ถ้าให้อธิบายชีวิตของตัวเองในปี 2020 อีกสักครั้งหนึ่ง คิดว่าพอจะทำกันแบบที่ไม่เจ็บปวดเกินไปได้มั้ยครับ .. ผมสามารถตอบแทนได้เลยว่า “ไม่ได้” การมาถึงของโรคระบาด Covid-19 (Coronavirus Disease Starting In 2019) ที่ไม่คาดคิด สร้างรูโหว่ให้ชีวิตของพวกเราแบบที่เรียกคืนมาไม่ได้อีกแล้ว ในแบบที่ต่างกันออกไป จนปีนั้นทุกคนบนโลกไม่อยากรีแคปภาพรวมชีวิตของตัวเองกันเลย แต่เราจะขอพูดถึงปีแห่งความเลวร้ายนั้นกันอีกครั้ง โดยวางพินของ Google Map ปักไปที่ประเทศญี่ปุ่น และ Street View ที่ย่านคึกคักของนักท่องเที่ยวรู้จักกันดีอย่าง ‘คาบุกิโจ (Kabukicho)’ ย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยโฮสต์คลับ / คาบาเร่ย์ / คาสิโนใต้ดิน และอื่น ๆ อีกมากมาย ในช่วงเวลาของเมื่องที่ไม่เคยหลับใหลนั้นเอง มีเหล่าเด็ก ๆ ที่หลงทางจากสภาพสังคมอันแสนโหดร้ายรวมตัวกันอยู่ พวกเธอถูกเรียกว่า Toyoko Kids เด็กสาวอายุเพียง 14-15 ปี ที่เป็นอีกภาพสะท้อนความดำมืดของสังคมญี่ปุ่นในช่วงเวลาแห่งความสับสัน ย้อนกลับไปในปี 2019 ก่อนช่วงเวลาที่ Covid-19 จะระบาดไม่นาน ณ
เมื่อเราพูดถึงที่มาของวันร่วมสุขด้วยกัญ ของประชาชนสายเขียวทั่วโลก 420 นั้น มันเป็นเหมือนกับว่าเราต้องพูดถึงทฤษฎีสมคบคิด เรื่องลึกลับ และสัตว์ประหลาด (ขออนุญาต Untitled Case มา ณ ที่นี้ด้วยครับ) บ้างก็ว่าเป็นรหัสลับที่ตำรวจใช้กัน บ้างก็ว่าเป็น Symbolic ในป็อปคัลเจอร์เพราะผู้กำกับ Quentin Talantino เลือกตั้งนาฬิหาของตัวละครใน Pulp Fiction เป็นเวลา 04:20 ทุกซีน และบางเสียงลือเสียงเล่าอ้างไปไกลถึงมีเพื่อสดุดีวันเกิดของผู้นำที่เลวร้ายที่สุดของโลกอย่าง Adolf Hitler ! คำตอบที่ถูกต้องสำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่ถูกพูดถึงในบรรทัดก่อน สิ่งที่เข้าเค้าที่สุด และดูเหมือนว่าจะเป็นจริงที่สุด คือเรื่องราวของกลุ่มเด็กหนุ่ม 5 คนจากปี 1971 ที่นัดปุ๊นด้วยกันหลังเลิกเรียน ก่อนที่จะมีเรื่องของการตามล่าหาสมบัติ (นักดูด) ไปจนถึงเป็นวัฒนธรรมที่ถูกเผยแพร่ด้วยวงดนตรีตัวแทนของเหล่าหนุ่ม-สาวบุปผาชนชื่อ The Greatful Dead UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ The Waldos กับประวัติศาสตร์เล็ก ๆ ของอดีตวัยรุ่น 5 คน ซึ่งผู้คนทั่วโลกเชื่อกัญว่า พวกเขานี่ล่ะคือผู้ให้กำเนิดวัฒนธรรม 420
