เมื่อมีกิจกรรมเข้าจังหวะ มันก็ต้องมีเพลงประกอบ การเลือกเพลงที่สามารถปลุกเร้าอารมณ์ร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง การมีเซ็กส์ก็เช่นกัน ถ้าได้เพลงเหมาะ ๆ มาช่วยบิวท์ จะทำให้การชีวิตบนเตียง (หรือที่อื่น ๆ ) ของคุณมีรสชาติมากขึ้น ถือเป็นท่าไม้ตายที่ช่วยบรรเลงให้คุณและเธอเร่าร้อนด้วยกันจนสุดทาง ทีมงาน UNLOCKMEN ขอนำเสนอเพลงที่จะช่วยให้คุณและเธอกอดรัดกันอย่างมีความสุขมากขึ้น แต่ละเพลงจะเหมาะกับสไตล์ของการร่วมรักที่แตกต่างกันออกไป หรือจะเรียงเป็นเพลย์ลิสต์สำหรับทั้งคืนก็ได้นะ (ถ้าไหว) 1 . Melody – Serge Gainsbourg แนวเพลง : Rock เหมาะกับเซ็กส์แบบไหน : เนิบ ๆ , เข้มข้น เพลงนี้อาจะไม่ใช่เพลงที่ฟังปุ๊ปติดเครื่องปั๊ป แต่มันจะค่อย ๆ บิวท์ด้วยจังหวะช้า ๆ และท่วงทำนองเร้าอารมณ์ ช่วยเติมความรู้สึกลึกซึ้ง แถมเพลงนี้ยาวกว่า 7 นาทีด้วยนะ หวังว่าหนุ่ม ๆ จะไม่จบก่อนเพลงจบนะ 2. Underworld Soundtrack แนวเพลง : OST
หลายครั้งที่ปกอัลบั้มของศิลปินเป็นภาพที่คุ้นตา โด่งดังไปทั่วโลก จนเป็นเหมือนงานอาร์ตอีกชิ้นนึง ทำให้ปกอัลบั้มเป็นมากกว่าสิ่งพิมพ์หรือบรรจุภัณฑ์ของอัลบั้ม มันคือการสื่อความหมายของศิลปินผ่านปกอัลบั้ม วันนี้ UNLOCKMEN เอาเรื่องราวเบื้องหลัง ที่มาที่ไป ของปกอัลบั้มที่เราทุกคนต้องคุ้นตาจากศิลปินดังอย่าง Pink Floyd, Radiohead, Nirvana, Joy Division และ Coldplay มาบอกเล่าเอาไว้คุยกับเพื่อนแบบเท่ ๆ อย่างคนรู้จริง Nevermind จาก Nirvana ภาพสุดดังคุ้นตานี้เป็นภาพของเจ้าหนูน้อย Spencer Eldren ที่อายุเพียงสี่เดือนในตอนนั้นและเป็นการว่ายน้ำครั้งแรกของเขาด้วย โดยการถ่ายทำปกอัลบั้มนี้เกิดขึ้นที่ Pasadena public pool ที่มีเด็กที่เพิ่งโผล่ออกมาดูโลกได้ไม่นานมาออดิชั่นอีกหลายคน แต่ Kurt ประทับใจรูปของเด็กคนนี้มากที่สุด แต่ยังรู้สึกว่ามันใส่อะไรเข้าไปได้อีก เขาพูดติดตลกให้ใส่เบ็ดตกปลาลงไป ซึ่งนั่นทำให้ทีมงานต่อยอดไอเดียออกมาเป็นปกสุดเจ๋งที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ แม้ว่า Kurt เองจะไม่ได้บอกถึงความหมายจริง ๆ ว่ามันหมายถึงอะไร แต่ดีไซเนอร์ของภาพนี้อย่าง Robert Fisher ได้สันนิษฐานไว้ว่า เด็กเป็นตัวแทนของความไร้เดียงสาของเขา ส่วนเบ็ดนั้นหมายถึงการเข้าสู่วงการเพลงของเขานั่นเอง A Rush of
เสียงเพลง ดนตรี ความหมาย สามารถช่วยชีวิตคนได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เพราะเสียงเพลงสามารถส่งผลถึงอารมณ์ได้จริง เราเคยนำเสนอบทความเรื่อง “ฟังเพลงดี มีผลให้คนฟินได้ไม่ต่างจาก SEX” ไปแล้วก่อนหน้านี้ หลายเพลงมีความหมายสะกิดใจให้เราคิดบางอย่างได้ หลายเพลงก็ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว วันนี้ UNLOCKMEN ขอจัดเพลย์ลิสต์เพลงความหมายดี ๆ เอาไว้ให้กำลังใจตัวเองในวันที่หมดไฟ ไม่ให้ท้อถอยกับปัญหา ปล่อยวางมันไปกับเสียงเพลง ให้เราได้ผ่อนคลาย และอาจจะได้ทางออกจากเพลงสักเพลงในนี้ก็ได้ Paradise – Coldplay เพลงนี้เปรียบชีวิตเราหมือนกับสาวน้อยไร้เดียงสาคนนึง ที่ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายในชีวิต แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป โดยที่มีสวรรค์เป็นตัวแทนที่พึ่งพิงทางจิตใจ จริง ๆ แล้วแต่ละคนก็อาจมีสิ่งอื่นที่คอยเติมกำลังใจให้ตัวเอง เหมือนกับเด็กน้อยในเพลงที่มีสรวงสวรรค์คอยให้เธอพักพิงนั่นเอง Iridescent – Linkin Park หลายคนอาจคุ้นหูกันบ้างกับเพลงนี้จาก Linkin Park เพราะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Dark of The Moon แต่ยังคงแฝงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวงได้แบบเนียน ๆ เนื้อเพลงพูดถึงความท้อแท้ ความผิดหวังในชีวิต ที่มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะต้องเจอ แต่ก็อยากให้ทุกคนลุกขึ้นสู้และปล่อยทุกความเศร้าหมองนั้นทิ้งไปซะ ฟังจบแล้วจะรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้โยนทิ้งปัญหา
เช้านี้ลืมตาตื่นลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ก็ได้เจอกับข่าวน่าใจหายกันอีกครั้ง กับการจากไปของ Iconic Frontwomen อย่าง ‘Dolores O’Riordan’ แห่งวง The Cranberries ด้วยวัยเพียง 46 ปี ถึงแม้ว่า การเสียชีวิตของ Dolores O’Riordan จะยังคงไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด แต่เราเชื่อว่า มีชาว UNLOCKMEN จำนวนไม่น้อยที่กำลังโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของศิลปินที่เราเติบโตมาพร้อมกับน้ำเสียงของเธอ จากบทเพลงของวง The Cranberries ที่คุ้นเคย แม้ว่าสำหรับบางคนเมื่อพูดถึงวง The Cranberries หรือชื่อ Dolores O’Riordan อาจจะทำท่าเกาหัวงง ๆ แต่ถ้าหากพูดชื่อเพลง ‘Zombie’ ขึ้นมาล่ะก็ รับร้องว่าร้องอ๋อกันทั้งนั้น ในความเป็นจริงแล้ว เพลงของ The Cranberries นั้น มีเพลงเพราะ ๆ อยู่อีกหลายเพลงเลย อย่างเช่นเพลง “Ode To My Family” ที่โดยส่วนตัวแล้ว หากได้ฟังทีไรจะรู้สึก เหมือนโดนเสียงของ ‘Dolores O’Riordan’ สะกดจิตให้ร่างกายมันย้วยอ่อนระทวยไปทุกที น่าเสียดายที่ต่อจากนี้ พวกเราจะไม่ได้ยินเสียของเธอคนนี้อีกต่อไป
DOLORES O’RIORDAN frontwoman แห่งวง Cranberries, Rock Band ที่โด่งดังสุด ๆ ถึงระดับ Iconic แห่งยุค ’90s เจ้าของเพลงดังระดับตำนานมากมายที่ทุกวันนี้ยังคงได้ยินกันอย่างแพร่หลาย เช่นเพลงฮิตระดับโลก Zombie (No Need to Argue, 1994) และ Linger (Everybody Else Is Doing It, So Why Can’t We?, 1993) เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันแล้วในวัย 46 ปี ระหว่างการทำงานในเมือง London โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต มีเพียงการระบุว่าเธอเสียชีวิตขณะ “in London for a short recording session.” และครอบครัวของเธอก็ยังอยู่ในอาการช็อค ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ในขณะนี้ นับว่าเป็นข่าวการจากไปที่สะเทือนวงการเพลงอีกครั้ง การสูญเสียนักร้อง นักแต่งเพลงที่มากความสามารถซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้หลายคนสนใจในดนตรี และอยากเป็นนักร้องเหมือนเธอ Dolores
