“นักดนตรีใช้สารเสพติดในเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ส่วนผู้รักในเสียงเพลงพบว่ามันช่วยให้เข้าถึงได้มากขึ้น” ประโยคครหานี้ทางเราไม่ข้อตัดสินว่าจริงหรือไม่จริงน่าจะดีกว่า ขอให้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้เดินสะดวกหน่อย(ฮา) แต่ก็อย่างว่า เราต่างอยู่ในโลกให้ความจริงที่ไม่ได้สวยเสมอไป ก็เลยเถียงประโยคข้างต้นไม่ขึ้นเพราะว่ามันมีมูลความจริงอยู่ โดยความสัมพันธ์ระหว่างสารเสพติด, แอลกอฮอล์ และดนตรีมักจะสะท้อนออกมาทางเนื้อร้อง ซึ่งบางครั้งเนื้อหาที่เกิดขึ้นทางศิลปินก็ได้รับอิทธิพลมาจากใช้ยาเสพติดบางประเภท บางเพลงก็อ้อม ๆ บางเพลงก็ตรง ๆ แถมดังด้วย ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ทางดนตรีจะพบว่าแนวเพลงแบบ Acid Rock ก็ถือกำเนิดมาจากการใช้ LSD (แอลกอฮอล์แห้ง) ขณะที่เพลงแนว House ที่วน loop ก็คงจะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ถ้ากลุ่มนักปาร์ตี้ตัวยงที่ใช้ยาเสพติดประเภทยาอีไม่ค้นพบว่ามันเข้าทางกันกับแนวทางดนตรีที่พวกเขาชอบ ขณะที่ดนตรีแนว Country ก็มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด และยังอ้างอิงถึงมันมากกว่าแนวอื่นแม้กระทั่ง Hip Hop ด้านคนเสพดนตรีในปัจจุบันเองก็มีผลสำรวจล่าสุดที่น่าสนใจออกมา เจาะเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ชอบไปร่วมเทศกาลดนตรีแนว EDM (Electronic dance music) โดยเฉพาะ Music Festival ชื่อดังระดับโลกหลายงานในต่างประเทศที่เราขอสงวนชื่อไว้ ซึ่งทาง TickPick ตลาดขายตั๋วรายใหญ่ได้ทำการสำรวจคนที่ไปร่วมงานเทศกาลดนตรีชื่อดังจำนวน 1,000 คน ตั้งแต่อายุ 18-74 ปี (ค่าเฉลี่ย 32.4 ปี)
หลังจากแฟน ๆ Arctic Monkeys ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันมาตั้งแต่ปี 2014 จากอัลบั้มล่าสุด AM ที่ระเบิดความมันกันในคอนเสิร์ต AM tour แล้วพี่แกก็หายต๋อมเงียบไปแบบไร้ข่าวคราว จนเมื่อไว ๆ นี้โซเชียลมีเดียของวงได้อัปเดตเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่อย่าง “Tranquility Base Hotel & Casino” จนแฟน ๆ Hype กันแบบปรอทแตก กลับมาคราวนี้ไม่มีปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวทีละเพลงสองเพลงอะไรทั้งนั้น ทุกคนจะได้ฟังพร้อม ๆ กันแบบทั้งอัลบั้มในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ นับวันรอวันวางแผงได้เลย! ตั้งแต่วันที่วงประกาศเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ ข่าวเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ออกมาทีละเล็กละน้อย สัปดาห์ละข่าวสองข่าว เยอะเสียจนตามอ่านแทบไม่ทัน UNLOCKMEN เอาใจหนุ่ม ๆ ด้วยการมัดรวมข่าวทั้งหมดที่เราควรรู้เกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ของ Arctic Monkeys มาไว้ให้ที่นี่แล้ว แบบกระชับฉับไวได้ใจความ ไม่ต้องอ่านยาว ๆ ไม่ต้องแปลเอง ลุย! Tracklist ในอัลบั้ม แค่ Teaser ไม่ถึงนาทียอดวิวก็เกือบสามล้านแล้ว พลังของแฟน ๆ วงนี้บอกเลยว่าประมาทไม่ได้จริง ๆ โดยอัลบั้มนี้จะเป็นอัลบั้มในสตูดิโออัลบั้มที่หกของพวกเขา
