เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ FINFIN ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพื่อนคนใหม่ของสายปาร์ตี้ทุกคน ที่ทางบริษัท Innomediga ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ ด้วยเหตุผลที่สามารถสรุปเป็นคำพูดได้ว่า “เราไม่ได้ขายยา เราไม่ได้ขายอาหารเสริม แต่ว่าเราขายเทคโนโลยี” เพราะนี่คือครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีระดับนาโนอย่าง Nano Encapsulation เข้ามาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อร่างกายด้วยสารสกัดธรรมชาติ 100% ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานที่ ชงเจริญ @Groove Central World สถานที่จัดงานในวันนี้ ซึ่งเหล่านักดื่มทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันเหมือนกับว่าทางบริษัท Innomediga อยากบอกกับสายปาร์ตี้ทุกคนว่า เข้าใจ แอลกอฮอลล์นั้นสร้างความรู้สึกฟินมากแค่ไหน ถ้างั้นก็ขอให้ FINFIN เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดเถอะนะ เพื่อการันตีความเจ๋งของตัว FINFIN ต้องขอเล่าก่อนสักนิดว่าบริษัท Innomediga นั้นเคยได้รับรางวัลเหรียญทองแดงในงาน 48th International Exhibition Of Inventions Of Geneva จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในปี 2023 จากโปรดักส์อย่าง ‘ฟาโนวา (Fahnova)’ หรือฟ้าทะลายโจรเมาท์สเปรย์ และอาหารเสริม ‘ยูดีเอวันซี (UD-A1C)’ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มเสี่ยง จนสามารถคว้ารางวัลเหรียญทองจากเวทีเดียวกันตอนปี 2017 แค่รางวัลอย่างเดียวยังไม่พอ
“Magic Moment ในคอนเสิร์ตที่คุณชอบที่สุดคือการแสดงของศิลปินคนไหน ?” ไม่ว่าของคุณจะเป็นโชว์ไหน แต่อันดับ 1 ในใจของเราคือตอนที่ Frank Ocean แสดงที่ FYF Fest ใน L.A. เมื่อปี 2017 อย่างแรกเลยคือเวทีคือเซ็ทสวยมาก มีลำโพงล้อมรอบกับอุปกรณ์ทำเพลงแบบอนาล็อคที่เหมือนกับว่ายกสตูดิโออัดเสียงของโอเชียนมาไว้ตรงนั้น แล้วให้นักดนตรีนั่งล้อมเป็นวงกลมเข้าหากัน เหมือนว่ากำลังซ้อมอยู่ยังไงอย่างนั้น ชั่วโมงต้องมนตร์เกิดขึ้นในเพลง Close To You เพลงต้นฉบับจาก The Carpenter ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะถูกเมดเล่ย์ต่อด้วยเพลง Never Can Say Goodbye ของ The Jackson 5 ได้อย่างเนียนกริบราวกับว่าเป็นเพลงเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในระหว่างช่วงต้นของการบรรเลง จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ฉายภาพของโอเชียนและสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีมาตลอด ก็ค่อย ๆ แพนกล้องออกไปที่ขอบส่วนหนึ่งของเวที ที่ตรงนั้นเอง มีผู้ชายกำลังนั่งโทรศัพท์อยู่ คือผู้ชายที่ไม่มีใครคาดฝันว่าจะอยู่ตรงนั้นได้ เพราะเขาคือ Brad Pitt จอมอนิเตอร์ Close Up ไปที่พิทต่อไปเรื่อย ๆ
