สำหรับชาว UNLOCKMEN ที่เน้นใช้จ่ายผ่านบัตร นอกจากจะมีเหตุผลหลักเรื่องความสะดวกสบาย และความปลอดภัยกับการที่ไม่ต้องพกเงินสดมากมายในยามที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน เราเชื่อว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเปิดบัตรใหม่มาใช้งานกันสักใบหนึ่ง หลังจากได้ทำการเปรียบเทียบบัตรหลาย ๆ ใบที่ให้สิทธิพิเศษที่น่าสนใจมากสำหรับไลฟ์สไตล์พวกเรา วันนี้บอกเลยว่าสิทธิพิเศษจากชาร์จการ์ดอย่าง บัตรแพลทินัมเมทัลจากอเมริกัน เอ็กซ์เพรส นั้นจัดหนักจัดเต็มความ Privilege ซึ่งเรียกได้ว่าครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผู้ชายอย่างแท้จริง และเมื่อย่างเข้าศักราชใหม่แบบนี้ ก็ถึงเวลาที่จะมาอัพเดท Benefit ใหม่ ๆ ว่าในปี 2021 นี้ บัตร Amex Platinum จะจัดสิทธิประโยชน์อะไรมาให้เหล่าสมาชิกได้ใช้เอกสิทธิ์เหนือระดับแบบคุ้มเม็ดเงินในทุกยอดใช้จ่าย ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ทั้งเรื่องกิน เรื่องบิน เรื่องเที่ยว ได้อย่างไรบ้าง เริ่มต้นด้วยความพิเศษแรก กับมื้ออาหารรสเลิศจากห้องอาหารชั้นนำ ที่มาพร้อมเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะเจ้าของบัตร Amex Platinum เท่านั้น รับบัตรกำนัลรับประทานอาหารมูลค่า 17,000.- บาท ในโรงแรมชั้นนำ ได้แก่ – บัตรกำนัล 1,000.- บาท จำนวน 5 ใบ ที่ห้องอาหาร Liu, Conrad Bangkok –
ในปีที่ความร้อนแรงของ Skate Culture คลอบคลุมไปทั่วทุกหัวเมือง UNLOCKMEN อยากแนะนำร้านสเก็ตดีๆ ที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากจะปรับแต่งสเก็ตหรือมือใหม่ที่จะเริ่มต้นเล่นแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงลองเลื่อนลงไปดูร้านต่างๆ ที่เราคัดสรรค์มาให้ สะดวกที่ไหน ถูกใจร้านไหนก็ลองไปจัดกันตามสะดวกครับ Preduce Skateboards ณ สยามสแควร์ซอย 1 ร้านสเก็ตบอร์ดระดับตำนานนี้เปิดขึ้นที่สยามสแควร์ตั้งแต่ปี 2006 โดยกลุ่ม Pro Skate อันดับต้นๆ ของประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกจากวิดีโอเล่นสเก็ตที่ถูกปล่อยออกมาในปี 2006 ที่ร้าน Preduce มีของเยอะแยะมากมายให้คุณได้เสียเงินไม่ว่าจะเป็น สเก็ตบอร์ด อุปกรณ์สเก็ตบอร์ดต่างๆ ที่เป็นสินค้าแบรนด์ Preduce และแบรนด์สินค้านำเข้า รวมถึงสินค้าแฟชั่นพวกเสื้อผ้า รองเท้าต่างๆ คือถ้าคุณคิดจะเริ่มเล่นสเก็ต เดินเข้าไปที่ร้าน Preduce รับรองว่าเดินออกมาจากร้านก็พร้อมไถได้เลย Switch sk8 shop หนึ่งเดียวในห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ที่เปิดร้านมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี ร้าน Switchsk8shop มีอุปกรณ์หลากหลายให้เลือกมากมาย ทางร้านยินดีให้คำปรึกษาโดยผู้มีประสบการณ์ด้านสเก็ตบอร์ดกว่า 20 ปี สำหรับชาวสเก็ตที่อยู่ทางโซนรังสิตลุยได้เลยครับ ร้านอยู่ในห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
