อนออกเดินทางจริง ทีมงานปรึกษากันว่า “เราจะเดินทางตามเก็บงานศิลป์กันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใน 1 วัน แต่จะเลือกไปในเส้นทางที่เดินทางได้ยากเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อ่านที่เดินทางยากมีโอกาสได้ดูงานกัน” จึงได้บทสรุปว่าทีมงานเลือกทางชมศิลปะเส้น River Route ทั้ง 8 กันโดยออกสตาร์ทที่ฝั่งปิ่นเกล้าในเวลาที่ไม่ทรมานใจชายเกินไปคือ 9.30 บริเวณเมเจอร์ปิ่นเกล้า รูปแบบการเดินทางทั้งหมดนี้เราเลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการเดินเท้าล้วน เผื่อใครจะพาคนพิเศษไปเก็บงานศิลป์ด้วยวิธีนี้จะได้จำลองสถานการณ์จริงและรู้ที่ทางการจอดรถเลย เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่จากคู่มือ BAB จะเน้นการเดินทางแบบสาธารณะมากกว่า สตาร์ทสถานที่แรก Bankok of Thailand Learning Center (BOT) บริเวณสามเสน ริมน้ำ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งเทเวศน์ ภายในจัดแสดงงานศิลปะทั้งหมด 6 ชิ้น แบ่งเป็น 3 สถานที่ที่ติดตั้งภายในอาคาร สามารถจอดรถใต้อาคารฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 20
“งานศิลปะมักจะถูกออกแบบมาในรูปแบบที่ต้องเป็นผลงานเอ็กซ์คลูซีฟมาก ๆ มีเพียงบางกลุ่มคนที่สามารถเข้าถึงงานศิลปะเหล่านั้นได้ แต่ก็ไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป และนี่คือเหตุผลที่งานศิลปะของแสนสิริจะถูกนำเสนอให้เข้ากับคนทุกกลุ่ม” ประโยคนี้เพียงประโยคเดียวจากคุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน Chief Creative Officer of Sansiri ก็ทำให้เราเข้าใจที่มาของการแสดงงานศิลปะจำนวนมากที่แสนสิริจัดขึ้น เพราะไม่ว่าจะผลงานของศิลปินระดับชาติหรือระดับโลก เราก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพราะแสนสิริมุ่งมั่นที่จะทำให้ศิลปะเป็นเรื่องของทุกคน “Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FóNICA” งานแสดงศิลปะโดย Miquel Barceló ศิลปินชาวสเปนที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับระดับโลกซึ่งจะมาจัดแสดงงานแบบสด ๆ ต่อหน้าผู้ชมใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยาในวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ก็มีจุดเริ่มต้นเดียวกัน จุดเริ่มต้นที่แสนสิริอยากให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์ศิลปะเวิล์ดคลาสได้ และเราคิดว่างานครั้งนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง และเพื่อให้เราดื่มด่ำ Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FóNICA ได้ลึกซึ้งมากขึ้น UNLOCKMEN ได้รับเกียรติจากคุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน Chief Creative Officer of Sansiri มาพูดคุยถึงที่มาของการแสดงศิลปะครั้งนี้ พร้อม ๆ กับเติมเต็มความสงสัยของเราที่ว่าองค์กรที่ดูแลเรื่องอสังหาริมทรัพย์ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับศิลปะขนาดนี้ ? เพราะบ้านเติมเต็มร่างกาย ศิลปะเติมเต็มจิตใจ Sansiri presents
เมื่อไม่กี่อาทิตย์เราเพิ่งพูดคุยกับเพื่อนไปถึงความรู้สึกตื่นเต้นเลือดสูบฉีดหลังจากที่ตั้งตารอคอยเพราะได้ยินข่าวคราวมานานเกี่ยวกับงานศิลปะสุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า BAB (แบ๊บ) ซึ่งย่อมาจาก Bangkok Art Biennale (บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่) ที่กำลังจะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพียง 2 ปีครั้งเท่านั้น และมีความพิเศษกว่าเทศกาลศิลปะอื่นที่เคยเกิด เนื่องจากเป็นการจัดแสดงงานศิลป์ที่เปิดให้ดูกันฟรี ๆ จากศิลปินจำนวนมากถึง 75 คน 33 ประเทศ รวบมาไว้ในสถานที่แห่งเดียวคือ “กรุงเทพฯ” ที่ ๆ เรากำลังย่ำเท้าอยู่ตอนนี้ แต่สิ่งที่ได้ยินจากเพื่อนกลับเป็นคำว่า “เฮ้ย! มีด้วยเหรอ” ดังนั้น เพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN คนไหนต้องพลาดการเสพศิลป์ครั้งนี้แล้วร้องเสียดายกันภายหลัง เพราะย้ำอีกครั้งว่างานจัดแค่ 2 ปีครั้งเท่านั้น แถมสิ่งที่คุณจะได้เห็นปีนี้ก็อาจจะไม่ได้เห็นในปีหน้า อยากดูอาจต้องเสียค่าตั๋วบินไปดู เราจึงขอเปิดวาร์ปไปชมงานตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่จัดแสดงทั่วกรุงเทพฯ ด้านล่าง สนใจชมผลงานของศิลปินคนไหนเป็นพิเศษก็อย่าพลาดไปดูกันล่ะ 101 BANGKOK ART BIENNALE เพื่อให้สนุกกับการเปิดแรลลี่ดูงานศิลปะ BAB 2018 มากขึ้น
ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการประกาศไลน์อัพใหม่ระดับเฮดไลเนอร์จากงาน Maho Rasop Festival (มหรสพ เฟสติวัล) กับ “SLOWDIVE” วงดนตรีจากอังกฤษที่หนุ่ม ๆ หลายคนยกให้เป็นวงที่ต้องดูการเล่นสดสักครั้งในชีวิต ซึ่งพวกเขาถือเป็นรุ่นเก๋าของวงการที่อยู่มายาวนานตั้งแต่ยุค 90’s พร้อมกับอัลบั้ม 3 ชุด ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปี 2017 และได้เริ่มทัวร์เล่นตามเฟสติวัลในต่างประเทศอย่างเช่น Laneway Festival ที่สิงคโปร์รวมไปถึงทัวร์ในยุโรปด้วยและการมาเยือนไทยครั้งนี้ถือว่าเป็นโชว์ครั้งเดียวบนทวีปเอเชียของพวกเขาในปีนี้ นับว่าเป็นข่าวดีของแฟนชาวไทยที่จะมีโอกาสได้ดูการแสดงสดวงระดับตำนานแห่ง Shoegaze และ Dream pop กับท่วงทำนองชวนล่องลอยและซาวด์กีต้าร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่จะทำให้พลังแห่งการเล่นสดยิ่งเพิ่มความมันส์เป็นทวีคูณ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่พวกเขาได้มาเข้าร่วมในงาน Maho Rasop ในครั้งนี้ ซึ่งการกลับมาในปีที่แล้วกับเพลง Sugar for the Pill ก็ทำให้หลายคนที่คิดถึงต่างตื่นเต้นกับอัลบั้มเต็มที่ใช้ชื่อเดียวกับวงคือ Slowdive ทำให้กระแสความเจ๋งของพวกเขาไม่เคยห่างหายไปเลย เรียกได้ว่างานนี้ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทุกประการ ใครนึกบรรยากาศแบบ Slowdive ไม่ออก เรามีตัวอย่างผลงานบางเพลงที่เราชื่นชอบมาให้ลองผ่านหูกันดูก่อน ใครที่ยังตัดสินใจอยู่อาจจะไม่ต้องรออีกต่อไป เพราะนอกจาก Slowdive แล้วยังมีกองทัพศิลปินอย่าง The Vaccines, DEAN, PREP, Sunflower Bean,Washed Out, Oddisee,
ขึ้นชื่อว่าผู้ชายสุดเหวี่ยงแล้ว เมื่อทำงานเหนื่อยหนักมาทั้งปี อยากไปปาร์ตี้ทั้งทีก็ต้องเลือกปาร์ตี้แบบมันส์สุดขีดให้ได้ปลดปล่อยความสนุกสุดขั้ว แต่ปาร์ตี้ที่มาพร้อมความสนุกสุดเหวี่ยงมักขาดความสะดวกและความลงตัวด้านอื่นไปอย่างน่าเสียดาย จะดีแค่ไหนถ้ามีปาร์ตี้ที่ให้ความสนุกกับเราได้อย่างเต็มสูบ แต่ในขณะเดียวกันก็ BLEND รสชาติความสะดวกสบายและความบันเทิงอื่น ๆ ไว้ได้อย่างกลมกล่อม Waterzonic 2018 คือปาร์ตี้ที่เราขอยกให้เป็นปาร์ตี้ที่ตอบโจทย์ในฝันของผู้ชายรักสนุกสุดเหวี่ยงอย่างพวกเราแบบไม่มีข้อกังขา เพราะไม่ว่าจะมากับเพื่อนแก๊งใหญ่ที่เต็มไปด้วยเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์ความสนุกเหมือนกันสุดขีดหรือต่างกันสุดขั้วแค่ไหน งานนี้ก็ชวนให้พวกเรา Let’s BLEND ความสนุกเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว Waterzonic 2018 ถือเป็นการกลับมาการันตีความมันส์อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 การกลับมาครั้งนี้มาอย่างยิ่งใหญ่และมันส์ทุกหยาดหยดสมกับการเป็นปาร์ตี้กลางสายน้ำที่ชุ่มไปด้วยความเปียกและฉ่ำไปด้วยความสนุกยากจะหาใครเหมือน โดยในปีนี้ Waterzonic จัดเป็นเฟสติวัล 2 วันเหมือนที่ผ่านมา แถมดึงเอาจุดเด่นของ EDM Festival มาโชว์ได้แบบอลังการ สำหรับใครที่พลาดโอกาสไปเสพสุขเมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2561 