Kurt Cobain แห่ง Nirvana, Jim Morrison แห่ง The Doors, Jimi Hendrix แห่ง The Jimi Hendrix Experience, Amy Winehouse ทุกชื่อที่กล่าวมาล้วนเป็นนักดนตรีนักร้องระดับตำนานของโลก แต่ละคนมีแนวเพลงและสไตล์ที่แตกต่างกัน อาศัยอยู่คนละยุคสมัย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาทุกคนเสียชีวิตตอนอายุ 27 เหมือนกัน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญแต่เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เหล่าร็อคสตาร์หลายต่อหลายคนไม่สามารถข้ามผ่านช่วงอายุนี้ไปได้ ในที่สุดจึงเกิดคำว่า 27 Club ขึ้น What is 27 Club? 27 Club คือลิสต์รายชื่อของเหล่านักแสดง นักร้อง นักดนตรีชื่อดังที่เสียชีวิตในวัย 27 ปี โดยตอนแรกไม่มีใครสังเกตุถึงความผิดปกตินี้จนมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ในที่สุดจึงเกิดคำว่า 27 Club ขึ้นมา โดยสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของเหล่าสมาชิกแห่ง 27 Club มักมาจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาด และบางส่วนก็มีสาเหตุมาจากความรุนแรงเช่นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม บรรดานิตยสารดนตรีหรือสื่อแขนงต่าง ๆ มักจะนำเสนอเรื่องราวของ Club 27 อยู่บ่อย
หากคุณเป็นสาวกเพลงแนวฮิปฮอปตัวจริงคุณคงคุ้นเคยกับแร็ปเปอร์ชื่อดัง “วิซ คาลิฟา” (Wiz Khalifa) เป็นอย่างดี เพราะเขาคือเจ้าพ่อเพลงแร็ป ที่แซบที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยพรสวรรค์บวกกับฝีไม้ลายมือในการสร้างสรรค์เพลงอัน จัดจ้าน ทำให้ผลงานเพลงของเค้าได้รับความนิยมจากสาวกเพลงแนวฮิปฮอปเรื่อยมา ผลงานที่ทำให้คนรู้จัก วิซ คาลิฟา อย่างกว้างขวางคือเพลง “See you again” เพลงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Paul Walker (พอล วอล์คเกอร์) นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Fast and The Furious 7 (เดอะ ฟาสต์ แอนด์ เดอะ ฟิวเรียส 7) ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งเพลงนี้ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยได้ Charlie Puth (ชาลี พุท) มาร่วมร้องเพลงนี้ด้วย นอกจากความคิดและแรงบันดาลใจต่างๆ ที่ดูจัดจ้านจะถูกปล่อยของมาทางผลงานเพลงแล้ว ความแหวกแนวของเค้ายังสะท้อนผ่านการแต่งตัวสุดจี๊ดระดับแฟชั่นนิสต้าตัวจริงอีกด้วย และไลฟ์สไตล์สุดขั้ว ที่คุณคาดไม่ถึง รู้อย่างนี้แล้วเราจะไม่มาทำความรู้จักกับเขาหน่อยเหรอ มีเริ่มด้วยน้ำจิ้มเบาๆ กับ 6 เรื่องมันส์ๆ ที่ยืนยันดีเอ็นเอของ
