ช่วงนี้พนักงานชายทั่วประเทศคงได้รับใบภาษี ภ.ง.ด. กันมาแล้ว แต่พูดตามตรงบางทีผู้ชายอย่างเราก็ไม่ค่อยถูกกับตัวเลขเท่าไหร่ เงินเข้าเงินออกเราไม่ค่อยสนใจ เสียภาษีไหมบางทีก็ให้บริษัทจัดการ กับบางคนที่ทำธุรกิจ online หรือ freelance ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเข้าใจผิดไปบ้างว่ายอดเท่านี้ไม่หักบ้าง หักไปแล้วไง 3 % หรือคิดว่ารับเงินสดจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอก แต่เอาจริง ๆ เรารู้เรื่องนี้ดีแค่ไหน ตอนไหนต้องจ่ายก็ยังเป็นเรื่องที่กังขากันอยู่ เพื่อคลายความสงสัยกับเงินที่ผู้ชายแนวหน้าอย่างเราต้องรู้ให้ครบ มาดูกันว่าคุณเคยมีคำถามเหล่านี้ในใจกับเขาบ้างไหม? วันนี้เรารวบรวมบางส่วนที่ได้จากการติดตามพี่บักหนอม – กูรูด้านภาษีมาบอกต่อ ควรเริ่มคิดเรื่องภาษีคิดตอนไหน? ถ้าถามอย่างนี้ แสดงว่าอาจจะเป็น beginner ที่ยังไม่เคยจ่ายภาษี ความจริงไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร มีรายได้เท่าไม้จิ้มฟันที่เข้าบัญชีแค่ไหน บาทแรกที่เข้ากระเป๋าก็ควรคิดเรื่องภาษีไว้แล้ว จำให้ขึ้นใจ เพราะถึงจะยังไม่ต้องจ่าย แต่ก็ต้องรู้จักกันไว้หน่อยเพราะมีประโยชน์นะ ข้อดี: รู้จักมันตั้งแต่เงินน้อย จะทำให้ตั้งตัวถูก เราจะไม่สะเทือนหรือตกใจตอนเราเงินเยอะขึ้น แถมยังรู้วิธีหลบหลีกได้เป็นอย่างดี รายได้ไม่ถึงไม่เสียภาษี แล้วไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. ได้ไหม? ไม่ถึง 25k ไม่เสียภาษีสิวะ เขาบอกกันมา! ก็ใช่ที่ได้ยินมามันก็ถูก แต่ถ้าบอกว่ารายได้ไม่ถึง จะไม่ยื่นใบภาษี ภ.ง.ด. โอ้โห
ใครทำงานแล้วไม่เครียดก็เทพเกินไปแล้ว แต่ถ้าทำแล้วไม่เครียดได้จริงเราก็ขอคาราวะและแสดงความดีใจด้วย แต่เราเชื่อว่าผู้ชายสาย Work Hard Play Hard ทุกคนต้องเคยผ่านประสบการณ์หัวแทบระเบิดกระจุยกระจายจากความเครียดกันมาแล้วทุกคนแน่นอน นอกจากวิธีพักชั่วคราวอย่างการฟังเพลง ลงไปดูดบุหรี่ระหว่างวัน หรือคุยกับเพื่อนร่วมงาน UNLOCKMEN ยังเอาวิธี UNLOCK วิธีคิดเพื่อให้ความเครียดมลายหายไปมาฝากผู้ชายสายบ้าระห่ำกับงานทุกคนด้วย เฮ้ นาย นายเพอร์เฟกต์ทุกอย่างไม่ได้หรอก การทำงานต้องสมบูรณ์แบบน่ะใช่ ถ้าเราคิดเบื้องต้นไว้อย่างนี้ เราก็จะเต็มที่ที่สุดกับทุกงานที่อยู่ตรงหน้า แต่ประเด็นก็คือถ้าเราเต็มที่ที่สุดแล้วแต่เราก็ยังรู้สึกว่าแม่งไม่เพอร์เฟกต์สักทีวะ! อันนี้แหละที่จะทำให้เราเครียด เราต้องคิดไว้ในสมองของเราตลอดเวลาว่าเราเต็มที่ที่สุดได้ แต่ทุกอย่างจะเพอร์เฟกต์ล้านเปอร์เซนต์อย่างที่เราคาดวังแม่งไม่ได้ว่ะ! นอกจากทำเต็มที่แล้วอีกด้านหนึ่งก็ต้องรู้จักปล่อยวางลงบ้าง ไอ้ความเครียดที่สุมหัวอยู่จะได้เบาบางลงไปสักที อะไรที่เหนือการควบคุมของเรา เราต้องปล่อย เราควบคุมตัวเองได้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่บางครั้งความเครียดก็มาพร้อมความคิดที่ว่าเราต้องการควบคุมทุกอย่างให้ได้เบ็ดเสร็จเหมือนที่เราควบคุมตัวเอง ซึ่งถามจริง มันทำได้หรอวะนาย? ไม่ได้หรอก ปัจจัยการทำงานมันผสมผสานกันเป็นสิบเป็นร้อยอย่าง เราควบคุมตัวเองได้ดีแต่บางทีเราควบคุมคนอื่นไม่ได้ ดังนั้นวิธีที่จะไม่เครียดเกินไปต้องยอมรับว่ามันมีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อยู่ และเมื่อมันอยู่นอกเหนือศักยภาพเราแล้ว เราก็ต้องปล่อยมันไปบ้าง อย่าฝืน ขีดเส้นแบ่งเขตงานกับชีวิตให้ดี งานคือส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต เราควรแบ่งเขตให้ชัดเจนว่างานควรหยุดอยู่แค่ไหน เราอาจให้เวลากับงานไปเลย 8-10 ชั่วโมง แต่ถ้านอกเหนือจากเวลานั้นเราก็ต้องขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจยว่าเราควรมีเวลาหยุดพักผ่อน ไม่ปล่อยให้งานรุกล้ำเข้ามาในขอบเขตพื้นที่ส่วนตัว ไม่อย่างนั้นเราก็จะเครียดกับงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะกินข้าว เดินเล่น หรือกำลังจะเข้านอน