“Walt Disney Of Japan” คือคำที่ถูกใช้เรียก Hayao Miyazaki หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้กำกับคนสำคัญของสตูดิโออนิเมชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Studio Ghibli นั่นเอง ทุกครั้งที่คุยถึงการ์ตูนจิบลิเรื่องโปรดในดวงใจกับกลุ่มเพื่อน เคยสังเกตุกันมั้ย ว่าทุกครั้งเราจะต้องพูดถึงงานศิลป์ที่สวยงามราวกับเป็นของจริง แต่งดงามเกินชีวิตจริงกันเสมอ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม สาวกอนิเมชั่นของจิบลิหลายคนถึงชอบดูคลิปสั้นฉากทำอาหาร ฉากผู้คนเดินขวักไขว่ใช้ชีวิตในเมือง หรือฉากยานพาหนะของสตูดิโอนี้ได้แบบไม่มีเบื่อ เพราะมันเหมือนว่าเราเอาตัวเองไปอยู่ในความฝัน ที่มีภาพความจริงที่เป็นไปได้ซ้อนทับอยู่ ส่วนตัวเราว่ามันทำให้มองโลกนี้น่าอยู่ขึ้น และเมื่อพูดถึงความฝัน วันนี้ก็เลยอยากจะพูดถึง ‘จุดเริ่มต้น’ ของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือปู่ฮายาโอะของเรามีแพชชั่นในการทำอนิเมชั่นเพราะว่าอยากวาดรถฝรั่งเศสยี่ห้อ Citroën 2CV ของตัวเองเข้าไปมีชีวิตอยู่ในนั้น UNLOCKMEN ขอพาไปอ่านเรื่องราวความหลงใหลในรถของปู่ฮายาโอะ ที่ทำให้รถยนตร์ทุกคันในการ์ตูนของจิบลิมีความสวยงาม มีความหมาย และมีเรื่องราวของเขาซ่อนอยู่ใน 4 ล้อที่ขับเคลื่อนไปอยู่ตลอดเวลา “ด้วยรถคันนี้ มันทำให้ผมหนาวจนตัวสั่นในฤดูหนาว และร้อนจะเป็นจะตายเมื่อฤดูร้อนมาถึง แต่นั่นคือกระบวนการ ‘ออสโมซิส (Osmosis)’ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธรรมชาติของผม” ขอเล่าประวัติย่อสั้น ๆ กันสักนิด Hayao Miyazaki เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย Gakushuin University จบคณะเศรษฐศาสตร์
พอดีได้ยินคำว่า “เด็กหนวด” ตามเพจคอนเทนต์เกมบน Facebook ทีไร เป็นต้องสะดุ้งตกใจทุกทีเลย แต่ก็เป็นความตกใจด้วยความดีใจล่ะ เพราะต้องยอมรับว่าช่วงเวลาจุดเริ่มต้นเครื่องคอนโซลของ Playstation ไม่ว่าจะ PS1 หรือ PS2 เป็นการเล่นเกมครั้งหนึ่งที่สนุกที่สุดในชีวิตจริง ๆ ที่นอสตอลเจียแบบนี้มันมีเหตุผลอยู่นะ ก็เพราะว่าในเดือนกรกฎาคมของปี 2023 นี้ เป็นวันครบรอบ 20 ปีของหนึ่งในเกมกีฬา Extreme Sport ที่เราอยากให้ Remake มากที่สุดเกมหนึ่ง คือ Downhill Domination นั่นเอง โอ้โห ตัวเลข 20 ปีนี่คือไม่รู้จะเด็กหนวดยังไงแล้ว ! Sony Computer Entertainment วางจำหน่าย Downhill Domination ตอนปี 2003 ในอเมริกาก่อน แล้วจึงตามมาด้วยประเทศแถมยุโรปในปี 2004 ซึ่งปี 2003 นั้นเรียกว่าเป็นช่วงรุ่งเรืองของ Play Station มาก ๆ มีเกมตัวเด็ดเป็นลิสต์ยาวเป็นหางว่าว
