สิ่งที่เรา Spend เวลาไปกับมันเป็นส่วนใหญ่ของชีวิต คงไม่พ้นการทำงาน เพื่อให้ตัวเรามีเงินไป Spend สิ่งอื่นในชีวิตประจำวันได้ เราใช้เวลาไปกับงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ใช้เวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกในแต่ละวัน ไปกับการเดินทางไปทำงานและเดินทางกลับ ถ้าเราได้เจอกับงานที่ดีจนวันจันทร์ไม่ได้เป็นศัตรูตัวร้ายของเราถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอิจฉา เพราะยังมีอีกหลายคนที่ต้องสู้รบตบมือกับวันทำงานกันตั้งแต่เริ่มสัปดาห์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีงานที่ตอบสนองความต้องการเขาได้ในทุกด้าน อาการหมดไฟ ห่อเหี่ยวกันตั้งแต่วันจันทร์ ไปจนถึงตอนหย่อนร่างกายลงบนเก้าอี้ในออฟฟิศ ยิ่งปรากฏชัดขึ้นทุกวัน หากเรารู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่มีความสุขกับสิ่งที่เคยทำแล้ว UNLOCKMEN อยากให้หนุ่ม ๆ ลองสังเกตตัวเองกันหน่อยว่าเริ่มหมดไฟแล้วหรือยัง กับสัญญาณของคนหมดไฟในการทำงาน พร้อมทางออกเจ๋ง ๆ ให้ไฟแห่ง Passion กลับมาลุกโชนอีกครั้ง ไม่มีไอเดียใหม่ ๆ เลย ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดไม่ออก เหมือนสมองกลายเป็นซอยตันที่ไม่รู้ว่าจะกลับรถออกไปยังไงด้วยซ้ำ แม้เราจะเคยชำนาญในเรื่องนี้ชนิดที่ว่าหลับตาทำก็ยังได้ แต่พอมาถึงวันนี้กลับคิดอะไรไม่ออก มักจะเกิดในงานที่ต้องครีเอตอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ บางครั้งคุณก็รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่ายิ่งขุดลึกลงไปตอนนี้ก็ยังไม่เจออะไรหรอก แต่ก็สุดจะหาทางออกให้ตัวเอง ก็ได้แต่คิดซ้ำ ๆ เรื่องเดิมไปทั้งที่รู้ผลของมันอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าหากอยู่ในตำแหน่งหน้าที่เดิมอยู่เป็นเวลานาน อาจทำให้รู้สึกหมดไอเดียกับสิ่งที่ทำ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สเต็ปสำคัญคือการก้าวให้พ้นไอเดียตันแบบนี้ไปให้ได้ ทำเป็นเห็นด้วย ถึงแม้ความคิดจะไม่ใช่แบบนั้นก็ตาม ในตอนที่ก้าวเข้ามาทำงาน หากเรายังไม่สามารถรู้ได้ในทันทีว่าในองค์กรนี้เป็นยังไง
ในทุกความรักคงไม่มีวันที่จะคงความราบรื่นไปได้ตลอด มีวันที่ดอกไม้เบ่งบาน สดใส เหมือนอยู่ในช่วงฤดูร้อน และมีวันที่เหี่ยวเฉาร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ไม่นานมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง เพราะนั่นคือดอกไม้ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่เราไม่อาจมั่นใจได้ว่าความรักจะวนกลับมาสดใสแบบเดิมได้อีกสักกี่ครั้ง ก่อนที่จะสายไป UNLOCKMEN อยากชวนหนุ่ม ๆ มาสำรวจพฤติกรรมของตัวเอง ว่ามีนิสัยเหล่านี้ที่เป็นการทำร้ายคนที่เรารัก โดยที่เราอาจไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่า ถ้ารู้แล้วก็รีบเลิกซะ สุภาพบุรุษตัวจริงมีหน้าที่ซับน้ำตาของเธอ ไม่ใช่เป็นตัวต้นเหตุของมัน ขอโทษไม่เป็น รู้ทั้งรู้ว่าเราเองมีส่วนผิด ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือมีส่วนเล็กน้อย ด้วยอีโก้ที่มันค้ำคอ ทิฐิที่บังตาจนเห็นแก่หน้าตัวเองมากกว่าความสัมพันธ์ คำขอโทษจึงไม่ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป เพราะไม่อยากจะเป็นฝ่ายที่แบกความผิดเอาไว้เพียงคนเดียว เผลอ ๆ อาจจะยังโบ้ยไปนู่นนี่ “ก็ช่วยไม่ได้” “เธอเองก็ผิดเหมือนกัน” ถ้าเคยเผลอทำแบบนี้ไป ให้รีบหยุดนิสัยแบบนี้ซะ เพราะมันเป็นนิสัยที่เห็นแก่ตัวเอามาก ๆ นอกจากจะไม่ขอโทษแล้ว ยังผลักความผิดไปที่อีกฝ่ายอีกต่างหาก ถ้าไม่ชินกับการเอ่ยปากขอโทษจริง ๆ ลองหาทางออกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การโยนความผิด อย่าง ลองฟังเธอแบบตั้งใจจริง ๆ สักครั้ง ปลอบโยน บอกเธอว่าเรื่องทั้งหมดนี้เธอไม่ได้ทำอะไรพลาดไป เพราะมันก็ยังดีกว่าการทำหน้ามึนบอกว่าตัวเองไม่ผิด เป็นผู้รับอยู่เสมอ ไม่เคยคิดเป็นผู้ให้ ต้องการให้เธอเป็นตามใจต้องการ มีคำขอมากมาย เพราะหวังให้เธอเป็นคนที่เราวาดฝันเอาไว้ แต่ลืมไปว่าตัวเองกลับไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้อีกฝ่ายเลย ต้องการให้อีกคนเป็นคนรักที่แสนจะเพอร์เฟ็กต์
ในช่วงที่นั่งทำงาน หลายคนคงชินกับการฟังเพลงไปด้วยแบบเพลิน ๆ ฟังใน Playlist ตัวเองแบบซ้ำไปซ้ำมา ตามมู้ดของแต่ละวัน ตามแนวเพลงที่อยากจะฟัง แต่ฟังไปฟังมาก็เริ่มอิ่มตัวกับเพลงเหล่านั้นแล้ว หากอยากมองหาอะไรอย่างอื่นไม่ให้เหงาหู UNLOCKMEN ขอแนะนำ Playlist นี้ที่ทุกแทร็กจะเป็น Ambient เสียงธรรมชาติ White Noise ที่จะช่วยสร้างสมาธิให้เราได้เป็นอย่างดี รวมทั้งให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ปลดปล่อยความเครียดให้ออกไปจากหัว การทำงานในยามบ่ายจะได้ไหลลื่น ไม่ต้องนั่งหาวเหมือนวันอื่น ๆ อีกต่อไป สำหรับใครที่สะดวกฟังใน Spotify เราจัด Playlist ให้ตามไป Follow ไว้แล้ว พักผ่อนไปพร้อมกับธรรมชาติ ที่จะขับกล่อมให้เราอยู่ในโหมด Focus ได้แบบเต็มที่ ใครที่อยากได้เพลงแนวไหนสามารถแนะนำกันเข้ามาได้เสมอ