วินาทีนี้คงจะไม่มีซีรีส์เรื่องไหนจะร้อนแรงได้เท่ากับ Beef ของ Netflix อีกแล้ว ! ซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดย A24 ค่ายสุดไฮป์ผู้ขยันสร้างตำนานได้ทุกวัน กับเรื่องย่อสุดมินิมอลที่สามารถเล่าไว ๆ บรรทัดเดียวจบได้แบบนี้ “นี่คือเรื่องราวระหว่าง Danny Cho กับ Amy Lau คนแปลกหน้าที่ประทะอารมณ์กันบนท้องถนน บีบแตรรถใส่กัน ด่ากัน ชูนิ้วกลางให้อีกฝ่าย จนนำไปสู่ความวายป่วงของชีวิตเกินกว่าใครจะคิดฝัน” ถึงแม้ว่าเรื่องย่อของซีรีส์จะแสนสั้น แต่ซีรีส์เรื่องนี้อุดมด้วยรายละเอียดของประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างเข้มข้น ทั้งฉายภาพความเหนื่อยล้าของชนชั้นกลางที่ทำงานเพื่อคนอื่นตลอดชีวิตแต่ไม่มีใครเห็นค่า ความคิดชุ่ย ๆ ของ Privillage ที่มองคนเป็นคนไม่เท่ากัน และอีกหลายประเด็นที่ดูจบครั้งเดียวคงเก็บรายละเอียดไว้ไม่หมดแน่นอน สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างแรกเกี่ยวกับ Beef คือการวางตัวของ Lee Sung Jin เดบิวต์ในฐานะ Creator และ Director เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขาเป็นคนเขียนบทซีรีส์มาโดยตลอด ผลงานเด่น ๆ ก็จะมี Undone (2019) / Dave (2020) /
วันหยุด วันว่าง อากาศร้อนระอุ ใครวางแผนว่าจะอยู่บ้านยาว ๆ ใช้เวลาดูหนังเพลิน ๆ UNLOCKMEN ขอแนะนำหนัง 10 เรื่อง ที่มีธีม ‘หน้าร้อน’ เป็นฉากหลัง ฤดูกาลซึ่งถูกใช้เป็นตัวเปลี่ยนผ่านการเติบโตของตัวละครในโลกภาพยนตร์อย่างงดงามมาโดยเสมอ : ) It’s a Summer Film (2021) Soushi Matsumoto เรื่องย่อ : นี่คือเรื่องราวของกลุ่มเด็กสาววัยมัธยม 3 คน ที่คลั่งหนังซามูไรยุคคลาสสิกอย่างเข้าเส้น และต้องการจะถ่ายหนังซามูไรย้อนยุคในแบบของตัวเองเพื่อเข้าฉายในงานเทศกาลโรงเรียน แต่ทว่า ติดที่ไม่ได้งบจากชมรม ทีมงานก็ก็เป็นตัวเฉพาะกิจที่ยื้มจากชมรมอื่นเสียเกือบหมด ที่แย่ที่สุดคือหาคนมาแสดงเป็นพระเอกของเรื่องไม่ได้อีก แล้วปิดเทอมหน้าร้อนนี้จะถ่ายหนังเสร็จมั้ยนะ ! หนังญี่ปุ่นที่ว่าด้วยการทำตามความฝันของวัยรุ่นนี่มันฮีลใจดีจริง ๆ อาาา ‘เกือบจะไม่ได้ฉายแล้วหน้าร้อนนี้’ (ชื่อไทยของหนัง) ก็เป็นหนังแบบนั้นล่ะ เป็นหนังที่เคารพการมีอยู่ของภาพยนตร์ ผ่านความรัก ความเสียใจ และความหวังของเหล่าหนุ่มสาว Stand By Me (1986) Rob Reiner เรื่องย่อ
บทนำ By UNLOCKMEN : ถึงทุกคนที่มีความทรงจำผูกพันธ์กับครอบครัวผ่านอาหาร (โดยเฉพาะกับแม่) หนังสือบันเล่มนี้อาจจะคล้ายเป็นเหมือนบันทึกช่วงเวลาของคุณด้วยเหมือนกัน มันอาจจะเป็นหนังสือต้องห้ามในวันที่ใครคนนั้นจากไป และก็สามารถเป็นหนังสือเพื่ออ่านให้คิดถึงเขาอย่างหมดใจในวันที่จู่ ๆ ความทรงจำก็ย้อนกลับคืนมาอย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งนึง เรื่องย่อจากปกหลัง : นี่คือบันทึกความทรงจำพาร์ทหนึ่งในชีวิตของ Michelle Zauner หรือที่เราทุกคนรู้จักเธอในฐานะฟรอนท์แมน ร้องนำ เล่นกีตาร์ และแต่งเพลงของวงดนตรีดรีม-ป็อปชื่อดัง Japanese Breakfast เล่าย้อนกลับไปในช่วงที่วงยังไม่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่เธอเป็นออนนีของผู้เป็นแม่ที่เป็นเหมือนทุกอย่างของชีวิต ผู้ซึ่งจู่ ๆ วันหนึ่งก็พบว่าตัวเองเป็น ‘โรคมะเร็ง’ แล้วความรัก ความสับสน การตัดสินใจที่ยากลำบาก ที่มีมื้ออาหารเป็นเหมือนกาวใจของสายสัมพันธ์อันพิเศษนี้ก็เริ่มต้น “H-MART คืออะไร ?” พูดง่าย ๆ มันคือซุปเปอร์มาร์เก็ตในอเมริกา ที่ขายข้าวสารอาหารแห้งทุกสิ่งอย่างจากเอเชีย (ฟีล Makro บ้านเรา) แต่สำหรับมิเชลล์ ซอเนอร์ มันคือสถานที่ ‘ของ’ เธอกับแม่ตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่ตอนที่แม่เข็นรถเข็นแล้วเธอเดินตามต้อย ๆ จนถึงวันที่มิเชลล์กลายเป็นคนเข็นเองในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ถือโทรศัพท์ถามสูตรอาหารเกาหลีจากผู้เป็นแม่ ในบทที่ 1 มิเชลล์ให้คำนิยาม H-MART ของตัวเองเอาไว้ว่าแบบนี้
ร้อน ร้อน ร้อน อากาศร้อนเหมือนชีวิตอยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงร็อคโยกหัวหมุนตลอดเวลาแบบนี้ เป็นสัญญาณที่ทุกคนรู้กันดีว่า “โย่ว ! และนี่คือเสียงจากสงกรานต์” กำลังจะมาถึงแล้ว ที่ไหนมีความสนุก ที่นั่นก็ต้องมี KFC เพราะนี่คือแบรนด์ที่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน Pop Culture สำคัญเสมอ ไม่ว่าจะดนตรีหรือแฟชั่น ผ่านการจัดแคมเปญสุดสนุกมาโดยตลอด ภาพของ KFC จึงไม่ใช่แค่อาหารหรือความอิ่มท้องอย่างมีความสุข แต่คือการแสดงออกถึงการหนุนหลังพลังของเหล่าวัยรุ่น ที่อยากขับเคลื่อนให้โลกหมุนด้วยความสนุกและสดใหม่ตลอดเวลา เกิดเป็นกระแสทั้งในบนโลกออนไลน์-ออฟไลน์มาเสมอ และการกลับมาของเทศกาลสงกรานต์ 2023 หลังจากที่ห่างหายจากการฉลองไปนานแบบนี้ KFC ก็ขอทวงบัลลังก์ตัวท็อปแห่งแคมเปญที่โดนใจ Gen Z อีกครั้ง ด้วยการสร้างสีสันโดยมี Bucket เป็นสื่อกลางแทนความรู้สึก ผ่านแคมเปญที่ชื่อ “บักเก็ตสาดความสุด” ทั้งจับศิลปินสตรีทอาร์ตเบอร์ต้นของไทย TIKKYWOW สร้างคอลเลกชั่นพิเศษอัพลุคเก๋ ไปจนถึงจัดงานสงกรานต์ที่มันส์ที่สุด KFC SUMMER WOW PARTY เหล่าวัยรุ่นฟันแท้ทั้งหลายเตรียมหยิบปืนฉีดน้ำของตัวเองให้ดี เพราะสงกรานต์ปีนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป KFC X TIKKYWOW : KFC SUMMER WOW COLLECTION เมื่อสตรีทอาร์ตถูกสาดเข้าใส่วัฒนธรรมไทย