ที่ไลฟ์พาร์ค พระราม 9 ก็ไม่ต้องเสียใจไป เราเก็บภาพบรรยากาศความมันส์มาให้ได้เสพกันเต็มอิ่มแน่นอน โปรดักชั่น Waterzonic ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นปาร์ตี้ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำแต่เรื่องแสงสีเสียงและดอกไม้ไฟสุดอลังการก็จัดหนักมาให้เราได้เต็มอิ่มกับการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเสียงเพลงราวกับลอยหลุดไปอีกโลกที่มีแต่ความสนุกสุดเหวี่ยง ที่สำคัญดีเจตัวท็อปที่ตบเท้าขึ้นเวทีมาให้เราได้ศุดปากตื้นเต้นไม่ขาดสายทั้ง Yellow Claw, Dimitri Vegas & Like Mike, San Holo และอีกมากมายที่ทำให้เราใจเต้นแรงด้วยความเมามันส์ตลอดงาน
ถ้าพูดถึงเทศกาลเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทุกคนต่างต้องยกนิ้วโป้ง ให้กับงาน Oktoberfest เทศกาลเบียร์ที่คนทั้งโลกตั้งตารอ จัดขึ้นที่ Munich ประเทศ Germany เชื่อว่าหลายๆคนใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสประสบการณ์เทศกาล Oktoberfest ด้วยตัวเองกันสักครั้งในชีวิต เพราะจะมีอะไรดีไปกว่าการได้ดื่มเบียร์ดีๆ พร้อมกินอาหารรสชาติเยี่ยม ที่เข้ากันได้ดีกับเสียงดนตรีและกิจกรรมสนุกๆ ข่าวดี!! Federbräu ได้เนรมิตร The Link Asoke-Makkasan วันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ให้กลายเป็น Oktoberfest เทศกาลเบียร์ และอาหารครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกในกรุงเทพ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการดื่มและอาหารอร่อยจากร้านดัง พร้อมกิจกรรมสนุกๆ และ คอนเสิร์ตจากศิลปินต่างๆ มากมาย และเรามี 5 สิ่ง น่าสนใจภายในงาน เกี่ยวกับ Oktoberfest ครั้งนี้ที่ คุณไม่ควรพลาด !!! 1. Transport Back 200 Years in 200 Seconds ย้อนกลับไปสัมผัสกับประวัติของเทศกาล Oktoberfest ที่มีมากว่า 200 ปี เทศกาล
ผู้นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกอย่าง NIKE ได้สร้างปรากฏการณ์ท้าทายขีดจำกัดแห่งความเร็วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านรายการเฟ้นหานักวิ่งสายสปีดทั่วทั้งกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาโดยไนกี้เองได้เปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมวิ่งด้วย แอพฯ NRC+ พร้อมกับรองเท้าไนกี้ของตนเองด้วยความเร็วในระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้น หลังจากนั้นไนกี้ยังได้เตรียมความพร้อมให้บรรดา speedsters ด้วยการซ้อมวิ่งสปีดแบบเข้มข้นกับ NRC BKK พร้อมทดลองรองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Pegasus 35 ที่ไนกี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อการซ้อมวิ่งโดยเฉพาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับความเร็ว พร้อมคำแนะนำจาก NRC Coach ให้นักวิ่งสายสปีดมีความพร้อมที่สุดสำหรับรอบไฟนอล โดยสนามประลองความเร็วรอบสุดท้ายได้ถูกจัดขึ้นที่ลานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 สะพานพุทธ โดยบรรดานักวิ่งฝีเท้าลมกรดทั้งหญิงและชายรวมแล้วกว่า 121 คน ประกอบด้วยนักวิ่งหญิง 61 คน และนักวิ่งชาย 60 คน ต่างร่วมท้าทายขีดจำกัดความเร็วของตนเอง รวมระยะทางทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร ทันทีที่เสียงปืนดังขณะปล่อยตัว บรรดานักวิ่งสายสปีดพร้อมด้วยรองเท้าวิ่งไนกี้คู่ใจต่างหวดฝีเท้าของตนเองออกจากจุดปล่อยตัว มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยาและกลับตัวเพื่อวิ่งเข้าสู่เส้นชัย ณ ลานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 โดยตลอดเส้นทางการวิ่งทั้ง NRC โค้ชและเพเซอร์ต่างล้วนวิ่งประกบกลุ่มผู้เข้าแข่งขันเพื่อคอยกระตุ้นและดูแลนักวิ่งตลอดทั้งเส้นทาง นอกเหนือจากนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ได้แก่