ถ้าพูดถึง Hugh Hefner (content) เจ้าพ่อ Playboy ผู้ล่วงลับ หลายคงมองเห็นภาพชายผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หนุ่ม ๆ ต้องอิจฉา เพราะเขาได้อยู่ภายใต้ชายคาบ้านในฝันอย่าง Playboy mansion ซึ่งรายล้อมไปด้วยสาว ๆ สวย ๆ มากมาย จนทำให้เขานั้นกลายมาเป็นต้นแบบของหนุ่มเจ้าสำราญทั่วโลก ถึงแม้ว่าวันนี้ Hugh Hefner จะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ Playboy ที่ดูจะซบเซา และอาจปิดตัวลงในเร็ววันนี้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นคนสำคัญอย่าง Ben Koh กำลังมองหาทิศทางใหม่ในการทำ Brand Partnerships ที่เน้นขายลิขสิทธิ์เพื่อทำเงิน จนส่งผลให้อาณาจักร Playboy ที่ Hugh Hefner ปลุกปั้นมากับมือ ดูเหมือนว่ากำลังจะล่มสลายลงไปตามกาลเวลา แต่ใครจะรู้ว่ายังมีมรดกอีกหนึ่อย่างที่ Hugh Hefner ได้ทิ้งเอาไว้ และดูเหมือนว่ากาลเวลาจะไม่สามารถทำลายลงได้นั้นก็คือ Playboy Jazz Festival Playboy Jazz Festival คือเทศกาลดนตรีที่มาจากผลพวงความหลงใหลในเสียงเพลงของ Hugh
หลังจากพักวงไปนานหลายปี ในที่สุดศิลปินที่ได้ชื่อว่าสไตล์เท่ที่สุดของชาติชาย ก็ได้กลับมาให้ชาวดนตรีอินดี้หายคิดถึง กับ Arctic Monkeys ที่คืนชื่อเป็น headline ในคอนเสิร์ต ‘FIREFLY MUSIC FESTIVAL’ ที่รัฐเดลาแวร์ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาแบบเต็มวง หลังจบคอนเสิร์ต AM Tour เมื่อปี 2014 พวกเขาก็พักการทัวร์คอนเสิร์ตในนามของวงไปพักใหญ่ จนปีนี้นี่เองที่พวกเค้าได้กลับมาอีกครั้ง หลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยก็ชื่นอกชื่นใจกันไป เพราะดีไม่ดี อาจกลับมาฟิตปั่นอัลบั้มใหม่ให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอีกครั้งก็ได้ ส่วนใครกระเป๋าหนัก อดคิดถึง Arctic Monkeys ไม่ไหว ก็สามารถบินตามไปเสพกันได้ที่ FIREFLY MUSIC FESTIVAL เรามี line up ถือว่าเป็นงานที่โหดมากใช่เล่น นอกจากจะได้เจอหน้า Alex Turner แล้ว ยังมีทั้ง Eminem ที่กลับมาพร้อมอัลบั้มสุดร้อนแรง หรือจะเป็น Kendrick Lamar, The Killers ก็มันส์ไม่แพ้กัน แล้วหายไปทำอะไรกันมา? แม้ทางวงจะไม่มีความเคลื่อนไหว ทั้งข่าวของการทัวร์คอนเสิร์ต
สิ้นสุดการรอคอยกับคอนเสิร์ตมาแรงสุดที่เพิ่งจบไปในไทยแลนด์โดย ‘Liam Gallagher live in Bangkok’ หลายคนที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศในนั้น คงอิ่มเอมกับ ‘ความเลียม’ ของพี่เลียม และหายคิดถึงบทเพลงร็อกระดับตำนานจาก OASIS เจ้าของยอดขาย 70 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก แต่หากใครพลาดคอนเสิร์ตก็อย่าเพิ่งเศร้าไป เรามาฟังเพลงให้หายคิดถึงไปด้วยกัน พร้อมกับเบื้องลึกเบื้องหลังของ 3 เพลงดัง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อ่านจบก็มั่นใจได้ว่ามีข้อมูลเอาไว้คุยในร้านเหล้ากับเพื่อน ๆ เพิ่มความเท่ด้านดนตรีในระดับแฟนพันธุ์แท้ได้แน่นอน เก๋าไม่เก๋า เรากวาดรางวัลมาทุกเวที ขึ้นชื่อว่า OASIS ที่การันตีด้วยยอดขาย 70 ล้านก็อปปี้ ถ้าให้นับทุกรางวัลที่ได้ บอกเลยว่ารายการยาวเป็นหางว่าว เล่าทั้งวันก็ไม่จบ แต่ถ้านับรางวัลใหญ่ ๆ ก็ต้อง Best British Necomer ในปี 1995 ถือเป็นรางวัลแรก ๆ ที่ได้ในนามของวง กวาดรางวัลเวทีใหญ่อย่าง NME Awards ไป 17 รางวัลไม่นับรวมเข้าชิงอีก 9 ครั้ง พีคสุดๆก็คงเป็นการได้บันทึกชื่อไว้ใน The Guinness World Records