เมื่อเราพูดถึงสมุนไพรสายเขียวในปี 2023 ซึ่งเปิดกว้างมากในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่พูดกันถึงนักเพาะปลูกหรือที่ทั่วโลกต่างเรียกพวกเขาว่า Grower อาชีพอันทรงเกียรติ เป็นที่ต้องการของตลาด และมีรายได้สูงมาก (ในต่างประเทศ) แต่ประเทศไทยยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก ด้วยความหลงไหลในพืชใบแฉกปนกับความสงสัยซึ่งมาพร้อมกับคำถามสำคัญว่า “เราจะปลูกพืชชนิดนี้ด้วยตัวเองกันไปทำไมในวันที่สามารถหาซื้อได้ง่ายดาย” คอลัมน์ Man Up ประจำเดือนเมษายน UNLOCKMEN จึงชวน ‘เตอร์’ หรือที่ในวงการรู้จักเด็กหนุ่มวัย 26 คนนี้ดีในชื่อ ‘พี่หมีแห่ง GrowStuff’ เปิด Private Workshop ที่ให้ Exclusive Group ของเราเข้าคลาสเรียนวิชา Grower 101 กันแบบใกล้ชิด รู้ทุกสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้น ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลิตผล พร้อมเปิดมุมมองว่าจริง ๆ แล้วพืชชนิดนี้คือศิลปะที่ล้ำลึกมากกว่าแค่เพื่อเก็ทไฮน์ ทำความรู้จัก GrowStuff กันก่อน (ฉบับย่อ) GrowStuff Shop คือร้านขายอุปกรณ์การเกษตรโดยเน้นที่สมุนไพรใบแฉกเป็นหลัก (ภายใต้ชื่อบริษัท GrowStuff Supply and Service) ซึ่งอย่างที่รู้กันว่ามี ‘เตอร์-ฉัตรทอง ริมทอง’ เป็น
จะมีสักกี่แบรนด์บนโลกที่ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนวงการดนตรีและศิลปะราวกับครอบครัวได้มากเท่ากับ Hennessy อีก เพราะนอกจากตัวแบรนด์จะคอยอ้าแขนโอบอุ้มเหล่าศิลปิน Hip-Hop ด้วยคำว่า ‘ครอบครัว’ มาโดยตลอดแล้ว Hennessy ก็มักจะทำงานคอลแลบกับเหล่าศิลปิน Illustrator , Painter และแขนงอื่น ๆ เสมอ เพื่อเป็นการประกาศอย่างเป็นมิตรว่า Hennessy ต้อนรับ ‘ศิลปะ’ ในทุกรูปแบบ ภาพของสิ่งที่เราเพิ่งพูดถึงไปก่อนหน้านี้ ถูกแสดงออกอย่างชัดเจนในอีเวนต์ชื่อ Hennessy Artistry ค่ำคืนสร้างประสบการณ์พิเศษผ่านวิชวลแสงสี ที่มีดนตรีฮิปฮอปคอยประกอบจังหวะสุดมันส์ แคมเปญซึ่งจัดมาต่อเนื่องหลายสิบปีและทำให้ผู้คนประทับใจเสมอ ในปี 2023 งาน Hennessy Artistry กลับมาอีกครั้งในธีมที่ชื่อว่า ‘Diffraction’ ที่เปล่งประกายวิบวับ สะท้อนแสงด้วยศิลปะ แสงสี ดนตรี แบบจัดเต็ม ตอกย้ำเจตนารมณ์ของการเป็นผู้ผลักดันในศิลปะด้วยใจแรงกล้าอีกครั้ง และ UNLOCKMEN เอาความพิเศษพร้อมบรรยากาศของงานครั้งนี้มาฝากกันด้วย อ๊ะ ๆ แต่ก่อนจะไปพบกับความไฮป์ของ Diffraction เราขอพาทุกคนนั่งรถไฟขบวน Hype Train กลับไปดูวันแรก ๆ ของ Hennessy