เมื่อเวลาหมุนวนมาบรรจบครบเดือนที่ 12 ของปฏิทินทีไร เชื่อว่าหลายคนคงกำลังเฝ้ารอกิจกรรมสนุก ๆ จาก ไฮเนเก้น ที่มักจะมีแคมเปญเจ๋ง ๆ แตกต่างอย่างมีคอนเซปต์ตามสไตล์ของแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกแบรนด์นี้ออกมาต้อนรับช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีอยู่โดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ ไฮเนเก้น ก็ไม่พลาดที่จะจัดเต็มด้วยแคมเปญสุดอลัง เพื่อยกระดับการสังสรรค์ช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองให้พิเศษกว่าที่เคย ด้วยการสร้างจุดเด่นแบบไม่เหมือนใคร เพื่อต่อยอดแนวคิดโกลบอล “Because you’re one in a billion” ที่เชื่อว่าทุกคนล้วนมีความพิเศษในตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ในปีนี้ ไฮเนเก้นเลือกสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกว่าทุกปีด้วย Heineken® Festive Campaign 2020 เพื่อสร้างประสบการณ์การเฉลิมฉลองปีนี้มีให้มีความพิเศษกว่าใคร ให้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ผ่านทาง Element ต่าง ๆ เหล่านี้ สำหรับสิ่งแรกที่ถือเป็นสัญญาณการมาถึงของแคมเปญแจ่ม ๆ ส่งท้ายปีจากไฮเนเก้น ที่หลายคนน่าจะเริ่มสังเกตเห็นกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา คืองานแพทเทิร์น Heineken® Festive Edition 2020 ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ไฮเนเก้นแบบแตกต่างกว่าเดิม โดยดึงเอาอัตลักษณ์ของแบรนด์ ไฮเนเก้นมาจัดวางออกแบบให้ทันสมัยเป็นดีไซน์บนฉลากของผลิตภัณฑ์ที่มีไม่ซ้ำกันถึง 30 ลายทั้งรูปแบบขวด และกระป๋อง ที่ต้องยอมรับว่ามันช่างโดดเด่นเตะตานักสะสมอย่างเรา ๆ เสียเหลือเกิน อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Heineken® One in a Billion Instagram Filter ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองวิธีคิดของไฮเนเก้น ที่ตั้งใจส่งต่อความสนุกสนานในทุกที่ไม่เว้นแม้แต่บนโลกออนไลน์
ท่ามกลางความวุ่นวายของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน การให้รางวัลกับตัวเองด้วยออกไปพบกับโลกที่เราทุกคนสามารถเลือกดื่มด่ำไปกับรูปแบบชีวิตที่พิถีพิถัน ถือเป็นการพักผ่อนชาร์จพลังให้ชีวิตด้วยอีกขั้นของไลฟ์สไตล์ซึ่งเราขอนิยามด้วยคำว่า ‘Live High’ การมีความสุขกับสิ่งที่ใช่ซึ่งช่วยเติมเต็มวิถีชีวิตยุค New Normal ให้มีความสุข เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ในทุก ๆ วัน และในวันนี้ UNLOCKMEN ร่วมกับ YAMAHA Grand Filano Hybrid จะชวนผู้อ่านทุกท่านออกไปค้นพบพิกัดเติมความสุขกับสิ่งที่ใช่ในวิถี ‘Live High’ ใช้ชีวิตอย่างมีคลาสกับ 3 กิจกรรม จาก 3 สถานที่ไม่ใกล้ ไม่ไกล สามารถจัดโปรแกรม One Day Trip มีเวลาว่างแค่วันเดียวก็สามารถออกไป ‘Live High’ ได้ครบทุกโลเคชั่น เพราะแต่ละที่นั้นล้วนแล้วแต่หลบซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร รอให้ทุกคนได้ไปสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขสุดพิถีพิถันด้วยตัวเอง สำหรับพิกัดใช้ชีวิตแบบ ‘Live High’ ที่แรก คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การเริ่มต้นวันใหม่ภายใต้บรรยากาศดี ๆ ที่ The Hub Cafe and Eatery คาเฟ่เรือนกระจกที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยพระรามเก้า 41 ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโมเดิร์นชั้นเดียว หลังคาทรงจั่วประกอบแผ่นไม้สีเข้มเข้ากับกระจกบานใหญ่