เราได้ก้าวผ่านเสียงเพลงบนนวัตกรรมมามากมาย ตั้งแต่แผ่นเสียง เทป แผ่นซีดี หัวใจหลักของการฟังเพลงในยุค 00’s มาสู่ของสะสมในยุคปัจจุบัน อะไรทำให้สถานะของ “เทปและซีดีเพลง” เปลี่ยนไป แม้อนาคตของเทปเพลงคาสเซ็ทจะหมดหวัง แต่สถานะของซีดียังคงอยู่ได้แม้ในวันที่ Music Streaming เข้ามาแทนที่ ยุคล้านตลับ หากจะวัดความนิยมของศิลปินในช่วงปี 2000 นอกจากชาร์ทติดอันดับ คงไม่พ้นนับจากยอดขายเทปและแผ่นซีดี หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า “ยอดขายล้านตลับ” เป็นอย่างดี ยิ่งศิลปินคนไหนมียอดขายซีดีได้ถึงหนึ่งล้านก็อปปี้ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้ฟัง ศิลปินชื่อดังหลายคนได้มีโอกาสพาอัลบั้มของตัวเองไปแตะล้านตลับหลายอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น “เบิร์ด ธงไชย” ที่การันตีความเป็นซุปตาร์ในวงการเพลงด้วยล้านตลับทุกอัลบั้ม “นิโคล เทริโอ” “ลิฟต์ ออยล์” “โบสุนิตา” “พลพล” และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ถือว่าช่วงนั้นถ้าอัลบั้มไหนมีเพลงดัง โอกาสที่จะขายได้ล้านตลับเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนปก อัลบั้มพิเศษ อัลบั้มเพลงยอดนิยมประจำปี ก็มักขายได้ถึงล้านตลับเช่นกัน และในช่วงนั้นทั้งคนฟังเพลง และแฟนคลับเอง นอกจากการยกพวกกันไปสนับสนุนทุกงานคอนเสิร์ต รวมถึงการช่วยกันโทรไปโหวตขอเพลงเพื่อให้ศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบติดชาร์ทอันดับสูง ๆ ก็มักจะใช้ซีดีเป็นช่องทางในการฟังเพลงจากศิลปิน และซัพพอร์ตศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยสำหรับยอดขายเจ็ดหลักต่ออัลบั้ม แต่ถ้าเอาเทียบกับยอดวิวล้านวิวใน YouTube การทำยอดขายล้านตลับได้ มันช่างมีความยิ่งใหญ่มากกว่า
ในวันที่ทุกอย่างดูช้า ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับร่างกายไปทำอะไรที่ควรทำ เหมือนไฟในใจมันมอดหมดไปยังไงบอกไม่ถูก ต่อให้เป็นยอดคนก็คงต้องเจอกับช่วงจังหวะแบบนี้อยู่บ้างแน่นอน เชื่อหรือไม่ว่า นอกจากดื่มกาแฟเข้ม ๆ หาเครื่องดื่มบำรุงกำลังอัดให้คึกคักอยากทำงาน เสียงดนตรีในจังหวะที่ถูกใจ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ไฟมันติดได้เหมือนกัน วันนี้เราจึงสร้าง Playlist เจ๋ง ๆ ที่คัดมาแล้วว่า จะช่วยปลุกไฟในการทำงานได้แน่นอน อย่าเพิ่งถามหาหมอนหรือถอดใจในตอนบ่าย เปิดฟัง Playlist นี้ก่อน รับรองว่างานที่กองสุมเต็มโต๊ะ จะหมดไปเมื่อฟังถึงเพลงสุดท้ายพอดี ใครที่สะดวกฟังใน Spotify สามารถเข้าไป Follow Playlist นี้กันได้ง่าย ๆ ที่นี่ Fly Like An Eagle – Steve Miller Band หากคุณเป็นคอซีรี่ส์คงจะพอคุ้นหูกับเพลงนี้อยู่บ้าง จากซีรี่ส์มาแรงอย่าง “Mindhunter” เพลงนี้เป็นเพลง background ในช่วงที่คู่หูของตัวเอกของเรื่อง ต้องตะลอนทำงานด้วยกันแบบทั้งวันทั้งคืน ตื่น ทำงาน กิน นอน วนลูป แบบนี้ไปเรื่อยๆ ฟังเพลงนี้ไปก็อย่าลืมฮึดสู้กับงานให้เหมือนคู่หูจาก Mindhunter กันด้วย