เย็นวันศุกร์ในช่วงเวลาที่กรุงเทพรถติดหนัก ผมเดินเข้ายิมตามปกติหลังจากที่หักหลังร่างกายของตัวเองได้ 2 อาทิตย์แล้ว เพื่อนกลุ่มเดิมก็ยังคงรอกันอยูที่นั่น หลังจาก Work Out กันไปได้ 30 นาที บทสนทนาอันน่าสนใจมาก ๆ ก็เริ่มต้นขึ้นแบบนี้ “มีใครรู้จักกีฬาปากัวร์มั้ย ?” คำถามวิชาประวัติศาสตร์อะไรกัน (ผมคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป) มันก็เล่าต่ออย่างไม่รอช้าว่า รู้มั้ยว่าจริง ๆ แล้ว Freerunning ที่เราเห็น ๆ กันมาตลอดเนี่ย มีกีฬา ‘Parkour (ปากัวร์)’ เป็นรากฐานและจุดกำเนิดนะ ก่อนที่จะถูกต่อยอดโดยการใส่ลวดลายลีลาแบบ ‘ยิมนาสติก’ ผสมผสานเข้าไปแบบที่เราเห็นกันใน Freerunning ปัจจุบัน คำว่า ‘Parkour’ เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศสซึ่งมีความหมายว่า “วิ่งทุกที่” และในฐานะของการเป็นกีฬาที่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว ความน่าสนใจก็คือกีฬาปากัวร์เป็นกีฬาที่ไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ เป็นตัวช่วยเลย Me & My Body ล้วน ๆ เน้นที่ความแข็งแรงในการออกตัววิ่งกระโดดก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง อย่าง กำแพง บนหลังคา
หากพูดถึงเรือนเวลาที่บอกเล่าเรื่องราวสำคัญของ OMEGA แล้วล่ะก็ การหยิบ OMEGA Aqua Terra ขึ้นมาสวมใส่บนข้อมือ พร้อมพินิจพิเคราะห์ความงดงามกันอีกครั้ง ดูจะเป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุดแล้ว หากใครไม่คุ้นเคยกับ OMEGA รุ่นนี้ เราขอพาไปเริ่มต้นเรื่องราวประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2002 กันก่อน ย้อนกลับไปในปี 2002 แบรนด์ OMEGA ได้เปิดตัว OMEGA Aqua Terra ต้องบอกว่าเพียงครั้งแรกที่ผู้คนได้เห็นเรือนเวลารุ่นนี้ก็สร้างความประหลาดใจและประทับใจให้คนทั่วโลกได้ทันที การเลือกดีไซน์เรือนเวลาที่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายในทุกอณู เพื่อตอบโจทย์การเป็น ‘Every Day Watch’ นาฬิกาที่ใส่ได้ทุกวันของทุกคน แต่ทว่า อีกโจทย์หนึ่งของ OMEGA คือคอนเซปต์สุดยิ่งใหญ่ของนาฬิการุ่นนี้ เพราะนี่คือเรือนเวลาที่จะเป็นหนึ่งในตัวแทนที่ดีที่สุดของซีรีส์ Seamaster หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ บอกเล่าการเป็นเรือนเวลาระดับตำนานที่สามารถใช้ดำน้ำได้รุ่นแรก ๆ ของโลกตั้งแต่ปี 1948 อันเป็นจิตวิญญาณสำคัญที่ขับเคลื่อนแบรนด์เสมอมา จากจุดเริ่มต้นกว่า 20 ปีที่แล้ว เวลาล่วงเลยผ่านมาพร้อม ๆ กับเข็มของ OMEGA ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาความคิดสร้างสรรค์แม้สักวินาทีเดียว