Kanye West จัดเป็นอัจฉริยะที่น่าหมั่นไส้คนหนึ่งของโลก แม้จะพยายามหาแง่มุมต่าง ๆ นา ๆ มาเพื่อบลัฟหรือหาข้อโต้แย้งในตัวเขา แต่เราเองก็ปฎิเสธได้ไม่เต็มปากว่า เขาคือของจริง เนื่องจากผลงานทั้งในแง่ของแฟชั่นหรือดนตรี ที่เต็มไปด้วยเรื่องโอ้อวด โคตรหลงตัว ทว่าเขากลับสามารถจัดการทุกอย่างออกมาได้อย่างชาญฉลาดถึงขั้นอัจฉริยะ เพลงของ Kanye West เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ล้ำสมัย ก้าวไปข้างหน้าเสมอ และความเนื้อเพลงแสนดิบเถื่อน ขี้โม้ หลงตัว แต่ด้วยวิธีการนำเสนอที่แยบยล จึงไม่แปลกหากชายคนนี้จะคว้ารางวัลแกรมมี่ไปถึง 21 รางวัล ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ถือเป็นวันเกิดครบรอบ 41 ปีของ Kanye West ซึ่งก่อนหน้าเขาเพิ่งจะเปิดตัวอัลบั้มใหม่พร้อมปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟกลางป่าใน Jackson Hole, Wyoming โดยใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์อัลบั้ม ‘ye’ ของเขาถูกสตรีมมิ่งมากกว่า 100 ล้านครั้งเพียงแค่สามวันเท่านั้น มิหน่ำซ้ำยังเป็นครั้งที่ 8 แล้วที่มิสเตอร์ Kanye สามารถพาอัลบั้มของตัวเองขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ท Billboard นอกเหนือจากความอัจฉริยะในเรื่องเสียงเพลง ชื่อของ Kanye West ยังถูกจดจำในฐานะต้นแบบเรื่องสไตล์การแต่งตัว เป็นไอดอลของสาวกสตรีทแวร์จนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นมากที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยตัวเขาเองก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนั้นกระทั่งตั้งชื่อเล่นให้กับตัวเองอย่างจองหองสุด
เวลาที่เราหัวร้อนสุด ๆ โคตรโกรธไปทั่ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการได้ระบายความรู้สึกออกมา ไม่ใช่การเก็บกดไว้ในใจรอวันระเบิดออกมาตูมใหญ่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ช่วยระงับอารมณ์เดือดของเราได้ก็คือการฟังเพลง โดยมีผลการวิจัยมากมายว่าดนตรีนั้นมีอิทธิพลกับความรู้สึกเราเสมอ เป็นโสตศิลป์ที่เสพแล้วดีต่อสุขภาพจิต แทนที่จะไประบายออกด้วยการคลั่งต่อยกำแพง ทำร้ายตัวเอง ทำลายสิ่งของ พาลไปทั่ว มาฟังเพลงเหล่านี้ที่ UNLOCKMEN แนะนำดีกว่า เพราะว่าแต่ละเพลงทั้งมีเนื้อหาที่เข้าใจความหัวร้อน จังหวะจะโคนที่มันส์ ในขณะเดียวกันมันก็ไม่พาคุณดิ่งลงสู๋ความโกรธในก้นบึ้ง แต่กลับดึงให้คุณรู้สึกสนุกและหายเซ็งไปด้วย ว่าแล้วก็หายใจลึก ๆ แล้วไล่ฟังกันเลยดีกว่า “I Hate Everything About You” – Three Days Grace “I Hate Everything About You” ซิงเกิ้ลแรกสุดของ Three Days Grace วง rock จากแคนาดา เป็นหนึ่งในเพลงที่ช่วยดับหัวร้อนได้ดี เสียงร้อง grungy ของ Adam Gontier พร้อมกับเนื้อหาที่ระบายความรู้สึกเกลียด มันช่างสาใจคนโกรธอย่างเรา แม้ว่าเนื้อหาเพลงนี้จะวัยรุ่น แต่เราก็ยังฟังเพลงนี้เพื่อระบายอารมณ์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเจอความเส็งเคร็งจากที่ทำงาน หรือมีปัญหากับคนรอบข้าง