ถึงแม้จะมีต้นกำเนิดมาจากซีกโลกตะวันตก แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ ‘สเต็ก’ ได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของบ้านเราไปแล้ว มี Steak House เกิดขึ้นมากมายจนสามารถหารับประทานได้ง่าย ๆ ไม่ต่างจากอาหารไทย ไล่เรียงตั้งแต่สเต็กราคาประหยัดที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึงสเต็ก ‘High-End’ ที่หนึ่งชิ้นราคาอาจสูงถึง 5 หรือ 6 หลักเลยทีเดียว เราคิดว่าน่าจะมีหนุ่ม ๆ ไม่น้อยที่ชื่นชอบเจ้าอาหารชนิดนี้ เราเองก็เช่นกัน เพราะถึงแม้สเต็กจะมีหน้าตาเรียบง่าย แต่แท้จริงแล้วมันคือศาสตร์อย่างหนึ่งที่ซับซ้อน มีปัจจัยมากมายไม่ว่าจะเป็นประเภทของเนื้อ, วิธีการหมัก, วิธีการย่าง, หรือแม้กระทั่งการใช้ความร้อน ด้วยเหตุนี้ UNLOCKMEN จึงขอแนะนำ 5 ร้านสเต็กที่เราชื่นชอบ มาเอาใจหนุ่ม ๆ สายเนื้อโดยเฉพาะ Neil’s Tavern ร้านสเต็กเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1969 ซึ่งแน่นอนว่าด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีจึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน Steak House ที่เหล่า Steak Lover ต้องหาโอกาสมาลิ้มลองให้ได้สักครั้ง ตามชื่อ Neil’s Tavern การตกแต่งของที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในโรงเตี๊ยมสักแห่งในยุโรป เป็นความรู้สึกที่ทั้งเคร่งขรึมและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน Why I Love
ผ่านเวลามาแล้วเกือบปี กับวิกฤตการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อพวกเราชาวไทยในแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนรูปแบบไปภายใต้นิยามวิถีชีวิตใหม่ ที่ไม่ว่าใครต่างก็เข้าใจว่า New Normal นั้นคืออะไรโดยไม่ต้องอธิบายกันให้มากความ แต่ขณะที่หลายคนปรับตัวรับมือการใช้ชีวิตแบบ New Normal มาแล้วร่วมปี ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายชีวิต หลายอาชีพ หลายธุรกิจ หลากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงบาดเจ็บจากผลกระทบที่ได้รับอันสืบเนื่องมาจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสมหาภัย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่ได้รับผลกระทบแบบเต็ม ๆ โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าในจำนวนคนไทยที่ตกงานทั้งหมด มีมากกว่ากว่า 1 ล้านคนที่มาจากธุรกิจโรงแรม และธุรกิจร้านอาหาร จากรายงานตัวเลขที่ยังคงน่าเป็นห่วง เป็นเหตุให้แบรนด์ไทยที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานกว่า 80 ปี มีโอกาสรับรู้และร่วมก้าวผ่านวิกฤติกับพี่น้องชาวไทยมามากมายหลายครั้งอย่าง Mekhong อยากที่จะลุกขึ้นมาการสนับสนุนให้คนไทยสามารถฝ่าฟันวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยกันอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของการปล่อยแคมเปญ CSR ที่น่าสนใจอย่าง ‘Thai Spirit At Home’ โดยทาง คุณสรรศิริ ยอดเมืองเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดสุรา บริษัท ไทยเบฟ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์หลักของโปรเจกต์ ‘Thai Spirit At