“ถ้าพูดถึง Content Creator ที่เป็นสาย Prank ของเมืองไทยแบบจริงจัง คุณจะนึกถึงใครเป็นอันดับแรก ?” ย้อนกลับไปเกิน 10 ปีก่อนหน้านี้ ชื่อของ สาระแนโชว์ คงถูกยกขึ้นมาพูดเป็นอันดับต้น ๆ แต่ถ้าช่วงเวลานี้ถ้าไม่พูดถึง ‘โคจอน’ นั้นถือว่าผิด ผู้ชายที่เป็นหนึ่งใน Master Of Prank ที่ทำสายนี้มาเกินกว่า 10 ปีแล้ว เป็นตำนานที่ถึงขนาดถูกเรียกด้วยฉายาว่า ‘ตำนานที่ไม่น่ามีลมหายใจ’ คิดดูว่าถ้าไม่พิเศษจริง ๆ คงไม่ได้ชื่อนี้มาอย่างแน่นอน อีกหนึ่งชื่อเสียงของโคจอนมาจากการเป็นพิธีกรรายการชื่อ The Very Show แต่นั่นก็เป็นอดีตเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันคุณจะเห็นหน้าของโคจอนปรากฎตัวเป็นคลิปปั่น ๆ โลดแล่นอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะ TikTok หรือ FACEBOOK แถมเขายังได้ไปร่วมงานทำรายการกับ Content Creator สายอาหารเบอร์ต้นของไทยอย่าง Wongnai อีกด้วย แต่คำถามคือ “แล้วโคจอนคือใครล่ะ ?” ตัวตนของโคจอนเป็นปริศนามาเสมอ ไปเสิร์ชดูได้เลยแล้วคุณจะตกใจที่ไม่พบว่าเขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องของตัวเองเท่าไหร่
ในช่วงเวลาที่สถานการณ์การเมืองไทยกำลังครุกกรุ่น ยังมองไม่เห็นเส้นทางชัดเจนว่าจะออกหัวแน่ หรือว่าจะสปินไปทางก้อยกันนะแบบนี้ UNLOCKMEN อยากชวนทุกคนข้ามน้ำข้ามทะเลปักหมุดไปที่ประเทศโปแลนด์ ย้อนกลับไปเมื่อสักประมาณ 30 ปีก่อนหน้า (ซึ่งสถานการณ์ทาวการเมืองร้อนแรงไม่แพ้กัน) เพื่อไปรู้จักกับหนึ่งในพรรคการเมืองที่แปลกที่สุดในโลกชื่อ Polish Beer-Lovers Party แค่ชื่อพรรคก็รู้เลยใช่มั้ยครับว่ามีอุดมการณ์อะไร และมาทางปั่นแน่นอน แต่ผิดครับ ! ท่ามกลางพรรคการเมืองมากมายบนโลกนี้ หนึ่งคืออีกหนึ่งพรรคการเมืองจากโปแลนด์ที่แน่วแน่ในอุดมการณ์ของตัวเองอย่างจริงจังท่สุด และหวังอยากเห็นประเทศดีกว่านี้ผ่านความสวยงามของเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ค.ศ.1989 จากการปกครองของคอมมิวนิสต์สู่ระบอบประชาธิปไตย ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศโปแลนด์ตอนปี 1989 นั้น มีเหตุการณ์สำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเกิดขึ้น ซึ่งถูกจารึกในภายหลังว่า ‘การเจรจาโต๊ะกลม (Round-table talks)’ ระหว่างรัฐบาลคอมมิวนิสต์และฝ่ายต่อต้านที่นำโดยสหภาพแรงงาน Solidarity การเจรจาในครั้งนั้นทำให้การปกครองแบบระบอบคอมมิวนิสต์มาหลายทศวรรษได้ตายลง และนำพาประเทศเข้าสู่ระบอบการเมืองแบบเสรีนิยมประชาธิปไตยอย่างที่ประชาชนหวังกันไว้ในที่สุด แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการเลือกตั้งรัฐสภาใหม่ของประเทศ แล้วในปี 1990 นั้นเอง ชายหนุ่มหุ่นหมีอายุ 30 ต้น ๆ ชื่อ Janusz Rewiński หนึ่งในประชาชนของโปแลนด์ มองเห็นปัญหารูโหว่ขนาดใหญ่ของประเทศตั้งแต่ช่วงเวลาของคอมมิวนิสต์ และเก็บความอึดอั้นตันใจมานานแล้ว คำถามที่เหมือนจะระเบิดอยู่ในหัวตลอดเวลาอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมเบียร์ถึงไม่ถูกสนับสนุนแบบวอดก้าบ้างนะ” กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมา และหากต้องการให้คนอื่นรับรู้ถึงปัญหาที่มีอยู่นี้ด้วย ไม่มีอะไรจะช่วยได้เท่ากับสนามการเมืองอีกแล้ว เพราะฉะนั้น Janusz
