บอกเลยว่าการเว้นระยะห่างจากสังคม (Social Distancing) นั้นดูเด็กไปเลยถ้าเทียบกับการห้ามเดินทางเข้า-ออกและปิดเมือง (Lockdown) แม้มาตรการนี้จะสร้างขึ้นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ช่วยชีวิตผู้ป่วยมหาศาล และลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อีกด้านหนึ่งมาตรการดังกล่าวก็ทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนต้องจมปลักอยู่ที่บ้าน ไม่ได้พบปะสังสรรค์กับผู้คน และขาดการปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพอย่างชัดเจน ซ้ำร้ายเมื่อผู้นำประเทศประกาศปิดเมืองอย่างจริงจัง ยิ่งทำให้มวลความเหงาแทรกซึมไปทั่วทุกพื้นที่แบบไร้อาณาเขต จนผู้ชายบางคนถูกความเหงากัดกินและรันโรมโจมตีจิตใจเข้าอย่างจัง ความเหงาเป็นเหมือนช่องว่างตรงกลางระหว่างสิ่งที่เราต้องการจากคนอื่นกับสิ่งที่เราได้รับจากคนอื่น เมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่างจากเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก แต่กลับไม่ได้รับสิ่งนั้นมักจะทำให้เรารู้สึกเหงาขึ้นมาดื้อ ๆ แต่ระหว่าง ‘ความเหงา’ กับ ‘สภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม’ มีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ ขณะที่ความเหงานิยามถึงความรู้สึกฟุ้งซ่านอันเนื่องมาจากการอยู่คนเดียวและไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น สภาวะโดดเดี่ยวทางสังคมกลับเกิดขึ้นต่อเมื่อเราขาดการติดต่อจากผู้อื่นเป็นระยะเวลานาน ซึ่งนั่นไม่ได้แปลว่าเราต้องรู้สึกเหงาเสมอไป แต่น่าแปลกที่มาตรการเว้นระยะห่างจากสังคม (Social Distancing) รวมทั้งมาตรการปิดเมือง (Lockdown) เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 กลับทำให้ใครหลายคนรู้สึกเหงาได้เหมือนกัน เพราะ ‘ความเหงา’ ไม่ใช่เรื่องเล็ก เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมกัน เมื่อต้องแยกห่างจากกันเป็นระยะเวลานานแล้วทำให้รู้สึกเหงาก็คงไม่แปลกอะไร แต่มวลความเหงาที่ก่อตัวขึ้นในช่วงนี้นั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ถึงขั้นที่รัฐบาลอังกฤษต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความเหงา (Minister for Loneliness) อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดทำกลยุทธ์บรรเทาความเหงาของประชาชนและสนับสนุนโครงการที่สร้างการเชื่อมต่อระหว่างประชาชนในช่วงที่ไวรัส COVID-19
ก่อนหน้านี้หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะต้องใช้เวลาอยู่บ้านนานนับเดือน ยังคิดกันเอาเองว่าการ WORK FROM HOME หรือทำทุก ๆ อย่าง FROM HOME มันดีจะตาย และคงจะเป็นเรื่องขำ ๆ ที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น แต่มาวันนี้ต้องยอมรับว่าเราคงต้องอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนาน พ่วงมาพร้อมความเครียดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ด้วยความที่เรายังต้องอยู่บ้านนาน ทำให้ระยะนี้มีข้าวของต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ออกมามากมายเพื่อให้การใช้ชีวิตอยู่บ้านตลอดเวลารื่นรมย์มากขึ้น และนี่คือ 5 ไอเทมการอยู่บ้านให้น่าอยู่ที่เราเลือกมา บางอย่างเพื่อตอบโจทย์ความบันเทิง บางอย่างก็เป็นเรื่องความโปรดักทีฟ แต่ไม่ว่าจะชิ้นไหนเราว่าก็ขาดไม่ได้พอกัน ‘THE BEAN’ Samsung Galaxy Buds ถ้าการอยู่บ้านของพวกเรา ไม่ใช่การอยู่คนเดียว แต่ต้องแชร์พื้นที่ร่วมกับคนอื่นในบ้าน ชนิดที่หาความเป็นส่วนตัวและสมาธิไม่ค่อยจะได้ สิ่งแรกที่จำเป็นต้องหามาใช้คือ “หูฟัง” ดี ๆ เพราะการเปิดเพลงคลอสำหรับตัดโลกบางช่วงเวลาจะสร้างสมาธิให้เราได้ ที่สำคัญจังหวะดนตรียังช่วงปรับมู้ดการทำงานและใช้ชีวิตให้มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ทว่าหูฟังธรรมดา เราคงไม่เอามาแนะนำให้เสียเวลา ไอเทมชิ้นแรกจึงขอแนะนำเป็น Samsung Galaxy Buds หน้าตาคล้ายเมล็ดถั่วที่กำลังมาแรงตัวนี้ที่ว่ากันว่ารูปที่เราเห็นอยู่คือภาพหลุด เพราะชิ้นนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาของค่าย Samsung ความเจ๋งอยู่ที่มันเป็นหูฟังประเภท In-ear ที่ออกแบบมาให้พอดีกับทรงใบหูโดยไม่ต้องยัดซิลิโคนเหมือนที่แล้วมา เนื่องจากแต่ละข้างมีลำโพงขนาดเล็ก 2
ในยุคที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกาเริ่มรับช่วงต่อจากจีนแผ่นดินใหญ่และกลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้แทน นำมาซึ่งการปิดบางเมืองในกลุ่มเสี่ยง งดประชาชนออกนอกเคหสถาน และเพิ่มมาตรการตรวจสอบข้อมูลรายคนแบบละเอียดยิบ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เริ่มหยิบยืมความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย เข้ามาช่วยต่อสู้ฟาดฟันกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มากขึ้น โดยพวกเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีอาจเป็นความหวังเดียวที่จะแก้ปัญหาวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากนโยบายเว้นระยะห่างจากสังคมและการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อจำกัดการออกนอกบ้านของประชาชน อาจยังไม่เพียงพอที่จะทำลายห่วงโซ่ของการแพร่กระจายไวรัสได้ รัฐบาลของหลายประเทศจึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบการเคลื่อนไหว ประเมินความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อ รวมถึงยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ติดต่อจากคนสู่คน ทำให้ปัญหาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ถูกนำมาใช้งานอย่างหลากหลาย ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไปจนถึงระบุตัวตนผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือแม้แต่อากาศยานไร้คนขับอย่างโดรนที่เรารู้จักกันดี ยังถูกใช้ถ่ายภาพความร้อนเพื่อค้นหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัส ตลอดจนพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่ปนเปื้อนได้อย่างปลอดภัย สิงคโปร์กับแอปพลิเคชัน TraceTogether รัฐบาลสิงคโปร์เปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘TraceTogether’ เพื่อติดตามการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและตรวจสอบว่าผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์หรือใกล้ชิดกับใครบ้าง เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้และเจ้าของสมาร์ตโฟน 2 เครื่องอยู่ใกล้กันภายในระยะ 6 ฟุต TraceTogether จะแลกเปลี่ยน temporary ID ระหว่างเครื่องโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อของกันและกันได้ มีเพียงเซิร์ฟเวอร์เท่านั้นที่รู้ว่าเจ้าของสมาร์ตโฟนเครื่องนั้น ๆ เป็นใคร แล้วเมื่อใดที่ตรวจพบเชื้อ COVID-19 เจ้าหน้าที่จะขอเข้าถึงข้อมูลว่าผู้ใช้คนดังกล่าวได้แลกเปลี่ยน temporary ID กับใครไปแล้วบ้าง เพื่อประเมินความเสี่ยงและติดตามการแพร่กระจายของเชื้อต่อไป ฟีเจอร์เจ๋งและความเข้มงวดของรัฐบาลจีน นอกจากประเทศจีนจะใช้ DingTalk,