“A gentleman’s choice of timepiece says as much about him as does his Saville Row suit.” – Ian Fleming เสน่ห์ของนาฬิกาข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับสุดหรูที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ สะท้อนถึงรสนิยม ภาพลักษณ์ รวมถึงตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาฬิกาแต่ละเรือนก็มีเสน่ห์และเหมาะสมกับโอกาสการสวมใส่ที่แตกต่างกันออกไป ในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบหรือสนใจนาฬิกาอยู่แล้ว การลงทุนในสิ่งที่รักและหลงใหลอย่างนาฬิกาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การลงทุนในด้านอื่น ๆ นี่คือโอกาสดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเรือนเวลา เพราะ Luxetime “Luxury Watch Consignment แห่งแรกในไทย” ได้จัดอีเวนต์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สุด Exclusive ครั้งแรกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxetime Beyond the Time” “คุณตั้ม- ชนกพล ไชยศุภรากูล”ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Luxetime กล่าวว่าอีเวนต์แรกของ Luxetime ครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Timepiece จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ มาร่วมสัมผัสความสวยงามหรูหราเหนือกาลเวลา และยังเป็นการรวมตัวของสาวกนักสะสมที่ต่างนำนาฬิกาเรือนคู่ใจของตัวเองมาอวดโฉม พร้อมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ภายในงานประกอบไปด้วยนาฬิกาแบรนด์หรูระดับโลกที่ยกขบวนกันมาแบบจัดเต็ม
ม้ากับผู้ชายเป็นของคู่กันก็ว่าได้ เพราะเรามักจะเห็นผู้ชายเท่ ๆ ขี่ม้า อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ตำนานร็อกแอนด์โรลชื่อดังอันดับโลก, รัสเซล โครว์ นักแสดงชาวนิวซีแลนด์-ออสเตรเลีย หรือ ริชาร์ด แฮมมอนด์ พิธีกรรายการทีวีชื่อดังชาวอังกฤษ ฯลฯ การขี่ม้าจึงเป็นกีฬาแอดเวนเจอร์ที่ผู้ชายหลายคนหลงใหลเลยก็ว่าได้ แต่จะดีสักแค่ไหน ถ้าผู้ชายอย่างเรา ๆ สามารถขี่ม้า ชมม้า และทานอาหารในเคบินสไตล์สแกนดิเนเวียที่เปิดให้สัมผัสแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านเข้ามาภายใน และชมความเขียวชะอุ่มของธรรมชาติไปพร้อมกันได้ในที่เดียว เรากำลังพูดถึง ‘The Hay’ ซึ่งเป็นร้านอาหารครอบครัวที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านชานเมืองอย่างบางบอน โดยความพิเศษของที่นี่คือเป็นทั้ง ศูนย์ขี่ม้า (Equestrian Center) และร้านอาหาร (Eatery) ในที่เดียวกัน เดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปดูว่าร้านนี้มีความพิเศษและเหมาะกับผู้ชาย UNLOCKMEN อย่างไรบ้าง จุดเริ่มต้นของ The Hay ร้านนี้เริ่มต้นขึ้นจากแนวคิดการใช้พื้นที่เปล่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอนแรกพื้นที่ตรงนี้เป็นเพียงที่เลี้ยงม้าเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการเพาะพันธุ์ม้าเพิ่มขึ้น ม้าในพื้นที่จึงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามมา ทางเจ้าของร้างจึงเกิดไอเดียสร้างสนามฝึกสอนขี่ม้าขึ้น พร้อมดึงคนในครอบครัวมาช่วยทำร้านอาหาร จึงเกิดเป็น The Hay