สำหรับชาวด้อมร้อนในของพี่เอก HEARTROCKER ทุกคน คงจะเศร้าไปตาม ๆ กัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอุตส่าห์มีเกมเนื้อเรื่องแบบ Horror มาให้เราดูพี่เอกกรี๊ดสนั่นลั่นจังหวัดทั้งที ดันมาจบแค่ 4 พาร์ทเสียได้ ! แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีแค่ไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมเนื้อเรื่องอีกเกมที่พี่เอกเลือกได้คุณภาพมาก ๆ ทั้งในด้านของเนื้อหาและเกมเพลย์เลย (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูสตรีมเกมนี้) Bramble: The Mountain King เล่าเรื่องของ Olle เด็กชายตัวน้อยที่ต้องออกไปผจญภัยเพียงลำพังเพื่อตามหาพี่สาวที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากห้องนอนที่อยู่ด้วยกัน ในดินแดนที่ชื่อว่า Bramble ซึ่งเส้นทางที่เด็กน้อยคนนี้ท่องไปเต็มไปด้วยความพิศวง จากป่าใหญ่ที่มีตัวละครในเทพนิยายอย่าง Gnomes น่ารัก ๆ นำเขาไปสู่เหตุการณ์สุดสยองขวัญเจอกับ Trolls กินคน พิธีบูชายัญเด็กจากเหล่าแม่ม่ายสาว ไปจนถึงโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนทั้งหมู่บ้าน ถ้าคุณไปเปิดดูคลิปของพี่เอกตอนนี้ (ดูเถอะ เชียร์อีกรอบ) จะพบว่า Bramble: The Mountain
ในวรรณกรรมดิสโทเปียชื่อ Fahrenheit 451 โดยนักเขียนชาวอเมริกัน Ray Bradbury นั้น เล่าเรื่องของโลกที่รัฐบาลลงมติว่า ‘หนังสือ’ คือสิ่งผิดกฎหมาย ประชาชนห้ามอ่านเด็ดขาด ถึงขนาดว่ามีหน่วยชื่อ Firemen คอยเผาหนังสือทุกที่ที่มีอยู่ในสังคมให้หมดไป Guy Montag ตัวเอกของเรื่องก็คือหนึ่งในหน่วยสุมเพลิงนั้น ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ตั้งคำถามว่าสิ่งที่รัฐบาลบอกว่าผิด ใครที่เป็นแฟนคลับตัวยงของมังงะโจรสลัด One Piece น่าจะรู้ถึงความโหดร้ายของรัฐบาลโลกในเรื่องดี ซึ่งหนึ่งในสิ่งชั่วร้ายที่รัฐบาลคอยทำมาตลอดตั้งแต่เล่มที่ 1 ของมังงะเรื่องนี้ คือการปิดบังข้อมูลกับประชาชน จากตัวอักษรโบราณที่ชื่อว่า ‘โพเนกรีฟ’ เพราะกลัวว่าประชาชนจะล่วงรู้ประวัติศาสตร์แห่งความว่างเปล่าหลายร้อยปีก่อนที่อาจจะมีศพซุกซ่อนอยู่ใต้พรหมที่ตัวเองซุกซ่อนเอาไว้ ถึงขนาดว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนที่อ่านตัวอักษรนี้ทิ้งไปเลย เรื่องแต่งว่าด้วยการห้ามอ่านของหนังสือ 2 เล่มที่กล่าวไปในข้างต้น มีจุดเชื่อมโยงน่ากลัวร่วมกันอยู่ตรงที่ ‘พลังของตัวอักษร’ มีพลังสามารถเปลี่ยนความคิด ความรู้สึกคนอ่านแบบฉับพลันโดยใช้เวลาเพียงจบหน้ากระดาษ 100-300 หน้าเท่านั้น และการห้ามอ่านมันเกิดขึ้นในชีวิตจริงของพวกเราด้วย ! ในปี 1982 จำนวนหนังสือที่ถูกแบนจากห้องสมุดโรงเรียน และจากรัฐบางรัฐในอเมริกามีปริมาณที่สูงขึ้นมาก ถึงขนาดทำให้องค์กร Free-Speech หลายแห่งรวมตัวกันตั้ง ‘งานสัปดาห์หนังสือที่ถูกแบน (Banned Books Week)’ ครั้งที่
การเปิดตัว Seiko 5 Sports SKX Series 38mm Mid-Size เรือนเวลาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาดำน้ำที่เท่และฮิตที่สุดของ Seiko ในยุค 80’s ต่อยอดความอมตะของสีสันและงานดีไซน์ สู่เรือนเวลาของปี 2023 ที่โมเดิร์นยิ่งกว่าใคร ! ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ยังมีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง SEIKO 5 SPORTS 55th Anniversary กับการเดินทางที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และจะเดินหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อ Represent ฟังก์ชั่นสุดแข็งแกร่งหัวใจหลักทั้ง 5 อันประกอบไปด้วย Automatic movement, Day-date display, Water Resistance, Recessed Crown and Durable Case และ Bracelet สิ่งแรกที่ UNLOCKMEN อยากให้ทุกคนจำให้แม่นก่อนจะรู้จักกับเรือนเวลารุ่นนี้ให้ละเอียดในบรรทัดต่อไป คือความงามแบบไทม์เลสจากยุค 80’s ของเรือนเวลารุ่นนี้ อยู่ที่หน้าปัด 4 สีใหม่ อันสะท้อนตัวตนของผู้ใส่ที่ต่างกัน ประกอบไปด้วย
แล้วฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย Chino Yumiko ต้องใช้ชีวิตในวัย 65 คนเดียว หลังจากที่สามีเสียชีวิตไปได้เกินเดือนแล้ว เธอใช้ชีวิตประจำวันราวกับว่าถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ ตื่นเช้าออกมารับแดด ตอนบ่ายทำกับข้าว แต่ทว่าวันหนึ่ง Yumiko กลับออกนอกโปรแกรมอย่างไม่รู้ตัว เธอหยิบวิดีโอม้วนเก่าที่เคยดูกับสามีเพื่อที่จะเปิดดูอีกครั้งก่อนที่จะพบว่าเครื่องเล่นได้เสียไปแล้ว วันแปลกประหลาดของ Yumiko ยังไม่จบลงแค่นั้น เธอตัดสินใจออกจากบ้านเข้าโรงหนังหลังจากที่ไม่ได้ไปมากว่า 20 ปี ที่นั่นเอง เธอได้เจอกับเด็กหนุ่มนักศึกษาเอกภาพยนตร์ชื่อ Kai ด้วยเคมีอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มชวน Yumiko ให้ทำหนังของตัวเอง สิ่งที่ทำคือ ตัดสินใจเรียนเอกภาพยนตร์ที่เดียวกับเขา เพื่อเข้าใจอะไรบางอย่างในชีวิตที่กำลังหลงทางอยู่ .. แล้วฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย Umi ga Hashiru End Roll คือมังงะของอาจารย์ John Tarachine ที่ได้อันดับ 1 ที่ผู้หญิงอ่านมากที่สุด จากการจัดอันดับของหนังสือไกด์บุ๊ค Kono Manga ga Sugoi! จากปี 2022 ในปีเดียวกันมีมังงะตัวเต็งจากฝั่งผู้ชายอย่าง Look Back