เชื่อว่าผู้ชายสายรักสุขภาพหลายคนคงมีดัมเบลติดบ้านกันไว้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันฟิตเนสหลายแห่งก็เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง QUICK WORKOUT จึงอยากมาแนะนำโปรแกรมออกกำลังเรียกความฟิตในเวลา 30 นาที ด้วย 5 ท่าดัมเบลคู่แบบ FULL BODY แต่เซตออกกำลังในวันหยุดโปรแกรมนี้ จะประกอบไปด้วยท่าอะไรบ้าง มาชมไปพร้อมกันเลย Dumbbell Push Press เริ่มท่าแรกด้วย Dumbbell Push Press ท่าดัมเบลคู่ที่สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนไหล่ โดยเฉพาะไหล่หน้า (Anterior Deltoids) รวมถึงกล้ามเนื้อหลังแขน (Tricep) เตรียมฝึก Dumbbell Push Press ด้วยท่ายืน มือทั้งสองข้างถือดัมเบลประคองความสูงระดับบ่า โดยหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว ย่อหัวเข่าเล็กน้อยเพิ่มเสริมแรง ในจังหวะเดียวกันให้ออกแรงดันดัมเบลขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนลดระดับกลับมาในท่าเตรียมและทำซ้ำจนครบเซต 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง Dumbbell Bent-Over Row สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการมีแผ่นหลังสวย ปีกกว้างเพื่อสร้างร่างกายท่อนบนโดยรวมสุดแมน Dumbbell Bent-Over Row ถือเป็นท่าที่ขาดไม่ได้สำหรับโปรแกรมฝึกของคุณ เริ่มฝึกด้วยการโน้มตัวไปข้างหน้าในท่ายืน
ฝนที่ตกในช่วงนี้คงทำให้หนุ่ม ๆ นักออกกำลังหลายคนคิดถึงการยกเหล็กในวันอากาศดี ๆ และข่าวดีคือยิมบางส่วนเริ่มกลับมาเปิดให้บริการกันแล้ว อย่างไรก็ตามควรให้ความสำคัญในเรื่องการใช้งานอุปกรณ์ร่วมกับคนอื่นให้ดีก่อนใช้งานเสมอ แน่นอนหลังจากห่างหายจากอุปกรณ์ไปนาน วันนี้ QUICK WORKOUT จึงอยากพาทุกคนมาออกกำลังร่วมกับอุปกรณ์บาร์เบล (Barbell) เป็น 5 ท่าที่จะเรียกความฟิตให้กล้ามเนื้อหลายส่วน ในเวลาเดียวกันก็สร้างการเผาผลาญได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะประกอบไปด้วยท่าอะไรบ้าง มาเรียนรู้และเตรียมฝึกไปพร้อมกัน คำแนะนำ: ก่อนออกกำลังในโปรแกรมนี้ควรวอร์มอัพกล้ามเนื้อในส่วนหลัง แขน ต้นขาและขาก่อนให้ดีอย่างน้อย 20 นาที Barbell Back Squat หลังจากวอร์มอัพพร้อมแล้ว มาเริ่มเซตด้วยท่าที่ใช้แรงได้อย่างเต็มที่กับ Barbell Back Squat ท่าที่เล่นคู่กับอุปกรณ์บาร์เบลจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ทั้งส่วนหลัง บ่า และต้นขาได้ในท่าเดียว เตรียมฝึก Barbell Back Squat ในท่ายืน ขาทั้ง 2 ข้างแยกออกจากกันเล็กน้อย แขนจับบาร์ในลักษณะขนานกับหัวไหล่ โดยเลือกบาร์เบลน้ำหนักที่เหมาะสมกับการฝึกของตัวเองหรือจะเริ่มจากบาร์เปล่าก็ได้ เมื่อพร้อมแล้ว ค่อย ๆ ย่อลำตัวให้หัวเข่าทำมุม 45 องศา เหมือนกับการทำ Squat ปกติ