ตอนนี้กระแส Cafe Hopping กำลังมา ผู้ชายหลายคนน่าจะมองหาคาเฟ่บรรยากาศดีสักที่ เพื่อพาสาวไปด้วยกันได้ ซึ่งคาเฟ่ที่เราจะมาแนะนำวันนี้ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของบรรยากาศเท่านั้น แต่เรื่องเมนูกาแฟก็โดดเด่นไม่แพ้กัน บางร้านอาจจะมาในสไตล์มินิมอล บางร้านอาจจะมาในสไตล์ย้อนยุค บางร้านอาจจะมาในสไตล์ดิบ ๆ เรียกได้ว่าครบรสในบทความเดียว ไปดูกันว่าจะมีร้านน่าสนใจอะไรบ้าง VAREN หากมีโอกาสได้ไปเดินเล่นแถวดิโอสยาม เราจะพบกับคาเฟ่สีขาวดำตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน ความโดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้ คือ การดัดแปลงตึกเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่มินิมอลสุดเรียบหรูที่ผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น กระจกใส ขอบกระจกโค้งมน กำแพงสีเรียบ เฟอร์นิเจอร์ลายหินอ่อน ทุกองค์ประกอบหลอมรวมให้เกิดสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสะดุดตาในย่านเมืองเก่า ภายในร้านนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้น 1 และ 2 จะเป็นส่วนของที่นั่งและคาเฟ่ ซึ่งจะมีทั้งแบบเป็นโซนธรรมดา และสโลว์บาร์ ส่วนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ เรียกได้ว่า จิบกาแฟ ชมวิว เสพงานศิลปะ ได้ในแห่งเดียว นอกเหนือจากเรื่องความสวยงามของร้านแล้ว เมนูกาแฟของทางร้านก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเมล็ดกาแฟที่ร้านเลือกใช้ตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม ทั้งคนที่ชอบกาแฟรสเข้ม และคนที่ชอบกาแฟรสเปรี้ยวผลไม้ และยังมีเมล็ดกาแฟ Special Blend ไว้สำหรับคนที่อยากลองทานกาแฟรสพิเศษที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
สำหรับใครที่ชื่นชอบเล่นกีฬาท้าทายความสามารถ ค่อนข้างจะผาดโผน และที่สำคัญคือต้องเปียก วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จัก Skim Cafe สถานที่จิบกาแฟ Hang Out พบปะผู้คนเจ๋ง ๆ ที่มีพื้นที่เล่นกิจกรรมมันส์ ๆ อย่าง Skim Board เอาไว้รองรับมาฝากกัน บอกเลยว่า สำหรับคนที่กำลังมองหากีฬาใหม่ ๆ ที่ได้ออกแรงทุกส่วนของร่างกาย แถมยังได้ความเร้าใจห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ก่อนอื่นเรามารู้จักกับกีฬา ‘Skim Board’ ที่ว่ากันนี่ก่อนเลยดีกว่า โดยคุณโจ้เจ้าของร้าน Skim Cafe เล่าว่า “จริงๆ แล้ว Skim Board เริ่มต้นครั้งแรกที่ Laguna Beach, California โดยเริ่มจาก Lifeguard (ยามชายฝั่ง) ใช้แผ่นไม้ทรงกลม ๆ หรือวงลี เป็นพาหนะไถเรื่อย ๆ ในการตรวจตราตามหาด ส่วนในประเทศไทยเนี่ย จริง ๆ ก็มีมาประมาณ 10 ปีแล้ว และเหมือนจะได้รับความนิยมมาช่วงนึง แต่มันก็ไม่ได้มีการโปรโมทจริงจัง”