แม้ว่าช่วงหลังกระแสความนิยมของ YEEZY หรือสินค้าดีไซน์ Made By Kanye West จะดูซบเซาลงไปพอสมควร แต่คนระดับเขาแล้ว จะขยับตัวทำอะไรแต่ละทีต้องไม่ธรรมดาเสมอ ซึ่งหลายคนอาจจะจดจำภาพเขาในแวดวงแฟชั่น จนลืมไปแล้วว่าอาชีพเดิม ๆ ของชายคนนี้คือศิลปินที่ฝีมือจัดจ้าน พร้อมกับเป็นต้นแบบของการคิดโชว์แสดงสด ที่แหกแหวกแนว แตกต่างจากชาวบ้านชาวช่องเขาทำกัน ตัวอย่างเช่นเมื่อปี 2016 ครั้งที่ Kanye West เปิดตัวอัลบั้ม The Life of Pablo เขาได้ฉีกทุกกฎเกณฑ์การแสดงสด ด้วยการนำโชว์คอนเสิร์ตเล่นไปพร้อม ๆ กับแฟชั่นโชว์ของตัว แถมจัดอย่างยิ่งใหญที่สนาม Madison Square Garden ซึ่งคงไม่มีใครบ้าดีเดือดเช่นเขาอีกแล้ว และล่าสุดหลังจากเว้นวรรคผลงานเพลงมากว่า 2 ปี Kanye West กลับมาอีกครั้ง มิสเตอร์ President แห่งวงการแฟชั่นได้ทำการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อ ‘ye’ โดยคราวนี้เขาไม่ได้ไปเช่าสนามกีฬาหรือปิดสนามบินอะไรทำนองนั้น ทว่ากลับจัดปาร์ตี้เรียบง่ายแบบส่วนตัว ซึ่งชวนเฉพาะแขกคนสำคัญเท่านั้นให้เดินทางไป Jackson Hole, Wyoming ที่เป็นพื้นที่ชนบทล้อมรอบด้วยป่าเขาลำเนาไพร บรรยากาศสุด Deep
วันไหนเศร้า เราฟังเพลง Feeling Blue จนจมดิ่งไปกับมัน วันไหนอารมณ์ดี เราฟังเพลง Pop ที่สดใสไม่แพ้กับอารมณ์ของเรา หรือวันไหนอยากพักผ่อน เพลง Acoustic, Folk ที่ให้อารมณ์ Chill จนเหมือนได้เอนกายลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ในบ่ายวันหยุด จนเราคุ้นเคยกันดีว่าเพลงที่เราฟังมันเชื่อมต่อกับอารมณ์ในตอนนั้นอยู่แล้ว UNLOCKMEN จะพามาดูว่าเพลงมันไม่ได้ส่งผลแค่อารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงมุมมองของคุณต่อโลกใบนี้อีกด้วย ดนตรีเปลี่ยนมุมมองของเราได้ยังไง ? จากการศึกษาของ University of Groningen ใน Netherlands พบว่าดนตรีไม่ได้ส่งผลกับแค่อารมณ์ของเราเท่านั้นแต่ส่งผลถึงมุมมอง ความคิด ของเราอีกด้วย เพลงที่คุณฟังนั่นแหละสามารถส่งผลกับมุมมองและความเข้าใจโลกใบนี้อีกด้วย ผู้ค้นคว้ารีเสิร์ชเรื่องนี้อย่าง Jacob Jolij และ Maaike Meurs จาก Psychology Department พบว่าเวลาคนเราฟังเพลงที่ให้มู้ดความสุขเนี่ย มันไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ทำให้มองสิ่งรอบ ๆ ตัวดูมีความสุขไปด้วย และในทางตรงกันข้ามกันก็เป็นแบบนั้น หากเราฟังเพลงที่ทำให้อารมณ์เราอึมครึม มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งรอบตัวของเราแม่งเศร้าตามไปด้วย เหมือนอยู่ดี ๆ ก็โดนเมฆหมอกของความเศร้าปกคลุมซะอย่างงั้น พูดให้ชัด