ในแต่ละวัน มีเพลงและอัลบั้มใหม่ ๆ ถูกนำเสนอออกมาเป็นจำนวนมาก การจะฟังทุกเพลงให้หมดครบก่อนใครคงจะเป็นไปไม่ได้ จากนี้ไปเราจะคอยคัดเลือกอัลบั้มและ Single ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ Curated มานำเสนอให้แบบแจ่ม ๆ เป็นประจำทุกเดือน สำหรับในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์วันศุกร์ที่ 13 วันที่อาจไม่สู้จะดีนักสำหรับวัฒธรรมตะวันตก แต่ศิลปินเหล่านี้พร้อมลุยแบบไม่แคร์ฤกษ์ ขอปล่อยงานคุณภาพออกมาในวันนี้แบบสวนกระแส western กันเลยทีเดียว เรามีงานสตูดิโออัลบั้มใหม่ของศิลปินดังจำนวนหนึ่งที่ถูกปล่อยออกมา และมันก็น่าสนใจไม่เบาที่เราจะอุดหนุน (อย่างถูกลิขสิทธิ์) Resistance Is Futile – MANIC STREET PREACHERS ไม่รู้ว่าทางวง Manic Street Preachers วง alternative rock สุดเก๋าจากเวลส์ตั้งใจปล่อยอัลบั้มนี้ในวันที่ 13 เพราะว่า Resistance Is Futile คือสตูดิโออัลบั้มที่ 13 ของทางวงพอดีหรือเปล่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 ทางวงได้ประกาศว่าอัลบั้ม Resistance Is Futile จะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 13 เมษายน 2018
เห็นสี่สาวสุดแนวบนปกมาแบบนี้ พวกเธอไม่ใช่เกิร์ลกรุ๊ปแต่อย่างใด แต่พวกเธอเป็นวง Art Rock ที่เราอยากแนะนำให้ชาว UNLOCKMEN ได้รู้จัก แม้ว่าคอเพลงอินดี้หลายคนอาจคุ้นหูคุ้นตากับพวกเธอกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะให้ทุกคนได้มาสัมผัสและเข้าใจความเป็น Art Rock ของพวกเธอ และมาตกหลุมรักพวกเธอไปพร้อมกัน ใครที่เป็นแฟนเพลงของพวกเธออยู่แล้ว ข่าวดีคือเตรียมพบกับพวกเธอในบ้านเราได้เร็ว ๆ นี้ เพราะเธอจะบินมาเล่นเปิดให้กับ Harry Style ในคอนเสิร์ต “Harry Styles Live On Tour” ที่จัดโดย BEC-TERO พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ WARPAINT วันจันทร์ ที่ 7 พฤษภาคม 2561 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี About Art Rock ก่อนจะไปเจาะลึกเรื่องราวของสาว ๆ ทั้งสี่คน ขอแนะนำเกี่ยวกับแนวเพลง “Art Rock” ของพวกเธอสักเล็กน้อย เอาแบบเข้าใจง่ายในพารากราฟเดียว คือดูชื่อก็พอเดาออกแล้วว่ามันเป็นแขนงหนึ่งของแนวเพลง Rock แม้ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่แต่มันมีมาตั้งแต่ยุค 70’s แล้ว ความพิเศษอยู่ตรงที่เสียงดนตรีแนวนี้ ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อการฟังแบบดีพ
เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายท่านน่าจะเป็นวัยรุ่นยุค ’90s – 2000 กันมาก่อน… เปิดเรื่องมาแบบนี้เราไม่ได้มีเจตนาแซวว่าคุณกำลังเข้าสู่ช่วง ‘วัยรุ่น(ใหญ่)’ แล้ว แต่ทีมงาน UNLOCKMEN ตั้งใจจะบอกว่าถ้าใครที่เป็นวัยรุ่นยุคนั้นก็น่าจะเติบโตมาพร้อมกับเพลงแนว Disco, Soul, Funk จากผู้ชายที่ cool ที่สุดคนหนึ่งซึ่งก็คือ ‘บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์’ หรือ บุรินทร์ Groove Riders ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งเขาแจ้งเกิดในทันทีนับตั้งแต่อัลบัมแรกของวงที่ใช้ชื่อว่า DiscoVery ปล่อยออกมาเมื่อปี 2544 ทั้งงานเดี่ยวของเขา และกับวง Groove Riders ทำให้เราดิ้นกระจายมานาน และไม่ได้มีแต่เพลงแดนซ์มันโคตรเท่านั้น เพลงซึ้ง ๆ ก็ถูกนำไปใช้ในงานวิวาห์กันเป็นว่าเล่น ส่วนเพลงเศร้าทำน้ำตาร่วงก็ทำงานได้ดีเหลือเกิน ซึ่งเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ติดหูทุกคนก็คือเสียงร้องของคุณบุรินทร์ที่มีทั้งความนุ่มลึก mood & tone ที่เข้ากับแนวเพลง ยังไม่รวมลีลาบนเวทีและสไตล์การแต่งตัวที่จัดจ้าน สำหรับผลงานทางด้านดนตรีของเขากับ Groove Riders มีสตูดิโออัลบัม 3 ชุด ไล่มาตั้งแต่ DiscoVery (2544) , DiscoVery2 (2545) และ The Lift (2550)
ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความฮือฮาได้มากทีเดียวสำหรับ ‘Ready Player One’ ภาพยนตร์แนว Action/Adventure/Sci-Fi ผลงานล่าสุดของผู้กำกับล้ำจินตนาการ เจ้าของฉายาพ่อมดแห่งฮอลลีวูดอย่าง Steven Spielberg ที่สร้างจากนวนิยายชื่อดังของ Ernest Cline ซึ่งฮิตมาตั้งแต่ปี 2011 โดยเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2045 ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ THE OASIS จักรวาลเสมือนจริงที่เราสามารถไปที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เป็นใครก็ได้ สร้างขึ้นโดย James Halliday (Mark Rylance) ซึ่งเมื่อเขาเสียชีวิตลง ก็ได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลและอำนาจในการควบคุม THE OASIS ทั้งหมดให้กับคนแรกที่ได้กุญแจทั้ง 3 ดอก เพื่อเปิดประตูสู่ไข่อีสเตอร์ดิจิทัลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่หนึ่ง ทำให้เกิดเกมการแข่งขันทั่วโลก แต่เวลาผ่านไป 5 ปี สกอร์บอร์ดกลับยังว่างเปล่า จนกระทั่งฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง Wade Watts (Tye Sheridan) ในร่างอวตารที่ใช้ชื่อว่า Parzival เอาชนะการแข่งขันได้เป็นคนแรก จากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินไปแบบโคตรสนุกถูกใจใครหลายคน นอกจากตัวหนังแล้ว สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เพลงในหนังที่ยอดเยี่ยม ทั้งธีมประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ประพันธ์โดย Alan Silvestri รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์อีกหลายเพลงในเรื่องนี้ก็เท่มาก ๆ โดยแต่ละเพลงได้รับการคัดเลือกโดย Spielberg เอง ร่วมกับ Zak Penn ผู้ร่วมเขียนบท ซึ่งแม้ว่าฉากในหนังจะเป็นปี
Converse ถูกจัดอยู่ในรองเท้าระดับตำนานที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครอย่างน้อยต้องมีติดตู้สักหนึ่งคู่เหมือนกับยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งนอกเหนือจาก Chuck Taylor All Star หรือ Jack Purcell Converse ยังมีอีกหนึ่งโมเดลรองเท้าที่โดดเด่นอยู่คู่วงการสนีกเกอร์ตลอดมาไม่แพ้กันนั่นคือ One Star ถ้าหากย้อนเรื่องราวของรองเท้า One Star นั่นมีจุดเริ่มต้นในปี 1974 ที่กำเนิดจากการพัฒนารองเท้าบาสเกตบอลในรูปแบบ low-top ซึ่งเวลานั้นวัสดุที่ Converse เลือกใช้คือหนังกลับและชุดพื้นโฟม ทว่าน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะมันถูกวางขายเพียงปีเดียวเท่านั้นก่อนจะถูกยกเลิกไลน์การผลิตไป อย่างไรก็ตาม One Star ไม่เคยหายไปจากหน้าวงการรองเท้าเลย โดยมันถูกใช้เป็นตัวแทนของดนตรีกรันจ์ใน Seattle ซึ่งภาพที่ทุกคนคงน่าจะจำได้เป็นอย่างดีคือ Kurt Cobain กำลังทุ่มกีต้าร์สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ จับคู่กับรองเท้า Converse One Star สุดคูล นอกเหนือจากนี้แล้วนักสเก็ตบอร์ดหลาย ๆ คนยังชื่นชอบที่จะนำมาใช้ เวลาเล่นสเก็ตจนเป็นที่มาของคำว่า Anti-Fashion ในปี 1993 One Star ถูกนำมาวางจำหน่ายอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้