ลูกผู้ชายอย่างเราอาจไม่ได้สนใจเรื่อง ‘คิ้ว’ มากเท่ากับผู้หญิง และไม่ซีเรียสมาก เมื่อต้องโกนคิ้วเวลาบวช หรือ คิ้วแตกจากการทะเลาะวิวาท แต่ถ้าถามว่า ผู้ชายอย่างเราไม่มีคิ้วได้ไหม ? หลายคนก็คงตอบว่าไม่ได้เหมือนกัน เพราะเมื่อไร้ซึ่งคิ้วแล้ว เราก็คงจะรู้สึกประหลาด ๆ เหมือนที่เรารู้สึกเวลาได้เห็นใบหน้าของดาราที่ถูกตัดต่อคิ้วออก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า คิ้วยังจำเป็นสำหรับเราอยู่ โดยเฉพาะคิ้วที่ดูเท่และมีสไตล์ ตอนนี้มีเทรนด์ที่น่าสนใจเรียกว่า ‘Eyebrow Cut’ ที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มหญิงและชาย ทั้งในประเทศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเราอยากพาทุกคนไปรู้จักกับเทรนด์ที่ว่านี้มากขึ้น พร้อมแนะนำเบสิคในการเข้าถึงลุคนี้ให้ทุกคนนำไปทำตามกันด้วย WHAT IS EYEBROW CUT ? การตัดคิ้ว (Eyebrow Cut) คือ การทำรอยบนคิ้ว (ส่วนใหญ่เป็นรอยแนวตั้ง) ด้วยอุปกรณ์ เช่น มีดโกน หรือ เทป หลายคนมักเรียกวิธีนี้ว่า ‘Eyebrow Slit’ แต่ก็มีคนที่แย้งว่ามันเป็นการเรียกที่ผิด เพราะวัฒนธรรมฮิปฮอปดั่งเดิมจะเรียกมันว่า Cut มากกว่า การแต่งคิ้วสไตล์นี้มีมาตั้งแต่สมัยของ Big Daddy Kane แร็ปเปอร์ชาวสหรัฐฯ ที่นำเทรนด์นี้ตั้งแต่ยุค
สุดสัปดาห์มาถึง พร้อมบรรยากาศวันลอยกระทงของปี 2020 ที่ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมพอดิบพอดี ถึงหลายปีที่ผ่านมาเราจะออกไปลอยหรือไม่ลอยกระทงบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำนั้นช่วยเยียวยาหัวใจที่เหนื่อยล้าจากการงานมาทั้งสัปดาห์ได้อยู่หมัด โดยเฉพาะคืนลอยกระทงที่พระจันทร์สว่างนวล มีแสงเทียนจากกระทงวิบไหวให้เราได้ผ่อนคลาย อย่ามัวนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ลองดู 5 บาร์ที่เราอยากชวนไปรู้จัก รับรองว่าลมแม่น้ำ แสงจันทร์สะท้อนคลื่น และกลิ่นเฉพาะของเจ้าพระยาจะช่วยปลอบโยนหัวใจและร่างกายแสนเหนื่อยล้าได้แน่นอน Samsara Bar ถ้าจะมีสักพื้นที่ในเมืองหลวงอันวุ่นวายแห่งนี้ที่เป็นเหมือนสถานที่พักใจ สถานที่ที่เวลาเดินช้าลง และทำให้เราได้อยู่กับแต่ละวินาทีตรงหน้าอย่างเต็มอิ่มที่สุด เราขอยกให้ Samsara Bar เป็นหนึ่งในสถานที่นั่น การที่ที่ตั้งบาร์ซ่อนตัวอยู่ในซอกซอยที่ต้องเดินผ่านอู่ซ่อมรถเข้ามา ยิ่งทำให้เหมือนเราได้เดินทางเข้าไปสู่อีกโลก พร้อมกับที่บรรยากาศของ Samsara Bar อยู่ชิดแม่น้ำเจ้าพระยาในระดับที่ได้ยินเสียงคลื่นแม่น้ำซัดฝั่งทุกครั้งที่เรือแล่นผ่าน ชวนให้หัวใจสงบอย่างประหลาด ที่นี่บริการเครื่องดื่มหลายประเภท รวมถึงอาหารที่พอกินแบบหอมปากหอมคอ (ถ้าไม่อิ่ม เดินไปกินต่อที่เยาวราชได้อย่างอิ่มหนำ) ที่สำคัญในร้านมีแมวคอยเดินนวยนาดเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย ใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่เวลาเดินช้าลง ห้ามพลาด Location: 1612 ถนน ทรงวาด แขวง สัมพันธวงศ์ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร Open: 5.00 pm – 12.00 am