หากเรามีวลีที่ว่าอย่าเลือกหนังสือที่ปก อย่าคบคนที่หน้าตา เราก็อยากแนะนำให้ชาว UNLOCKMEN อย่าเลือกหนังจากโปสเตอร์เช่นกัน เพราะมีหลายเรื่องเหลือเกินที่เราเป็นอันต้องส่ายหน้าหรือเบือนหน้าหนีไปเลย เพราะโปสเตอร์ของมันช่างเห่ยเสียจนไม่กล้าสละเวลาสองชั่วโมงของเราไปกับหนังเรื่องนั้น อย่าได้ดูแคลนหนังที่ใบปิดไม่เข้าตา เราอยากแนะนำ 5 หนังที่แม้ใบปิดจะแสนเห่ย แต่เนื้อเรื่องมันส์ระเบิดระเบ้อ ดูได้ไม่เบื่อ ชนิดที่ว่า รู้งี้ดูมานานแล้วดีกว่า Stardust (2007) Director : Matthew Vaughn หนุ่มน้อยคนซื่ออย่าง Tristan Thorn ผู้มีใจรักให้กับสาวตระกูลร่ำรวยคนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่อาจคู่ควรเลยอยากจะเสาะแสวงหาทุกสิ่งที่เธอต้องการ เผื่อเธอจะมีใจหันมามองเขาบ้าง แต่สาวนั่นต้องการอะไรรู้มั้ย ? เธอต้องการดาวตก! ไอ้หนุ่มน้อยของเราก็บ้าจี้ออกไปตามหาดาวตกจริง ๆ แต่เรื่องราวกลับชุลมุนเข้าไปใหญ่ เมื่อดาวตกที่ว่านั่นไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ต้องการ มีทั้งเหล่าโอรสของพระราชาที่สิ้นไป แม่มดร้ายที่ต้องการความสาวกลับคืนมาให้ตัวเอง และไหนจะกองโจรสลัด อีกสารพัดความแฟนตาซีในเรื่องนี้ แต่พอเส้นเรื่องมันมาบรรจบกันเราจะรู้สึกโอ้โหขึ้นมานิดหน่อย ว่าที่ผ่านมามันไม่ได้หลอกให้เราดูไปฟรี ๆ The Golden Compass (2007) Director : Chris Weitz โปสเตอร์ที่ว่าเชยระเบิดแล้ว มาเจอชื่อไทยอย่าง “อภินิหารเข็มทิศทองคำ” เข้าไป โปสเตอร์นี่ชิดซ้ายไปเลย ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่สนุกเอาเรื่องจนได้มาฉายในช่องฟรีทีวีอยู่บ่อย
คำว่า Cigarettes After Sex ของใครหลายคนอาจแตกต่างกันไป มันอาจจะเป็นการสูดควันเย็นจากมวนกระดาษหลังจากเซ็กซ์ที่แสนเหน็ดเหนื่อย หรืออาจจะเป็นชื่อของศิลปินที่มาพร้อมเพลงชวนฝัน เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย เหมือนควันบุหรี่ในช่วง After Sex เหมือนกับชื่อของวงนั่นแหละ ไม่ว่า Phase นั้นของคุณจะเป็นความหมายไหน UNLOCKMEN อยากพาทุกคนเข้ามาสู่ห้วงของความฟุ้งของควันในรูปแบบดนตรีของ Cigarettes After Sex กับเรื่องราวของความรัก หญิงสาว และเรื่องราวอีโรติกที่แฝงอยู่ในบทเพลงได้อย่างแนบเนียน Cigarettes After Sex คือเจ้าของบทเพลงรักหลากรส ที่แสนจะฟุ้งชวนฝัน เหมือนกับการนอนบนเตียงในช่วงเช้ามืด เพลงของเขาถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากถ้อยความง่าย ๆ ด้วยฝีมือของ Greg Gonzalez ที่เป็นเหมือนหัวใจของวง ผู้จรดปากการ้องเรียงถ้อยคำธรรมดา ให้กลายเป็นทั้งคำที่เศร้าจับใจ เป็นคำที่แสนหวาน หรือแม้แต่คำสุดเซ็กซี่ที่ชวนให้เรารู้สึกวาบหวิวไปกับถ้อยคำและน้ำเสียงของเขาที่เอื้อนเอ่ยคำนั้นออกมา ความฟุ้งของ Ambient บวกกับน้ำเสียงที่ขับกล่อมให้เนื้อเพลงเป็นเหมือนหมอกจาง ๆ ปกคลุมห้องนอนที่เงียบสงบ อาจทำให้เรานึกถึงดนตรีประเภท Shoegaze หรือ Dream Pop แต่ถ้าจะให้เขาอธิบายว่าเพลงของเขาเป็นยังไง เขาเลือกใช้คำว่า “นุ่มนวล” และ “เนิบช้า”