เราเชื่อว่ายังมีชาว UNLOCKMEN อีกหลายคนที่รู้สึกไม่ค่อยชอบความเป็น EDM หรือดนตรีเสียงสังเคราะห์ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกเหมือนกับเชื้อไวรัสในขณะนี้ อาจจะเพราะเราได้เติบโตมากับวัฒนธรรมเพลงร็อคอินดี้ hair band อะไรทำนองนั้น จนทำให้รู้สึกว่าดีเจที่ถือ laptop ยืนสแครชแผ่นดูไม่คูลเท่ากับนักร้องที่สะพายกีต้าร์กำลังลี้ดโซโล่เท่าที่ควร เหตุผลที่เราหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเกริ่นในตอนต้น เพราะเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่เคยคิดเช่นนั้น แต่หลังจากที่ได้ศึกษาจึงรู้ว่านี่เป็นอีกวัฒนธรรมหลักอย่างหนึ่งของโลกเลยทีเดียวโดยเฉพาะในยุโรป เราอยากจะให้ลบภาพเพลงสายย่อที่เหล่าเด็กแว๊นซ์มาเต้นกัน เพราะนั่นไม่ใช่ความเป็น อิเล็กทรอนิกส์อย่างแท้จริง เบื้องลึกในความเป็น EDM เราสามารถย่อยประเภทของเพลงได้อีกนับสิบ ดังนั้นถ้าเกิดลองเปิดใจดู ก็จะรู้ว่าเพลงประเภทนี้ก็ให้อารมณ์ความสนุกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกลุ่มนักดนตรีที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ Swedish House Mafia จัดได้ว่าเป็น Legend ของดนตรีสาย progessive โลกเลยก็ว่าได้ โดยพวกเขาเป็นกลุ่มนักดนตรีเต้นรำแนว house ชาว Sweden ที่ประกอบไปด้วย Axwell , Steve Angello และ Sebrastian Ingrsso ซึ่งอันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้พวกเขาถือเป็นศิลปินตัวพ่อแห่งวงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนั้น แต่ดันคุยกันถูกคอเลยร่วมโปรเจคนี้ในปี 2008 จนทั่วโลกต่างยกให้เขาเป็น Supergroup ที่สุดเท่าที่วงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์เคยมีมา ทว่าหากไล่ประวัติลึกลงไปก็จะรู้ว่าแท้จริงแล้ว ทั้ง Steve Angello และ Sebrastian
ถ้าจะถามผู้ชายอย่างเรา ๆ ว่า “เสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ตรงไหน ?” ก็น่าจะพอสรุปได้ว่าต้องบุคลิกภาพที่น่าดึงดูด เป็นตัวของตัวเอง มีรอยยิ้มที่สดใส มีอัธยาศัยที่โดนใจ มีความสามารถ มีความฝันและมุ่งมั่นทำให้ประสบความสำเร็จเป็นความจริง ถ้าเจอผู้หญิงที่มีทุกอย่างที่กล่าวมานี้ ใครเล่าจะต้านทานเสน่ห์ของเธอคนนั้นได้ นับเป็นโชคดีของทีมงาน UNLOCKMEN ที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เหลือเกิน เธอคนนี้คือ ‘อิงค์-วรันธร เปานิล’ ศิลปินสาวมากความสามารถแห่งค่าย BOXX Music เจ้าของผลงาน EP ‘Bliss’ ประกอบด้วย 5 ซิงเกิ้ลอย่าง เหงา เหงา (Insomnia) , Snap, ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน (Cloudy) , ยังรู้สึก (Old Feelings) และ ขอดาว ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่นี่ไม่ใช่ผลงานแรกของเธอ เพราะก่อนหน้านี้อิงค์เคยเป็นศิลปินในสังกัด Kamikaze ตั้งแต่อายุ 12 ปี มีผลงานการร่วมเล่นเอ็มวีเพลง ‘เด็กวุ่นวาย’ ของ โฟร์-มด รวมถึงเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Chilli White Choc แถมยังได้ร่วมร้องประสานในเพลง ‘ก่อนมะลิบาน’ ของวง ไทม์ อีกด้วย
แม้จะไม่ใช่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่หลังจากทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยหลายคนเลือกมักจะเลือกพักผ่อนอยู่บ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกเบียดเสียดกับคนอื่น โดยขอใช้เวลาส่วนตัวอันน้อยนิดไปกับการฟังเพลงแล้วนอนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันใหม่ ทว่าเพลงที่ฟังอยู่อาจจะเดิม ๆ และน่าเบื่อไปเสียแล้ว ดังนั้นถ้าเกิดมีเพลย์ลิสต์ใหม่ชิล ๆ มาเปิดคลอในบ้านคงจะดีไม่น้อย ทีมงาน UNLOCKMEN เลยไปหา 10 เพลงสุดชิลสไตล์ EDM จากเพลย์ลิสต์ของ Billboard ไว้เปิดฟังชิล ๆ ก่อนนอน Shallou – Begin (Feat. Wales) ATTLAS – I Need You More Amtrac – Piano Boy Chet Porter – Stay (Feat. Chelsea Cutler) Autograf – Dream Klingande – Jubel Lost Frequencies – Reality (Feat. Janieck