สถานการณ์รอบด้านที่เปลี่ยนแปลงไปในเวลานี้ คงทำให้หนุ่มหลายคนต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงตารางในชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าเวลาสำหรับออกกำลังของใครหลาย ๆ คนก็ลดน้อยลงไป แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการออกกำลังและสร้างกล้ามเนื้อภายใต้เวลาที่จำกัด โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนแขนและหน้าท้องซึ่งถือเป็นจุดที่ใครหลายคนให้ความสำคัญ QUICK WORKOUT จึงได้จัดโปรแกรมออกกำลังสำหรับกล้ามเนื้อส่วน Arm และ Abs โดยแต่ละท่าจะช่วยให้ทุกคนสามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อทั้ง 2 ส่วน แต่จะประกอบด้วยท่าอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย Reverse Plank Bridge เริ่มต้นกันด้วย Reverse Plank Bridge ท่าบอดี้เวทที่ไม่เพียงสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนแขนและท้อง แต่รวมไปส่วนก้น หลังรวมถึงต้นขา และถือเป็นท่าเรียกเหงื่อสำหรับเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมทำงานหนักขึ้นในท่าต่อไป เตรียมฝึก Reverse Plank Bridge ด้วยการนั่งบนพื้นในท่าชันเข่า แขนทั้ง 2 วางรับน้ำหนักอยู่ด้านหลังลำตัว ก่อนออกแรงยกลำตัวส่วนกลางขึ้น โดยเน้นออกแรงยกร่วมกันจากแขนและขา โดยให้เข่าทำมุม 90 องศา และแขนเหยียดตึงฝึกทั้งหมด 2 เซต เซตละ 40 วินาที
หนุ่ม ๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านและไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมานาน คงเริ่มรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความฟิตหรือความคล่องตัวไปเพราะแค่เดินขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็ทำให้เหนื่อยหอบได้ และสำหรับคนที่อยากเรียกความฟิตของตัวเองกลับมา QUICK WORKOUT ในวันนี้ จะพาทุกไปรีดเหงื่อด้วยการออกกำลังแบบ Circuit กับ 4 ท่าบอดี้เวทที่ช่วยให้เราเคลื่อนไหวร่างกายหลายส่วนรวมถึงช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงไปพร้อมกัน แถมโปรแกรมออกกำลังครั้งนี้ ยังกินเวลาไม่ถึง 40 นาที/วัน แต่จะมีวิธีการยังไงบ้างขอเชิญมาเรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกัน คำแนะนำการฝึก 1.การฝึกแต่ละเซตจะไม่มีการนับครั้ง แต่จะเป็นการจับเวลา 30 วินาทีต่อ 1 เซต 2.การฝึกแต่ละท่าจะฝึกทั้งหมด 4 เซตเท่ากัน 3.เวลาในการพักระหว่างเซตคือ 20 วินาที เวลาพักระหว่างเปลี่ยนท่าคือ 1 นาที 30 วินาที 4.โปรแกรมการฝึกครั้งนี้ ส่วนหนึ่งของท่าฝึกเป็นที่เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องการพื้นที่โล่งในการฝึก ควรหามุมเหมาะ ๆ ในบ้านให้ดี หรือเลือกสถานที่ให้เหมาะสม JUMP LUNGE เริ่มต้นเรียกความฟิตด้วยท่าแรกอย่าง Jump Lunge ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อทั้งส่วนต้นขา ก้นและน่อง พร้อมกันนั้นการเคลื่อนไหวร่างกายในระหว่างการฝึก Jump Lunge ยังช่วยให้ผู้ฝึกสร้างความคุ้นเคยกับ Body
ช่วงนี้หนุ่ม ๆ หลายคนเริ่มปล่อยตัวเองอยู่บ้านและไม่ได้ออกกำลังมานานหลายวัน จนส่อเค้าว่าจะสูญเสียเสียร่างกายที่ฟิตไป โดยเฉพาะหน้าท้องที่ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องก็จะมีพุงย้วย ๆ มาทักทายได้ง่าย ๆ แต่สำหรับคนที่มีเวลาน้อยและอยากเล่นท้องให้ครบทุกส่วนในโปรแกรมเดียว QUICK WORKOUT วันนี้เราเลยผสมรวม 6 ท่าบอดี้เวทสำหรับบริหารท้อง ที่ครอบคลุมการสร้างกล้ามเนื้อได้ครบทุกส่วน