COVID-19 เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของมนุษย์เกือบทุกชีวิตบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ ทั้งวิธีการทำงาน วิธีการกิน วิธีการจับจ่ายใช้สอย ไปจนถึงวิธีการที่เราปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว แต่ใครจะรู้ว่า COVID-19 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่โลกอันเป็นรูปธรรมที่เราจับต้องได้เท่านั้น แม้แต่ “โลกความฝัน” ก็ถูก COVID-19 เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงได้เช่นกัน บิดเบี้ยวและหงิกงอ: เมื่อความจริงตามไปหลอกหลอนถึงความฝัน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เราเริ่มฝันแปลก ๆ (แปลกออกไปแบบที่ปกติไม่ค่อยได้ฝัน) ทีแรกคิดว่าเป็นอยู่คนเดียว จนเริ่มถามคนรอบตัว เราเริ่มฝันถึงซอมบี้ที่ตามไล่ล่าเรามากขึ้น เราฝันถึงวันสิ้นโลกบ่อยขึ้น บางคนฝันถึงโลกดิสโทเปียที่ล่มสลาย และสถานที่ที่ผู้คนกำลังจะตาย แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่ในหมู่คนไทยเท่านั้นที่ความฝันเริ่มพิลึกพิลั่นไปทุกที ๆ ในโซเชียลมีเดียเริ่มมีการตั้งคำถามลอย ๆ ว่ามีใครคิดว่าตัวเองฝันผิดเพี้ยนไปช่วงนี้บ้าง? และคำตอบทำให้เรารู้ว่า COVID-19 ได้แพร่ไปในความฝันของคนทั่วโลกแล้วจริง ๆ Gus Jacobson คุณครูสอนโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดาเล่าว่าในฝันโรงเรียนที่เขาสอนอยู่นั้นแปลกไป มันดูลึกลับและคล้ายว่าจะมีสิ่งน่าสะพรึงกลัว ผนัง โต๊ะเรียน ดูผุพังและส่งกลิ่นเน่าเหม็น “มันเหมือนเวลาคุณเดินเข้าไปในป่า และเจอเข้ากับตอไม้เหม็นเน่าที่ดูเละย้วย จนคุณสามารถทำให้มันลงไปกองแฉะได้แค่ใช้แรงเพียงนิดเดียว” เขาอธิบาย ไม่มีใครอยู่ในบริเวณโรงเรียนเลย และเขาสัมผัสได้ว่าตัวเขาก็ไม่ควรมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่นั่น วินาทีที่ Jacobson ลืมตาตื่น เขารู้ว่ามันเป็นความฝัน แต่ที่แย่คือเขาฝันแบบนี้ซ้ำ ๆ ตั้งแต่การเริ่มระบาดของ
หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมารณรงค์ขอความร่วมมือให้ชาวโลกออกจากบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมถึงหลายประเทศที่ออกมาตรการเด็ดขาดห้ามประชาชนออกมาข้างนอกตามเวลาที่กำหนด ดูเหมือนว่าความเครียดจะพุ่งสูงขึ้นทุกพื้นที่ เพราะการอยู่แต่ในบ้านอาจทำให้ผู้คนห่อเหี่ยวและหมดเรี่ยวแรง องค์การระดับโลกหลายแห่งพยายามหาทางออกของปัญหาวิกฤตไวรัส จึงทำให้องค์การอนามัยโลกยอมจับมือกับบริษัทผู้ผลิตเกมหลายแห่ง สนับสนุนให้ประชาชนที่กักตัวอยู่ในบ้านหันมาเล่นเกมออนไลน์ระหว่างที่รัฐบาลแต่ละประเทศกำลังเร่งจัดการไวรัสโควิด-19 ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 องค์การอนามัยโลกเคยระบุในคู่มือสำหรับการวินิจฉัยโรคระหว่างประเทศ หรือ The International Classification of Diseases (ICD) ที่ถือเป็นคู่มือสำหรับแพทย์ที่โลกว่าพฤติกรรมการติดเกม (Gaming disorder) ถือเป็นอาการป่วยทางสุขภาพจิตชนิดหนึ่ง ไม่ว่าคนคนนั้นจะติดจะเกมออนไลน์หรือวิดีโอเกมก็ตาม เหตุที่การติดเกมถูกระบุว่าเป็นอาการทางจิตเนื่องจากผู้เล่นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คนที่ติดเกมจะไม่สามารถแบ่งเวลาหรือจำกัดเวลาที่ตัวเองเล่นได้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและส่งผลเสียต่อสุขภาพ ครอบครัว สังคม การเรียนหรือการทำงานในระยะยาว บางคนเมื่อขาดการเล่นเกมจะมีอาการ ‘ลงแดง’ ไม่ต่างกับคนที่เป็นพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งการระบุว่าการติดเกมเป็นอาการทางสุขภาพจิตในคู่มือ ICD ถือเป็นการปรับปรุงเนื้อหาคู่มือในรอบ 27 ปี