เกษรวิลเลจ (GAYSORN VILLAGE) อาณาจักรธุรกิจและไลฟ์สไตล์ในรูปแบบเออร์บันวิลเลจแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย นำโดย ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ รังสรรค์นิยามบทใหม่ เพื่อขับเคลื่อนไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเหล่าสุภาพบุรุษ จัดเอ็กซ์คลูซีฟ ปาร์ตี้เปิดงาน “GAYSORN MENLLENNIAL” (เกษร เมนเลนเนียล) ด้วยการผสานอัตลักษณ์ของ MEN x MILLENNIAL MINDSET ผ่านประสบการณ์ “TALK – TASTE – PASSION” (ทอล์ก – เทสต์ – แพสชั่น) อันสะท้อนภาพลักษณ์ของความเป็นสุภาพบุรุษผู้มีความรู้ พิถีพิถัน และมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในรูปแบบไม่ซ้ำใคร โดยได้เนรมิตอาณาจักรเกษรวิลเลจให้กลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์มีสไตล์สำหรับคุณผู้ชาย เพื่อมาร่วมอัพเดท เทรนด์ เรียนรู้และเติมเต็มความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัดไปกับกิจกรรมสุดพิเศษที่จัดขึ้นเอาใจหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะ ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายนนี้ ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ กล่าว “เพราะผู้ชายในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง รวมถึงมองหารูปแบบและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น เกษรวิลเลจ อาณาจักรธุรกิจและไลฟ์สไตล์ในรูปแบบเออร์บันวิลเลจแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยตั้งอยู่ใจกลางราชประสงค์อันเป็นย่านไลฟ์สไตล์และแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ
เปิดประสบการณ์การวิ่งในเมืองอย่างแท้จริง เมื่อ ADIDAS จัดกิจกรรมวิ่งครั้งยิ่งใหญ่ “ON-THE-GO City Hunt” เพื่อฉลองการเปิดตัวรองเท้า Pureboost Go ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งซิตี้รันโดยเฉพาะ ระดมพลนักวิ่งร่วมพันชีวิตตะลุยกรุงฝ่าฐานกิจกรรมสุดมันส์ 6 ฐาน ที่จัดขึ้นพร้อม ๆ กัน 3 เส้นทาง เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเมกะ บางนา ตลอด 2 ช่วงเวลาทั้งเช้าและเย็น ให้นักวิ่งสายสตรีทได้โชว์ทักษะการวิ่งไปพร้อม ๆ กับไหวพริบและพละกำลังที่จะต้องฝ่าฐานกิจกรรมที่อยู่ตามเส้นทางต่าง ๆ ไปให้ได้ โดยมีเซเลบฯ ชื่อดัง แท็คทีมกันมาวิ่งสนั่นเมือง นำโดย 2 กัปตันทีม อาดิดาส รันเนอร์ส แบงค็อก (adidas Runners Bangkok) โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร, ตุลย์-ตุลยเทพ เอื้อวิทยา และดารานักวิ่ง แนท – อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ควงคู่มากับพี่สาว นิต้า-อนิพรรณ
คาเฟ่รูปแบบใหม่ “โบดัม ป๊อบอัพ คาเฟ่ แอท แสนสิริ เลาจน์ (BODUM Pop-up Café at Sansiri Lounge)” ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟแบบสโลว์คอฟฟี่ ที่พร้อมจะมอบกาแฟคุณภาพดีที่สุดให้กับคุณ กับเมล็ดกาแฟไทยหลากหลายสายพันธุ์ ที่นำมาซึ่งกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว ผสมผสานกับการชงกาแฟด้วยมือแบบเฟรนช์เพรส ที่สามารถดึงรสสัมผัสของกาแฟให้โดดเด่น ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงาน ‘Slow Coffee with Thai Blends by Sansiri x Bodum’ พบกับบาริสต้าที่มีความเชี่ยวชาญการชงกาแฟด้วยมือแบบ เฟรนช์เพรส หลากเทคนิคจาก โบดัม แบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 75 ปี ซึ่ง “โบดัม ป๊อบอัพ คาเฟ่ ณ แสนสิริ เลาจน์” พร้อมแล้วที่จะรังสรรค์ประสบการณ์การดื่มกาแฟสโลว์คอฟฟี่ให้กับครอบครัวแสนสิริและผู้รักการดื่มกาแฟ ณ แสนสิริ เลาจน์ ชั้น 3 สยามพารากอน ภายในงาน ‘Slow Coffee with Thai