ซึ่งจะประกอบไปด้วยท่าอะไรบ้างมาเรียนรู้และเตรียมฝึกฝนไปพร้อมกัน High Crunches (Upper) ท่าแรกที่เป็นท่าเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Rectus Abdominis ส่วนบนด้วยท่า High Crunches ที่ฝึกตามได้ง่าย เตรียมตัวฝึกด้วยการนอนราบกับพื้น ชันเข่าขึ้นเล็กน้อย และชูมือทั้ง 2 ข้างขึ้นไปด้านหน้าลำตัว ก่อนออกแรงยกลำตัวส่วนบนขึ้นให้ทำมุมกับพื้นประมาณ 4 องศา ไม่ควรออกแรงจากหลังในการยกลำตัว ควรเน้นใช้แรงจากท้องส่วนบนช่วยพยุงน้ำหนัก ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง Scissors (Lower) ต่อด้วยท่าบริหารและสร้างกับเนื้อให้กับ Rectus Abdominis ส่วนล่างซึ่งเราเลือกเป็นท่า Scissors เตรียมฝึกด้วยท่านอนรอบ มือทั้ง 2 ข้างวางแตะกันอยู่ใต้ก้น ก่อนออกแรงยกขาทั้ง
หลังยิมและสวนสาธารณะปิดให้บริการไปนาน เชื่อว่าร่างกายของหนุ่ม ๆ หลายคนคงจะเริ่มสูญเสียความฟิตไป หลายคนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเพราะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมานาน ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ความความแข็งแรงที่อุตส่าห์สั่งสมมาอาจหายไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มีเวลาออกกำลังต่อสัปดาห์ไม่มากนัก โปรแกรมออกกำลังที่สั้นแต่ได้ผลดีอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา และการออกกำลังแบบ HIIT คือรูปแบบที่เราอยากแนะนำ แต่ก่อนจะพบกับโปรแกรมฝึก เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการออกกำลังกายแบบ HIIT กันก่อน HIIT หรือ High-Intensity Interval Training เป็นรูปแบบการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาสั้น ๆ สลับการออกกำลังหนักในเวลาที่กำหนดไม่เกิน 10 – 40 นาทีโดยเน้นออกกำลังแบบต่อเนื่องให้ Heart Rate ของผู้ฝึกขึ้นไปแตะหลัก 80 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่าเพื่อสร้างอัตราการเผาพลาญที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามโปรแกรม HIIT ที่เราจะแนะนำในวันนี้จะใช้การออกกำลังแบบคาร์ดิโอและบอดี้เวทมาปรับใช้ในโปรแกรม ทำให้นอกจากจะได้เผาผลาญไขมันแล้วยังเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ไปพร้อมกัน 1 สัปดาห์สามารถฝึก HIIT ได้บ่อยแค่ไหน ? หนุ่ม ๆ ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมออาจฝึก HIIT ได้ถึง 4 ครั้ง/สัปดาห์ เพราะต่างคุ้นเคยการกำลังออกกำลังหนัก ๆ ในระยะเวลาอันสั้นอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มฝึก
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงเคยเผชิญกับอาการปวดหลังเรื้อรังที่บ้างครั้งแม้จะไม่ได้รู้สึกปวดมากจนทนไม่ไหว แต่ก็สร้างความลำบากให้กับชีวิตประจำวันได้ในทุกอิริยาบท และที่พบเจอกันบ่อยมักจะเป็นอาการปวดหลังส่วนล่าง (Lower Back) ที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานในผิดท่าทางเป็นเวลานาน รวมถึงการนอนหรือการยกของหนักเกินไป เพราะหลังเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักในร่างกายของเราในหลายท่าทางซึ่งก็ควรได้รับการดูแลและสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแผ่นหลังสามรถต้านทานต่อท่ายากทั้งหลายให้มากขึ้น สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังประสบกับอาการปวดหลังและอยากบริหารร่างกายด้วยท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อผ่อนคลายไม่ใช่เพิ่มอาการ รวมถึงต้องการเรียนรู้วิธีสร้างความแข็งแรงไปด้วยในตัว QUICK WORKOUT ในครั้งนี้จึงอยากและนำ 3 ท่ายืดบริหารหลังและ 3 ท่าสร้างเสริมแกร่งหลังที่จะให้ทุกคนสามารถจัดการอาการปวดหลังเบื้องต้นจากอาการปวดกล้ามเนื้อด้วยตัวเองได้ที่บ้าน จะประกอบท่าอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย 3 Back Stretches Cat/Cow เริ่มจากท่ายืดหลังที่เห็นผลแน่ ๆ หากบริหารต่อเนื่องในช่วงที่มีอาการปวดกับท่า Cat/Cow เตรียมฝึก Cat ด้วยท่าคลาน โดยจัดให้แขน ขาและลำตัววางเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ก่อนเริ่มจากแอ่นแผ่นหลังส่วนล่างลงให้ต่ำกว่าก้นซึ่งจะเกิดอาการตึงบริเวณหลัง ทำค้างไว้ประมาณ 1 วินาที ก่อนเปลี่ยนมาโก่งแผนโค้งขึ้นให้กล้ามเนื้อส่วนหลังล่างรู้สึกคลายตัวทำค้างไว้ 1 วินาทีทำสลับกันช้า ๆ เป็นเวลาประมาน 1 นาที Sphinx หลายคนคุ้นเคยกับท่ายืดอย่าง Sphinx แต่อาจไม่รู้เลยว่าท่าพื้นฐานนี้ช่วยยืดและบริการทั้งหลังแกนกลางและหลังล่างซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดได้
สถานการณ์ในช่วงนี้ทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนเจอนโยบาย Work Form Home ต้องขนข้าวของกลับไปนั่งทำงานที่บ้านกันถ้วนหน้า หลายคนที่มีมุมโต๊ะทำงานอยู่บ้าน การนั่งทำงานนาน ๆ คงไม่เป็นปัญหานัก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องนั่งอยู่หน้าคอมบนโซฟาที่เป็นเวลานาน ๆ คงมีอาการปวดเมื่อยจากท่าทางการนั่งที่ไม่ถูกต้องกันบ้าง QUICK WORKOUT วันนี้เลยอยากแนะนำท่าบริหารและเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อส่วนคอ ไหล่และหลังที่นอกจากจะช่วยให้ทุกคนสามารถยืนระยะการนั่งทำงานได้ยาวนานและป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ดีมากขึ้นแล้ว เซ็ตออกกำลังนี้ยังช่วยให้มีรูปทรงของ Upper Body ที่น่ามองขึ้นในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามทั้ง 5 ท่าที่เราแนะนำใช้ดัมเบลเพียง 1 คู่ และไม่ต้องฝึกคู่กับเก้าอี้ออกกำลัง ทั้งหมดเป็นท่ายืนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถหามุมที่เหมาะสมเพื่อฝึกฝนในบ้านได้ตามความต้องการ เมื่อพร้อมแล้ว วอร์มร่างกายแล้วไปลุยกันเลย Standing Dumbbell Upright Row เริ่มต้นด้วยท่าสร้างกล้ามเนื้อส่วน Traps ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพยุงน้ำหนักของคอและศีรษะของเรา เตรียมฝึก Standing Dumbbell Upright Row ด้วยท่า ยืนมือทั้ง 2 ถือดัมเบลขนานกันอยู่ด้านหน้าลำตัว ก่อนค่อย ๆ ออกแรงยกทั้งคู่กันให้สูงในระดับอกบน โดยแขนจะมีลักษณะกางออกด้านนอกลำตัว ทำทั้งหมด 3 เซต