มนุษย์เรานี่มันช่างซุกซนและสร้างสรรค์ไปเสียทุกเรื่อง จะมี Sex กันทั้งทีก็ต้องมีหลากหลายท่าทาง ท่ามกลางบรรยากาศที่แต่ละคู่ไหนจะครีเอทออกมาเพิ่มอรรถรสบนเตียง แถมต้องมีเพลงเหมาะ ๆ มาช่วยกระตุ้นอารมณ์เซ็กซ์ให้มันพุ่งทะลุปรอท ประโยชน์ที่เราได้จากการฟังเพลงที่มีท่วงทำนองเร่าร้อนนั้น อาจจะช่วยให้เรา “แข็งขัน” และช่วยให้คุณผู้หญิงของคุณ “ชื้นแฉะ” ได้จริง แต่ก็ยังเป็นที่สงสัยว่านอกจากการช่วยอุ่นเครื่องก่อนโหมโรงได้ดี และสร้างสีสันตอนร่วมรักกันได้แล้ว เพลงเหล่านั้นจะช่วยให้ชีวิต Sex ของแต่ละคู่นั้นดีขึ้นจริงหรือไม่ ? ผลการสำรวจกลุ่มเป้าหมาย 2,000 คนที่ใช้บริการ music-streaming ของ Deezer พบว่า ผู้ใช้ราว 30 เปอร์เซ็นต์รู้สึกซาบซ่านมากขึ้นที่ได้ฟังเพลย์ลิสต์เพลงปลุกใจขณะมีอะไรกัน ขณะที่ 25 เปอร์เซ็นต์บอกว่ามี sex ในอรรถรสมากขึ้น ส่วนอีก 15 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเป็นยาแก้เขินชั้นดี แล้วองค์ประกอบอะไรในเพลงที่ทำให้เราฟาดฟันกันมันส์หยด ? เรื่องนี้กว่า 30 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเป็นเพราะจังหะจะโคนของเพลง ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์บอกว่ามันเป็นเพราะเสียงร้องของศิลปิน และเมโลดี้ของเพลงนั้น เพลงหวิว ๆ มันสร้างความแตกต่างบนเตียงได้ขนาดนั้นได้จริง ๆ ? หรือก็แค่เชื้อไฟธรรมดา ? Valorie N. Salimpoor นักวิจัยสาวที่ทุ่มเทกับการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวการตอบสนองของสมองต่อเสียงดนตรี
จากกระแสรายการ Show Me the Money และ The Rapper นับว่าเป็นการปลุกกระแสให้วงการเพลงฮิปฮอปลุกขึ้นมาคึกคักอย่างมาในบ้านเรา ซึ่ง UNLOCKMEN เคยเขียนเล่าถึงวัฒนธรรมฮิปฮอปไปอย่างละเอียดแล้วในคอนเทนท์ ( Part 1, Part 2 ) แต่วันนี้พวกเราจะขอมาแนะนำศิลปินสไตล์ ฮิปฮอป/อาร์แอนด์บี เชื้อสายเกาหลีใต้ที่กำลังก้าวสู่ผลงานระดับโลกด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น Dean หรือ ควอนฮยอก ศิลปินที่เกิดและเติบโตในประเทศเกาหลีใต้ เขาฉายแววเก่งมาตั้งแต่งอายุ 16 เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว จนกระทั่งได้มาร่วมงานกับศิลปินรุ่นพี่อย่าง Keith Ape ก่อนจะเข้าสู่วงการเพลงอย่างเต็มตัว พร้อมควบตำแหน่งนักแต่งเพลงเมื่ออายุ 18 ปี ฝีมือของเขารุดหน้าไปไกลกว่าอายุ เพราะหลังจากนั้นไม่นานแทนที่เขาจะเดบิวท์เพลงในบ้านเกิด แต่ Dean กลับไปเปิดตัวต่อหน้าแฟนเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกาแทน ก่อนที่เขาจะกลับมาลุยงานเดบิวท์ พร้อมปล่อยสองซิงเกิ้ลที่ฮิตติดชาร์ทในประเทศตัวเอง จุดเด่นของ Dean คือเนื้อหาเพลงที่เขียนมาได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมน้ำเสียงอ่านหวานบวกกับดนตรีโรแมนติก ด้วยเอกลักษณ์ความสามารถเหล่านี้ จึงทำให้เขาโด่งดังในชั่วพริบตา ได้ขึ้นไปเล่นงานสำคัญ ๆ มากมาย ปัจจุบันเขาได้มีโอกาสทำเพลงกับศิลปินระดับโลกอาทิ Justin Bieber,