ก่อนที่เราจะเลือกกดปุ่ม Play เพลงใดสักเพลง คิดว่าเราเลือกเพราะอะไร ? อารมณ์ของตอนนั้น คิดถึงวงที่เคยฟัง เพลงที่ติดอยู่ในหัว แต่ทั้งหมดนี้คือความพอใจ ณ เวลานั้น ๆ ไงล่ะ ที่ทำให้เราเลือกจิ้มเพลงไหนสักเพลงมาขับกล่อมอารมณ์ของเรา UNLOCKMEN รู้สึกว่ามันธรรมดาไป เลยอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการฟังเพลงที่ไม่ได้อ้างอิงแค่กับความชอบ แต่เป็นอะไรที่ลึกลงไปในตัวเราแบบ Literally ก็คืออ้างอิงจาก DNA ของเรานั่นเอง มาดูกันว่าคนเราจะเลือกฟังเพลงจาก DNA ของเราได้ยังไง การฟังเพลงเป็นกิจกรรมยอดฮิตติดลมบนของคนทั่วโลก เพราะมันเป็นทั้งการผ่อนคลาย ระบายอารมณ์ รัก เศร้า เหงา โกรธ เป็นอะไรอีกหลายอย่าง จนมันกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมของมนุษยชาติไปแล้ว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ Based On สุนทรียศาสตร์ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพอใจ ทั้งการฟังในแต่ละแทร็ก ในแต่ละอารมณ์ Playlist ที่เราจัดเอาไว้ด้วยกัน แบ่งไปตามแนวเพลง ตามมู้ด แต่ทั้งหมดคืออยู่บนความพอใจของเรานั่นแหละ เรามักจะคิดว่าเราจิ้มเพลงไหนขึ้นมาสักเพลงด้วยความพอใจที่จะฟัง ก็ชอบนี่หว่า ก็ต้องเลือกเพลงนี้ฟังสิ แปลกตรงไหน แต่วันนี้ AncestryDNA และ Spotify จะมาพิสูจน์ว่าชาติพันธุ์หรือพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่มีผลต่อการฟังเพลงด้วยเช่นกัน
หนังเอาชีวิตรอดยังคงเป็นสิ่งที่กระตุ้นอะดรีนาลีนของเราได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นการไปสะกิดต่อมสัญชาตญาณเอาตัวรอดของคนเรา ที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนเหมือนตัวเองไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นซะเอง แต่การเอาตัวรอดบนพื้นโลกดูจะน่าเบื่อไปแล้ว UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาเอาใจช่วยตัวละครให้รอดชีวิตในอวกาศ หาทางกลับโลกกับ 5 หนังผจญภัยในอวกาศที่เราคัดมาให้ เหมือนทุกครั้งที่เราอยากบอกเสมอว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี เราไม่ได้แนะนำด้วยคะแนนวิจารณ์ หรือตัดสินด้วยอะไรทั้งนั้น นี่เป็นเพียงลิสต์หนังที่เราอยากบอกต่อเหมือนเพื่อนแชร์หนังหรือชวนกันดู อย่าได้หัวเสียถ้าหากไม่มีหนังที่ตรงใจคุณในลิสต์นี้ Interstellar (2014) Director : Christopher Nolan เมื่อโนแลนมาจับงานอวกาศทั้งทีจะเป็นเนื้อเรื่องธรรมดาได้ที่ไหน เมื่อโลกเข้าสู่ยุคที่ขาดแคลนอาหาร ภัยธรรมชาติคุกคามอย่างไม่ลดละ จนเหมือนโลกใบนี้ไม่อาจให้เราอาศัยต่อไปได้ มนุษยชาติจึงไม่อาจนิ่งนอนใจ เมื่อปัจจัยสี่ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตเริ่มสั่นคลอนไปถึงสองอย่าง ทั้งอาหารและที่อยู่อาศัย จึงต้องดิ้นรนหาทางออกให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รำรงอยู่ต่อไป แต่การเยียวยาโลกใบนี้ดูจะเป็นงานหนักเกินไปที่จะทำได้ ภารกิจหาที่อยู่ใหม่อันไกลโพ้นจึงเกิดขึ้น คุณพ่อลูกสองอย่าง “Cooper” จำเป็นต้องเข้าร่วมภารกิจนี้ เพื่ออนาคตของลูก ๆ และมนุษยชาติ แม้เขาเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าภารกิจนี้มันจะยาวนานแค่ไหนก็ตาม Gravity (2013) Director : Alfonso Cuarón Ryan Stone และ Matt Kowalski ต้องไปเอากล้องที่เสีย ระหว่างทางก็โดนวัตถุพุ่งชนยานจนเกิดความเสียหาย ทำให้พวกเขาต้องหาทางกลับโลกกันเอาเอง
ผู้ชายสามศอกเป็นอันต้องหดเหลือสามเซ็นฯ (อก) เมื่อต้องดูหนังสยองขวัญ ที่มักจะปล่อย Jump Scare ออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยมักจะหลีกเลี่ยงหนังประเภทนี้ตอนไปกับสาว เพราะอายเหลือเกินที่จะมานั่งปิดตาไปครึ่งเรื่อง เลยแอบมาดูเองที่บ้านอย่างเงียบ ๆ ปิดไฟสร้างบรรยากาศให้ชวนขนหัวลุกเข้าไปอีกหน่อย ไม่ว่าจะผีไทยผีเทศก็ไม่เกี่ยง ถึงจะกลัวหัวหดขนาดไหน ก็ยังจะสรรหาหนัง Horror แบบนี้มาสะกิดขนหัวให้ลุกซู่อยู่เสมอ UNLOCKMEN จะพาหนุ่ม ๆ มาหาคำตอบว่าทำไมคนเราถึงยังอยากจะดูหนังสยองขวัญ ทั้งที่เราเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรากลัวแค่ไหน กลัวนักแล้วดูไปทำไม ? เรื่องนี้ Dr. Glenn Walters เคยพูดถึงไว้ใน Journal of Media Psychology ว่า “คนเราดูหนังสยองขวัญเนี่ยเพราะเราอยากที่จะรู้สึกกลัว ตื่นเต้น ตกใจ พอได้ตกใจอย่างที่หวังไว้แล้ว เราจะไม่อยากดูเรื่องเดิมซ้ำอีกครั้ง เพราะดูอีกครั้งมันก็ไม่ตกใจแล้ว เราเลือกดูหนังสยองขวัญส่วนมากก็เพราะอยากได้ความตระหนกตกใจเป็นผลลัพธ์ แล้วทีนี้ในเรื่อง แม้จะน่ากลัวขนาดไหน เราจะเอาชนะภูติผีพวกนั้นได้ในที่สุด เหมือนเราได้ชนะความน่ากลัวของพวกมันไงล่ะ เราเองก็อยากเอาชนะความของตัวเองด้วยการบังคับตัวเองให้ดูหนังพวกนี้ แม้จะดูจริง ๆ แค่นิดเดียวก็ตาม” ทีนี้คงพอเห็นภาพมากขึ้นว่าเรามีเหตุผลอะไรที่เลือกดูหนังชวนขนหัวลุกพวกนี้ คือ เราต้องการให้เกิดผลลัพธ์ทางอารมณ์กับตัวเราเอง สมมติว่าในวันนี้เครียดมาก อยากได้อะไรเบาสมองดูซะหน่อย เราก็เลือกหนัง Comedy หรือพวก Romance เพื่อให้เราไม่ต้องไปเจอกับเรื่องเครียด ๆ