เชื่อว่าหลายคนคงเกือบจะหมดกิจกรรมทำในช่วงจำศีลอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยกันเต็มที แต่ถ้ากมองในแง่ดี สถานการณ์แบบนี้ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่เราจะลองทำอะไรใหม่ ๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองทบทวนอะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น คนที่มักจะมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาเพราะที่ผ่านมางานนั้นแสนยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่มีสถานที่เหมาะ ๆ จะไปยิมก็ไม่ชอบคนเยอะ ไหน ๆ ช่วงนี้ก็มีเวลาส่วนตัวเหลือเฟือแล้ว เราเลยขอนำเสนอวิธีเปลี่ยนบ้านให้เป็นยินง่ายๆ ใช้อุปกรณ์แค่ไม่กี่อย่าง เผื่อใครสนใจจะฟิตหุ่นให้ล่ำบึกเป็นคนใหม่ จนใคร ๆ ก็ตกใจในในรูปร่างที่ดีขึ้นของคุณก็ได้ การจะเปลี่ยนบ้านให้เป็นฟิตเนสส่วนตัวนี้ ต้องบอกเลยว่า ไม่อยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณมีอุปกรณ์สำคัญ ๆ สัก 4-5 ชิ้น ก็สามารถระเบิดมัดกล้ามแบบฟิน ๆ ได้ภายในบ้าน หรือคอนโดแบบครบวงจรแล้ว Olympic Barbell Olympic Barbell เป็นอุปกรณ์ที่เราขอแนะนำให้มีไว้ เพราะด้วย Olympic Barbell นี้เพียงแค่อย่างเดียว ก็สามารถใช้บริหารกล้ามเนื้อได้เกือบครอบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นท่า Squat, Deadlift, Bench รวมไปถึง Overhead Press ดังนั้นนี่จึงเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่คุณควรจะมีไว้ ถ้าหากต้องการจะเปลี่ยนบ้านให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายส่วนตัว Squat Rack with
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนต้องใช้เวลาอยู่บ้านเกือบจะทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็ตามช่วงที่ทุกคน Stay Home Stay Safe ก็ไม่ควรลืมออกกำลังเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและรักษามวลกล้ามเนื้อของตัวเอง แม้การอยู่บ้านไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเวลาให้ออกกำลังตลอดทั้งวัน เพราะหลายคนยังคงต้องปั่นงานส่ง ยังต้องรับสายลูกค้าหรือใช้เวลากับหน้าที่ของตัวเองอยู่ QUICK WORKOUT วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ไปกับโปรแกรมออกกำลังที่บริหารร่างกายครบทุกส่วนใน 1 สัปดาห์ โดยแต่ละวันจะเป็นโปรแกรมสำหรับการฝึกกล้ามเนื้อส่วนไหนบ้าง มาเรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกัน คำแนะนำ : การออกกำลังทุกท่าแนะนำให้ฝึกอย่างน้อย 3 เซต เซตละ 9-12 ครั้ง Day 1 ขา Lunge Lunge เป็นท่าแรกที่เราอยากแนะนำและถือเป็นท่าฝึกที่ช่วยวอร์มกล้ามเนื้อขาทั้งหมดไปในตัว เทคนิคในการฝึก Lunge เน้นใช้พลังจากกล้ามเนื้อต้นขาและน่องเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับจังหวะการฝึกที่ต่อเนื่องและระวังเรื่องการผ่อนน้ำหนักที่ไม่ควรกระชากเร็วเกินไป Jump Squat ต่อด้วย Jump Squat ท่าเรียกกำลังขาที่พัฒนาให้ยากขึ้นจาก Squat เล็กน้อยแต่ให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อเป็นเท่าตัวแถมยังเผาลาญแคลอรี่ได้ดีอีกด้วย หลักการฝึก Jump Squat คือการทรงตัวและการรองรับน้ำหนัก ระหว่างกระโดดให้ใช้มือทั้ง 2