พูดถึงการฝึกโยคะในปัจุบันนับว่าแพร่หลายขึ้นเป็นอย่างมากในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเราก็เลือกที่จะจัดเข้ามาเป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการศาสตร์และศิลป์ที่เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า เพราะว่ามันให้ประโยชน์มากมายกับกระทาชายอย่างเรา (ถ้าอยากรู้ว่าประโยชน์เบื้องต้นของโยคะที่มีต่อผู้ชายสามารถอ่านได้ที่คอนเทนต์ UNLOCK YOUR BODY : 5 เหตุผลที่ผู้ชายอย่างเราควรแบ่งเวลาเข้าคลาสโยคะ) แต่ถ้ารู้สึกว่ายังมันส์ไม่พอ เราอยากให้กันมามองการฝึกโยคะที่โคตรฉีกแนวอย่าง “BLACK YO)))GA” (แบล็คโยคะ) การฝึกโยคะแบบ Vinsaya Yoga (วินยาสะโยคะ) ที่ฝึกด้วยการควบคุมลมหายใจควบคู่กับการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่มีรูปแบบและท่วงท่าที่ตายตัว ท่ามกลางบรรยากาศเดือดลึกจากเสียงดนตรีตระกูล metal สาย deep อย่าง drone, noise, stoner metal, ambient, industrial และ space doom ร่วมกับเพลงฝึกโยคะแบบดั้งเดิมอื่น ๆ พร้อมด้วยบรรยากาศแบบดาร์ก ๆ ตามธีมของการฝึก สวนทางกับแบบแผนแบบเดิม ๆ โดยสตูดิโอของ BLACK YO)))GA ตั้งอยู่ที่เมือง Pittsburgh ในสหรัฐฯ สำหรับชื่อ BLACK YO)))GA ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะว่า ทางสตูดิโอต้องการให้เกียรติวง Sunn O))) วงดนตรีแนว
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้มีศิลปินเจ๋ง ๆ ระดับโลกมากมายที่เวียนกันเข้ามาเล่นตอนเสิร์ตในบ้านเรา และดูเหมือนว่าจะยังมีเบอร์ใหญ่ ๆ ทยอยเข้ามาเล่นสดกันให้ดูอีกเยอะ หนึ่งในนั้นคืองานคอนเสิร์ตผู้ชายอย่างเราไม่น่าพลาดก็คือการมาเยือนของ Mike Shinoda แร็พเปอร์แห่งวงระดับไอค่อนอย่าง Linkin Park โดยเขาจะเดินทางมาแสดงโชว์ที่ไทยในวันที่ 9 สิงหาคม 2561 นี้ ที่ GMM Life House @CentralWorld ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์อัลบัมเดี่ยวของเขาที่ใช้ชื่อว่า “POST TRAUMATIC” ที่จะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ แน่นอนว่าทุกคนจำภาพของ Mike ในฐานะแร็พเปอร์, นักร้องนำร่วม, นักดนตรี และผู้ร่วมก่อตั้งวง Linkin Park ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงบ่าเคียงไหล่กับ Chester Bennington ฟร้อนต์แมนและเพื่อนสนิทของเขาผู้ล่วงลับไปเมื่อปีก่อน แต่ชายที่ชื่อว่า Mike Shinoda ยังมีอีกหลายมิติ UNLOCKMEN เห็นว่าเรื่องราวของเขาทรงพลังมากพอ ที่จะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชายอย่างเรา ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับโลกใบนี้ และลุยให้สุดเส้นทางที่วางไว้ จึงขอหยิบยกสตอรี่ของเขามาเล่าให้ฟังกัน ก่อนจะไปมันส์กับเขาที่หน้าเวที ชายผู้เติบโตมากับดนตรีและศิลปะ เรื่องราวของชายที่ทรงพลังในวงการดนตรีถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายยุค ’70s Michael Kenji