แต่เวลานี้องค์การอนามัยโลกออกมาบอกให้ประชาชนเริ่มเล่นเกมกันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกย้ำว่าคนที่ชอบเล่นเกมกับคนที่ติดเกมไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับคนที่ชื่นชอบดื่มเบียร์เป็นชีวิตจิตใจแต่ไม่เดือดร้อนหากไม่ได้ดื่มทุกวัน พวกเขากังวลว่าคนที่ดำดิ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปจะทำให้เกิดปัญหาตามมาและส่งผลลบที่อันตรายเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าทุกคนชอบเล่นเกมจะมีความผิดปกติทางจิต สำหรับช่วงต้นปี 2020 ภาคธุรกิจเกมพบว่าเกมออนไลน์ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Boomberg) ที่รายงานเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินระบุว่าพบอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตของชาวอิตาลีเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลบังคับใช้กฎเข้มงวดที่ให้ประชาชนเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน บริษัทที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่เป็นอับดับสองของสหรัฐอเมริกาอย่าง เวไรซอนไวร์เลสส์ (Verizon Wireless)
ตอนนี้วงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ว่าเข้มแข็งและไม่มีทางล้มง่าย ๆ เกิดเหตุระส่ำระสายไม่แพ้ธุรกิจประเภทอื่น ๆ กองถ่ายภาพยนตร์หลายเรื่องต้องเลื่อนการทำงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเสร็จแล้วเหลือเพียงแค่รอวันเข้าฉายในโรงก็ต้องถูกเลื่อนออกไป ในเวลาย่ำแย่สื่อบันเทิงก็ไม่สามารถทำหน้าที่ผ่อนคลายความรู้สึกให้กับผู้คนได้เหมือนเดิม ความเศร้าจากเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่บานปลายทำให้ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ออกมาเขียนจดหมายถึงคนรักการชมภาพยนตร์ทั่วโลก คนที่เป็นคอหนังภาพยนตร์ต่างประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของโนแลน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนหนัง หลายคนก็คงต้องเคยได้ดูผลงานการกำกับของเขาบ้าง เพราะโนแลนเป็นผู้กำกับหนังเรื่องดังทั้ง Batman Begins (2005) Inception (2010) Betman: The Dark Knight (2008) Interstellar (2014) และ Dunkirk (2017) ที่ใคร ๆ ต่างลงความเห็นว่าผลงานของเขานั้นยอดเยี่ยมในระดับปรมาจารย์ โรงภาพยนตร์คือสถานที่แรก ๆ ที่รัฐบาลหลายประเทศสั่งให้ปิดทำการ หลายคนได้รับผลกระทบกันเป็นโดมิโน ด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้โนแลนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่หลงใหลการชมภาพยนตร์แบบดั้งเดิม (ดูในโรงภาพยนตร์) ออกมาแสดงความคิดเห็นลงในคอลัมน์ของ The Washington post ว่าอยากให้คนที่หลงรักการดูหนังแวะเวียนไปโรงภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสจบลง ใจความสำคัญของบทความที่โนแลนเขียนชวนให้คิดถึงบรรยากาศการดูหนังในโรงหนัง เขาเห็นความสำคัญของธุรกิจภาพยนตร์และรู้ถึงผลกระทบรุนแรงที่ธุรกิจได้รับ คนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงหนังสักเรื่องก็มักนึกถึงนักแสดง ผู้กำกับ แต่ยังมีผู้คนในโลกธุรกิจภาพยนตร์อีกมากที่ถูกลืมทั้งคนโรงภาพยนตร์ ขายตั๋ว คนทำโฆษณา