เปิดประเด็นเรื่องเซ็กซ์ขึ้นมาทีไร แต่ละคนต่างก็มีไม้ตายหรือเทคนิคที่อุบไว้ไม่บอกใคร เอาไว้ใช้เฉพาะตอนหน้างานกันทั้งนั้น เพราะถือเป็นอีกสิ่งที่แต่ละคนต่างก็มีรสนิยมที่แตกต่างกันไป ที่ต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายว่าจะลงตัวกันที่ตรงไหน หากมีความชอบที่ตรงกันก็ดีไป เราเลยไม่อาจแนะนำเรื่องที่เป็นปัจเจกอย่างรสนิยมให้ใครได้เลย UNLOCKMEN เลยอยากจะแนะนำทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง Dirty Talk เอาไว้เพิ่มความวาบหวิวยามต้องลงสนามจริง แถมยังทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอีกด้วย Dirty Talk คืออะไร ? มันคือการพูดคุยแบบวาบหวิวกันนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นด้วยคำพูดแสนซุกซน แสดงถึงความต้องการ คำพูดที่เราไม่อาจได้ยินกันบ่อย ๆ มันไม่ได้จำกัดแค่การพูดคุยเท่านั้น มันรวมไปถึงการส่งข้อความเป็นตัวหนังสืออีกด้วย ถ้าจะให้เห็นภาพง่าย ๆ ด้วยคำที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยก็คือ “เซ็กซ์โฟน” นั่นเอง อาจจะมีคำหยาบคายหลุดออกมาบ้าง แต่พอมันเป็น Consent ในเงื่อนไขของเซ็กซ์แล้ว มันเลยแปรเปลี่ยนเป็นความเซ็กซี่ขึ้นมาแบบทันตาเห็น ลมหายใจติดขัด เสียงแหบพร่า กระซิบข้างหูถึงความปรารถนาลึก ๆ ข้างใน มันเป็นแรงขับชั้นดีที่จะเติมเต็มสัมผัสรักยามทำกิจกรรมของเราให้อิ่มเอมยิ่งขึ้น นอกจากการพูดคุยถึงความต้องการของแต่ละคนแล้ว Dirty Talk ยังมีบทบาทมากสำหรับการมีเซ็กซ์แบบ Role Play หรือการสวมบทบาท พยาบาลสาวผู้ใจดีที่มาดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด ตำรวจตัวร้ายที่อยากจะค้นตัวผู้ต้องสงสัยให้ลึกลงไปใต้ร่มผ้า อีกสารพัดบทบาทที่ทำให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกันอย่างวาบหวิวในบทบาทนั้น มันยิ่งเสริมจินตนาการของเราให้โลดแล่นไปไกล
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงอาจทำให้เราไม่มีแม้แต่เวลาจะคิดเรื่องพักผ่อน เดินทางไปหย่อนใจในวันหยุด แม้ตัวจะไม่ได้ไปแต่ UNLOCKMEN มีตัวช่วยให้เรารู้สึกเหมือนได้นอนเอนหลังอยู่ริมทะเล ไปกับเพลง Reggae สุดชิล ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งแบบ Original และ Fusion ที่ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แต่ที่เราคัดมาให้ เพื่อเน้นอารมณ์ที่ผ่อนคลายล้วน ๆ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเสียงเพลง ให้คลื่นลมทะเล (ในจินตนาการ) ช่วยพัดพาเอาความยุ่งเหยิงทิ้งไป เหลือไว้เพียงความเบาสบายของร่างกายที่เอนลงกับโซฟานิ่ม ๆ พร้อมหูฟัง มากดปุ่ม Play ไปพร้อมกัน สำหรับใครที่สะดวกฟังบน Spotify เราจัด Playlist ไว้ให้เหมือนเดิม Damian Marley – Medication Bob Marley & The Wailers – Waiting In Vain Ziggy Marley – Beach In Hawaii Bob Marley – Three