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนต้องใช้เวลาอยู่บ้านเกือบจะทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็ตามช่วงที่ทุกคน Stay Home Stay Safe ก็ไม่ควรลืมออกกำลังเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและรักษามวลกล้ามเนื้อของตัวเอง แม้การอยู่บ้านไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเวลาให้ออกกำลังตลอดทั้งวัน เพราะหลายคนยังคงต้องปั่นงานส่ง ยังต้องรับสายลูกค้าหรือใช้เวลากับหน้าที่ของตัวเองอยู่ QUICK WORKOUT วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ไปกับโปรแกรมออกกำลังที่บริหารร่างกายครบทุกส่วนใน 1 สัปดาห์ โดยแต่ละวันจะเป็นโปรแกรมสำหรับการฝึกกล้ามเนื้อส่วนไหนบ้าง มาเรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกัน คำแนะนำ : การออกกำลังทุกท่าแนะนำให้ฝึกอย่างน้อย 3 เซต เซตละ 9-12 ครั้ง Day 1 ขา Lunge Lunge เป็นท่าแรกที่เราอยากแนะนำและถือเป็นท่าฝึกที่ช่วยวอร์มกล้ามเนื้อขาทั้งหมดไปในตัว เทคนิคในการฝึก Lunge เน้นใช้พลังจากกล้ามเนื้อต้นขาและน่องเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับจังหวะการฝึกที่ต่อเนื่องและระวังเรื่องการผ่อนน้ำหนักที่ไม่ควรกระชากเร็วเกินไป Jump Squat ต่อด้วย Jump Squat ท่าเรียกกำลังขาที่พัฒนาให้ยากขึ้นจาก Squat เล็กน้อยแต่ให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อเป็นเท่าตัวแถมยังเผาลาญแคลอรี่ได้ดีอีกด้วย หลักการฝึก Jump Squat คือการทรงตัวและการรองรับน้ำหนัก ระหว่างกระโดดให้ใช้มือทั้ง 2
“แม้รักกันมากแค่ไหนแต่คู่รักส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตัวติดกันตลอด 24 ชั่วโมง” วลีข้างต้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคู่รักและครอบครัวคนทั่วโลก เพราะแต่ละคนต่างก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง บางบ้านสามีออกไปทำงานส่วนภรรยาอยู่บ้าน หรือคู่รักบางคู่ก็มีงานทำด้วยกันทั้งคู่ ครอบครัวที่มีลูกแล้วก็ต้องแบ่งเวลากันดูลูกและแบ่งเวลาให้กับชีวิตส่วนตัว ไม่ต้องพูดถึงครอบครัวใหญ่ที่มีกันหลายคนทั้งปู่ ย่า พ่อ แม่ ลูก หลาน เราเชื่อว่าคงไม่มีใครอยู่กับคนอื่นตลอด 24 ชั่วโมงแน่นอน ตอนนี้ไวรัสโควิด-19 ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องอยู่ติดบ้าน หลายประเทศสั่งห้ามประชาชนออกจากไปไหนถ้าไม่จำเป็น สำนักงานจำนวนมากสั่งให้พนักงานทำงานที่บ้าน ทำให้สมาชิกในครอบครัว คู่รักหลายคู่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่แทนที่จะมีแต่ความโรแมนติก อยู่ด้วยกัน เห็นหน้ากันตลอด กลายเป็นว่าความรุนแรงในครอบครัวกลับพุ่งสูงขึ้นจนน่าใจหาย ประเทศฝรั่งเศสเริ่มปิดประเทศเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2020 โดยตั้งเป้าว่าจนถึงวันที่ 25 เมษายน จะมีประชาชนออกจากบ้านน้อยลงเว้นแต่ออกไปซื้ออาหารหรือยารักษาโรค จูงสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นได้วันละครั้ง ออกไปออกกำลังกายวันละครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ หลังจากเริ่มมาตรการฉุกเฉินได้สักพักรัฐบาลฝรั่งเศสพบความผิดปกติ หลังจากสั่งให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน มีคนจำนวนมากโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนในครอบครัวทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นถึง 36% ซึ่งจำนวนนี้แค่เฉพาะในเมืองปารีสเท่านั้น ส่วนเมืองอื่น ๆ ของฝรั่งเศสก็มีบันทึกเหตุทารุณกรรมเพิ่มขึ้น 32% รวมถึงมีคดีฆาตกรรมในช่วงวิกฤตไวรัสอีกสองคดี นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิและความเท่าเทียมแสดงความเป็นห่วงต่อกรณีดังกล่าว พวกเขามองว่าการโดนสั่งให้กักตัวจะทำให้เหยื่อความรุนแรงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ยากขึ้น เหยื่อต้องยกหูโทรศัพท์แจ้งความอย่างเดียวโดยไม่สามารถหลอกว่าจะออกไปทำธุระข้างนอกเพื่อขอความช่วยเหลือ หากการกักตัวอยู่แต่บ้านยังคงดำเนินต่อไปเป็นเดือน ๆ จะต้องมีคนโดยทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นแน่นอน Marlene Schiappa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความเสมอภาคทางเพศ
วิกฤตเศรษฐกิจโลกตอนนี้ พยากรณ์กันว่าสหรัฐฯ จะแย่กว่าตอนเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เพราะ Social Distancing สร้างปรากฏการณ์ Economic Distancing ตามมา คนไม่ได้ตกงานจากการเลิกจ้างแต่มาจากการกักกัน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบ่งเป็นระลอกคลื่น 4 ลูก ได้แก่ สภาวะสังคมแช่แข็งกะทันหัน, คนตกงาน, คนเกษียณบั้นปลายพัง และอุตสาหกรรมการลงทุนที่โดนตัดแขนขา ตามลำดับ ไทยอยู่ในเฟสแจกเงิน แต่หากเป็นไปตามการพยากรณ์ที่เทียบกับสหรัฐฯ การแจกเงินให้คนไปเก็บไว้ ไม่ได้ทำให้คนหายตกงานและคนจะไม่ออกมาใช้เงิน ธุรกิจขนาดเล็กและ SMEs ที่โดนก่อนอาจจะไม่รอด จึงควรมีมาตรการด้านอื่นช่วยส่งเสริมและธุรกิจเหล่านี้ก่อนลูกโซ่ของโดมิโนตัวแรกจะล้มลง เมื่อถึงคราวอัดฉีดเงินหลังไวรัสจากไป รัฐควรมีส่วนสนับสนุนและอัดฉีดเพื่อให้กราฟที่ดิ่งเด้งขึ้นในเร็ววัน หากสถานการณ์ยืดเกินเดือน พ.ค. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายประเทศคาดการณ์ว่าอาจยาวได้ถึงปลายปี ก็มีโอกาสสูงที่บาดแผลนี้จะยิงยาวไป 4-5 ปี เมื่อไม่กี่วันก่อน เรามีโอกาสได้ออกไปข้างนอกซื้อของเข้าบ้าน เห็นชัดว่าธนาคารสีชมพูสาขาใกล้บ้านมีคนมาอออยู่หน้าธนาคารเพียบ มั่นใจได้ว่าช่วงนี้คงไม่ได้ออกันเพื่อเอาเงินเข้า แต่เป็นยืนรอถอนเงินออกเพราะไม่มั่นใจว่าสภาวะนี้เงินสดในมือจะพอใช้หรือเปล่า หรือถ้าวันไหนเกิดธนาคารปิด ถอนเงินออกมาไม่ได้เราจะเอาอะไรกินกัน? แล้วไวรัสหรือข้าวปลา อันไหนที่น่ากลัวกว่ากัน ? เศรษฐกิจตอนนี้มันตกหรือกระทบกันแค่ไหน UNLOCKMEN ขอสรุปเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าง่าย ๆ ที่เราย่อยมาจากบทความสัมภาษณ์ Mark Zandi หัวหน้าเศรษฐศาสตร์ของ
เนื่องด้วยมาตรการรับมือการระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งรวมตัวของผู้คน เพื่อลดโอกาสการกระจายของเชื้อไวรัส ทำให้หลายคนต้องกลายเป็นเด็กหัดตั้งไข่ เริ่มใช้ชีวิตสนองนโยบาย Social Distance กันแบบยังไม่ค่อยคุ้นชิน ไหนจะต้องเริ่มทำงานแบบ Work From Home ที่บางคนอาจจะงง ๆ อยู่ รวมถึงต้องปรับตัวกับวิถีชีวิตด้านอื่นที่เปลี่ยนไป จะออกไปไหนทีต้องคิดหนัก เพราะต้องคำนึงถึงหลัก อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เรื่องของข้าวปลาอาหารส่วนใหญ่ก็เลยต้องพึ่งพาบริการสั่งแล้วส่งถึงที่แทน ส่วนใครที่มีวิถีชีวิตผูกติดอยู่กับการออกกำลัง วันไหนไม่ได้ออกแรง ไม่ได้เสียเหงื่อ เหมือนชีวิตขาดอะไรไป พอมาเจอสถานการณ์ให้กักตัวอยู่บ้านอาจต้องอาศัยการออกกำลังกายแบบ Workout from Home ไม่ว่าจะโหลดแอพฯ มาดูท่าบริหารแล้วทำตาม หรืออ่านจากบทความของ UNLOCKMEN ว่าด้วยเรื่องการบริหารร่างกายภายในบ้าน ที่มีให้เลือกสรรค์หลากหลายรูปแบบสุดแล้วแต่ชอบใจ แต่ในระหว่างนี้สำหรับใครที่โหยหาการเข้าคลาสออกกำลังกับเทรนเนอร์ที่รู้ใจภายในยิม อาจจะพอยิ้มออกได้บ้าง เพราะถึงแม้ยิมหรือฟิตเนสทั้งหมดจะยังคงงดให้บริการไปยาว ๆ แต่เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน เพราะจากที่เราไปสืบเสาะหาข้อมูลมาเลยพบว่า แบรนด์ฟิตเนสดัง ๆ ทั้งหลาย ได้เปลี่ยนการนำเสนอมาเป็นรูปแบบของคลาสออกกำลังออนไลน์ Live Streaming กันให้ดูฟรี ๆ ผ่าน